อาทิตย์ต่อมา
จากวันที่เปมิกาเจ็บวันนั้นตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ภูมิไทอยู่ดูแลหญิงสาวไม่ห่างทั้งทำอาหารทำแผลคอยอุ้มหญิงสาวออกไปนั่งเล่นข้างนอกเพราะกลัวว่าเธอจะเบื่อตอนนี้ทั้งคู่เลยดูสนิมกันโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็มีความรู้สึกดีๆให้กันอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว
ด้วยภูมิไทเองก็ไม่เคยดูแลใกล้ชิดผู้หญิงคนไหนมาก่อนเช่นเดียวกับเปมิกาเธอก็ไม่เคยมีแฟนและใกล้ผู้ชายคนไหนมาก่อนเช่นกันเมื่อได้ใกล้กันเข้าแถมยังคุยกันถูกคอความรู้สึกดีๆเลยเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
ตอนนี้หญิงสาวก็ตัดไหมเรียบร้อยแล้วแผลบนหัวไม่มีความรู้สึกเจ็บเท่าไรนักแต่ที่เท้ายังคงมีนิดหน่อยหากลงเดิน
“ให้ฉันช่วยนะคะ”
เปมิกาเดินกะเผลกๆมาที่ในครัวเพื่อจะช่วยชายหนุ่มทำอาหารเพราะให้เขาทำให้เธอกินมาหลายวันแล้ว
“ผมบอกว่าอย่าเดินเองไงครับ”
ภูมไทรีบละมือหมายจะเข้ามาประคองอุ้มร่างบางไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารแต่เธอก็รีบปฏิเสธเพราะเธอนั้นพอเดินเองไหว
“คุณไม่ต้องอุ้มฉันแล้วก็ได้ค่ะ..ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”
“ไม่ครับ..ผมอยากอุ้ม..”
ว่าจบก็รวบยกร่างบางขึ้นทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเคอะเขิน
หลังจากจบมื้ออาหารเย็นภูมิไทก็พาหญิงสาวขี่หลังมาเดินเล่นที่ริมชายหาดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นเขาไม่ยอมพาหญิงสาวไปที่โขดหินอีกเพราะกลัวว่าเธอจะซนขอเดินเล่นจนล้มไปอีกครั้ง
“หนักหรือเปล่าคะ”
“ไม่เลยครับเบายังกับนุ่นแบกทั้งวันก็ยังได้”
“เหมือนคุณกำลังจีบฉันเลยนะคะ”
เปมิกาเอ่ยทีเล่นทีจริงกับชายหนุ่มดูว่าเขาจะตอบอย่างไรเพราะพฤติกรรมของเขาที่ผ่านมามันทำให้เธอคิดว่าเขากำลังจีบเธออยู่
“ให้จีบไหมล่ะครับ”
ภูมิไทหยุดชะงักการเดินก่อนจะหันหน้ามาหาหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังใช่เขารู้สึกชอบเธอเข้าแล้วในเพียงไม่กี่วันที่อยู่ด้วยกันตัวติดกันแทบตลอดเวลา
“คนบ้า..อืมว่าแต่คุณภูมิไทเมื่อไรจะกลับมาที่เกาะล่ะคะฉันจะได้บอกเขาเสียทีว่าฉันมาอยู่ที่นี่”
เปมิกาถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะไม่คิดว่าเขาจะถามกลับเธอตรงๆเช่นนี้เธอไม่ได้คิดจะปฏิเสธและไม่ได้รังเกียจอะไรเขาด้วยเพราะหลายวันที่ผ่านมาเธอพอจะดูออกว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติเธอมากแต่เขินเกินกว่าจะพูดว่ายอมให้จีบจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยกับเขา
“อืม..ถ้าผมบอกอะไรคุณอย่าโกรธผมนะครับ”
ภูมิไทเห็นว่าถึงเวลาที่เขาน่าจะบอกความจริงเกี่ยวกับตัวเขาให้หญิงสาวรู้ได้แล้วเพราะเขาอยากจะให้เธอเห็นว่าเขาจริงใจ
“อะไรคะ”
“คือผม..ชื่อภูมิไท”
ชายหนุ่มรีบอธิบายให้หญิงสาวได้ฟังว่าเขาไม่ได้ต้องการจะโกหกเธอแค่คิดว่าบอกไปเธอก็คงจะไม่เชื่อและไม่อยากอวดอ้างตัวเองกับคนที่พึ่งรู้จักแต่พอตอนนี้เขามีความรู้สึกดีๆให้กับเธอจึงอยากจะบอกความจริงเพื่อแสดงความจริงใจ
เปมิกาที่ได้ฟังจนจบเธอก็หน้าเจื่อนไปชั่วขณะไม่ได้โกรธที่เขาไม่บอกความจริงเพราะเข้าใจว่าเขาไม่อยากอวดอ้างตัวตนแต่หากเขาเป็นภูมิไทเท่ากับชายหนุ่มก็คือคนที่เธอจะต้องมาหลอกให้เขาขายที่มันยิ่งทำให้เธอลำบากใจที่จะทำภารกิจเข้าไปอีกเพราะเท่ากับต้องหลอกคนที่เธอมีความรู้สึกดีๆให้และเขาก็มีความรู้สึกดีๆให้เธอ
“โกรธผมเหรอครับ”
ภูมิไทยเริ่มใจไม่ดีเท่าไรที่เห็นญิงสาวเงียบไป
“เอ่อ..ไม่ใช่ค่ะฉันแค่อึ้งๆไปนิดหน่อย”
“ค่อยโล่งอก...ผมยอมบอกความจริงเพื่อแสดงความจริงใจผมอยากให้เราทำความรู้จักกันไปนานๆผมสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆคุณ...คุณจะว่าอะไรหรือเปล่าถ้าผมอยากให้คุณอยู่กับผมที่นี่นานๆ”
ชายหนุ่มเอ่ยขอกับหญิงสาวตรงๆ
“อืม...ถ้าคุณอยากให้เป็นแบบนั้นฉันก็จะไม่ปฏิเสธค่ะ”
ว่าจบก็ซบเกยคางลงกับบ่าของชายหนุ่มให้เขาได้รู้ว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธความรู้สึกที่เขามีให้และเธอเองก็มีความรู้สึกดีให้เขาเช่นกัน..ใช่เธอก็ชอบเขาแต่จะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าเขาเป็นแค่นายทะเลชาวประมงธรรมดาๆเพราะไม่อยากรู้สึกผิดกับเขาเรื่องงานที่จะต้องทำ
“....”
หลังจากจบคำพูดคนที่กำลังซบใบหน้าอยู่บนบ่าภูมิไทก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ดูตนจะสมหวังดั่งใจที่หญิงสาวไม่ปฏิเสธหัวใจของเขา
วันต่อมา
วันนี้ภูมิไทพาเปทิกามาไหว้ทำความรู้จักกับย่าของเขาที่บ้านใหญ่ทิพย์เกสรเห็นเปมิกาคราแรกก็นึกเอ็นดูเพราะหญิงสาวนั้นทำให้หลานชายของเธอมีรอยยิ้มได้ตลอดเวลาต่างจากเมื่อก่อนที่ชอบทำหน้าอมทุกข์ทุกวี่ทุกวัน
