"โอ้ย" คนที่ชอบหยอกเพื่อนรีบเอาหลังมือถูหัวเมื่อถูกว่านรักเคาะด้วยกำปั้น
"ทำหน้าตาตื่นเต้นเพราะแกนั่นแหละทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้"
"ให้บอกความจริงตาไปเลยไหมล่ะอีตานั่นจะได้ถูกคนที่นี่รุมยำตาย" เมษาพูดอย่างลอยหน้าลอยตา
"ไม่ๆๆ.. " ว่านรักรีบส่ายหัวทันทีเพราะเธอก็ไม่ใช่คนใจร้ายที่จะเห็นใครถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาได้
"ฉันก็พึ่งเห็นคนอะไรสงสารคนที่จะฆ่าตัวเอง" เมษาบุ้ยปาก
"ก็ตอนนี้อีตานั่นไม่รู้เรื่องรู้ราวนี่นาถ้าฉันปล่อยให้เค้าถูกทำร้ายก็แย่เกินคนแล้ว"
"ฉันอยากจะรู้จริงจริ๊งว่าจะมีคนดีอย่างแกสักกี่คนเนี่ย"
"เที่ยงแล้วไปหาข้าวกินกันเถอะ..อ่อ..ฉันลืมหยิบปิ่นโตมากินกับแกก็แล้วกัน" ว่านรักเห็นว่านี่ก็น่าจะเที่ยงแล้วเพราะพระอาทิตย์ลงหัวอีกอย่างเหล่าคนที่ทำไร่อยู่ใกล้กันก็นั่งจับกลุ่มล้อมวงกินข้าวกันหมดแล้วจึงรีบชวนเมษาไปเข้าร่มไม้ตั้งวงกินข้าวกัน
"ได้สิเมื่อเช้าตาก็ตักข้าวใส่ปิ่นโตมาเผื่อแกอยู่แล้ววันนี้มีแกงส้มผักรวมกับปลาเค็มของโปรดแกด้วย"
"งั้นรีบเลย" ได้ยินเช่นนี้ว่ารักจึงรีบสับขาเข้าไปในร่มทันทีเพราะวันนี้มีของโปรดของเธอ
ไรอันเดินเข้ามาในไร่พร้อมกับปิ่นโตในมือเพราะเขาเข้าใจว่าว่านรักน่าจะลืมและตอนนี้เธอก็น่าจะหิวแล้วเพราะเลยเที่ยงมาพอสมควร
"ขอโทษนะครับเห็นว่านไหมครับ" ด้วยไม่รู้ว่าว่านรักอยู่ที่ไหนเมื่อเห็นคนจับกลุ่มกันกำลังกินข้าวจึงรีบเดินเข้าไปถาม
"อ่อ..อยู่ไร่โน้นน่ะพ่อหนุ่ม" หญิงวัยกลางคนชี้ไม้ชีมือให้ชายหนุ่มเดินตรงไปเพราะรู้ดีว่าว่านรักคงจะอยู่ในแปลงผักของหนูนา
"ขอบคุณครับ" เมื่อได้รับคำตอบจึงรีบจ้ำฝีเท้าเดินผ่าแดดไปทันที
"ผัวหนูว่านนี่ก็หล่อเนาะ"
"นั่นสิ..นี่ก็คงจะเอากับข้าวไปให้เมียสินะดูซิเจ็บอยู่ยังมีกะใจห่วงเมียอีก" หลังจากที่ชายหนุ่มเดินไปพ้นแล้วก็เป็นธรรมดาของความเป็นชาวบ้านที่กำลังนั่งจับกลุ่มกันพูดถึงชายหนุ่มเมื่อครู่
ทางด้านสามสาวหนูนาว่านรักและเมษาก็จัดการแกะปิ่นโตวางอาหารกันก่อนจะลงมือกินก็ล้างไม้ล้างมือกันยกใหญ่
"เหนื่อยไหมหนูนาทำงานทุกวันเลย" ว่ารักเห็นหนูนาเนื้อตัวแดงไปหมดโดยเฉพาะหน้าจึงเอ่ยถามด้วยความเอ็นดูเพราะเธอไม่เคยเห็นเด็กสาววัยเรียนที่ไหนขยันทำไร่ทำสวนเท่าหนูนามาก่อนเลย
"พ่อกับแม่ทำงานไม่ได้นี่จ้ะหนูก็ต้องลุยให้สุดเท่าที่จะทำได้" หนูนาส่ายหัวเบาๆจะเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยเธอก็หยุดทำตรงนี้ไม่ได้อยู่แล้ว
"ขยันดีนะเรา"
"นั่นใครอะพี่ว่าน" หนูนาเหลือบเห็นชายร่างสูงใหญ่เดินถือปิ่นโตผ่าแดดเปรี้ยงมาจึงรีบชี้ให้ทุกคนดู
