"เอาล่ะๆ.. ตาเข้าใจละที่เค้ามานี่ก็คงมามาง้อเพราะงอนกันสินะ" ปราโมทย์มองสองสาวที่เอาแต่ก้มหน้ากันอยู่ก็ค่อยๆยื่นมือตบบ่าว่านรักเบาๆเขาพอจะเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไรเพราะเขาก็เคยผ่านช่วงปัญหาวัยหนุ่มสาวมาก่อน
"เอ่อ.. ค่ะ" ว่านรักจำต้องยอมรับเสียงอ่อนตามน้ำไปก่อนจะหันมาส่งสายตาคาดโทษให้เมษา
หลังจากที่คุยกับปราโมทย์เรียบร้อยแล้วว่านรักก็ลากเมษาขึ้นมาคุยกันในห้องนอนของเมษาข้างบนบ้านไม้หลังใหญ่
"แกไปบอกตาแบบนั้นได้ยังไง" น้ำเสียงว่านรักอู้อี้ด้วยความไม่พอใจ
"อ้าวก็ตอนนั้นคิดได้แบบนั้นนี่แล้วแกคิดสิถ้าบอกความจริงตาไปเรื่องมันจะยาวไหมล่ะ"
"เฮ้อ.." และแล้วสาวเจ้าก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ในเมื่อแก้สถานการณ์อะไรไม่ได้แล้ว
เช้าวันต่อมา
"อีหนูไม่ไปเยี่ยมผัวเราหรือไง" ปราโมทย์เห็นว่าว่านรักแต่งตัวจะเข้าไร่กับเมษาจึงร้องทักเอาไว้ก่อน
"ไม่ไปจ่ะตาเดี๋ยวว่านจะไปช่วยหนูนาตัดกะหล่ำปลี"
"ได้ยังไงผัวเจ็บเมียก็ต้องไปดูแลถึงจะเคืองใจกันอยู่ก็เถอะตาไม่เคยสอนให้เราทิฐินะลูก"
"แต่ว่าหนู.."
"เจ้าเมเราพาเพื่อนเราไปโรงพยาบาลเรื่องที่นี่ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวตาหาคนไปช่วยหนูนามันเอง" ยังไม่ทันที่ว่านรักจะได้เอ่ยอะไรต่อชายชราก็รีบให้เมษาพาว่านรักไปที่โรงพยาบาลเพราะต้องการให้ว่านรักไปดูแลสามีของตน
"จ่ะตา..ไปเถอะว่าน" เมษารีบจูงมือว่านรักที่เอาแต่ทำหน้ามุ่ยไปที่รถก่อนจะขับตรงไปที่โรงพยาบาลตามคำสั่งของปราโมทย์
"เพราะแกคนเดียวเลย.." ว่านรักยื่นมือเรียวหยิกแขนเมษาที่กำลังขับรถด้วยความโมโหเพราะจากจู่ๆที่เป็นสาวโสดอยู่ดีๆกลับต้องกลายมามีสามีแถมต้องมาดูแลคนที่ไม่อยากดูแลอีก
"โอ้ยๆ..ฉันขับรถอยู่นะเว้ย.." เมษารีบลูบแขนบริเวณที่ถูกหยิกลวกๆ
โรงพยาบาล
"ดีนะที่อีตานี่ยังไม่รู้สึกตัว" สองสาวยืนมองชายหนุ่มที่ถูกพันหัวใส่เฝือกอ่อนที่แขนด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
"อืม..อือ..โอ้ย.."
