"...." สิ้นเสียงของมินแฮนาเมษาก็ตัวชาวาบพูดอะไรไม่ออกน้ำตารื้นขึ้นมากะทันหัน"คุณคิดว่าเค้าเป็นผู้ชายประเภทไหนก็คิดเอานะคะ" มินแฮนาเห็นท่าทีของเมษาเธอก็ค่อนข้างพอใจเมื่อว่าจบก็หันหลังกลับออกไปทันที ในส่วนของเมษาหลังจากที่มินแฮนากลับไปแล้วเธอก็เดินเข้ามาในบ้านร้องให้อย่างคนที่ไร้สติจนว่านรักต้องรีบถามด้วยความตกใจ"เม..เม...เป็นอะไร""ฮึก..ฮือๆๆๆ..ฮื่อๆๆๆๆ...ฉันมันโง่เอง""ใจเย็นๆก่อนนะ" ว่านรักพาเมษามานั่งที่โซฟาปลอบใจอยู่พักใหญ่จนได้คำตอบจากเมษาว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทางด้านเจคอปตอนนี้ก็อยู่รอเมษากลับมาที่บ้านของไรอันเขายังยุ่งกับการคุยโทรศัพท์เรื่องที่บ้านไม่น้อยเพราะต้องการให้คนรื้อห้องของมินโฮรินไปให้เร็วที่สุดไม่ใช่ว่าเขาพึ่งจะอยากรื้อแต่เขาเองก็พึ่งจะมีเวลาอยู่บ้านนานๆก็คราวนี้"ครับรื้อของห้องนั้นให้หมดเลย.." "รื้ออะไรของแก" ไรอันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเพื่อนของเขาคุยโทรศัพท์จบ"พวกห้องเก่าโฮริน...พึ่งจะได้ฤกษ์รื้อนานๆจะอยู่บ้านที""อืม...รื้อก็ดีแล้วล่ะ" ไรอันเห็นด้วยที่เจคอปจะรื้อเพราะหาเมษารู้ว่าของพวกนั้นเป็นของใครเธอก็คงจะไม่โอเคเท่าไรนัก"ไปไหนกันมาเหรอครับ" เจ
"ยากล่อมประสาทนิดหน่อย...เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการจัดการกับเธอไง..หึ่..พี่สาวฉันเองฉันยังจัดการให้พ้นทางเลยนับประสาอะไรกับคนอื่นอย่างเธอ" ยาที่มินแฮนาใส่ให้เมษาเป็นเพียงยาที่ทำให้เป็นอมพาตทั้งตัวชั่วคราวแต่คนที่ทานเข้าไปจะได้ยินทุกอย่างที่เธอพูดแต่ต่อต้านอะไรเธอไม่ได้"เธอนี่มัน..อือ.." เมษานอนแน่นิ่งน้ำตาไหล"ยานี่ไม่ทำให้เธอหลับหรอกนะแค่มึนๆเธอจะได้เห็นเวลาที่เลือดเธอไหลนองบนพื้นยังไงล่ะ" มินแฮนานั่งลงตรงหน้าของเมษาก่อนจะชูมีดพกขึ้นมาและพูดด้วยท่าทีที่ไม่สะทกสะท้านว่าการทำร้ายหรือฆ่าคนมันผิด"อือ..." เมษากลัวจนน้ำตาไหลพรากพยายามจะขยับตัวเท่าไรเธอก็ขยับไม่ได้แกร๊กกและแล้วทั้งสองหนุ่มก็เข้ามาช่วยเมษาได้ทันเพราะเขาถามพนักงานที่นี่แล้วว่ามินแฮนาพาใครมาที่นี่หรือเปล่าและเขาก็ได้รู้ว่ามินแฮนาพาเมษามาที่นี่จริงๆจึงรีบขอคีย์การ์ดสำรองขึ้นมาที่ห้องของมินแฮนา"ทำอะไรของคุณ" เจคอปเข้ามาเห็นมินแฮนาถทอมีดอยู่จึงผลักเธอออกไปอย่างรวดเร็วทันที“เมษา...” ไรอันเข้ามาดูเมษาก็รู้ว่าเธอน่าจะถูกมอมยาแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่นอนนิ่งเอาแต่น้ำตาไหลอยู่แบบนี้ไม่อยากจะคิดว่าหากพวกเขาเข้ามาไม่ทันอะไรจะเ
