18.00 น.
โต๊ะอาหาร
“อาทิตย์หน้าก็เป็นวันเกิดพี่เมฆนี่เราไปฉลองบนเรือกันสักคืนดีไหม”
วายุจำได้ว่าอาทิตย์หน้าก็จะเป็นวันเกิดของพี่ชายของเขาแล้วปีนี้ดีหน่อยที่เขาได้มีโอกาสอยู่กับพี่ชายพร้อมหน้ากันจึงอยากจะหาอะไรสนุกๆทำ
“นั่นมันความต้องการแกหรือเปล่าไวท์”
เมฆาเหลือบสายตาระอามองน้องชายของเขารู้อยู่ในใจว่าคงเป็นความต้องการของวายุมากกว่าที่ต้องการฉลองบนเรือ
“โถ่!!!...พี่ครับเราไม่ได้ไปสนุกบนเรือกันนานแล้วนะ”
วายุรีบแก้ต่างอย่างรวดเร็วเขาก็แค่เห็นว่าเขาและพี่ชายไม่ได้ล่องเรือเล่นกันมานานแล้วตั้งแต่พี่ชายของเขาเริ่มดูแลงานแทนคุณพ่อของเขาเต็มตัว
“อืมก็ได้...งั้นเชิญทุกคนเลยแล้วกันครับพุธหน้าผมจะไปจัดวันเกิดบนเรือ”
เมฆาถือโอกาสนี้ชวนทุกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารร่วมงานวันเกิดของเขาเลยก็แล้วกันถือซะว่าเป็นการพักผ่อนจากที่ทุกคนทำงานกันมาหนักด้วย
“จริงเหรอคะ...แบบนี้แป๋มต้องรีบหาของขวัญแล้วล่ะค่ะ”
“สุดยอดไปเลยค่ะ...เย่”
ป๋อมแป๋มและรินทร์ธาราดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษที่จะได้ล่องเรือปาร์ตี้กันใบหน้าของทั้งสองทำให้ทุกคนดูออกว่ากำลังวาดฝันถึงปาร์ตี้ที่แสนสนุกสุดโรแมนติกผิดจากณัฐนิชาที่เพียงแค่อมยิ้มนั่งนิ่งอยู่เท่านั้นพลางมองไปทางเพื่อนสาวเธอคิดในใจว่าทีแบบนี้ไม่กลัวที่จะเมาเรือ
“คุณนิทานปลานี่สิครับ”
วายุทำตัวเป็นสุภาพบุรุษผู้ใจดีเขาเอื้อมมือไปตักปลาสามรสตัวใหญ่ที่ดูน่าทานพลางยื่นไปที่จานข้าวของหญิงสาว
“เอ่อ...ชิ้นนี้ฉันขอแล้วกันนะอยากทานอยู่พอดี”
รินทร์ธาราที่นั่งอยู่ข้างๆกับวายุเห็นดังนั้นก็รีบเอื้อมมือไปรั้งแขนของชายหนุ่มให้ปลาชิ้นนั้นมันมาอยู่ที่จานของเธอเอง
“อะไรของคุณเนี่ย”
วายุถึงกับบ่นอู้อี้ไม่ดังมากนักแต่ก็ยังมีทีท่าถลึงตาใส่หญิงสาวอีกเช่นเคยตัวของรินทร์ธารานั้นก็ทำสีหน้าไม่รู้ไม่เห็นแสร้งทำเป็นว่าเธออยากทานปลาชิ้นนั้นจริงๆ
“นี่ครับคุณนิ”
เมฆามองภาพเมื่อครู่เขาจะปล่อยให้มันเกิดซ้ำสองไม่ได้จึงรีบใช้ช้อนกับส้อมรีบตักอาหารใส่จานของหญิงสาวทันทีทั้งยังไม่มองหน้าน้องชายของเขาอีกต่างหากเขากันท่าขนาดนี้แล้วเขาคิดว่าน้องชายเขาน่าจะดูออกว่าเขาต้องการอะไร
“ขอบคุณนะคะ”
ณัฐนิชาหันมายิ้มอ่อนขอบคุณให้ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆที่อุตส่าห์ตักอาหารให้กับเธอ
“อิๆ..”
ป๋อมแป๋มที่เห็นสถานการณ์อยู่ทั้งหมดก็ต้องแอบขำเบาๆให้กับความน่ารักของเพื่อนและชายหนุ่มที่ดูเคมีเข้ากันอย่างมาก
“เอ่อ...ขอบคุณค่ะคุณเว”
สาวเจ้าเปลี่นนสีหน้าเป็นแปลกใจกะทันหันเมื่อจู่ๆก็มีอาหารยื่นมาในจานจนต้องหยุดขำและขอบคุณคนที่ยื่นกับข้าวเข้ามาให้
“ครับ”
ธาดาเห็นว่าผู้หญิงบนโต๊ะอาหารทั้งสองนั้นมีคนตักกับข้าวให้หมดแล้วยกเว้นแต่ป๋อมแป๋มเขาจึงต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษตักกับข้าวให้กับเธอเพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกน้อยใจไม่รู้ว่าเธอจะมีอาการแบบที่เขาคิดหรือเปล่าแต่อันนี้เขาคิดเอง
“เด็กๆลุงมีของเล่นมาฝากด้วยนี่ของใบหม่อนครับ…อันนี้ของใยไหมค่ะ”
หลังจากทานอาหารเย็นกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเมฆาเห็นเด็กๆกำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่ในห้องโถงจึงเดินไปหยิบของเล่นที่เขาได้ซื้อมาให้เด็กๆเมื่อตอนที่เข้าไปในเมืองกับหญิงสาวในห้องของเขาพร้อมเดินถือตุ๊กตาเจ้าหญิงตัวใหญ่กับรถสปอร์ตของเล่นมาให้เด็กๆทั้งสองที่กำลังนั่งอยู่กับคนเป็นแม่
“ขอบคุณคร้าบ../ตุ๊กตา...ขอบคุณค่ะ”
เด็กๆรับของจากชายหนุ่มและยกมือขอบคุณอย่างมีมารยาทก่อนจะกลับไปนั่งเล่นตามเดิมคนที่ดูจะตื่นเต้นออกนอกหน้าเพราะได้ของเล่นใหม่เห็นจะเป็นใยไหมส่วนคนน้องนั้นก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันแต่แค่แสดงออกน้อยกว่าคนเป็นพี่สาวเท่านั้นเอง
“ขอบคุณนะคะ..ไปซื้อมาตอนไหนคะเนี่ย”
ณัฐนิชาเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มอีกครั้งที่มีน้ำใจกับลูกๆของเธอเธอไม่ยักจะเห็นว่าเขานั้นไปเลือกซื้อของพวกนี้ตอนไหนเหมือนกัน
“ตอนที่เดินเลือกของอยู่น่ะครับ...เห็นของเล่นก็เลยนึกถึงเด็กๆ”
เมฆานั่งลงที่พื้นด้านล่างเหมือนกับหญิงสาวพร้อมนั่งคุยกันอย่างเป็นกันเองรินทร์ธาราที่แอบลอบมองอยู่ห่างๆเห็นภาพแบบนี้มันเหมือนพ่อกับแม่นั่งดูลูกๆเล่นกันอยู่อย่างไงอย่างงั้น
“พี่นิไปหาพี่แป๋มเถอะค่ะเดี๋ยวเด็กๆหวานดูให้เอง”
ใจจริงรินทร์ธาราอยากจะเข้ามาขัดจังหวะพวกเขาทั้งสองช้ากว่านี้แต่ป๋อมแป๋มดันให้มาตามพี่สาวเธอไปนั่งทำงานน่ะสิเลยจำใจต้องเป็นก้างขวางคอนิดหน่อย
“โอเค..ขอตัวก่อนนะคะคุณเมฆ”
“ตามสบายครับ”
“คุณเมฆใจดีกับเด็กๆจังเลยนะคะ”
หลังจากพี่สาวออกไปได้รินทร์ธารานั่งลงแทนที่ณัฐนิชาพร้อมหันไปคุยกับชายหนุ่มเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับคนที่เธอนั้นเชียร์ให้เขาเป็นพี่เขยของเธอ
“เรื่องเล็กน้อยครับอีกอย่างเด็กๆก็น่ารักกันมากๆด้วยอันที่จริงมีเด็กๆอยู่ในบ้านก็ไม่เหงาดีนะครับ”
เมฆาตอบพร้อมมองไปที่เด็กๆอย่างเอ็นดูเขายอมรับว่าเขาเอ็นดูเด็กๆทังสองนี้มากไม่ใช่เพราะเป็นลูกของหญิงสาวที่เขาแอบชอบแต่เป็นเพราะเด็กๆนั้นทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นต่างหากแววตาใสซื่อของเจ้าก้อนทั้งสองเวลาที่เขามองเขารู้สึกว่าเขานั้นอบอุ่นใจและรู้สึกคุ้นชินกับสายตาทั้งสองคู่แปลกๆ
“งั้นให้เด็กๆอยู่กับคุณเมฆตลอดเลยได้ไหมคะ”
รินทร์ธารารู้สึกว่าว่าที่พี่เขยของเธอนั้นดูอบอุ่นดีเหลือเกินพลางแกล้งพูดทีเล่นทีจริงเพื่อดูปฏิกิริยาของชายหนุ่ม
“ฮะ...อะไรนะครับ”
เมฆามีสีหน้าตกใจกะทันหันกับคำที่รินทร์ธาราพูดออกมาเขาไม่รู้ว่าเธอพูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่
“หวานล้อเล่นน่ะค่ะ...ทำหน้าตกใจใหญ่เลย”
รินทร์ธาราเห็นอาการของชายหนุ่มก็ต้องรีบพูดว่าเธอพูดเล่นเพราะดูชายหนุ่มจะคิดไปซะไกลแล้ว
“ฮ่าๆๆ..ครับ...เอ่อคุณหวานครับ..อืมม”เมฆารีบกลบเกลื่อนความคิดของเขาที่มันแล่นไปไกลแล้วด้วยการขำออกมาพร้อมนึกถึงเรื่องที่เขาอยากจะถามเธออยู่พอดีแต่พอนึกขึ้นได้ว่าของที่เขาจะถามเธอดันลืมไว้ที่บ้านท้ายเกาะจึงคิดว่าเดี๋ยวให้เขาไปเอากลับมาก่อนแล้วค่อยถามจะดีกว่า“มีอะไรหรือเปล่าคะ”รินทร์ธาราเห็นท่าทีชายหนุ่มอ้ำๆอึ้งๆจึงเปิดประเด็นถามคนตรงหน้าออกไปว่ามีอะไรคาใจอยู่หรือเปล่าเพราะเธอพร้อมตอบทุกคำถามของเขาอยู่แล้วโดยเฉพาะเรื่องพี่สาวเธอ“อ๋อ...เปล่าครับเดี๋ยวผมต้องขอตัวก่อนนะครับ”เมฆารีบบอกปฏิเสธหญิงสาวออกไปว่าไม่มีอะไรพร้อมขอตัวออกไปจากตรงนี้เพราะเขาเองก็ต้องไปเชคเมลรายงานผลที่บริษัทที่จะต้องตรวจทานอยู่เป็นประจำแทบทุกวัน“ค่ะ”หลังจากที่เมฆาเดินออกไปแล้วรินทร์ธาราก็หันมาดูหลานๆที่กำลังนั่งเล่นง่วนกันต่อใยไหมนั้นด้วยความที่เป็นเด็กผู้หญิงเมื่อได้ตุ๊กตามาอย่างแรกเด็กหญิงถอดชุดตุ๊กตาก่อนเป็นอันดับแรกและหยิบชุดเปลี่ยนใส่อย่างชำนาญกับชุดที่มีแถมอยู่ในเซ็ทส่วนใบหม่อนก็สนุกตามประสาเด็กผู้ชายที่เล่นรถแต่ทำเหมือนมันบินได้โดยการชูขึ้นเพดานพร้อมส่งเสียงดังปากจู๋อย่างน่าเอ็นดู“บู๊นนนนน....” ปั้กกกก“
“คุณเป็นได้แค่คุณอาเท่านั้นย่ะ”รินทร์ธาราต้องย้ำสถานะให้วายุได้ฟังอีกรอบว่าเขานั้นเป็นได้แค่สถานะไหนเพราะเธอจะไม่ยอมให้เขาเป็นได้มากกว่านี้เป็นอันขาดเพราะเธอนั้นเลือกพี่เขยของเธอเอาไว้แล้ว“รู้แล้วล่ะน่าย้ำเก่งจริงจริ๊งงงงงง”วายุรู้ตัวว่าเขานั้นอยู่ได้ในสถานะไหนแล้วเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่หญิงสาวคิดด้วยตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมารินทร์ธาราอยู่ดูแลเด็กๆแทบจะทุกอย่างจึงทำให้ป๋อมแป๋มกับณัฐนิชานั้นทำงานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นส่วนวายุก็ยังคงคอยกัดกับรินทร์ธาราเหมือนเดิมและตอนนี้เขาก็พ่วงตำแหน่งช่วยรินทร์ธาราดูแลเด็กๆไปด้วยเพราะรินทร์ธาราจะวานให้วายุนั้นมาช่วยดูแลเด็กๆเสมอเมื่อวายุทำท่าที่จะเข้าใกล้พี่สาวของเธอธาดาเองนอกจากดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างแล้วเขาก็ยังต้องคอยปรามวายุกับรินทร์ธาราให้เลิกเถียงกันอยู่บ่อยครั้งจนเขาก็เริ่มระอาเสียแล้ว“เหนื่อยไหมครับคุณนิ”ในขณะที่ณัฐนิชานั่งทำงานอยู่เงียบๆเมฆาก็จะนำขนมหรือเครื่องดื่มมาส่งให้เธอเป็นของว่างแทบทุกวันพร้อมทั้งหาเรื่องคุยกับเธออยู่บ่อยๆป๋อมแป๋มเองก็รู้งานเวลาเห็นว่าชายหนุ่มเข้ามาหาเพื่อนเธอเองก็จะแกล้งออกไปยืดเส้นยืดสายเป็นอันรู้กันกับเ
“งั้นพรุ่งนี้แกไปดูบ้านกับคุณเมฆนะเดี๋ยวฉันต้องเร่งส่งแบบให้กับทีม”“อืมม...ก็ได้”ป๋อมแป๋มนั้นจำต้องหาข้ออ้างสารพัดให้ชายหนุ่มกับเพื่อนเธออยู่กันสองต่อสองเผื่อทั้งคู่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากกว่าที่ผ่านมาแผนทำให้เพื่อนรักตกถังข้าวสารเธอไม่ปล่อยให้ล่มง่ายๆแน่เช้าวันต่อมา09.30 น.หลังจากที่เมฆาและณัฐนิชาทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมตัวออกเดินทางไปที่บ้านท้ายเกาะทันที“คุณแม่ขา...ไปด้วย”“หม่อนจะไปด้วยคร้าบ”“อ้าว...เด็กๆ”ทั้งใยไหมและใบหม่อนเห็นว่าคนเป็นแม่กำลังจะขึ้นรถอยู่ที่หน้าบ้านจึงรีบวิ่งออกมาหาพลางบีบน้ำตาร้องตามกันทั้งคู่ทำเอาคนเป็นแม่เริ่มลำบากใจ“เด็กๆมาอยู่กับน้าดีกว่านะคะ...เดี๋ยวน้าหวานเปิดการ์ตูนเรื่องโปรดให้ดูเอาไหม”รินทร์ธารารู้ว่าถ้าเด็กๆไปด้วยอาจจะรบกวนทั้งสองจึงพยายามหลอกล่อให้หลานๆของเธอกลับเข้าไปในบ้านกับเธอแต่ดูท่าการหลอกล่อจะไม่เป็นผลเพราะเจ้าก้อนทั้งสองเดินไปหลบอยู่ที่หลังของเมฆาพลางใช้มือป้อมจับมือของชายหนุ่มเอาไว้คนละข้างเหมือนจะรู้ว่าคนไหนตามใจ“ให้เด็กๆไปกับเราก็ได้ครับคงไม่มีปัญหาอะไร”เมฆาหันมาบอกกับณัฐนิชาให้หายกังวลเด็กๆทั้งสองจะไปด้วยเขาไม่ได้มีปัญหาเชื่
“เด็กๆกระโดมาเลยเดี๋ยวลุงรับเอง” ตู้มมมม“อร้ายยยย”“ฮ่าๆๆ”“ใบหม่อนวิ่งมาเลยครับ” ตู้มมมมมณัฐนิชาได้ยินเสียงของทั้งสามเล่นน้ำกันอย่างสนุกจนต้องออกมายืนพิงขอบประตูดูทั้งสามที่กำลังสนุกอยู่กับการกระโดดน้ำเธอยิ่งมองยิ่งอดยิ้มไม่ได้“เลิกเล่นกันได้แล้วค่ะเด็กๆ”ณัฐนิชาเห็นว่าทั้งสามเล่นน้ำกันมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วอีกอย่างก็ใกล้จะเที่ยงแล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อนจึงคิดว่าไปพาเด็กๆอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าชั่วโมงต่อมา“โถ่แม่ครับผมยังไม่อยากมีครอบครัวเสียหน่อยแค่นี้ก่อนนะครับ”เมฆาต้องส่ายหัวเวลาคุยกับคนเป็นแม่ทุกครั้งไปที่ชอบเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นคนนี้เชียร์ให้เขาได้ฟังตลอดนี่ขนาดเขาโทรไปชวนให้มาปาร์ตี้วันเกิดด้วยเจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าอายุเยอะแล้วไม่ชอบนั่งเรือนานๆแถมยังมิวายที่จะพูดเรื่องผู้หญิงคนล่าสุดที่พึ่งไปเจอให้ฟังจนเขานั้นต้องตัดบทขอจบการสนทนาไปณัฐนิชาชะงักเล็กน้อยเมื่อเข้ามาเจอคำพูดที่เมฆากำลังโทรคุยกับแม่พอดีตอนนี้เธอรู้แล้วว่าชายหนุ่มนั้นคงไม่ได้คิดอยากจะจริงจังกับเธอตามที่เพื่อนเธอบอกสักนิดเขาคงจะชอบชีวิตโสดไม่ชอบมีครอบครัวเมื่อรู้แบบนี้เธอเองก็รู้สึกหน่วงนิดๆยอมรับว่าสิ่งที
21.00 น.ณัฐนิชาเกิดความกังวลใจมาตั้งแต่ช่วงเมื่อกลางวันเธอไม่คิดว่าโลกจะกลมจนเหวี่ยงให้เธอมาเจอกับเขาอีกครั้งเขาในคืนนั้นที่เป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ทำลายเธอโดยที่เธอร้องขออะไรไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่เพื่อนและน้องของสาวของเธอบอกเธอเกือบที่จะมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับเขาแล้วเชียวยังไงเธอก็จะต้องพาชีวิตเธอและลูกๆให้อยู่ห่างกับเขามากที่สุดเพราะเธอไม่รู้ว่าคนที่ไม่อยากจะมีครอบครัวอย่างชายหนุ่มเมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดมีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจคนใจร้ายอย่างเขาจะทำอะไรกับพวกเธอบ้างแกร๊กกก“คุณเมฆเข้ามาทางนี้อีกแล้วนะคะ”ณัฐนิชาที่กำลังนั่งกอดเขาคิดอะไรเพลินๆอยู่ข้างๆของลูกๆเธอที่หลับกันไปแล้วเมื่อได้ยินเสียงประตูหลังห้องเปิดออกเธอก็หันขวับมองเห็นชายหนุ่มอย่างชัดเจนพลางตำหนิตัวเองที่เผลอลืมล็อคประตูเธอถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจที่เขาเข้ามาในห้องเธอโดยใช้ประตูหลังห้องอีกแล้ว“ทำไมคุณยังไม่นอน”เมฆาเห็นว่าหญิงสาวนั้นปวดหัวจนไม่ไปทานข้าวเย็นเขาก็อยากเข้ามาดูว่าเธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าแต่เมื่อเข้ามาเห็นเธอยังไม่นอนแถมยังนั่งกอดเข่าอยู่ภายใต้แสงของโคมไฟบนหัวนอนนั่นอีกเขาคิดว่าเธอคงจะไม่ได้ป่วยจริง
“เรือพร้อมแล้วครับ...ใครจะเป็นคนขับครับ”ธาดาเดินเข้ามาหาชายหนุ่มสองพี่น้องที่นั่งคุยกันพร้อมถือถ้วยข้าวเด็กๆเหมือนกับพวกพ่อลูกอ่อนไม่มีผิดก่อนจะถามว่าวันนี้ใครจะเป็นคนขับเรือออกไป“เรือใครคนนั้นก็ขับสิ”เมฆาหันไปมองธาดาว่าพลางอมยิ้มงานนี้เขาคงไม่เป็นคนขับเองแน่เพราะเขาเป็นเจ้าของวันเกิด“อืม...โอเคครับงั้นเดี๋ยวผมไปรอด้านนอกก็แล้วกัน”ธาดาพยักหน้าเข้าใจเขาขอตัวออกไปรอด้านนอกด้วยรู้ตัวอยู่แล้วว่าวันนี้ยังไงเขาก็ต้องเป็นคนขับเองแต่ก็แค่แกล้งถามเพื่อให้แน่ใจเท่านั้นเองว่าจะมีใครอยากจะขับเรือแทนเขาหรือเปล่า“เมื่อไรเวจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม”วายุส่ายหัวให้กับธาดาที่ชอบเหลือเกินจะมารับใช้พวกเค้าทั้งที่ตัวเองก็มีชีวิตที่สบายกว่านี้ได้หลายเท่าถ้าเป็นเขาคงเบื่อตาย“ไม่รู้สิเวอยู่อย่างนี้คงมีความสุขดีล่ะมั้ง”เมฆาคิดว่าเขานั้นเข้าใจธาดาดีเขาคิดว่าวันหากธาดามีความสุขกับชีวิตแบบนี้เขาก็ไม่ได้อยากขัดความสุขใครเมื่อถึงจุดที่ธาดารู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตใหม่เขาก็ไม่ได้คิดจะห้ามออกจะยินดีด้วย“วันนี้แกสวยมากเลยนะนิคุณเมฆต้องประทับใจแน่เลย”ป๋อมแป๋มกำลังยืนทำผมให้ณัฐนิชาอยู่ที่หน้ากระจกบานใ
เมื่อทุกคนขึ้นเรือกันครบธาดาก็ขับเรือยอร์ชสุดหรูลำใหญ่ที่มีพื้นที่อำนวยความสะดวกเพียงพอสำหรับทุกคนออกจากฝั่งไม่นานก็จอดเรือพร้อมเริ่มงานปาร์ตี้บนเรือกันอย่างสนุกสนานตอนนี้ธาดาทำหน้าที่ย่างบาร์บีคิวและดูแลเรื่องอาหารให้กับทุกคนส่วนป๋อมแป๋มก็ทำตัวเป็นดีเจเปิดเพลงคลอบรรยากาศไปทางด้านวายุและรินทร์ธาราก็ไม่ทิ้งหน้าที่เดิมยังคงเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กๆทั้งสองอีกทั้งยังพาเด็กๆมาออกสเตปแดนซ์กันอย่างน่ารักอีกด้วย“นี่ฉันต้องเปิดเพลงเด็กด้วยหรือเปล่าเนี่ย”“ฮ่าๆๆ”ป๋อมแป๋มและณัฐนิชาอดขำเจ้าสองแสบที่ออกมาเต้นกับรินทร์ธาราและวายุไม่ได้ที่เด็กๆดูจะสนุกกันจนลืมขวดนมในมือไปเลย“เอ่อ...นี่แกเค้กอยู่ในตู้แกไปเอามาสิ่นี่ก็จะได้เวลาคุณเมฆเป่าเค้กแล้ว”ป๋อมแป๋มเห็นว่ามันได้เวลาที่จะให้เมฆานั้นเป่าเค้กเธอเห็นชายหนุ่มกำลังยืนชมวิวอยู่ที่ด้านบนพอดีเลยให้ณัฐนิชาถือเค้กไปให้เมฆาเป่าน่าจะทำให้เจ้าของวันเกิดรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย“แกก็ไปเองสิทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ”ณัฐนิชารีบส่ายหัวระริกไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเธอที่ต้องถือเค้กไปให้เมฆาด้วย“ก็แกนั่นแหละเหมาะสุดแล้วฉันว่าคุณเมฆเค้าต้องประทับใจ...”ณัฐนิชายังคงยืนนิ่งท
“มันเป็นของพี่นิค่ะคุณเมฆเก็บได้ตรงไหนคะสงสัยพี่นิจะทำหล่นไว้แน่เลย...หวานไม่เห็นมันนานมากแล้วนะคะไม่คิดว่าพี่นิจะเอาติดมาด้วย”รินทร์ธาราตอบชายหนุ่มออกไปว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของพี่สาวเธอและคิดว่าชายหนุ่มคงจะเก็บได้แน่เธอเองก็ไม่ได้เห็นสร้อยเส้นนี้ของพี่สาวเธอนานแล้วคิดพี่สาวเธอเก็บไว้อย่างดีเสียอีกแต่นี่ดันมาทำหล่นให้คนอื่นเก็บได้เฉยเลย“อ่อ...เอ่อ...ด...เดี๋ยวผมเอาไปให้เธอเองก็ได้ครับ”เมฆาตัวชาวาบแทบจะหยุดหายใจคนที่เขาอยากจะเจออยู่ใกล้ตัวเขาแค่นี้เองเขาพอจะเดาออกแล้วว่าทำไมตั้งแต่เมื่อวานตอนกลางวันณัฐนิชาถึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปขนาดนั้นพลางมองไปที่เจ้าสองแสบตัวกลมที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ตอนนี้ภาพมันลางเพราะน้ำตาที่มันเริ่มคลอออกมาหูที่อื้อไม่ได้ยินอะไรทำให้ชายหนุ่มเหมือนถูกตรึงไว้ตอนนี้เขาแทบยืนไม่อยู่และพยายามทบทวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาค่อยๆลำดับเหตุการณ์“นี่คุณ...มาดูเด็กๆ”วายุที่เห็นรินทร์ธาราคุยกันกระหนุงกระหนิงกับพี่ชายของตนเขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยพร้อมเรียกให้หญิงสาวกลับมาดูเด็กๆที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่อย่างคึกครื้นและดูจะไม่หมดแรงง่ายๆ“โอเคๆ...หวานขอตัวนะคะ”รินทร์ธาราหันไปตามเสียง