"แย่แล้ว..ไปกันเถอะ" จู่ๆคนที่นอนเป็นผักก็เกิดรู้สึกตัวขึ้นทำให้สองสาวรีบกระซิบกระซาบดึงมือกันหมายจะออกไปจากห้องเพราะคิดว่าหากเขาตื่นมาเจอหน้าพวกเธอคงจะเป็นปัญหาใหญ่แน่
"พวกเราจะไปไหนกันเหรอ..คนไข้ฟื้นแล้วนี่ครับ" ทัดเทพหมอหนุ่มวัยสามสิบปีเจ้าของไข้ของไรอันเข้ามาตรวจคนไข้ของเขาเมื่อช่วงสายพอเห็นสองสาวที่เขารู้จักเป็นอย่างดีจึงเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มก่อนจะเบนความสนใจไปที่ไรอัน
"อยู่นี่แหละนายนี่อยู่สภาพนี้คงทำอะไรแกไม่ได้หรอก" ในขณะที่หมอหนุ่มตรวจร่างกายของไรอันสองสาวก็ยืนกุมมือกันแน่นหากเธอออกจากห้องนี้ไปเร็วกว่าเมื่อครู่สักนิดคงไม่ต้องทนยืนอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดขนาดนี้
"สามีว่านพูดไทยได้ใช่ไหม"
"....." ว่านรักสะดุ้งเฮือกก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ..เป็นอีกครั้งแล้วที่เธอหน้าชาเมื่อถูกคนอื่นมองว่าเธอมีสามีแล้วทั้งที่คนที่ขึ้นชื่อว่าสามีของเธอที่คนอื่นเข้าใจคือคนที่ตามฆ่าเธออยู่ก่อนหน้านี้...ไม่รู้เลยว่าหากไรอันหายดีเธอจะเจอกับอะไรบ้าง
"เจ็บตรงไหนบ้างครับ"
"เจ็บที่หัวกับไหล่มากเลยครับ" ชายหนุ่มตาน้ำข้าวเอ่ยพูดตอบหมอหนุ่มเป็นภาษาไทยที่ไม่ค่อยชัดมากนักด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างมึนงง
"คุณไรอันอย่าพึ่งขยับแขนมากนะครับเพราะมีกระดูกแตกที่แขน"
"ผมชื่อไรอันเหรอครับผมเป็นอะไรทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้" คำถามที่ออกจากปากของไรอันตอนนี้ทำเอาทั้งหมอหนุ่มและสองสาวต่างก็มองหน้ากันไปมาด้วยความตื่นตระหนกที่ว่าที่ชายหนุ่มเอ่ยถามมาแบบนี้เท่ากับว่าความทรงจำของเขาหายไปอย่างนั้นใช่หรือไม่
"เอ่อ...คุณจำอะไรไม่ได้อย่างนั้นเหรอครับ" ทัดเทพมองอาการของไรอันและเอ่ยถามเขาให้แน่ใจอีกครั้ง
"..ครับ..." หลังจากได้คำตอบของไรอันหมอหนุ่มก็ต้องซักถามเรื่องทั่วไปกับชาหนุ่มพักใหญ่เพื่อวินิจฉัยว่าอาการความจำเสื่อมของเขาอยู่ในระดับไหน
บ่ายของวัน
"แบบนี้ฉันก็ต้องมานั่งรับผิดชอบชีวิตคนที่จะฆ่าฉันงั้นเหรอ" สองสาวที่รู้ได้จากผลการวินิจฉัยจากหมอหนุ่มพวกเธอก็ได้รู้ว่าอาการความจำเสื่อมของไรอันคงจะต้องใช้เวลานานในการฟื้นฟู...เป็นว่านรักที่ดูจะกังวลกับเรื่องนี้เป็นพิเศษเพราะเท่ากับต่อไปนี้เธอก็จะต้องเป็นคนรับผิดชอบชีวิตของไรอันซึ่งเธอไม่ได้อยากอยู่ใกล้เขาแม้แต่น้อย
"เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วแกจะได้ปลอดภัยไงให้นายนั่นมาอยู่ใต้โอวาทแกไม่ดีหรือไง" เมษาเห็นว่านี่เป็นข้อดีเสียอีก