ไร่ปาริชาตยามสายของวันแดดกำลังอ่อนๆคนงานในไร่ปาริชาตต่างก็แยกย้ายกันทำหน้าที่ของตนแประจำที่ห่างกันไม่มากนักบางคนลงผักใหม่บางคนดายหญ้าบางคนเก็บผลผลิตนับเป็นภาพที่น่าสบายตายิ่งนักไร่ปาริชาตนี้มีอาณาเขตอยู่ที่ภาคเหนือของประเทศไทยกินเนื้อที่เกือบพันไร่เดิมทีเป็นของคุณหญิงปาริชาตภรรยาท่านทูตหลังจากที่เธอเสียแล้วไร่นี้ก็ตกเป็นของปฐพีลูกชายคนเดียวของเธอด้วยปฐพีไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นานๆจะกลับมาสักครั้งเลยตั้งให้คนเก่าคนแก่ที่อยู่กับไร่นี้มานานอย่างปราโมทย์เป็นคนดูแลทุกอย่างของไร่และให้คนที่ไม่มีที่ทำกินมาทำไร่ที่นี่ฟรีโดยมีปราโมทย์เป็นคนจัดการแบ่งสันปันส่วนให้เท่าๆกันเมื่อปฐพีได้เสียชีวิตไปแล้วสมบัติทุกอย่างก็ตกอยู่กับเขมิกาซึ่งเธอก็ไม่ได้ดูดำดูดีไร่นี้เท่าไรนักจนคนในไร่ก็หวั่นใจกันว่าที่นี่อาจจะถูกขายเพราะเขมิกาไม่เคยให้คำตอบพวกคนในไร่เลยว่าจะให้พวกเขานั้นอยู่ต่อกันหรือไม่ 20.00 น.“กลับมากันซะดึกเลยลูกเจ้าคมผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ” ชายชราอย่างปราโมทย์ที่นั่งอยู่บนชายเรือนไม้หลังใหญ่เห็นหลานสาวทั้งสองกลับมาบ้านเลยเอ่ยถามถึงเรื่องลูกของอาคมที่พึ่งคลอดว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย“ผู้หญิงจ่ะ
“อะไรนะเค้าเคยจะตามฆ่าแกเหรอ...เค้าจะแค้นแกเรื่องอะไรในเมื่อทุกอย่างมันก็เป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิด แล้วเค้าใหญ่มาจากไหนถึงขนาดจะฆ่าใครก็ทำเป็นว่าเล่นแบบนี้” ว่านรักเล่าให้เมษาฟังว่ามาคนๆคนนี้ตามฆ่าเธอเพราะเธอดันไปขับรถชนน้องสาวของเขาจนตายและที่เธอหนีมาอยู่ที่ไร่นี้ก็เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยถูกตามล่ามาแล้วรอบหนึ่งเมษที่ฟังอยู่ถึงกับกำมือแน่นไม่ อยากจะคิดเลยว่าจะมีคนที่จิตใจโหดเหี้ยมแบบนี้อยู่จริงๆ“ถ้าเป็นคนธรรมดาฉันคงไม่ต้องหนีมาอยู่ที่นี่หรอก นั่นไรอัน ฮิลล์ มาเฟียใหญ่ที่โน่นเลย” ว่านรักเอ่ยด้วยสีหน้าละห้อย“ฉันถามแกจริงๆนะว่านแกเป็นคนประมาทจนขับรถชนคนขนาดนั้นเลยเหรอ” เมษาคิดไปคิดเธอไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนเธอจะประมาทถึงขนาดนั้นได้อย่างไร“คือ..ก็..วันนั้นฉันดื่มมานิดหน่อย” ใบหน้านวลเอ่ยจบก็หลบสายตาคนที่กำลังจ้องอยู่เล็กน้อยคำตอบและพฤติกรรมของว่านรักทำให้เมษารู้ได้ทันทีเลยว่าเพื่อนเธอกำลังโกหก“แกโกหก..ฉันจำได้ว่าแกแพ้แอลกอฮอลล์...บอกมาให้หมดไม่อย่างนั้นฉันจะเค้นแกให้รำคาญตายไปเลย” มือน้อยยกชี้หน้าว่านรักก่อนจะเอ่ยเสียงแข็งคาดโทษ“เอ่อ..คือ...” “พูดมาเดี๋ยวนี้” หลังจากถูกเค้นคร
