“หืม...ดูท่าลูกชายแม่จะถูกใจหนูนิชาก่อนหน้าที่จะรู้ความจริงใช่ไหม”
มัทนามองสีหน้าลูกชายของเธอคนที่อาบน้ำร้อนอย่างเธอมาก่อนก็ต้องดูออกอยู่แล้วว่าอารมณ์และคำพูดแบบนี้ลูกชายเธอมีอาการเป็นอย่างไร
“อืมม...จะพูดยังไงดีล่ะครับเธอก็น่ารักดีนะแต่ตอนี้เธอดูดื้อสุดๆไปเลย”
เมฆาพยักหน้ารู้ว่าคนเป็นแม่รู้ใจของเขาดีที่สุดแค่มองแปปเดียวก็รู้แล้วว่าเขาคิดอะไรอยู่
“แม่จะบอกว่าถ้าลูกใช้วิธีบังคับเธอมันไม่โอเคหรอกเป็นแม่เองแม่ก็ไม่ชอบ..ผู้หญิงเวลาเจ็บมันฝังใจต้องให้เวลาหนูนิเค้าหน่อยตอนนี้แม่ว่าลูกควรปล่อยเธอไปก่อน”
มัทนายอมรับว่าลูกชายเธอผิดที่ทำร้ายจิตใจณัฐนิชาและก็รู้ด้วยว่าหญิงสาวคงจะเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยกว่าจะผ่านมาได้เพราะเธอก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันแต่เธอคิดว่าทางที่ดีที่สุดถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทั้งสองตกลงกันได้เพื่อเป็นผลดีกับเด็กๆมัทนาจึงเสนอแนวทางให้ลูกชายของเธอนั้นปล่อยหญิงสาวไปก่อนเพื่อให้เธอนั้นจะได้ไม่อึดอัดและยิ่งทำตัวออกห่างชายหนุ่มไปมากกว่านี้
“ปล่อยเธอไปเนี่ยนะครับ”
เมฆาไม่รู้ว่าเขาจะเห็นด้วยกับข้อเสนอของแม่เขาดีหรือไม่
“เอาเถอะน่าเดี่ยวเรื่องนี้แม่จะช่วยอีกแรงแค่ทำตามที่แม่บอกก็พอรับรองมัดใจหนูนิกลับมาได้แน่นอนแค่ลูกต้องใจเย็นๆ”
มัทนารู้ว่าลูกชายเธอกลัวอะไรแต่เธอคิดว่าถ้าลูกชายของเธอทำตามแผนของเธอร้อยทั้งร้อยยังไงณัฐนิชาก็ต้องใจอ่อนเป็นแน่ขอแค่ลูกชายของเธออดทนได้ก็พอ
“โอเค...ก็ได้ครับ”
เมฆาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลงแม่ของเขาไป..ในใจคิดว่าลองใช้แผนของแม่เขาก็ไม่ได้เสียหายอะไรเพราะดูท่าตอนนี้ดูเหมือนเขาและเธอจะทะเลาะกันหนักขึ้นทุกครั้งที่ได้คุยกัน
“คุณมัทสวัสดีค่ะ”
ป๋อมแป๋มกำลังเดินออกมาจากในห้องพร้อมรินทร์ธาราเห็นมัทนาเดินเข้ามาก็รีบสาวเท้าเข้าหาเพื่อทักทาย
“จ้า...หนูนิเป็นยังไงบ้างฉันขอเข้าไปดูหน่อยได้ไหม”
มัทนารับไหว้หญิงสาวทั้งสองพร้อมถามหาณัฐนิชาทันทีเพราะตอนนี้เธออยากจะคุยกับหญิงสาวเพื่อให้สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ตรึงเครียดเกินไป
“พี่นิอยู่ในห้องค่ะคุณมัท”
รินทร์ธาราพอจะรู้ว่ามัทนามาที่นี่ด้วยเหตุอันใดและเธอก็คิดว่ามัทนานี่แหละจะเป็นคนที่คลี่คลายปัญหาทุกอย่างได้เป็นอย่างดีเพราะเธอเชื่อว่าผู้ใหญ่เค้าก็ต้องเคยผ่านเรื่องอะไรที่หนักหนาในชีวิตมาก่อนจึงรีบบอกมัทนาว่าพี่สาวเธออยู่ที่ไหน
ก๊อกๆๆ
“หนูนิจ้ะ”
มัทนาถือวิสาสะเข้าไปในห้องของหญิงสาวเพราะเห็นประตูมันแง้มเปิดอยู่
“คุณมัทสวัสดีค่ะ”
ณัฐนิชาละสายตาจากนอกหน้าต่างเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็รีบมาสวัสดีพร้อมฉีกยิ้มอ่อนให้อย่างเช่นเคยทั้งที่แววตายังเศร้าอยู่
“ตายแล้วดูซิร้องให้จนตาบวมเลย...”
