ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองสาวสวยไฮโซที่นั่งดื่มคนเดียวบนโซฟาแบรนด์หรูราคาแพงเธอนั่งมองไอแพดในมืออ่านข่าวของภูมิไทและเปมิกาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงวางลง
"หึ่...มาทำให้ฉันถูกใจแล้วจะหนีไปแต่งงานง่ายๆได้ยังไงคะ"
อรนิชาหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบด้วยใบหน้าบึ้งตึงไม่คิดว่าภูมิไทจะให้ข่าวด้วยตัวเองว่าจะแต่งงานกับเปมิกาแต่มีหรือที่เธอจะปล่อยให้คนที่เธอถูกใจมากๆหลุดมือไปคนอย่างเธออยากได้อะไรก็ต้องได้หรือถ้าเธอไม่ได้คนอื่นก็ไม่ต้องได้เช่นกัน
อาทิตย์ต่อมา
วันนี้ภูมิไทขออนุญาตเดือนฉายพาเปมิกามาค้างที่บ้านเช่นทุกอาทิตย์แต่อาทิตย์นี้ดูชายหนุ่มจะเศร้าหมองเป็นพิเศษเพราะเขารู้ตัวว่าพรุ่งนี้จะต้องห่างจากเปมิกาไปร่วมสองอาทิตย์เขาคะยั้นคะยอให้เธอไปด้วยเท่าไรเธอก็ไม่ตอบตกลง
"ผมต้องไปดูงานเป็นครึ่งเดือนไม่ไปกับผมจริงๆเหรอครับ"
"เราจะตัวติดกันตลอดเวลาไม่ได้นะคะตอนนี้เริ่มถ่ายแบบคอลเลคชั่นใหม่แล้วด้วย"
"ผมอยากแยกร่างได้จังเลยครับ"
ชายหนุ่มกอดก่ายร่างบางบ่นอู้อี้เป็นเด็กตอนนี้เขาติดเธอมากห่างวันนึงความรู้สึกเหมือนห่างเป็นปีก็ว่าได้
สองวันต่อมา
ตอนนี้เปมิกาและของขวัญยกทีมมาถ่ายงานกันที่เชียงใหม่ตลอดงานนี้เปมิกาไม่มีกะใจทำงานเต็มที่เท่าไรเพราะรู้สึกไม่สบายใจกับผู้คนที่เอาแต่ต่อว่าเธอเหมือนเธอไปทำอะไรผิดจะให้เธอเลิกสนใจอย่างที่เคยทำก็ยากเพราะเปิดมือถือทีไรเรื่องของเธอกับภูมิไทก็เป็นที่พูดถึงทุกหน้าไป
ไม่เห็นจะเหมาะสมกันเลยคุณอรเหมาะกว่าตั้งเยอะ
ก็แค่ของเล่นอีกหน่อยเค้าก็ทิ้งใครเค้าจะเอาจริง
นักธุรกิจก็ต้องได้กับคนที่ส่งเสริมกันเท่านั้นนางแบบคนนี้แค่ของเล่นใครๆก็ดูออก
"แกอย่าไปสนใจพวกปากหอยปากปูเลยอิจฉาชีวิตแกล่ะสิไม่ว่า"
ของขวัญเห็นเพื่อนเธอเอาแต่ทำหน้ากังวลจึงยึดมือถือของเปมิกามาไว้กับตัวไม่ให้เพื่อนได้อ่านคนที่มาต่อว่าเปมิกาของขวัญคิดว่าเป็นพวกที่อิจฉาตาร้อนหรือเห็นคนอื่นได้ดีกว่าไม่ได้มากกว่า
เปมิกาถึงจะฟังคำพูดของเพื่อนแต่เธอก็แอบคิดเหมือนกันว่าจริงๆแล้วเธอก็ไม่คู่ควรกับภูมิไทจริงๆอย่างที่คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น
สองสามวันแล้วที่ทีมงานถ่ายแบบกันที่เชียงใหม่หลังจากเสร็จงานเปมิกาขออยู่ที่นี่ต่อเพราะติดเสาร์อาทิตย์พอดีกชกรรู้ว่าเปมิกาค่อนข้างไม่สบายใจเธอจึงให้หญิวสาวอยู่พักผ่อนเพิ่มหายป่วยใจเมื่อไรก็ค่อยกลับเพราะงานหลังจากนี้ก็ไม่ยุ่งมากแล้วด้วยถ่ายแบบทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหลังจากนี้ก็จะเป็นงานของพวกกราฟฟิกส์และมาร์เก็ตติ้งมากกว่า
ในช่วงเช้าของวันเสาร์เปมิกาขับรถอออกมาจากรีสอร์ทไปตามทางเรื่อยๆด้วยความเหม่อลอยสองสามคืนแล้วที่เธอนอนไม่หลับด้วยยังคิดเรื่องความเหมาะสมของเธอและภูมิไทไม่วาง
"อ.. อ๊ายย" เอี๊ยดดดด
เปมิกาเหยีบเบรกกะทันหันเมื่อจู่ๆมีจักรยานขี่มาตัดหน้าของเธอโดยที่เธอก็ไม่ทันมองเช่นกันเมื่อรถหยุดได้เธอก็รีบลงมาดูคนที่ล้มกลิ้งอยู่หน้ารถทางแถวนี้มีแต่ป่าเธอคิดว่าจะไม่มีคนพลุกพล่านเลยไม่ทันระวัง
"โอ้ยย.."