"แต่ฉันรู้สึกไม่ดีที่มีเค้ามาอยู่ด้วย..แล้วก็ผิดในใจยังไงไม่รู้..." ในหัวว่านรักตอนนี้มันมีความคิดที่สับสนตีกันไปหมดทั้งอึดอัดที่มีคนคิดจะฆ่าตัวเองมาอยู่ใกล้ตัวทั้งยังรู้สึกผิดที่รู้อยู่แก่ใจว่าที่ชายหนุ่มเป็นแบบนี้ก็เพราะฝีมือพวกเธอ
"รู้สึกผิดอะไร...ฟังฉัน...นายนั่นคิดจะฆ่าแกแล้วที่เป็นแบบนี้ก็สมควรแล้ว" เมษาจับบ่าว่านรักก่อนจะเอ่ยเสียงดังฟังชัดให้ว่านรักได้ฟังว่าสิ่งที่ไรอันได้รับสมควรแล้ว
เย็นของวัน"โอ้ยย.. ปวดขาจังโว้ย" ปราโมทย์บ่นโอดครวญปวดขาในขณะที่มีหลานสาวอย่างเมษานวดให้อยู่"ก็ใครใช้ให้ตาไปทำเองล่ะจ้ะเผลอเมื่อไรเป็นหาเรื่องทำงานทุกทีถ้าเป็นอะไรไปอะไหล่หายากแล้วนะเนี่ย" เมษาบ่นอุกทุกครั้งที่พวกเธอเผลอเมื่อไรตาเธอเป็นอันต้องหนีไปทำงานในไร่ทุกทีขนาดสังขารไม่เอื้อยังจะมีมานะและก็ต้องเป็นเธอทุกครั้งที่ต้องมานั่งบีบนั่งนวดอยู่แบบนี้"อย่าบ่นข้านักเลยข้าหาคนช่วยหนูนามันไม่ได้ก็เลยทำซะเอง" ปราโมทย์เอ่ยปัดทั้งที่อันที่จริงเขาไม่ได้หาใครมาช่วยแต่อยากจะลงแรงเองมากกว่า"แล้วก็เป็นแบบนี้ทุกที" เมษาบุ้ยปาก"ตาจ๋าพรุ่งนี้หนูจะไปช่วยหนูนามันเอง" เมื่อว่านรักเห็นว่าไม่มีคนช่วยหนูนาแบบนี้เธอเลยอาสาเพราะไม่อยากไปที่โรงพยาบาล"ไม่ได้ๆไปดูแลผัวเราดีแล้ว" ปราโมทย์ส่ายหัว"เค้ามีหมอดูแลอยู่แล้วจ่ะตาไม่ไปหาสักวันสองวันไม่เป็นอะไรหรอก" ว่านรักยังคงมุ่งมั่นว่าอย่างไรเธอก็จะไปทำงานที่ไร่ดีกว่าไปนั่งอึดอัดอยู่ที่โรงพยาบาลและไม่อยากตอบคำถามอะไรไรอันด้วย"จริงอย่างที่ว่านมันพูดงานที่ไร่ก็ออกจะเยอะเดี๋ยวพวกหนูเผลอตาก็ไปเข้าไร่อีก" เมษาเอ่ยปากช่วยว่านรักอีกแรง"แล้วเราไม่เสียใจบ้างหรือไ
อเมริกาโรงพยาบาลXXX"คุณท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ" ลูคัสมาถึงโรงพยาบาลได้ก็รีบเข้ามาดูอาการเอมม่าทันที"ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกไรอันล่ะอยู่ไหน" หญิงชราไม่วายมองหาหลานชายคนโตของเธอซึ่งไม่ค่อยจะเห็นหน้าค่าตากันเท่าไรนัก"เอ่อ...คุณไรอันดูที่ดินอยู่ญี่ปุ่นน่ะครับ" ลูคัสจำต้องเอ่ยคำโกหกออกไปเพราะคนเป็นนายสั่งว่าไม่ให้ย่าของตนรู้เป็นเด็ดขาดว่าเขาอยู่ที่ไหนทำอะไรเมื่อเสร็จภารกิจแล้วจะรีบกลับมา"แล้วเมื่อไรจะกลับงั้นเหรอ""ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ""งั้นก็ไปบอกหมอเจมส์ให้ฉันทีว่าฉันขอไปพักรักษาตัวที่บ้าน" "คงไม่ได้หรอกครับคุณย่าผมยังปล่อยให้คุณย่ากลับไปไม่ได้หรอกครับนอนดูอาการที่นี่อีกสักสามวันเป็นอย่างต่ำนะครับ" หมอเจมส์ที่เปิดแประตูเข้ามาทันได้ยินเอมม่าเอ่ยกับเจคอปเขาจึงรีบเอ่ยปฏิเสธทันทีเพราะถ้าหากเขาปล่อยให้ย่าของเพื่อนกลับไปพักที่บ้านทั้งที่อาการยังไม่ดีมีหวังไรอันรู้เขาได้โดนกินหัวแน่หมอเจมส์เป็นหมอหนุ่มรุ่นเดียวกับไรอันเป็นทายาทหมื่นล้านเจ้าขอโรงพยาบาลหลายแห่งในยุโรปเพื่อนกับไรอันตั้งแต่เด็กๆเรียนมาด้วยกันตลอดจะไม่ค่อยได้เจอกันในช่วงที่มีการมีงานทำแต่นานๆก็จะนัดสังสรรค์กันทีเวลาที่ว่างตร
