“ไม่ทันแล้วมั้งแก...” ไม่ทันที่สองสาวจะคุยกันขบดีจู่ๆก็มีรถหรูวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้านและมีชายหนุ่มร่างสูงเปิดประตูออกมาจากรถยืนตระหง่านจ้องมองหาใครบางคนอยู่
“ขับออกไปเลย” เมษารีบให้ว่ารักเหยียบคันเร่งพุงออกไปจากโรงรถอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีคนอยู่หรือไง” คิ้วเข้มหนาของไรอันขมวดเป็นปมก่อนจะเดินเข้าใต้ถุนบ้านเพื่อมองหาคนเพราะเมื่อวานเขาก็นั่งคุยกับชายชราตรงนี้
บรู๊นนนน
“ว่านรัก” ไรอันตะโกนเรียกคนที่กำลังขับรถออกไปเสียงฝาดเขารีบวิ่งกลับไปที่รถขับตามรถกระบะคันเก่าที่ไม่มีแม้กระจกออกไปทันที
“แน่ในนะว่ากระบะคันนี้มันจะพาเราไปรอดน่ะ” ว่านรักเหยียบจนสุดคันเร่งแล้วเจ้ารถกระบะคันนี้ไม่มีทีท่าว่าจะหนีคนที่ตามพ้นเลยเธอเอ่ยมาอย่างอ่อนใจกับเมษาเพราะไม่ค่อยเชื่อมั่นศักยภาพรถคันนี้เท่าไรนักเพราะส่วนมากรถคันนี้จะใช้ขนผักในไร่มากกว่าจะขับออกไปข้างนอกคันดีๆตาพวกเธอก็เอาขับเข้าไร่ไปแล้วเมื่อเช้าตรู่
“เชื่อฉัน...คันนี้แหละเข้าป่าเข้ารกดีนักล่ะรถหรูๆแบบนั้นตามเรามาไม่ได้หรอก” เมษาที่กำลังควานหาอะไรบางอย่างในรถเอ่ยให้ว่านรักเชื่อใจเขจ้ารถคันนี้เพราะมั่นใจว่ารถหรูของไรอันที่โหลดต่ำขนาดนั้นขับมาไม่ทันพวกเธอแน่นอนด้วยทางที่หลุมบ่อเยอะขนาดนี้
ปึก..ปัก
“บ้าเอ้ย...คิดว่าจะหนีฉันพ้นงั้นเหรอ” ด้วยถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อที่เป็นปกติของทางเข้าไร่ทำให้รถของไรอันวิ่งเร็วไม่ได้เขาจึงค่อนข้างโมโหอยู่ไม่น้อยเมื่อถึงถนนใหญ่เขาจึงหยิบปืนสั้นออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อคลุมของเขาจ่อยิงไปที่ยางรถกระบะคันที่ว่านรักขับหนีเขาตรงหน้า
ปั้งง
"อ๊ายย..." ว่านรักกรีดร้องตกใจเสียงปืนจนแทบเสียการทรงตัวแต่ดีที่เธอยังบังคับพวงมาลัยได้
"หืม..ไอ้บ้าเอ้ยย.." เมษารีบกำอะไรบางอย่างในถุงย่ามสีเทาหม่นโปรยลงไปที่ถนน
"ทำอะไรเม" ว่านรักเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะเธอก็มองไม่ถนัดว่าในมือเพื่อนเธอคืออะไรด้วยต้องจ้องมองทางอยู่ตลอด
"เอาเรือใบให้มันกินไง.."
