"คุณก็จัดการเองสิคะ.. ฉันไม่เคยเช็ดตัวให้ผู้ชาย"
"แต่ผมเป็นสามีคุณไม่ใช่เหรอ" คำพูดของหญิงสาวทำเอาไรอันสับสนกับการกระทำของเธออยู่ไม่น้อย
"คือ.. ก.. ก็ได้" ว่านรักลืมข้อนี้ไปเสียสนิทก่อนจะรีบกลับมานั่งตรงหน้าชายหนุ่มและค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของเขาออกด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างลำบากใจ
"คุณเป็นอะไรทำยังกับไม่เคยเห็นร่างกายของผม" ดวงตาสีน้ำข้าวของไรอันจ้องมองหญิงสาวอย่างมีคำถามมากมายเพราะดูเหมือนเธอไม่ค่อยอยากจะดูแลเขาเท่าไรทั้งสายตาของเธอเวลามองเขามันก็ว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูกหนำซ้ำตอนนี้ยังทำท่าเหมือนจะรังเกียจที่ตจะมองร่างกายของเขาอีก
"อ๋อ.. เปล่าฉันกลัวคุณเขินไง...คุณความจำเสื่อมคุณคงไม่ค่อยคุ้นชินกับฉัน.." ว่านรักแสยะยิ้มก่อนจะเอ่ยชักแม้น้ำทั้งห้าไปเรื่อยทั้งยังไม่รู้ตัวอีกว่าตอนนี้เธอกำลังแก้มแดงเพราะหน้าท้องแกร่งที่ขึ้นซิกแพคของไรอันอยู่
"แต่ผมว่าคุณมากกว่าที่น่าจะเขิน..หน้าแดงซะขนาดนั้น" ไรอันเอ่ยออกไปตามตรงไม่ได้คิดจะหยอกหญิงสาวแต่อย่างใด
"เปล่านะคะ...ฉันแค่ร้อนๆ" ว่าจบก็ก้มหน้างุดหยิบผ้าจุ่มน้ำเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ชายหนุ่มอย่างเร่งรีบ
"คุณนี่ก็น่ารักดีนะ...ผมว่าตอนที่ผมตกหลุมรักคุณก็ตรงที่คุณเขินนี่ล่ะมั้ง...อ่อ..จริงสิ..ผมไม่เคยคิดจะแต่งงานกับคุณจริงๆเหรอผมยังแปลกใจอยู่เลยว่าตัวเองจะไม่ให้เกียรติคุณขนาดนั้นเลยหรือไง" สายตาคมจับจ้องใบหน้าหวานกับการกระทำของหญิงสาวอยู่ตลอดเวลาไม่รู้เลยว่าเขากับเธอคบกันมานานเท่าไรแล้วเพราะดูท่าเธอจะยังคงเขินเขาไม่น้อย
"ค่ะ...เราไม่เคยคุยเรื่องแต่งงานกัน"
"อย่างนั้นผมก็ต้องขอโทษคุณด้วยที่ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวแทนที่จะทำอะไรให้มันถูกต้อง" ว่านรักค่อนข้างแสลงหูกับคำขอโทษของไรอันไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะพูดคำนี้ออกมาง่ายๆ
"ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ..ฉันเองก็ไม่ค่อยชอบงานแต่งงานเท่าไร...เสร็จแล้วเดี๋ยวฉันเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้นะคะ" สาวเจ้าว่าจบก็เตรียมจะออกไปจาห้องนี้ทันทีแต่ถูกมือหนาของคนตัวโตดึงเธอเอาไว้ก่อนเพราะเธอยังทำความสะอาดตัวของเขาไม่หมดแล้วเขาจะนอนได้อย่างไร
"เอ่อ..ข้างล่างล่ะครับ"
"ฉันต้องทำด้วยเหรอคะ..." ร่างบางชะงักงันแค่ท่อนบนของเขาก็ทำให้ใจเธอแทบเต้นกระเด็นไปอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว
"มือผมเช็ดได้แต่ถอดกางเกงไม่ถนัดเท่านั้นเอง"
"..." เฮ้อ.. ตายแน่ว่าน..สาวเจ้าเอ่ยในใจก่อนจะข่มใจก้มหน้าก้มตาจัดการให้ชายหนุ่มจนเรียบร้อย
ครู่ต่อมา
"ขอบคุณครับ" หลังจากเช็ดเนื้อเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อนแล้วไรอันรู้สึกสบายตัวขึ้นมกและเอ่ยของคุณหญิงสาวที่คอยดูแลเขา
"เดี๋ยวคืนนี้คุณนอนห้องนี้นะคะฉันจะอยู่อีกห้อง"
"ทำไมเราไม่นอนห้องเดียวกันล่ะ"
"ฉันกลัวคุณอึดอัดไงคะ" เหตุผลของว่านรักดูจะฟังไม่ขึ้นสำหรับไรอันเท่าไรทำให้เขาเริ่มสงสัยในตัวเธอเพิ่มไปอีกว่าระหว่างเขากับเธอมันมีปัญหาอะไรกันมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า
"ไม่เป็นไรหรอกครับเผื่อผมอยู่ใกล้คุณมากๆแล้วอาจจะจำอะไรขึ้นมาได้...หรือคุณกันแน่ที่ไม่อยากใกล้ผม" ดวงตาคมมองร่างบางอย่างจ้องจับผิด
"เปล่านี่คะ..คุณเป็นสามีฉันทำไมฉันจะไม่อยากอยู่ใกล้ล่ะคะ..." ว่าจบว่านรักก็เปิดตู่หยิบเสื้อคลุมตัวใหญ่มาใส่เอาไว้ให้มิดชิดก่อนจะลงนอนที่เตียงนุ่มข้างๆคนที่เอาแต่นั่งจ้องเธอ
"หนาวเหรอครับ" ไรอันค่อยๆขยับตัวนอนลงก่อนจะหันไปถามหญิงสาวที่นอนขดตัวหันหลังให้เขา
"เอ่อ.. ใช่ค่ะ.. ที่นี่กลางคืนถึงค่อนแจ้งค่อนข้างหนาวฉันเลยต้องใส่เสื้อหลายๆชั้น"
"ผมว่าอากาศกำลังสบายดีออก"
"ก็คุณอยู่เมืองนอกจนชินนี่คะ...ท..ทำอะไร" ร่างบางหันขวับมาดุใส่ชายหนุ่มในขณะที่เขายื่นแขนอีกข้างที่ปกติมาวางที่เอวบางของเธอ
"ดุผมทำไม..ผมก็แค่จะสัมผัสคุณดูเท่านั้นเผื่อผมอาจจะจำอะไรได้" ไรอันรีบดึงมือตังเองกลับด้วยสีหน้าตกใจเป็นอีกครั้งที่พฤติกรรมของหญิงสาวทำให้เขาแปลกใจที่เธอหวงเนื้อหวงตัวแม้กระทั่งเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี
"ตอนนอนฉันไม่ชอบให้ใครแตะตัวน่ะค่ะเดี๋ยวจะนอนไม่หลับ" ว่านรักผ่อนลมหายใจก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนและยกหมอนข้างมากั้นเอาไว้ตรงกลาง
"ขอโทษทีผมไม่กวนก็ได้ครับ" ไรอันคิดว่าเขาต้องหาคำตอบให้ได้ว่าก่อนหน้านี้เขาทะเลาะอะไรกับเธอหญิงสาวถึงได้หนีเขามาที่นี่และเขาถึงขั้นต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลตามมาง้อและที่พฤติกรรมเธอที่ดูเหินห่างกับเขาแบบนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเอน่าจะยังโกรธเคืองใจเขาอยู่เป็นแน่
เช้าวันต่อมา
"ตานั่นอยู่ไหนล่ะ" เช้านี้สองสาวนั่งถอนหญ้าตามแนวร่องแปลงผักเมษาเห็นว่านรักมาที่นี่คนเดียวจึงถามถึงไรอัน
"ฉันให้เค้าพักอยู่ที่บ้านนั่นแหละไม่อยากให้ออกมา" ว่านรักเอ่ยตอบน้ำเสียงห้วนเธอไม่ค่อยอยากพูดถึงชายหนุ่มเท่าไร
"เมื่อคืนเป็นไงบ้าง" เมษาที่ชอบแหย่เพื่อนเป็นว่าเล่นอยู่แล้วยิ่งรู้อาการเพื่อนสาวว่าไม่อยากพูดถึงไรอันจึงเอ่ยถามถึงเขาต่อ
“.ก็...” ว่านรักเล่าเรื่องราวเมื่อคืนให้เมษาฟังอย่างไม่ปิดบังให้เพื่อนเธอได้รู้ว่าวาจาที่เพื่อนเธอได้ลั่นว่าไรอันเป็นสามีของเธอในวันนั้นทำให้วันนี้เธอได้รับผลกระทบเช่นไร
"ห้ะ.. แกกับตานั่นนอนห้องเดียวกันอย่างนั้นเหรอ" เมษาตาลุกวาวเมื่อว่านรักว่าจบ
เป้ก
"โอ้ย" คนที่ชอบหยอกเพื่อนรีบเอาหลังมือถูหัวเมื่อถูกว่านรักเคาะด้วยกำปั้น"ทำหน้าตาตื่นเต้นเพราะแกนั่นแหละทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้""ให้บอกความจริงตาไปเลยไหมล่ะอีตานั่นจะได้ถูกคนที่นี่รุมยำตาย" เมษาพูดอย่างลอยหน้าลอยตา"ไม่ๆๆ.. " ว่านรักรีบส่ายหัวทันทีเพราะเธอก็ไม่ใช่คนใจร้ายที่จะเห็นใครถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาได้"ฉันก็พึ่งเห็นคนอะไรสงสารคนที่จะฆ่าตัวเอง" เมษาบุ้ยปาก"ก็ตอนนี้อีตานั่นไม่รู้เรื่องรู้ราวนี่นาถ้าฉันปล่อยให้เค้าถูกทำร้ายก็แย่เกินคนแล้ว" "ฉันอยากจะรู้จริงจริ๊งว่าจะมีคนดีอย่างแกสักกี่คนเนี่ย""เที่ยงแล้วไปหาข้าวกินกันเถอะ..อ่อ..ฉันลืมหยิบปิ่นโตมากินกับแกก็แล้วกัน" ว่านรักเห็นว่านี่ก็น่าจะเที่ยงแล้วเพราะพระอาทิตย์ลงหัวอีกอย่างเหล่าคนที่ทำไร่อยู่ใกล้กันก็นั่งจับกลุ่มล้อมวงกินข้าวกันหมดแล้วจึงรีบชวนเมษาไปเข้าร่มไม้ตั้งวงกินข้าวกัน"ได้สิเมื่อเช้าตาก็ตักข้าวใส่ปิ่นโตมาเผื่อแกอยู่แล้ววันนี้มีแกงส้มผักรวมกับปลาเค็มของโปรดแกด้วย""งั้นรีบเลย" ได้ยินเช่นนี้ว่ารักจึงรีบสับขาเข้าไปในร่มทันทีเพราะวันนี้มีของโปรดของเธอไรอันเดินเข้ามาในไร่พร้อมกับปิ่นโตในมือเพราะเขาเข้าใจว่าว่านรักน่าจะ