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ"
เปมิกาหน้าเสียรีบนั่งฟุบดูตามเนื้อตัวของชายหนุ่มที่ร้องโอดโอยอยู่ตรงหน้าว่าเขามีแผลตรงไหนบ้างแม้นเธอจะไม่ได้ชนเขาแต่ก็รู้ว่าตอนที่เขาล้มท่าจะแรงเหมือนกัน
"เจ็บพอสมควรครับแต่ผมไม่ทันดูเอง"
ชายหนุ่มหน้าตี๋เอ่ยบอกกับหญิงสาวด้วยสีหน้าเยเกว่าเขาออกมาจากซอยเล็กๆก็ไม่ทันดูรถเช่นกัน
"ฉันพาคุณไปหาหมอดีกว่านะคะ"
เปมิการีบพยุงชายหนุ่มขึ้นรถเพื่อไปให้หมอดูอาการแม้นเขาจะบอกว่าเขาไม่ทันดูแต่เธอเองก็ผิดที่เอาแต่เหม่อลอยขณะขับรถ
โรงพยาบาล
หลังจากที่ธนดลชายหนุ่มหน้าตี๋เข้าไปรักษาในห้องฉุกเฉินพักใหญ่ได้เขาก็ออกมาพร้อมเฝือกอ่อนที่แขนเพราะกระดูกแตกแต่หมอนั้นให้กลับบ้านได้โดยมาตรวจเป็นระยะเพราะกระดูกแตกไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเพียงแค่สวมเฝือกอ่อนและรอให้กระดูกสมานกันเองเท่านั้น
"แย่จังเลยนะครับผมคงวาดรูปไม่ได้อีกนาน"
ตอนนี้ทั้งธนดลและเปมิกาก็นั่งหน้าหงอยกันอยู่ที่โรงพยาบาลชายหนุ่มบ่นอุกว่าจำเป็นต้องใช้มือขวาในการวาดการ์ตูนขายตอนนี้เขาใช้งานไม่ได้จึงต้องขาดรายได้ช่วงนี้ไปส่วนเปมิกาเองก็รู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บแถมยังดูท่าว่าจะเสียงานเพราะเธออีก
"เอาแบบนี้ค่ะระหว่างที่คุณรักษาตัวฉันจะชดเชยให้คุณเป็นเงินเดือนดีหรือเปล่าคะ"
"อืม..ไม่ต้องหรอกครับขอแค่คุณช่วยดูแลผมก็พอเพราะผมอยู่คนเดียว"
"อย่างนั้นก็ได้ค่ะ"
เปมิกาไม่ปฏิเสธกับสิ่งที่อีกฝ่ายร้องขอด้วยเต็มใจอยากจะชดใช้อะไรให้เขาบ้าง
"แล้วคุณเป็นคนที่นี่หรือมาเที่ยวล่ะครับ"
"ฉันอยู่กรุงเทพน่ะค่ะมาที่นี่ก็เพราะงานเสร็จงานแล้วก็เที่ยวต่อสักวันสองวัน"
"คุณอยู่แถวไหนล่ะครับผมก็อยู่กรุงเทพเหมือนกันเช่าบ้านอยู่แถวๆชานเมืองที่หมู่บ้านxxxครับ"
"ฉันก็เช่าบ้านอยู่แถวหมู่บ้านนั้นเหมือนกันบังเอิญจังเลยนะคะ”
"เหรอครับ...ท่าทางเราจะได้เป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว"
“นั่นสิคะ”
นับว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่เธอและธนดลพักรีสอร์ทเดียวกันแถมที่อยู่ที่กรุงเทพยังใกล้กันอีกหญิงสาวคิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีระหว่างที่แขนของธนดลยังใช้การไม่ได้เธอจะได้สะดวกต่อการดูแลเขา
หลังจากออกจากโรงพยาบาลได้เปมิกาก็โทรจ้างให้รถกระบะรับจ้างแถวนี้ไปขนจักรยานของธนดลกลับมาไว้ที่รีสอร์ทส่วนเธอก็พาเขามานั่งทานอาหารในร้านอาหารใกล้ๆกับโรงพยาบาลเพราะตอนนี้เลยเที่ยงมานานแล้ว
"ไม่หิวเหรอคะ"
เปมิกาเห็นธนดลเอาแต่จ้องมองอาหารไม่ยอมลงมือกินไม่รู้ว่าเขาไม่หิวหรืออาหารที่เธอสั่งเขาไม่ชอบกันแน่
"คือผมใช้มือซ้ายไม่ค่อยถนัดแล้วก็เริ่มปวดเนื้อตัวมากด้วยครับ"
"ฉันว่าเรากลับไปกินที่พักกันดีกว่าค่ะแล้วฉันจะดูแลคุณเอง"
"ขอบคุณครับ"
เปมิการีบให้ที่ร้านเอาอาหารใส่กล่องให้เธอก็ลืมนึกไปว่าเขาเพิ่งบาดเจ็บมาหมาดๆคงต้องการพักผ่อน
เมื่อกลับมาถึงรีสอร์ทได้เปมิกาก็รีบมานั่งป้อนอาหารให้กับธนดลที่ระเบียงหน้าบ้านพัก
"ขอบคุณนะครับลำบากคุณดาวแล้ว"
"ฉันเต็มใจค่ะบังเอิญที่เราพักที่เดียวกันดาวจะได้มาคอยดูแลคุณได้..."
เปมิกาไม่ได้มีปัญหาหรือรู้สึกว่าลำบากแม้สักนิดสบายใจที่ได้ดูแลคนที่เธอทำให้เจ็บตัวทั้งยังได้มีเพื่อนระหว่างพักผ่อนอยู่ที่นี่ด้วย
เปมิกายกหูรับสายภูมิไทยช่วงหัวค่ำเธอรอสายคนรักของเธอมาแทบทั้งวันเพราะไม่กล้าโทรไปรบกวนเวลางานของเขา
"ค่ะ..."
"ตอนนี้คุณโอเคหรือเปล่าผมไม่อยากให้คุณกังวลกับพวกปากหอยปากปูพวกนั้น...ผมจะไล่ฟ้องให้หมดทุกคนเลยคอยดู"
เปมิการับสายได้ภูมิไทก็รีบถามถึงสถานการณ์ตอนนี้ทันทีเขาไม่คิดว่าการลงข่าวจะทำให้เปมิกาถูกดูถูกจากคนที่ไม่รู้จักกันมากขนาดนี้หากเขากลับไปจะไล่ฟ้องทุกคนที่กล่าวว่าเปมิกาเสียๆหายๆ
"ฉันไม่ได้คิดอะไรมากหรอกค่ะเดี๋ยวคนก็เลิกพูดถึงเราไปเอง...อืม...แล้วอยู่ที่โน่นเป็นยังไงบ้างคะ"
เปมิกายิ้มร่าแค่รู้ว่าภูมิไทเป็นห่วงเธอก็ดีใจมากแล้วไม่อยากให้เที่ยวฟ้องใครจนเป็นเรื่องใหญ่โตเข้าใจว่าอีกหน่อยคนคงเลิกพูดกันไปเอง
"ค่อนข้างยุ่งพอสมควรครับผมว่างก็รีบโทรหาคุณทันทีเลย...ผมคิดถึงคุณนะครับ"
"ฉันก็คิดถึงคุณค่ะ"
หลังจากคุยกันได้พักใหญ่ภูมิไทก็ได้วางสายไปเปมิกาในตอนนี้ก็เริ่มสุขภาพจิตดีขึ้นหลังจากพักผ่อนไม่ยุ่งกับข่าวในโซเชียลแถมตอนนี้ยังมีเพื่อนใหม่อย่างธนดลให้คอยดูแลจึงไม่ว่างที่จะคิดเรื่องลบๆมากนัก
ระหว่างที่ภูมิไทกำลังจอดรถที่โรงแรมที่เขาพักขณะที่กำลังจะเดินเข้าลิฟท์ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนร้องเรียกให้ช่วยเหลือจึงรีบหันมองไปตามเสียง"ช่วยด้วยค่ะ.."ปึกเมื่อเห็นว่าคนที่ร้องขอความช่วยเหลือคืออรนิชาเธอกำลังถูกดึงรั้งกระเป๋าเขาจึงรีบวิ่งไปกระโดดถีบโจรร่างใหญ่จนล้มไปกองกับพื้น"โอ้ยย..."โจรชุดดำเห็นว่าตอนนี้เริ่มมีคนกรูเข้ามาพร้อมคนที่รักษาความปลอดภัยที่นี่จึงรีบหนีไป"ตามมันไปเลยครับ...ลุกไหวหรือเปล่าครับ"ภูมิไทรีบชี้ให้รปภ.