"ไม่ใช่หรอกคนอย่างเจคแยกแยะทุกอย่างชัดเจน..." ไรอันไม่ได้คิดแบบว่านรักสักนิดเพราะเขารู้จักนิสัยเพื่อนของเขาดี
"อืม...อย่างนั้นฉันก็ค่อยโล่งใจค่ะ"
"ทำไมต้องโล่งใจ..มีอะไรหรือเปล่า" ไรอันเหลือบสายตามองคนเป็นภรรยาอย่างคราแครงใจ
"เอ่อ..ไม่มีค่ะนอนกันเถอะ" ร่างบางปฏิเสธที่จะตอบก่อนจะล้มตัวนอนลงใต้ผ้าห่มผืนหนา
"ถ้าคุณไม่ตอบคืนนี้ไม่ให้พักแน่" ไรอันรวบกอดภรรยารักไว้แน่น
"ไรอัน...ทำไมเป็นคนแบบนี้คะ"
"ตอบมาเดี๋ยวนี้เลย"
"ฉันก็แค่..คิดว่าเพื่อนฉันคงชอบคุณเจคค่ะ" ด้วยความที่อยากพักผ่อนจึงตอบสามีเธอไปแต่โดยดี
"อืม...งั้นเหรอ..ผมก็คิดเหมือนคุณเลยแต่เป็นเจคที่เหมือนจะชอบเมษานะ" ไรอันคลายกอดว่านรักเล็กน้อยยอมรับว่าเขาก็คิดเรื่องสองคนนี้เหมือนกัน
"จริงเหรอคะ" ว่านรักยิ้มอ่อนดีใจที่ดูเหมือนเมษาและเจคอปจะใจตรงกัน
"อืม... ตอนนี้แค่คิดแต่ต้องดูกันต่อไปว่าจะจริงอย่างที่คิดหรือเปล่า" ไรอันยังไม่รับปากว่าความคิดของเขาถูกแค่ต้องรอดูต่อไปเท่านั้น
วันต่อมา
"อ้าวคุณมาทำอะไรเหรอ" เมษานั่งเล่นอยู่หน้าบ้านเห็นเจคอปขับรถเข้ามาจึงแปลกใจว่าเขามาทำอะไรที่นี่ทั้งที่วันนี้ก็บอกเองว่าให้เธอพัก
"อ๋อ...มาหาเด็กๆน่ะ" คนตัวโตวางถุงกระดาษที่มีขนมของเด็กๆอยู่ในนั้นบนเก้าอี้ตรงหน้าหญิงสาวก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งข้างๆหญิงสาว
"ไปเยี่ยมคุณย่ากันหมดแล้วล่ะ"
"อ๋อ...เดี๋ยวผมรอก็ได้แล้วนี่คุณดีขึ้นหรือยัง" อันที่จริงแล้วเขารู้ว่าหลานๆไปโรงพยาบาลกับเพื่อนของเขาแต่ที่มารอเด็กๆที่นี่เพราะต้องการเห็นหน้าเมษามากกว่า
"ดีขึ้นมากแล้วเมื้อเช้าว่านก็นวดให้อีกรอบ" วันนี้ข้อเท้าของเมษาดีขึ้นเยอะเพระว่านรักทั้งนวดข้อเท้าให้เธอทั้งให้ทานยาแก้อักเสบไม่ดีขึ้นก็ให้มันรู้ไป
"ดีแล้ว...พรุ่งนี้จะได้ซ้อมเดินกันต่อ" ทั้งสองคุยกันหน้าบ้านครู่หนึ่งเมษาก็ชวนชายหนุ่มเข้ามานั่งรอในห้องนั่งเล่นในบ้านก่อนจะทาหารให้เขาทาน
เย็นของวัน
"เจค...นายมาทำอะไร" ไรอันที่เดินอุ้มลูกของเขาทั้งสองที่กำลังหลับเข้าบ้านมาเห็นเจคอปก็ต้องเอ่ยถามว่าเพื่อนของเขามาทำอะไรที่นี่
"ฉันซื้อขนมมาให้เด็กๆ" มือหนาชี้ไปที่ถุงกระดาษถุงใหญ่สองถุงบนโต๊ะหน้าโซฟา
"นายจะอยู่รอตื่นไหม"
"อืม.. รอสิ.. "
"เดี๋ยวฉันพาเด็กๆไปนอนก่อนเดี๋ยวออกมาหา" ว่าจบชายหนุ่มก็รีบอุ้มลูกๆขึ้นไปนอนบนห้องโดยมีว่านรักเดินตามไปติดๆ
"ดูท่าเพื่อนผมจะไม่ได้มาหาสองแสบนี่อย่างเดียวละมั้ง" ไรอันหันส่งไออุ่นให้กับว่านรักก่อนจะวางแทนใจลงบนเปลและรีบรับไออุ่นลงในเปลข้างๆกัน