มัทนารีบเข้าไปจับที่ใบหน้าอันจิ้มลิ้มของหญิงสาวที่บัดนี้มันบวมแดงดูออกว่าเกิดจากการร้องให้เป็นเวลานาน
“เอ่อ.....”
ณัฐนิชาก้มหน้างุดลงเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายทักมาแบบนี้เธอรู้ว่ามัทนาคงจะรู้เรื่องเธอกับเมฆาเรียบร้อยแล้วไอย่างนั้นคงไม่มากะทันหันเป็นแน่ในใจก็ภาวนาขอให้เธออย่ามาพูดประเด็นเดียวกับชายหนุ่มเลยเพราะถ้าจะให้เธอปฏิเสธผู้ใหญ่คงลำบากใจมาก
“คือฉันรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้วหละฉันต้องขอโทษที่ลูกชายฉันทำให้หนูต้องเสียใจด้วยนะ...หนูไม่ต้องห่วงฉันจะไม่ยอมตาเมฆมาพรากลูกไปจากหนูได้แน่นอนหนูนิสบายใจได้”
มัทนาเห็นสีหน้าของณัฐนิชากังวลและหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัดเธอจึงรีบพูดให้หญิงสาวนั้นคลายกังวลเธอรู้ดีว่าคนอย่างณัฐนิชาต้องใช้วิธีการพูดอย่างไรเพราะดูจากนิสัยของณัฐนิชาก็น่าจะคล้ายๆกับพิริสาอยู่มากเธอไม่ยอมให้ใครมาพรากลูกไปจากหญิงสาวอยู่แล้วแต่จะรวบทั้งแม่ทั้งลูกมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับเธอต่างหากเพียงแต่ตอนนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไปไปก่อน
“ขอบคุณมากนะคะคุณมัท”
ณัฐนิชาเริ่มมีตาเป็นประกายมีความหวังอีกครั้งตอนนี้เธอรู้สึกว่ามัทนานั้นเหมือนเป็นแม่พระมาโปรดเธอในยามที่ทุกข์ใจจนหาทางออกไม่เจอเลยทีเดียวเพราะคำพูดของมัทนาเหมือนยกภูเขาออกไปจากอกเธอเลยก็ว่าได้
“เอ่อ..แต่ตัวฉันเองก็พึ่งจะรู้ตัวว่ามีหลานฉันดีใจมากเลยหนูรู้ไหมหนูคงจะไม่ปฏิเสธฉันใช่ไหมจ๊ะที่จะไปมาหาสู่หลานของฉัน”
มัทนาเห็นสีหน้าของหญิงสาวพอจะดีขึ้นแล้วจึงเปิดประเด็นพูดต่อถึงเรื่องหลานของเธอทันทีเพราะเธอเองก็อยากจะมีหลานมาตั้งนานแล้วพอรู้ว่ามีหลานที่น่ารักแบบเจ้าสองแสบก็เห่อเป็นธรรมดา
“ค่ะคุณมัท...ขอแค่อย่ามีอะไรมาพรากลูกกับนิให้ห่างกันก็พอ”
ณัฐนิชาไม่คิดจะขัดขวางให้ลูกเธอไม่เจอกับคุณปู่คุณย่าเลยสักนิดแค่เธอได้อยู่กับลูกอย่างสงบสุขเหมือนที่ผ่านมาก็พอ
“ฉันเข้าใจจะเราผู้หญิงด้วยกัน...ต่อไปนี้ตาเมฆจะไม่มาบังคับอะไรหนูอีกแล้วนะเพราะฉันสั่งห้ามเด็ดขาดแล้วหนูสบายใจได้”
