ช่วงเย็นของวัน
"นี่คุณอุ้มหลานดีๆล่ะเดี๋ยวจะพากันตกน้ำตกท่าไปซะ" เมษาเห็นเจคอปพาหลานๆวิ่งเล่นที่ริมสระน้ำจึงตะกนบอกให้เขาอุ้มหลานดีๆเพราะฝนพึ่งตกลงมาเมื่อคืนดินยังคงไม่แห้งสนิทดีเดี๋ยวเขาจะลื่นและพาเด็กๆตกน้ำเอาได้
"รู้แล้วน่า" เจคอปตะโกนตอบกลับเมษาก่อนจะอุ้มเจ้าก้อนทั้งสองวิ่งเล่นให้ห่างจากขอบสระพอสมควร
"สองคนนั้นดูสนิทกันมากเลยนะคะ" ว่านรักและไรอันที่ยืนดูเจคอปละเมษากับลูกๆของเขาอยู่ไม่ห่างต่างก็มีความคิดที่เหมือนกันว่าดูช่วงนี้เมษาและเจคอปสนิทสนมกันเร็วมากเป็นพิเศษ
"นั่นสิผมก็ไม่เคยเห็นเจคสนิทกับใครแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่..." ไรอันอมยิ้มอ่อนเขารู้ว่าเจคอปไม่ใช่คนที่จะสนิทกับผู้หญิงที่ไหนง่ายๆหากไม่ใช่ว่าอยากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนั้นจริงๆ
Rrrrr ชายหนุ่มยังพูดไม่จบประโยคจู่ๆก็มีสายจากเจมส์เข้ามาจึงรีบกดรับ
"มีอะไรเหรอเจมส์...อะไรนะ" ไรอันถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลงคอเมื่อเรื่องที่ได้รับรู้จากเจมส์เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก
"มีอะไรคะ" มือเรียวยื่นแตะบ่าสวามีของเธอเบาๆก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นสีหน้าของไรอันเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัดหลังวางสาย
"คุณย่าน่ะสิท่านล้มในห้องน้ำตอนนี้โคม่า"
"หา.." จบประโยคเสียงสั่นของไรอันก็เป็นหญิงสาวที่มีสีหน้าตกใจตามเขาไปอย่างเห็นได้ชัด
วันต่อมา
เมื่อคืนทุกคนใช้เวลาเก็บของเตรียมเอาไว้เพื่อออกเดินทางกันช่วงเช้า
"รีบกลับไปเถอะลูก..ว่างๆก็แวะมาหาตาบ้าง" ปราโมทย์อวยพรให้หลานๆของเขาก่อนจะเริ่มออกเดินทางกัน
"ครับตาพวกผมกลับก่อนนะครับ" ไรอันว่าจบก็เตรียมขนกระเป๋าขึ้นรถ
"อืม..โชคดีๆ"
"ผมลานะครับตา" เจคอปที่พึ่งเก็บกระเป๋าเสร็จก็ลงมาลาปราโมทย์
"แล้วเรื่องที่คุยกับตาไว้ล่ะ" ชายชราเรียกเจคอปเอาไว้ก่อนที่เขาจะขึ้นรถไปถึงเรื่องที่คุยกันเมื่อสองสามวันก่อน
"ผมยังไม่ได้บอกเจ้าตัวเลยครับ"
"อะไรกันเหรอ” เมษาทำหน้าสงสัยเมื่อทั้งตาของเธอและเจคอปมองเธอมาเป็นตาเดียว
เรื่องที่เจคอปคุยกับปราโมทย์เอาไว้ก็คือเขาส่งผลงานของเมษาที่วาดภาพไปให้เพื่อนของเขาที่เป็นคนจัดประมูลงานศิลป์ที่อเมริกาและเพื่อนของเขาก็ชอบผลงานของหญิงสาวมากๆเขาจึงเอ่ยขออนุญาตพาหญิงสาวไปร่วมงานประมูลที่อเมริกากับปราโมทย์ไว้แล้วแต่ยังไม่ได้บอกเธอ
"ฉันไม่กล้าออกงานนี่คุณ...ทำอะไรทำไมไม่ถามฉันก่อน" หลังเมษารู้เรื่องก็หน้าบูดหน้าบึ้งเล็กน้อย