"ไรอัน" ว่านรักรีบลุกไปหาไรอันทันทีไม่รู้ว่าแดดเปรี้ยงแบบนี้จะทำให้เขาไม่สบายขึ้นมาอีกหรือเปล่า
"นั่นผัวพี่ว่านเหรอพี่เม" หนูนาเดาว่าชายต่างชาติคนนี้น่าจะเป็นสามีของว่านรักอย่างที่คนไนไร่เขาคุยกันก่อนจะหันมาถามเมษาเพื่อให้แน่ใจ
"อืม.. "
"ขนาดมีผ้าพันแผลติดอยู่ยังดูดีเลยเนอะถ้าสองคนนี้มีลูกด้วยกันคงน่ารักมากแน่ๆเลย" หนูนาเอ่ยชมสองสามีภรรยาที่กำลังเดินกลับมานั่งที่ใต้ร่มไม้
"อืม..ก็น่าจะใช่" เมษายิ้มแหยเล็กน้อยหากสองคนนี้รักกันจริงอย่างที่หนูนาว่าก็คงจะเป็นไปได้แต่เรื่องจริงมันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดแม้แต่นิดเดียว
"ผมเห็นมันตั้งอยู่หน้าบ้านคิดว่าคุณน่าจะลืมเลยเอามาให้" ร่างสูงหย่อนก้นลงนั่งที่แคร่ไม้ก่อนจะวางปิ่นโตตรงกลางวง
"ทีหลังไม่ต้องค่ะ" ว่านรักเอ่ยเสียงแข็งหากเขาล้มป่วยอีกจะเป็นปัญหากับเธอมากกว่า
"ผมไม่รู้นี่ครับ" คนตัวโตที่นึกว่าจะได้คำชมจึงมีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่ต้องทำหน้าหงอยหรอกคุณไรอันว่านมันก็แค่ไม่อยากให้คุณออกมาตากแดดตากลมอยู่ข้างนอก" เมษาเห็นหน้าตาไรอันที่ละห้อยลงก็เกิดสงสารจึงรีบแก้ตัวแทนว่านรักว่าเมื่อครู่เพื่อนเธอไม่ได้ดุก่อนจะอมยิ้มอ่อนคิดในใจว่าหากไรอันอยู่ในโอวาทว่านรักแบบนี้ไปตลอดก็คงจะดี
"หวัดดีจ่ะพี่ไรอันหนูชื่อหนูนานะจ้ะ" หนูนารีบยกมือสวัสดีพี่เขยตรงหน้าก่อนจะแนะนำตัวเสียงดังฉะฉาน
"สวัสดีครับหนูนา" ไรอันยิ้มรับอย่างเป็นมิตร
"พวกพี่สองคนถ้าแต่งงานกันเรียบร้อยแล้วก็รีบมีลูกเลยนะจ้ะฉันอยากให้มีเด็กเล็กๆวิ่งอยู่ในไร่คงจะครึกครื้นดี" คำพูดที่ดูอยากจะให้เหตุการณ์ที่ของเกิดขึ้นเร็วๆของหนูนาเธอไม่รู้เลยว่าทำให้ว่านรักถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอ
"อืม...ก็ดีนะ" เมษาเอ่ยเสริมหนูนาเพราะต้องการหยอกว่านรักเล่นแต่ก็ถูกว่านรักถลึงตาใส่
"....." ไรอันเองก็เอาแต่อมยิ้มไม่ได้ตอบอะไรเพราะเขาต้องการดูทีท่าว่าว่านรักจะตอบหนูนาว่าอย่างไร
"คงยังหรอกหนูนาพี่อยากทำงานก่อนน่ะ" ว่านรักรีบส่ายหัวตอบปฏิเสธหนูนาก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่พูดไม่จาเพราะไม่อยากให้ใครถามอะไรอีก
"เรื่องที่หนูนาถามเมื่อกลางวันคุณไม่อยากมีลูกตอนนี้หรือไม่คิดอยากจะมีลูกคุณตอบผมได้หรือเปล่า" ตกดึกเมื่อไรอันเห็นว่าตอนนี้ว่านรักกำลังจะปิดไฟนอนแล้วเขาจึงต้องรีบถามคำถามที่คาใจอยู่ตั้งแต่เมื่อกลางวันเพราะเขามองไม่ออกเลยว่าว่านรักไม่อยากมีลูกตอนนี้หรือไม่อยากมีลูกเลยกันแน่เพราะเขามองตาเธอทีไรมันก็มีแต่ความว่างเปล่าไม่ได้มีแววตาของความเป็นคนรักเลยสักนิด
