“คุณพ่อนอนนานจังเลยค่ะ”
ใยไหมเริ่มสงสัยเพาะเด็กหญิงจำได้ว่าคนเป็นพ่อของเธอนอนที่เตียงนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ววันนี้ก็ยังนอนเหมือนเดิมอยู่เลยจึงเอ่ยถามด้วยความไร้เดียงสา
“แบบนี้คุณพ่อขี้เซาใช่ไหมคร้าบ”
คนเป็นน้องชายก็มีทีท่าสงสัยพอๆกันพลางยืนคิดถึงคำพูดของคนเป็นแม่ที่เวลาตัวเองนอนตื่นสายคนเป็นแม่จะบอกว่าขี้เซาเด็กชายก็มีความคิดว่าคนเป็นพ่อก็คงจะขี้เซาเหมือนที่ตัวเองเคยเป็นเหมือนกันพร้อมเอ่ยถามคนเป็นแม่ด้วยท่าทีสงสัยตามพี่สาว
“หืมม...ตอนนี้คุณพ่อไม่สบายค่ะเลยต้องนอนพักอีกไม่นานเดี๋ยวคุณพ่อก็ตื่นแล้วค่ะ”
ณัฐนิชาฉีกยิ้มกว้างเอ็นดูกับคำพูดของเจ้าแฝดเหลือเกินก่อนจะบอกเหตุผลให้ลูกๆเธอได้เข้าใจว่าพ่อของพวกเขานั้นไม่ได้ขี้เซาอย่างที่คิด
“จุ้บคุณพ่อค่ะ”
“โอเคค่ะ.”
ณัฐนิชาหันไปหาลูกสาวตัวกลมของเธอด้วยสีหน้าแปลกใจในคราแรกแต่เมื่อนึกขึ้นได้และรู้ว่าลูกของเธอจะทำอะไรก็รีบอุ้มลูกสาวตัวกลมของเธอให้โน้มตัวไปหอมแก้มคนเป็นพ่อที่นอนหลับอยู่ทันที
“เดี๋ยวคุณพ่อก็หายแล้วค่ะ”
ณัฐนิชาดีใจที่ลูกสาวของเธอนั้นจำพฤติกรรมของเธอได้เมื่อลูกทั้งสองของเธอป่วยเธอก็จะเข้าไปจูบที่แก้มแล้วอวยพรให้หายเร็วๆทุกครั้งแล้วลูกๆของเธอก็จะหายป่วยกันอย่างรวดเร็วเธอถือว่าการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ดีโดยเสมอมา
ภาพตรงหน้าอยู่ในสายตาของมัทนาและธำมรงค์ทุกฉากทุกตอนทั้งสองยอมรับว่าหญิงสาวเลี้ยงลูกได้ดีเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้และเด็กๆทั้งสองก็น่ารักมากจริงๆ
สองวันต่อมา
ในระยะเวลาสองสามวันที่ผ่านมาตำรวจได้เร่งทำการจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าตัวการของคนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็คือคู่แข่งของวายุนั่นเองที่ส่งคนมาแฝงตัวเข้าทีมของวายุด้วยความที่ผู้ร้ายไม่เคยชนะวายุเลยสักครั้งและอันดับก็ไล่เลี่ยกันโดยตลอดหากกำจัดวายุได้การแข่งครั้งหน้าเขาต้องขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน
ส่วนการบาดเจ็บของเมฆานั้นคนร้ายที่ร่วมมือกันทำสารภาพว่าเห็นเมฆารู้เห็นเรื่องในวันนั้นเลยต้องการกำจัดเพื่อไม่ให้สืบมาถึงตัวเองแต่ด้วยความที่ทางฝ่ายผู้ร้ายไม่เป็นมืออาชีพมากพอเลยทำให้ทิ้งหลักฐานไว้ค่อนข้างที่จะเยอะเลยทำให้สาวถึงตัวได้ง่าย
“แล้วลูกจะเอายังไงต่อ”
เมื่อทุกคนรู้เรื่องคดีจากตำรวจก็ถึงกับมีอาการเซ็งไปตามๆกันเพราะไม่คิดว่าจะมีคนร้ายวางแผนเข้ามาแทรกแซงในทีมของวายุเพื่อทำเรื่องแบบนี้
“ให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดเลยครับ”
วายุหมดคำจะพูดตอนนี้เขาก็ลงแข่งในครั้งหน้าไม่ได้แล้วเท่ากับความตั้งใจที่เขาพยายามฝึกซ้อมมาทั้งหมดสูญเปล่าแถมพี่ชายเขายังมาเจ็บตัวนอนเป็นผักก็เพราะเรื่องของเขาอีก