"คุณเป็นคนมีฝีมือนะมั่นใจตัวเองหน่อยสิ...ผมจะบอกคุณไว้นะถ้าคุณได้เงินครั้งนี้คุณซื้ออุปกรณ์การเกษตรให้คนที่นี่ได้เยอะเลย" เจคอปเอ่ยสิ่งที่เธอจะได้เพื่อให้หญิงสาวเลิกอายการเปิดตัวว่าเป็นคนมีฝีมือเสียที
"จริงอะ" เมื่อข้อเสนอถูกใจหญิงสาวจึงเริ่มโลเลเล็กน้อย
"จริงสิ"
"เราอย่าคิดเยอะนักเลยโอกาสดีๆไม่ได้มีมาบ่อยๆนะลูก" ปราโมทย์เอ่ยเสริมเพราะโอกาสดีๆแบบนี้น้อยคนนักที่จะได้รับมัน
"จริงนะเม" ว่านรักกระตุ้นเมษาอีกแรงเพราะเธอเองก็อยากให้เมษาไปที่อเมริกากับเธอด้วยเหมือนกันถือเสียว่าไปเปิดหูเปิดตา
"ก็ได้จ่ะตา..." และแล้วหญิงสาวก็ต้องยอมแต่เธอก็ต้องบินพร้อมกับเจคอปทีหลังไรอันและว่านรักเพราะต้องทำเรื่องเอกสารการเดินทางอีกเป็นอาทิตย์
สองวันต่อมา
โรงพยาบาลXXX
ตั้งแต่มาถึงอเมริกาได้ไรอันก็ได้แต่เครียดเรื่องย่าของเขาเพราะตอนนี้ท่านยังไม่รู้สึกตัวเลย
"ใช่..ท่านไม่เคยเป็นหนักขนาดนี้" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดีนักขณะที่พักอยู่ในโรงแรมใกล้กับโรงพยาบาลเขายังไม่ยอมกลับบ้านเพราะกลัวว่าหากฉุกเฉินจะดูใจย่าของเขาไม่ทัน
"คุณย่าอยู่ในมือหมอที่เก่งแล้วนี่คะคุณไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ" ว่านรักกอดปลอบสามีของเธอไว้หลวมๆเธอเชื่อว่าหมอเจมส์จะต้องรักญาคุณย่าจนหายเพราะเขาเป็นคนบอกกับเธอเองว่าหมอเจมส์เพื่อนของเขามีฝีมือที่สุดในโรงพยาบาลนี้
"เฮ้อ...ผมจะพยายามไม่เครียด"
"ดีแล้วล่ะค่ะ...ฉันไปเตรียมนมให้เด็กๆก่อนนะคะอีกสักพักก็น่าจะง่วงนอนกันแล้ว" ว่านรักเห็นสามีเธอรับปากเช่นนั้นจึงยิ้มออกได้และออกไปดูลูกๆของเธอที่เล่นกันอยู่ในห้องนั่งเล่นเธอต้องรีบพาเจ้าแสบเข้านอนก่อนที่จะงอแง
อาทิตย์ต่อมา
สามสี่วันมาแล้วที่เอมม่าฟื้นขึ้นแต่ก็ยังคงต้องดูแลกันอยู่ใกล้ชิดหลังจากที่ไรอันรู้ว่าคุณย่าของเขาดีขึ้นก็โล่งใจเป็นอย่างมากและย้ายจากโรงแรมกลับไปที่บ้านเพื่อที่ลูกๆของเขาจะได้มีพื้นที่วิ่งเล่นและมีพี่เลี้ยงคอยช่วยว่านรักดูแลลูกๆของพวกเขาอีกอย่างตอนนี้เมษาก็เดินทางมาที่อเมริกาแล้วด้วยหากจะมากระจุกอยู่ที่โรงแรมคงไม่สะดวกเท่าไรนัก
โรงพยาบาล
“ต่อจากนี้ผมจะไม่ยอมให้คุณย่าอยู่ห่างสายตาอีกแล้วนะครับ” ไรอันนั่งเฝ้าพูดคุยกับย่าของเขาอยู่ไม่ห่างตั้งแต่เดินทางมาถึงมาถึง
“หืม..ย่าไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ...แล้วนี่ย่าก็ดีขึ้นแล้วเมื่อไรหมอเจมส์จะให้ย่ากลับบ้าน”
“กลับอะไรล่ะครับ...เจมส์บอกกับผมว่าจะคุณย่าอยู่ที่นี่สักเดือนกว่าๆเพราะจะต้องทำกายภาพด้วย”
“เฮ้อ...ย่าเบื่อตายเลย” หญิงชราถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ไม่ต้องเบื่อหรอกครับเดี๋ยวผมจะพาเด็กๆมาหาคุณย่าบ่อยๆ”
