Share

บทที่ยี่สิบสาม

“เด็กๆกระโดมาเลยเดี๋ยวลุงรับเอง” ตู้มมมม

“อร้ายยยย”

“ฮ่าๆๆ”

“ใบหม่อนวิ่งมาเลยครับ” ตู้มมมมม

ณัฐนิชาได้ยินเสียงของทั้งสามเล่นน้ำกันอย่างสนุกจนต้องออกมายืนพิงขอบประตูดูทั้งสามที่กำลังสนุกอยู่กับการกระโดดน้ำเธอยิ่งมองยิ่งอดยิ้มไม่ได้

“เลิกเล่นกันได้แล้วค่ะเด็กๆ”

ณัฐนิชาเห็นว่าทั้งสามเล่นน้ำกันมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วอีกอย่างก็ใกล้จะเที่ยงแล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อนจึงคิดว่าไปพาเด็กๆอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า

ชั่วโมงต่อมา

“โถ่แม่ครับผมยังไม่อยากมีครอบครัวเสียหน่อยแค่นี้ก่อนนะครับ”

เมฆาต้องส่ายหัวเวลาคุยกับคนเป็นแม่ทุกครั้งไปที่ชอบเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นคนนี้เชียร์ให้เขาได้ฟังตลอดนี่ขนาดเขาโทรไปชวนให้มาปาร์ตี้วันเกิดด้วยเจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าอายุเยอะแล้วไม่ชอบนั่งเรือนานๆแถมยังมิวายที่จะพูดเรื่องผู้หญิงคนล่าสุดที่พึ่งไปเจอให้ฟังจนเขานั้นต้องตัดบทขอจบการสนทนาไป

ณัฐนิชาชะงักเล็กน้อยเมื่อเข้ามาเจอคำพูดที่เมฆากำลังโทรคุยกับแม่พอดีตอนนี้เธอรู้แล้วว่าชายหนุ่มนั้นคงไม่ได้คิดอยากจะจริงจังกับเธอตามที่เพื่อนเธอบอกสักนิดเขาคงจะชอบชีวิตโสดไม่ชอบมีครอบครัวเมื่อรู้แบบนี้เธอเองก็รู้สึกหน่วงนิดๆยอมรับว่าสิ่งที่เขาทำให้เธอพักหลังมานี้มันทำให้เธอแอบหวั่นไหวจริงๆแต่ไม่เป็นอะไรในเมื่อรู้แบบนี้เธอก็จะได้ทำใจไม่ให้รู้สึกหวั่นไหวอะไรอีก

ก๊อกๆๆ

“เด็กๆล่ะครับ”

เมฆาหันไปตามเสียงเคาะประตูที่หน้าห้องของเขาชายหนุ่มตกใจเล็กน้อยหวังว่าหญิงสาวจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาคุยกับคนเป็นแม่เมื่อครู่แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนๆของหญิงสาวเขาเองก็สบายใจได้ก่อนจะเริ่มถามหาเด็กๆ

“ทานนมหลับไปแล้วล่ะคะคงจะเพลียเล่นกันสนุกขนาดนั้น”

ณัฐนิชาตอบชายหนุ่มพร้อมส่งยิ้มอ่อนๆให้เขาเฉกเช่นที่ทำประจำแต่ตอนนี้สายตาของเธอมันค่อนข้างที่จะเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย

“ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ...นิเตรียมอาหารไว้บนโต๊ะหมดแล้ว”

“ครับ”

ณัฐนิชาเพียงแค่เดินมาตามชายหนุ่มไปทานข้าวเพราะอาหารที่ดาวเรืองเตรียมใส่กล่องมาให้เธอจัดเตรียมใส่จานบนโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว

“เอ้!!...”

เมื่อชายหนุ่มเดินผ่านหน้าเธอออกจากห้องของเขาไปพลันสายตาหญิงสาวก็ไปสะดุดกับของบางอย่างที่มันเหมือนกับของที่เธอนั้นรักมากแต่มันหายไปเมื่อเหตุการณ์เลวร้ายในวันนั้นพลันมือก็ไวตามความรู้สึกหญิงสาวรีบหยิบร็อคเก็ตที่แขวนอยู่ตรงหน้าเธอมาเปิดดูทันทีวินาทีนั้นตัวเธอชาวาบไปหมดหายใจติดขัดเพราะไม่คิดว่าของๆเธอจะมาอยู่ที่นี่ได้

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

เมฆารู้สึกว่าหญิงสาวไม่ได้เดินตามเขามาจึงหันหลังกลับไปดูก็เห็นเธอนั้นกำลังยืนดูเจ้าร็อคเก็ตที่เขาสงสัยอยู่กับมันมานานหลายปี

“ร็อคเก็ตอันนี้..ของคุณเมฆเหรอคะ.”

ณัฐนิชารีบหันไปถามชายหนุ่มอย่างหน้าตาตื่นเพราะถ้ามันเป็นของชายหนุ่มเธอก็อยากรู้ว่าชายหนุ่มได้มันมาอย่างไร

“เอ่อ..ไม่ใช่หรอกครับคือผมได้มันมาตอนเกิดเหตุนิดหน่อยเมื่อสามปีก่อนน่ะครับ.”