“ไม่ทันแล้วมั้งแก...” ไม่ทันที่สองสาวจะคุยกันขบดีจู่ๆก็มีรถหรูวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้านและมีชายหนุ่มร่างสูงเปิดประตูออกมาจากรถยืนตระหง่านจ้องมองหาใครบางคนอยู่“ขับออกไปเลย” เมษารีบให้ว่ารักเหยียบคันเร่งพุงออกไปจากโรงรถอย่างรวดเร็ว“ไม่มีคนอยู่หรือไง” คิ้วเข้มหนาของไรอันขมวดเป็นปมก่อนจะเดินเข้าใต้ถุนบ้านเพื่อมองหาคนเพราะเมื่อวานเขาก็นั่งคุยกับชายชราตรงนี้บรู๊นนนน“ว่านรัก” ไรอันตะโกนเรียกคนที่กำลังขับรถออกไปเสียงฝาดเขารีบวิ่งกลับไปที่รถขับตามรถกระบะคันเก่าที่ไม่มีแม้กระจกออกไปทันที“แน่ในนะว่ากระบะคันนี้มันจะพาเราไปรอดน่ะ” ว่านรักเหยียบจนสุดคันเร่งแล้วเจ้ารถกระบะคันนี้ไม่มีทีท่าว่าจะหนีคนที่ตามพ้นเลยเธอเอ่ยมาอย่างอ่อนใจกับเมษาเพราะไม่ค่อยเชื่อมั่นศักยภาพรถคันนี้เท่าไรนักเพราะส่วนมากรถคันนี้จะใช้ขนผักในไร่มากกว่าจะขับออกไปข้างนอกคันดีๆตาพวกเธอก็เอาขับเข้าไร่ไปแล้วเมื่อเช้าตรู่“เชื่อฉัน...คันนี้แหละเข้าป่าเข้ารกดีนักล่ะรถหรูๆแบบนั้นตามเรามาไม่ได้หรอก” เมษาที่กำลังควานหาอะไรบางอย่างในรถเอ่ยให้ว่านรักเชื่อใจเขจ้ารถคันนี้เพราะมั่นใจว่ารถหรูของไรอันที่โหลดต่ำขนาดนั้นขับมาไม่ทันพวกเธอแน่นอน
"เอาล่ะๆ.. ตาเข้าใจละที่เค้ามานี่ก็คงมามาง้อเพราะงอนกันสินะ" ปราโมทย์มองสองสาวที่เอาแต่ก้มหน้ากันอยู่ก็ค่อยๆยื่นมือตบบ่าว่านรักเบาๆเขาพอจะเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไรเพราะเขาก็เคยผ่านช่วงปัญหาวัยหนุ่มสาวมาก่อน"เอ่อ.. ค่ะ" ว่านรักจำต้องยอมรับเสียงอ่อนตามน้ำไปก่อนจะหันมาส่งสายตาคาดโทษให้เมษา หลังจากที่คุยกับปราโมทย์เรียบร้อยแล้วว่านรักก็ลากเมษาขึ้นมาคุยกันในห้องนอนของเมษาข้างบนบ้านไม้หลังใหญ่"แกไปบอกตาแบบนั้นได้ยังไง" น้ำเสียงว่านรักอู้อี้ด้วยความไม่พอใจ"อ้าวก็ตอนนั้นคิดได้แบบนั้นนี่แล้วแกคิดสิถ้าบอกความจริงตาไปเรื่องมันจะยาวไหมล่ะ""เฮ้อ.." และแล้วสาวเจ้าก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ในเมื่อแก้สถานการณ์อะไรไม่ได้แล้วเช้าวันต่อมา"อีหนูไม่ไปเยี่ยมผัวเราหรือไง" ปราโมทย์เห็นว่าว่านรักแต่งตัวจะเข้าไร่กับเมษาจึงร้องทักเอาไว้ก่อน"ไม่ไปจ่ะตาเดี๋ยวว่านจะไปช่วยหนูนาตัดกะหล่ำปลี" "ได้ยังไงผัวเจ็บเมียก็ต้องไปดูแลถึงจะเคืองใจกันอยู่ก็เถอะตาไม่เคยสอนให้เราทิฐินะลูก" "แต่ว่าหนู.." "เจ้าเมเราพาเพื่อนเราไปโรงพยาบาลเรื่องที่นี่ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวตาหาคนไปช่วยหนูนามันเอง" ยังไม่ทันที่ว่านรักจะได้เอ่
เย็นของวัน"โอ้ยย.. ปวดขาจังโว้ย" ปราโมทย์บ่นโอดครวญปวดขาในขณะที่มีหลานสาวอย่างเมษานวดให้อยู่"ก็ใครใช้ให้ตาไปทำเองล่ะจ้ะเผลอเมื่อไรเป็นหาเรื่องทำงานทุกทีถ้าเป็นอะไรไปอะไหล่หายากแล้วนะเนี่ย" เมษาบ่นอุกทุกครั้งที่พวกเธอเผลอเมื่อไรตาเธอเป็นอันต้องหนีไปทำงานในไร่ทุกทีขนาดสังขารไม่เอื้อยังจะมีมานะและก็ต้องเป็นเธอทุกครั้งที่ต้องมานั่งบีบนั่งนวดอยู่แบบนี้"อย่าบ่นข้านักเลยข้าหาคนช่วยหนูนามันไม่ได้ก็เลยทำซะเอง" ปราโมทย์เอ่ยปัดทั้งที่อันที่จริงเขาไม่ได้หาใครมาช่วยแต่อยากจะลงแรงเองมากกว่า"แล้วก็เป็นแบบนี้ทุกที" เมษาบุ้ยปาก"ตาจ๋าพรุ่งนี้หนูจะไปช่วยหนูนามันเอง" เมื่อว่านรักเห็นว่าไม่มีคนช่วยหนูนาแบบนี้เธอเลยอาสาเพราะไม่อยากไปที่โรงพยาบาล"ไม่ได้ๆไปดูแลผัวเราดีแล้ว" ปราโมทย์ส่ายหัว"เค้ามีหมอดูแลอยู่แล้วจ่ะตาไม่ไปหาสักวันสองวันไม่เป็นอะไรหรอก" ว่านรักยังคงมุ่งมั่นว่าอย่างไรเธอก็จะไปทำงานที่ไร่ดีกว่าไปนั่งอึดอัดอยู่ที่โรงพยาบาลและไม่อยากตอบคำถามอะไรไรอันด้วย"จริงอย่างที่ว่านมันพูดงานที่ไร่ก็ออกจะเยอะเดี๋ยวพวกหนูเผลอตาก็ไปเข้าไร่อีก" เมษาเอ่ยปากช่วยว่านรักอีกแรง"แล้วเราไม่เสียใจบ้างหรือไ
อเมริกาโรงพยาบาลXXX"คุณท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ" ลูคัสมาถึงโรงพยาบาลได้ก็รีบเข้ามาดูอาการเอมม่าทันที"ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกไรอันล่ะอยู่ไหน" หญิงชราไม่วายมองหาหลานชายคนโตของเธอซึ่งไม่ค่อยจะเห็นหน้าค่าตากันเท่าไรนัก"เอ่อ...คุณไรอันดูที่ดินอยู่ญี่ปุ่นน่ะครับ" ลูคัสจำต้องเอ่ยคำโกหกออกไปเพราะคนเป็นนายสั่งว่าไม่ให้ย่าของตนรู้เป็นเด็ดขาดว่าเขาอยู่ที่ไหนทำอะไรเมื่อเสร็จภารกิจแล้วจะรีบกลับมา"แล้วเมื่อไรจะกลับงั้นเหรอ""ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ""งั้นก็ไปบอกหมอเจมส์ให้ฉันทีว่าฉันขอไปพักรักษาตัวที่บ้าน" "คงไม่ได้หรอกครับคุณย่าผมยังปล่อยให้คุณย่ากลับไปไม่ได้หรอกครับนอนดูอาการที่นี่อีกสักสามวันเป็นอย่างต่ำนะครับ" หมอเจมส์ที่เปิดแประตูเข้ามาทันได้ยินเอมม่าเอ่ยกับเจคอปเขาจึงรีบเอ่ยปฏิเสธทันทีเพราะถ้าหากเขาปล่อยให้ย่าของเพื่อนกลับไปพักที่บ้านทั้งที่อาการยังไม่ดีมีหวังไรอันรู้เขาได้โดนกินหัวแน่หมอเจมส์เป็นหมอหนุ่มรุ่นเดียวกับไรอันเป็นทายาทหมื่นล้านเจ้าขอโรงพยาบาลหลายแห่งในยุโรปเพื่อนกับไรอันตั้งแต่เด็กๆเรียนมาด้วยกันตลอดจะไม่ค่อยได้เจอกันในช่วงที่มีการมีงานทำแต่นานๆก็จะนัดสังสรรค์กันทีเวลาที่ว่างตร
"ยากล่อมประสาทนิดหน่อย...เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการจัดการกับเธอไง..หึ่..พี่สาวฉันเองฉันยังจัดการให้พ้นทางเลยนับประสาอะไรกับคนอื่นอย่างเธอ" ยาที่มินแฮนาใส่ให้เมษาเป็นเพียงยาที่ทำให้เป็นอมพาตทั้งตัวชั่วคราวแต่คนที่ทานเข้าไปจะได้ยินทุกอย่างที่เธอพูดแต่ต่อต้านอะไรเธอไม่ได้"เธอนี่มัน..อือ.." เมษานอนแน่นิ่งน้ำตาไหล"ยานี่ไม่ทำให้เธอหลับหรอกนะแค่มึนๆเธอจะได้เห็นเวลาที่เลือดเธอไหลนองบนพื้นยังไงล่ะ" มินแฮนานั่งลงตรงหน้าของเมษาก่อนจะชูมีดพกขึ้นมาและพูดด้วยท่าทีที่ไม่สะทกสะท้านว่าการทำร้ายหรือฆ่าคนมันผิด"อือ..." เมษากลัวจนน้ำตาไหลพรากพยายามจะขยับตัวเท่าไรเธอก็ขยับไม่ได้แกร๊กกและแล้วทั้งสองหนุ่มก็เข้ามาช่วยเมษาได้ทันเพราะเขาถามพนักงานที่นี่แล้วว่ามินแฮนาพาใครมาที่นี่หรือเปล่าและเขาก็ได้รู้ว่ามินแฮนาพาเมษามาที่นี่จริงๆจึงรีบขอคีย์การ์ดสำรองขึ้นมาที่ห้องของมินแฮนา"ทำอะไรของคุณ" เจคอปเข้ามาเห็นมินแฮนาถทอมีดอยู่จึงผลักเธอออกไปอย่างรวดเร็วทันที“เมษา...” ไรอันเข้ามาดูเมษาก็รู้ว่าเธอน่าจะถูกมอมยาแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่นอนนิ่งเอาแต่น้ำตาไหลอยู่แบบนี้ไม่อยากจะคิดว่าหากพวกเขาเข้ามาไม่ทันอะไรจะเ
"...." สิ้นเสียงของมินแฮนาเมษาก็ตัวชาวาบพูดอะไรไม่ออกน้ำตารื้นขึ้นมากะทันหัน"คุณคิดว่าเค้าเป็นผู้ชายประเภทไหนก็คิดเอานะคะ" มินแฮนาเห็นท่าทีของเมษาเธอก็ค่อนข้างพอใจเมื่อว่าจบก็หันหลังกลับออกไปทันที ในส่วนของเมษาหลังจากที่มินแฮนากลับไปแล้วเธอก็เดินเข้ามาในบ้านร้องให้อย่างคนที่ไร้สติจนว่านรักต้องรีบถามด้วยความตกใจ"เม..เม...เป็นอะไร""ฮึก..ฮือๆๆๆ..ฮื่อๆๆๆๆ...ฉันมันโง่เอง""ใจเย็นๆก่อนนะ" ว่านรักพาเมษามานั่งที่โซฟาปลอบใจอยู่พักใหญ่จนได้คำตอบจากเมษาว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทางด้านเจคอปตอนนี้ก็อยู่รอเมษากลับมาที่บ้านของไรอันเขายังยุ่งกับการคุยโทรศัพท์เรื่องที่บ้านไม่น้อยเพราะต้องการให้คนรื้อห้องของมินโฮรินไปให้เร็วที่สุดไม่ใช่ว่าเขาพึ่งจะอยากรื้อแต่เขาเองก็พึ่งจะมีเวลาอยู่บ้านนานๆก็คราวนี้"ครับรื้อของห้องนั้นให้หมดเลย.." "รื้ออะไรของแก" ไรอันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเพื่อนของเขาคุยโทรศัพท์จบ"พวกห้องเก่าโฮริน...พึ่งจะได้ฤกษ์รื้อนานๆจะอยู่บ้านที""อืม...รื้อก็ดีแล้วล่ะ" ไรอันเห็นด้วยที่เจคอปจะรื้อเพราะหาเมษารู้ว่าของพวกนั้นเป็นของใครเธอก็คงจะไม่โอเคเท่าไรนัก"ไปไหนกันมาเหรอครับ" เจ
เช้าวันต่อมา"คุณตัวร้อนทั้งคืนเลยกินข้าวกินยาก่อนนะครับ" "ค่ะ.." เมื่อคืนเมษาเป็นไข้ตัวร้อนจนเจคอปต้องเช็ดตัวให้ทั้งคืนเมื่อหญิงสาวตื่นมาในช่วงเช้าเจคอปจึงให้เธอรีบทานข้าวทานยาเสียก่อน"ผมขอโทษที่ทำให้คุณป่วย" คนตัวโตโผเข้ากอดร่างบางด้วยความรู้สึกผิดไม่คิดว่าการกระทำของเขาจะทำให้หญิงสาวถึงกับไข้ขึ้น บ่ายของวัน"อือ...อืม.." หลังจากที่เมษาทานข้าวทานยาเรียบร้อยในช่วงเช้าเธอก็นอนพักผ่อนจนตื่นมาในช่วงบ่ายตอนนี้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าเมื่อเช้ามากพอสมควร"ตื่นแล้วเหรอครับ..คุณดูนี่สิ" เจคอปที่นั่งวาดรูปหญิงสาวที่กำลังหลับด้วยดินสอพักใหญ่เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเขาก็วาเสร็จพอดีจึงรีบอวดหญิงสาวให้เธอได้ดูว่าเขาก็มีฝีมือพอตัวเหมือนกัน"หืม..คุณก็มีฝีมือเหมือนกันนะคะ" "ตอนคุณหลับน่ารักที่สุดเลย" "ตอนตื่นไม่น่ารักหรือไง" หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงอ่อน"น่ารักมาก""......" น้ำเสียงทุ้มว่าจบหญิงสาวก็ก้มหน้างุดไม่คิดว่าคนอย่าเขาจะปากหวานเป็นด้วยเหมือนกัน เย็นของวัน"เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น" หลังจากที่เมษากลับมาได้ว่านนรักก็เค้นสอยบสวนเพื่อนเธอเป็นการใหญ่"คือ..." เมษาไม่ได้คิดจะปิดบั