เอี๊ยดดด ปั้งงง
สิ้นเสียงเมษารถคันหรูก็เสียหลักตกลงไปที่เนินเขาไถลลงไปชนต้นไม้เสียงดังสนั่น
"...เค้าจะเป็นอะไรไหม" ว่านรักเบรกรถกะทันหันสีหน้าของเธอกับเมษาตอนนี้ก็ตื่นตระหนกไปตามๆกัน
"ไปดูเร็ว" เมษาและว่านรักรีบเปิดประตูลงรถไปดูคนเจ็บทันทีด้วยคราแรกเมษาตั้งใจแค่จะให้เจ้ามาเฟียหนุ่มนั่นตามเธอต่อไปไม่ได้แต่ใครจะคิดว่ารถหรูคันนี้จะเสียหลักเอาง่ายๆเสียอย่างนั้น
"แกเค้าจะตายไหมเลือดออกเยอะขนาดนี้" ว่านรักเสียงสั่นเครือเมื่อเห็นร่างใหญ่นอนแน่นิ่งติดอยู่กับพวงมาลัยใบหน้าเลือดอาบและดูท่าจะยังไม่หยุดไหลง่ายๆ
"ฉันไม่คิดว่าจะแรงขนาดนี้นี่นา" เมษาถึงกับมือไม้สั่นเธอไม่คิดว่าฝีมือของเธอจะทำให้ชายหนุ่มเป็นหนักเช่นนี้ยิ่งเห็นเขาเลือดออกเยอะเท่าไรเธอก็ยิ่งกลัวว่าเขาจะไม่มีชีวิตรอดแล้วเธอก็จะได้ชื่อว่าฆาตกรยิ่งคิดเธอก็ยิ่งขนลุก
"อีหนูเป็นอะไรกัน"
"ลุงแม้น.." ในขณะที่สองสาวกำลังจิตตกกันอยู่นั้นผู้ใหญ่มนัสวัย45ปีเป็นลูกชายคนโตของปราโมทย์มีศักดิ์เป็นลุงของเมษาเขาผ่านมาทางนี้พอดีเมื่อเห็นว่ามีร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุจึงรีบจอดดู
"พอดีรถคันนี้เสียหลักค่ะพวกหนูก็เลยลงมาดู" เมษารีบตะโกนบอกมนัสเพราะเธอจะให้เขารู้ความจริงไม่ได้ว่าที่ไรอันเป็นแบบนี้เพราะฝีมือเธอ
"ตายล่ะวะเลือดเยอะขนาดนี้จะรอดไหมเนี่ย.. เดี๋ยวลุงเรียกกู้ภัยก่อน" มนัสรีบลงมาดูก่อนจะรีบกดมือถือต่อสายเรียกกูภัยเขาหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นคนที่เจ็บเลือดอาบจนมองไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นเช่นไร
เย็นของวัน
หลังจากที่จัดการเรื่องที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วสองสาวก็พากันกลับบ้านเพราะไรอันอยู่ในสภาพนอนเป็นผักว่านรักก็คงยังไม่ต้องหนีไปไหน
"เห็นไอ้แม้นว่ารถพ่อหนุ่มนั่นถูกตะปูจนทำให้เสียหลักงั้นเหรอ" ปราโมทย์นั่งคุยกับหลานสาวทั้งสองที่แคร่ไม้ใต้ถุนบ้านเมื่อได้รู้เรื่องอุบัติเหตุในหมู่บ้านวันนี้จากลูกชายของตน
"หนูก็ไม่รู้เหมือนกันจ่ะตา" เมษารีบตอบปฏิเสธก่อนจะมองหน้ากับว่านรักด้วยความรู้สึกผิด
"ใครมันเล่นอะไรพิเลนเป็นลูกเป็นหลานจะลงหวายให้เลือดซิบเลย" เสียงแหบพร่าเอ่ยด้วยความไม่พอใจเพราะกลัวว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะทำให้เสียชื่อที่นี่หมด
"....." เมษาหลับตาปี๋ก่อนจะถอนหายใจเบาๆไม่รู้เลยว่าหากตาเธอรู้ความจริงเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
"แล้วตกลงเรารู้จักกับเค้าไหมล่ะอีหนู" ปราโมทย์หันมาถามว่านรักที่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา
"รู้จักจ่ะตาเค้าเป็น...เอ่อ" ว่านรักค่อยๆพยักหน้าเธอยังคิดวกไปวนมาอยู่ในหัวว่าจะบอกกับตาของเธอยังไงดี
