Share

บทที่สามสิบสาม

“เด็กๆมาหาคุณพ่อหน่อยครับ”

เมฆาเห็นเจ้าสองแสบทั้งสองที่กำลังนั่งตักทรายเล่นอยู่ที่ชายหาดจึงเดินเข้าไปหาเด็กๆทั้งสองเพื่อสานสัมพันธ์พ่อลูกให้แนบแน่นขึ้น

“คุณลุง???”

ใบหม่อนเงยหน้าขึ้นมีสีหน้าฉงนเล็กน้อยที่สรรพนามของชายหนุ่มใช้แทนตัวเองนั้นแปลกไป

“คุณพ่อครับ...คุณลุงเป็นคุณพ่อของเด็กๆไงไหนเรียกคุณพ่อสิครับ”

เมฆามองเด็กๆทั้งสองด้วยความเอ็นดูเอื้อมมือไปจับหัวลูกๆอย่างเบามือพร้อมสอนให้เด็กๆเรียกตัวเองให้ถูกว่าควรจะเรียกว่าอะไรให้พวกเค้าได้รู้ว่าพวกเค้านั้นมีพ่อแม่ครบเหมือนเด็กคนอื่นๆ

“คุณพ่อ??”

ใบหม่อนยิ่งทำหน้าแปลกใจเข้าไปใหญ่ที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครสอนให้เรียกพ่อเลยสักครั้งเด็กชายจึงไม่รู้ว่าคุณพ่อคืออะไรได้แต่เคยได้ยินในทีวีเท่านั้น

“คุณพ่อกับคุณแม่ไง”

ใยไหมหันไปพูดกับน้องชายตามประสาเด็กที่เคยได้ยินผู้ใหญ่คุยกันและสื่อต่างๆที่จะต้องมีคุณพ่อกับคุณแม่แต่เด็กหญิงก็หาได้เข้าใจคำนี้อยู่ดี

“ฮ่าๆๆ”

เมฆาต้องขำออกมาแคล้ากับน้ำตาที่คลออยู่ให้กับความไร้เดียงสาของลูกๆเขาทั้งสองคนเด็กนี่ช่างเป็นผ้าขาวที่ใครจะแต่งแต้มอะไรก็ได้เสียจริงไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหากเขาไม่ได้เจอเด็กๆและณัฐนิชาหลังจากนี้เขาจะคิดถึงทั้งสามแค่ไหน

ช่วงเย็นของวัน

“แล้วนี่จะกลับพร้อมกันหมดเลยใช่ไหมจ้ะ”

“ค่ะงานของแป๋มก็เสร็จแล้วแป๋มว่าจะกลับมาอีกทีก็ตอนที่พาทีมมาทำงานเลยค่ะ”

หญิงสาวทั้งสามเก็บกระเป๋าออกมารอที่ท่าเรือคราแรกป๋อมแป๋มคิดว่าจะอยู่ต่อที่นี่อีกสักหน่อยแต่เมื่อเห็นว่าทั้งรินทร์ธาราและณัฐนิชาไปกันหมดเธอก็ไม่อยากจะเหงาอยู่ที่นี่คนเดียวอีกอย่างงานส่วนนี้ก็เรียบร้อยแล้วเธอคิดว่าถ้าจะได้กลับมาที่นี่อีกทีก็คงจะมาพร้อมทีมที่ตกแต่งอีกที

“แล้วหนูนิล่ะจ้ะจะมาพร้อมหนูแป๋มด้วยไหม”

มัทนาเห็นลูกชายตัวดียืนอุ้มลูกทั้งสองไว้ในอ้อมกอดมองณัฐนิชาตาละห้อยอยู่ห่างๆจึงแกล้งถามหญิงสาวให้รู้กันไปว่าเธออยากจะกลับมาที่นี่อีกหรือเปล่า

“งานของนิเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะคุณมัทคงจะไม่ได้มาแล้ว”

ในหัวหญิงสาวตอนนี้เธอคิดว่าไปให้ไกลจากที่นี่จะดีที่สุดอีกทั้งยังไม่อยากจะหันกลับไปมองหน้าชายหนุ่มแม้แต่น้อย

“เด็กๆมาหาคุณแม่มาค่ะเราจะกลับกันแล้วนะคะ”

ณัฐนิชาต้องจำใจหันไปหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ห่างเธอหลายวาและเรียกเด็กๆทั้งสองที่อยู่กับคนเป็นพ่อของพวกเค้าให้เข้ามาหาเธอเพราะเตรียมตัวจะลงเรือแล้ว

เมฆาได้ยินหญิงสาวเรียกลูกๆก่อนจะปล่อยเจ้าก้อนทั้งสองจากไปก็กอดจูบเจ้าตัวกลมด้วยน้ำตาและยอมปล่อยลูกๆของเขาให้ไปหาณัฐนิชาแต่โดยดีตอนนี้เขาจำต้องทำใจแข็งปล่อยเธอไปก่อนเพราะเขาเห็นว่าตอนนี้สถานการณ์มันกำลังไปได้ดีแต่เมื่อถึงเวลาเมื่อไรเขาจะทวงเธอคืนทั้งตัวทั้งใจให้ได้

“คุณพ่อไม่ไปด้วยเหรอคะ”

เจ้าสองแสบรีบวิ่งมาหาเกาะมือของแม่คนละข้างใยไหมเห็นว่าคนเป็นพ่อหมาดๆของเธอไม่เดินตามมาด้วยจึงหันไปถามคนเป็นแม่ด้วยสีหน้าฉงนใจว่าคุณพ่อของเธอไม่กลับไปด้วยหรืออย่างไร

“ไม่ค่ะ...คุณพ่อต้องอยู่ที่นี่ค่ะ”

ณัฐนิชาตอบลูกๆของเธอด้วยความกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อยที่รู้ว่าเมฆานั้นบอกให้เด็กๆเรียกเขาว่าพ่อแล้วจึงฝืนยิ้มบอกกับลูกๆทั้งสองของเธอให้เข้าใจว่าพ่อของพวกเขาต้องอยู่ที่นี่

“..งั้นเราไปกันเถอะ..”

