ซ่าาา.. ซ่าาา....
เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งบนเกาะเล็กๆทางตอนใต้ของประเทศไทยบรรยากาศยามค่ำคืนนี้ท้องฟ้าโปร่งเดือนหงายมีดาวระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้าแสงของดวงจันทร์กลมโตสะท้อนกับน้ำทะเลเป็นภาพที่สวยงามในสายตาของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงผ้าใบริมชายหาดไม่น้อย
ภูมิไท ทักษาธาราชายหนุ่มวัยสามสิบสองทายาทกิจการโรงแรมหมื่นล้านและธุรกิจอื่นๆของเครือทักษาธาราเพียงคนเดียวของตระกูลเพราะย่าของภูมิไทก็มีลูกชายคนเดียวส่วนพ่อกับเม่ชายหนุ่มก็มีแค่ภูมิไทเป็นลูกชายคนเดียวเท่านั้น
สถานะของภูมิไทคือโสดมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาคมเข้มคิ้วหนาดวงตาคมจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากหนาเป็นกระจับอมชมพูปล่อยผมยาวหยิกหยักศกประบ่ามีไรหนวดเคราเล็กน้อยสูง180ร่างกายกำยำบึกบึนเพราะออกกำลังกายเป็นประจำ
เขากำลังนอนมองท้องฟ้าด้วยรอยยิ้มอ่อน....แทบทุกคืนของวันพระจันทร์เต็มดวงเขาจะต้องมานอนสัมผัสบรรยากาศแทบทุกครั้งเพราะมันทำให้เขาผ่อนคลายเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศเขาชอบความสงบนอนฟังเสียงคลื่นไปเพลินๆเสมือนธรรมชาติกำลังบำบัดขัดเกลาความขุ่นมัวในใจออกไปได้เป็นอย่างดี
เกาะที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวของภูมิไทที่สัมปทานไว้ได้ตั้งแต่รุ่นปู่จนมาถึงมือของชายหนุ่มเกาะที่นี่เป็นเกาะที่ไม่ใหญ่มากแต่มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ผู้คนที่นี่ก็ล้วนผ่านการคัดกรองจากภูมิไทให้มาดูแลทุกคน
เพราะย่าของเขาอยู่ที่นี่ประจำเขาจึงต้องไว้ใจว่าคนที่เขาจ้างมาดูแลเกาะและดูแลย่าของเขาจะต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้
เมื่อก่อนชายหนุ่มมาที่นี่เป็นบางครั้งบางคราวเมื่อต้องการพักผ่อนจากการทำงานหลังจากที่พ่อกับแม่ของเขาเสียไปเขาก็แทบจะอยู่ที่นี่ถาวรกับย่าด้วยเบื่อผู้คนที่คอยเข้าหาไม่เคยหยุดหย่อนแต่ละคนก็หวังแต่ผลประโยชน์จากเขากันทั้งนั้น
ขณะนี้ชายหนุ่มในชุดเสื้อลินินสีงาช้างแขนยาวกับกางเกงเลยาวคลุมแค่เข่าเริ่มลุกจากเตียงผ้าใบเดินเล่นเตะน้ำทะเลอยู่ริมชายหาดยามค่ำคืนเขาเดินไปเรื่อยๆเพื่อเป็นการทำสมาธิผ่อนคลายความเครียด
เบื่อที่วันๆจะต้องมีคนติดต่อกับเลขาเพื่อที่จะขอโอกาสคุยเจรจาขอซื้อที่ดินของพ่อเขาหลังจากที่มันกลับกลายมาเป็นของเขาตามพินัยกรรมที่พ่อของเขาได้ทำเอาไว้ก่อนที่ท่านจะเสีย
ภูมิไทเอ่ยปากปฏิเสธพวกนักธุรกิจนายทุนหลายรอบตั้งแต่ยังคงบริหารบริษัทที่กรุงเทพมหานครจนเขาหนีมาอยู่ที่เกาะก็ยังคงปฏิเสธคนที่นายทุนส่งมาไม่หยุดหย่อน
เขารู้ว่าพื้นที่ตรงนั้นที่หลายคนอยากจะได้มีมูลค่าหลายพันล้านแต่เขาก็ไม่เคยคิดจะขายเพราะที่ดินผืนนั้นเป็นที่ดินผืนแรกที่พ่อของเขาซื้อเป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับแม่แถมตอนนี้ก็ยังเป็นที่พักพิงแก่คนที่ไม่มีบ้านหากเขาขายไปคนเหล่านั้นก็จะไม่มีที่อยู่
ณ.โรงแรมหรูริมทะเลตอนนี้ชั้นบนสุดของโรงแรมมีงานเดินแบบโชว์เครื่องเพชรของแบรนด์เครื่องประดับชื่อดัง
ในงานมีไฮโซและนักธุรกิจมากมายรวมถึงนางแบบนายแบบมากหน้าหลายตาและนักข่าวอีกหลายสำนักที่มาถ่ายบรรยากาศในงานเพื่อเอาไปทำข่าว