ตลอดการใช้ชีวิตเป็นนักแข่งมาเขาไม่อยากมีปัญหากับใครหรืออยากแข่งกับใครแค่อยากจะทำให้อาชีพของเขามันขึ้นไปอยู่ที่จุดสูงสุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้นมันคือการท้าทายความสามารถตัวเองแต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะมีคนจ้องทำร้ายเขาทั้งที่เขาไม่เคยคิดที่จะทำร้ายใครด้วยคนอย่างเขาใครดีมาเขาดีกลับแต่ถ้าใครร้ายมาเขาก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายร้ายอยู่ฝ่ายเดียวอยู่แล้ว
“คุณเป็นไรมากป่ะเนี่ย...อย่าเศร้าแบบนี้สิคุณอย่างน้อยตำรวจก็จับตัวคนผิดได้แล้วนะ”
หลังจากที่มัทนาและธำมรงค์ออกจากห้องไปแล้วรินทร์ธาราก็สังเกตอาการวายุมาพักใหญ่แล้วว่าเขานั้นเงียบผิดปกติแถมยังแอบมีน้ำตาคลออยู่เล็กน้อยด้วย
“ผมแค่เสียดายโอกาส...ผมอุตส่าห์ซ้อมแทบตายจนมันดีขึ้นมาแต่ผมต้องพลาดโอกาสการแข่งครั้งหน้าไปเพียงเพราะแค่คนขี้อิจฉาคนเดียวเท่านั้น...คนแบบนี้เมื่อไรมันจะหมดไปจากโลกนี้เสียที”
วายุพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเขาตั้งความหวังไว้กับการแข่งครั้งนี้มากแต่ก็ต้องมาจบเพราะคนบางคนที่ไม่ประสงค์ดีต่อเขาถึงจะให้คนผิดโดนลงโทษอย่างไรเขาก็คิดว่ามันไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่เขานั้นต้องเสียไปเลยสักนิด
“ฉันเข้าใจคุณนะ...ก็ถือซะว่าเป็นบทเรียนไง...ครั้งนี้พลาดไปครั้งหน้าก็ยังมีโอกาสวันพระไม่ได้มีหนเดียวนะคุณเชื่อฉันตอนนี้คุณก็ต้องพยายามฟื้นฟูร่างกายของคุณให้หายไวๆเพื่อที่จะได้ทำตามสิ่งที่คุณตั้งใจไว้เร็วๆไงหมอบอกว่าพรุ่งนี้คุณก็กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วเดี๋ยวฉันจะไปคอยอยู่เป็นเพื่อนคุณเองไม่ต้องกลัวเหงาหรอก”
รินทร์ธาราเข้าใจว่าตอนนี้วายุรู้สึกอย่างไรแต่เมื่อมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเธอคิดว่าเรื่องนี้คงจะเป็นบทเรียนให้กับชายหนุ่มได้มากเลยทีเดียวตอนนี้เธอเองก็ทำได้แต่ให้กำลังใจคนที่นอนอยู่ตรงหน้าก็เท่านั้นคงจะไปบังคับให้ใครหายเศร้าไม่ได้เพราะถ้าเป็นเธอเองเจอแบบนี้ก็มีช้ำใจหนักเหมือนกัน
“แล้วคุณไม่ต้องทำงานหรือไง”
วายุหันมาถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่สงสัยเขารู้ว่าเธอหยุดงานหลายวันเพื่อมาเฝ้าเขาและหลังจากนี้เธอก็จะอยู่เป็นเพื่อนเขาอีกแบบนี้ที่ทำงานของเธอจะยอมง่ายๆหรือไง
“คือ...พอดีฉันขาดงานเกินสามวันโดยที่ไม่ได้มีธุระจำเป็นเลยต้องออก..แต่ก็ดีแล้วไงระหว่างนี้ฉันจะได้อยู่เป็นเพื่อนคุณเผื่อคุณคิดสั้นขึ้นมาฉันจะได้ช่วยทัน”
รินทร์ธาราโดนไล่ออกเพราะเธอขาดงานหลายวันโดยไม่ได้มีธุระจำเป็นทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็พักร้อนมาแล้วเธอไม่ได้รู้สึกเคืองที่ทำงานเพราะกฎมันก็ต้องเป็นไปตามกฎหญิงสาวพูดไปยิ้มไปเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันดูตึงเครียดมากเพราะเธอก็ไม่ได้เครียดอะไรกับเรื่องนี้สักเท่าไร