วิ่งตามโจรไปและเขาก็เข้ามาดูอรนิชาที่ล้มฟุบลงไปกับพื้น"อืม..ฉันเจ็บค่ะ"อรนิชาส่ายหัวทั้งเอื้อมมือบีบที่ข้อเท้าด้วยสีหน้าเหยเก"คุณมาทำอะไรที่นี่"ภูมิไทไม่คิดว่าจะเจออรนิชาที่อเมริกาไม่รู้ว่าเธอมีธุระอะไรที่นี่"ฉันมาเที่ยวพักผ่อนน่ะค่ะพักโรงแรมนี้...บังเอิญจังเลยนะคะที่มาเจอคุณที่นี่...แล้วก็เป็นโชคดีที่ได้คุณมาช่วยฉัน"หลังจากคุยกันเสร็จภูมิไทก็ต้องอุ้มอรนิชาขึ้นมาส่งที่ห้องเพราะเธอเจ็บข้อเท้าตอนล้มพับลงไป"ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน"อรนิชานั่งมองภูมิไทด้วยสีหน้าปลื้มปริ่มขณะที่ภูมิไทกำลังนั่งนวดข้อเท้าให้เธอยอมรับว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษจนเธอถูกใจเอามากๆแม้เคยทะเ
อรนิชาเห็นเปมิกานั่งลงได้ก็เปิดประเด็นไม่พูดพร่ำนอกเรื่องให้เสียเวลา"เคยเกริ่นๆไว้ค่ะ"สีหน้าของเปมิกาตอนนี้ไม่สู้ดีนักเพราะไม่รู้ว่าอรนิชาจะถามเรื่องนี้กับเธอเพื่ออะไร"อืม...ฉันก็ไม่ได้อยากจะมาพูดให้เธอเสียใจหรอกนะตอนไปดูงานเค้าก็โทรตามฉันไปด้วยแถมตอนที่เราอยู่ด้วยกันบนเตียงเค้าก็บอกเองว่าไม่ได้จริงจังกับเธอและจะพยายามหาเรื่องทะเลาะตีตัวออกห่างเธอให้มากที่สุดเพื่อที่จะแต่งงานกับฉันคนที่เหมาะสมกับเค้า""แค่นี้ใช่ไหมคะที่คุณจะพูด"จากคราแรกที่ว่าจะมาถามหาความจริงจากอรนิชาตอนนี้เปมิกาคิดว่าได้คำตอบแล้วเธอจึงไม่คิดจะอยู่ต่อเพราะกลัวว่าน้ำตาเจ้ากรรมจะไหลออกมาเธอไม่กลัวจะเสียมารยาทด้วยดูท่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้อยากจะเห็นมารยาทจากเธอเช่นกันคงอยากเห็นเธอเสียใจเสียมากกว่า"จะไม่เชื่อฉันก็ได้แต่ขอให้ดูเอาเองว่าหลังจากนี้เขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน...อ่อ..แล้วตอนนี้เค้าก็กลับมาที่ไทยตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็อยู่กับฉันทั้งคืนเค้าได้บอกเธอก่อนหรือเปล่า"อรนิชาเปรยตามหลังเปมิกาด้วยสีหน้าท่าทางของผู้ชนะเธอรู้ดีว่าต่อไปเปมิกาจะต้องเจอกับอะไรเพราะเรื่องราวทุกอย่างที่เปมิกาเจอล้วนเป็นเธอที่จ้างคนจัดฉากขึ้นมาทั้งนั้น
ร้านอาหาร"แล้วไปอยู่ไหนกันล่ะเนี่ย"ช่วงเที่ยงสองสาวต้องมานั่งปวดหัวกันที่ร้านอาหารด้วยไปบ้านภูมิไทก็ไม่เจอใครแถมติดต่อก็ไม่ได้เจอแบบนี้กชกรไม่รู้จะเอายังไงต่อเลยภูเก็ตภูมิไทมาถึงบ้านพักที่ภูเก็ตตั้งแต่เมื่อคืนเขานั่งเครื่องมาพักใจที่นี่มาถึงก็เอาแต่ดื่มหนักจวบจนเวลาเย็นของวันนี้ปวดหัวใจที่ถูกหญิงสาวทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าเข้าใจว่าการที่เธอไม่อยากแต่งงานกับเขาไม่ใช่เพียงอยากรอเวลาแต่เธอไม่ได้ต้องการผูกมัดกับเขามากกว่าทางด้านเปมิกาก็เดินทางขึ้นรถทัวร์มาทางเหนือเธอขอมาพักใจสักพักใหญ่เพื่อขจัดความรู้สึกที่มีต่อภูมิไทให้ได้จะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมที่เคยเป็นเปมิกามาเช่าบ้านหลังเก่าๆในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งค่อนข้างที่จะกันดานพอสมควรเพื่อตัดจากโลกภายนอกอยู่กับตัวเองอยู่กับธรรมชาติเพื่อที่จะลืมสิ่งที่ปวดใจตอนนี้โดยเร็ววันเวลาพ้นผ่านไปร่วมเดือนที่เปมิกาและภูมิไทยังทำตัวสูญหายติดต่อไม่ได้กชกรก็ให้สามีเธอช่วยตามหาภูมิไททุกทางเพราะอยากจะพูดคุยถึงเรื่องราวที่อยากจะรู้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหาเจอเลยแม้แต่เงา"คุณเกรซคะได้เรื่องยังไงบ้างคะ""ยังเลยน้องขวัญ..เฮ้อ.."ขณะที่สองสาวกำลังห
เดือนต่อมาเปมิกามาอยู่ที่หมู่บ้านชนบทแห่งนี้ได้ร่วมเดือนกว่าแล้วหัวใจช่วงนี้ก็เริ่มดีขึ้นมากกว่าเดิมพอสมควรยิ่งอยู่ในที่ๆสงบใจเธอก็เริ่มเย็นลงมาก"ยินดีด้วยนะคะคุณตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้ว"หญิงสาวนั่งเหม่ออยู่ริมระเบียงบ้านไม้ยามค่ำคืนคำพูดของหมอสาวที่เธอไปหาที่โรงพยาบาลเมื่อเช้ายังลอยอยู่ในหัวตอนนี้จะว่าดีใจที่มีลูกก็ดีใจแต่จะดีกว่านี้ถ้าเธอและภูมิไทไม่มีปัญหากันหากเธอกลับไปบอกภูมิไทว่าเธอท้องลูกของเขาก็คงไม่เชื่ออยู่ดีดังนั้นเธอคิดว่าไม่ควรจะบอกเขาดีกว่าด้วยกลัวว่าจะถูกเขากล่าววาจาร้ายๆใส่เธออีกแค่ลูกคนเดียวเธอเลี้ยงได้อยู่แล้ว"ได้เรื่องยังไงบ้างครับคุณเขต""เธอเข้ารักษาที่โรงพยาบาลxxxครับ"ทางด้านของภูมิไทแม้นจะงานยุ่งเขาก็ยังให้คนคอยตามหาเปมิกาอยู่ตลอดจวบจนวันนี้เขาก็ยิ้มได้เสียทีแต่ก็ตกใจพอสมควรเมื่อเขตแดนบอกว่าเธอเข้ารักษาที่โรงพยาบาลภาวนาในใจว่าอย่าให้เธอได้เป็นอะไรร้ายแรงเลย"แล้วเธอเป็นอะไร""คุณดาวตั้งท้องครับ"เขตแดนอมยิ้มอ่อนรู้ว่าข่าวนี้คงทำให้เจ้านายตนใจชื้นชุ่มฉ่ำขึ้นมาได้ในรอบหลายวัน"ว...ว่าไงนะ"ภูมิไทใจเต้นระรัวดั่งกลองเพลเขาดีใจจนน้ำตาคลอแม้นจะยังไม่รู้พิกั