มัทนาเห็นว่าทุกคนก็พร้อมแล้วเลยให้ลงเรือกันเลยทันทีเพราะมันเริ่มเย็นมากแล้วเดี๋ยวทั้งสามสาวและเด็กๆต้องเดินทางไกลกันอีก..อีกอย่างเธอก็ไม่ได้อยากเห็นลูกชายของเธอยืนหน้าละห้อยแบบนี้นานเท่าไรกลัวจะอดทนไม่ได้เอาเสีย

“..ไม่คิดจะมาส่งบ้างหรือไง...”

รินทร์ธาราที่ขึ้นเรือมาเรียบร้อยแล้วแต่เธอก็ยังไม่เลิกที่จะมองหาใครอีกคนที่เธอคิดว่าจะมาส่งยิ่งคิดยิ่งน่าโมโหแทนที่ชายหนุ่มจะมีน้ำใจกับเธอสักนิดก็ไม่..เห็นกันมาแทบทุกวันที่อยู่ที่นี่แต่วันนี้กลับไม่เห็นเสียอย่างนั้นทำให้หญิงสาวหงุดหงิดหัวใจอยู่ไม่น้อย

“ไปกันนานแล้วเหรอพี่”

วายุเดินออกมาเห็นพี่ชายของเขานั่งเหงาอยู่ที่เก้าอี้ไม้หน้าบ้านจึงถามว่าทั้งหมดไปกันนานหรือยัง

“อืม...พักใหญ่แล้วทำไมพึ่งออกมา”

เมฆาหันมองน้องชายของเขาครู่หนึ่งแล้วก็หันกลับมามองที่น่านน้ำทะเลด้านหน้าด้วยท่าทีห่อเหี่ยวหัวใจ

“อ๋อ...ผมก็แค่เผลองีบไปหน่อยเดียวเองเสียดายออกมาไม่ทัน”

อันที่จริงชายหนุ่มยังไม่หายงอนใครบางคนที่ไม่บอกเขาว่าจะกลับล่วงหน้าต่างหากจึงไม่ยอมออกมาส่งทุกคนขึ้นเรือเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องน้อยใจกับเรื่องแบบนี้ด้วย

“งั้นเหรอ...”

เมฆาพอจะดูออกว่าน้องชายของเขามีอาการแปลกๆไปแต่ก็ไม่ได้อยากซักอะไรมากมายเพราะตอนนี้หัวใจเขาไม่อยากจะคิดอะไรให้มันเยอะเรื่อง

3 วันต่อมา

ร้านขายยา

“ยาแก้ปวดแผงนึงครับ”

วายุเดินทางมาเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อวานเพราะมีบางอย่างทำให้ใจของเขามันลอยมาที่นี่เลยทำให้ตัวของเขาต้องถ่อตามมาถึงที่นี่ด้วย

“อ้าวคุณมาที่นี่ได้ไง”

รินทร์ธาราเงยหน้าขึ้นเห็นว่าเป็นวายุก็แปลกใจว่าเขานั้นมาทำอะไรที่นี่

“เหาะมามั้ง”

วายุยังคงทำตัวเป็นคนที่ชอบกวนประสาทหญิงสาวอยู่ไม่เลิก

“กวนประสาทฉันอีกแล้วนะ”

รินทร์ธารากรอกตาเล็กน้อยเพราะเธอไม่ค่อยประทับใจกับมุขของชายหนุ่มเท่าไร

“คือว่า...ผมมาซ้อมแข่งที่สนามแถวนี้น่ะ”

วายุอ้างว่าเขาต้องมาซ้อมที่สนามแถวนี้ก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่

“อ๋อ...แล้วรู้ได้ไงฉันอยู่ที่ร้านนี้”

รินทร์ธาราพยักหน้าเชิงเข้าใจพร้อมถามว่าเขานั้นรู้ได้อย่างไรว่าเธอทำงานอยู่ที่นี่เพราะเธอเห็นว่าเขาไม่แปลกใจเท่าไรตอนที่เจอเธอ

“ก็คุณเคยบอกผมเองว่าทำงานอยู่ที่ไหน”

วายุอยากจะเขกหัวหญิงสาวให้สมองมันดีขึ้นกว่านี้ก็เจ้าตัวหญิงสาวเองเป็นคนบอกกับเขาตั้งแต่อยู่ที่เกาะว่าทำงานอยู่ที่ไหน

“อ๋อ..ใช่ลืม”

รินทร์ธาราพึ่งจะนึกขึ้นได้จึงแสยะยิ้มแหยให้ชายหนุ่มแก้เก้อที่เธอเป็นคนที่ลืมเสียเอง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status