"นั่นสิคะ" ว่านรักอมยิ้มอ่อนคิดเหมือนที่สามีของเธอคิดเหมือนกัน
สองวันต่อมา
"คล่องขึ้นมากเลย" หลังจากหายเจ็บวันนี้ก็สองวันเต็มๆแล้วที่เมษาฝึกเดินปรับบุคลิกที่บ้านของเจคอปแล้วตอนนี้เธอก็ทำมันได้ดีมากๆจนเจคอปชมปราะ
"ฉันว่าฉันโอเคกับเจ้ารองเท้าส้นสูงนี้แล้วล่ะ" เมษาเองก็รู้สึกคุ้นชินกับการสวมใส่รองเท้าส้นสูงเดินแล้วเหมือนกันตอนนี้จึงเดินปร๋ออวดชายหนุ่มยกใหญ่
"พรุ่งนี้ผมจะไปรับคุณไปงานเองโอเคหรือเปล่า" เจคอปอยากจะเป็นคนควงหญิงสาวในงานนี้จึงลองใจถามหญิงสาวดูว่าเธอจะตกลงหรือไม่
"ค่ะ" หากพรุ่งนี้เขามารับเธอออกงานด้วยมันก็คงจะเหมือนคู่รักคู่หนึ่งที่ออกงานสังคมด้วยกันตามที่เธอเคยเห็นในสื่อเพราะในหัวคิดแบบนั้นหญิงสาวจึงก้มหน้าอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบตกลง
วันต่อมา
"คุณแม่สวยจัง" เด็กหญิงในชุดสีขาวกระโปรงฟูฟ่องบนอ้อมอกคนเป็นพ่อที่ใส่สูทราคาแพงสีน้ำเงินซาตินเห็นคนเป็นแม่แต่งตัวสวยออกมาก็เอ่ยชมเปราะโดยที่ไม่มีใครสั่ง
"ใช่แล้วคุณแม่สวยที่สุดลูกสาวพ่อก็สวยเหมือนกันครับ" ไรอันหมอก้มย้วยของลูกสาวตนฟอดใหญ่ที่ช่างพูดช่างจาเสียเหลือเกินก่อนจะเปรยสายตามองภรรยาตนสวยของเขาในชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวจูงลูกชายของเขาลงมาจากชั้นบนตาเป็นมัน
"ปากหวานจังเลยเรา..." ว่านรักหลบสายตาสามีของเธอเล็กน้อยพร้อมยื่นหน้ามาหอมแก้มลูกสาวจอมปากหวานของเธอหนึ่งฟอด
"เมษามาแล้วเราไปกันเถอะ" ไรอันเห็นเมษาเดินลงมาจากห้องแล้วจึงให้ทุกคนเตรียมตัวไปที่รถเพราะเกรงว่างานจะเริ่มก่อนที่พวกเขาจะไปถึง
"ดีนะฉันมาทันเวลา”
“มาทำอะไร” ไรอันเอ่ยถามเพื่อนรักที่ใส่สูทสีดำเนี้ยบทั้งที่รู้ว่าเพื่อนของเขามาทำไม
“มารับเมษา” ปากเอ่ยตอบเพื่อนแต่สายตาของเขาเอาแต่มองหญิงสาวในชุดสีครีมไม่วางเขาคิดเอาไว้ไม่ผิดเมื่อเธอแต่งหน้าแต่งตัวครบเธอดูสวยสะดุดตากว่าเดิมมาก
"นี่เมษาสวยขนาดคุณเจคหยุดมองไม่ได้เลยเหรอคะ" ว่านรักโพร่งถามเจคอปด้วยรอยยิ้มอ่อนเมษาเองก็เอาแต่ก้มหน้างุดอายสายตาของเจคอปจนไม่กล้าที่จะสบตาเท่าไร
"ครับสวยมาก...ไปกันเถอะ" ว่าจบก็ดึงมือเมษาออกจากบ้านของไรอันและพาหญิงสาวไปนั่งในรถสปอร์ตคันหรูของเขาทันที
"อาการออกขนาดนี้คงไม่ต้องถามแล้วล่ะ"
“นั่นสิคะ” ไรอันหันมายิ้มกับว่านรักก่อนจะจูงมือกันไปที่รถขับตามเจคอปไปติดๆ