“อืม...ค่ะ”

เมฆาตอบหญิงสาวพร้อมเดินหันหลังไปที่โต๊ะอาหารทันทีเขาเข้าใจว่าหญิงสาวคงจะชื่นชมของพวกนี้อยู่แล้วเลยไม่อยากหวงอะไรเธอมากนัก

ณัฐนิชาถึงกับกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอมือไม้สั่นคนในคืนนั้นคือเขาเองเขาคือผู้ชายใจร้ายที่ย่ำยีเธอในคืนนั้นหญิงสาวรีบวางร็อคเก็ตนี้ไว้ที่เดิมขัดแย้งจากเสียงหัวใจที่อยากจะได้มันคืนใจจะขาดแต่ก็กลัวว่าจะดูมีพิรุจ

เธอพยายามทบทวนดูว่าทำไมเธอถึงรู้สึกคุ้นกับเขาจังอีกทั้งเด็กๆก็คล้ายกับเขาอย่างมากอีกด้วยแต่ก็ต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจเรื่อยมาไม่เคยพูดให้ใครฟังแม้แต่เพื่อนสนิทของเธอคำพูดที่บอกว่าเขานั้นไม่อยากมีครอบครัวแล่นมาในหัวเธอไม่อยากจะคิดเลยถ้าเขารู้ว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นเธอเขาจะทำยังไง

ไหนจะลูกของเธออีกตอนนี้เธอเริ่มสับสนไปหมดแต่ก็ยังคุมสติทำตัวให้เป็นปกติหญิงสาวคิดว่าจะปิดบังเรื่องนี้ต่อไปเพราะเธอจะไม่ยอมให้คนใจร้ายอย่างเขาเข้ามาอยู่ในชีวิตเธอและลูกๆแน่นอนเธอคิดๆแล้วไม่น่าหลวมตัวไปรู้สึกหวั่นไหวกับคนอย่างเขาเลย

“ทานนี่สิครับ”

เมฆาชอบเวลาที่เธออยู่กับเขาแค่สองคนมันเป็นส่วนตัวและเขาก็แสดงออกในการเอาใจใส่เธอได้มากอีกด้วยเพราะไม่มีสายตาของใครมาจับจ้อง

ณัฐนิชาเอาแต่ก้มหน้าไม่มองชายหนุ่มใบหน้าของเธอที่ปกติจะเปื้อนรอยยิ้มอ่อนๆตอนนี้กลับไม่มีให้กับเขาแม้แต่นิดเดียว

“คุณนิเป็นอะไรหรือเปล่า”

เมฆาสังเกตว่าหญิงสาวนั้นดูแปลกๆมาเป็นพักแล้วเขาจึงต้องเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า

“เปล่าค่ะ...ถ้าเด็กๆตื่นแล้วเรากลับกันเลยนะคะ”

“โอเคครับ”

ณัฐนิชาจำต้องตอบชายหนุ่มไปว่าเธอไม่เป็นอะไรด้วยน้ำเสียงห้วนๆตอนนี้เธอแค่รอให้เด็กๆตื่นเท่านั้นเธอจะได้กลับเสียที

เมฆาดูออกว่าหญิงสาวคงมีเรื่องกังวลในใจเพราะสีหน้าเธอมันปิดไม่มิดเรื่องนี้เขาไม่อยากเซ้าซี้เธอแต่เขาแค่อยากจะทำให้เธอกลับมาอารมณ์ดีได้ก็เท่านั้นเอง

ช่วงเย็นของวัน

โต๊ะอาหาร

“แล้วคุณนิล่ะครับ”

เมฆาเห็นทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้วยกเว้นณัฐนิชาเขาจึงต้องเอ่ยถามป๋อมแป๋มว่าทำไมยังไม่เห็นหญิงสาวมาที่นี่

“เห็นบ่นปวดหัวน่ะค่ะเลยขอพัก”

ป๋อมแป๋มเองก็เห็นว่าเพื่อนของเธอซึมๆตั้งแต่กลับมาแล้วตอนเย็นก็บอกว่าไม่ขอร่วมโต๊ะอาหารอีกเธอคิดว่าเพื่อนเธอต้องเป็นอะไรแน่ๆแต่ไม่อยากกวนใจเพื่อนตอนนี้เพราะณัฐนิชาให้เหตุผลมาว่าไม่สบายเธอจึงตอบชายหนุ่มไปตามที่เพื่อนของเธอบอกมา

“อ่อ...ครับ”

เมฆามีสีหน้ากังวลพอสมควรเขาเชื่อว่าหญิงสาวต้องมีอะไรคาใจแน่เพราะเขาเห็นเธอแปลกๆตั้งแต่ช่วงกลางวันแล้วตอนนี้เขาคิดว่าให้พ้นเวลานี้ไปก่อนยังไงคืนนี้เขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเธอนั้นเป็นอะไรกันแน่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status