หลังจากพาหญิงสาวมาแนะนำกับคนเป็นย่าอย่างเป็นทางการแล้วภูมิไทก็อาสาเข้าครัวทำอาหารเที่ยงปล่อยให้ย่าของเขากับเปมิกานั่งคุยกันไปเพลินๆและดูทิพย์เกสรกับเปมิกาจะคุยกันถูกคอเสียอีกด้วย
“หนูไม่ได้โกรธหลานย่าใช่ไหมลูกที่เค้าไม่ยอมบอกว่าเค้าเป็นใคร”
ทิพย์เกสรนั่งคุยกับเปมิกาอยู่ที่ห้องนั่งเล่นทั้งตอนนี้เธอยังคงถักไหมพรมเพลินๆไปด้วย
“ไม่หรอกค่ะคุณย่าหนูรู้ว่าเค้ามีเหตุผลค่ะ..หนูคิดว่าหากเป็นไปได้คนทุกคนคงไม่อยากโกหก”
เปมิกาส่ายหัวเบาๆตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกขาดความมุ่งมั่นที่จะทำงานของเธอที่รับมาจากอรนิชาเสียแล้วเพราะทั้งภูมิไทและย่าของเขาดูจะดีกับเธอมากทั้งที่พึ่งรู้จักจนเธอรู้สึกผิดจนจุกอยู่ในอกแต่ก็ถอยหลังกลับไม่ได้เพราะยังต้องรักษาชีวิตหลานสาวเอาไว้
“ย่าก็ว่าอย่างนั้น”
ทิพย์เกสรดูคนออกตั้งแต่คุยกันไม่กี่คำเธอถูกชะตากับเปมิกาพอสมควรเพราะสายตาของเธอดูเป็นคนซื่อไร้พิษภัยแถมยังน่ารักน่าเอ็นดูอีกอย่างหญิงสาวก็ยังทำให้หลานเธอยิ้มบ่อยๆได้อีกต่างหาก
“คุณย่าถักเองทุกชิ้นเลยเหรอคะ”
เปมิกาดูจะสนใจชิ้นงานไหมพรมในตระกร้าตรงหน้าของหญิงชราไม่น้อย
“ใช่จะ...หนูอยากลองถักดูหรือเปล่า”
“ค่ะ..แต่คุณย่าต้องสอนหนูนะคะเพราะหนูทำไม่เป็น”
“ได้เลย”
เมื่อนั่งสอนกันได้ไม่นานนักเปมิกาก็ทำมันได้อย่างคล่องมือจนทิพย์เกสรต้องเอ่ยชมว่าหญิงสาวหัวไวไม่ใช่น้อย
“หัวไวเหมือนกันนี่เรา”
“ใครๆก็ชมหนูแบบนี้ค่ะคุณย่า..อิๆๆ”
เปมิกาเอ่ยหยอกเอิญเล่นกับหญิงชราพอให้เป็นสีสันให้ทิพย์เกสรได้มีรอยยิ้ม
“ฮ่าๆๆ..หนูเป็นคนคุยสนุกแบบนี้นี่เองหลานย่าถึงได้มีรอยยิ้มเยอะกว่าเดิมมากเลย”“คุณทะเลเค้าไม่ค่อยยิ้มเหรอคะคุณย่า...ตอนอยู่ด้วยกันเค้ายิ้มตลอดเลยปากแทบจะฉีกถึงหูเลยล่ะค่ะ”ว่าแล้วก็พูดอวดทิพย์เกสรยกใหญ่ว่าตอนที่ชายหนุ่มอยู่กับเธอเขาแทบจะไม่หุบยิ้มเลยด้วยซ้ำนึกไม่ออกเลยว่าเวลาเขาทำหน้าดุจะเป็นเช่นไร“ขนาดนั้นเลยเหรอลูก”“ค่ะ..”“ใครนินทาผมอยู่หรือเปล่าครับ”ภูมิไทที่กำลังจะเข้ามาเรียกทั้งสองไปที่โต๊ะอาหารเขาก็ได้ยินประโยคหลังๆที่เปมิกาและทิพย์เกสรคุยกันแทบทุกคำจึงรู้ตัวว่ากำลังถูกนินทา“อืม...แฮร่..”