สามวันต่อมา วันนี้เจคอปเข้ามารับเมษาที่บ้านไรอันแต่เช้าเพราะรู้ว่าเธอใกล้ถึงกำหนดที่จะกลับเมืองไทยแล้วเขามีที่ที่หนึ่งที่อยากจะพาหญิงสาวไปดู"ที่นี่เป็นบ้านที่ผมซื้อไว้นานแล้ว" เจคอปพาเมษาออกมาจากบ้านของไรอันไม่ไกลนักแล้วเขาก็เลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังสีขาวที่สร้างโครงสร้างผิดแปลกไปจากบ้านที่นี่อยู่มากเพราะมันเหมือนบ้านคนในเกาหลีหรือญี่ปุ่นมากกว่าบ้านในอเมริกา"ที่นี่มีแต่อุปกรณ์วาดภาพคุณก็ชอบวาดภาพเหมือนกันเหรอ" เมษาเดินเข้ามาในบ้านตรงกลางเป็นห้องโล่งทางซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆส่วนขวามือเป็นห้องใหญ่ที่เป็นกระจกทั้งหมดพอเธอเดินเข้ามาด้านในพบว่าในห้องนี้น่าจะเป็นห้องที่เอาไว้สร้างสรรค์งานศิลปะเพราะที่นี่มีอุปกรณ์วาดภาพและพวกสีค่อนข้างครบครันจึงหันมาถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างแปลกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอเลยว่าเขาชอบวาดภาพเหมือนกัน"ก็เคยลองวาดแต่ก็ไม่ได้เก่งเท่าไรคุณชอบที่นี่หรือเปล่า" เจคอปพอจะวาดเป็นอยู่บ้างเพราะแฟนเก่าของเขาเป็นคนสอนแต่เขาก็ไม่ได้ชอบมันจนวาดเก่งเป็นมืออาชีพแบบเมษาที่เขาพาหญิงสาวมาที่นี่เพราะเขาอยากรู้ว่าเธอชอบที่นี่หรือไม่หากชอบเขาก็อนุญาตให้เธอมาที่นี่ได้ตลอดเวลา
ชั่วโมงต่อมา"ตื่นเต้นจังเลยว่าน" เมื่อมาถึงในงานสองสาวดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษเพราะงานนี้คนค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร"ฉันก็เหมือนกันถึงจะพบเจอคนบ่อยตอนที่ทำงานที่นี่แต่ก็ไม่เคยเจอเยอะขนาดนี้นับว่างานนี้ใหญ่จริงๆเลยนะเป็นเกียรติที่ผลงานแกจะได้มาประมูลที่นี่" ว่านรักจับมือเมษาไว้แน่นเมื่อก่อนเธอเองก็ทำงานกับคนเยอะแยะมากมายแต่งานนี้เธออดประหม่าไม่ได้จริงๆ"รู้สึกภูมิใจจัง..อยากจะรู้ว่ารูปของฉันจะได้ราคาประมูลเท่าไร" เมษาไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะมาอยู่จุดนี้จะมาเป็นศิลปินที่ผู้คนต่างให้ความสนใจผลงานของเธอ"นั่นสิ" ว่านรักยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะเธอก็ภูมิใจไปกับเมษาด้วยเช่นกันครู่ต่อมาตอนนี้เมษาและเจคอปอยูในงานเพียงแค่สองคนเพราะไรอันและว่านรักพาเด็กๆไปเดินเล่นข้างนอกเนื่องจากพอเจอคนมาทักทายมากหน้าหลายตาเข้าเจ้าสองแสบก็เริ่มงอแง"คุณ..ภาพวาดของฉันจะได้ประมูลตอนไหน" เมษาเริ่มนั่งไม่ติดเมื่อตอนนี้รูปภาพของศิลปินท่านอื่นเริ่มประมูลกันไปบ้างแล้วและแต่ละภาพผู้คนก็สู้ราคากันจนใจขาดเลยทีเดียว"อีกเดี๋ยวก็ได้ขึ้นประมูลแล้ว" เจคอปจับมือเมษาเอาไว้แน่นเพื่อให้เธอลดอาการประหม่าลงเพราะอีกไม่กี่ภาพก็จะเป็นภ