"ฉันคิดว่าเราควรจะสร้างตัวกันอีกสักนิดค่ะ" ว่านรักเอ่ยปัดให้จบๆไปก่อนจะปิดไฟนอนแม้นภายนอกเธอจะไม่มีอาการอะไรแต่หัวใจเธอเต้นไม่ค่อยจะเป็นส่ำเพราะไม่รู้เลยว่าวันหน้าเธอจะเจอคำถามหรือเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ลำบากใจอีก"อ๋อ...ผมเข้าใจแล้ว" ไรอันเอ่ยเสียงอ่อนแม้นหญิงสาวจะตอบเขามาแบบนั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าในใจของเขายังคงมีความสงสัยอยู่ก็หาคำตอบกับตัวเองไม่ได้อีกเหมือนกันเช้าวันต่อมา"...." ไรอันตื่นมาในช่วงเช้าตรู่เขาเห็นนอนมองหญิงสาวอยู่พักใหญ่โดยที่ยังไม่ปลุกเธอริมฝีปากหนาอมยิ้มอ่อนเมื่อมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังหลับตาพริ้มนี้เขาอยากจำได้เหลือเกินว่าตอนนั้นเขาตกหลุมรักเธอเพราะความน่ารักนี้หรือไม่แต่ตอนนี้เขาคิดว่าคงจะใช่และภาวนาในใจของให้เขาจำเรื่องราวก่อนหน้าได้เร็วๆจะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยอะไรให้มันอึดอัดหัวใจ ช่วงสาย"ผมไปไร่กับคุณด้วยได้หรือเปล่า" ไรอันเดินตามว่านรักออกมาจากบ้านก่อนจะขอเธอไปที่ไร่ด้วย"จะไปตากแดดตากลมทำไมคะอยู่ที่บ้านดีแล้วค่ะ..." "ผมไปอยู่ที่บ้านตาก็ได้" "ก็ได้" คนที่ขี้เกียจจะเถียงกับชายหนุ่มตอนนี้ยอมให้เขาตามเธอไปแต่โดยดีเพราะรู้ว่าถ้าเธอห้ามตอนนี้ไม่เที่ยงก็เย็นเธอ
"พ่อเลี้ยงนั่นสนิทกับคุณมากเลยใช่ไหม" เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ไรอันก็โพร่งถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของว่ารักกับบุญทวีทันที"ก็พอสมควรค่ะ""เรื่องที่ผมต้องมาง้อคุณที่นี่มันเกิดจากอะไรกันแน่ครับ" น้ำเสียงของไรอันเริ่มเปลี่ยนไปจนว่ารักเองก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนักที่ดูเหมือนว่าเขากำลังจับผิดเธออยู่ตลอดเวลา"ก็เกิดจากเรื่องทั่วไปนั่นแหละค่ะไม่มีอะไร...แล้วฉันก็ไม่ได้โกรธคุณแล้วด้วย" "ผมกำลังคิดว่าอาจจะเป็นเพราะคุณหาเรื่องผมแล้วกลับมาหาคนที่คุณรักก็ได้""มโนอะไรของคุณคะ" ใบหน้าหวานเริ่มคิ้วผูกโบว์"สายตาคุณมันฟ้องเวลาที่คุณมองเค้า..ต่างจากที่มองผม" ร่างสูงยื่นมือทั้งสองจับบ่าของหญิงสาวให้มองตาเขาก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ปนน้อยใจออกมา"ไร้สาระกันใหญ่แล้วค่ะ...ถ้าฉันรักเค้าฉันจะบอกคุณทำไมคะว่าฉันเป็นภรรยาคุณฉันจะบอกกับคุณก็ได้ว่าเราเลิกกันแล้วในตอนคุณฟื้น..คุณลองคิดสิคะ" "...ผมคงคิดไปเองขอโทษแล้วกัน..." พอได้ยินคำยืนยันจากปากของหญิงสาวให้มั่นใจแบบนี้เขาจึงลดความระแวงได้ครึ่งหนึ่งก่อนจะขอโทษร่างบางที่เขาทำให้เธอต้องมาอารมณ์เสียเพราะเขา อาทิตย์ต่อมาหลังจากที่ไรอันได้กลับมาพักที่บ้านหลายวันร่างกาย