คนที่รู้ตัวว่าถูกจับได้อย่างเปมิกาก็รีบยิ้มแหยให้ฝ่ายชายก่อนจะก้มหน้างุดมองไหมพรมที่กำลังถักในมือต่อ“อย่าทำให้หนูดาวเสียหายนะลูก”ก่อนภูมิไทและเปมิกาจะกลับทิพย์เกสรก็เรียกหลานชายเธอมาคุยตามลำพังถึงเธอจะไว้ใจหลานชายมากเพียงใดแต่ก็ไม่ลืมจะย้ำให้เขาได้ฟังอีกรอบว่าการเป็นสุภาพบุรุษจะต้องทำอย่างไร“ครับคุณย่าผมจะให้เกียรติเธอ”ชายหนุ่มรับปากคนเป็นย่าด้วยรอยยิ้มอ่อนแม้นเขาจะชอบเธอเพียงใดแต่ก็ไม่คิดจะล่วงเกินหากหญิงสาวไม่เต็มใจและจะไม่ทำให้เธอดูไม่ดีในสายตาของคนอื่นเด็ดขาด22.00 น.จากทุกคืนที่เ
"ฉันยืมมือถือคุณโทรหาเพื่อนได้หรือเปล่าคะเผื่อตอนนี้พวกเค้าจะตามหาฉันอยู่"สองหนุ่มสาวกลับมาถึงเกาะได้เปมิกาก็ขอยืมมือถือชายหนุ่มเพราะเธอนั้นขาดการติดต่อกับของขวัญนานแล้วทั้งยังอยากรู้ว่าหลานสาวของเธอตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"นี่ครับผมให้คนซื้อมาไว้ให้คุณตั่งแต่เมื่อวานแล้วแบตชาร์จเต็มแล้วด้วยคุณใช้งานได้เลย..แล้วก็มีพวกชุดที่ผมซื้อเพิ่มมาให้คุณด้วยนะครับ"ภูมิไทรีบจูงหญิงสาวเข้ามาในห้องและหยิบกล่องมือถือแบรนด์ดังราคาเหยียบครึ่งแสนที่วางอยู่บนโต๊ะให้เธอพร้อมเปิดตู้เสื้อผ้าให้หญิงสาวดูว่าตอนนี้เธอมีเสื้อผ้าของผู้หญิงใส่ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าของเขาอีกต่อไป"ขอบคุณนะคะคุณดีกับฉันอีกแล้ว"เปมิกายิ้มแก้มปริชายหนุ่มเล่นดีกับเธอแบบนี้เธอจะไม่ให้เธอรู้สึกผิดกับเขาได้ยังไง"ผมต้องดีกับแฟนผมอยู่แล้วครับ"ภูมิไทยกมือลูบหัวหญิงสาวเบาๆอย่างเอ็นดู"ฉันตกลงเป็นแฟนคุณตอนไหนคะ"สาวเจ้าเงยหน้าขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่มดูท่าว่าเขาจะคิดเองเออเองเสีย"ในห้องนอนบนเรือไงครับ"ภูมิไทก้มกระซิบข้างใบหน้านวลเขาถือว่าเรื่องที่เธอยอมให้เขาจูบโดยไม่ขัดขืนนั้นแสดงว่าเธอตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วไม่ใช่เพียงแค่คนคุยธรรมดาอีกต่อไป"คนบ้
ร่างบางหลับตานอนนิ่งขณะที่ชายหนุ่มกำลังไล่ซุกไซร้ลำคอระหงส์และประกบริมฝีปากหนาบดจูบอย่างไร้ความนุ่มนวลภูมิไทดูดดึงจนริมฝีปากบางจนแทบห้อเลือดก่อนจะส่งลิ้นร้ายตวัดดึงลิ้นเรียวของหญิงสาวเล่นน้ำตาของเธอที่ถูกปาดจนแห้งไปคราแรกตอนนี้กลับพรั่งพรูออกมาอีกรอบเพราะรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มไม่มีทีท่าจะนุ่มนวลเอาเสียเลยทั้งยังเสียใจที่ตอนนี้รู้แก่ใจว่าอีกฝ่ายน่าจะเกลียดเธอเอามากทั้งที่ตอนนี้เธอนั้นเริ่มรู้สึกดีกับเขามากๆไปแล้วภูมิไทไม่เคยคิดปราณีหญิงสาวแม้นเสี้ยววินาทีตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์โกรธที่เธอกล้ามาหลอกลวงเขาอีกอย่างก็โมโหที่หญิงสาวนั้นทำทุกอย่างได้ก็เพื่อเงินไม่เว้นแม้แต่ขายศักดิ์ศรีของตัวเองคนที่เขาคิดว่าดีไม่ได้ดีอย่างที่คิดเสียแล้วฟึ่บบเมื่อสำรวจบดจูบริมฝีปากบางจนพอใจแล้วมือหนาก็กระชากเสื้อตัวบางที่เปมิกาสวมใส่ขาดวิ่นเผยให้เห็นบราชิ้นเล็กสีครีมที่ปกปิดสองเต้างามชายหนุ่มไม่รีรอเขารีบสอดแขนประคองยกร่างบางขึ้นเล็กน้อยปลดตะขอสลัดเจ้าบราชิ้นเล็กทิ้งลงไปข้างเตียงทุกการกระทำของชายหนุ่มเปมิกาไม่เคยมองมันได้อย่างเต็มตาเธอพยายามหันหน้าหนีและหลับตาตลอดไม่อยากจดจำภาพต่างๆที่ชายหนุ่มได้กระทำกับตนแม้
เช้ามืดวันต่อมา"น้าไปทำงานก่อนนะโลมาเสร็จแล้วจะรีบกลับอย่าดื้อกับน้าขวัญล่ะ"เช้าวันต่อมาเปมิกาเข้ามากอดหอมหลานสาวตัวน้อยเช้ามืดในห้องของโลมาก่อนที่จะเดินทางไปทำงาน"ค่ะน้าดาว""เดินทางดีๆล่ะ"ของขวัญยื่นกระเป๋าให้เปมิกาทั้งอวยพรให้เพื่อนเธอเดินทางปลอดภัยเพราะต้องนั่งรถตู้ไกลพอสมควร"อืมไปล่ะ"หญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาหิ้วกระเป๋าใบไม่ใหญ่มากนักเดินออกไปจากบ้านนั่งแท็กซี่ไปต่อรถตู้ที่หน้าบ้านของแน็ตตี้โมเดลลิ่งเจ้าประจำที่ชอบเรียกเธอไปทำงานให้กว่าเปมิกาและเหล่านางแบบนายแบบอีกหลายคนเดินทางมาถึงหัวหินก็นั่งกันจนเมื่อยก้นนายแบบนางแบบบางคนที่มีทุนทรัพย์มากหน่อยก็ขับรถกันมาเองส่วนเปมิกาเลือกที่จะนั่งรถฟรีเพราะรถเก๋งคันเดียวของเธอต้องเอาไว้ให้ของขวัญใช้เพื่อพาโลมาไปหาหมอและไปส่งของตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้วเมื่อทุกคนมาถึงก็มารับคีย์การ์ดบ้านพักของตัวเองในรีสอร์ทหรูระดับห้าดาวที่มีบ้านพักหลายหลังรายล้อมติดริมทะเล"พักหรูแบบนี้เลยเหรอคะ"เปมิกานั่งรถกอล์ฟที่พนักงานจากรีสอร์ทขับมาส่งพร้อมแน็ตตี้เพราะบ้านที่เธอพักกับบ้านแน็ตตี้อยู่ใกล้ๆกันเธออดถามแน็ตตี้ไม่ได้ว่าให้พวกเธอพักค
ตกเย็นตอนนี้ทางทีมงานถ่ายแบบและเหล่านางแบบก็มารวมตัวกันที่ชายหาดและเริ่มถ่ายกันอย่างรวดเร็วก่อนที่แสงสวยๆของพระอาทิตย์เวลาที่กำลังตกจะหมดไปกชกรเองก็ดูงานอยู่ตลอดไม่เคยละสายตาแม้แต่วินาทีเดียวเพราะอยากให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบดั่งใจเธอที่สุด“ภูมิมันจะมาถึงที่นี่เมื่อไรครับ”ธันวาเดินเข