ซ่าาา.. ซ่าาา....เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งบนเกาะเล็กๆทางตอนใต้ของประเทศไทยบรรยากาศยามค่ำคืนนี้ท้องฟ้าโปร่งเดือนหงายมีดาวระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้าแสงของดวงจันทร์กลมโตสะท้อนกับน้ำทะเลเป็นภาพที่สวยงามในสายตาของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงผ้าใบริมชายหาดไม่น้อยภูมิไท ทักษาธาราชายหนุ่มวัยสามสิบสองทายาทกิจการโรงแรมหมื่นล้านและธุรกิจอื่นๆของเครือทักษาธาราเพียงคนเดียวของตระกูลเพราะย่าของภูมิไทก็มีลูกชายคนเดียวส่วนพ่อกับเม่ชายหนุ่มก็มีแค่ภูมิไทเป็นลูกชายคนเดียวเท่านั้นสถานะของภูมิไทคือโสดมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาคมเข้มคิ้วหนาดวงตาคมจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากหนาเป็นกระจับอมชมพูปล่อยผมยาวหยิกหยักศกประบ่ามีไรหนวดเคราเล็กน้อยสูง180ร่างกายกำยำบึกบึนเพราะออกกำลังกายเป็นประจำเขากำลังนอนมองท้องฟ้าด้วยรอยยิ้มอ่อน....แทบทุกคืนของวันพระจันทร์เต็มดวงเขาจะต้องมานอนสัมผัสบรรยากาศแทบทุกครั้งเพราะมันทำให้เขาผ่อนคลายเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศเขาชอบความสงบนอนฟังเสียงคลื่นไปเพลินๆเสมือนธรรมชาติกำลังบำบัดขัดเกลาความขุ่นมัวในใจออกไปได้เป็นอย่างดีเกาะที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวของภูมิไทที่สัมปทานไว้ได้ตั้งแต่รุ่นปู่จนมาถึงมือของช
"..เฮ้อ.."ของขวัญเองก็ได้แต่ยืนถอนหายใจเพราะเงินที่เธอมียังไงก็รวมกับเปมิกาไม่ถึงที่จะเป็นค่าใช้จ่ายใช้ผ่าตัดให้โลมาอยู่ดีของขวัญหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งวัยยี่สิบสี่ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยคิ้วบางได้รูปตาคมเหมือนลูกแมวผิวขาวอมชมพูผมหยักศกสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังเธอเป็นเพื่อนกับเปมิกาตั้งแต่เข้ามหาลัยหญิงสาวมีชะตาชีวิตที่ค่อนข้างเหมือนกับเปมิกาจึงเข้าอกเข้าใจกันและสนิทกันมากทำงานหาเงินเรียนแฟชั่นด้วยกันจบมาก็ช่วยกันออกแบบเสื้อผ้าขายและติดตามเป็นคนช่วยเหลือเปมิกาทุกครั้งที่เพื่อนเธอต้องมาเดินแบบหรือถ่ายแบบให้โมเดลลิ่งที่จ้างแต่ช่วงหลังมานี้ไม่ค่อยติดตามเพื่อนเธอเท่าไรเพราะต้องช่วยดูแลโลมาหลานสาวของเปมิกาอีกอย่างแบรนด์เสื้อผาที่พวกเธอทำก็ค่อนข้างขายได้เยอะกว่าแต่ก่อนส่วนมากจึงจะทำงานอยู่กับบ้านมากกว่า"ฉันขอคุยกับเธอหน่อยได้หรือเปล่า""คุณอรนิชา...เอ่อ...ได้ค่ะ"ขณะที่สองสาวนั่งเครียดกันอยู่จู่ๆก็มีอรนิชาไฮโซสาววัยสามสิบลูกสาวเจ้าของงานเดินแบบโชว์เครื่องเพชรวันนี้เข้ามาขอคุยกับเปมิกาทำเอานางแบบสาวตกใจพอสมควรไม่รู้ว่าเธอทำเพชรเม็ดไหนของเจ้าของงานหลุดไปหรือเปล่าถึงตามมาคุยกับเธอถึงตรงน
ช่วงเย็นของวันรัชนนท์หนุ่มหล่อร่างสูงบึกบึนหน้าคมผมยาวรวบมัดตึงวัยสามสิบห้าในชุดเสื้อลินินสีงาช้างกางเกงเลสีดำใส่รองเท้าแตะหูหนีบเดินดุ่มๆแบกถังน้ำมันมาหาภูมิไทที่ท่าเรือก่อนจะวางมันลงที่เรือประมงของตัวเอง“ทำไมวันนี้อยากจะใช้เรือพี่ล่ะ”รัชนนน์เอ่ยถามกับชายหนุ่มเจ้าของเกาะที่นั่งรอเขาอยู่ที่ในเรือ“ผมอยากนั่งเรือเล่นยืมคืนนึงนะครับพี่นนท์”“ตามสบายเลย”รัชนนท์รู้ดีว่าภูมิไทคงอยากหาอะไรทำแก้เบื่อเขาก็ไม่ติดอะไรที่ชายหนุ่มจะใช้เรือของเขาไปหาความสนุกเพราะภูมิไทก็ให้ที่พักอาศัยแก่เขาฟรีๆโดยที่ไม่ได้เรียกร้องอะไรแถมยังคอยดูแลอย่างดีอีกต่างหากเช้าตรู่วันต่อมาและแล้วเช้าของวันใหม่หลังจากที่สองสาววางแผนกันมาดิบดีแล้วทั้งสองก็มายืนอยู่ที่หน้าผาชันไม่ใกล้ไม่ไกลกับเกาะของภูมิไทมากนักสองสาวยืนรับลมทะเลกันมาพักใหญ่เพื่อรอดูเรือประมงว่าจะมีหันหัวแล่นเข้าเกาะเมื่อไหร่เพราะเมื่อมีเรือมาเปทิกาก็จะรีบกระโดดจากหน้าผาลงไปที่ทะเลทันทีตามแผนที่วางเอาไว้คิดว่ายังไงคนบนเรือก็ต้องลงมาช่วยเธอจังหวะนั้นเธอจะได้ออกอุบายเพื่อเข้าไปที่เกาะส่วนตัวของภูมิไทได้“เอาแบบนี้จริงเหรอดาว”ของขวัญที่ยืนอยู่ข้างๆเปมิกาต
“คือ...ฉันลองไปดูก็ได้คุณจะให้ฉันอยู่กี่วันฉันคิดว่าหากอยู่นานๆฉันก็คงจะดีขึ้นมาก”“จะอยู่เท่าไรก็แล้วแต่คุณเลยผมให้อยู่ฟรีกินฟรีด้วย”ภูมิไทเห็นทีท่าว่าหญิงสาวเริ่มที่จะสนใจสิ่งที่เขานำเสนอแล้วจึงตามใจเธอทุกอย่างเพราะคนที่กำลังจิตใจอ่อนแอย่อมต้องการพลังที่เป็นบวก“ขอบคุณนะคะ...ฉันชื่อปลาดาวเรียกฉันว่าดาวก็ได้คุณล่ะ”“ผมชื่อทะเล...นี่ผ้าห่มเอาไว้เดี๋ยวจะหนาว”ชายหนุ่มแนะนำตัวกับหญิงสาวก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนสีน้ำตาลของเขาที่ยังไม่ได้ใช้เอามาให้เธอห่มเพราะกว่าจะถึงเกาะเธอต้องรับลมทะเลอีกพักใหญ่เดี๋ยวจะหนาวเอาได้“ขอบคุณนะคะ”ภูมิไทพาหญิงสาวขึ้นจากท่าเรือเดินตามแนวชายหาดมาไม่ไกลนักก็เจอบ้านหลังสีขาวเล็กๆหลังคาทรงปั้นหยาตัวบ้านยกสูงจากพื้นบันไดสามขั้นด้านหน้ามีชานระเบียงกว้างเอาไว้นั่งรับลมเปมิกาเห็นคราแรกก็รู้สึกชอบบ้านหลังนี้มากเพราะเป็นบ้านริมทะเลในฝันที่เธออยากจะมีแต่คิดไปคิดมาก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะตอนนี้เธอไม่เห็นมีใครอยู่ที่บ้านอีกอย่างบ้านก็ตั้งอยู่หลังเดียวโดดๆแถมเธอยังมาอยู่กับชายหนุ่มชาวประมงสองต่อสองอีกอันที่จริงนึกว่าขึ้นฝั่งมาแล้วจะเจอคนอื่นบ้างแต่เปล่าเลย"บ้านผม