ชั่วโมงต่อมา"ตื่นเต้นจังเลยว่าน" เมื่อมาถึงในงานสองสาวดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษเพราะงานนี้คนค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร"ฉันก็เหมือนกันถึงจะพบเจอคนบ่อยตอนที่ทำงานที่นี่แต่ก็ไม่เคยเจอเยอะขนาดนี้นับว่างานนี้ใหญ่จริงๆเลยนะเป็นเกียรติที่ผลงานแกจะได้มาประมูลที่นี่" ว่านรักจับมือเมษาไว้แน่นเมื่อก่อนเธอเองก็ทำงานกับคนเยอะแยะมากมายแต่งานนี้เธออดประหม่าไม่ได้จริงๆ"รู้สึกภูมิใจจัง..อยากจะรู้ว่ารูปของฉันจะได้ราคาประมูลเท่าไร" เมษาไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะมาอยู่จุดนี้จะมาเป็นศิลปินที่ผู้คนต่างให้ความสนใจผลงานของเธอ"นั่นสิ" ว่านรักยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะเธอก็ภูมิใจไปกับเมษาด้วยเช่นกันครู่ต่อมาตอนนี้เมษาและเจคอปอยูในงานเพียงแค่สองคนเพราะไรอันและว่านรักพาเด็กๆไปเดินเล่นข้างนอกเนื่องจากพอเจอคนมาทักทายมากหน้าหลายตาเข้าเจ้าสองแสบก็เริ่มงอแง"คุณ..ภาพวาดของฉันจะได้ประมูลตอนไหน" เมษาเริ่มนั่งไม่ติดเมื่อตอนนี้รูปภาพของศิลปินท่านอื่นเริ่มประมูลกันไปบ้างแล้วและแต่ละภาพผู้คนก็สู้ราคากันจนใจขาดเลยทีเดียว"อีกเดี๋ยวก็ได้ขึ้นประมูลแล้ว" เจคอปจับมือเมษาเอาไว้แน่นเพื่อให้เธอลดอาการประหม่าลงเพราะอีกไม่กี่ภาพก็จะเป็นภ
สามวันต่อมา วันนี้เจคอปเข้ามารับเมษาที่บ้านไรอันแต่เช้าเพราะรู้ว่าเธอใกล้ถึงกำหนดที่จะกลับเมืองไทยแล้วเขามีที่ที่หนึ่งที่อยากจะพาหญิงสาวไปดู"ที่นี่เป็นบ้านที่ผมซื้อไว้นานแล้ว" เจคอปพาเมษาออกมาจากบ้านของไรอันไม่ไกลนักแล้วเขาก็เลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังสีขาวที่สร้างโครงสร้างผิดแปลกไปจากบ้านที่นี่อยู่มากเพราะมันเหมือนบ้านคนในเกาหลีหรือญี่ปุ่นมากกว่าบ้านในอเมริกา"ที่นี่มีแต่อุปกรณ์วาดภาพคุณก็ชอบวาดภาพเหมือนกันเหรอ" เมษาเดินเข้ามาในบ้านตรงกลางเป็นห้องโล่งทางซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆส่วนขวามือเป็นห้องใหญ่ที่เป็นกระจกทั้งหมดพอเธอเดินเข้ามาด้านในพบว่าในห้องนี้น่าจะเป็นห้องที่เอาไว้สร้างสรรค์งานศิลปะเพราะที่นี่มีอุปกรณ์วาดภาพและพวกสีค่อนข้างครบครันจึงหันมาถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างแปลกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอเลยว่าเขาชอบวาดภาพเหมือนกัน"ก็เคยลองวาดแต่ก็ไม่ได้เก่งเท่าไรคุณชอบที่นี่หรือเปล่า" เจคอปพอจะวาดเป็นอยู่บ้างเพราะแฟนเก่าของเขาเป็นคนสอนแต่เขาก็ไม่ได้ชอบมันจนวาดเก่งเป็นมืออาชีพแบบเมษาที่เขาพาหญิงสาวมาที่นี่เพราะเขาอยากรู้ว่าเธอชอบที่นี่หรือไม่หากชอบเขาก็อนุญาตให้เธอมาที่นี่ได้ตลอดเวลา
เช้าวันต่อมา"คุณตัวร้อนทั้งคืนเลยกินข้าวกินยาก่อนนะครับ" "ค่ะ.." เมื่อคืนเมษาเป็นไข้ตัวร้อนจนเจคอปต้องเช็ดตัวให้ทั้งคืนเมื่อหญิงสาวตื่นมาในช่วงเช้าเจคอปจึงให้เธอรีบทานข้าวทานยาเสียก่อน"ผมขอโทษที่ทำให้คุณป่วย" คนตัวโตโผเข้ากอดร่างบางด้วยความรู้สึกผิดไม่คิดว่าการกระทำของเขาจะทำให้หญิงสาวถึงกับไข้ขึ้น บ่ายของวัน"อือ...อืม.." หลังจากที่เมษาทานข้าวทานยาเรียบร้อยในช่วงเช้าเธอก็นอนพักผ่อนจนตื่นมาในช่วงบ่ายตอนนี้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าเมื่อเช้ามากพอสมควร"ตื่นแล้วเหรอครับ..คุณดูนี่สิ" เจคอปที่นั่งวาดรูปหญิงสาวที่กำลังหลับด้วยดินสอพักใหญ่เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเขาก็วาเสร็จพอดีจึงรีบอวดหญิงสาวให้เธอได้ดูว่าเขาก็มีฝีมือพอตัวเหมือนกัน"หืม..คุณก็มีฝีมือเหมือนกันนะคะ" "ตอนคุณหลับน่ารักที่สุดเลย" "ตอนตื่นไม่น่ารักหรือไง" หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงอ่อน"น่ารักมาก""......" น้ำเสียงทุ้มว่าจบหญิงสาวก็ก้มหน้างุดไม่คิดว่าคนอย่าเขาจะปากหวานเป็นด้วยเหมือนกัน เย็นของวัน"เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น" หลังจากที่เมษากลับมาได้ว่านนรักก็เค้นสอยบสวนเพื่อนเธอเป็นการใหญ่"คือ..." เมษาไม่ได้คิดจะปิดบั
"...." สิ้นเสียงของมินแฮนาเมษาก็ตัวชาวาบพูดอะไรไม่ออกน้ำตารื้นขึ้นมากะทันหัน"คุณคิดว่าเค้าเป็นผู้ชายประเภทไหนก็คิดเอานะคะ" มินแฮนาเห็นท่าทีของเมษาเธอก็ค่อนข้างพอใจเมื่อว่าจบก็หันหลังกลับออกไปทันที ในส่วนของเมษาหลังจากที่มินแฮนากลับไปแล้วเธอก็เดินเข้ามาในบ้านร้องให้อย่างคนที่ไร้สติจนว่านรักต้องรีบถามด้วยความตกใจ"เม..เม...เป็นอะไร""ฮึก..ฮือๆๆๆ..ฮื่อๆๆๆๆ...ฉันมันโง่เอง""ใจเย็นๆก่อนนะ" ว่านรักพาเมษามานั่งที่โซฟาปลอบใจอยู่พักใหญ่จนได้คำตอบจากเมษาว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทางด้านเจคอปตอนนี้ก็อยู่รอเมษากลับมาที่บ้านของไรอันเขายังยุ่งกับการคุยโทรศัพท์เรื่องที่บ้านไม่น้อยเพราะต้องการให้คนรื้อห้องของมินโฮรินไปให้เร็วที่สุดไม่ใช่ว่าเขาพึ่งจะอยากรื้อแต่เขาเองก็พึ่งจะมีเวลาอยู่บ้านนานๆก็คราวนี้"ครับรื้อของห้องนั้นให้หมดเลย.." "รื้ออะไรของแก" ไรอันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเพื่อนของเขาคุยโทรศัพท์จบ"พวกห้องเก่าโฮริน...พึ่งจะได้ฤกษ์รื้อนานๆจะอยู่บ้านที""อืม...รื้อก็ดีแล้วล่ะ" ไรอันเห็นด้วยที่เจคอปจะรื้อเพราะหาเมษารู้ว่าของพวกนั้นเป็นของใครเธอก็คงจะไม่โอเคเท่าไรนัก"ไปไหนกันมาเหรอครับ" เจ
"ยากล่อมประสาทนิดหน่อย...เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการจัดการกับเธอไง..หึ่..พี่สาวฉันเองฉันยังจัดการให้พ้นทางเลยนับประสาอะไรกับคนอื่นอย่างเธอ" ยาที่มินแฮนาใส่ให้เมษาเป็นเพียงยาที่ทำให้เป็นอมพาตทั้งตัวชั่วคราวแต่คนที่ทานเข้าไปจะได้ยินทุกอย่างที่เธอพูดแต่ต่อต้านอะไรเธอไม่ได้"เธอนี่มัน..อือ.." เมษานอนแน่นิ่งน้ำตาไหล"ยานี่ไม่ทำให้เธอหลับหรอกนะแค่มึนๆเธอจะได้เห็นเวลาที่เลือดเธอไหลนองบนพื้นยังไงล่ะ" มินแฮนานั่งลงตรงหน้าของเมษาก่อนจะชูมีดพกขึ้นมาและพูดด้วยท่าทีที่ไม่สะทกสะท้านว่าการทำร้ายหรือฆ่าคนมันผิด"อือ..." เมษากลัวจนน้ำตาไหลพรากพยายามจะขยับตัวเท่าไรเธอก็ขยับไม่ได้แกร๊กกและแล้วทั้งสองหนุ่มก็เข้ามาช่วยเมษาได้ทันเพราะเขาถามพนักงานที่นี่แล้วว่ามินแฮนาพาใครมาที่นี่หรือเปล่าและเขาก็ได้รู้ว่ามินแฮนาพาเมษามาที่นี่จริงๆจึงรีบขอคีย์การ์ดสำรองขึ้นมาที่ห้องของมินแฮนา"ทำอะไรของคุณ" เจคอปเข้ามาเห็นมินแฮนาถทอมีดอยู่จึงผลักเธอออกไปอย่างรวดเร็วทันที“เมษา...” ไรอันเข้ามาดูเมษาก็รู้ว่าเธอน่าจะถูกมอมยาแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่นอนนิ่งเอาแต่น้ำตาไหลอยู่แบบนี้ไม่อยากจะคิดว่าหากพวกเขาเข้ามาไม่ทันอะไรจะเ
ไร่ปาริชาตยามสายของวันแดดกำลังอ่อนๆคนงานในไร่ปาริชาตต่างก็แยกย้ายกันทำหน้าที่ของตนแประจำที่ห่างกันไม่มากนักบางคนลงผักใหม่บางคนดายหญ้าบางคนเก็บผลผลิตนับเป็นภาพที่น่าสบายตายิ่งนักไร่ปาริชาตนี้มีอาณาเขตอยู่ที่ภาคเหนือของประเทศไทยกินเนื้อที่เกือบพันไร่เดิมทีเป็นของคุณหญิงปาริชาตภรรยาท่านทูตหลังจากที่เธอเสียแล้วไร่นี้ก็ตกเป็นของปฐพีลูกชายคนเดียวของเธอด้วยปฐพีไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นานๆจะกลับมาสักครั้งเลยตั้งให้คนเก่าคนแก่ที่อยู่กับไร่นี้มานานอย่างปราโมทย์เป็นคนดูแลทุกอย่างของไร่และให้คนที่ไม่มีที่ทำกินมาทำไร่ที่นี่ฟรีโดยมีปราโมทย์เป็นคนจัดการแบ่งสันปันส่วนให้เท่าๆกันเมื่อปฐพีได้เสียชีวิตไปแล้วสมบัติทุกอย่างก็ตกอยู่กับเขมิกาซึ่งเธอก็ไม่ได้ดูดำดูดีไร่นี้เท่าไรนักจนคนในไร่ก็หวั่นใจกันว่าที่นี่อาจจะถูกขายเพราะเขมิกาไม่เคยให้คำตอบพวกคนในไร่เลยว่าจะให้พวกเขานั้นอยู่ต่อกันหรือไม่ 20.00 น.“กลับมากันซะดึกเลยลูกเจ้าคมผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ” ชายชราอย่างปราโมทย์ที่นั่งอยู่บนชายเรือนไม้หลังใหญ่เห็นหลานสาวทั้งสองกลับมาบ้านเลยเอ่ยถามถึงเรื่องลูกของอาคมที่พึ่งคลอดว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย“ผู้หญิงจ่ะ
“อะไรนะเค้าเคยจะตามฆ่าแกเหรอ...เค้าจะแค้นแกเรื่องอะไรในเมื่อทุกอย่างมันก็เป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิด แล้วเค้าใหญ่มาจากไหนถึงขนาดจะฆ่าใครก็ทำเป็นว่าเล่นแบบนี้” ว่านรักเล่าให้เมษาฟังว่ามาคนๆคนนี้ตามฆ่าเธอเพราะเธอดันไปขับรถชนน้องสาวของเขาจนตายและที่เธอหนีมาอยู่ที่ไร่นี้ก็เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยถูกตามล่ามาแล้วรอบหนึ่งเมษที่ฟังอยู่ถึงกับกำมือแน่นไม่ อยากจะคิดเลยว่าจะมีคนที่จิตใจโหดเหี้ยมแบบนี้อยู่จริงๆ“ถ้าเป็นคนธรรมดาฉันคงไม่ต้องหนีมาอยู่ที่นี่หรอก นั่นไรอัน ฮิลล์ มาเฟียใหญ่ที่โน่นเลย” ว่านรักเอ่ยด้วยสีหน้าละห้อย“ฉันถามแกจริงๆนะว่านแกเป็นคนประมาทจนขับรถชนคนขนาดนั้นเลยเหรอ” เมษาคิดไปคิดเธอไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนเธอจะประมาทถึงขนาดนั้นได้อย่างไร“คือ..ก็..วันนั้นฉันดื่มมานิดหน่อย” ใบหน้านวลเอ่ยจบก็หลบสายตาคนที่กำลังจ้องอยู่เล็กน้อยคำตอบและพฤติกรรมของว่านรักทำให้เมษารู้ได้ทันทีเลยว่าเพื่อนเธอกำลังโกหก“แกโกหก..ฉันจำได้ว่าแกแพ้แอลกอฮอลล์...บอกมาให้หมดไม่อย่างนั้นฉันจะเค้นแกให้รำคาญตายไปเลย” มือน้อยยกชี้หน้าว่านรักก่อนจะเอ่ยเสียงแข็งคาดโทษ“เอ่อ..คือ...” “พูดมาเดี๋ยวนี้” หลังจากถูกเค้นคร
“ไม่ทันแล้วมั้งแก...” ไม่ทันที่สองสาวจะคุยกันขบดีจู่ๆก็มีรถหรูวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้านและมีชายหนุ่มร่างสูงเปิดประตูออกมาจากรถยืนตระหง่านจ้องมองหาใครบางคนอยู่“ขับออกไปเลย” เมษารีบให้ว่ารักเหยียบคันเร่งพุงออกไปจากโรงรถอย่างรวดเร็ว“ไม่มีคนอยู่หรือไง” คิ้วเข้มหนาของไรอันขมวดเป็นปมก่อนจะเดินเข้าใต้ถุนบ้านเพื่อมองหาคนเพราะเมื่อวานเขาก็นั่งคุยกับชายชราตรงนี้บรู๊นนนน“ว่านรัก” ไรอันตะโกนเรียกคนที่กำลังขับรถออกไปเสียงฝาดเขารีบวิ่งกลับไปที่รถขับตามรถกระบะคันเก่าที่ไม่มีแม้กระจกออกไปทันที“แน่ในนะว่ากระบะคันนี้มันจะพาเราไปรอดน่ะ” ว่านรักเหยียบจนสุดคันเร่งแล้วเจ้ารถกระบะคันนี้ไม่มีทีท่าว่าจะหนีคนที่ตามพ้นเลยเธอเอ่ยมาอย่างอ่อนใจกับเมษาเพราะไม่ค่อยเชื่อมั่นศักยภาพรถคันนี้เท่าไรนักเพราะส่วนมากรถคันนี้จะใช้ขนผักในไร่มากกว่าจะขับออกไปข้างนอกคันดีๆตาพวกเธอก็เอาขับเข้าไร่ไปแล้วเมื่อเช้าตรู่“เชื่อฉัน...คันนี้แหละเข้าป่าเข้ารกดีนักล่ะรถหรูๆแบบนั้นตามเรามาไม่ได้หรอก” เมษาที่กำลังควานหาอะไรบางอย่างในรถเอ่ยให้ว่านรักเชื่อใจเขจ้ารถคันนี้เพราะมั่นใจว่ารถหรูของไรอันที่โหลดต่ำขนาดนั้นขับมาไม่ทันพวกเธอแน่นอน