"ไม่ใช่หรอกคนอย่างเจคแยกแยะทุกอย่างชัดเจน..." ไรอันไม่ได้คิดแบบว่านรักสักนิดเพราะเขารู้จักนิสัยเพื่อนของเขาดี"อืม...อย่างนั้นฉันก็ค่อยโล่งใจค่ะ""ทำไมต้องโล่งใจ..มีอะไรหรือเปล่า" ไรอันเหลือบสายตามองคนเป็นภรรยาอย่างคราแครงใจ"เอ่อ..ไม่มีค่ะนอนกันเถอะ" ร่างบางปฏิเสธที่จะตอบก่อนจะล้มตัวนอนลงใต้ผ้าห่มผืนหนา"ถ้าคุณไม่ตอบคืนนี้ไม่ให้พักแน่" ไรอันรวบกอดภรรยารักไว้แน่น"ไรอัน...ทำไมเป็นคนแบบนี้คะ""ตอบมาเดี๋ยวนี้เลย""ฉันก็แค่..คิดว่าเพื่อนฉันคงชอบคุณเจคค่ะ" ด้วยความที่อยากพักผ่อนจึงตอบสามีเธอไปแต่โดยดี"อืม...งั้นเหรอ..ผมก็คิดเหมือนคุณเลยแต่เป็นเจคที่เหมือนจะชอบเมษานะ" ไรอันคลายกอดว่านรักเล็กน้อยยอมรับว่าเขาก็คิดเรื่องสองคนนี้เหมือนกัน"จริงเหรอคะ" ว่านรักยิ้มอ่อนดีใจที่ดูเหมือนเมษาและเจคอปจะใจตรงกัน"อืม... ตอนนี้แค่คิดแต่ต้องดูกันต่อไปว่าจะจริงอย่างที่คิดหรือเปล่า" ไรอันยังไม่รับปากว่าความคิดของเขาถูกแค่ต้องรอดูต่อไปเท่านั้น วันต่อมา"อ้าวคุณมาทำอะไรเหรอ" เมษานั่งเล่นอยู่หน้าบ้านเห็นเจคอปขับรถเข้ามาจึงแปลกใจว่าเขามาทำอะไรที่นี่ทั้งที่วันนี้ก็บอกเองว่าให้เธอพัก"อ๋อ...มาหาเด็กๆน่ะ" คนตั
ทางด้านเมษาวันนี้ก็ไม่ได้อยู่ดูแลหลานดีเพราะเจคอปดันลากเธอมาที่ยบ้านของเขาเพื่อที่จะคุยเรื่องการเตรียมตัวไปวันงานที่กำลังจะถึงในอีกไม่ถึงอาทิตย์เมษามาถึงบ้านเจคอปได้ชายหนุ่มก็พาเธอเข้ามาในห้องแต่งตัวห้องใหญ่ที่หญิงสาวเองก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมีห้องมีแต่ของแต่งตัวผู้หญิงในบ้าน"โหนี่คุณมีชุดผู้หญิงเต็มตู้แบบนี้เลยเหรอ...หรือว่าคุณชอบแบบนี้" เมษาเปิดตู้ลายหินอ่อนตู้ใหญ่ในห้องก็เห็นเสื้อผ้าผู้หญิงเต็มไปหมดจึงเอ่ยหยอกชายหนุ่มหน้าระรื่นและแอบคาใจเล็กน้อยเรื่องที่ทำไมเขาถึงมีของผู้หญิงในบ้านเยอะขนาดนี้"หยุดเพ้อเจ้อเลย..ชุดนี้คุณลองใส่ดูหน่อยสิ" เจคอปไม่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงมีของพวกนี้ได้แต่ยืนเลือกมชุดให้หญิงสาวได้ลองใส่เพราะรู้ว่าเธอขนาดตัวเท่ากับเจ้าของเสื้อผ้าพวกนี้"โป๊ไปหรือเปล่าคุณ" เมษามองชุดผ้าซาตินสีครีมเกาะอกกระโปรงยาวแหวกลึกด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะดูจะเปิดเนื้อหนังเกินไป"ไม่หรอกน่าที่นี่เค้าก็แต่งแบบนี้" มือหนาดันตัวหญิงสาวให้เข้าไปเปลี่ยนชุดห้องลอง"คุณ.." "มีอะไร""ฉันรูดซิปไม่ได้" ไม่นานนักเมษาก็ต้องเอ่ยเรียกเจคอปเพราะตอนนี้เธอรูดซิบหลังไม่ได้"โอเคเดี๋ยวผม