"ผมว่าผมดูออกว่าพ่อเลี้ยงนั่นชอบคุณ" ไรอันเก็บอาการไว้ตั้งแต่ที่วัดเมื่อมาถึงบ้านยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้หย่อนก้นนั่งพักเขาก็เอ่ยถึงเรื่องบุญทวีทันที"คุณไรอันฉันคิดว่าเราคุยกันจบตั้งแต่ที่วัดแล้วนะคะ...ทำอย่างกับคุณหึงฉันอย่างนั้นแหละทั้งที่เรา.. " ว่านรักเกือบเผลอหลุดปากทำให้ไรอันถึงกับขมวดคิ้วมองหญิงสาวอย่างสงสัยมากกว่าเดิม"เราทำไมเหรอ...เราเป็นสามีภรรยากันผมหวงคุณก็ไม่เห็นแปลกนี่ครับเพราะของอะไรที่เป็นของผมผมก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเท่าไร""เราจะแต่งงานกันอยู่แล้วอย่าหาเรื่องทะเลาะกันเลยนะคะ" ว่านรักดึงชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเธอก่อนจะพูดถึงเรื่องแต่งงานพร้อมจ้องตาเขาไปด้วยหวังว่าวิธีนี้จะทำให้ไรอันไม่ถามอะไรเธออีก Rrrrr "ว่าไงเม...อะไรนะโอเคเดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้" มือน้อยยกมือถือที่กำลังดังขึ้นมารับสายเมื่อรู้ถึงธุระของปลายสายเธอจึงหมายจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปที่ไร่ทันทีนับว่าเมษาช่างโทรมาหาเธอได้ถูกเวลาจริงๆ"คุณจะไปไหน..""วัวหลุดจากคอกค่ะตอนนี้หากันไม่เจอฉันต้องไปช่วยหา..""ผมไปด้วย" ไรอันรีบลุกหมายจะไปกับว่านรัก"ไม่ต้องหรอกฉันจะรีบไปรีบกลับ" "ก็ได้" แต่เขาก็ต้องหย่อนก้น
"อืม...เจ็บ" ว่านรักตอนนี้เธอน่าจะมีบาดแผลอยู่ตามเนื้อตัวและที่เดินๆก็คือมีแผลแตกที่ไรผมด้านหน้าเธอระบมไปทั้งตัวจึงทำได้แค่ขยับลืมตาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงคนเรียก"ผมจะพาคุณกลับบ้านเอง" ไรอันรีบไต่ลงมาหาหญิงสาวอย่างรวดเร็วเดขายังไม่ยอมขยับร่างของเธอเพราะมีความคิดบางอย่างที่เหมือนเคยอยู่ในสมองสั่งให้เขารู้ว่าหากคนเจ็บด้วยอุบัติเหตุแบบนี้อย่าขยับร่างจนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือเพราะหากกระดูกสันหลังผู้ป่วยบาดเจ็บอยู่แล้วอาจจะทำให้เป็นอัมพาตได้เขาจึงทำได้แค่ฉีกเสื้อของเขาพันหัวว่านรักเพื่อห้ามเธอเอาไว้และจับมือหญิงสาวเอาไว้หลวมๆก่อนจะส่งเสียงเรียกคนด้านบนเป็นระยะให้รู้ว่าตำแหน่งของพวกเขาอยู่ตรงไหนทั้งสองอยู่แบบนี้ร่วมสองสามชั่วโมงกว่าพวกเจ้าหน้าที่ก็ทำการช่วยเหลือทั้งสองได้สำเร็จ โรงพยาบาลตอนนี้ว่ารักมานอนพักที่ห้องพักผู้ป่วยในแล้วหลังจากตรวจร่างกายเสร็จส่วนไรอันตอนนี้หมอกำลังตรวจอยู่อีกไม่นานก็น่าจะเรียบร้อย"เป็นยังไงบ้างดีนะที่ไรอันช่วยแกไว้ได้เร็ว" "ช่วยเหรอ" ว่านรักไม่รู้เลยว่าตอนนั้นใครอยู่กับเธอเมื่อรู้ว่าเป็นไรอันก็แอบตกใจอยู่มากไม่คิดว่าเขาจะยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเธอขนาดนี้