้ามาหาภรรยาตัวเล็กในขณะที่เธอกำลังยืนดูการถ่ายแบบแบรนด์เสื้อผ้าเพื่อที่จะถามหาภูมิไทเพราะเห็นภรรยาตัวเองบอกว่าเพื่อนเขาจะมาวันนี้แต่เขาก็ไม่ยักจะเห็นเสียที“น่าจะดึกๆนะคะพี่ธันเพราะพี่ภูมิบอกว่าพึ่งจะขับรถออกมา”“อืมแล้วนี่อีกนานหรือเปล่าครับกว่าจะถ่ายแบบเสร็จ”ธันวากอดไหล่มนของภรรยาตัวน้อยเอาไว้หลวมๆ“ของวันนี้อีกเซ็ทเดียวก็เรียบร้อยแล้วค่ะทำไมเหรอคะ”“พี่ก็จะได้สวีทกับภรรยาพี่บ้างน่ะสิ.”ชายหนุ่มทำสีหน้าออดอ้อนเพราะตั้งแต่กชกรเริ่มต้นทำแบรนด์เสื้อผ้าเขากับเธอก็มีเวลาสวีทกันน้อยเสียเหลือเกิน“เกรซมีงานนี่คะ..เอาไว้คอลเลคชั่นแรกเปิดตัวแล้วและมีดีไซน์เนอร์ใหม่เมื่อไรเราไปเที่ยวกันนะคะ”“ดีเลย..แล้วเมื่อไรจะมีดีไซน์เนอร์ใหม่ล่ะ”“ตอนนี้เกรซกำลังทาบทามอยู่ค่ะ”“เร็วๆล่ะพี่อยากปั๊มเบบี๋แย่แล้ว”“คนลามก”ธันวากระ
"เสือก"พลั้กกภูมิไทเข้าไปกระชากเปมิกาให้หลุดจากมือของธนากรก่อนจะผลักอีกฝ่ายจนล้มลงไปกองกับพื้น"มึงเป็นใคร"ปึก.. ตุ้บบธนากรลุกมาหมายจะวาดหมัดตอกใส่หน้าของภูมิไทแต่ชายหนุ่มหลบได้และชกธนาการจนล้มลงไปอีกครั้ง"โอ้ยย..""อะไรกันคะพี่ภูมิ"กชกรที่ได้ยินเสียงเอะอะใกล้ๆกับบ้านที่เธอพักจึงรีบวิ่งออกมาดูเธอออกมาคนเดียวเพราะตอนนี้ธันวาสามีเธอเมาหลับไปเสียแล้ว"ไอ้นี่เป็นใครเกรซ"ภูมิไทชี้หน้าธนากรด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจอย่างมากเขารู้ว่าที่รีสอร์ทในตอนนี้มีแต่พวกทีมงานถ่ายแบบทั้งนั้นไม่รู้ว่าน้องสาวเขาเลือกคนมาทำงานไม่คัดคนบ้างหรืออย่างไร"ตากล้องที่เกรซจ้างมาเองค่ะ""หาตากล้องใหม่...แล้วแกก็ไปซะถ้าไม่อยากหมดอนาคตกับงานของแก""....."ธนากรพึ่งจะรู้ว่านี่คือภูมิไทพี่ชายของกชกรเขาก็ไม่คิดจะต่อกลอนอะไรด้วยอีกเพราะเกรงว่าจะหมดอนาคตได้ง่ายๆเพราะรู้จักอิทธิพลของทักษาธาราดีจึงรีบลุกแล้ววิ่งกลับไปที่พักของตน"อะไรกันคะพี่ภูมิ...ไล่เค้าไปใครจะถ่ายงานให้เกรซล่ะคะ"กชกรไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชายเธอจึงต้องโมโหช่างภาพที่เธอจ้างมาขนาดนี้ด้วย"พี่ถ่ายให้เอง...คนสันดานเสียรุ่มร่ามกับผู้หญิงไปทั่วแบบนั้นอย่าเอามาทำ