หนึ่งในงานก็มีเปมิกานางแบบสาวที่ไม่ค่อยมีชื่อในวงการนักมาร่วมเดินแบบในงานนี้ด้วยเปมิกาหรือปลาดาวเธอเป็นนางแบบที่รับแค่งานที่ไม่โชว์เนื้อโชว์หนังมากนักจึงไม่ค่อยได้มีงานเท่าไรอาศัยเป็นเด็กน่ารักกับโมเดลลิ่งจึงมีคนป้อนงานให้แต่ก็ต้องเลือกรับเพราะส่วนมากจะเป็นถ่ายโชว์วาบหวิวเสียมากกว่างานถ่ายแฟชั่นหรือเดินแบบทั่วไป
หญิงสาวอายุ24เป็นคนที่หน้าตาสะสวยคิ้วเข้มเรียวได้รูปดวงตากลมโตขนตางอนยาวปากนิดจมูกหน่อยผมสีดำยาวตรงสลวยถึงกลางหลังผิวขาวอมชมพูรูปร่างสูงเพรียวถึง175หุ่นนาฬิกาทรายเรียกได้ว่าเป็นโมเดลที่เพอร์เฟคตามที่ลูกค้าต้องการที่เธอไม่ดังเพราะเสียอย่างเดียวคือเลือกรับงานนั่นเอง
หญิงสาวเป็นคนที่สู้ชีวิตอยู่พอสมควรเพราะช่วงมหาลัยจากมีแม่คนเดียวแม่ก็ดันมาเสียจนทำงานส่งตัวเองเรียนเรื่อยมาแถมพอถึงช่วงวัยทำงานพอจะได้มีเงินเก็บจู่ๆพี่สาวที่หายหน้าไปหลายปีก็โผล่เอาลูกสาวมาฝากแล้วก็หายไปเลยแถมหลานสาววัยห้าขวบของเธอตอนนี้ก็ดันป่วยเป็นโรคร้ายต้องใช้เงินรักษาจำนวนมากเงินที่หามาได้ก็ลงไปกับการรักษาหลานจนหมด
แต่เธอก็ไม่คิดย่อท้อต่อโชคชะตายังคงทำงานทุกอย่างที่ทำได้เพราะเธอเป็นคนสนุกกับการทำงานหากไม่ได้มีงานเดินแบบเธอก็เร่งออกแบบเสื้อผ้าขายออนไลน์กับของขวัญเพื่อนสาวของเธอที่เช่าบ้านอยู่ด้วยกันเพื่อหาเงินกินใช้ในชีวิตประจำวันเพราะเงินก้อนจากการเดินแบบส่วนมากจะหมดไปกับค่ารักษาหลานสาว
"สวยมากเลยน้องดาว"
แน็ตตี้โมเดลลิ่งสาวใหญ่มายืนรอเปมิกาที่ห้องแต่งตัวหลังจากหญิงสาวเสร็จจากการเดินโชว์ในครั้งนี้
"คืนค่ะพี่"
เปมิกาในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำยาวจนถึงข้อเท้ารวบผมตึงเป็นหางม้าแต่งหน้าโทนนู้ดที่คอมีชุดเครื่องเพชรราคาหลายสิบล้านหญิงสาวรีบถอดคืนบอดี้การ์ดที่กำลังเดินตามเธอมาติดๆเพราะไม่อยากให้ของราคาแพงอยู่บนตัวเธอนานเกิดอะไรหายไปจะต้องมารับผิดชอบมันจะไม่คุ้ม
"ขอบคุณนะคะพี่แน็ตงานหน้าอย่าลืมโทรตามดาวนะคะงานเล็กงานน้อยดาวรับหมดดาวจะทำงานให้เต็มที่เลยค่ะ"
เมื่อบอดี้การ์ดเดินถือกล่องชุดเครื่องเพชรกลับไปแล้วหญิงสาวก็รีบเข้ามาขอบคุณแนตตี้ที่เป็นคนเลือกเธอมาเดินงานนี้ไม่ได้ยากอะไรมากมายแถมยังได้เงินค่าตัวตั้งเกือบครึ่งแสนแบบนี้เธอได้ค่าโรงพยาบาลของโลมาหลานสาวเธอหลายคืนเลย
"แน่นอนจะน้องดาวงานหน้าถ้าพี่เห็นว่าดาวพอจะทำได้เดี๋ยวพี่จะโทรเรียกนะจ้ะ"
แน็ตตี้เธอเอ็นดูเปมิกามากพอสมควรเพราะรู้ว่าเธอทำงานหนักเพราะมีภาระใหญ่เมื่อมีงานอะไรที่เห็นว่าเปมิกาจะทำได้เธอก็รีบเรียกหญิงสาวให้มาทำงานทันทีเพราะชอบในความสู้ชีวิตและเป็นคนที่มีความรับผิดชอบงานสูงต่างจากนางแบบคนอื่นๆที่สายบ้างทิ้งงานกะทันหันบ้างแต่เปมิกาไม่เคยมีข้อเสียตรงนี้เลยสักนิด
"ขอบคุณค่ะ"
ดาวว
เปมิกายกมือไหว้แน็ตตี้ก่อนจะเหลือบไปเห็นของขวัญที่ยืนกระโดดกวักมือเรียกเธอให้ไปหา
"เดี๋ยวดาวขอตัวกลับก่อนนะคะ"
"จ้ากลับดีๆนะ"
"ค่า.."
เปมิการีบขอตัวจากแน็ตตี้ทันทีเพราะเห็นเพื่อนเธอมีท่าทีร้อนรนจนเธอรู้ว่าน่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่นอน
เปมิกาเปลี่ยนชุดแล้วจึงมาคุยกับของขวัญที่ลานด้านนอกของโรงแรม
หลังจากรู้ข่าวจากของขวัญว่าโลมาหลานสาวของเธอที่นอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาลที่กรุงเทพนั้นอาการไม่ดีขึ้นและต้องรีบผ่าตัดภายในเดือนสองเดือนนี้เพื่อเปลี่ยนไขกระดูกสันหลังด่วนไม่อย่างนั้นก็จะยิ่งแย่ลง
"เงินฉันตอนนี้ก็มีแค่สองแสนเองไหนจะค่าโรงพยาบาลทุกวันนี้อีก... เห้อฉันจะหาเงินล้านจากที่ไหนดีเนี่ย...”
เปมิกานั่งหน้าห่อเหี่ยวยกมือเรียวกุมขมับตอนนี้เธอมืดแปดด้านไปหมดไม่รู้ว่าจะหาเงินล้านที่ไหนผ่าตัดหลานสาวเธอ
"..เฮ้อ.."ของขวัญเองก็ได้แต่ยืนถอนหายใจเพราะเงินที่เธอมียังไงก็รวมกับเปมิกาไม่ถึงที่จะเป็นค่าใช้จ่ายใช้ผ่าตัดให้โลมาอยู่ดีของขวัญหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งวัยยี่สิบสี่ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยคิ้วบางได้รูปตาคมเหมือนลูกแมวผิวขาวอมชมพูผมหยักศกสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังเธอเป็นเพื่อนกับเปมิกาตั้งแต่เข้ามหาลัยหญิงสาวมีชะตาชีวิตที่ค่อนข้างเหมือนกับเปมิกาจึงเข้าอกเข้าใจกันและสนิทกันมากทำงานหาเงินเรียนแฟชั่นด้วยกันจบมาก็ช่วยกันออกแบบเสื้อผ้าขายและติดตามเป็นคนช่วยเหลือเปมิกาทุกครั้งที่เพื่อนเธอต้องมาเดินแบบหรือถ่ายแบบให้โมเดลลิ่งที่จ้างแต่ช่วงหลังมานี้ไม่ค่อยติดตามเพื่อนเธอเท่าไรเพราะต้องช่วยดูแลโลมาหลานสาวของเปมิกาอีกอย่างแบรนด์เสื้อผาที่พวกเธอทำก็ค่อนข้างขายได้เยอะกว่าแต่ก่อนส่วนมากจึงจะทำงานอยู่กับบ้านมากกว่า"ฉันขอคุยกับเธอหน่อยได้หรือเปล่า""คุณอรนิชา...เอ่อ...ได้ค่ะ"ขณะที่สองสาวนั่งเครียดกันอยู่จู่ๆก็มีอรนิชาไฮโซสาววัยสามสิบลูกสาวเจ้าของงานเดินแบบโชว์เครื่องเพชรวันนี้เข้ามาขอคุยกับเปมิกาทำเอานางแบบสาวตกใจพอสมควรไม่รู้ว่าเธอทำเพชรเม็ดไหนของเจ้าของงานหลุดไปหรือเปล่าถึงตามมาคุยกับเธอถึงตรงน
ช่วงเย็นของวันรัชนนท์หนุ่มหล่อร่างสูงบึกบึนหน้าคมผมยาวรวบมัดตึงวัยสามสิบห้าในชุดเสื้อลินินสีงาช้างกางเกงเลสีดำใส่รองเท้าแตะหูหนีบเดินดุ่มๆแบกถังน้ำมันมาหาภูมิไทที่ท่าเรือก่อนจะวางมันลงที่เรือประมงของตัวเอง“ทำไมวันนี้อยากจะใช้เรือพี่ล่ะ”รัชนนน์เอ่ยถามกับชายหนุ่มเจ้าของเกาะที่นั่งรอเขาอยู่ที่ในเรือ“ผมอยากนั่งเรือเล่นยืมคืนนึงนะครับพี่นนท์”“ตามสบายเลย”รัชนนท์รู้ดีว่าภูมิไทคงอยากหาอะไรทำแก้เบื่อเขาก็ไม่ติดอะไรที่ชายหนุ่มจะใช้เรือของเขาไปหาความสนุกเพราะภูมิไทก็ให้ที่พักอาศัยแก่เขาฟรีๆโดยที่ไม่ได้เรียกร้องอะไรแถมยังคอยดูแลอย่างดีอีกต่างหากเช้าตรู่วันต่อมาและแล้วเช้าของวันใหม่หลังจากที่สองสาววางแผนกันมาดิบดีแล้วทั้งสองก็มายืนอยู่ที่หน้าผาชันไม่ใกล้ไม่ไกลกับเกาะของภูมิไทมากนักสองสาวยืนรับลมทะเลกันมาพักใหญ่เพื่อรอดูเรือประมงว่าจะมีหันหัวแล่นเข้าเกาะเมื่อไหร่เพราะเมื่อมีเรือมาเปทิกาก็จะรีบกระโดดจากหน้าผาลงไปที่ทะเลทันทีตามแผนที่วางเอาไว้คิดว่ายังไงคนบนเรือก็ต้องลงมาช่วยเธอจังหวะนั้นเธอจะได้ออกอุบายเพื่อเข้าไปที่เกาะส่วนตัวของภูมิไทได้“เอาแบบนี้จริงเหรอดาว”ของขวัญที่ยืนอยู่ข้างๆเปมิกาต
“คือ...ฉันลองไปดูก็ได้คุณจะให้ฉันอยู่กี่วันฉันคิดว่าหากอยู่นานๆฉันก็คงจะดีขึ้นมาก”“จะอยู่เท่าไรก็แล้วแต่คุณเลยผมให้อยู่ฟรีกินฟรีด้วย”ภูมิไทเห็นทีท่าว่าหญิงสาวเริ่มที่จะสนใจสิ่งที่เขานำเสนอแล้วจึงตามใจเธอทุกอย่างเพราะคนที่กำลังจิตใจอ่อนแอย่อมต้องการพลังที่เป็นบวก“ขอบคุณนะคะ...ฉันชื่อปลาดาวเรียกฉันว่าดาวก็ได้คุณล่ะ”“ผมชื่อทะเล...นี่ผ้าห่มเอาไว้เดี๋ยวจะหนาว”ชายหนุ่มแนะนำตัวกับหญิงสาวก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนสีน้ำตาลของเขาที่ยังไม่ได้ใช้เอามาให้เธอห่มเพราะกว่าจะถึงเกาะเธอต้องรับลมทะเลอีกพักใหญ่เดี๋ยวจะหนาวเอาได้“ขอบคุณนะคะ”ภูมิไทพาหญิงสาวขึ้นจากท่าเรือเดินตามแนวชายหาดมาไม่ไกลนักก็เจอบ้านหลังสีขาวเล็กๆหลังคาทรงปั้นหยาตัวบ้านยกสูงจากพื้นบันไดสามขั้นด้านหน้ามีชานระเบียงกว้างเอาไว้นั่งรับลมเปมิกาเห็นคราแรกก็รู้สึกชอบบ้านหลังนี้มากเพราะเป็นบ้านริมทะเลในฝันที่เธออยากจะมีแต่คิดไปคิดมาก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะตอนนี้เธอไม่เห็นมีใครอยู่ที่บ้านอีกอย่างบ้านก็ตั้งอยู่หลังเดียวโดดๆแถมเธอยังมาอยู่กับชายหนุ่มชาวประมงสองต่อสองอีกอันที่จริงนึกว่าขึ้นฝั่งมาแล้วจะเจอคนอื่นบ้างแต่เปล่าเลย"บ้านผม
หลังจากที่ภูมิไทไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพักใหญ่เปมิกาก็ง่วนอยู่กับการกินหมึกย่างจนตอนนี้หมึกย่างในถาดสแตนเลสใหญ่ก็ได้หมดลงไม่เหลือสักชิ้น"อืม.. เอ่อะ"ร่างบางนั่งตัวตรงเรอออกมาอย่างไม่ห่วงสวยหลังจากเคี้ยวหมึกชิ้นสุดท้ายหมดปาก"แล้วเค้าจะกินอะไรล่ะ"พออิ่มจนพุงกางเปมิกาก็พึ่งนึกได้ว่าคนที่หาหมึกพวกนี้มาน่าจะยังไม่ได้กินอะไรเธอจึงรีบมองซ้ายมองขวาแล้วลุกไปที่ตู้เย็นทันที"ฉันหุงข้าวกับทำไข่เจียวให้คุณก็แล้วกัน"เปิดตู้เย็นมาเจอไข่หญิงสาวก็หยิบมันออกมาสองลูกก่อนจะมองไปที่หม้อข้าวตั้งอยู่ที่เคาเตอร์ครัวแล้วลงมือหุงข้าวด้วยความชำนาญก่อนจะเริ่มตอกไข่ใส่ถ้วยเพื่อที่จะตีทำไข่เจียว"ทำอะไรเหรอครับ""พอดีฉันกินหมึกย่างจนหมดกลัวคุณไม่มีอะไรกินฉันเลยถือวิสาสะหุงข้าวกับจะทำไข่เจียวให้คุณ"เปมิกาหันยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มที่กำลังถือผ้าเช็ดผมของเขาที่เปียกหมาดๆอยู่เธอละอายใจพอสมควรที่กินไม่เหลือเผื่อแผ่ให้เจ้าของอาหาร"กินหมดถาดเลยเหรอครับ""คือ.. อย่าโกรธฉันเลยนะคะฉันหิว"หญิงสาวรีบขอโทษชายหนุ่มที่กำลังยืนทำสีหน้านิ่งงัน"เปล่าครับผมไม่ได้โกรธแค่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างคุณจะกินไม่เยอะเสียอีก...หมึกยัง
"คุณนอนในห้องผมแล้วผมนอนที่โซฟาข้างนอกเอง"เห็นสีหน้าหญิงสาวเริ่มเสียกะทันหันภูมิใทจึงต้องรีบอธิบายให้จบว่าเขาไม่ได้หมายความว่าเขาจะนอนกับเธอ"อ่อ..ค่ะ...รบกวนคุณแย่เลยเนอะ"ชายหนุ่มว่าจบร่างบางก็ร้องอ๋อเสียงสูงปัดไม้ปัดมือทำท่าพูดเกรงอกเกรงใจทั้งที่ในใจพอใจกับคำตอบของอีกฝ่ายพอสมควรที่เขาจะยกห้องนอนให้เธอแล้วออกไปนอนข้างนอก"ไม่เป็นไรเลยครับ"22.00 น.“นายเป็นใครกันแน่นายทะเล”กลางดึกแล้วตอนนี้เปมิกาก็ยังนอนไม่หลับเธอยังคงแปลกใจกับบ้านของชาวประมงธรรมดาเพราะเมื่อมาสังเกตดีๆเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ที่นี่ทุกชิ้นแพงๆทั้งนั้นแถมเสื้อที่เธอใส่อยู่นี่ก็น่าจะเป็นเสื้อผ้าที่สั่งตัดมาโดยเฉพาะผิวพรรณชายหนุ่มก็ดูเนียนไม่กระดำกระด่างคำพูดคำจาก็ไม่ติดสำเนียงคนท้องถิ่นแม้แต่น้อยอยากจะรู้นักว่าทะเลคนนี้คือใครกันแน่เพราะตอนนี้เธอเริ่มไม่ค่อยเชื่อแล้วว่าเขาคือชาวประมงทางด้านภูมิไทหลังจากที่โทรบอกกับทุกคนในเกาะว่ามีคนมาอยู่กับเขาที่บ้านเล็กตอนนี้และสั่งห้ามไม่ให้ทุกคนยุ่มย่ามมาที่นี่เพราะไม่อยากให้หญิงสาวได้เจอใครกลัวว่าคนเหล่านั้นจะหลุดปากบอกกับเธอว่าเขาเป็นใครเวลานี้ชายหนุ่มก็เอาเตียงผ้าใบมานอนกางที่ระเบี
ภูมิไทไม่ได้มีปัญหาว่าหญิงสาวจะคืนเงินหรือไม่คืนอยู่แล้วหลังจากที่คุยกันเรียบร้อยทั้งสองก็เตรียมตัวออกเรือไปที่ฝั่งกันทันทีเรือเล่นมาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงฝั่งเล่นเอาเปมิกาเวียนหัวอยู่พอสมควรเพราะไม่ค่อยได้นั่งเรือบ่อยเท่าไรนักภูมิไทจึงพาเธอมานั่งพักที่เก้าอี้สาธารณะริมฟุตบาทก่อนที่จะไปทำธุระกันต่อ“ค่อยยังชั่วแล้วหรือยังครับ”“ค่ะ..”“เราต้องต่อรถไปอีกนิดนะครับถึงจะถึงห้าง”ภูมิไทเห็นว่าหญิงสาวค่อยยังชั่วแล้วจึงอยากให้เธอเดินทางต่อเพราะยังต้องต่อรถอีกพักใหญ่ถึงจะเดินทางถึงห้างในตัวเมือง“ไปห้างทำไมคะแถวนี้ก็น่าจะมีของที่ฉันจะซื้อแถมยังมีพวกอาหารสดด้วย...แต่ฉันขอกินข้าวก่อนแล้วค่อยเดินนะคะ..หิวไม่ไหวแล้วจริงๆ”เปมิกาเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัยเธอไม่ได้คิดจะเข้าห้างสรรพสินค้าเพราะตรงหน้าก็เป็นลานตลาดนัดกว้างท่าจะมีทั้งของกินของใช้ครบเลยแต่ก่อนจะเดินเธอต้องขอกินอะไรก่อนออกเรือมาก็ไม่ได้กินอะไรรองท้องมาเลย“ผมไม่เห็นมีร้านอาหารแถวนี้นะครับ”ภูมิไทคิดว่าหญิงสาวจะต้องติดใช้ของในห้างเสียอีกหากเธออยากจะเดินที่นี่เขาก็ไม่ว่าแต่เขาไม่ยักเห็นร้านอาหารแถวนี้จะเปิดสักร้านเพราะส่วนมากจะเปิด
อาทิตย์ต่อมาจากวันที่เปมิกาเจ็บวันนั้นตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ภูมิไทอยู่ดูแลหญิงสาวไม่ห่างทั้งทำอาหารทำแผลคอยอุ้มหญิงสาวออกไปนั่งเล่นข้างนอกเพราะกลัวว่าเธอจะเบื่อตอนนี้ทั้งคู่เลยดูสนิมกันโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็มีความรู้สึกดีๆให้กันอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัวด้วยภูมิไทเองก็ไม่เคยดูแลใกล้ชิดผู้หญิงคนไหนมาก่อนเช่นเดียวกับเปมิกาเธอก็ไม่เคยมีแฟนและใกล้ผู้ชายคนไหนมาก่อนเช่นกันเมื่อได้ใกล้กันเข้าแถมยังคุยกันถูกคอความรู้สึกดีๆเลยเกิดขึ้นได้ไม่ยากตอนนี้หญิงสาวก็ตัดไหมเรียบร้อยแล้วแผลบนหัวไม่มีความรู้สึกเจ็บเท่าไรนักแต่ที่เท้ายังคงมีนิดหน่อยหากลงเดิน“ให้ฉันช่วยนะคะ”เปมิกาเดินกะเผลกๆมาที่ในครัวเพื่อจะช่วยชายหนุ่มทำอาหารเพราะให้เขาทำให้เธอกินมาหลายวันแล้ว“ผมบอกว่าอย่าเดินเองไงครับ”ภูมไทรีบละมือหมายจะเข้ามาประคองอุ้มร่างบางไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารแต่เธอก็รีบปฏิเสธเพราะเธอนั้นพอเดินเองไหว“คุณไม่ต้องอุ้มฉันแล้วก็ได้ค่ะ..ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”“ไม่ครับ..ผมอยากอุ้ม..”ว่าจบก็รวบยกร่างบางขึ้นทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเคอะเขินหลังจากจบมื้ออาหารเย็นภูมิไทก็พาหญิงสาวขี่หลัง
“ฮ่าๆๆ..หนูเป็นคนคุยสนุกแบบนี้นี่เองหลานย่าถึงได้มีรอยยิ้มเยอะกว่าเดิมมากเลย”“คุณทะเลเค้าไม่ค่อยยิ้มเหรอคะคุณย่า...ตอนอยู่ด้วยกันเค้ายิ้มตลอดเลยปากแทบจะฉีกถึงหูเลยล่ะค่ะ”ว่าแล้วก็พูดอวดทิพย์เกสรยกใหญ่ว่าตอนที่ชายหนุ่มอยู่กับเธอเขาแทบจะไม่หุบยิ้มเลยด้วยซ้ำนึกไม่ออกเลยว่าเวลาเขาทำหน้าดุจะเป็นเช่นไร“ขนาดนั้นเลยเหรอลูก”“ค่ะ..”“ใครนินทาผมอยู่หรือเปล่าครับ”ภูมิไทที่กำลังจะเข้ามาเรียกทั้งสองไปที่โต๊ะอาหารเขาก็ได้ยินประโยคหลังๆที่เปมิกาและทิพย์เกสรคุยกันแทบทุกคำจึงรู้ตัวว่ากำลังถูกนินทา“อืม...แฮร่..”คนที่รู้ตัวว่าถูกจับได้อย่างเปมิกาก็รีบยิ้มแหยให้ฝ่ายชายก่อนจะก้มหน้างุดมองไหมพรมที่กำลังถักในมือต่อ“อย่าทำให้หนูดาวเสียหายนะลูก”ก่อนภูมิไทและเปมิกาจะกลับทิพย์เกสรก็เรียกหลานชายเธอมาคุยตามลำพังถึงเธอจะไว้ใจหลานชายมากเพียงใดแต่ก็ไม่ลืมจะย้ำให้เขาได้ฟังอีกรอบว่าการเป็นสุภาพบุรุษจะต้องทำอย่างไร“ครับคุณย่าผมจะให้เกียรติเธอ”ชายหนุ่มรับปากคนเป็นย่าด้วยรอยยิ้มอ่อนแม้นเขาจะชอบเธอเพียงใดแต่ก็ไม่คิดจะล่วงเกินหากหญิงสาวไม่เต็มใจและจะไม่ทำให้เธอดูไม่ดีในสายตาของคนอื่นเด็ดขาด22.00 น.จากทุกคืนที่เ
เดือนต่อมาเปมิกามาอยู่ที่หมู่บ้านชนบทแห่งนี้ได้ร่วมเดือนกว่าแล้วหัวใจช่วงนี้ก็เริ่มดีขึ้นมากกว่าเดิมพอสมควรยิ่งอยู่ในที่ๆสงบใจเธอก็เริ่มเย็นลงมาก"ยินดีด้วยนะคะคุณตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้ว"หญิงสาวนั่งเหม่ออยู่ริมระเบียงบ้านไม้ยามค่ำคืนคำพูดของหมอสาวที่เธอไปหาที่โรงพยาบาลเมื่อเช้ายังลอยอยู่ในหัวตอนนี้จะว่าดีใจที่มีลูกก็ดีใจแต่จะดีกว่านี้ถ้าเธอและภูมิไทไม่มีปัญหากันหากเธอกลับไปบอกภูมิไทว่าเธอท้องลูกของเขาก็คงไม่เชื่ออยู่ดีดังนั้นเธอคิดว่าไม่ควรจะบอกเขาดีกว่าด้วยกลัวว่าจะถูกเขากล่าววาจาร้ายๆใส่เธออีกแค่ลูกคนเดียวเธอเลี้ยงได้อยู่แล้ว"ได้เรื่องยังไงบ้างครับคุณเขต""เธอเข้ารักษาที่โรงพยาบาลxxxครับ"ทางด้านของภูมิไทแม้นจะงานยุ่งเขาก็ยังให้คนคอยตามหาเปมิกาอยู่ตลอดจวบจนวันนี้เขาก็ยิ้มได้เสียทีแต่ก็ตกใจพอสมควรเมื่อเขตแดนบอกว่าเธอเข้ารักษาที่โรงพยาบาลภาวนาในใจว่าอย่าให้เธอได้เป็นอะไรร้ายแรงเลย"แล้วเธอเป็นอะไร""คุณดาวตั้งท้องครับ"เขตแดนอมยิ้มอ่อนรู้ว่าข่าวนี้คงทำให้เจ้านายตนใจชื้นชุ่มฉ่ำขึ้นมาได้ในรอบหลายวัน"ว...ว่าไงนะ"ภูมิไทใจเต้นระรัวดั่งกลองเพลเขาดีใจจนน้ำตาคลอแม้นจะยังไม่รู้พิกั
ร้านอาหาร"แล้วไปอยู่ไหนกันล่ะเนี่ย"ช่วงเที่ยงสองสาวต้องมานั่งปวดหัวกันที่ร้านอาหารด้วยไปบ้านภูมิไทก็ไม่เจอใครแถมติดต่อก็ไม่ได้เจอแบบนี้กชกรไม่รู้จะเอายังไงต่อเลยภูเก็ตภูมิไทมาถึงบ้านพักที่ภูเก็ตตั้งแต่เมื่อคืนเขานั่งเครื่องมาพักใจที่นี่มาถึงก็เอาแต่ดื่มหนักจวบจนเวลาเย็นของวันนี้ปวดหัวใจที่ถูกหญิงสาวทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าเข้าใจว่าการที่เธอไม่อยากแต่งงานกับเขาไม่ใช่เพียงอยากรอเวลาแต่เธอไม่ได้ต้องการผูกมัดกับเขามากกว่าทางด้านเปมิกาก็เดินทางขึ้นรถทัวร์มาทางเหนือเธอขอมาพักใจสักพักใหญ่เพื่อขจัดความรู้สึกที่มีต่อภูมิไทให้ได้จะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมที่เคยเป็นเปมิกามาเช่าบ้านหลังเก่าๆในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งค่อนข้างที่จะกันดานพอสมควรเพื่อตัดจากโลกภายนอกอยู่กับตัวเองอยู่กับธรรมชาติเพื่อที่จะลืมสิ่งที่ปวดใจตอนนี้โดยเร็ววันเวลาพ้นผ่านไปร่วมเดือนที่เปมิกาและภูมิไทยังทำตัวสูญหายติดต่อไม่ได้กชกรก็ให้สามีเธอช่วยตามหาภูมิไททุกทางเพราะอยากจะพูดคุยถึงเรื่องราวที่อยากจะรู้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหาเจอเลยแม้แต่เงา"คุณเกรซคะได้เรื่องยังไงบ้างคะ""ยังเลยน้องขวัญ..เฮ้อ.."ขณะที่สองสาวกำลังห
อรนิชาเห็นเปมิกานั่งลงได้ก็เปิดประเด็นไม่พูดพร่ำนอกเรื่องให้เสียเวลา"เคยเกริ่นๆไว้ค่ะ"สีหน้าของเปมิกาตอนนี้ไม่สู้ดีนักเพราะไม่รู้ว่าอรนิชาจะถามเรื่องนี้กับเธอเพื่ออะไร"อืม...ฉันก็ไม่ได้อยากจะมาพูดให้เธอเสียใจหรอกนะตอนไปดูงานเค้าก็โทรตามฉันไปด้วยแถมตอนที่เราอยู่ด้วยกันบนเตียงเค้าก็บอกเองว่าไม่ได้จริงจังกับเธอและจะพยายามหาเรื่องทะเลาะตีตัวออกห่างเธอให้มากที่สุดเพื่อที่จะแต่งงานกับฉันคนที่เหมาะสมกับเค้า""แค่นี้ใช่ไหมคะที่คุณจะพูด"จากคราแรกที่ว่าจะมาถามหาความจริงจากอรนิชาตอนนี้เปมิกาคิดว่าได้คำตอบแล้วเธอจึงไม่คิดจะอยู่ต่อเพราะกลัวว่าน้ำตาเจ้ากรรมจะไหลออกมาเธอไม่กลัวจะเสียมารยาทด้วยดูท่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้อยากจะเห็นมารยาทจากเธอเช่นกันคงอยากเห็นเธอเสียใจเสียมากกว่า"จะไม่เชื่อฉันก็ได้แต่ขอให้ดูเอาเองว่าหลังจากนี้เขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน...อ่อ..แล้วตอนนี้เค้าก็กลับมาที่ไทยตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็อยู่กับฉันทั้งคืนเค้าได้บอกเธอก่อนหรือเปล่า"อรนิชาเปรยตามหลังเปมิกาด้วยสีหน้าท่าทางของผู้ชนะเธอรู้ดีว่าต่อไปเปมิกาจะต้องเจอกับอะไรเพราะเรื่องราวทุกอย่างที่เปมิกาเจอล้วนเป็นเธอที่จ้างคนจัดฉากขึ้นมาทั้งนั้น
ระหว่างที่ภูมิไทกำลังจอดรถที่โรงแรมที่เขาพักขณะที่กำลังจะเดินเข้าลิฟท์ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนร้องเรียกให้ช่วยเหลือจึงรีบหันมองไปตามเสียง"ช่วยด้วยค่ะ.."ปึกเมื่อเห็นว่าคนที่ร้องขอความช่วยเหลือคืออรนิชาเธอกำลังถูกดึงรั้งกระเป๋าเขาจึงรีบวิ่งไปกระโดดถีบโจรร่างใหญ่จนล้มไปกองกับพื้น"โอ้ยย..."โจรชุดดำเห็นว่าตอนนี้เริ่มมีคนกรูเข้ามาพร้อมคนที่รักษาความปลอดภัยที่นี่จึงรีบหนีไป"ตามมันไปเลยครับ...ลุกไหวหรือเปล่าครับ"ภูมิไทรีบชี้ให้รปภ.วิ่งตามโจรไปและเขาก็เข้ามาดูอรนิชาที่ล้มฟุบลงไปกับพื้น"อืม..ฉันเจ็บค่ะ"อรนิชาส่ายหัวทั้งเอื้อมมือบีบที่ข้อเท้าด้วยสีหน้าเหยเก"คุณมาทำอะไรที่นี่"ภูมิไทไม่คิดว่าจะเจออรนิชาที่อเมริกาไม่รู้ว่าเธอมีธุระอะไรที่นี่"ฉันมาเที่ยวพักผ่อนน่ะค่ะพักโรงแรมนี้...บังเอิญจังเลยนะคะที่มาเจอคุณที่นี่...แล้วก็เป็นโชคดีที่ได้คุณมาช่วยฉัน"หลังจากคุยกันเสร็จภูมิไทก็ต้องอุ้มอรนิชาขึ้นมาส่งที่ห้องเพราะเธอเจ็บข้อเท้าตอนล้มพับลงไป"ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน"อรนิชานั่งมองภูมิไทด้วยสีหน้าปลื้มปริ่มขณะที่ภูมิไทกำลังนั่งนวดข้อเท้าให้เธอยอมรับว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษจนเธอถูกใจเอามากๆแม้เคยทะเ
ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองสาวสวยไฮโซที่นั่งดื่มคนเดียวบนโซฟาแบรนด์หรูราคาแพงเธอนั่งมองไอแพดในมืออ่านข่าวของภูมิไทและเปมิกาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงวางลง"หึ่...มาทำให้ฉันถูกใจแล้วจะหนีไปแต่งงานง่ายๆได้ยังไงคะ"อรนิชาหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบด้วยใบหน้าบึ้งตึงไม่คิดว่าภูมิไทจะให้ข่าวด้วยตัวเองว่าจะแต่งงานกับเปมิกาแต่มีหรือที่เธอจะปล่อยให้คนที่เธอถูกใจมากๆหลุดมือไปคนอย่างเธออยากได้อะไรก็ต้องได้หรือถ้าเธอไม่ได้คนอื่นก็ไม่ต้องได้เช่นกันอาทิตย์ต่อมาวันนี้ภูมิไทขออนุญาตเดือนฉายพาเปมิกามาค้างที่บ้านเช่นทุกอาทิตย์แต่อาทิตย์นี้ดูชายหนุ่มจะเศร้าหมองเป็นพิเศษเพราะเขารู้ตัวว่าพรุ่งนี้จะต้องห่างจากเปมิกาไปร่วมสองอาทิตย์เขาคะยั้นคะยอให้เธอไปด้วยเท่าไรเธอก็ไม่ตอบตกลง"ผมต้องไปดูงานเป็นครึ่งเดือนไม่ไปกับผมจริงๆเหรอครับ""เราจะตัวติดกันตลอดเวลาไม่ได้นะคะตอนนี้เริ่มถ่ายแบบคอลเลคชั่นใหม่แล้วด้วย""ผมอยากแยกร่างได้จังเลยครับ"ชายหนุ่มกอดก่ายร่างบางบ่นอู้อี้เป็นเด็กตอนนี้เขาติดเธอมากห่างวันนึงความรู้สึกเหมือนห่างเป็นปีก็ว่าได้สองวันต่อมาตอนนี้เปมิกาและของขวัญยกทีมมาถ่ายงานกันที่เชียงใหม่ตลอดงานนี้เปมิกาไม่มีกะใจ
กว่าภูมิไทจะพาเปมิกากลับถึงบ้านได้ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนหญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเธอก็มานั่งข้างๆคนรักที่นั่งเปลือยเปล่าโชว์แผงอกพันผ้าขนหนูรอบเอวอยู่ที่โซฟาดวงตากลมโตของเปมิกามองหน้าภูมิไทด้วยสีหน้าที่สงสัยเพราะเห็นว่าเขาทำหน้าเครียดๆตั้งแต่ก่อนจะกลับจากงานแล้ว"เป็นอะไรหรือเปล่าคะสีหน้าดูไม่ดีเลย""ไม่มีอะไรหรอกครับ.. คุณเหนื่อยหรือเปล่ายืนตลอดทั้งงานเลย"ชายหนุ่มส่ายหัวก่อนจะยกอุ้มร่างบางไปนอนที่เตียงด้วยกัน"ไม่หรอกค่ะฉันสนุกมากกว่า"เปมิกายิ้มร่าส่ายหัวเล็กๆเธอสนุกกับงานที่ทำมากกว่าจะเหนื่อย"ครั้งหน้าผมไม่ให้รับงานอะไรแบบนี้แล้วนะครับมีแต่ผู้ชายมาคุยกับคุณผมไม่ชอบเลย"ชายหนุ่มบุ้ยปากจนน่าเอ็นดูก่อนจะซุกใบหน้าลงที่ลำคอระหงส์บ่นอุกไม่ชอบใจที่เห็นเหล่าผู้ชายไฮโซในงานเฝ้าอยู่แต่กับคนรักของตน"เค้าแค่มาคุยถามเรื่องเพชรที่ฉันใส่เท่านั้นแหละค่ะ""วันนี้คุณสวยมากเลยสวยจนผมอยากจะลากคุณกลับไม่อยากให้ใครมามองของๆผม"ริมฝีปากหนาขยับบ่นพึมพำขณะที่มือยังคงรีบทำงานปลดเสื้อผ้าร่างบางออกจนเหลือตัวเปลือยเปล่าก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของเขาและเธอเอาไว้"ขนาดนั้นเลยเหรอคะ"เ
อาทิตย์ต่อมา"งานประมูลเครื่องเพชรครั้งนี้คุณไปกับผมนะครับ"ภูมิไทเข้ามาหาเปมิกาในห้องทำงานเพื่อที่จะแจ้งให้เธอได้ทราบว่างานประมูลเครื่องเพชรของน้าเขาที่กำลังจะถึงเธอต้องไปงานกับเขา"ไปอยู่แล้วค่ะเพราะฉันรับปากพี่แน็ตตี้ว่าจะเป็นนางแบบในงาน"เปมิการู้แล้วว่ามีงานนี้เพราะเธอพึ่งจะตกปากรับคำเป็นนางแบบให้แน็ตตี้ในงานเมื่อวานเองคำตอบของหญิงสาวทำเอาภูมิไทหน้าบูดหน้าบึ้งเขาต้องการควงเธอไปงานพร้อมกันไม่ใช่ให้มายืนมองเธอเป็นนางแบบในงานเสียหน่อย"อะไรกัน.. ผมต้องการควงคุณต่างหาก""ก็คุณชวนหลังพี่แน็ตตี้นี่คะแล้วฉันก็รับปากพี่แน็ตตี้เอาไว้แล้ว""งั้นคืนนี้ก็ต้องไปค้างกับผม"สองแขนแกร่งรวบกอดร่างบางเอาไว้หลวมๆไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้ของขวัญนั้นเดินหอบเอาแบบเสื้อผ้ากองดตเข้ามาในห้อง"อ.. เอ่อ.. ขอโทษทีค่ะ"หญิงสาวรีบหลบสายตาหันหลังให้ทั้งสองทันทีเธอเองก็ไม่ทันได้มองในห้องเพราะไอ้ผ้ากองโตที่ถืออยู่สองแขนบดบังวิสัยทัศน์ด้านหน้าพอสมควร"เอ่อ.. พวกคุณคุยกันตามสบายเลยนะครับ"ภูมิไทแอบรู้สึกหน้าชาเล็กน้อยจึงรีบออกไปจากห้องทำงานของสองสาวอย่างรวดเร็ว"ดาว...โทษทีที่มาขัดจังหวะ""ขัดจังหวะอะไรกันก็นี่มันห
"ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะต่อไปนี้ก็อย่าโหมงานมากนักกินข้าวให้เป็นเวลาด้วย"รัชนนท์เดินมาลูบหัวทุยน้องสาวตนเบาๆเอ่ยพูดด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ดีว่าน้องสาวตัวเล็กของเขาปกติแล้วชอบโหมงานข้าวก็กินมาตรงเวลาถึงได้ตัวเล็กกระเปี๊ยกอยู่แบบนี้"ไม่ให้เกรซโหมงานพี่นนท์ก็กลับไปช่วยเกรซทำงานสิคะ"กชกรหันมาบุ้ยปากให้พี่ชายเธอหากเขาไม่อยากให้เธอโหมงานเขาก็ต้องกลับไปช่วยทำงานบ้างเพราะละจากงานแบรนด์เสื้อผ้าแล้วบางทีเธอก็ต้องวิ่งไปดูแลร้านเพชรของแม่บางวันก็ต้องเข้าไปเซ็นเอกสารแทนพี่ชายเธอที่บริษัทของเขาอีก"นั่นสิตานนท์...ถึงเวลาแล้วล่ะย่าว่าเราต้องกลับไปทำงานได้แล้ว"ทิพย์เกสรเอ่ยเสริมกชกรไม่ได้อยากไล่ให้ใครไปจากเกาะแต่เมื่อรัชนนท์มีหน้าที่เธอก็อยากจะให้กลับไปรับผิดชอบ"ขอเวลาอีกสักพักละกัน"รัชนนท์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเปรยออกมาว่าเขายังอยากอยู่ที่นี่อีกสักพักเมื่อรัชนนท์ตอบออกมาเช่นนั้นทุกคนจึงไมได้เค้นอะไรเพราะอย่างน้อยเขาก็รับปากแล้วว่าจะกลับหลังจากเสร็จสิ้นจากงานวันเกิดย่าตนแล้วภูมิไทก็ขอพาเปมิกามานอนที่บ้านกลังเล็กหลังเดิมที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันระหว่างที่ทั้งสองนอนกอดก่ายอยู่บนเตียงนุ่มกลางดึกภูมิไ
"ตานนท์ท่าจะอยู่ที่นี่เป็นชาวประมงเต็มตัวเลยหรือยังไง"ทางด้านทิพย์เกสรเช้านี้เธอเห็นรัชนนท์เอากุ้งหอยปูปลามาฝากเธอเหมือนเดิมทุกเช้าก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ว่าเขานั้นจะไม่คิดที่จะกลับไปทำงานทำการบ้างหรืออย่างไรเพราะหน้าที่ความรับผิดชอบก็ไม่ใช่เล็กๆรัชนนท์แม้นเป็นเพียงญาติฝั่งแม่ของภูมิไทแต่เธอก็เห็นรัชนนท์มาตั้งแต่เด็กๆเอ็นดูเขาไม่แพ้หลานแท้ๆไม่รู้ว่าเกาะนี้มีอาถรรพ์หรืออย่างไรที่คนอยู่จะต้องไม่อยากกลับ"ผมไม่ได้มีงานยุ่งอะไรนักหนานี่ครับคุณย่าอยู่หาปูหาปลาที่นี่มาฝากคุณย่าได้อีกนาน"เจ้าตัวว่าด้วยหน้าระรื่นเขายังไม่อยากกลับไปในโลกแห่งความจริงเท่าไรอยู่แบบนี้แม้นไม่ได้สุขกายแต่ก็สบายใจ"พี่นนท์"กชกรวิ่งหน้าตั้งนำหน้าทุกคนเข้ามาหาพี่ชายเธอและทิพย์เกสร"อ้าว..ยัยเกรซ""คุณย่าสวัสดีค่ะ""สวัสดีครับคุณย่า"สองสามีภรรยากชกรและธันวายกมือสวัสดีทิพย์เกสรทั้งยังเข้าไปกอดหอมกันคนละฟอดด้วยทิพย์เกสรเป็นคนในดีอบอุ่นเด็กรุ่นหลานจึงสนิทชิดเชื้อแทบทุกคนที่รู้จัก"หวัดดีลูกทำไมวันนี้แห่กันมาที่นี่ได้ล่ะ"ทิพย์เกสรเปรยสายตามองทุกคนด้วยสีหน้าสงสัยเหตุใดจึงกรูกันมาที่นี่โดยที่ไม่นัดแนะบอกกล่าวกันก่อนเธอจ