"คุณอยู่ในนี้ฉันจะอาบน้ำยังไงฉันเป็นผู้หญิงนะคะ" "คุณพูดอย่างกับอายสามีตัวเองอย่างนั้น" "งั้นคุณก็ห้ามหันมานะคะ" "โอเค" ด้วยความรั้นของไรอันทำให้ว่านรักต้องจำใจให้เขายืนอยู่ในห้องน้ำกับเธอด้วยแม้นจะต้องอาบไประแวงไปก็เถอะครู่ต่อมา"ไรอัน..ปล่อยฉันเดินเองได้ค่ะ" ไรอันอุ้มว่านรักที่พันตัวด้วยผ้าขนหนูสีข่าวผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำ"ผมจะอุ้มคุณไปโน่นมานี่จนกว่าคุณจะหายดี" ไรอันไม่สะทกสะท้านต่อคำปฏิเสธของว่านรักแม้แต่น้อย"แขนคุณนั่นแหละค่ะจะหนักกว่าเดิมพี่หมอบอกแล้วนี่ค่ะว่าห้ามยกอะไรหนักๆ""สำหรับคุณผมถือว่าไม่ใช่ของหนัก" คนตัวโตไม่ยอมทำตามที่หญิงสาวบอกทั้งยังตอบกลับด้วยสีหน้าทะเล้น"เถียงเก่งจังเลยนะคะ" ฟอดดดด คนตัวโตวางร่างบางลงที่หน้าตู้เสื้อผ้าก่อนจะกดหอมแก้มนวลเธอไปฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยว"นี่คุณ.." ว่านรักตัวชาวาบไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกระทำแบบนี้โดยที่เธอไม่ได้ตั้งตัว"เวลาคุณอาบน้ำใหม่ๆหอมดีเหมือนกันนะ...""ห้ามทำแบบนี้อีกนะคะ" ดวงตากลมโตมองค้อนชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ"อีกแล้วนะคุณทำเหมือนผมไม่ใช่สามีคุณอีกแล้ว" ไรอันก้มลงมาจ้องหน้าของว่านรักก่อนจะมองจ้องดวงตาของเธอด้วยสายตาละ
วันต่อมา"วันนี้คุณไม่ไปไร่กับฉันเหรอ" ว่านรักเอ่ยถามไรอันเมื่อเห็นว่าเขายังไม่แต่งตัวเตรียมจะออกไปไร่ในขณะที่เธอจัดการเรียบร้อยแล้ว"ไม่หรอกครับ...วันนี้ท่าจะร้อน" ไรอันยังไม่ยอมบอกกับว่านรักว่าวันนี้เขาจะไปทำอะไร"อ่อ..งั้นฉันไปนะคะ""ครับ"ว่านรักเดินออกจากบ้านไปด้วยสีหน้าสงสัยที่วันนี้ไรอันมาแปลกเพราะทุกวันอยากจะตามเธอไปไร่ให้ได้แต่วันนี้กลับกลัวร้อนทั้งที่วันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนแต่เช้าช่วงบ่ายของวันสนามมวย"ผัวหนูว่านนี่จะไหวเหรอพ่อดูทรงไม่น่าจะต่อยมวยเป็น" เมื่อย่างเข้ายกที่สองของการแข่งต่อยมวยของไรอันปราโมทย์และมนัสต่างก็ยืนกุมขมับเพราะดูท่าไรอันจะเสียเปรียบอยู่มากเสียงเชียร์ตอนนี้ก็เป็นของอีกฝ่ายพวกเขายิ่งไม่มีกำลังใจเข้าไปใหญ่"ข้าก็ลืมลองดูเชิงซะอีก..เฮ้อ.." ปราโมทย์เห็นว่าไรอันมั่นอกมั่นใจเขาก็คิดว่าหลานเขยคนนี้พอจะเป็นมวยอยู่บ้างแต่ไม่เลย พลั้กก... ตุ้บบบบ.. ตั้บบบ"ต่อยบ้างสิวะ" "มาต่อยมวยนะโว้ยไม่ได้ยืนเป็นกระสอบทราย5555" เสียงของคนที่ตะโกนหัวเราะใส่ไรอันทำให้ปราโมทย์และมนัสไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนักแถมตอนนี้ไรอันยังดูจะมึนหมัดอีกฝ่ายเข้าไปอีก“..อืม..” ไรอันสลัดภาพซ้อน
