Share

ตอนที่8 จีบ

อาทิตย์ต่อมา

จากวันที่เปมิกาเจ็บวันนั้นตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ภูมิไทอยู่ดูแลหญิงสาวไม่ห่างทั้งทำอาหารทำแผลคอยอุ้มหญิงสาวออกไปนั่งเล่นข้างนอกเพราะกลัวว่าเธอจะเบื่อตอนนี้ทั้งคู่เลยดูสนิมกันโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็มีความรู้สึกดีๆให้กันอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว

ด้วยภูมิไทเองก็ไม่เคยดูแลใกล้ชิดผู้หญิงคนไหนมาก่อนเช่นเดียวกับเปมิกาเธอก็ไม่เคยมีแฟนและใกล้ผู้ชายคนไหนมาก่อนเช่นกันเมื่อได้ใกล้กันเข้าแถมยังคุยกันถูกคอความรู้สึกดีๆเลยเกิดขึ้นได้ไม่ยาก

ตอนนี้หญิงสาวก็ตัดไหมเรียบร้อยแล้วแผลบนหัวไม่มีความรู้สึกเจ็บเท่าไรนักแต่ที่เท้ายังคงมีนิดหน่อยหากลงเดิน

“ให้ฉันช่วยนะคะ”

เปมิกาเดินกะเผลกๆมาที่ในครัวเพื่อจะช่วยชายหนุ่มทำอาหารเพราะให้เขาทำให้เธอกินมาหลายวันแล้ว

“ผมบอกว่าอย่าเดินเองไงครับ”

ภูมไทรีบละมือหมายจะเข้ามาประคองอุ้มร่างบางไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารแต่เธอก็รีบปฏิเสธเพราะเธอนั้นพอเดินเองไหว

“คุณไม่ต้องอุ้มฉันแล้วก็ได้ค่ะ..ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”

“ไม่ครับ..ผมอยากอุ้ม..”

ว่าจบก็รวบยกร่างบางขึ้นทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเคอะเขิน

หลังจากจบมื้ออาหารเย็นภูมิไทก็พาหญิงสาวขี่หลังมาเดินเล่นที่ริมชายหาดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นเขาไม่ยอมพาหญิงสาวไปที่โขดหินอีกเพราะกลัวว่าเธอจะซนขอเดินเล่นจนล้มไปอีกครั้ง

“หนักหรือเปล่าคะ”

“ไม่เลยครับเบายังกับนุ่นแบกทั้งวันก็ยังได้”

“เหมือนคุณกำลังจีบฉันเลยนะคะ”

เปมิกาเอ่ยทีเล่นทีจริงกับชายหนุ่มดูว่าเขาจะตอบอย่างไรเพราะพฤติกรรมของเขาที่ผ่านมามันทำให้เธอคิดว่าเขากำลังจีบเธออยู่

“ให้จีบไหมล่ะครับ”

ภูมิไทหยุดชะงักการเดินก่อนจะหันหน้ามาหาหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังใช่เขารู้สึกชอบเธอเข้าแล้วในเพียงไม่กี่วันที่อยู่ด้วยกันตัวติดกันแทบตลอดเวลา

“คนบ้า..อืมว่าแต่คุณภูมิไทเมื่อไรจะกลับมาที่เกาะล่ะคะฉันจะได้บอกเขาเสียทีว่าฉันมาอยู่ที่นี่”

เปมิกาถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะไม่คิดว่าเขาจะถามกลับเธอตรงๆเช่นนี้เธอไม่ได้คิดจะปฏิเสธและไม่ได้รังเกียจอะไรเขาด้วยเพราะหลายวันที่ผ่านมาเธอพอจะดูออกว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติเธอมากแต่เขินเกินกว่าจะพูดว่ายอมให้จีบจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยกับเขา

“อืม..ถ้าผมบอกอะไรคุณอย่าโกรธผมนะครับ”

ภูมิไทเห็นว่าถึงเวลาที่เขาน่าจะบอกความจริงเกี่ยวกับตัวเขาให้หญิงสาวรู้ได้แล้วเพราะเขาอยากจะให้เธอเห็นว่าเขาจริงใจ

“อะไรคะ”

“คือผม..ชื่อภูมิไท”

ชายหนุ่มรีบอธิบายให้หญิงสาวได้ฟังว่าเขาไม่ได้ต้องการจะโกหกเธอแค่คิดว่าบอกไปเธอก็คงจะไม่เชื่อและไม่อยากอวดอ้างตัวเองกับคนที่พึ่งรู้จักแต่พอตอนนี้เขามีความรู้สึกดีๆให้กับเธอจึงอยากจะบอกความจริงเพื่อแสดงความจริงใจ

เปมิกาที่ได้ฟังจนจบเธอก็หน้าเจื่อนไปชั่วขณะไม่ได้โกรธที่เขาไม่บอกความจริงเพราะเข้าใจว่าเขาไม่อยากอวดอ้างตัวตนแต่หากเขาเป็นภูมิไทเท่ากับชายหนุ่มก็คือคนที่เธอจะต้องมาหลอกให้เขาขายที่มันยิ่งทำให้เธอลำบากใจที่จะทำภารกิจเข้าไปอีกเพราะเท่ากับต้องหลอกคนที่เธอมีความรู้สึกดีๆให้และเขาก็มีความรู้สึกดีๆให้เธอ