"บอกตาไปเถอะว่าเค้าเป็นสามีแก" เมษาโพร่งออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนเธอยังคงนั่งอ้ำอึ่ง
"ห้ะ" ใบหน้าหวานหันมองค้อนเมษาทันทีที่ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอคิดอะไรอยู่ถึงได้เอ่ยคำพูดออกมาแบบนี้
"เอาล่ะๆ.. ตาเข้าใจละที่เค้ามานี่ก็คงมามาง้อเพราะงอนกันสินะ" ปราโมทย์มองสองสาวที่เอาแต่ก้มหน้ากันอยู่ก็ค่อยๆยื่นมือตบบ่าว่านรักเบาๆเขาพอจะเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไรเพราะเขาก็เคยผ่านช่วงปัญหาวัยหนุ่มสาวมาก่อน"เอ่อ.. ค่ะ" ว่านรักจำต้องยอมรับเสียงอ่อนตามน้ำไปก่อนจะหันมาส่งสายตาคาดโทษให้เมษา หลังจากที่คุยกับปราโมทย์เรียบร้อยแล้วว่านรักก็ลากเมษาขึ้นมาคุยกันในห้องนอนของเมษาข้างบนบ้านไม้หลังใหญ่"แกไปบอกตาแบบนั้นได้ยังไง" น้ำเสียงว่านรักอู้อี้ด้วยความไม่พอใจ"อ้าวก็ตอนนั้นคิดได้แบบนั้นนี่แล้วแกคิดสิถ้าบอกความจริงตาไปเรื่องมันจะยาวไหมล่ะ""เฮ้อ.." และแล้วสาวเจ้าก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ในเมื่อแก้สถานการณ์อะไรไม่ได้แล้วเช้าวันต่อมา"อีหนูไม่ไปเยี่ยมผัวเราหรือไง" ปราโมทย์เห็นว่าว่านรักแต่งตัวจะเข้าไร่กับเมษาจึงร้องทักเอาไว้ก่อน"ไม่ไปจ่ะตาเดี๋ยวว่านจะไปช่วยหนูนาตัดกะหล่ำปลี" "ได้ยังไงผัวเจ็บเมียก็ต้องไปดูแลถึงจะเคืองใจกันอยู่ก็เถอะตาไม่เคยสอนให้เราทิฐินะลูก" "แต่ว่าหนู.." "เจ้าเมเราพาเพื่อนเราไปโรงพยาบาลเรื่องที่นี่ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวตาหาคนไปช่วยหนูนามันเอง" ยังไม่ทันที่ว่านรักจะได้เอ่
เย็นของวัน"โอ้ยย.. ปวดขาจังโว้ย" ปราโมทย์บ่นโอดครวญปวดขาในขณะที่มีหลานสาวอย่างเมษานวดให้อยู่"ก็ใครใช้ให้ตาไปทำเองล่ะจ้ะเผลอเมื่อไรเป็นหาเรื่องทำงานทุกทีถ้าเป็นอะไรไปอะไหล่หายากแล้วนะเนี่ย" เมษาบ่นอุกทุกครั้งที่พวกเธอเผลอเมื่อไรตาเธอเป็นอันต้องหนีไปทำงานในไร่ทุกทีขนาดสังขารไม่เอื้อยังจะมีมานะและก็ต้องเป็นเธอทุกครั้งที่ต้องมานั่งบีบนั่งนวดอยู่แบบนี้"อย่าบ่นข้านักเลยข้าหาคนช่วยหนูนามันไม่ได้ก็เลยทำซะเอง" ปราโมทย์เอ่ยปัดทั้งที่อันที่จริงเขาไม่ได้หาใครมาช่วยแต่อยากจะลงแรงเองมากกว่า"แล้วก็เป็นแบบนี้ทุกที" เมษาบุ้ยปาก"ตาจ๋าพรุ่งนี้หนูจะไปช่วยหนูนามันเอง" เมื่อว่านรักเห็นว่าไม่มีคนช่วยหนูนาแบบนี้เธอเลยอาสาเพราะไม่อยากไปที่โรงพยาบาล"ไม่ได้ๆไปดูแลผัวเราดีแล้ว" ปราโมทย์ส่ายหัว"เค้ามีหมอดูแลอยู่แล้วจ่ะตาไม่ไปหาสักวันสองวันไม่เป็นอะไรหรอก" ว่านรักยังคงมุ่งมั่นว่าอย่างไรเธอก็จะไปทำงานที่ไร่ดีกว่าไปนั่งอึดอัดอยู่ที่โรงพยาบาลและไม่อยากตอบคำถามอะไรไรอันด้วย"จริงอย่างที่ว่านมันพูดงานที่ไร่ก็ออกจะเยอะเดี๋ยวพวกหนูเผลอตาก็ไปเข้าไร่อีก" เมษาเอ่ยปากช่วยว่านรักอีกแรง"แล้วเราไม่เสียใจบ้างหรือไ
อเมริกาโรงพยาบาลXXX"คุณท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ" ลูคัสมาถึงโรงพยาบาลได้ก็รีบเข้ามาดูอาการเอมม่าทันที"ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกไรอันล่ะอยู่ไหน" หญิงชราไม่วายมองหาหลานชายคนโตของเธอซึ่งไม่ค่อยจะเห็นหน้าค่าตากันเท่าไรนัก"เอ่อ...คุณไรอันดูที่ดินอยู่ญี่ปุ่นน่ะครับ" ลูคัสจำต้องเอ่ยคำโกหกออกไปเพราะคนเป็นนายสั่งว่าไม่ให้ย่าของตนรู้เป็นเด็ดขาดว่าเขาอยู่ที่ไหนทำอะไรเมื่อเสร็จภารกิจแล้วจะรีบกลับมา"แล้วเมื่อไรจะกลับงั้นเหรอ""ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ""งั้นก็ไปบอกหมอเจมส์ให้ฉันทีว่าฉันขอไปพักรักษาตัวที่บ้าน" "คงไม่ได้หรอกครับคุณย่าผมยังปล่อยให้คุณย่ากลับไปไม่ได้หรอกครับนอนดูอาการที่นี่อีกสักสามวันเป็นอย่างต่ำนะครับ" หมอเจมส์ที่เปิดแประตูเข้ามาทันได้ยินเอมม่าเอ่ยกับเจคอปเขาจึงรีบเอ่ยปฏิเสธทันทีเพราะถ้าหากเขาปล่อยให้ย่าของเพื่อนกลับไปพักที่บ้านทั้งที่อาการยังไม่ดีมีหวังไรอันรู้เขาได้โดนกินหัวแน่หมอเจมส์เป็นหมอหนุ่มรุ่นเดียวกับไรอันเป็นทายาทหมื่นล้านเจ้าขอโรงพยาบาลหลายแห่งในยุโรปเพื่อนกับไรอันตั้งแต่เด็กๆเรียนมาด้วยกันตลอดจะไม่ค่อยได้เจอกันในช่วงที่มีการมีงานทำแต่นานๆก็จะนัดสังสรรค์กันทีเวลาที่ว่างตร
"คุณก็จัดการเองสิคะ.. ฉันไม่เคยเช็ดตัวให้ผู้ชาย" "แต่ผมเป็นสามีคุณไม่ใช่เหรอ" คำพูดของหญิงสาวทำเอาไรอันสับสนกับการกระทำของเธออยู่ไม่น้อย"คือ.. ก.. ก็ได้" ว่านรักลืมข้อนี้ไปเสียสนิทก่อนจะรีบกลับมานั่งตรงหน้าชายหนุ่มและค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของเขาออกด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างลำบากใจ"คุณเป็นอะไรทำยังกับไม่เคยเห็นร่างกายของผม" ดวงตาสีน้ำข้าวของไรอันจ้องมองหญิงสาวอย่างมีคำถามมากมายเพราะดูเหมือนเธอไม่ค่อยอยากจะดูแลเขาเท่าไรทั้งสายตาของเธอเวลามองเขามันก็ว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูกหนำซ้ำตอนนี้ยังทำท่าเหมือนจะรังเกียจที่ตจะมองร่างกายของเขาอีก"อ๋อ.. เปล่าฉันกลัวคุณเขินไง...คุณความจำเสื่อมคุณคงไม่ค่อยคุ้นชินกับฉัน.." ว่านรักแสยะยิ้มก่อนจะเอ่ยชักแม้น้ำทั้งห้าไปเรื่อยทั้งยังไม่รู้ตัวอีกว่าตอนนี้เธอกำลังแก้มแดงเพราะหน้าท้องแกร่งที่ขึ้นซิกแพคของไรอันอยู่"แต่ผมว่าคุณมากกว่าที่น่าจะเขิน..หน้าแดงซะขนาดนั้น" ไรอันเอ่ยออกไปตามตรงไม่ได้คิดจะหยอกหญิงสาวแต่อย่างใด"เปล่านะคะ...ฉันแค่ร้อนๆ" ว่าจบก็ก้มหน้างุดหยิบผ้าจุ่มน้ำเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ชายหนุ่มอย่างเร่งรีบ"คุณนี่ก็น่ารักดีนะ...ผมว่าตอนที่ผมตกหลุ
"โอ้ย" คนที่ชอบหยอกเพื่อนรีบเอาหลังมือถูหัวเมื่อถูกว่านรักเคาะด้วยกำปั้น"ทำหน้าตาตื่นเต้นเพราะแกนั่นแหละทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้""ให้บอกความจริงตาไปเลยไหมล่ะอีตานั่นจะได้ถูกคนที่นี่รุมยำตาย" เมษาพูดอย่างลอยหน้าลอยตา"ไม่ๆๆ.. " ว่านรักรีบส่ายหัวทันทีเพราะเธอก็ไม่ใช่คนใจร้ายที่จะเห็นใครถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาได้"ฉันก็พึ่งเห็นคนอะไรสงสารคนที่จะฆ่าตัวเอง" เมษาบุ้ยปาก"ก็ตอนนี้อีตานั่นไม่รู้เรื่องรู้ราวนี่นาถ้าฉันปล่อยให้เค้าถูกทำร้ายก็แย่เกินคนแล้ว" "ฉันอยากจะรู้จริงจริ๊งว่าจะมีคนดีอย่างแกสักกี่คนเนี่ย""เที่ยงแล้วไปหาข้าวกินกันเถอะ..อ่อ..ฉันลืมหยิบปิ่นโตมากินกับแกก็แล้วกัน" ว่านรักเห็นว่านี่ก็น่าจะเที่ยงแล้วเพราะพระอาทิตย์ลงหัวอีกอย่างเหล่าคนที่ทำไร่อยู่ใกล้กันก็นั่งจับกลุ่มล้อมวงกินข้าวกันหมดแล้วจึงรีบชวนเมษาไปเข้าร่มไม้ตั้งวงกินข้าวกัน"ได้สิเมื่อเช้าตาก็ตักข้าวใส่ปิ่นโตมาเผื่อแกอยู่แล้ววันนี้มีแกงส้มผักรวมกับปลาเค็มของโปรดแกด้วย""งั้นรีบเลย" ได้ยินเช่นนี้ว่ารักจึงรีบสับขาเข้าไปในร่มทันทีเพราะวันนี้มีของโปรดของเธอไรอันเดินเข้ามาในไร่พร้อมกับปิ่นโตในมือเพราะเขาเข้าใจว่าว่านรักน่าจะ
"ฉันคิดว่าเราควรจะสร้างตัวกันอีกสักนิดค่ะ" ว่านรักเอ่ยปัดให้จบๆไปก่อนจะปิดไฟนอนแม้นภายนอกเธอจะไม่มีอาการอะไรแต่หัวใจเธอเต้นไม่ค่อยจะเป็นส่ำเพราะไม่รู้เลยว่าวันหน้าเธอจะเจอคำถามหรือเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ลำบากใจอีก"อ๋อ...ผมเข้าใจแล้ว" ไรอันเอ่ยเสียงอ่อนแม้นหญิงสาวจะตอบเขามาแบบนั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าในใจของเขายังคงมีความสงสัยอยู่ก็หาคำตอบกับตัวเองไม่ได้อีกเหมือนกันเช้าวันต่อมา"...." ไรอันตื่นมาในช่วงเช้าตรู่เขาเห็นนอนมองหญิงสาวอยู่พักใหญ่โดยที่ยังไม่ปลุกเธอริมฝีปากหนาอมยิ้มอ่อนเมื่อมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังหลับตาพริ้มนี้เขาอยากจำได้เหลือเกินว่าตอนนั้นเขาตกหลุมรักเธอเพราะความน่ารักนี้หรือไม่แต่ตอนนี้เขาคิดว่าคงจะใช่และภาวนาในใจของให้เขาจำเรื่องราวก่อนหน้าได้เร็วๆจะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยอะไรให้มันอึดอัดหัวใจ ช่วงสาย"ผมไปไร่กับคุณด้วยได้หรือเปล่า" ไรอันเดินตามว่านรักออกมาจากบ้านก่อนจะขอเธอไปที่ไร่ด้วย"จะไปตากแดดตากลมทำไมคะอยู่ที่บ้านดีแล้วค่ะ..." "ผมไปอยู่ที่บ้านตาก็ได้" "ก็ได้" คนที่ขี้เกียจจะเถียงกับชายหนุ่มตอนนี้ยอมให้เขาตามเธอไปแต่โดยดีเพราะรู้ว่าถ้าเธอห้ามตอนนี้ไม่เที่ยงก็เย็นเธอ