"ตกลงพวกเอ็งจะมาช่วยงานหรือจะมาซักประวัติเค้ากันแน่" ปราโมทย์รู้ดีว่าว่านรักไม่ไช่จะโกรธใครง่ายๆจึงรีบเอ่ยปากตำหนิแน่งน้อย"แค่ถามเฉยๆน่ะฉันไปล่ะ" พอเหมือนจะถูกรุมแน่งน้อยจึงรีบเดินออกไปนั่งกับกลุ่มที่ทำกับข้าวทันทีเพราะดูท่าทางนี้จะไม่มีอะไรให้เธอได้สนุกปากแล้ว"อย่าไปใส่ใจเลยว่าน" ปราโมทย์ยกมือจับบ่าว่านรักในขณะที่หลานสาวตนยืนกำมือแน่นด้วยความโกรธ“....” ว่านรักเดินออกไปหลังบ้านเพื่อไปสงบสติอารมณ์เพราะไม่อยากจะอารมณ์เสียให้คนที่มาช่วยงานเห็นเท่าไร"นี่ดูว่านจะหงุดหงิดมากเลยนะครับ" ไรอันไม่ได้ใส่ใจคำพูดของแน่งน้อยแม้แต่นิดเดียวแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมว่านรักจึงต้องโกรธขนาดนั้น"แหงล่ะ..ยัยว่านรักศักดิ์ศรียิ่งกว่าอะไรดียิ่งกับคนที่ตัวเองรักนะยิ่งรักยิ่งกว่า" เมษาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยถึงนิสัยลึกๆของว่านรักออกมา"เป็นเรื่องปกตินั่นแหละพ่อหนุ่มที่เมียเราจะโมโหถ้ามีใครมาดูถูกเรา" ปราโมทย์เห็นว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติเพราะคนเราก็ต้องไม่พอใจเป็นธรรมดาที่มีคนมาดูถูกคนรักของตัวเอง"ครับ" "หืม..." เมษาเดินออกมาหลังบ้านตั้งใจจะไปหาว่านรักแต่เธอกลับนึกถึงคำพูดของเธอเมื่อครู่ที่ว่าว่านรักรักศักดิ
"วันนี้คุณสวยมากๆเลยนะครับ" พอถึงเวลาที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองไรอันก็กล้าที่จะเอ่ยชมหญิงสาวหลังจากเก็บคำนี้มาตั้งแต่เมื่อเช้า "ก็ชุดเดิมที่ฉันเคยใส่ไงคะ" ดวงตากลมโตหลุบมองต่ำแอบหน้าแดงเล็กน้อย "แต่วันนี้คุณก็สวยที่สุดอยู่ดี..ถึงผมจะยังจำอะไรไม่ได้หลังจากนี้ผมจะช่วยคุณหาเงินเองเราจะสร้างครอบครัวไปด้วยกันนะครับ" มือหนายื่นกุมมือเรียวของคนเป็นภรรยาเอาไว้หลวมๆ"ค่ะ.." ฟอดดด "โทษทีที่ผมลืมบอกคุณก่อน" สาวเจ้าก้มหน้างุดเมื่อถูกคนตัวโตรวบกอดหมอฟอดใหญ่โดยที่เธอก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธอะไร หลายวันต่อมาความสัมพันธ์ของว่านรักกับไรอันดีขึ้นมากเพราะชายหนุ่มเข้าไร่ช่วยงานว่านรักทุกวันไม่มีบ่นแม้จะตากแดดจนตัวแดงไปหมดก็ตามคนในไร่ต่างก็ชื่นชมไรอันที่ขยันทำทุกอย่างเสร็จงานตัวเองก็มาช่วยงานที่แปลงอื่นจึงคนที่นี่เริ่มเอ็นดูไรอันกว่าเดิมเยอะ บ่ายคล้อยตกเย็นว่านรักกับเมษามานั่งคุยกันที่แคร่ไม้ใต้ต้นมะม่วงใหญ่สายตาของทั้งคู่มองไปที่ไรอันกำลังช่วยงานแปลงผักอีกแปลงเป็นของอาคมอยู่ไกลๆ"ดูท่าตานั่นจะเป็นขวัญใจคนที่นี่ซะแล้วสิ" เมษาเอ่ยบอกกับว่านรักที่นั่งอยู่ข้