“แล้วหลานสะใภ้กับเหลนย่าไม่มาด้วยเหรอ”
“เด็กๆเหมือนจะมีไข้น่ะครับผมเลยให้ว่านอยู่กับเด็กๆที่บ้าน” อันที่จริงเขาก็อยากจะพาทั้งลูกและภรรยามาที่นี่ทุกวันแต่ติดตรงที่วันนี้ลูกของเขาดันป่วยขึ้นมากะทันหันจึงต้องให้อยู่บ้านกันไปก่อน
ทางด้านเมษาวันนี้ก็ไม่ได้อยู่ดูแลหลานดีเพราะเจคอปดันลากเธอมาที่ยบ้านของเขาเพื่อที่จะคุยเรื่องการเตรียมตัวไปวันงานที่กำลังจะถึงในอีกไม่ถึงอาทิตย์เมษามาถึงบ้านเจคอปได้ชายหนุ่มก็พาเธอเข้ามาในห้องแต่งตัวห้องใหญ่ที่หญิงสาวเองก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมีห้องมีแต่ของแต่งตัวผู้หญิงในบ้าน"โหนี่คุณมีชุดผู้หญิงเต็มตู้แบบนี้เลยเหรอ...หรือว่าคุณชอบแบบนี้" เมษาเปิดตู้ลายหินอ่อนตู้ใหญ่ในห้องก็เห็นเสื้อผ้าผู้หญิงเต็มไปหมดจึงเอ่ยหยอกชายหนุ่มหน้าระรื่นและแอบคาใจเล็กน้อยเรื่องที่ทำไมเขาถึงมีของผู้หญิงในบ้านเยอะขนาดนี้"หยุดเพ้อเจ้อเลย..ชุดนี้คุณลองใส่ดูหน่อยสิ" เจคอปไม่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงมีของพวกนี้ได้แต่ยืนเลือกมชุดให้หญิงสาวได้ลองใส่เพราะรู้ว่าเธอขนาดตัวเท่ากับเจ้าของเสื้อผ้าพวกนี้"โป๊ไปหรือเปล่าคุณ" เมษามองชุดผ้าซาตินสีครีมเกาะอกกระโปรงยาวแหวกลึกด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะดูจะเปิดเนื้อหนังเกินไป"ไม่หรอกน่าที่นี่เค้าก็แต่งแบบนี้" มือหนาดันตัวหญิงสาวให้เข้าไปเปลี่ยนชุดห้องลอง"คุณ.." "มีอะไร""ฉันรูดซิปไม่ได้" ไม่นานนักเมษาก็ต้องเอ่ยเรียกเจคอปเพราะตอนนี้เธอรูดซิบหลังไม่ได้"โอเคเดี๋ยวผม
"ไม่ใช่หรอกคนอย่างเจคแยกแยะทุกอย่างชัดเจน..." ไรอันไม่ได้คิดแบบว่านรักสักนิดเพราะเขารู้จักนิสัยเพื่อนของเขาดี"อืม...อย่างนั้นฉันก็ค่อยโล่งใจค่ะ""ทำไมต้องโล่งใจ..มีอะไรหรือเปล่า" ไรอันเหลือบสายตามองคนเป็นภรรยาอย่างคราแครงใจ"เอ่อ..ไม่มีค่ะนอนกันเถอะ" ร่างบางปฏิเสธที่จะตอบก่อนจะล้มตัวนอนลงใต้ผ้าห่มผืนหนา"ถ้าคุณไม่ตอบคืนนี้ไม่ให้พักแน่" ไรอันรวบกอดภรรยารักไว้แน่น"ไรอัน...ทำไมเป็นคนแบบนี้คะ""ตอบมาเดี๋ยวนี้เลย""ฉันก็แค่..คิดว่าเพื่อนฉันคงชอบคุณเจคค่ะ" ด้วยความที่อยากพักผ่อนจึงตอบสามีเธอไปแต่โดยดี"อืม...งั้นเหรอ..ผมก็คิดเหมือนคุณเลยแต่เป็นเจคที่เหมือนจะชอบเมษานะ" ไรอันคลายกอดว่านรักเล็กน้อยยอมรับว่าเขาก็คิดเรื่องสองคนนี้เหมือนกัน"จริงเหรอคะ" ว่านรักยิ้มอ่อนดีใจที่ดูเหมือนเมษาและเจคอปจะใจตรงกัน"อืม... ตอนนี้แค่คิดแต่ต้องดูกันต่อไปว่าจะจริงอย่างที่คิดหรือเปล่า" ไรอันยังไม่รับปากว่าความคิดของเขาถูกแค่ต้องรอดูต่อไปเท่านั้น วันต่อมา"อ้าวคุณมาทำอะไรเหรอ" เมษานั่งเล่นอยู่หน้าบ้านเห็นเจคอปขับรถเข้ามาจึงแปลกใจว่าเขามาทำอะไรที่นี่ทั้งที่วันนี้ก็บอกเองว่าให้เธอพัก"อ๋อ...มาหาเด็กๆน่ะ" คนตั