ช่วงเย็นของวัน"นี่คุณอุ้มหลานดีๆล่ะเดี๋ยวจะพากันตกน้ำตกท่าไปซะ" เมษาเห็นเจคอปพาหลานๆวิ่งเล่นที่ริมสระน้ำจึงตะกนบอกให้เขาอุ้มหลานดีๆเพราะฝนพึ่งตกลงมาเมื่อคืนดินยังคงไม่แห้งสนิทดีเดี๋ยวเขาจะลื่นและพาเด็กๆตกน้ำเอาได้"รู้แล้วน่า" เจคอปตะโกนตอบกลับเมษาก่อนจะอุ้มเจ้าก้อนทั้งสองวิ่งเล่นให้ห่างจากขอบสระพอสมควร"สองคนนั้นดูสนิทกันมากเลยนะคะ" ว่านรักและไรอันที่ยืนดูเจคอปละเมษากับลูกๆของเขาอยู่ไม่ห่างต่างก็มีความคิดที่เหมือนกันว่าดูช่วงนี้เมษาและเจคอปสนิทสนมกันเร็วมากเป็นพิเศษ"นั่นสิผมก็ไม่เคยเห็นเจคสนิทกับใครแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่..." ไรอันอมยิ้มอ่อนเขารู้ว่าเจคอปไม่ใช่คนที่จะสนิทกับผู้หญิงที่ไหนง่ายๆหากไม่ใช่ว่าอยากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนั้นจริงๆ Rrrrr ชายหนุ่มยังพูดไม่จบประโยคจู่ๆก็มีสายจากเจมส์เข้ามาจึงรีบกดรับ"มีอะไรเหรอเจมส์...อะไรนะ" ไรอันถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอเมื่อเรื่องที่ได้รับรู้จากเจมส์เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก"มีอะไรคะ" มือเรียวยื่นแตะบ่าสวามีของเธอเบาๆก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นสีหน้าของไรอันเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัดหลังวางสาย"คุณย่าน่ะสิท่านล้มในห้องน้ำตอนนี้โค
ทางด้านไรอันเขากลับมาถึงบ้านก็รีบอาบน้ำอายท่ากะว่าจะเล่นกับลูกๆแต่ก็ต้องแอบผิดหวังนิดหน่อยที่เด็กๆหลับไปหมดแล้ว“เด็กๆหลับแล้วเหรอ”“ค่ะ..คุณเจคเป็นยังไงบ้างคะ” ว่านรักอยู่ในชุดนอนสีขาวหันมาตอยคนเป็นสามีเสียงเบาขณะที่กำลังวางผ้าห่มเจ้าแฝดในเปลเพราะนอนดิ้นจนผ้าห่มไม่อยู่กับตัว“หมอฉีดยาแก้แพ้กับให้น้ำเกลือดีขึ้นบ้างแล้วเห็นว่าถ้าพรุ่งนี้ไม่มีอาการแทรกซ้อนก็น่าจะกลับบ้านได้” “มาวันแรกก็เกิดเรื่องเลยนะคะแล้วอย่างนี้จะอยากยู่ต่อไหมคะเนี่ย” หญิงสาวหน้าเสียเล็กน้อยเธออยากจะให้ทุกคนที่มาที่นี่แล้วประทับใจแต่เจคอปกลับป่วยเสียตั้งแต่วันแรกที่มา“คนอย่างเจคอปไม่ใช่คนท้อต่อความลำบากหรอก” “งั้นก็ดีแล้วค่ะ...ฉันว่าต้องเตรียมหามุ้งหายากันยุงดีๆให้คุณเจคแล้วล่ะ...ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนยุงชุมด้วย”“อืม...”“หิวหรือเปล่าคะฉันทำต้มจืดวุ้นเส้นไว้ให้คุณด้วย...” ว่านรักเอ่ยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มเพราะอาหารเย็นเธอทานพร้อมลูกๆแล้วตอนนี้ก็ได้เวลาพักผ่อน“ไม่หิวข้าว...แต่หิวคุณมากกว่า” ไรอันเข้ามาสวมกอดภรรยารักเอาไว้แน่นเอ่ยกระซิบข้างหูของเธอเบาๆก่อนจะกดจมูกโด่งหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ฟอดดด.. “..อืมม..” ชายหนุ่