“คนอย่างผมไม่คิดสั้นหรอกคุณเรื่องแค่นี้...คุณออกก็ดีเหมือนกันนะเอาแบบนี้คุณมาเป็นพยาบาลส่วนตัวผมแล้วหลังจากที่ผมหายแล้วคุณก็มาเป็นผู้จัดการผมส่วนเรื่องเงินเดือนผมให้สามเท่าจากที่คุณเคยได้เลย”
วายุส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาวที่คิดว่าเขาจะคิดสั้นคนอย่างวายุไม่มีทางคิดเรื่องนี้เด็ดขาดเพราะชีวิตของเขานั้นมีอะไรให้ทำอีกตั้งมากมายพร้อมทั้งยื่นข้อเสนอให้กับหญิงสาวเขารู้ดีว่าคนที่จะดูแลเขาและไว้ใจได้อย่างดีก็น่าจะเป็นเธอ
“โห...สายเปย์งั้นดิ..ฉันขอเข้าทำงานเลยค่ะคุณเจ้านาย”รินทร์ธาราไม่ปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอของชายหนุ่มเพราะเรื่องดูแลคนที่ป่วยอยู่เธอก็ถนัดอยู่แล้วอีกอย่างหากเธอเป็นผู้จัดการให้เขาก็จะได้ช่วยคัดคนที่จะมาเข้าทีมของเขาอีกด้วยเพราะเธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับชายหนุ่มอีกหนึ่งวันมาแล้วที่เมฆารู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาเมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาวินาทีนั้นมันเหมือนยกภูเขาออกจากอกของณัฐนิชาเธอยิ้มกว้างต้อนรับเขาอย่างดีใจและหลังจากที่เขาตื่นเธอก็คอยดูแลถามไถ่อาการของเขาอยู่ไม่ห่างคอยอยู่ให้เขานั้นเห็นหน้าเธอตลอดเวลา“ทานยาก่อนนะคะ”หลังจากที่ชายหนุ่มทานข้าวต้มและผลไม้ที่พยาบาลนำมาให้เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็จัดการป้อนยาตามทันทีเธอดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเพราะอยากจะเห็นคนตรงหน้ากลับมาแข็งแรงโดยเร็ววัน“ขอบคุณครับ”“ถ้าปวดหัวหรือจะเข้าห้องน้ำเรียกนิได้ตลอดเลยนะคะ”“ครับ”“คุณเมฆอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะเดี๋ยวนิจะหามาให้คุณหมอบอกว่าตอนนี้คุณเมฆทานได้แทบทุกอย่างแล้วแต่นิว่าถ้าเป็นของหวานควรจะงดไว้ก่อนเพราะแผลยังไม่หายดีค่ะ”“ผมทานอะไรก็ได้ครับ”“ค่ะ”คำถามและท่าทีที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใย
“คือคุณไม่ได้เป็นภาระนิสักนิดเลยนะคะ...คุณอย่าไปเลยนะคะอยู่ที่นี่ช่วยนิดูแลลูกๆได้ไหมคะอยู่กันเป็นครอบครัวอย่างที่คุณเคยขอนิไงคะ...”ณัฐนิชานิ่งงันหลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบประโยคเล็กน้อยตอนนี้เธอมีน้ำตาคลอออกมาก่อนจะเข้าไปสวมกอดที่ด้านหลังของชายหนุ่มพร้อมขอร้องให้เขาอยู่กับเธออย่างไม่สนศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น“คุณนิไม่ลำบากใจแน่นะครับ”“ค่ะ”เมฆายังคงไม่หันหน้าไปหาหญิงสาวเขายังปล่อยให้เธอกอดเขาเอาไว้แบบนั้นก่อนจะถามหญิงสาวให้แน่ใจอีกทีว่าเธอนั้นคิดไม่ผิด“งั้นผมขอถามได้ไหมว่าทำไมเวลาที่ผ่านมาคุณถึงพยายามออกไปจากชีวิตผม”เมฆายังคงตั้งคำถามให้หญิงสาวได้ตอบเขาอยู่ไม่เลิกเมื่อมีโอกาสเคลียใจเขาก็อยากจะเคลียทันทั้งหมดกับเรื่องที่ยังค้างคาใจอยู่“นิแค่ยังกลัวกับเหตุการณ์ในวันนั้นแต่นิพยายามสลัดมันออกไปได้แล้วนะคะอีกอย่างก็คือนิรู้ว่าคุณเมฆไม่อยากมีครอบครัวหากนิกับลูกๆเข้ามาในชีวิตคุณในช่วงเวลาที่คุณเมฆไม่อยากมีพันธะนิคิดว่ามันคงทำให้ครอบครัวมีความสุขไม่ได้หรอกค่ะ...แต่ตอนนี้นิไม่สนอะไรแล้วค่ะจากเหตุการณ์ที่คุณเมฆเจ็บนิรู้ว่าควรใช้ชีวิตตามเสียงหัวใจโดยไม่มีทิฐิจะดีกว่า...เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่
“อือ...อื้มม...”คนตัวโตก้มลงใช้จมูกสูดดมซอกซอนมาจนถึงพวงแก้มแล้วใช้ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากบางอวบอิ่มของเธออย่างดูดดื่มโหยหาส่งลิ้นร้ายเข้าไปตักตวงความหวานจากปากหญิงสาวอย่างไม่มีท่าทีที่จะอิ่มและพอใจกับมันเขายังคงบดจูบเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆจนสร้างอารมณ์วาบหวามให้หญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างได้ดีพอสมควรมือไม้เรียวของหญิงสาวหาที่เกาะยึดปัดป่ายไม่อยู่สุขจนมาจบอยู่ที่ลำแขนแกร่งเล็บบางจิกลงระบายอารมณ์จนกล้ามแขนแกร่งเป็นรอยบีบข่วนแทบเลือดซิบตอนนี้ทั้งสองเหลือแต่ร่างกายที่เปลือยเปล่าแนบชิดติดกันเพราะเมฆาพึ่งจะสลัดผ้าออกจากตัวเขาเมื่อครู่มือไม้ที่บีบคลึงอยู่ที่สองเต้างามพอดีมือก็สลับกับปากหนาดูดคลึงบีบเล่นไปมาเพื่อเรียกอารมณ์รักให้หญิงสาวนั้นมีความสุขเพลิดเพลินกับบทรักที่เขามอบให้มือเล็กเปลี่ยนที่ยึดเกาะจากลำแขนแกร่งของชายหนุ่มเป็นหมอนนุ่มของเธอบ้างหรือปัดป่ายมาจิกที่ไหล่กว้างของเขาบ้างเพราะอารมณ์วาบหวามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองชายหนุ่มไม่รอช้าเมื่อตัวตนของเขามันพร้อมแล้วก็ค่อยๆแทรกตัวเข้าไปที่ลำขาเรียวเล็กของหญิงสาวค่อยๆแทรกลำขาแกร่งเข้าไปจนตัวตนของทั้งสองแนบชิดติดกันจนหญ
30 นาทีต่อมา“เด็กๆ”“คุณพ่อขา/คุณแม่คร้าบบ”เมฆาเดินเข้าบ้านพักพ่อกับแม่ของเขาพร้อมกับณัฐนิชาเมื่อเห็นพ่อกับแม่ของเขานั่งเล่นอยู่กับเจ้าสองแสบที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็รีบเดินเข้าไปหาทันทีเจ้าสองแสบเมื่อเห็นคนเป็นพ่อกับแม่มาหาก็รีบสิ่งเข้าไปโผกอดเป็นภาพสี่คนพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่นต่อสายตาคนที่เห็นอย่างมาก“หายดีแล้วเหรอตาเมฆ”“ครับเมื่อเช้าพึ่งไปตัดไหมมาแล้วก็แวะมาที่นี่เลยครับคิดถึงเจ้าสองแสบแย่แล้ว”มัทนาถามไถ่อาการของลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเพราะตอนนี้หน้าตาของลูกชายเธอสดใสขึ้นมากคงเป็นเพราะมีคนดูแลดีอย่างที่สามีเธอบอกจริงๆนั่นแหละ“โอย..โอ้ยย..มัน.ร้อนน..นะคุณ”วายุแทบคายข้าวต้มออกจากปากเพราะรินทร์ธาราเล่นไม่ยอมเป่าให้มันเย็นก่อนที่จะป้อนเข้าปากของเขา“ก็ฉันบอกให้คุณทานเองก็ไม่อยากจะทานมืออีกข้างก็ยังใช้การได้อยู่นี่นา”รินทร์ธารานั่งหน้าเซ็งชายหนุ่มตื่นสายยังไม่พอยังชอบบังคับให้เธอป้อนข้าวอยู่ทุกวันอีกทั้งที่มืออีกข้างก็ใช้ได้“นั่นเสียงเอะอะอะไรกันเหรอคะคุณมัท”ณัฐนิชาที่กำลังกอดหอมเล่นกับลูกเธออยู่ที่หน้าบ้านจู่ๆก็ได้ยินเสียงโวยวายจากในบ้านออกมาเธอพอจะจำได้ว่าเสียงนั่นน่าจะมีเสียงของน้อง
ครู่ต่อมาหลังจากที่ทานอาหารอิ่มแล้วเจ้าแฝดตัวกลมทั้งสองก็ไปเล่นกันต่อโดยคนเป็นย่าปล่อยให้เล่นเพื่อย่อยอาหารเพราะอีกสักพักเธอก็จะพาหลานๆอาบน้ำทานนมนอนกลางวันแล้วตอนนี้บนโต๊ะอาหารก็เหลือแต่คนโตที่นั่งอยู่ด้วยกันพลางพูดคุยกันตามประสาครอบครัว“ผมว่าจะจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุดดีไหมครับคุณแม่”“ก็ดีจะตระกูลเราคนค่อนข้างนับหน้าถือตาดีเลยถือเป็นการเปิดตัวทายาทของลูกในวันนั้นเลย”“พ่อก็เห็นด้วยนะอะไรๆมันจะได้อยู่ถูกที่ถูกทางเสียที”“ครับ”เมฆาคิดว่าในตอนนี้เรื่องราวมันก็เป็นไปในทิศทางที่ดีแล้วตอนนี้เขาก็อยากจะจัดงานแต่งประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่าเขานั้นมีลูกมีครอบครัวแล้วและถือเป็นการให้เกียรติหญิงสาวกับลูกๆด้วยทั้งมัทนาและธำมรงค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าควรจะจัดงานแต่งมาให้เร็วที่สุดเพราะไม่อย่างนั้นคนที่เสียหายก็จะเป็นณัฐนิชาเพราะพวกเขารู้ว่าหากเมฆาใช้ชีวิตอยู่กับหญิงสาวไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่วายเป็นข่าวเสียๆหายๆเป็นแน่“พี่นิทานน้อยจังเลยค่ะ...ไม่สบายหรือเปล่าคะเหมือนหวานสังเกตเห็นพี่นิเพลียๆตั้งแต่เข้ามาแล้วเมื่อคืนทำงานดึกเหรอคะ”ตอนนี้ทุกคนก็ท่าทางจะอิ่มกันหมดแล้วรินทร์ธารามองไปยังจานข้าวของพี่ส
“ฉันว่าเวอาจจะอยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกสักพักก็ได้...เรื่องแผลใจฉันว่าคงหายดีแล้วหละ”เมฆาเห็นว่าเรื่องแผลใจของธาดานั้นน่าจะหายไปนานแล้วเขาเห็นว่าธาดาอาจจะมีความสุขกับการอยู่แบบนี้มากกว่าส่วนเรื่องอยากจะกลับไปทำงานของตัวเองเมื่อไรเขาเองก็ไปบังคับธาดาไม่ได้เพราะไม่ได้อยากบังคับใจใคร“นี่ภรรยาฉันนิชา”เมฆาถือโอกาสแนะนำหญิงสาวให้ธาวินได้รู้จักตอนที่เธอเดินออกมาพอดี“นิครับนี่ธาวินพี่ชายของเว”“ผมวินยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิชา”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ...ตามสบายเลยนะคะเดี๋ยวนิขอตัวจัดการงานบ้านก่อน”ตอนนี้ณัฐนิชาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนที่เป็นแม่บ้านเต็มตัวเมื่อทักทายกับชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากกวนเวลาของผู้ชายที่เขาจะคุยกันเลยขอปลีกตัวออกไปทำงานบ้านของเธอต่อ“นายหาแม่บ้านสักคนก็ดีนะคุณนิเป็นถึงภรรยานักธุรกิจยังทำงานบ้านเองอีกหรือไง”ธาวินแอบตะขิดตะขวงในใจอยู่เล็กๆที่หญิงสาวเป็นภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นถึงระดับนักธุรกิจใหญ่โตที่ดูแลกิจการหลายอย่างต้องมาทำงานบ้านเอง“เมียฉันเค้าไม่อยากได้เองไม่ใช่ฉันไม่เคยเสนอ...ฉันไม่อยากขัด...เออแล้วอีกสามเดือนฉันจะแต่งงานไปงานฉันด้วยล่ะ”เมฆา
“ฮึก...คุณเว”คำพูดจี้ใจหญิงสาวที่ออกจากปากธาดาทำให้เธอโผเข้ากอดเขาปล่อยโฮอย่างที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวน้อยคนนักที่จะพูดกับเธอและห่วงใยความรู้สึกของเธอแบบนี้ปกติแล้วคนอย่างเธอจะร้องให้กับณัฐนิชาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ตอนนี้ชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกว่าเธอสบายใจที่จะทำตามเสียงหัวใจตัวเองในเวลาที่อยู่กับเขาเมื่อตอนที่ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะก็มีธาดานี่แหละที่เป็นเพื่อนคุยทั้งยังให้คำปรึกษาเรื่องงานกับเธอตลอดจนหญิงสาวค่อนข้างแปลกใจว่าชายหนุ่มนั้นดูจะเก่งเกินบอดี้การ์ดธรรมดาไปเสียมากทั้งเชิงวิชาการและการต่อสู้หรือทักษะอื่นๆไม่ได้น้อยหน้าใครเลยธาดาคงจะเป็นผู้ชายคนที่สองละมั้งที่เธอไว้ใจกับเขาที่จะพูดคุยรองจากคนเป็นพ่อของเธอธาดาไม่ได้พูดอะไรยังคงกอดปลอบเธอกลับและรอให้หญิงสาวปล่อยโฮออกมาให้เต็มที่ไม่นานเธอก็หยุดร้องให้ลงเขาจึงทิ้งรถของเขาไว้ที่นี่และกลับไปส่งเธอที่บ้านบ้านธีธารา“เวโทรมามีอะไรหรือเปล่า”เมฆาเห็นหญิงสาวคุยกับธาดาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นานสองนานจนเขาต้องกลายเป็นคนเสียมารยาทถามหญิงสาวเรื่องที่คุยโทรศัพท์ด้วยความสงสัย“คือพอดีมีปัญหานิดหน่อยค่ะ...”ณัฐนิชาเล่าสถานการณ์ทั้งหมดให้กับชา
สองเดือนต่อมางานแต่งของเมฆาและณัฐนิชาจัดขึ้นที่เกาะอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราให้สมเกียรติถึงแขกในงานจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็เป็นคนสำคัญทั้งนั้นและงานแต่งงานครั้งนี้ก็จะเป็นการเปิดเจ้าสองแสบว่าเป็นทายาทคนสำคัญในตระกูลอีกด้วย“ยินดีด้วยนะแกวันนี้แกสวยสุดๆไปเลย”ป๋อมแป๋มเดินเข้างานมาสวมกอดณัฐนิชาด้วยความยินดีด้วยจากใจที่เห็นเพื่อนมีครอบครัวอย่างสมบูรณ์เสียทีวันนี้ณัฐนิชาดูสวยแปลกตาไปมากจนเธอนั้นอดชมไม่ได้เลยจริงๆ“จ้า...เอ...แล้วนี่ทำไมถึงควงมากับคุณเวได้ล่ะ”ณัฐนิชาสังเกตเห็นว่าป๋อมแป๋มนั้นเดินจับมือมากับธาดาจึงต้องถามแกมหยอกเล็กน้อยว่าตกลงสองคนเป็นอะไรกันแน่“อืมม...ก็ตั้งแต่คืนนั้น”ป๋อมแป๋มตอบเพื่อนสาวเธอด้วยท่าทีเขินอายแม้คำพูดจะดูน้อยแต่เมื่อมองตากันก็รู้ใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่“หา...จริงดิ...ต้องขอบคุณคุณเวนะที่ดึงแกลงมาจากคานได้เสียที”ณัฐนิชาถึงกับยกมือปิดปากไม่คิดว่าการขอร้องให้ธาดาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเธอคืนนั้นจะทำให้ป๋อมแป๋มที่หวงคานนักหนายอมลงจากคานได้“ยินดีด้วยนะคะคุณเมฆ”ป๋อมแป๋มเห็นเมฆาเดินมากับใครอีกคนที่เธอก็พอจะรู้จักอยู่บ้างตามข่าวพร้อมทั้งกล่าวยินดีกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม