“ค่ะพี่แป๋ม...เด็กๆไปกับน้าเร็ว”
รินทร์ธารารีบลุกขึ้นพร้อมเดินจูงหลานๆของเธอไปด้วยต่อจากนี้เธอจะรับหน้าที่ดูแลหลานๆเองตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป
“ผมไม่รู้ว่าคุณไวท์จะมาด้วยตอนนี้ห้องที่ทำความสะอาดไว้แล้วจะอยู่ข้างๆกับห้องน้องสาวคุณนิครับ”
ธาดารีบเดินมาบอกวายุว่ามีห้องที่จัดเตรียมเรียบร้อยแล้วข้างๆห้องของน้องสาวณัฐนิชาเท่าไรเพราะเขาไม่รู้ว่าวายุจะมาอย่างกะทันหัน
“โอเค”
วายุพยักหน้ารับธาดาพร้อมเดินไปที่ห้องของเขาทันทีเพราอยากจะอาบน้ำแย่แล้วด้วยความที่รีบตามพี่ชายเขามาที่เกาะเลยทำให้คนที่พึ่งตื่นอย่างเขาไม่ได้มีเวลาอาบน้ำหรือเตรียมตัวอะไรมากนักก่อนออกมา
“เดี๋ยวผมช่วยคุณเอาของไปเก็บในห้องนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
เมฆาเห็นว่าทุกคนต่างแยกย้ายกันไปหมดแล้วเขาจึงอาสาช่วยณัฐนิชาเก็บของเข้าห้องของเธอเพราะของใช้ของเด็กๆก็ค่อนข้างที่จะเยอะส่วนของใช้ในบ้านธาดาเป็นคนจัดการเอาไปเก็บเรียบร้อยแล้ว
“เด็กๆน่าจะทานนมเก่งนะครับคุณซื้อมาซะเยอะเลย”
“ค่ะ...”
เมฆาเห็นว่าจองหญิงสาวซื้อนมผงมาค่อนข้างหลายกล่องแสดงว่าเด็กๆต้องทานนมเก่งมากแน่ๆในหัวของเขานึกถึงตัวเด็กๆก็บอกตัวเองว่าไม่น่าถาม
“คุณนิก็เก่งนะครับเลี้ยงลูกมาคนเดียวตั้งสองคนคุณนี่เป็นคุณแม่ที่สุดยอดไปเลยแล้วเด็กๆก็น่ารักมากๆด้วย”
เมฆาอดชื่นชมหญิงสาวไม่ได้ผู้หญิงตัวนิดเดียวทำงานเลี้ยงลูกทั้งสองมาคนเดียวแถมยังเป็นเสาหลักของบ้านอีกความรับผิดชอบของเธอมันช่างสูงเสียจริง
“ขอบคุณค่ะ...เพราะเด็กๆนี่แหละค่ะทำให้นิมีกำลังใจในการทำอะไรหลายๆอย่างเลยค่ะ”
ณัฐนิชากำลังเก็บของเข้าที่อย่างเป็นระเบียบพลางหันมายิ้มขอบคุณชายหนุ่มในคำชมของเขาพร้อมบอกกับคนที่ยืนอยู่ในห้องให้รู้ว่าเธอมีกำลังใจต่อสู้มาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็มีเพราะมีลูกๆของเธอเป็นกำลังใจสำคัญ
“เวลาคุณนิยิ้มน่ารักดีนะครับ...ผมชอบให้คุณนิยิ้มบ่อยๆมากกว่ามีสีหน้าที่เป็นกังวล”
เมฆาแอบอมยิ้มตามหญิงสาวเขาชอบมองเวลาที่เธอยิ้มมากกว่าตอนที่เธอกังวลเรื่องโน้นเรื่องนี้
“ตายแล้วนิชอบมีสีหน้าแบบนั้นจนคุณดูออกเลยเหรอคะ”
ณัฐนิชายอมรับว่าเธอนั้นเป็นคนที่ชอบกังวลพร้อมหันมาเลิกคิ้วพร้อมถามชายหนุ่มว่าเธอแสดงออกได้อย่างชัดเจนขนาดนั้นเชียวหรือ
“อืมม...ก็ไม่ได้มากขนาดนั้นหรอกครับ”
เมฆาต้องรีบบอกว่าเธอก็ไม่ได้แสดงออกให้เข้าเห็นมากขนาดนั้นเพื่อให้เธอได้สบายใจแอบบ่นตัวเองว่าเขาเกือบทำให้เธอกังวลอีกเรื่องแล้ว
“งั้นเราออกไปข้างนอกกันดีกว่าค่ะนิว่าจะไปหาป๋อมแป๋มกับน้ำหวานด้วย”
“ครับ”
ณัฐนิชาเก็บของเข้าที่แล้วเธอว่าจะออกไปหาป๋อมแป๋มกับรินทร์ธาราเพื่อจัดการคาดโทษเสียหน่อยที่รู้เห็นเป็นใจกันทำเรื่องเสียเหลือเกิน
“จากที่หวานสังเกตคุณเมฆก็เป็นไปตามที่พี่แป๋มบอกนะคะ”
หลังจากที่รินทร์ธาราเอาของไปเก็บที่ห้องของเธอได้ก็รีบเข้าห้องมาคุยกับป๋อมแป๋มโดยที่มีเด็กๆนั่งเล่นอยู่ในห้องด้วยหญิงสาวแอบสังเกตตอนที่เมฆามองพี่สาวเธอมันเป็นแบบที่ป๋อมแป๋มโทรคุยกับเธอจริงๆ
“เห็นไหมมีพี่เราที่เฉิ่มจนไม่รู้ว่าผู้ชายเค้าสนใจอยู่ฝ่ายเดียวนั่นแหละ”
ป๋อมแป๋มนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงพลางพยักหน้ายกใหญ่ว่าเธอมองไม่ผิดมีแต่เพื่อนสาวเธอเท่านั้นแหละที่เฉิ่มจนไม่รู้ตัวว่ามีผู้ชายมาแอบชอบ
“เอาความจริงคุณเมฆเค้าก็ท่าทางจะเพอเฟคไปซะทุกอย่างนะพี่แป๋มแน่ใจเหรอว่าเค้าจะไม่มาเล่นๆกับพี่นิไม่ใช่ว่าเห็นพี่นิเคยมีลูกแล้วจะมาหวังว่าพี่นิเป็นคนง่ายๆหวานไม่ยอมจริงๆด้วย”
รินทร์ธาราคิดไปคิดมาเธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มนั้นจะทีเล่นหรือทีจริงกับพี่สาวของเธอถ้ามาหยอกพี่สาวเธอเล่นเธอเองก็ไม่ยอมแน่นอน
“พี่รู้จักคุณเมฆมานานถึงจะไม่ค่อยได้เจอพี่ก็มั่นใจว่าคุณเมฆเป็นสุภาพบุรุษพอพี่เอาหัวเป็นประกัน”
ป๋อมแป๋มถึงจะไม่ได้สนิทสนมอะไรกับชายหนุ่มขนาดนั้นเธอก็ยืนยังได้ว่าชายหนุ่มไม่ได้เป็นอย่างที่รินทร์ธาราคิดแน่นอนเพราะตั้งแต่เธอรู้จักเขามาชายหนุ่มก็ค่อนข้างที่จะเป็นสุภาพบุรุษที่เพอเฟคและหาตัวจับยากเลยทีเดียว
ก๊อกๆๆ
ณัฐนิชาได้ยินเสียงเด็กๆดังออกมาจากห้องของป๋อมแป๋มเธอรู้ว่าน้องสาวของเธอต้องอยู่ในนี้ด้วยแน่นอนจึงเคาะประตู
“พูดถึงก็มาพอดี”
ป๋อมแป๋มเป็นคนลุกมาเปิดประตูเมื่อเห็นว่าเป็นณัฐนิชาก็ทำลอยหน้าลอยตาหยอกเพื่อนเล่นก่อนจะอุทานพลางให้เพื่อนเธอรู้ว่าเธอกับรินทร์ธารานั้นกำลังพูดถึงเจ้าตัวอยู่
“รวมหัวกันเก่งนักนะ...ทำอะไรไม่ค่อยจะปรึกษา”
ณัฐนิชาเข้าห้องมาได้ก็จัดการใช้สายตาพิฆาตมองค้อนทั้งสองอย่างตำหนิที่ชอบทำอะไรโดยพละการและไม่ยอมที่จะบอกเธอก่อนแถมยังไปคุยเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับเธอและเมฆาอีก
“โถ่..มาให้หวานกอดให้หายคิดถึงหน่อยเร็ว.”
รินทร์ธาราเห็นว่าพี่สาวเธอนั่งลงที่เตียงของป๋อมแป๋มจึงเข้าไปสวมกอดออดอ้อนเพื่อให้พี่สาวเธอหายงอนได้แล้วเพราะเธอก็มาถึงที่นี่แล้วคงจะห้ามอะไรไม่ทัน
“ตลอดเราอะ”
ณัฐนิชาเห็นน้องสาวของเธอใช้วิธีนี้ง้อเธออีกแล้งจึงต้องยกมือเขกหัวน้องสาวตัวแสบของเธอหนึ่งทีน้องสาวเธอใช้วิธีนี้ทีไรเธอจำต้องใจอ่อนทุกที
“โอ้ยย...เจ็บนะพี่นิ”
รินทร์ธาราหน้ามุ่ยเอามือขยี้หัวเล็กน้อยและเข้าไปสวมกอดพี่สาวของเธอต่อ
“กอดๆ/กอด”
เจ้าสองแสบพอเห็นทั้งแม่และน้ากอดกันทั้งสองก็ทิ้งของเล่นในมือกอดกันบ้างภาพนั้นทำให้ทั้งสามในห้องหัวเราะร่าพร้อมกันในความเอ็นดูเจ้าสองแสบ
18.00 น.โต๊ะอาหาร“อาทิตย์หน้าก็เป็นวันเกิดพี่เมฆนี่เราไปฉลองบนเรือกันสักคืนดีไหม”วายุจำได้ว่าอาทิตย์หน้าก็จะเป็นวันเกิดของพี่ชายของเขาแล้วปีนี้ดีหน่อยที่เขาได้มีโอกาสอยู่กับพี่ชายพร้อมหน้ากันจึงอยากจะหาอะไรสนุกๆทำ“นั่นมันความต้องการแกหรือเปล่าไวท์”เมฆาเหลือบสายตาระอามองน้องชายของเขารู้อยู่ในใจว่าคงเป็นความต้องการของวายุมากกว่าที่ต้องการฉลองบนเรือ“โถ่!!!...พี่ครับเราไม่ได้ไปสนุกบนเรือกันนานแล้วนะ”วายุรีบแก้ต่างอย่างรวดเร็วเขาก็แค่เห็นว่าเขาและพี่ชายไม่ได้ล่องเรือเล่นกันมานานแล้วตั้งแต่พี่ชายของเขาเริ่มดูแลงานแทนคุณพ่อของเขาเต็มตัว“อืมก็ได้...งั้นเชิญทุกคนเลยแล้วกันครับพุธหน้าผมจะไปจัดวันเกิดบนเรือ”เมฆาถือโอกาสนี้ชวนทุกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารร่วมงานวันเกิดของเขาเลยก็แล้วกันถือซะว่าเป็นการพักผ่อนจากที่ทุกคนทำงานกันมาหนักด้วย“จริงเหรอคะ...แบบนี้แป๋มต้องรีบหาของขวัญแล้วล่ะค่ะ”“สุดยอดไปเลยค่ะ...เย่”ป๋อมแป๋มและรินทร์ธาราดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษที่จะได้ล่องเรือปาร์ตี้กันใบหน้าของทั้งสองทำให้ทุกคนดูออกว่ากำลังวาดฝันถึงปาร์ตี้ที่แสนสนุกสุดโรแมนติกผิดจากณัฐนิชาที่เพียงแค่อมยิ้มนั่งน
“ฮ่าๆๆ..ครับ...เอ่อคุณหวานครับ..อืมม”เมฆารีบกลบเกลื่อนความคิดของเขาที่มันแล่นไปไกลแล้วด้วยการขำออกมาพร้อมนึกถึงเรื่องที่เขาอยากจะถามเธออยู่พอดีแต่พอนึกขึ้นได้ว่าของที่เขาจะถามเธอดันลืมไว้ที่บ้านท้ายเกาะจึงคิดว่าเดี๋ยวให้เขาไปเอากลับมาก่อนแล้วค่อยถามจะดีกว่า“มีอะไรหรือเปล่าคะ”รินทร์ธาราเห็นท่าทีชายหนุ่มอ้ำๆอึ้งๆจึงเปิดประเด็นถามคนตรงหน้าออกไปว่ามีอะไรคาใจอยู่หรือเปล่าเพราะเธอพร้อมตอบทุกคำถามของเขาอยู่แล้วโดยเฉพาะเรื่องพี่สาวเธอ“อ๋อ...เปล่าครับเดี๋ยวผมต้องขอตัวก่อนนะครับ”เมฆารีบบอกปฏิเสธหญิงสาวออกไปว่าไม่มีอะไรพร้อมขอตัวออกไปจากตรงนี้เพราะเขาเองก็ต้องไปเชคเมลรายงานผลที่บริษัทที่จะต้องตรวจทานอยู่เป็นประจำแทบทุกวัน“ค่ะ”หลังจากที่เมฆาเดินออกไปแล้วรินทร์ธาราก็หันมาดูหลานๆที่กำลังนั่งเล่นง่วนกันต่อใยไหมนั้นด้วยความที่เป็นเด็กผู้หญิงเมื่อได้ตุ๊กตามาอย่างแรกเด็กหญิงถอดชุดตุ๊กตาก่อนเป็นอันดับแรกและหยิบชุดเปลี่ยนใส่อย่างชำนาญกับชุดที่มีแถมอยู่ในเซ็ทส่วนใบหม่อนก็สนุกตามประสาเด็กผู้ชายที่เล่นรถแต่ทำเหมือนมันบินได้โดยการชูขึ้นเพดานพร้อมส่งเสียงดังปากจู๋อย่างน่าเอ็นดู“บู๊นนนนน....” ปั้กกกก“
“คุณเป็นได้แค่คุณอาเท่านั้นย่ะ”รินทร์ธาราต้องย้ำสถานะให้วายุได้ฟังอีกรอบว่าเขานั้นเป็นได้แค่สถานะไหนเพราะเธอจะไม่ยอมให้เขาเป็นได้มากกว่านี้เป็นอันขาดเพราะเธอนั้นเลือกพี่เขยของเธอเอาไว้แล้ว“รู้แล้วล่ะน่าย้ำเก่งจริงจริ๊งงงงงง”วายุรู้ตัวว่าเขานั้นอยู่ได้ในสถานะไหนแล้วเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่หญิงสาวคิดด้วยตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมารินทร์ธาราอยู่ดูแลเด็กๆแทบจะทุกอย่างจึงทำให้ป๋อมแป๋มกับณัฐนิชานั้นทำงานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นส่วนวายุก็ยังคงคอยกัดกับรินทร์ธาราเหมือนเดิมและตอนนี้เขาก็พ่วงตำแหน่งช่วยรินทร์ธาราดูแลเด็กๆไปด้วยเพราะรินทร์ธาราจะวานให้วายุนั้นมาช่วยดูแลเด็กๆเสมอเมื่อวายุทำท่าที่จะเข้าใกล้พี่สาวของเธอธาดาเองนอกจากดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างแล้วเขาก็ยังต้องคอยปรามวายุกับรินทร์ธาราให้เลิกเถียงกันอยู่บ่อยครั้งจนเขาก็เริ่มระอาเสียแล้ว“เหนื่อยไหมครับคุณนิ”ในขณะที่ณัฐนิชานั่งทำงานอยู่เงียบๆเมฆาก็จะนำขนมหรือเครื่องดื่มมาส่งให้เธอเป็นของว่างแทบทุกวันพร้อมทั้งหาเรื่องคุยกับเธออยู่บ่อยๆป๋อมแป๋มเองก็รู้งานเวลาเห็นว่าชายหนุ่มเข้ามาหาเพื่อนเธอเองก็จะแกล้งออกไปยืดเส้นยืดสายเป็นอันรู้กันกับเ
“งั้นพรุ่งนี้แกไปดูบ้านกับคุณเมฆนะเดี๋ยวฉันต้องเร่งส่งแบบให้กับทีม”“อืมม...ก็ได้”ป๋อมแป๋มนั้นจำต้องหาข้ออ้างสารพัดให้ชายหนุ่มกับเพื่อนเธออยู่กันสองต่อสองเผื่อทั้งคู่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากกว่าที่ผ่านมาแผนทำให้เพื่อนรักตกถังข้าวสารเธอไม่ปล่อยให้ล่มง่ายๆแน่เช้าวันต่อมา09.30 น.หลังจากที่เมฆาและณัฐนิชาทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมตัวออกเดินทางไปที่บ้านท้ายเกาะทันที“คุณแม่ขา...ไปด้วย”“หม่อนจะไปด้วยคร้าบ”“อ้าว...เด็กๆ”ทั้งใยไหมและใบหม่อนเห็นว่าคนเป็นแม่กำลังจะขึ้นรถอยู่ที่หน้าบ้านจึงรีบวิ่งออกมาหาพลางบีบน้ำตาร้องตามกันทั้งคู่ทำเอาคนเป็นแม่เริ่มลำบากใจ“เด็กๆมาอยู่กับน้าดีกว่านะคะ...เดี๋ยวน้าหวานเปิดการ์ตูนเรื่องโปรดให้ดูเอาไหม”รินทร์ธารารู้ว่าถ้าเด็กๆไปด้วยอาจจะรบกวนทั้งสองจึงพยายามหลอกล่อให้หลานๆของเธอกลับเข้าไปในบ้านกับเธอแต่ดูท่าการหลอกล่อจะไม่เป็นผลเพราะเจ้าก้อนทั้งสองเดินไปหลบอยู่ที่หลังของเมฆาพลางใช้มือป้อมจับมือของชายหนุ่มเอาไว้คนละข้างเหมือนจะรู้ว่าคนไหนตามใจ“ให้เด็กๆไปกับเราก็ได้ครับคงไม่มีปัญหาอะไร”เมฆาหันมาบอกกับณัฐนิชาให้หายกังวลเด็กๆทั้งสองจะไปด้วยเขาไม่ได้มีปัญหาเชื่
“เด็กๆกระโดมาเลยเดี๋ยวลุงรับเอง” ตู้มมมม“อร้ายยยย”“ฮ่าๆๆ”“ใบหม่อนวิ่งมาเลยครับ” ตู้มมมมมณัฐนิชาได้ยินเสียงของทั้งสามเล่นน้ำกันอย่างสนุกจนต้องออกมายืนพิงขอบประตูดูทั้งสามที่กำลังสนุกอยู่กับการกระโดดน้ำเธอยิ่งมองยิ่งอดยิ้มไม่ได้“เลิกเล่นกันได้แล้วค่ะเด็กๆ”ณัฐนิชาเห็นว่าทั้งสามเล่นน้ำกันมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วอีกอย่างก็ใกล้จะเที่ยงแล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อนจึงคิดว่าไปพาเด็กๆอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าชั่วโมงต่อมา“โถ่แม่ครับผมยังไม่อยากมีครอบครัวเสียหน่อยแค่นี้ก่อนนะครับ”เมฆาต้องส่ายหัวเวลาคุยกับคนเป็นแม่ทุกครั้งไปที่ชอบเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นคนนี้เชียร์ให้เขาได้ฟังตลอดนี่ขนาดเขาโทรไปชวนให้มาปาร์ตี้วันเกิดด้วยเจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าอายุเยอะแล้วไม่ชอบนั่งเรือนานๆแถมยังมิวายที่จะพูดเรื่องผู้หญิงคนล่าสุดที่พึ่งไปเจอให้ฟังจนเขานั้นต้องตัดบทขอจบการสนทนาไปณัฐนิชาชะงักเล็กน้อยเมื่อเข้ามาเจอคำพูดที่เมฆากำลังโทรคุยกับแม่พอดีตอนนี้เธอรู้แล้วว่าชายหนุ่มนั้นคงไม่ได้คิดอยากจะจริงจังกับเธอตามที่เพื่อนเธอบอกสักนิดเขาคงจะชอบชีวิตโสดไม่ชอบมีครอบครัวเมื่อรู้แบบนี้เธอเองก็รู้สึกหน่วงนิดๆยอมรับว่าสิ่งที
21.00 น.ณัฐนิชาเกิดความกังวลใจมาตั้งแต่ช่วงเมื่อกลางวันเธอไม่คิดว่าโลกจะกลมจนเหวี่ยงให้เธอมาเจอกับเขาอีกครั้งเขาในคืนนั้นที่เป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่ทำลายเธอโดยที่เธอร้องขออะไรไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่เพื่อนและน้องของสาวของเธอบอกเธอเกือบที่จะมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับเขาแล้วเชียวยังไงเธอก็จะต้องพาชีวิตเธอและลูกๆให้อยู่ห่างกับเขามากที่สุดเพราะเธอไม่รู้ว่าคนที่ไม่อยากจะมีครอบครัวอย่างชายหนุ่มเมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดมีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจคนใจร้ายอย่างเขาจะทำอะไรกับพวกเธอบ้างแกร๊กกก“คุณเมฆเข้ามาทางนี้อีกแล้วนะคะ”ณัฐนิชาที่กำลังนั่งกอดเขาคิดอะไรเพลินๆอยู่ข้างๆของลูกๆเธอที่หลับกันไปแล้วเมื่อได้ยินเสียงประตูหลังห้องเปิดออกเธอก็หันขวับมองเห็นชายหนุ่มอย่างชัดเจนพลางตำหนิตัวเองที่เผลอลืมล็อคประตูเธอถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจที่เขาเข้ามาในห้องเธอโดยใช้ประตูหลังห้องอีกแล้ว“ทำไมคุณยังไม่นอน”เมฆาเห็นว่าหญิงสาวนั้นปวดหัวจนไม่ไปทานข้าวเย็นเขาก็อยากเข้ามาดูว่าเธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าแต่เมื่อเข้ามาเห็นเธอยังไม่นอนแถมยังนั่งกอดเข่าอยู่ภายใต้แสงของโคมไฟบนหัวนอนนั่นอีกเขาคิดว่าเธอคงจะไม่ได้ป่วยจริง
“เรือพร้อมแล้วครับ...ใครจะเป็นคนขับครับ”ธาดาเดินเข้ามาหาชายหนุ่มสองพี่น้องที่นั่งคุยกันพร้อมถือถ้วยข้าวเด็กๆเหมือนกับพวกพ่อลูกอ่อนไม่มีผิดก่อนจะถามว่าวันนี้ใครจะเป็นคนขับเรือออกไป“เรือใครคนนั้นก็ขับสิ”เมฆาหันไปมองธาดาว่าพลางอมยิ้มงานนี้เขาคงไม่เป็นคนขับเองแน่เพราะเขาเป็นเจ้าของวันเกิด“อืม...โอเคครับงั้นเดี๋ยวผมไปรอด้านนอกก็แล้วกัน”ธาดาพยักหน้าเข้าใจเขาขอตัวออกไปรอด้านนอกด้วยรู้ตัวอยู่แล้วว่าวันนี้ยังไงเขาก็ต้องเป็นคนขับเองแต่ก็แค่แกล้งถามเพื่อให้แน่ใจเท่านั้นเองว่าจะมีใครอยากจะขับเรือแทนเขาหรือเปล่า“เมื่อไรเวจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม”วายุส่ายหัวให้กับธาดาที่ชอบเหลือเกินจะมารับใช้พวกเค้าทั้งที่ตัวเองก็มีชีวิตที่สบายกว่านี้ได้หลายเท่าถ้าเป็นเขาคงเบื่อตาย“ไม่รู้สิเวอยู่อย่างนี้คงมีความสุขดีล่ะมั้ง”เมฆาคิดว่าเขานั้นเข้าใจธาดาดีเขาคิดว่าวันหากธาดามีความสุขกับชีวิตแบบนี้เขาก็ไม่ได้อยากขัดความสุขใครเมื่อถึงจุดที่ธาดารู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตใหม่เขาก็ไม่ได้คิดจะห้ามออกจะยินดีด้วย“วันนี้แกสวยมากเลยนะนิคุณเมฆต้องประทับใจแน่เลย”ป๋อมแป๋มกำลังยืนทำผมให้ณัฐนิชาอยู่ที่หน้ากระจกบานใ
เมื่อทุกคนขึ้นเรือกันครบธาดาก็ขับเรือยอร์ชสุดหรูลำใหญ่ที่มีพื้นที่อำนวยความสะดวกเพียงพอสำหรับทุกคนออกจากฝั่งไม่นานก็จอดเรือพร้อมเริ่มงานปาร์ตี้บนเรือกันอย่างสนุกสนานตอนนี้ธาดาทำหน้าที่ย่างบาร์บีคิวและดูแลเรื่องอาหารให้กับทุกคนส่วนป๋อมแป๋มก็ทำตัวเป็นดีเจเปิดเพลงคลอบรรยากาศไปทางด้านวายุและรินทร์ธาราก็ไม่ทิ้งหน้าที่เดิมยังคงเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กๆทั้งสองอีกทั้งยังพาเด็กๆมาออกสเตปแดนซ์กันอย่างน่ารักอีกด้วย“นี่ฉันต้องเปิดเพลงเด็กด้วยหรือเปล่าเนี่ย”“ฮ่าๆๆ”ป๋อมแป๋มและณัฐนิชาอดขำเจ้าสองแสบที่ออกมาเต้นกับรินทร์ธาราและวายุไม่ได้ที่เด็กๆดูจะสนุกกันจนลืมขวดนมในมือไปเลย“เอ่อ...นี่แกเค้กอยู่ในตู้แกไปเอามาสิ่นี่ก็จะได้เวลาคุณเมฆเป่าเค้กแล้ว”ป๋อมแป๋มเห็นว่ามันได้เวลาที่จะให้เมฆานั้นเป่าเค้กเธอเห็นชายหนุ่มกำลังยืนชมวิวอยู่ที่ด้านบนพอดีเลยให้ณัฐนิชาถือเค้กไปให้เมฆาเป่าน่าจะทำให้เจ้าของวันเกิดรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย“แกก็ไปเองสิทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ”ณัฐนิชารีบส่ายหัวระริกไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเธอที่ต้องถือเค้กไปให้เมฆาด้วย“ก็แกนั่นแหละเหมาะสุดแล้วฉันว่าคุณเมฆเค้าต้องประทับใจ...”ณัฐนิชายังคงยืนนิ่งท