"ฉันคิดว่าเราควรจะสร้างตัวกันอีกสักนิดค่ะ" ว่านรักเอ่ยปัดให้จบๆไปก่อนจะปิดไฟนอนแม้นภายนอกเธอจะไม่มีอาการอะไรแต่หัวใจเธอเต้นไม่ค่อยจะเป็นส่ำเพราะไม่รู้เลยว่าวันหน้าเธอจะเจอคำถามหรือเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ลำบากใจอีก"อ๋อ...ผมเข้าใจแล้ว" ไรอันเอ่ยเสียงอ่อนแม้นหญิงสาวจะตอบเขามาแบบนั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าในใจของเขายังคงมีความสงสัยอยู่ก็หาคำตอบกับตัวเองไม่ได้อีกเหมือนกันเช้าวันต่อมา"...." ไรอันตื่นมาในช่วงเช้าตรู่เขาเห็นนอนมองหญิงสาวอยู่พักใหญ่โดยที่ยังไม่ปลุกเธอริมฝีปากหนาอมยิ้มอ่อนเมื่อมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังหลับตาพริ้มนี้เขาอยากจำได้เหลือเกินว่าตอนนั้นเขาตกหลุมรักเธอเพราะความน่ารักนี้หรือไม่แต่ตอนนี้เขาคิดว่าคงจะใช่และภาวนาในใจของให้เขาจำเรื่องราวก่อนหน้าได้เร็วๆจะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยอะไรให้มันอึดอัดหัวใจ ช่วงสาย"ผมไปไร่กับคุณด้วยได้หรือเปล่า" ไรอันเดินตามว่านรักออกมาจากบ้านก่อนจะขอเธอไปที่ไร่ด้วย"จะไปตากแดดตากลมทำไมคะอยู่ที่บ้านดีแล้วค่ะ..." "ผมไปอยู่ที่บ้านตาก็ได้" "ก็ได้" คนที่ขี้เกียจจะเถียงกับชายหนุ่มตอนนี้ยอมให้เขาตามเธอไปแต่โดยดีเพราะรู้ว่าถ้าเธอห้ามตอนนี้ไม่เที่ยงก็เย็นเธอ
"พ่อเลี้ยงนั่นสนิทกับคุณมากเลยใช่ไหม" เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ไรอันก็โพร่งถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของว่ารักกับบุญทวีทันที"ก็พอสมควรค่ะ""เรื่องที่ผมต้องมาง้อคุณที่นี่มันเกิดจากอะไรกันแน่ครับ" น้ำเสียงของไรอันเริ่มเปลี่ยนไปจนว่ารักเองก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนักที่ดูเหมือนว่าเขากำลังจับผิดเธออยู่ตลอดเวลา"ก็เกิดจากเรื่องทั่วไปนั่นแหละค่ะไม่มีอะไร...แล้วฉันก็ไม่ได้โกรธคุณแล้วด้วย" "ผมกำลังคิดว่าอาจจะเป็นเพราะคุณหาเรื่องผมแล้วกลับมาหาคนที่คุณรักก็ได้""มโนอะไรของคุณคะ" ใบหน้าหวานเริ่มคิ้วผูกโบว์"สายตาคุณมันฟ้องเวลาที่คุณมองเค้า..ต่างจากที่มองผม" ร่างสูงยื่นมือทั้งสองจับบ่าของหญิงสาวให้มองตาเขาก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ปนน้อยใจออกมา"ไร้สาระกันใหญ่แล้วค่ะ...ถ้าฉันรักเค้าฉันจะบอกคุณทำไมคะว่าฉันเป็นภรรยาคุณฉันจะบอกกับคุณก็ได้ว่าเราเลิกกันแล้วในตอนคุณฟื้น..คุณลองคิดสิคะ" "...ผมคงคิดไปเองขอโทษแล้วกัน..." พอได้ยินคำยืนยันจากปากของหญิงสาวให้มั่นใจแบบนี้เขาจึงลดความระแวงได้ครึ่งหนึ่งก่อนจะขอโทษร่างบางที่เขาทำให้เธอต้องมาอารมณ์เสียเพราะเขา อาทิตย์ต่อมาหลังจากที่ไรอันได้กลับมาพักที่บ้านหลายวันร่างกาย
"ผมว่าผมดูออกว่าพ่อเลี้ยงนั่นชอบคุณ" ไรอันเก็บอาการไว้ตั้งแต่ที่วัดเมื่อมาถึงบ้านยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้หย่อนก้นนั่งพักเขาก็เอ่ยถึงเรื่องบุญทวีทันที"คุณไรอันฉันคิดว่าเราคุยกันจบตั้งแต่ที่วัดแล้วนะคะ...ทำอย่างกับคุณหึงฉันอย่างนั้นแหละทั้งที่เรา.. " ว่านรักเกือบเผลอหลุดปากทำให้ไรอันถึงกับขมวดคิ้วมองหญิงสาวอย่างสงสัยมากกว่าเดิม"เราทำไมเหรอ...เราเป็นสามีภรรยากันผมหวงคุณก็ไม่เห็นแปลกนี่ครับเพราะของอะไรที่เป็นของผมผมก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเท่าไร""เราจะแต่งงานกันอยู่แล้วอย่าหาเรื่องทะเลาะกันเลยนะคะ" ว่านรักดึงชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเธอก่อนจะพูดถึงเรื่องแต่งงานพร้อมจ้องตาเขาไปด้วยหวังว่าวิธีนี้จะทำให้ไรอันไม่ถามอะไรเธออีก Rrrrr "ว่าไงเม...อะไรนะโอเคเดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้" มือน้อยยกมือถือที่กำลังดังขึ้นมารับสายเมื่อรู้ถึงธุระของปลายสายเธอจึงหมายจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปที่ไร่ทันทีนับว่าเมษาช่างโทรมาหาเธอได้ถูกเวลาจริงๆ"คุณจะไปไหน..""วัวหลุดจากคอกค่ะตอนนี้หากันไม่เจอฉันต้องไปช่วยหา..""ผมไปด้วย" ไรอันรีบลุกหมายจะไปกับว่านรัก"ไม่ต้องหรอกฉันจะรีบไปรีบกลับ" "ก็ได้" แต่เขาก็ต้องหย่อนก้น
"อืม...เจ็บ" ว่านรักตอนนี้เธอน่าจะมีบาดแผลอยู่ตามเนื้อตัวและที่เดินๆก็คือมีแผลแตกที่ไรผมด้านหน้าเธอระบมไปทั้งตัวจึงทำได้แค่ขยับลืมตาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงคนเรียก"ผมจะพาคุณกลับบ้านเอง" ไรอันรีบไต่ลงมาหาหญิงสาวอย่างรวดเร็วเดขายังไม่ยอมขยับร่างของเธอเพราะมีความคิดบางอย่างที่เหมือนเคยอยู่ในสมองสั่งให้เขารู้ว่าหากคนเจ็บด้วยอุบัติเหตุแบบนี้อย่าขยับร่างจนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือเพราะหากกระดูกสันหลังผู้ป่วยบาดเจ็บอยู่แล้วอาจจะทำให้เป็นอัมพาตได้เขาจึงทำได้แค่ฉีกเสื้อของเขาพันหัวว่านรักเพื่อห้ามเธอเอาไว้และจับมือหญิงสาวเอาไว้หลวมๆก่อนจะส่งเสียงเรียกคนด้านบนเป็นระยะให้รู้ว่าตำแหน่งของพวกเขาอยู่ตรงไหนทั้งสองอยู่แบบนี้ร่วมสองสามชั่วโมงกว่าพวกเจ้าหน้าที่ก็ทำการช่วยเหลือทั้งสองได้สำเร็จ โรงพยาบาลตอนนี้ว่ารักมานอนพักที่ห้องพักผู้ป่วยในแล้วหลังจากตรวจร่างกายเสร็จส่วนไรอันตอนนี้หมอกำลังตรวจอยู่อีกไม่นานก็น่าจะเรียบร้อย"เป็นยังไงบ้างดีนะที่ไรอันช่วยแกไว้ได้เร็ว" "ช่วยเหรอ" ว่านรักไม่รู้เลยว่าตอนนั้นใครอยู่กับเธอเมื่อรู้ว่าเป็นไรอันก็แอบตกใจอยู่มากไม่คิดว่าเขาจะยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเธอขนาดนี้
"คุณอยู่ในนี้ฉันจะอาบน้ำยังไงฉันเป็นผู้หญิงนะคะ" "คุณพูดอย่างกับอายสามีตัวเองอย่างนั้น" "งั้นคุณก็ห้ามหันมานะคะ" "โอเค" ด้วยความรั้นของไรอันทำให้ว่านรักต้องจำใจให้เขายืนอยู่ในห้องน้ำกับเธอด้วยแม้นจะต้องอาบไประแวงไปก็เถอะครู่ต่อมา"ไรอัน..ปล่อยฉันเดินเองได้ค่ะ" ไรอันอุ้มว่านรักที่พันตัวด้วยผ้าขนหนูสีข่าวผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำ"ผมจะอุ้มคุณไปโน่นมานี่จนกว่าคุณจะหายดี" ไรอันไม่สะทกสะท้านต่อคำปฏิเสธของว่านรักแม้แต่น้อย"แขนคุณนั่นแหละค่ะจะหนักกว่าเดิมพี่หมอบอกแล้วนี่ค่ะว่าห้ามยกอะไรหนักๆ""สำหรับคุณผมถือว่าไม่ใช่ของหนัก" คนตัวโตไม่ยอมทำตามที่หญิงสาวบอกทั้งยังตอบกลับด้วยสีหน้าทะเล้น"เถียงเก่งจังเลยนะคะ" ฟอดดดด คนตัวโตวางร่างบางลงที่หน้าตู้เสื้อผ้าก่อนจะกดหอมแก้มนวลเธอไปฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยว"นี่คุณ.." ว่านรักตัวชาวาบไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกระทำแบบนี้โดยที่เธอไม่ได้ตั้งตัว"เวลาคุณอาบน้ำใหม่ๆหอมดีเหมือนกันนะ...""ห้ามทำแบบนี้อีกนะคะ" ดวงตากลมโตมองค้อนชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ"อีกแล้วนะคุณทำเหมือนผมไม่ใช่สามีคุณอีกแล้ว" ไรอันก้มลงมาจ้องหน้าของว่านรักก่อนจะมองจ้องดวงตาของเธอด้วยสายตาละ
วันต่อมา"วันนี้คุณไม่ไปไร่กับฉันเหรอ" ว่านรักเอ่ยถามไรอันเมื่อเห็นว่าเขายังไม่แต่งตัวเตรียมจะออกไปไร่ในขณะที่เธอจัดการเรียบร้อยแล้ว"ไม่หรอกครับ...วันนี้ท่าจะร้อน" ไรอันยังไม่ยอมบอกกับว่านรักว่าวันนี้เขาจะไปทำอะไร"อ่อ..งั้นฉันไปนะคะ""ครับ"ว่านรักเดินออกจากบ้านไปด้วยสีหน้าสงสัยที่วันนี้ไรอันมาแปลกเพราะทุกวันอยากจะตามเธอไปไร่ให้ได้แต่วันนี้กลับกลัวร้อนทั้งที่วันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนแต่เช้าช่วงบ่ายของวันสนามมวย"ผัวหนูว่านนี่จะไหวเหรอพ่อดูทรงไม่น่าจะต่อยมวยเป็น" เมื่อย่างเข้ายกที่สองของการแข่งต่อยมวยของไรอันปราโมทย์และมนัสต่างก็ยืนกุมขมับเพราะดูท่าไรอันจะเสียเปรียบอยู่มากเสียงเชียร์ตอนนี้ก็เป็นของอีกฝ่ายพวกเขายิ่งไม่มีกำลังใจเข้าไปใหญ่"ข้าก็ลืมลองดูเชิงซะอีก..เฮ้อ.." ปราโมทย์เห็นว่าไรอันมั่นอกมั่นใจเขาก็คิดว่าหลานเขยคนนี้พอจะเป็นมวยอยู่บ้างแต่ไม่เลย พลั้กก... ตุ้บบบบ.. ตั้บบบ"ต่อยบ้างสิวะ" "มาต่อยมวยนะโว้ยไม่ได้ยืนเป็นกระสอบทราย5555" เสียงของคนที่ตะโกนหัวเราะใส่ไรอันทำให้ปราโมทย์และมนัสไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนักแถมตอนนี้ไรอันยังดูจะมึนหมัดอีกฝ่ายเข้าไปอีก“..อืม..” ไรอันสลัดภาพซ้อน
"ตกลงพวกเอ็งจะมาช่วยงานหรือจะมาซักประวัติเค้ากันแน่" ปราโมทย์รู้ดีว่าว่านรักไม่ไช่จะโกรธใครง่ายๆจึงรีบเอ่ยปากตำหนิแน่งน้อย"แค่ถามเฉยๆน่ะฉันไปล่ะ" พอเหมือนจะถูกรุมแน่งน้อยจึงรีบเดินออกไปนั่งกับกลุ่มที่ทำกับข้าวทันทีเพราะดูท่าทางนี้จะไม่มีอะไรให้เธอได้สนุกปากแล้ว"อย่าไปใส่ใจเลยว่าน" ปราโมทย์ยกมือจับบ่าว่านรักในขณะที่หลานสาวตนยืนกำมือแน่นด้วยความโกรธ“....” ว่านรักเดินออกไปหลังบ้านเพื่อไปสงบสติอารมณ์เพราะไม่อยากจะอารมณ์เสียให้คนที่มาช่วยงานเห็นเท่าไร"นี่ดูว่านจะหงุดหงิดมากเลยนะครับ" ไรอันไม่ได้ใส่ใจคำพูดของแน่งน้อยแม้แต่นิดเดียวแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมว่านรักจึงต้องโกรธขนาดนั้น"แหงล่ะ..ยัยว่านรักศักดิ์ศรียิ่งกว่าอะไรดียิ่งกับคนที่ตัวเองรักนะยิ่งรักยิ่งกว่า" เมษาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยถึงนิสัยลึกๆของว่านรักออกมา"เป็นเรื่องปกตินั่นแหละพ่อหนุ่มที่เมียเราจะโมโหถ้ามีใครมาดูถูกเรา" ปราโมทย์เห็นว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติเพราะคนเราก็ต้องไม่พอใจเป็นธรรมดาที่มีคนมาดูถูกคนรักของตัวเอง"ครับ" "หืม..." เมษาเดินออกมาหลังบ้านตั้งใจจะไปหาว่านรักแต่เธอกลับนึกถึงคำพูดของเธอเมื่อครู่ที่ว่าว่านรักรักศักดิ
"ยากล่อมประสาทนิดหน่อย...เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการจัดการกับเธอไง..หึ่..พี่สาวฉันเองฉันยังจัดการให้พ้นทางเลยนับประสาอะไรกับคนอื่นอย่างเธอ" ยาที่มินแฮนาใส่ให้เมษาเป็นเพียงยาที่ทำให้เป็นอมพาตทั้งตัวชั่วคราวแต่คนที่ทานเข้าไปจะได้ยินทุกอย่างที่เธอพูดแต่ต่อต้านอะไรเธอไม่ได้"เธอนี่มัน..อือ.." เมษานอนแน่นิ่งน้ำตาไหล"ยานี่ไม่ทำให้เธอหลับหรอกนะแค่มึนๆเธอจะได้เห็นเวลาที่เลือดเธอไหลนองบนพื้นยังไงล่ะ" มินแฮนานั่งลงตรงหน้าของเมษาก่อนจะชูมีดพกขึ้นมาและพูดด้วยท่าทีที่ไม่สะทกสะท้านว่าการทำร้ายหรือฆ่าคนมันผิด"อือ..." เมษากลัวจนน้ำตาไหลพรากพยายามจะขยับตัวเท่าไรเธอก็ขยับไม่ได้แกร๊กกและแล้วทั้งสองหนุ่มก็เข้ามาช่วยเมษาได้ทันเพราะเขาถามพนักงานที่นี่แล้วว่ามินแฮนาพาใครมาที่นี่หรือเปล่าและเขาก็ได้รู้ว่ามินแฮนาพาเมษามาที่นี่จริงๆจึงรีบขอคีย์การ์ดสำรองขึ้นมาที่ห้องของมินแฮนา"ทำอะไรของคุณ" เจคอปเข้ามาเห็นมินแฮนาถทอมีดอยู่จึงผลักเธอออกไปอย่างรวดเร็วทันที“เมษา...” ไรอันเข้ามาดูเมษาก็รู้ว่าเธอน่าจะถูกมอมยาแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่นอนนิ่งเอาแต่น้ำตาไหลอยู่แบบนี้ไม่อยากจะคิดว่าหากพวกเขาเข้ามาไม่ทันอะไรจะเ
"...." สิ้นเสียงของมินแฮนาเมษาก็ตัวชาวาบพูดอะไรไม่ออกน้ำตารื้นขึ้นมากะทันหัน"คุณคิดว่าเค้าเป็นผู้ชายประเภทไหนก็คิดเอานะคะ" มินแฮนาเห็นท่าทีของเมษาเธอก็ค่อนข้างพอใจเมื่อว่าจบก็หันหลังกลับออกไปทันที ในส่วนของเมษาหลังจากที่มินแฮนากลับไปแล้วเธอก็เดินเข้ามาในบ้านร้องให้อย่างคนที่ไร้สติจนว่านรักต้องรีบถามด้วยความตกใจ"เม..เม...เป็นอะไร""ฮึก..ฮือๆๆๆ..ฮื่อๆๆๆๆ...ฉันมันโง่เอง""ใจเย็นๆก่อนนะ" ว่านรักพาเมษามานั่งที่โซฟาปลอบใจอยู่พักใหญ่จนได้คำตอบจากเมษาว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทางด้านเจคอปตอนนี้ก็อยู่รอเมษากลับมาที่บ้านของไรอันเขายังยุ่งกับการคุยโทรศัพท์เรื่องที่บ้านไม่น้อยเพราะต้องการให้คนรื้อห้องของมินโฮรินไปให้เร็วที่สุดไม่ใช่ว่าเขาพึ่งจะอยากรื้อแต่เขาเองก็พึ่งจะมีเวลาอยู่บ้านนานๆก็คราวนี้"ครับรื้อของห้องนั้นให้หมดเลย.." "รื้ออะไรของแก" ไรอันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเพื่อนของเขาคุยโทรศัพท์จบ"พวกห้องเก่าโฮริน...พึ่งจะได้ฤกษ์รื้อนานๆจะอยู่บ้านที""อืม...รื้อก็ดีแล้วล่ะ" ไรอันเห็นด้วยที่เจคอปจะรื้อเพราะหาเมษารู้ว่าของพวกนั้นเป็นของใครเธอก็คงจะไม่โอเคเท่าไรนัก"ไปไหนกันมาเหรอครับ" เจ
เช้าวันต่อมา"คุณตัวร้อนทั้งคืนเลยกินข้าวกินยาก่อนนะครับ" "ค่ะ.." เมื่อคืนเมษาเป็นไข้ตัวร้อนจนเจคอปต้องเช็ดตัวให้ทั้งคืนเมื่อหญิงสาวตื่นมาในช่วงเช้าเจคอปจึงให้เธอรีบทานข้าวทานยาเสียก่อน"ผมขอโทษที่ทำให้คุณป่วย" คนตัวโตโผเข้ากอดร่างบางด้วยความรู้สึกผิดไม่คิดว่าการกระทำของเขาจะทำให้หญิงสาวถึงกับไข้ขึ้น บ่ายของวัน"อือ...อืม.." หลังจากที่เมษาทานข้าวทานยาเรียบร้อยในช่วงเช้าเธอก็นอนพักผ่อนจนตื่นมาในช่วงบ่ายตอนนี้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าเมื่อเช้ามากพอสมควร"ตื่นแล้วเหรอครับ..คุณดูนี่สิ" เจคอปที่นั่งวาดรูปหญิงสาวที่กำลังหลับด้วยดินสอพักใหญ่เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเขาก็วาเสร็จพอดีจึงรีบอวดหญิงสาวให้เธอได้ดูว่าเขาก็มีฝีมือพอตัวเหมือนกัน"หืม..คุณก็มีฝีมือเหมือนกันนะคะ" "ตอนคุณหลับน่ารักที่สุดเลย" "ตอนตื่นไม่น่ารักหรือไง" หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงอ่อน"น่ารักมาก""......" น้ำเสียงทุ้มว่าจบหญิงสาวก็ก้มหน้างุดไม่คิดว่าคนอย่าเขาจะปากหวานเป็นด้วยเหมือนกัน เย็นของวัน"เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น" หลังจากที่เมษากลับมาได้ว่านนรักก็เค้นสอยบสวนเพื่อนเธอเป็นการใหญ่"คือ..." เมษาไม่ได้คิดจะปิดบั
สามวันต่อมา วันนี้เจคอปเข้ามารับเมษาที่บ้านไรอันแต่เช้าเพราะรู้ว่าเธอใกล้ถึงกำหนดที่จะกลับเมืองไทยแล้วเขามีที่ที่หนึ่งที่อยากจะพาหญิงสาวไปดู"ที่นี่เป็นบ้านที่ผมซื้อไว้นานแล้ว" เจคอปพาเมษาออกมาจากบ้านของไรอันไม่ไกลนักแล้วเขาก็เลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังสีขาวที่สร้างโครงสร้างผิดแปลกไปจากบ้านที่นี่อยู่มากเพราะมันเหมือนบ้านคนในเกาหลีหรือญี่ปุ่นมากกว่าบ้านในอเมริกา"ที่นี่มีแต่อุปกรณ์วาดภาพคุณก็ชอบวาดภาพเหมือนกันเหรอ" เมษาเดินเข้ามาในบ้านตรงกลางเป็นห้องโล่งทางซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆส่วนขวามือเป็นห้องใหญ่ที่เป็นกระจกทั้งหมดพอเธอเดินเข้ามาด้านในพบว่าในห้องนี้น่าจะเป็นห้องที่เอาไว้สร้างสรรค์งานศิลปะเพราะที่นี่มีอุปกรณ์วาดภาพและพวกสีค่อนข้างครบครันจึงหันมาถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างแปลกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอเลยว่าเขาชอบวาดภาพเหมือนกัน"ก็เคยลองวาดแต่ก็ไม่ได้เก่งเท่าไรคุณชอบที่นี่หรือเปล่า" เจคอปพอจะวาดเป็นอยู่บ้างเพราะแฟนเก่าของเขาเป็นคนสอนแต่เขาก็ไม่ได้ชอบมันจนวาดเก่งเป็นมืออาชีพแบบเมษาที่เขาพาหญิงสาวมาที่นี่เพราะเขาอยากรู้ว่าเธอชอบที่นี่หรือไม่หากชอบเขาก็อนุญาตให้เธอมาที่นี่ได้ตลอดเวลา
ชั่วโมงต่อมา"ตื่นเต้นจังเลยว่าน" เมื่อมาถึงในงานสองสาวดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษเพราะงานนี้คนค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร"ฉันก็เหมือนกันถึงจะพบเจอคนบ่อยตอนที่ทำงานที่นี่แต่ก็ไม่เคยเจอเยอะขนาดนี้นับว่างานนี้ใหญ่จริงๆเลยนะเป็นเกียรติที่ผลงานแกจะได้มาประมูลที่นี่" ว่านรักจับมือเมษาไว้แน่นเมื่อก่อนเธอเองก็ทำงานกับคนเยอะแยะมากมายแต่งานนี้เธออดประหม่าไม่ได้จริงๆ"รู้สึกภูมิใจจัง..อยากจะรู้ว่ารูปของฉันจะได้ราคาประมูลเท่าไร" เมษาไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะมาอยู่จุดนี้จะมาเป็นศิลปินที่ผู้คนต่างให้ความสนใจผลงานของเธอ"นั่นสิ" ว่านรักยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะเธอก็ภูมิใจไปกับเมษาด้วยเช่นกันครู่ต่อมาตอนนี้เมษาและเจคอปอยูในงานเพียงแค่สองคนเพราะไรอันและว่านรักพาเด็กๆไปเดินเล่นข้างนอกเนื่องจากพอเจอคนมาทักทายมากหน้าหลายตาเข้าเจ้าสองแสบก็เริ่มงอแง"คุณ..ภาพวาดของฉันจะได้ประมูลตอนไหน" เมษาเริ่มนั่งไม่ติดเมื่อตอนนี้รูปภาพของศิลปินท่านอื่นเริ่มประมูลกันไปบ้างแล้วและแต่ละภาพผู้คนก็สู้ราคากันจนใจขาดเลยทีเดียว"อีกเดี๋ยวก็ได้ขึ้นประมูลแล้ว" เจคอปจับมือเมษาเอาไว้แน่นเพื่อให้เธอลดอาการประหม่าลงเพราะอีกไม่กี่ภาพก็จะเป็นภ
"ไม่ใช่หรอกคนอย่างเจคแยกแยะทุกอย่างชัดเจน..." ไรอันไม่ได้คิดแบบว่านรักสักนิดเพราะเขารู้จักนิสัยเพื่อนของเขาดี"อืม...อย่างนั้นฉันก็ค่อยโล่งใจค่ะ""ทำไมต้องโล่งใจ..มีอะไรหรือเปล่า" ไรอันเหลือบสายตามองคนเป็นภรรยาอย่างคราแครงใจ"เอ่อ..ไม่มีค่ะนอนกันเถอะ" ร่างบางปฏิเสธที่จะตอบก่อนจะล้มตัวนอนลงใต้ผ้าห่มผืนหนา"ถ้าคุณไม่ตอบคืนนี้ไม่ให้พักแน่" ไรอันรวบกอดภรรยารักไว้แน่น"ไรอัน...ทำไมเป็นคนแบบนี้คะ""ตอบมาเดี๋ยวนี้เลย""ฉันก็แค่..คิดว่าเพื่อนฉันคงชอบคุณเจคค่ะ" ด้วยความที่อยากพักผ่อนจึงตอบสามีเธอไปแต่โดยดี"อืม...งั้นเหรอ..ผมก็คิดเหมือนคุณเลยแต่เป็นเจคที่เหมือนจะชอบเมษานะ" ไรอันคลายกอดว่านรักเล็กน้อยยอมรับว่าเขาก็คิดเรื่องสองคนนี้เหมือนกัน"จริงเหรอคะ" ว่านรักยิ้มอ่อนดีใจที่ดูเหมือนเมษาและเจคอปจะใจตรงกัน"อืม... ตอนนี้แค่คิดแต่ต้องดูกันต่อไปว่าจะจริงอย่างที่คิดหรือเปล่า" ไรอันยังไม่รับปากว่าความคิดของเขาถูกแค่ต้องรอดูต่อไปเท่านั้น วันต่อมา"อ้าวคุณมาทำอะไรเหรอ" เมษานั่งเล่นอยู่หน้าบ้านเห็นเจคอปขับรถเข้ามาจึงแปลกใจว่าเขามาทำอะไรที่นี่ทั้งที่วันนี้ก็บอกเองว่าให้เธอพัก"อ๋อ...มาหาเด็กๆน่ะ" คนตั
ทางด้านเมษาวันนี้ก็ไม่ได้อยู่ดูแลหลานดีเพราะเจคอปดันลากเธอมาที่ยบ้านของเขาเพื่อที่จะคุยเรื่องการเตรียมตัวไปวันงานที่กำลังจะถึงในอีกไม่ถึงอาทิตย์เมษามาถึงบ้านเจคอปได้ชายหนุ่มก็พาเธอเข้ามาในห้องแต่งตัวห้องใหญ่ที่หญิงสาวเองก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมีห้องมีแต่ของแต่งตัวผู้หญิงในบ้าน"โหนี่คุณมีชุดผู้หญิงเต็มตู้แบบนี้เลยเหรอ...หรือว่าคุณชอบแบบนี้" เมษาเปิดตู้ลายหินอ่อนตู้ใหญ่ในห้องก็เห็นเสื้อผ้าผู้หญิงเต็มไปหมดจึงเอ่ยหยอกชายหนุ่มหน้าระรื่นและแอบคาใจเล็กน้อยเรื่องที่ทำไมเขาถึงมีของผู้หญิงในบ้านเยอะขนาดนี้"หยุดเพ้อเจ้อเลย..ชุดนี้คุณลองใส่ดูหน่อยสิ" เจคอปไม่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงมีของพวกนี้ได้แต่ยืนเลือกมชุดให้หญิงสาวได้ลองใส่เพราะรู้ว่าเธอขนาดตัวเท่ากับเจ้าของเสื้อผ้าพวกนี้"โป๊ไปหรือเปล่าคุณ" เมษามองชุดผ้าซาตินสีครีมเกาะอกกระโปรงยาวแหวกลึกด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะดูจะเปิดเนื้อหนังเกินไป"ไม่หรอกน่าที่นี่เค้าก็แต่งแบบนี้" มือหนาดันตัวหญิงสาวให้เข้าไปเปลี่ยนชุดห้องลอง"คุณ.." "มีอะไร""ฉันรูดซิปไม่ได้" ไม่นานนักเมษาก็ต้องเอ่ยเรียกเจคอปเพราะตอนนี้เธอรูดซิบหลังไม่ได้"โอเคเดี๋ยวผม
ช่วงเย็นของวัน"นี่คุณอุ้มหลานดีๆล่ะเดี๋ยวจะพากันตกน้ำตกท่าไปซะ" เมษาเห็นเจคอปพาหลานๆวิ่งเล่นที่ริมสระน้ำจึงตะกนบอกให้เขาอุ้มหลานดีๆเพราะฝนพึ่งตกลงมาเมื่อคืนดินยังคงไม่แห้งสนิทดีเดี๋ยวเขาจะลื่นและพาเด็กๆตกน้ำเอาได้"รู้แล้วน่า" เจคอปตะโกนตอบกลับเมษาก่อนจะอุ้มเจ้าก้อนทั้งสองวิ่งเล่นให้ห่างจากขอบสระพอสมควร"สองคนนั้นดูสนิทกันมากเลยนะคะ" ว่านรักและไรอันที่ยืนดูเจคอปละเมษากับลูกๆของเขาอยู่ไม่ห่างต่างก็มีความคิดที่เหมือนกันว่าดูช่วงนี้เมษาและเจคอปสนิทสนมกันเร็วมากเป็นพิเศษ"นั่นสิผมก็ไม่เคยเห็นเจคสนิทกับใครแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่..." ไรอันอมยิ้มอ่อนเขารู้ว่าเจคอปไม่ใช่คนที่จะสนิทกับผู้หญิงที่ไหนง่ายๆหากไม่ใช่ว่าอยากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนั้นจริงๆ Rrrrr ชายหนุ่มยังพูดไม่จบประโยคจู่ๆก็มีสายจากเจมส์เข้ามาจึงรีบกดรับ"มีอะไรเหรอเจมส์...อะไรนะ" ไรอันถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอเมื่อเรื่องที่ได้รับรู้จากเจมส์เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก"มีอะไรคะ" มือเรียวยื่นแตะบ่าสวามีของเธอเบาๆก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นสีหน้าของไรอันเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัดหลังวางสาย"คุณย่าน่ะสิท่านล้มในห้องน้ำตอนนี้โค
ทางด้านไรอันเขากลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำอายท่ากะว่าจะเล่นกับลูกๆแต่ก็ต้องแอบผิดหวังนิดหน่อยที่เด็กๆหลับไปหมดแล้ว“เด็กๆหลับแล้วเหรอ”“ค่ะ..คุณเจคเป็นยังไงบ้างคะ” ว่านรักอยู่ในชุดนอนสีขาวหันมาตอยคนเป็นสามีเสียงเบาขณะที่กำลังวางผ้าห่มเจ้าแฝดในเปลเพราะนอนดิ้นจนผ้าห่มไม่อยู่กับตัว“หมอฉีดยาแก้แพ้กับให้น้ำเกลือดีขึ้นบ้างแล้วเห็นว่าถ้าพรุ่งนี้ไม่มีอาการแทรกซ้อนก็น่าจะกลับบ้านได้” “มาวันแรกก็เกิดเรื่องเลยนะคะแล้วอย่างนี้จะอยากยู่ต่อไหมคะเนี่ย” หญิงสาวหน้าเสียเล็กน้อยเธออยากจะให้ทุกคนที่มาที่นี่แล้วประทับใจแต่เจคอปกลับป่วยเสียตั้งแต่วันแรกที่มา“คนอย่างเจคอปไม่ใช่คนท้อต่อความลำบากหรอก” “งั้นก็ดีแล้วค่ะ...ฉันว่าต้องเตรียมหามุ้งหายากันยุงดีๆให้คุณเจคแล้วล่ะ...ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนยุงชุมด้วย”“อืม...”“หิวหรือเปล่าคะฉันทำต้มจืดวุ้นเส้นไว้ให้คุณด้วย...” ว่านรักเอ่ยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มเพราะอาหารเย็นเธอทานพร้อมลูกๆแล้วตอนนี้ก็ได้เวลาพักผ่อน“ไม่หิวข้าว...แต่หิวคุณมากกว่า” ไรอันเข้ามาสวมกอดภรรยารักเอาไว้แน่นเอ่ยกระซิบข้างหูของเธอเบาๆก่อนจะกดจมูกโด่งหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ฟอดดด.. “..อืมม..” ชายหนุ่