"คุณก็จัดการเองสิคะ.. ฉันไม่เคยเช็ดตัวให้ผู้ชาย" "แต่ผมเป็นสามีคุณไม่ใช่เหรอ" คำพูดของหญิงสาวทำเอาไรอันสับสนกับการกระทำของเธออยู่ไม่น้อย"คือ.. ก.. ก็ได้" ว่านรักลืมข้อนี้ไปเสียสนิทก่อนจะรีบกลับมานั่งตรงหน้าชายหนุ่มและค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของเขาออกด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างลำบากใจ"คุณเป็นอะไรทำยังกับไม่เคยเห็นร่างกายของผม" ดวงตาสีน้ำข้าวของไรอันจ้องมองหญิงสาวอย่างมีคำถามมากมายเพราะดูเหมือนเธอไม่ค่อยอยากจะดูแลเขาเท่าไรทั้งสายตาของเธอเวลามองเขามันก็ว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูกหนำซ้ำตอนนี้ยังทำท่าเหมือนจะรังเกียจที่ตจะมองร่างกายของเขาอีก"อ๋อ.. เปล่าฉันกลัวคุณเขินไง...คุณความจำเสื่อมคุณคงไม่ค่อยคุ้นชินกับฉัน.." ว่านรักแสยะยิ้มก่อนจะเอ่ยชักแม้น้ำทั้งห้าไปเรื่อยทั้งยังไม่รู้ตัวอีกว่าตอนนี้เธอกำลังแก้มแดงเพราะหน้าท้องแกร่งที่ขึ้นซิกแพคของไรอันอยู่"แต่ผมว่าคุณมากกว่าที่น่าจะเขิน..หน้าแดงซะขนาดนั้น" ไรอันเอ่ยออกไปตามตรงไม่ได้คิดจะหยอกหญิงสาวแต่อย่างใด"เปล่านะคะ...ฉันแค่ร้อนๆ" ว่าจบก็ก้มหน้างุดหยิบผ้าจุ่มน้ำเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ชายหนุ่มอย่างเร่งรีบ"คุณนี่ก็น่ารักดีนะ...ผมว่าตอนที่ผมตกหลุ
"โอ้ย" คนที่ชอบหยอกเพื่อนรีบเอาหลังมือถูหัวเมื่อถูกว่านรักเคาะด้วยกำปั้น"ทำหน้าตาตื่นเต้นเพราะแกนั่นแหละทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้""ให้บอกความจริงตาไปเลยไหมล่ะอีตานั่นจะได้ถูกคนที่นี่รุมยำตาย" เมษาพูดอย่างลอยหน้าลอยตา"ไม่ๆๆ.. " ว่านรักรีบส่ายหัวทันทีเพราะเธอก็ไม่ใช่คนใจร้ายที่จะเห็นใครถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาได้"ฉันก็พึ่งเห็นคนอะไรสงสารคนที่จะฆ่าตัวเอง" เมษาบุ้ยปาก"ก็ตอนนี้อีตานั่นไม่รู้เรื่องรู้ราวนี่นาถ้าฉันปล่อยให้เค้าถูกทำร้ายก็แย่เกินคนแล้ว" "ฉันอยากจะรู้จริงจริ๊งว่าจะมีคนดีอย่างแกสักกี่คนเนี่ย""เที่ยงแล้วไปหาข้าวกินกันเถอะ..อ่อ..ฉันลืมหยิบปิ่นโตมากินกับแกก็แล้วกัน" ว่านรักเห็นว่านี่ก็น่าจะเที่ยงแล้วเพราะพระอาทิตย์ลงหัวอีกอย่างเหล่าคนที่ทำไร่อยู่ใกล้กันก็นั่งจับกลุ่มล้อมวงกินข้าวกันหมดแล้วจึงรีบชวนเมษาไปเข้าร่มไม้ตั้งวงกินข้าวกัน"ได้สิเมื่อเช้าตาก็ตักข้าวใส่ปิ่นโตมาเผื่อแกอยู่แล้ววันนี้มีแกงส้มผักรวมกับปลาเค็มของโปรดแกด้วย""งั้นรีบเลย" ได้ยินเช่นนี้ว่ารักจึงรีบสับขาเข้าไปในร่มทันทีเพราะวันนี้มีของโปรดของเธอไรอันเดินเข้ามาในไร่พร้อมกับปิ่นโตในมือเพราะเขาเข้าใจว่าว่านรักน่าจะ