มัทนาเห็นหญิงสาวยิ้มออกเธอก็สบายใจพร้อมให้คำสัญญาว่าต่อไปนี้ลูกชายของเธอจะไม่ไปบังคับขู่เข็ญอะไรหญิงสาวอีกแล้วแต่อนาคตข้างหน้าหากลูกชายเธอจะใช้วิธีที่นุ่มนวลเข้าหาหญิงสาวอันนี้เธอไม่ได้รับปาก
“นิขอบคุณคุณมัทมากเลยนะคะที่เข้าใจนิ”
ณัฐนิชายกมือขอบคุณหญิงตรงหน้าอย่างสุดหัวใจที่เข้าใจเธอเหลือเกินคราแรกเธอคิดว่าหญิงตรงหน้าจะเข้าข้างลูกชายของเธอเสียอีกแต่กลับมาเข้าใจเธอเสียอย่างนั้นเธอจึงรู้สึกว่าเธอโชคดีมากที่คนตรงหน้าเมตตาเธอขนาดนี้
“คราวนี้ก็หมดกังวลได้แล้วนะ”
มัทนาลูบหัวหญิงสาวอย่างเอ็นดูแบบนี้สิที่มันควรจะเป็นการที่ใช้น้ำเย็นเข้าลูบมันทำให้อะไรๆมันดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมากเธอหวังว่าลูกชายของเธอจะปรับเอาวิธีของเธอเอาไปใช้บ้าง
“เด็กๆมาหาคุณพ่อหน่อยครับ”เมฆาเห็นเจ้าสองแสบทั้งสองที่กำลังนั่งตักทรายเล่นอยู่ที่ชายหาดจึงเดินเข้าไปหาเด็กๆทั้งสองเพื่อสานสัมพันธ์พ่อลูกให้แนบแน่นขึ้น“คุณลุง???”ใบหม่อนเงยหน้าขึ้นมีสีหน้าฉงนเล็กน้อยที่สรรพนามของชายหนุ่มใช้แทนตัวเองนั้นแปลกไป“คุณพ่อครับ...คุณลุงเป็นคุณพ่อของเด็กๆไงไหนเรียกคุณพ่อสิครับ”เมฆามองเด็กๆทั้งสองด้วยความเอ็นดูเอื้อมมือไปจับหัวลูกๆอย่างเบามือพร้อมสอนให้เด็กๆเรียกตัวเองให้ถูกว่าควรจะเรียกว่าอะไรให้พวกเค้าได้รู้ว่าพวกเค้านั้นมีพ่อแม่ครบเหมือนเด็กคนอื่นๆ“คุณพ่อ??”ใบหม่อนยิ่งทำหน้าแปลกใจเข้าไปใหญ่ที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครสอนให้เรียกพ่อเลยสักครั้งเด็กชายจึงไม่รู้ว่าคุณพ่อคืออะไรได้แต่เคยได้ยินในทีวีเท่านั้น“คุณพ่อกับคุณแม่ไง”ใยไหมหันไปพูดกับน้องชายตามประสาเด็กที่เคยได้ยินผู้ใหญ่คุยกันและสื่อต่างๆที่จะต้องมีคุณพ่อกับคุณแม่แต่เด็กหญิงก็หาได้เข้าใจคำนี้อยู่ดี“ฮ่าๆๆ”เมฆาต้องขำออกมาแคล้ากับน้ำตาที่คลออยู่ให้กับความไร้เดียงสาของลูกๆเขาทั้งสองคนเด็กนี่ช่างเป็นผ้าขาวที่ใครจะแต่งแต้มอะไรก็ได้เสียจริงไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหากเขาไม่ได้เจอเด็กๆและณัฐนิชาหลังจากนี้เขา
“ผมว่าจะไปหาเจ้าสองแสบด้วยคุณจะเลิกงานหรือยัง”วายุเห็นว่านี่มันก็เป็นเวลาที่เย็นมากแล้วหญิงสาวน่าจะใกล้เลิกงานเขาเองก็คิดว่านั่งรอเธอกลับบ้านเธอด้วยจะดีกว่าอีกอย่างก็อยากจะไปหาหลานๆเขาด้วยไม่เจอสองสามวันก็แอบเหงาอยู่เหมือนกัน“อีกสิบนาทีเดี๋ยวคุณนั่งรอก่อนก็ได้...เอ่อแล้วคุณปวดหัวปวดมากไหม”รินทร์ธาราให้ชายหนุ่มนั่งรอที่เก้าอี้บาร์ในร้านก่อนเพราะอีกเดี๋ยวเธอก็เลิกงานแล้วจะได้กลับพร้อมกันหญิงสาวจำได้ว่าชายหนุ่มเข้ามาซื้อยาแก้ปวดจึงหันไปถามอาการของเขาว่าปวดในระดับไหนเธอจะได้จัดยาให้ถูก“เป็นห่วงผมเหรอ”วายุเลิกคิ้วอมยิ้มถามหญิงสาวด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์คิดว่าคนที่ถามต้องเป็นห่วงเขาอยู่เป็นแน่“เอ้า!!..ก็คุณบอกฉันเมื่อกี้ว่าปวดหัวก็เลยถามว่าปวดมากไหมเดี๋ยวจะได้จัดยาให้ถูก”รินทร์ธาราเริ่มตีสีหน้าสับสนกับอีกฝ่ายก็คราแรกเขาบอกเธอเองว่าปวดหัวเธอจึงถามอาการก็แค่นั้นเธอไม่เข้าใจว่าเขาจะทำท่าดีใจอะไรนักหนาแถมยังมามโนว่าเธอเป็นห่วงอีกต่างหาก“ก็ไม่เยอะเท่าไรแต่ก็ปวด”“โอเค...”วายุแทบจะหุบยิ้มไม่ทันเมื่อหญิงสาวนั้นตอบกลับมาจนหน้าชานิดหน่อยและพยายามทำความเข้าใจว่าเขานั้นมโนไปเอง“โหย...อะไรอีกเนี่ย
“ถ้าเป็นเรื่องพี่สาวฉันกับคุณเมฆฉันช่วยเต็มที่”รินทร์ธาราเองก็ไม่ได้คิดจะขัดขวางอะไรหรอกถ้าแผนการของชายหนุ่มทำให้พี่สาวเธอและเมฆาเข้าใจกันมากขึ้น“ผมกลับก่อนพรุ่งนี้เราค่อยคุยกันอีกทีผมจะมารับคุณกับเด็กๆตอนเก้าโมงเช้าตรงเวลาด้วย”วายุไม่ยอมบอกหญิงสาวว่าแผนของเขาคืออะไรเพียงแค่บอกเวลาที่เขาจะมารับเธอกับเด็กๆก่อนจะขับรถออกไปทันที“อีตานี่จะบอกสักนิดก็ไม่ได้”รินทร์ธาราบ่นอุกหงุดหงิดใจพอสมควรที่วายุไม่คิดจะบอกอะไรให้เธอรู้เลยสักนิดเกาะเพตราเมฆาเตรียมเก็บของหลังจากที่ได้รับข้อความจากน้องชายตอนนี้เขากำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆเกี่ยวกับคำพูดของคนเป็นแม่เมื่อมองย้อนดูตัวเองเขาก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่อ่อนไม่ค่อยเป็นจริงๆแต่เขาจะพยายามปรับปรุงตัวให้ได้มากที่สุดเพื่อหญิงสาวและลูกๆของเขาเช้าวันต่อมา“เที่ยวให้สนุกนะคะเด็กๆ”“ค่ะคุณแม่/คร้าบบ”หลังจากที่วายุมารับน้องสาวของเธอและเด็กๆไปแล้วณัฐนิชาก็ยืนมองดูรถแล่นไปจนสุดลูกตาแล้วยืนอมยิ้มส่ายหัวที่ลูกๆของเธอนั้นดูตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้เที่ยวก่อนจะเดินกลับเข้ามาในบ้านเตรียมของเพราะเธอนั้นต้องไปหาป๋อมแป๋มที่บริษัทต่อ“นี่ถ้าทุกอย่างจัดเรียบร้อยน
“นิชา”“คะ???”“ผมต้องขอโทษคุณอีกครั้งขอโทษจริงๆที่ผมทำอะไรแย่ๆไว้กับคุณต่อไปนี้ผมจะไม่บังคับอะไรคุณอีกผมรู้ตัวว่าผมมันแย่แต่ผมจะพยายามเป็นคนที่ใจเย็นขึ้น”เมฆาเห็นสีหน้าของหญิงสาวยังมีความกังวลอยู่เขาจึงอยากบอกให้เธอได้รับรู้และแน่ใจว่าเขาสำนึกผิดกับเรื่องที่ผ่านมาและอีกอย่างการบังคับจิตใจเธอจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแล้วเพื่อให้เธอสบายใจได้และไม่ระแวงในระหว่างที่เขาอยู่ที่นี่“อืม...ค่ะ...งั้นเดี๋ยวนิไปจัดห้องให้คุณก่อนนะคะ”ณัฐนิชาได้ยินแบบนี้ก็โล่งอกไปเปราะหนึ่งอย่างน้อยเธอก็จะได้ไม่ต้องคอยระแวงอะไรชายหนุ่มเธอหวังในใจว่าชายหนุ่มจะปรับปรุงนิสัยได้จริงๆ“แล้วเด็กๆไปไหนกันหมดเหรอ”เมฆาเห็นว่าตั้งแต่มายังไม่เห็นเด็กๆอยู่บ้านเลยเขาคิดว่ามาถึงแล้วจะได้เจอลูกๆเขาเสียอีก“ไปเที่ยวกับคุณไวท์แล้วก็น้ำหวานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”“อ่อ...ครับ”ชายหนุ่มเข้าใจแล้วว่าเมื่อวานทำไมน้องชายของเขาจะต้องให้เขามาวันนี้ให้ได้ที่แท้ก็เปิดทางเขาได้อยู่กับเธอสองต่อสองก่อนนี่เอง20 นาทีต่อมา“ห้องคุณเมฆเรียบร้อยแล้วนะคะคุณเมฆเอาของเข้าไปเก็บได้เลยค่ะเดี๋ยวนิขอตัวทำกับข้าวก่อนนะคะ”“โอเคครับ”ณัฐนิชาจัดเตรียมห้องสำหรั
“มันบวมมากเลยคุณเจ็บมากไหมคะ”ณัฐนิชามองมือเมฆาก็คิ้วขมวดเป็นปมเพราะเมื่อครู่มือของเขาที่ว่าบวมแดงแล้วตอนนี้มันก็ยังบวมเพิ่มขึ้นไปอีก“ไม่ค่อยเท่าไรครับ”เมฆาไม่ได้สนความเจ็บที่มือของเขาแล้วตอนนี้เขาสนในการจับจ้องไปที่ใบหน้าหญิงสาวที่กำลังง่วนกับการทายาที่มือของเขาอยู่ต่างหากผู้หญิงอะไรขนาดหน้างอยังดูน่ารักเขาต้องขอบคุณน้ำซุปหม้อนั้นจริงๆที่ทำให้รู้ว่าหญิงสาวก็ยังใจดีเป็นห่วงเขาอยู่บ้าง“เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้วคุณทานยาเลยนะคะนิกลัวว่าคืนนี้คุณจะนอนปวด”“ครับ”ณัฐนิชาทายาให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเธอจึงเดินเข้าไปจัดการอาหารในครัวต่อเพราะตอนนี้ทุกคนก็กลับมากันแล้วเธอจะได้จัดโต๊ะอาหารเย็นเลย30 นาทีต่อมา“พี่ทานได้ไหมมาเดี๋ยวผมช่วย”วายุเห็นพี่ชายของเขานั่งจ้องจานข้าวก็พอจะเดาออกว่าคงจะจับช้อนทานไม่ได้จึงอาสาจะช่วย“ไม่ต้อง”เมฆาถึงกับต้องรีบปฏิเสธน้องชายของเขาโดยทันทีจะให้น้องชายเขามาทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นมันดูยังไงๆชอบกล“ไม่ให้ช่วยแล้วจะทานยังไง”วายุถึงกับตั้งจ้องหน้าพี่ชายเขาเขม็งถ้าปฏิเสธไม่ให้เขาช่วยจะทานยังไงนั่งมองจานข้าวมันคงจะอิ่มอยู่หรอก“เอ่อ...คุณไวท์ทานข้าวเถอะค่ะเดี๋ยวนิป้อนค
“ไม่ต้องกลัวอันตรายหรอกคุณจะได้ถึงเร็วๆไงไม่ชอบเหรอ”วายุหันมาฉีกยิ้มให้หญิงสาวอย่างหน้าชื่นตาบานที่เห็นเธอหน้าเสียเพราะความที่เขาเร่งความเร็วเขามั่นใจว่าความเร็วระดับนี้เขาเอาอยู่และไม่ได้ประมาทจนเกินไปด้วยดูท่าหญิงสาวจะตื่นกลัวเกินเหตุ“หึ่ยยย”รินทร์ธาราเห็นว่าชายหนุ่มคงจะไม่ลดอัตราความเร็วลดลงแน่จึงหลับตาปี๋หาที่ยึดเกาะให้มั่นคงและนั่งภาวนาว่าให้ถึงที่หมายโดยรวดเร็วด้วยเถอะไม่อย่างนั้นเธออาจจะหยุดหายใจเพราะตื่นเต้นตรงนี้ก็เป็นได้เกิดมาก็พึ่งจะมาเคยนั่งบนรถที่มีความเร็วแบบนี้“หอมจังเลยครับ”เมฆาเดินออกจากห้องมาถึงห้องครัวก็ได้กลิ่นอาหารหอมฟุ้งเตะจมูกตั้งแต่เช้าชายหนุ่มร่างสูงยืนพิงขอบประตูมองหญิงสาวที่ใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มเล็กน้อยที่เธอดูจะเป็นแม่บ้านศรีเรือนที่ทำอะไรคล่องแคล่วเสียจริงงานนอกก็ดีงานในบ้านยังไม่ขาดตกบกพร่องอีกแบบนี้เขาไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปแน่“เด็กๆล่ะคะ”ณัฐนิชาได้ยินเสียงของชายหนุ่มจึงหันไปมองร่างสูงครู่หนึ่งแล้วหันมาคนหม้อพะโล้ต่อพร้อมถามหาเด็กๆ“ยังไม่ตื่นเลยครับ”เมฆาเดินเข้าไปคุยกับหญิงสาวใกล้ๆเพราะอยากจะเห็นว่ากับข้าวที่หอมเตะจมูกเขาขนา
2 อาทิตย์ผ่านไปเมฆายังคงคอยตามติดหญิงสาวอยู่ไม่ห่างแทบจะทุกย่างก้าวช่วยทำโน่นทำนี่จนตอนนี้สามารถดูแลลูกๆของเขาได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย“เด็กๆมาอาบน้ำกันครับ”“คร้าบ/ค่า”พักหลังที่มือของเมฆาหายดีแล้วช่วงเช้าในเวลาที่ณัฐนิชายุ่งๆเขาก็จะเป็นคนที่ดูแลเด็กๆแทนหญิงสาวแทบทุกอย่างอย่างเช่นการอาบน้ำให้ลูกๆของเขาก็ทำได้ดีเพราะเรียนรู้วิธีมาจากหญิงสาวโดยการสังเกตสิ่งที่เธอทำมาทุกอย่างแล้ว“เป็นอะไรคะ”เมฆาเห็นลูกสาวของเขาก้าวขาที่เป็นปล้องๆลงอ่างอาบน้ำแต่เมื่อเท้าแตะน้ำก็ดึงเท้ากลับทันทีเขาจึงต้องหันไปถามใยไหมด้วยความเป็นห่วง“เย็นค่ะ”เด็กหญิงตอบคนเป็นพ่อคิ้วขมวดปากติดจมูกนิดหน่อยว่าน้ำในอ่างอาบน้ำสีชมพูหวานของเธอมันเย็นจนไม่กล้าลง“น้ำเย็นคร้าบคุณพ่อ”ใบหม่อนก็มีอาการแบบเดียวกับพี่สาวและส่งเสียงบอกคนเป็นพ่อให้รู้ว่าเขาไม่ชอบน้ำเย็นแบบนี้“จริงด้วย”เมฆาใช้มือวัดอุณหภูมิดูเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเด็กๆถึงกับรีบยกเท้าออกเมื่อสัมผัสกับน้ำเขาส่ายหัวให้ตัวเองที่ลืมเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นอีกจนได้“ลืมเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นหรือเปล่าคะคุณเมฆ”ณัฐนิชาที่เตรียมอาหารเช้าและจัดการงานบ้านเสร็จสรรพแล้วเธอจึงเดิน
“ฮ่าๆๆคุณแม่กัดหูเลย”ใยไหมที่คิดว่าคนเป็นพ่อและคนเป็นแม่แกล้งกันเฉยๆเหมือนที่เธอก็เคยแกล้งกับน้องชายของเธอจึงหัวเราะร่าเมื่อเห็นคนเป็นพ่อร้องออกมา“คุณพ่อเจ็บไหมครับ”ใบหม่อนเด็กชายผู้อ่อนโยนเมื่อเห็นคนเป็นพ่อร้องก็เลยหันมาถามด้วยความสงสัยว่าคุณพ่อของเขานั้นเจ็บมากหรือเปล่าต่างจากคนเป็นพี่ที่เอาแต่หัวเราะร่า“ไม่เจ็บเลยครับให้คุณแม่กัดอีกก็ยังได้”เมฆายังมีกะใจหันไปพูดเล่นกับเด็กๆทั้งที่ยังรู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่ใบหูของเขาอยู่เมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาวที่กำลังแดงระเรื่อเป็นลูกตำลึงก็คิดว่าการเจ็บตัวครั้งนี้มันคุ้มค่ากันแล้วณัฐนิชาปั้นสีหน้าไม่ถูเพราะยังเขินอายกับวินาทีที่ใบหน้าใกล้กันกับชายหนุ่มเธอได้แต่ใช้สายตามองค้อนคนฉวยโอกาสเล็กน้อยที่ดูคำพูดที่เขาพูดกับลูกๆเป็นการเอ่ยแซวเธอให้รู้ตัวครู่ต่อมา“คุณเมฆไม่ต้องกลับไปทำงานบ้างหรือไงคะ”ณัฐนิชานั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าวกับเด็กๆและเมฆาเธอค่อนข้างที่จะเกรงใจเขาอยู่มากที่มาอยู่ที่นี่ช่วยเธอดูแลลูกๆและยังไม่เห็นมีวี่แววว่าเขาจะกลับไปทำงานของเขาเสียทีเหมือนที่เธอคิดไว้คราแรก“อืม...นี่ไล่ผมหรือเปล่าครับ”เมฆาวางช้อนลงอย่างเบามือชายหนุ่มใจเสียเล็กน้