อเมริกา
โรงพยาบาลXXX
"คุณท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ" ลูคัสมาถึงโรงพยาบาลได้ก็รีบเข้ามาดูอาการเอมม่าทันที
"ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกไรอันล่ะอยู่ไหน" หญิงชราไม่วายมองหาหลานชายคนโตของเธอซึ่งไม่ค่อยจะเห็นหน้าค่าตากันเท่าไรนัก
"เอ่อ...คุณไรอันดูที่ดินอยู่ญี่ปุ่นน่ะครับ" ลูคัสจำต้องเอ่ยคำโกหกออกไปเพราะคนเป็นนายสั่งว่าไม่ให้ย่าของตนรู้เป็นเด็ดขาดว่าเขาอยู่ที่ไหนทำอะไรเมื่อเสร็จภารกิจแล้วจะรีบกลับมา
"แล้วเมื่อไรจะกลับงั้นเหรอ"
"ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ"
"งั้นก็ไปบอกหมอเจมส์ให้ฉันทีว่าฉันขอไปพักรักษาตัวที่บ้าน"
"คงไม่ได้หรอกครับคุณย่าผมยังปล่อยให้คุณย่ากลับไปไม่ได้หรอกครับนอนดูอาการที่นี่อีกสักสามวันเป็นอย่างต่ำนะครับ" หมอเจมส์ที่เปิดแประตูเข้ามาทันได้ยินเอมม่าเอ่ยกับเจคอปเขาจึงรีบเอ่ยปฏิเสธทันทีเพราะถ้าหากเขาปล่อยให้ย่าของเพื่อนกลับไปพักที่บ้านทั้งที่อาการยังไม่ดีมีหวังไรอันรู้เขาได้โดนกินหัวแน่
หมอเจมส์เป็นหมอหนุ่มรุ่นเดียวกับไรอันเป็นทายาทหมื่นล้านเจ้าขอโรงพยาบาลหลายแห่งในยุโรปเพื่อนกับไรอันตั้งแต่เด็กๆเรียนมาด้วยกันตลอดจะไม่ค่อยได้เจอกันในช่วงที่มีการมีงานทำแต่นานๆก็จะนัดสังสรรค์กันทีเวลาที่ว่างตรงกันและตอนนี้ก็พ่วงตำแหน่งหมอประจำตระกูลฮิลล์ไปด้วย
"เราก็รู้ว่าย่าไม่ชอบนอนโรงพยาบาล" เอมม่าบ่นด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายหากเธอไม่เจ็บจนเดินไม่ได้คงไม่มาแน่นอนที่โรงพยาบาล
"แต่รอบนี้ผมขอบังคับ"
"เฮ้อ..ให้ตายสิ" หญิงชราถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันหน้าหนีทุกคนในห้อง
อาทิตย์ต่อมา
"เป็นไงบ้างล่ะพ่อหนุ่ม" วันนี้ว่านรักขับรถไปรับไรอันที่โรงพยาบาลกลับมาที่บ้านของเธอที่นี่มีทั้งปราโมทย์และเมษารออยู่แล้วบ้านของว่านรักเป็นบ้านไม้หลังสีขาวชั้นเดียวสามห้องนอนสองห้องน้ำลานหน้าบ้านมีสวนหย่อมร่มรื่นอยู่ไม่ไกลจากไร่ปาริชาตเท่าไรนักน้อยครั้งที่ว่านรักจะนอนที่นี่เพราะนอนที่บ้านของตาเธอสะดวกกว่าตื่นเช้ามาก็เดินเข้าไร่ได้เลย
"..ค่อยยังชั่วแล้วครับ..." ตอนนี้ไรอันเริ่มคุ้นกับทั้งสามแล้วเพราะเมื่อตอนที่นอนอยู่โรงพยาบาลทั้งปราโมทย์เมษาและว่านรักก็ผลัดกันไปดูแลเขาอยู่บ่อยๆ
"โชคร้ายหน่อยนะมาง้อเมียทั้งทีดันมารถชนต้นไม้เจ็บจนความจำเสื่อม...อ่อ..แล้วเราสองคนแต่งกันเมือไรตาไม่เห็นรู้เรื่องเลย" ปราโมทย์เอ่ยถามว่ารักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนยังไม่รู้เรื่องนี้
"ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันครับถามว่านเธอก็ไม่ยอมบอก" ไรอันส่ายหัวก่อนจะหันหน้ามองว่านรักที่นั่งอยู่ข้างๆ
"ยังไงกันล่ะอีหนู" ปราโมทย์ยืมองหน้าว่านรักด้วยอยากได้คำตอบเร็วๆ
"หนูอยากให้เค้าจำได้เองมากกว่าค่ะ"
"แต่ตาก็อยากรู้อยู่ดีว่าแต่งกันเมื่อไรเราเองก็ไม่เคยส่งข่าวมาบอกตานี่นา.. หรือเห็นตาไม่สำคัญ" เสียงของชายชราเริ่มมีอารมณ์ขุ่นเคืองปนอยู่ด้วย
"เปล่าจ่ะตา..คือหนูไม่ได้แต่ง" ว่านรักหน้าชาไปทั้งหน้าที่ถูกตำหนิจึงต้องเอ่ยความจริงไปเพราะเธอไม่ได้แต่งกับเขาจริงๆเมษาเองก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แทนที่จะช่วยกันหาคำตอบ
"อะไรนะ" ชายชราเสียงแข็งอย่างไม่พอใจเพราะเขาเลี้ยงหลานสาวทั้งสองมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยไม่เคยสอนให้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวแต่ว่านรักกกลับอยู่ก่อนแต่งเสียได้
"แหม..ตาหนุ่มสาวต่างประเทศเค้าก็ใช้ชีวิตแบบนี้กันนั่นแหละ" เมษาเห็นคนเป็นตาเริ่มโมโหจึงช่วยว่านรักแก้ตัวอีกแรง
"เราอย่ามาคิดแบบนี้นะเจ้าเม.."
"อุ้ย" ชายชราผุดลุกเท้าเอวชี้หน้าเมษาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจจนหลานสาวหน้าหงอลงทันทีเขาไม่คิดว่าหลานสาวทั้งสองจะมีความคิดแบบนี้เพราะเขาเองเคร่งในประเพณีที่ดีงามที่สุด
"ในเมื่อตอนนี้เราอยู่ที่นี่ก็ต้องทำตามประเพณีหากยังไม่แต่งเดี๋ยวตาจะจัดงานแต่งให้เอง"
"เอ่อ...ไม่ต้องจ่ะตาคือไม่แต่งก็ไม่เป็นอะไรหรอกจ่ะ"
"ได้ยังไงว่าน...เราคนรู้จักเยอะแยะถ้าเค้ารู้ว่าเราสองคนอยู่กันโดยไม่แต่งคนอื่นเค้าจะหาว่าตาไม่เคยสั่งเคยสอนให้รักนวลสงวนตัวน่ะสิ"
"ก็อยู่กันไปแล้วแต่งไม่แต่งไม่มีใครรู้หรอกถ้าคนในบ้านไม่พูดอะตา" เมษาเอ่ยเสริมด้วยยังไม่เข็ดที่ถูกดุเมื่อครู่
"เงียบ" คำเดียวของปราโมทย์ทำให้ทุกคนมีสีหน้าสลดกันหมดโดยเฉพาะไรอันเขาไม่รู้ตัวจริงๆว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงไม่แต่งกับเธอทั้งๆที่เขาก็ควรจะให้เกียรติคนเป็นภรรยา
"ผัวเราหายดีเมื่อไรเดี๋ยวตาจะจัดงานให้..เราล่ะติดปัญหาอะไรหรือเปล่าพ่อหนุ่มการแต่งงานครั้งนี้ถือเป็นการให้เกียรติหนูว่านเราจะยอมไหม"
"ครับ..การให้เกียรติคนที่เรารักเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้วครับ" ไรอันพยักหน้าเบาๆ
"ทำไมรู้ข้อนี้ล่ะ" เมษารีบโพล่งถามไรอันทันทีที่เห็นเขาตอบออกมาแบบนี้
"ไม่รู้สิครับคำนี้เหมือนอยู่ในหัว"
"อ่อ..แล้วไป" เมษายกมือทาบอกคราแรกคิดว่าชายหนุ่มจะจำอะไรได้เสียอีก
คนตัวโตนั่งพิงหัวที่หัวเตียงในห้องนอนสายตาของเขากำลังจับจ้องไปที่หญิงสาวที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดแจงอุปกรณ์การเช็ดตัวให้กับเขา
"เอ่อ.. คุณไม่จัดการให้ผมเหรอ" เมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่อยู่ในชุดนอนกำลังจะเดินออกจากห้องไปเขาจึงร้องทักเธอเอาไว้ก่อน
"คุณก็จัดการเองสิคะ.. ฉันไม่เคยเช็ดตัวให้ผู้ชาย" "แต่ผมเป็นสามีคุณไม่ใช่เหรอ" คำพูดของหญิงสาวทำเอาไรอันสับสนกับการกระทำของเธออยู่ไม่น้อย"คือ.. ก.. ก็ได้" ว่านรักลืมข้อนี้ไปเสียสนิทก่อนจะรีบกลับมานั่งตรงหน้าชายหนุ่มและค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของเขาออกด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างลำบากใจ"คุณเป็นอะไรทำยังกับไม่เคยเห็นร่างกายของผม" ดวงตาสีน้ำข้าวของไรอันจ้องมองหญิงสาวอย่างมีคำถามมากมายเพราะดูเหมือนเธอไม่ค่อยอยากจะดูแลเขาเท่าไรทั้งสายตาของเธอเวลามองเขามันก็ว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูกหนำซ้ำตอนนี้ยังทำท่าเหมือนจะรังเกียจที่ตจะมองร่างกายของเขาอีก"อ๋อ.. เปล่าฉันกลัวคุณเขินไง...คุณความจำเสื่อมคุณคงไม่ค่อยคุ้นชินกับฉัน.." ว่านรักแสยะยิ้มก่อนจะเอ่ยชักแม้น้ำทั้งห้าไปเรื่อยทั้งยังไม่รู้ตัวอีกว่าตอนนี้เธอกำลังแก้มแดงเพราะหน้าท้องแกร่งที่ขึ้นซิกแพคของไรอันอยู่"แต่ผมว่าคุณมากกว่าที่น่าจะเขิน..หน้าแดงซะขนาดนั้น" ไรอันเอ่ยออกไปตามตรงไม่ได้คิดจะหยอกหญิงสาวแต่อย่างใด"เปล่านะคะ...ฉันแค่ร้อนๆ" ว่าจบก็ก้มหน้างุดหยิบผ้าจุ่มน้ำเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ชายหนุ่มอย่างเร่งรีบ"คุณนี่ก็น่ารักดีนะ...ผมว่าตอนที่ผมตกหลุ
"โอ้ย" คนที่ชอบหยอกเพื่อนรีบเอาหลังมือถูหัวเมื่อถูกว่านรักเคาะด้วยกำปั้น"ทำหน้าตาตื่นเต้นเพราะแกนั่นแหละทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้""ให้บอกความจริงตาไปเลยไหมล่ะอีตานั่นจะได้ถูกคนที่นี่รุมยำตาย" เมษาพูดอย่างลอยหน้าลอยตา"ไม่ๆๆ.. " ว่านรักรีบส่ายหัวทันทีเพราะเธอก็ไม่ใช่คนใจร้ายที่จะเห็นใครถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาได้"ฉันก็พึ่งเห็นคนอะไรสงสารคนที่จะฆ่าตัวเอง" เมษาบุ้ยปาก"ก็ตอนนี้อีตานั่นไม่รู้เรื่องรู้ราวนี่นาถ้าฉันปล่อยให้เค้าถูกทำร้ายก็แย่เกินคนแล้ว" "ฉันอยากจะรู้จริงจริ๊งว่าจะมีคนดีอย่างแกสักกี่คนเนี่ย""เที่ยงแล้วไปหาข้าวกินกันเถอะ..อ่อ..ฉันลืมหยิบปิ่นโตมากินกับแกก็แล้วกัน" ว่านรักเห็นว่านี่ก็น่าจะเที่ยงแล้วเพราะพระอาทิตย์ลงหัวอีกอย่างเหล่าคนที่ทำไร่อยู่ใกล้กันก็นั่งจับกลุ่มล้อมวงกินข้าวกันหมดแล้วจึงรีบชวนเมษาไปเข้าร่มไม้ตั้งวงกินข้าวกัน"ได้สิเมื่อเช้าตาก็ตักข้าวใส่ปิ่นโตมาเผื่อแกอยู่แล้ววันนี้มีแกงส้มผักรวมกับปลาเค็มของโปรดแกด้วย""งั้นรีบเลย" ได้ยินเช่นนี้ว่ารักจึงรีบสับขาเข้าไปในร่มทันทีเพราะวันนี้มีของโปรดของเธอไรอันเดินเข้ามาในไร่พร้อมกับปิ่นโตในมือเพราะเขาเข้าใจว่าว่านรักน่าจะ
"ฉันคิดว่าเราควรจะสร้างตัวกันอีกสักนิดค่ะ" ว่านรักเอ่ยปัดให้จบๆไปก่อนจะปิดไฟนอนแม้นภายนอกเธอจะไม่มีอาการอะไรแต่หัวใจเธอเต้นไม่ค่อยจะเป็นส่ำเพราะไม่รู้เลยว่าวันหน้าเธอจะเจอคำถามหรือเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ลำบากใจอีก"อ๋อ...ผมเข้าใจแล้ว" ไรอันเอ่ยเสียงอ่อนแม้นหญิงสาวจะตอบเขามาแบบนั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าในใจของเขายังคงมีความสงสัยอยู่ก็หาคำตอบกับตัวเองไม่ได้อีกเหมือนกันเช้าวันต่อมา"...." ไรอันตื่นมาในช่วงเช้าตรู่เขาเห็นนอนมองหญิงสาวอยู่พักใหญ่โดยที่ยังไม่ปลุกเธอริมฝีปากหนาอมยิ้มอ่อนเมื่อมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังหลับตาพริ้มนี้เขาอยากจำได้เหลือเกินว่าตอนนั้นเขาตกหลุมรักเธอเพราะความน่ารักนี้หรือไม่แต่ตอนนี้เขาคิดว่าคงจะใช่และภาวนาในใจของให้เขาจำเรื่องราวก่อนหน้าได้เร็วๆจะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยอะไรให้มันอึดอัดหัวใจ ช่วงสาย"ผมไปไร่กับคุณด้วยได้หรือเปล่า" ไรอันเดินตามว่านรักออกมาจากบ้านก่อนจะขอเธอไปที่ไร่ด้วย"จะไปตากแดดตากลมทำไมคะอยู่ที่บ้านดีแล้วค่ะ..." "ผมไปอยู่ที่บ้านตาก็ได้" "ก็ได้" คนที่ขี้เกียจจะเถียงกับชายหนุ่มตอนนี้ยอมให้เขาตามเธอไปแต่โดยดีเพราะรู้ว่าถ้าเธอห้ามตอนนี้ไม่เที่ยงก็เย็นเธอ
"พ่อเลี้ยงนั่นสนิทกับคุณมากเลยใช่ไหม" เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ไรอันก็โพร่งถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของว่ารักกับบุญทวีทันที"ก็พอสมควรค่ะ""เรื่องที่ผมต้องมาง้อคุณที่นี่มันเกิดจากอะไรกันแน่ครับ" น้ำเสียงของไรอันเริ่มเปลี่ยนไปจนว่ารักเองก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนักที่ดูเหมือนว่าเขากำลังจับผิดเธออยู่ตลอดเวลา"ก็เกิดจากเรื่องทั่วไปนั่นแหละค่ะไม่มีอะไร...แล้วฉันก็ไม่ได้โกรธคุณแล้วด้วย" "ผมกำลังคิดว่าอาจจะเป็นเพราะคุณหาเรื่องผมแล้วกลับมาหาคนที่คุณรักก็ได้""มโนอะไรของคุณคะ" ใบหน้าหวานเริ่มคิ้วผูกโบว์"สายตาคุณมันฟ้องเวลาที่คุณมองเค้า..ต่างจากที่มองผม" ร่างสูงยื่นมือทั้งสองจับบ่าของหญิงสาวให้มองตาเขาก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ปนน้อยใจออกมา"ไร้สาระกันใหญ่แล้วค่ะ...ถ้าฉันรักเค้าฉันจะบอกคุณทำไมคะว่าฉันเป็นภรรยาคุณฉันจะบอกกับคุณก็ได้ว่าเราเลิกกันแล้วในตอนคุณฟื้น..คุณลองคิดสิคะ" "...ผมคงคิดไปเองขอโทษแล้วกัน..." พอได้ยินคำยืนยันจากปากของหญิงสาวให้มั่นใจแบบนี้เขาจึงลดความระแวงได้ครึ่งหนึ่งก่อนจะขอโทษร่างบางที่เขาทำให้เธอต้องมาอารมณ์เสียเพราะเขา อาทิตย์ต่อมาหลังจากที่ไรอันได้กลับมาพักที่บ้านหลายวันร่างกาย
"ผมว่าผมดูออกว่าพ่อเลี้ยงนั่นชอบคุณ" ไรอันเก็บอาการไว้ตั้งแต่ที่วัดเมื่อมาถึงบ้านยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้หย่อนก้นนั่งพักเขาก็เอ่ยถึงเรื่องบุญทวีทันที"คุณไรอันฉันคิดว่าเราคุยกันจบตั้งแต่ที่วัดแล้วนะคะ...ทำอย่างกับคุณหึงฉันอย่างนั้นแหละทั้งที่เรา.. " ว่านรักเกือบเผลอหลุดปากทำให้ไรอันถึงกับขมวดคิ้วมองหญิงสาวอย่างสงสัยมากกว่าเดิม"เราทำไมเหรอ...เราเป็นสามีภรรยากันผมหวงคุณก็ไม่เห็นแปลกนี่ครับเพราะของอะไรที่เป็นของผมผมก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเท่าไร""เราจะแต่งงานกันอยู่แล้วอย่าหาเรื่องทะเลาะกันเลยนะคะ" ว่านรักดึงชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเธอก่อนจะพูดถึงเรื่องแต่งงานพร้อมจ้องตาเขาไปด้วยหวังว่าวิธีนี้จะทำให้ไรอันไม่ถามอะไรเธออีก Rrrrr "ว่าไงเม...อะไรนะโอเคเดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้" มือน้อยยกมือถือที่กำลังดังขึ้นมารับสายเมื่อรู้ถึงธุระของปลายสายเธอจึงหมายจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปที่ไร่ทันทีนับว่าเมษาช่างโทรมาหาเธอได้ถูกเวลาจริงๆ"คุณจะไปไหน..""วัวหลุดจากคอกค่ะตอนนี้หากันไม่เจอฉันต้องไปช่วยหา..""ผมไปด้วย" ไรอันรีบลุกหมายจะไปกับว่านรัก"ไม่ต้องหรอกฉันจะรีบไปรีบกลับ" "ก็ได้" แต่เขาก็ต้องหย่อนก้น
"อืม...เจ็บ" ว่านรักตอนนี้เธอน่าจะมีบาดแผลอยู่ตามเนื้อตัวและที่เดินๆก็คือมีแผลแตกที่ไรผมด้านหน้าเธอระบมไปทั้งตัวจึงทำได้แค่ขยับลืมตาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงคนเรียก"ผมจะพาคุณกลับบ้านเอง" ไรอันรีบไต่ลงมาหาหญิงสาวอย่างรวดเร็วเดขายังไม่ยอมขยับร่างของเธอเพราะมีความคิดบางอย่างที่เหมือนเคยอยู่ในสมองสั่งให้เขารู้ว่าหากคนเจ็บด้วยอุบัติเหตุแบบนี้อย่าขยับร่างจนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือเพราะหากกระดูกสันหลังผู้ป่วยบาดเจ็บอยู่แล้วอาจจะทำให้เป็นอัมพาตได้เขาจึงทำได้แค่ฉีกเสื้อของเขาพันหัวว่านรักเพื่อห้ามเธอเอาไว้และจับมือหญิงสาวเอาไว้หลวมๆก่อนจะส่งเสียงเรียกคนด้านบนเป็นระยะให้รู้ว่าตำแหน่งของพวกเขาอยู่ตรงไหนทั้งสองอยู่แบบนี้ร่วมสองสามชั่วโมงกว่าพวกเจ้าหน้าที่ก็ทำการช่วยเหลือทั้งสองได้สำเร็จ โรงพยาบาลตอนนี้ว่ารักมานอนพักที่ห้องพักผู้ป่วยในแล้วหลังจากตรวจร่างกายเสร็จส่วนไรอันตอนนี้หมอกำลังตรวจอยู่อีกไม่นานก็น่าจะเรียบร้อย"เป็นยังไงบ้างดีนะที่ไรอันช่วยแกไว้ได้เร็ว" "ช่วยเหรอ" ว่านรักไม่รู้เลยว่าตอนนั้นใครอยู่กับเธอเมื่อรู้ว่าเป็นไรอันก็แอบตกใจอยู่มากไม่คิดว่าเขาจะยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเธอขนาดนี้
"คุณอยู่ในนี้ฉันจะอาบน้ำยังไงฉันเป็นผู้หญิงนะคะ" "คุณพูดอย่างกับอายสามีตัวเองอย่างนั้น" "งั้นคุณก็ห้ามหันมานะคะ" "โอเค" ด้วยความรั้นของไรอันทำให้ว่านรักต้องจำใจให้เขายืนอยู่ในห้องน้ำกับเธอด้วยแม้นจะต้องอาบไประแวงไปก็เถอะครู่ต่อมา"ไรอัน..ปล่อยฉันเดินเองได้ค่ะ" ไรอันอุ้มว่านรักที่พันตัวด้วยผ้าขนหนูสีข่าวผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำ"ผมจะอุ้มคุณไปโน่นมานี่จนกว่าคุณจะหายดี" ไรอันไม่สะทกสะท้านต่อคำปฏิเสธของว่านรักแม้แต่น้อย"แขนคุณนั่นแหละค่ะจะหนักกว่าเดิมพี่หมอบอกแล้วนี่ค่ะว่าห้ามยกอะไรหนักๆ""สำหรับคุณผมถือว่าไม่ใช่ของหนัก" คนตัวโตไม่ยอมทำตามที่หญิงสาวบอกทั้งยังตอบกลับด้วยสีหน้าทะเล้น"เถียงเก่งจังเลยนะคะ" ฟอดดดด คนตัวโตวางร่างบางลงที่หน้าตู้เสื้อผ้าก่อนจะกดหอมแก้มนวลเธอไปฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยว"นี่คุณ.." ว่านรักตัวชาวาบไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกระทำแบบนี้โดยที่เธอไม่ได้ตั้งตัว"เวลาคุณอาบน้ำใหม่ๆหอมดีเหมือนกันนะ...""ห้ามทำแบบนี้อีกนะคะ" ดวงตากลมโตมองค้อนชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ"อีกแล้วนะคุณทำเหมือนผมไม่ใช่สามีคุณอีกแล้ว" ไรอันก้มลงมาจ้องหน้าของว่านรักก่อนจะมองจ้องดวงตาของเธอด้วยสายตาละ
วันต่อมา"วันนี้คุณไม่ไปไร่กับฉันเหรอ" ว่านรักเอ่ยถามไรอันเมื่อเห็นว่าเขายังไม่แต่งตัวเตรียมจะออกไปไร่ในขณะที่เธอจัดการเรียบร้อยแล้ว"ไม่หรอกครับ...วันนี้ท่าจะร้อน" ไรอันยังไม่ยอมบอกกับว่านรักว่าวันนี้เขาจะไปทำอะไร"อ่อ..งั้นฉันไปนะคะ""ครับ"ว่านรักเดินออกจากบ้านไปด้วยสีหน้าสงสัยที่วันนี้ไรอันมาแปลกเพราะทุกวันอยากจะตามเธอไปไร่ให้ได้แต่วันนี้กลับกลัวร้อนทั้งที่วันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนแต่เช้าช่วงบ่ายของวันสนามมวย"ผัวหนูว่านนี่จะไหวเหรอพ่อดูทรงไม่น่าจะต่อยมวยเป็น" เมื่อย่างเข้ายกที่สองของการแข่งต่อยมวยของไรอันปราโมทย์และมนัสต่างก็ยืนกุมขมับเพราะดูท่าไรอันจะเสียเปรียบอยู่มากเสียงเชียร์ตอนนี้ก็เป็นของอีกฝ่ายพวกเขายิ่งไม่มีกำลังใจเข้าไปใหญ่"ข้าก็ลืมลองดูเชิงซะอีก..เฮ้อ.." ปราโมทย์เห็นว่าไรอันมั่นอกมั่นใจเขาก็คิดว่าหลานเขยคนนี้พอจะเป็นมวยอยู่บ้างแต่ไม่เลย พลั้กก... ตุ้บบบบ.. ตั้บบบ"ต่อยบ้างสิวะ" "มาต่อยมวยนะโว้ยไม่ได้ยืนเป็นกระสอบทราย5555" เสียงของคนที่ตะโกนหัวเราะใส่ไรอันทำให้ปราโมทย์และมนัสไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนักแถมตอนนี้ไรอันยังดูจะมึนหมัดอีกฝ่ายเข้าไปอีก“..อืม..” ไรอันสลัดภาพซ้อน