"ฉันคิดว่าเราควรจะสร้างตัวกันอีกสักนิดค่ะ" ว่านรักเอ่ยปัดให้จบๆไปก่อนจะปิดไฟนอนแม้นภายนอกเธอจะไม่มีอาการอะไรแต่หัวใจเธอเต้นไม่ค่อยจะเป็นส่ำเพราะไม่รู้เลยว่าวันหน้าเธอจะเจอคำถามหรือเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ลำบากใจอีก"อ๋อ...ผมเข้าใจแล้ว" ไรอันเอ่ยเสียงอ่อนแม้นหญิงสาวจะตอบเขามาแบบนั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าในใจของเขายังคงมีความสงสัยอยู่ก็หาคำตอบกับตัวเองไม่ได้อีกเหมือนกันเช้าวันต่อมา"...." ไรอันตื่นมาในช่วงเช้าตรู่เขาเห็นนอนมองหญิงสาวอยู่พักใหญ่โดยที่ยังไม่ปลุกเธอริมฝีปากหนาอมยิ้มอ่อนเมื่อมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังหลับตาพริ้มนี้เขาอยากจำได้เหลือเกินว่าตอนนั้นเขาตกหลุมรักเธอเพราะความน่ารักนี้หรือไม่แต่ตอนนี้เขาคิดว่าคงจะใช่และภาวนาในใจของให้เขาจำเรื่องราวก่อนหน้าได้เร็วๆจะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยอะไรให้มันอึดอัดหัวใจ ช่วงสาย"ผมไปไร่กับคุณด้วยได้หรือเปล่า" ไรอันเดินตามว่านรักออกมาจากบ้านก่อนจะขอเธอไปที่ไร่ด้วย"จะไปตากแดดตากลมทำไมคะอยู่ที่บ้านดีแล้วค่ะ..." "ผมไปอยู่ที่บ้านตาก็ได้" "ก็ได้" คนที่ขี้เกียจจะเถียงกับชายหนุ่มตอนนี้ยอมให้เขาตามเธอไปแต่โดยดีเพราะรู้ว่าถ้าเธอห้ามตอนนี้ไม่เที่ยงก็เย็นเธอ
"พ่อเลี้ยงนั่นสนิทกับคุณมากเลยใช่ไหม" เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ไรอันก็โพร่งถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของว่ารักกับบุญทวีทันที"ก็พอสมควรค่ะ""เรื่องที่ผมต้องมาง้อคุณที่นี่มันเกิดจากอะไรกันแน่ครับ" น้ำเสียงของไรอันเริ่มเปลี่ยนไปจนว่ารักเองก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนักที่ดูเหมือนว่าเขากำลังจับผิดเธออยู่ตลอดเวลา"ก็เกิดจากเรื่องทั่วไปนั่นแหละค่ะไม่มีอะไร...แล้วฉันก็ไม่ได้โกรธคุณแล้วด้วย" "ผมกำลังคิดว่าอาจจะเป็นเพราะคุณหาเรื่องผมแล้วกลับมาหาคนที่คุณรักก็ได้""มโนอะไรของคุณคะ" ใบหน้าหวานเริ่มคิ้วผูกโบว์"สายตาคุณมันฟ้องเวลาที่คุณมองเค้า..ต่างจากที่มองผม" ร่างสูงยื่นมือทั้งสองจับบ่าของหญิงสาวให้มองตาเขาก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ปนน้อยใจออกมา"ไร้สาระกันใหญ่แล้วค่ะ...ถ้าฉันรักเค้าฉันจะบอกคุณทำไมคะว่าฉันเป็นภรรยาคุณฉันจะบอกกับคุณก็ได้ว่าเราเลิกกันแล้วในตอนคุณฟื้น..คุณลองคิดสิคะ" "...ผมคงคิดไปเองขอโทษแล้วกัน..." พอได้ยินคำยืนยันจากปากของหญิงสาวให้มั่นใจแบบนี้เขาจึงลดความระแวงได้ครึ่งหนึ่งก่อนจะขอโทษร่างบางที่เขาทำให้เธอต้องมาอารมณ์เสียเพราะเขา อาทิตย์ต่อมาหลังจากที่ไรอันได้กลับมาพักที่บ้านหลายวันร่างกาย
"ผมว่าผมดูออกว่าพ่อเลี้ยงนั่นชอบคุณ" ไรอันเก็บอาการไว้ตั้งแต่ที่วัดเมื่อมาถึงบ้านยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้หย่อนก้นนั่งพักเขาก็เอ่ยถึงเรื่องบุญทวีทันที"คุณไรอันฉันคิดว่าเราคุยกันจบตั้งแต่ที่วัดแล้วนะคะ...ทำอย่างกับคุณหึงฉันอย่างนั้นแหละทั้งที่เรา.. " ว่านรักเกือบเผลอหลุดปากทำให้ไรอันถึงกับขมวดคิ้วมองหญิงสาวอย่างสงสัยมากกว่าเดิม"เราทำไมเหรอ...เราเป็นสามีภรรยากันผมหวงคุณก็ไม่เห็นแปลกนี่ครับเพราะของอะไรที่เป็นของผมผมก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเท่าไร""เราจะแต่งงานกันอยู่แล้วอย่าหาเรื่องทะเลาะกันเลยนะคะ" ว่านรักดึงชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเธอก่อนจะพูดถึงเรื่องแต่งงานพร้อมจ้องตาเขาไปด้วยหวังว่าวิธีนี้จะทำให้ไรอันไม่ถามอะไรเธออีก Rrrrr "ว่าไงเม...อะไรนะโอเคเดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้" มือน้อยยกมือถือที่กำลังดังขึ้นมารับสายเมื่อรู้ถึงธุระของปลายสายเธอจึงหมายจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปที่ไร่ทันทีนับว่าเมษาช่างโทรมาหาเธอได้ถูกเวลาจริงๆ"คุณจะไปไหน..""วัวหลุดจากคอกค่ะตอนนี้หากันไม่เจอฉันต้องไปช่วยหา..""ผมไปด้วย" ไรอันรีบลุกหมายจะไปกับว่านรัก"ไม่ต้องหรอกฉันจะรีบไปรีบกลับ" "ก็ได้" แต่เขาก็ต้องหย่อนก้น
"อืม...เจ็บ" ว่านรักตอนนี้เธอน่าจะมีบาดแผลอยู่ตามเนื้อตัวและที่เดินๆก็คือมีแผลแตกที่ไรผมด้านหน้าเธอระบมไปทั้งตัวจึงทำได้แค่ขยับลืมตาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงคนเรียก"ผมจะพาคุณกลับบ้านเอง" ไรอันรีบไต่ลงมาหาหญิงสาวอย่างรวดเร็วเดขายังไม่ยอมขยับร่างของเธอเพราะมีความคิดบางอย่างที่เหมือนเคยอยู่ในสมองสั่งให้เขารู้ว่าหากคนเจ็บด้วยอุบัติเหตุแบบนี้อย่าขยับร่างจนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือเพราะหากกระดูกสันหลังผู้ป่วยบาดเจ็บอยู่แล้วอาจจะทำให้เป็นอัมพาตได้เขาจึงทำได้แค่ฉีกเสื้อของเขาพันหัวว่านรักเพื่อห้ามเธอเอาไว้และจับมือหญิงสาวเอาไว้หลวมๆก่อนจะส่งเสียงเรียกคนด้านบนเป็นระยะให้รู้ว่าตำแหน่งของพวกเขาอยู่ตรงไหนทั้งสองอยู่แบบนี้ร่วมสองสามชั่วโมงกว่าพวกเจ้าหน้าที่ก็ทำการช่วยเหลือทั้งสองได้สำเร็จ โรงพยาบาลตอนนี้ว่ารักมานอนพักที่ห้องพักผู้ป่วยในแล้วหลังจากตรวจร่างกายเสร็จส่วนไรอันตอนนี้หมอกำลังตรวจอยู่อีกไม่นานก็น่าจะเรียบร้อย"เป็นยังไงบ้างดีนะที่ไรอันช่วยแกไว้ได้เร็ว" "ช่วยเหรอ" ว่านรักไม่รู้เลยว่าตอนนั้นใครอยู่กับเธอเมื่อรู้ว่าเป็นไรอันก็แอบตกใจอยู่มากไม่คิดว่าเขาจะยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเธอขนาดนี้