Share

บทที่ยี่สิบสี่

21.00 น.

ณัฐนิชาเกิดความกังวลใจมาตั้งแต่ช่วงเมื่อกลางวันเธอไม่คิดว่าโลกจะกลมจนเหวี่ยงให้เธอมาเจอกับเขาอีกครั้งเขาในคืนนั้นที่เป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ทำลายเธอโดยที่เธอร้องขออะไรไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่เพื่อนและน้องของสาวของเธอบอกเธอเกือบที่จะมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับเขาแล้วเชียวยังไงเธอก็จะต้องพาชีวิตเธอและลูกๆให้อยู่ห่างกับเขามากที่สุดเพราะเธอไม่รู้ว่าคนที่ไม่อยากจะมีครอบครัวอย่างชายหนุ่มเมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดมีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจคนใจร้ายอย่างเขาจะทำอะไรกับพวกเธอบ้าง

แกร๊กกก

“คุณเมฆเข้ามาทางนี้อีกแล้วนะคะ”

ณัฐนิชาที่กำลังนั่งกอดเขาคิดอะไรเพลินๆอยู่ข้างๆของลูกๆเธอที่หลับกันไปแล้วเมื่อได้ยินเสียงประตูหลังห้องเปิดออกเธอก็หันขวับมองเห็นชายหนุ่มอย่างชัดเจนพลางตำหนิตัวเองที่เผลอลืมล็อคประตูเธอถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจที่เขาเข้ามาในห้องเธอโดยใช้ประตูหลังห้องอีกแล้ว

“ทำไมคุณยังไม่นอน”

เมฆาเห็นว่าหญิงสาวนั้นปวดหัวจนไม่ไปทานข้าวเย็นเขาก็อยากเข้ามาดูว่าเธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าแต่เมื่อเข้ามาเห็นเธอยังไม่นอนแถมยังนั่งกอดเข่าอยู่ภายใต้แสงของโคมไฟบนหัวนอนนั่นอีกเขาคิดว่าเธอคงจะไม่ได้ป่วยจริงแต่เธอต้องมีอะไรในใจอย่างที่เขาสงสัยอยู่แน่นอน

“นิกำลังจะนอนแล้วค่ะ”

ณัฐนิชารีบซุกตัวนอนลงใต้ผ้าห่มเพื่อให้เขาเห็นว่าเธอจะนอนแล้วจะได้ออกไปจากห้องของเธอเสียที

“คุณเป็นอะไรกันแน่”

เมฆามองหญิงสาวที่ทิ้งตัวลงนอนข้างๆเด็กๆแต่เขาก็ไม่ได้คิดจะกลับห้องไปตอนนี้อีกทั้งยังถามหญิงสาวเสียงแข็งว่าตกลงเธอเป็นอะไรกันแน่ถึงได้มีท่าทีที่เมินเฉยกับเขาอย่างที่เธอนั้นไม่เคยเป็น

“นิไม่ได้เป็นอะไรนี่คะแค่ปวดหัวอยากพักคุณเมฆกลับไปห้องคุณเถอะค่ะ”

ณัฐนิชาจำต้องลุกออกจากฟูกนอนพร้อมเข้าไปดันตัวชายหนุ่มให้กลับไปที่ห้องของเขาแต่เหมือนคนตัวโตจะไม่ได้สะท้านต่อแรงดันของเธอเลยสักนิดยังคงยื่นนิ่งมองเธอด้วยสีหน้าและแววตาที่สงสัยอยู่

“ผมไม่เชื่อว่าคุณแค่ปวดหัว”

เมฆายื่นสองมือของเขาจับไหล่ของหญิงสาวเอาไว้จนคนตัวเล็กต้องแหงนขึ้นมามองหน้าของชายหนุ่มด้วยสายตาไม่พอใจอีกครั้ง

“นิแค่ปวดหัวแล้วคุณจะมาเค้นคำตอบอะไรกับนิคะ”

ณัฐนิชาจ้องชายหนุ่มเขม็งพร้อมพูดเสียงแข็งแต่ไม่ดังมากเพราะว่ากลัวเด็กๆจะตื่นขึ้นมากลางดึกเธอไม่ชอบให้เขามาเค้นทำท่าดุกับเธอแบบนี้เลย

“ผมแค่เป็นห่วงคุณ...คุณก็น่าจะรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ”

เมฆาไม่ได้คิดจะเค้นเอาคำตอบจากเธอให้อึดอัดใจแต่เขาเป็นห่วงเธอจริงๆเขาไม่ชอบที่หญิงสาวนั้นมีท่าทีไม่สนใจกันแบบนี้กับเขามันไม่ได้น่ารักเหมือนอย่างที่เธอเคยเป็นก่อนจะบอกกับเธอตามตรงให้รู้แล้วรู้รอดว่าที่เขาต้องคอยเป็นห่วงเธอมันเป็นเพราะเขามีความรู้สึกบางอย่างให้กับเธอและถามเธอด้วยสายตาที่อ่อนยวบลงว่าเธอไม่รู้บ้างเลยหรืออย่างไรว่าเขารู้สึกอย่างไร

“...นิ..ไม่รู้ค่ะ...”

ณัฐนิชาหลบสายตาชายหนุ่มเธอก้มหน้าลงไม่ได้อยากรับรู้ว่าเขารู้สึกอะไรกับเธอทั้งนั้นในตอนนี้จึงตอบปฏิเสธชายหนุ่มออกไป

“แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมาที่คุณไม่เคยปฏิเสธผมมันคืออะไร...คุณล้อผมเล่นหรือไง”

เมฆาเริ่มขบกรมแน่นทุกครั้งที่เขาทำดีกับเธอหญิงสาวไม่เคยปฏิเสธทำให้เขาคิดเองเออเองว่าเธอคงจะมีใจให้เขาบ้างถึงแม้มันจะเป็นเวลาที่รวดเร็วเกินไปยังไงเขาก็คิดว่าหญิงสาวคงจะมีใจตรงกันกับเขาแต่มาวันนี้จู่ๆเธอก็เปลี่ยนไปจนเขาสับสนเธอจะมาเล่นกับความรู้สึกของเขาเขาไม่ยอมง่ายๆแน่

“ใครกันแน่คะที่กำลังล้อเล่นอยู่...คุณกลับไปห้องคุณเถอะค่ะนิจะพักผ่อน”

ณัฐนิชาอดทนฟังคำกล่าวหาจากชายหนุ่มไม่ได้เธออดประชดเขาไม่ได้ว่าใครกันแน่ที่กำลังล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นอยู่เธอยอมรับว่าเขาทำให้เธอหวั่นไหวจนเกือบเผลอใจดีที่เธอรู้ก่อนว่าเขานั้นไม่อยากมีครอบครัวเธอเองจะได้ไม่ถลำคิดไปไกลกว่านี้และยิ่งรู้ว่าเขาเป็นคนที่ทำร้ายเธอในคืนนั้นทำให้เธอเลิกรู้สึกดีกับเขาในทันที

“นี่ชุดพรุ่งนี้ใส่งานวันเกิดผมด้วย...ผมหวังว่าผมจะได้เห็น”

เมฆาเห็นว่าหากคุยกันไปตอนนี้ก็มีแต่จะรู้สึกแย่ด้วยกันเปล่าๆเขาจึงหันหลังกลับไปที่ห้องของเขาพร้อมเอื้อมมือหยิบชุดที่เขาสั่งซื้อมาให้เธอได้ใส่ในงานวันเกิดของเขาวางไว้ที่โต๊ะในห้องของเธอเขาหวังว่าเขาจะได้เห็นว่าเธอใส่ชุดที่เขาซื้อให้ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะถือว่าเธอนั้นกำลังทำตัวท้าทายเขาอยู่

วันต่อมา

“คุณนิไปไหนเหรอครับ”

เมฆาถามหาณัฐนิชากับป๋อมแป๋มวันนี้แทบทั้งวันเมฆาไม่เห็นณัฐนิชาในบ้านเลยมีแต่น้องชายของเขากับน้องสาวของหญิงสาวและป๋อมแป๋มกับพวกแม่บ้านเท่านั้นที่กำลังวุ่นวายกับเรื่องปาร์ตี้บนเรือในคืนนี้

“เห็นบอกว่าจะวาดแบบอยู่ในห้องค่ะ”

ป๋อมแป๋มเห็นเพื่อนเธอนั่งในห้องทำงานตั้งแต่เช้าแล้วไม่รู้ว่าจะรีบให้งานมันเสร็จไปถึงไหนเธอเชื่อว่าเพื่อนเธอมีอะไรในใจแน่ๆแต่เธอก็ต้องรอเวลาให้ผ่านไปก่อนอยู่ดีเธอรู้นิสัยของเพื่อนเธอดีหากถึงเวลาอยากจะบอกก็บอกเอง

“อ่อ..ครับ”

เมฆามีอาการเซ็งตั้งแต่เมื่อคืนที่เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าหญิงสาวเป็นอะไรอีกทั้งเมื่อคืนก็ยังไปหาเรื่องทะเลาะกับเธออีกตอนนี้เขาคิดว่าควรจะปล่อยเธอไปก่อนแต่ยังไงเขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเธอเป็นอะไรยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดหัวใจ

17.00 น.

“เด็กๆมาทานข้าวก่อนครับ”

ตอนนี้วายุนั่งง่วนอยู่กับเด็กๆทั้งสองที่วิ่งเล่นกันไปทานข้าวกันไปโดยไม่มีคนช่วยเพราะพวกสาวๆนั้นเข้าไปแต่งตัวกันหมด

“พวกผู้หญิงไปไหนกัน”

เมฆาเห็นน้องชายเขาดูแลเด็กๆอยู่แค่คนเดียวและก็ใกล้เวลาที่จะขึ้นเรือกันแล้วด้วยเขาจึงถามหาคนอื่นๆ

“ผู้หญิงเค้าก็แต่งสวยกันอยู่น่ะสิครับ”

“มาฉันช่วย”

เมฆารู้ว่าพวกผู้หญิงคงใช้เวลากันอีกนานในเรื่องแต่งตัวเขาจึงนั่งลงที่โซฟาพร้อมถือถ้วยข้าวช่วยน้องชายป้อนเด็กๆอีกแรงพักหลังมานี้เขาเห็นน้องชายของเขาง่วนอยู่แต่กับเด็กๆและรินทร์ธาราเขาไม่ยักรู้ว่าน้องชายที่สุดแสนจะเลือดร้อนจะมานั่งใจเย็นดูแลเด็กๆเรื่องนี้ถ้าคนเป็นแม่ของเขารู้คงยิ้มหน้าบานที่ลูกชายคนเล็กตอนนี้มีนิสัยเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนตอนที่อยู่กับเด็กๆ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status