“โกรธผมเหรอครับ”

ภูมิไทยเริ่มใจไม่ดีเท่าไรที่เห็นญิงสาวเงียบไป

“เอ่อ..ไม่ใช่ค่ะฉันแค่อึ้งๆไปนิดหน่อย”

“ค่อยโล่งอก...ผมยอมบอกความจริงเพื่อแสดงความจริงใจผมอยากให้เราทำความรู้จักกันไปนานๆผมสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆคุณ...คุณจะว่าอะไรหรือเปล่าถ้าผมอยากให้คุณอยู่กับผมที่นี่นานๆ”

ชายหนุ่มเอ่ยขอกับหญิงสาวตรงๆ

“อืม...ถ้าคุณอยากให้เป็นแบบนั้นฉันก็จะไม่ปฏิเสธค่ะ”

ว่าจบก็ซบเกยคางลงกับบ่าของชายหนุ่มให้เขาได้รู้ว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธความรู้สึกที่เขามีให้และเธอเองก็มีความรู้สึกดีให้เขาเช่นกัน..ใช่เธอก็ชอบเขาแต่จะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าเขาเป็นแค่นายทะเลชาวประมงธรรมดาๆเพราะไม่อยากรู้สึกผิดกับเขาเรื่องงานที่จะต้องทำ

“....”

หลังจากจบคำพูดคนที่กำลังซบใบหน้าอยู่บนบ่าภูมิไทก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ดูตนจะสมหวังดั่งใจที่หญิงสาวไม่ปฏิเสธหัวใจของเขา

วันต่อมา

วันนี้ภูมิไทพาเปทิกามาไหว้ทำความรู้จักกับย่าของเขาที่บ้านใหญ่ทิพย์เกสรเห็นเปมิกาคราแรกก็นึกเอ็นดูเพราะหญิงสาวนั้นทำให้หลานชายของเธอมีรอยยิ้มได้ตลอดเวลาต่างจากเมื่อก่อนที่ชอบทำหน้าอมทุกข์ทุกวี่ทุกวัน

หลังจากพาหญิงสาวมาแนะนำกับคนเป็นย่าอย่างเป็นทางการแล้วภูมิไทก็อาสาเข้าครัวทำอาหารเที่ยงปล่อยให้ย่าของเขากับเปมิกานั่งคุยกันไปเพลินๆและดูทิพย์เกสรกับเปมิกาจะคุยกันถูกคอเสียอีกด้วย

“หนูไม่ได้โกรธหลานย่าใช่ไหมลูกที่เค้าไม่ยอมบอกว่าเค้าเป็นใคร”

ทิพย์เกสรนั่งคุยกับเปมิกาอยู่ที่ห้องนั่งเล่นทั้งตอนนี้เธอยังคงถักไหมพรมเพลินๆไปด้วย

“ไม่หรอกค่ะคุณย่าหนูรู้ว่าเค้ามีเหตุผลค่ะ..หนูคิดว่าหากเป็นไปได้คนทุกคนคงไม่อยากโกหก”

เปมิกาส่ายหัวเบาๆตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกขาดความมุ่งมั่นที่จะทำงานของเธอที่รับมาจากอรนิชาเสียแล้วเพราะทั้งภูมิไทและย่าของเขาดูจะดีกับเธอมากทั้งที่พึ่งรู้จักจนเธอรู้สึกผิดจนจุกอยู่ในอกแต่ก็ถอยหลังกลับไม่ได้เพราะยังต้องรักษาชีวิตหลานสาวเอาไว้

“ย่าก็ว่าอย่างนั้น”

ทิพย์เกสรดูคนออกตั้งแต่คุยกันไม่กี่คำเธอถูกชะตากับเปมิกาพอสมควรเพราะสายตาของเธอดูเป็นคนซื่อไร้พิษภัยแถมยังน่ารักน่าเอ็นดูอีกอย่างหญิงสาวก็ยังทำให้หลานเธอยิ้มบ่อยๆได้อีกต่างหาก

“คุณย่าถักเองทุกชิ้นเลยเหรอคะ”

เปมิกาดูจะสนใจชิ้นงานไหมพรมในตระกร้าตรงหน้าของหญิงชราไม่น้อย

“ใช่จะ...หนูอยากลองถักดูหรือเปล่า”

“ค่ะ..แต่คุณย่าต้องสอนหนูนะคะเพราะหนูทำไม่เป็น”

“ได้เลย”

เมื่อนั่งสอนกันได้ไม่นานนักเปมิกาก็ทำมันได้อย่างคล่องมือจนทิพย์เกสรต้องเอ่ยชมว่าหญิงสาวหัวไวไม่ใช่น้อย

“หัวไวเหมือนกันนี่เรา”

“ใครๆก็ชมหนูแบบนี้ค่ะคุณย่า..อิๆๆ”

เปมิกาเอ่ยหยอกเอิญเล่นกับหญิงชราพอให้เป็นสีสันให้ทิพย์เกสรได้มีรอยยิ้ม

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status