ชั่วโมงต่อมา"ตื่นเต้นจังเลยว่าน" เมื่อมาถึงในงานสองสาวดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษเพราะงานนี้คนค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร"ฉันก็เหมือนกันถึงจะพบเจอคนบ่อยตอนที่ทำงานที่นี่แต่ก็ไม่เคยเจอเยอะขนาดนี้นับว่างานนี้ใหญ่จริงๆเลยนะเป็นเกียรติที่ผลงานแกจะได้มาประมูลที่นี่" ว่านรักจับมือเมษาไว้แน่นเมื่อก่อนเธอเองก็ทำงานกับคนเยอะแยะมากมายแต่งานนี้เธออดประหม่าไม่ได้จริงๆ"รู้สึกภูมิใจจัง..อยากจะรู้ว่ารูปของฉันจะได้ราคาประมูลเท่าไร" เมษาไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะมาอยู่จุดนี้จะมาเป็นศิลปินที่ผู้คนต่างให้ความสนใจผลงานของเธอ"นั่นสิ" ว่านรักยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะเธอก็ภูมิใจไปกับเมษาด้วยเช่นกันครู่ต่อมาตอนนี้เมษาและเจคอปอยูในงานเพียงแค่สองคนเพราะไรอันและว่านรักพาเด็กๆไปเดินเล่นข้างนอกเนื่องจากพอเจอคนมาทักทายมากหน้าหลายตาเข้าเจ้าสองแสบก็เริ่มงอแง"คุณ..ภาพวาดของฉันจะได้ประมูลตอนไหน" เมษาเริ่มนั่งไม่ติดเมื่อตอนนี้รูปภาพของศิลปินท่านอื่นเริ่มประมูลกันไปบ้างแล้วและแต่ละภาพผู้คนก็สู้ราคากันจนใจขาดเลยทีเดียว"อีกเดี๋ยวก็ได้ขึ้นประมูลแล้ว" เจคอปจับมือเมษาเอาไว้แน่นเพื่อให้เธอลดอาการประหม่าลงเพราะอีกไม่กี่ภาพก็จะเป็นภ
สามวันต่อมา วันนี้เจคอปเข้ามารับเมษาที่บ้านไรอันแต่เช้าเพราะรู้ว่าเธอใกล้ถึงกำหนดที่จะกลับเมืองไทยแล้วเขามีที่ที่หนึ่งที่อยากจะพาหญิงสาวไปดู"ที่นี่เป็นบ้านที่ผมซื้อไว้นานแล้ว" เจคอปพาเมษาออกมาจากบ้านของไรอันไม่ไกลนักแล้วเขาก็เลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังสีขาวที่สร้างโครงสร้างผิดแปลกไปจากบ้านที่นี่อยู่มากเพราะมันเหมือนบ้านคนในเกาหลีหรือญี่ปุ่นมากกว่าบ้านในอเมริกา"ที่นี่มีแต่อุปกรณ์วาดภาพคุณก็ชอบวาดภาพเหมือนกันเหรอ" เมษาเดินเข้ามาในบ้านตรงกลางเป็นห้องโล่งทางซ้ายเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆส่วนขวามือเป็นห้องใหญ่ที่เป็นกระจกทั้งหมดพอเธอเดินเข้ามาด้านในพบว่าในห้องนี้น่าจะเป็นห้องที่เอาไว้สร้างสรรค์งานศิลปะเพราะที่นี่มีอุปกรณ์วาดภาพและพวกสีค่อนข้างครบครันจึงหันมาถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างแปลกใจเพราะเขาไม่เคยบอกเธอเลยว่าเขาชอบวาดภาพเหมือนกัน"ก็เคยลองวาดแต่ก็ไม่ได้เก่งเท่าไรคุณชอบที่นี่หรือเปล่า" เจคอปพอจะวาดเป็นอยู่บ้างเพราะแฟนเก่าของเขาเป็นคนสอนแต่เขาก็ไม่ได้ชอบมันจนวาดเก่งเป็นมืออาชีพแบบเมษาที่เขาพาหญิงสาวมาที่นี่เพราะเขาอยากรู้ว่าเธอชอบที่นี่หรือไม่หากชอบเขาก็อนุญาตให้เธอมาที่นี่ได้ตลอดเวลา
เช้าวันต่อมา"คุณตัวร้อนทั้งคืนเลยกินข้าวกินยาก่อนนะครับ" "ค่ะ.." เมื่อคืนเมษาเป็นไข้ตัวร้อนจนเจคอปต้องเช็ดตัวให้ทั้งคืนเมื่อหญิงสาวตื่นมาในช่วงเช้าเจคอปจึงให้เธอรีบทานข้าวทานยาเสียก่อน"ผมขอโทษที่ทำให้คุณป่วย" คนตัวโตโผเข้ากอดร่างบางด้วยความรู้สึกผิดไม่คิดว่าการกระทำของเขาจะทำให้หญิงสาวถึงกับไข้ขึ้น บ่ายของวัน"อือ...อืม.." หลังจากที่เมษาทานข้าวทานยาเรียบร้อยในช่วงเช้าเธอก็นอนพักผ่อนจนตื่นมาในช่วงบ่ายตอนนี้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าเมื่อเช้ามากพอสมควร"ตื่นแล้วเหรอครับ..คุณดูนี่สิ" เจคอปที่นั่งวาดรูปหญิงสาวที่กำลังหลับด้วยดินสอพักใหญ่เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเขาก็วาเสร็จพอดีจึงรีบอวดหญิงสาวให้เธอได้ดูว่าเขาก็มีฝีมือพอตัวเหมือนกัน"หืม..คุณก็มีฝีมือเหมือนกันนะคะ" "ตอนคุณหลับน่ารักที่สุดเลย" "ตอนตื่นไม่น่ารักหรือไง" หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงอ่อน"น่ารักมาก""......" น้ำเสียงทุ้มว่าจบหญิงสาวก็ก้มหน้างุดไม่คิดว่าคนอย่าเขาจะปากหวานเป็นด้วยเหมือนกัน เย็นของวัน"เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น" หลังจากที่เมษากลับมาได้ว่านนรักก็เค้นสอยบสวนเพื่อนเธอเป็นการใหญ่"คือ..." เมษาไม่ได้คิดจะปิดบั
"...." สิ้นเสียงของมินแฮนาเมษาก็ตัวชาวาบพูดอะไรไม่ออกน้ำตารื้นขึ้นมากะทันหัน"คุณคิดว่าเค้าเป็นผู้ชายประเภทไหนก็คิดเอานะคะ" มินแฮนาเห็นท่าทีของเมษาเธอก็ค่อนข้างพอใจเมื่อว่าจบก็หันหลังกลับออกไปทันที ในส่วนของเมษาหลังจากที่มินแฮนากลับไปแล้วเธอก็เดินเข้ามาในบ้านร้องให้อย่างคนที่ไร้สติจนว่านรักต้องรีบถามด้วยความตกใจ"เม..เม...เป็นอะไร""ฮึก..ฮือๆๆๆ..ฮื่อๆๆๆๆ...ฉันมันโง่เอง""ใจเย็นๆก่อนนะ" ว่านรักพาเมษามานั่งที่โซฟาปลอบใจอยู่พักใหญ่จนได้คำตอบจากเมษาว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทางด้านเจคอปตอนนี้ก็อยู่รอเมษากลับมาที่บ้านของไรอันเขายังยุ่งกับการคุยโทรศัพท์เรื่องที่บ้านไม่น้อยเพราะต้องการให้คนรื้อห้องของมินโฮรินไปให้เร็วที่สุดไม่ใช่ว่าเขาพึ่งจะอยากรื้อแต่เขาเองก็พึ่งจะมีเวลาอยู่บ้านนานๆก็คราวนี้"ครับรื้อของห้องนั้นให้หมดเลย.." "รื้ออะไรของแก" ไรอันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเพื่อนของเขาคุยโทรศัพท์จบ"พวกห้องเก่าโฮริน...พึ่งจะได้ฤกษ์รื้อนานๆจะอยู่บ้านที""อืม...รื้อก็ดีแล้วล่ะ" ไรอันเห็นด้วยที่เจคอปจะรื้อเพราะหาเมษารู้ว่าของพวกนั้นเป็นของใครเธอก็คงจะไม่โอเคเท่าไรนัก"ไปไหนกันมาเหรอครับ" เจ
"ยากล่อมประสาทนิดหน่อย...เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการจัดการกับเธอไง..หึ่..พี่สาวฉันเองฉันยังจัดการให้พ้นทางเลยนับประสาอะไรกับคนอื่นอย่างเธอ" ยาที่มินแฮนาใส่ให้เมษาเป็นเพียงยาที่ทำให้เป็นอมพาตทั้งตัวชั่วคราวแต่คนที่ทานเข้าไปจะได้ยินทุกอย่างที่เธอพูดแต่ต่อต้านอะไรเธอไม่ได้"เธอนี่มัน..อือ.." เมษานอนแน่นิ่งน้ำตาไหล"ยานี่ไม่ทำให้เธอหลับหรอกนะแค่มึนๆเธอจะได้เห็นเวลาที่เลือดเธอไหลนองบนพื้นยังไงล่ะ" มินแฮนานั่งลงตรงหน้าของเมษาก่อนจะชูมีดพกขึ้นมาและพูดด้วยท่าทีที่ไม่สะทกสะท้านว่าการทำร้ายหรือฆ่าคนมันผิด"อือ..." เมษากลัวจนน้ำตาไหลพรากพยายามจะขยับตัวเท่าไรเธอก็ขยับไม่ได้แกร๊กกและแล้วทั้งสองหนุ่มก็เข้ามาช่วยเมษาได้ทันเพราะเขาถามพนักงานที่นี่แล้วว่ามินแฮนาพาใครมาที่นี่หรือเปล่าและเขาก็ได้รู้ว่ามินแฮนาพาเมษามาที่นี่จริงๆจึงรีบขอคีย์การ์ดสำรองขึ้นมาที่ห้องของมินแฮนา"ทำอะไรของคุณ" เจคอปเข้ามาเห็นมินแฮนาถทอมีดอยู่จึงผลักเธอออกไปอย่างรวดเร็วทันที“เมษา...” ไรอันเข้ามาดูเมษาก็รู้ว่าเธอน่าจะถูกมอมยาแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่นอนนิ่งเอาแต่น้ำตาไหลอยู่แบบนี้ไม่อยากจะคิดว่าหากพวกเขาเข้ามาไม่ทันอะไรจะเ
ไร่ปาริชาตยามสายของวันแดดกำลังอ่อนๆคนงานในไร่ปาริชาตต่างก็แยกย้ายกันทำหน้าที่ของตนแประจำที่ห่างกันไม่มากนักบางคนลงผักใหม่บางคนดายหญ้าบางคนเก็บผลผลิตนับเป็นภาพที่น่าสบายตายิ่งนักไร่ปาริชาตนี้มีอาณาเขตอยู่ที่ภาคเหนือของประเทศไทยกินเนื้อที่เกือบพันไร่เดิมทีเป็นของคุณหญิงปาริชาตภรรยาท่านทูตหลังจากที่เธอเสียแล้วไร่นี้ก็ตกเป็นของปฐพีลูกชายคนเดียวของเธอด้วยปฐพีไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นานๆจะกลับมาสักครั้งเลยตั้งให้คนเก่าคนแก่ที่อยู่กับไร่นี้มานานอย่างปราโมทย์เป็นคนดูแลทุกอย่างของไร่และให้คนที่ไม่มีที่ทำกินมาทำไร่ที่นี่ฟรีโดยมีปราโมทย์เป็นคนจัดการแบ่งสันปันส่วนให้เท่าๆกันเมื่อปฐพีได้เสียชีวิตไปแล้วสมบัติทุกอย่างก็ตกอยู่กับเขมิกาซึ่งเธอก็ไม่ได้ดูดำดูดีไร่นี้เท่าไรนักจนคนในไร่ก็หวั่นใจกันว่าที่นี่อาจจะถูกขายเพราะเขมิกาไม่เคยให้คำตอบพวกคนในไร่เลยว่าจะให้พวกเขานั้นอยู่ต่อกันหรือไม่ 20.00 น.“กลับมากันซะดึกเลยลูกเจ้าคมผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ” ชายชราอย่างปราโมทย์ที่นั่งอยู่บนชายเรือนไม้หลังใหญ่เห็นหลานสาวทั้งสองกลับมาบ้านเลยเอ่ยถามถึงเรื่องลูกของอาคมที่พึ่งคลอดว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย“ผู้หญิงจ่ะ