"หืม...พี่ว่าแค่นี้ก็ได้แล้ว""เกรซว่าถ่ายไว้เผื่อเลือกก็ดีนะคะ"กชกรยังให้เปลี่ยนเซ็ทนางแบบนายแบบไม่ได้เพราะเธออยากให้เปมิกามีรูปที่ขี่หลังกับลูคัสเพราะคิดว่าทั้งสองถ่ายออกมาน่าจะน่ารักไม่น้อย"คุณเกรซคะ.. โอเคหรือเปล่าคะ"ยังไม่ทันที่กชกรจะสั่งตอนนี้เปมิกาก็ขึ้นขี่หลังลูคัสเรียบร้อยทำเอาช่างภาพจำเป็นอย่างภูมิไทกำมือแน่นไม่รู้ว่าน้องสาวเขาจะให้สองคนนั้นเป็นคู่รักที่สมจริงไปถึงขั้นไหน"น่ารักมากค่ะน้องดาว.. พี่ภูมิถ่ายเลยค่ะ""อืม...เรียบร้อย"ภูมิไทลั่นชัตเตอร์ครั้งเดียวอย่างไม่ใส่ใจรูปที่ออกมาอีกเช่นเคยภาวนาให้รูปที่เขาถ่ายมันใช้ไม่ได้จะได้ไม่มีรูปเนื้อแนบเนื้อของเปมิกาและลูคัสออกสื่อ"ได้รูปแล้วเหรอคะ"กชกรมองหน้าพี่ชายเธอด้วยสีหน้าสงสัยเพราะยังถ่ายไม่ถึงสามวิรูปที่ได้จะออกมาดีจริงหรือ"ใช่..จะเปลี่ยนอะไรอีกหรือเปล่า"ภูมิไทพยักหน้า"โอเคค่ะ.. พอก็พอ"“เดี๋ยวพี่ขอพักสักเดี๋ยวนะเกรซ”“ค่ะ”เมื่อน้องสาวยอมที่จะพอกับการถ่ายภาพสองคนนี้ภูมิไทก็ละจากหลังกล้องเดินไปสงบอารมณ์ไกลๆไม่ชอบตัวเองที่ต้องรู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นเปมิกาอยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่นเอาเสียเลย“เป็นอะไรของเค้านะ..พี่ฉันเป็นไบโพล
วันเวลาล่วงเลยมาเป็นอาทิตย์วันนี้เป็นวันที่ของขวัญและเปมิกาถึงเวลาที่จะต้องเซ็นสัญญาร่วมงานกับกชกรเสียทีสามสาวนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับรองโฮมของออฟฟิศกชกรที่นี่เป็นบ้านหลังใหญ่ของภูมิไทที่ให้กชกรใช้เป็นออฟฟิศและสตูดิโอในการทำงานของแบรนด์เสื้อผ้า“ออฟฟิศน่ารักดีนะคะ”ของขวัญเอ่ยชมออฟฟิศของกชกรเพราะตั้งแต่เข้ามาเธอรู้สึกไม่เหมือนที่นี่เป็นที่ทำงานเท่าไรเพราะแต่ละคนที่นั่งทำงานก็ชิวกันมากเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนอย่างไงอย่างงั้น“พี่อยากให้ที่ทำงานเป็นเหมือนบ้านไม่ต้องยึดคำว่าเจ้านายลูกน้องอยากให้เป็นแค่เราทุกคนช่วยกันสร้างองค์กรของเราให้เติบโตอย่างมีคุณภาพน่ะ..แล้วสัญญาอ่านกันครบหรือยัง”“เรียบร้อยค่ะวันนี้เตรียมตัวมาเซ็นโดยเฉพาะค่ะ”“ดีเลยนี่จะ..เซ็นทุกหน้าเลยนะ”กชกรยื่นเอกสารปึกหนาพอสมควรให้กับสองสาวหลังจากที่เสร็จธุระเรื่องสัญญาแล้วกชกรก็พาสองสาวเรียนรู้ระบบการทำงานของที่นี่และมอบหมายหน้าที่ให้ทั้งสองโดยการเริ่มออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นต่อไปของแบรนด์ทันที“สวัสดีครับทุกคน”“คุณลูคัส”ระหว่างที่สามสาวกำลังยืนคุยเรื่องงานกันเพลินๆนายแบบลูกครึ่งร่างสูงก็เดินดุ่มๆเข้ามาทักทายเปมิกาที่เห็นลู