"พ่อเลี้ยงนั่นสนิทกับคุณมากเลยใช่ไหม" เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ไรอันก็โพร่งถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของว่ารักกับบุญทวีทันที"ก็พอสมควรค่ะ""เรื่องที่ผมต้องมาง้อคุณที่นี่มันเกิดจากอะไรกันแน่ครับ" น้ำเสียงของไรอันเริ่มเปลี่ยนไปจนว่ารักเองก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนักที่ดูเหมือนว่าเขากำลังจับผิดเธออยู่ตลอดเวลา"ก็เกิดจากเรื่องทั่วไปนั่นแหละค่ะไม่มีอะไร...แล้วฉันก็ไม่ได้โกรธคุณแล้วด้วย" "ผมกำลังคิดว่าอาจจะเป็นเพราะคุณหาเรื่องผมแล้วกลับมาหาคนที่คุณรักก็ได้""มโนอะไรของคุณคะ" ใบหน้าหวานเริ่มคิ้วผูกโบว์"สายตาคุณมันฟ้องเวลาที่คุณมองเค้า..ต่างจากที่มองผม" ร่างสูงยื่นมือทั้งสองจับบ่าของหญิงสาวให้มองตาเขาก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ปนน้อยใจออกมา"ไร้สาระกันใหญ่แล้วค่ะ...ถ้าฉันรักเค้าฉันจะบอกคุณทำไมคะว่าฉันเป็นภรรยาคุณฉันจะบอกกับคุณก็ได้ว่าเราเลิกกันแล้วในตอนคุณฟื้น..คุณลองคิดสิคะ" "...ผมคงคิดไปเองขอโทษแล้วกัน..." พอได้ยินคำยืนยันจากปากของหญิงสาวให้มั่นใจแบบนี้เขาจึงลดความระแวงได้ครึ่งหนึ่งก่อนจะขอโทษร่างบางที่เขาทำให้เธอต้องมาอารมณ์เสียเพราะเขา อาทิตย์ต่อมาหลังจากที่ไรอันได้กลับมาพักที่บ้านหลายวันร่างกาย
"ผมว่าผมดูออกว่าพ่อเลี้ยงนั่นชอบคุณ" ไรอันเก็บอาการไว้ตั้งแต่ที่วัดเมื่อมาถึงบ้านยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้หย่อนก้นนั่งพักเขาก็เอ่ยถึงเรื่องบุญทวีทันที"คุณไรอันฉันคิดว่าเราคุยกันจบตั้งแต่ที่วัดแล้วนะคะ...ทำอย่างกับคุณหึงฉันอย่างนั้นแหละทั้งที่เรา.. " ว่านรักเกือบเผลอหลุดปากทำให้ไรอันถึงกับขมวดคิ้วมองหญิงสาวอย่างสงสัยมากกว่าเดิม"เราทำไมเหรอ...เราเป็นสามีภรรยากันผมหวงคุณก็ไม่เห็นแปลกนี่ครับเพราะของอะไรที่เป็นของผมผมก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเท่าไร""เราจะแต่งงานกันอยู่แล้วอย่าหาเรื่องทะเลาะกันเลยนะคะ" ว่านรักดึงชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเธอก่อนจะพูดถึงเรื่องแต่งงานพร้อมจ้องตาเขาไปด้วยหวังว่าวิธีนี้จะทำให้ไรอันไม่ถามอะไรเธออีก Rrrrr "ว่าไงเม...อะไรนะโอเคเดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้" มือน้อยยกมือถือที่กำลังดังขึ้นมารับสายเมื่อรู้ถึงธุระของปลายสายเธอจึงหมายจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปที่ไร่ทันทีนับว่าเมษาช่างโทรมาหาเธอได้ถูกเวลาจริงๆ"คุณจะไปไหน..""วัวหลุดจากคอกค่ะตอนนี้หากันไม่เจอฉันต้องไปช่วยหา..""ผมไปด้วย" ไรอันรีบลุกหมายจะไปกับว่านรัก"ไม่ต้องหรอกฉันจะรีบไปรีบกลับ" "ก็ได้" แต่เขาก็ต้องหย่อนก้น