Share

บทที่สามสิบเจ็ด

“มันบวมมากเลยคุณเจ็บมากไหมคะ”

ณัฐนิชามองมือเมฆาก็คิ้วขมวดเป็นปมเพราะเมื่อครู่มือของเขาที่ว่าบวมแดงแล้วตอนนี้มันก็ยังบวมเพิ่มขึ้นไปอีก

“ไม่ค่อยเท่าไรครับ”

เมฆาไม่ได้สนความเจ็บที่มือของเขาแล้วตอนนี้เขาสนในการจับจ้องไปที่ใบหน้าหญิงสาวที่กำลังง่วนกับการทายาที่มือของเขาอยู่ต่างหากผู้หญิงอะไรขนาดหน้างอยังดูน่ารักเขาต้องขอบคุณน้ำซุปหม้อนั้นจริงๆที่ทำให้รู้ว่าหญิงสาวก็ยังใจดีเป็นห่วงเขาอยู่บ้าง

“เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้วคุณทานยาเลยนะคะนิกลัวว่าคืนนี้คุณจะนอนปวด”

“ครับ”

ณัฐนิชาทายาให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอจึงเดินเข้าไปจัดการอาหารในครัวต่อเพราะตอนนี้ทุกคนก็กลับมากันแล้วเธอจะได้จัดโต๊ะอาหารเย็นเลย

30 นาทีต่อมา

“พี่ทานได้ไหมมาเดี๋ยวผมช่วย”

วายุเห็นพี่ชายของเขานั่งจ้องจานข้าวก็พอจะเดาออกว่าคงจะจับช้อนทานไม่ได้จึงอาสาจะช่วย

“ไม่ต้อง”

เมฆาถึงกับต้องรีบปฏิเสธน้องชายของเขาโดยทันทีจะให้น้องชายเขามาทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นมันดูยังไงๆชอบกล

“ไม่ให้ช่วยแล้วจะทานยังไง”

วายุถึงกับตั้งจ้องหน้าพี่ชายเขาเขม็งถ้าปฏิเสธไม่ให้เขาช่วยจะทานยังไงนั่งมองจานข้าวมันคงจะอิ่มอยู่หรอก

“เอ่อ...คุณไวท์ทานข้าวเถอะค่ะเดี๋ยวนิป้อนคุณเมฆเอง”

ณัฐนิชาจำต้องเข้าไปนั่งใกล้ชายหนุ่มเพื่อเป็นคนป้อนเขาเองเรื่องนี้เธอก็มีส่วนเป็นคนทำให้เขาบาดเจ็บเพราะฉะนั้นเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่เธอจะดีกว่า

“อย่างนั้นก็ได้ครับ”

วายุเห็นว่าหญิงสาวยื่นมือเข้ามาช่วยก็ไม่ได้ขัดเพราคิดว่าพี่ชายของเขาคงจะยินดีกว่าการที่เขาช่วยเยอะ

“อิๆๆ”

รินทร์ธาราแอบอมยิ้มกับภาพตรงหน้าพรางขำวายุที่อยากจะช่วยพี่ชายเป็นเธอก็ต้องปฏิเสธเพราะไม่มีผู้ชายคนไหนอยากจะให้น้องชายตัวเองป้อนข้าวต่อหน้าผู้หญิงหรอกถ้าให้ผู้หญิงที่แอบปลื้มช่วยก็ว่าไปอย่าง

21.00 น.

“เด็กๆหลับกันแล้วเหรอครับ”

เมฆาเห็นว่าห้องของณัฐนิชาเปิดอยู่จึงถือวิสาสะเดินเข้ามาด้านในตอนนี้หญิงสาวน่าจะกำลังพึ่งทำงานเสร็จเพราะเธอกำลังจะปิดโน๊ตบุ๊คพอดี

“ค่ะ...หลับไปพักใหญ่แล้วล่ะค่ะคุณเมฆมีอะไรหรือเปล่าคะทำไมยังไม่นอน”

ณัฐนิชาคิดว่าชายหนุ่มหลับไปแล้วเสียอีกเพราะเห็นไฟในห้องดับไปแล้ว

“คือผม...ผม...จะมาขอนอนกับเด็กๆ”

“คะ??”

คำพูดของชายหนุ่มทำให้ณัฐนิชาต้องคิดหนักอีกครั้ง

“ผมสาบานว่าผมจะไม่ยุ่งอะไรกับคุณเลย...ผมอยากนอนกับลูกๆจริงๆนะครับ”

สีหน้าของหญิงสาวบ่งบอกได้ถึงความกังวลเมฆาจึงรีบบอกว่าเขาไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับเธอแค่อยากมานอนกับลูกๆของเขาเท่านั้น

“ก็ได้ค่ะ...งั้นคุณเมฆนอนฝั่งนั้นนะคะเดี๋ยวนินอนฝั่งนี้...แล้วก็รักษาสัญญาด้วยนะคะ”

“คร้าบ”

ณัฐนิชาจำใจอนุญาตให้ชายหนุ่มนอนในห้องนี้กับเธอและลูกๆเพราะเขาสาบานขนาดนั้นคงจะอยากนอนกับลูกๆจริงๆเป็นอีกครั้งที่เธอขัดไม่ได้เพราะชายหนุ่มใช้น้ำเสียงที่ดูน่าสงสารกับเธออีกแล้วถ้าเธอไม่อนุญาตคงจะดูเป็นแม่ที่ใจร้ายน่าดูที่กีดกันพ่อกับลูก

เช้าวันต่อมา

“อืม...หึ่..”

ณัฐนิชาตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าเห็นเจ้าสองแสบปีนขึ้นไปนอนบนอกคนเป็นพ่อโดยที่คนเป็นพี่สาวนั้นนอนพาดกลางอกส่วนน้องชายก็นอนซุกอยู่ที่อ้อมแขนทำให้หญิงสาวอดมีรอยยิ้มหวานในตอนเช้าออกมาไม่ได้เธอลุกขึ้นจากที่นอนไปเตรียมอาหารเช้าอย่างสบายใจเพราะเห็นว่าลูกๆของเธอทั้งสองน่าจะยังไม่ตื่นง่ายๆ

“อ้าวหวานแล้ววันนี้จะไปยังไง”

ณัฐนิชาออกจากห้องมาเห็นคนน้องสาวของเธอนั่งอยู่ที่โซฟาจึงนึกขึ้นได้ว่าเจ้าลัคกี้รถคู่ใจที่น้องสาวของเธอขับไปทำงานทุกวันตอนนี้ซ่อมอยู่จึงสงสัยว่าน้องสาวเธอจะไปทำงานอย่างไร

“เดี๋ยวคุณไวท์มารับค่ะรายนั้นเค้าบอกว่าว่าง”

รินทร์ธาราหันมายิ้มให้คนเป็นพี่สาววันนี้ชายหนุ่มอาสามารับเธอที่บ้านเพราะเขานั้นว่างจะมีซ้อมก็ช่วงบ่าย

“อ๋อ...ดีแล้วล่ะจะ...ถ้าเงินพี่ออกครั้งนี้เดี๋ยวพี่ว่าจะไปดูรถมือสองสภาพดีๆสักคันดีไหม”

“ก็ดีค่ะ...เดี๋ยวหวานเป็นคนผ่อนเอง”

“เอาน่าเดี่ยวเราดูราคาอีกทีก็ได้ใครจะปล่อยให้น้องสาวรับภาระอยู่คนเดียวจริงไหม”

ณัฐนิชาเห็นว่าถ้าเงินจากการทำงานล่าสุดของเธอออกก็พอจะดาวรถมือสองดีๆสักคันให้น้องสาวเธอได้ใช้ได้อยู่เพราะคิดว่าควรจะให้เจ้าลัคกี้ได้พักบ้างแล้วขืนใช้งานแบบนี้ต่อไปมีหวังได้ซ่อมกันบ่อยครั้ง

“คุยอะไรกันอยู่ครับสองสาว”

วายุเดินเข้ามาในบ้านเห็นสองสาวกำลังคุยกันเลยอยากร่วมแจมด้วยวันนี้เขาตื่นเช้าผิดปกติเพื่อจะมารับหญิงสาวโดยเฉพาะ

“มาพอดี...หวานไปก่อนนะพี่นิ”

“จ้า”

รินทร์ธาราเห็นว่าหากไปช้ากว่านี้มันคงจะสายเป็นแน่เมื่อเห็นวายุเดินเข้ามาจึงรีบลาพี่สาวของเอและรีบดึงมือชายหนุ่มให้ไปส่งเธอทันที

“ทำไมคุณมาสายจัง”

รินทร์ธาราเข้ามานั่งในรถหรูของชายหนุ่มได้ก็บ่นอุกว่าวันนี้เขามารับเธอสายถ้าช้ากว่านี้อาจจะเข้างานไม่ทัน

“ผมว่าผมตื่นเช้าแล้วนะคุณ”

วายุคิ้วขมวดตัวเขาเองรู้สึกว่าตัวเองตื่นเช้าแล้วแต่ก็ยังไม่เช้าพอสำหรับหญิงสาวอีกหรือไง

“ฉันหวังว่าพรุ่งนี้จะไม่สายนะ...ดูสิอีกสิบกว่านาทีจะเข้างานจะถึงทันไหมเนี่ย”

รินทร์ธารายังไม่เลิกบ่นชายหนุ่มพลางดูนาฬิกาที่ข้อมือของเธออย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นกัน

“คุณก็น่าจะรู้ว่าคุณมากับใครผมมันคนรักความเร็วอยู่แล้ว”

วายุเห็นหญิงสาวกลัวว่าจะเข้างานไม่ทันจึงคิดว่าเธอคงจะลืมไปเป็นแน่ว่าเธอนั้นมากับใครระยะแค่นี้เขาขับพาเธอถึงก่อนเวลาเข้างานอยู่แล้ว

บรู๊นนน....

“นี่คุณช้าๆหน่อยเดี๋ยวฉันก็ไม่ถึงที่ทำงานกันพอดี”

จู่ๆชายหนุ่มก็เร่งเครื่องรถสปอร์ตคันหรูทำเอาหญิงสาวต้องรีบหาที่เกาะพัลวันคิดว่าหากชายหนุ่มใช้ความเร็วประมาณนี้เธอกลัวว่าจะไม่ถึงที่หมายโดยปลอดภัยน่ะสิ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status