หลังจากที่ภูมิไทไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพักใหญ่เปมิกาก็ง่วนอยู่กับการกินหมึกย่างจนตอนนี้หมึกย่างในถาดสแตนเลสใหญ่ก็ได้หมดลงไม่เหลือสักชิ้น
"อืม.. เอ่อะ"
ร่างบางนั่งตัวตรงเรอออกมาอย่างไม่ห่วงสวยหลังจากเคี้ยวหมึกชิ้นสุดท้ายหมดปาก
"แล้วเค้าจะกินอะไรล่ะ"
พออิ่มจนพุงกางเปมิกาก็พึ่งนึกได้ว่าคนที่หาหมึกพวกนี้มาน่าจะยังไม่ได้กินอะไรเธอจึงรีบมองซ้ายมองขวาแล้วลุกไปที่ตู้เย็นทันที
"ฉันหุงข้าวกับทำไข่เจียวให้คุณก็แล้วกัน"
เปิดตู้เย็นมาเจอไข่หญิงสาวก็หยิบมันออกมาสองลูกก่อนจะมองไปที่หม้อข้าวตั้งอยู่ที่เคาเตอร์ครัวแล้วลงมือหุงข้าวด้วยความชำนาญก่อนจะเริ่มตอกไข่ใส่ถ้วยเพื่อที่จะตีทำไข่เจียว
"ทำอะไรเหรอครับ"
"พอดีฉันกินหมึกย่างจนหมดกลัวคุณไม่มีอะไรกินฉันเลยถือวิสาสะหุงข้าวกับจะทำไข่เจียวให้คุณ"
เปมิกาหันยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มที่กำลังถือผ้าเช็ดผมของเขาที่เปียกหมาดๆอยู่เธอละอายใจพอสมควรที่กินไม่เหลือเผื่อแผ่ให้เจ้าของอาหาร
"กินหมดถาดเลยเหรอครับ"
"คือ.. อย่าโกรธฉันเลยนะคะฉันหิว"
หญิงสาวรีบขอโทษชายหนุ่มที่กำลังยืนทำสีหน้านิ่งงัน
"เปล่าครับผมไม่ได้โกรธแค่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างคุณจะกินไม่เยอะเสียอีก...หมึกยังมีอีกนะครับผมย่างให้คุณใหม่ก็ได้"
"ไม่เป็นไรค่ะฉันอิ่มมากแล้วเกรงใจคุณด้วย"
"นี่คุณทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอครับ"
"เป็นสิคะฉันทำได้หลายเมนูด้วยแต่ตอนนี้ทำได้แค่ไข่เจียวเพราะฉันเห็นในตู้เย็นมีแค่ไข่"
"อืม..พรุ่งนี้ผมจะหาของสดมาใส่ตู้เย็นไว้ให้คุณจะได้มีของทำกับข้าว"
"ดีค่ะ.."
หญิงสาวว่าจบก็รีบจัดการทอดไข่เจียวให้คนที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารทันทีไม่นานนักไข่เจียวฟูกรอบสีเหลืองสวยก็วางตรงหน้าชายหนุ่ม
"หอมน่ากินมากเลยครับ"
"ขอบคุณค่ะ...รออีกสักพักข้าวคงสุก"
เปมิกานั่งลงตรงข้ามกับชายหนุ่มเพื่อที่จะหาเรื่องสนทนากับเขาต่อเผื่อว่าเธอจะได้ล้วงข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเจ้าของเกาะนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อย
"คุณอยู่ที่นี่มานานแล้วเหรอคะ"
"ครับ"
"เกาะนี้เป็นเกาะของใครเหรอคะทำไมฉันไม่เห็นมีคนพลุกพล่านเหมือนเกาะอื่นเลย"
"เกาะนี้เป็นเกาะส่วนตัวครับของลูกชายคุณทัดเทพที่นี่ให้คนที่ไม่มีที่อยู่มาใช้ชีวิตที่นี่และมาทำงานช่วยกันดูแลที่นี่ครับ"
ภูมิไทคิดว่าหากเขาบอกกับเธอว่าเขาเป็นใครเธอคงจะไม่เชื่อเขาอยู่ดีอีกอย่างให้เธอได้รู้จักกับเขาในฐานะชาวประมงธรรมดาๆแบบนี้ก็ดีแล้วเพราะเขาเองก็ไม่อยากอวดอ้างว่าตังเองเป็นใครสักเท่าไร
"แสดงว่าคุณไม่มีที่อยู่อย่างนั้นเหรอคะถึงได้มาอยู่ที่นี่"
"อืม...ผมก็อยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็กๆก่อนพ่อแม่ผมจะเสียอีก...เอ่อ..จริงสิคุณหายมาแบบนี้พ่อแม่คุณไม่ห่วงแย่เหรอครับ"
"ฉัน...ไม่มีแล้วล่ะค่ะพ่อฉันไม่เคยเห็นส่วนแม่ก็เสียไปตั้งแต่ฉันอยู่มหาลัย"
พูดถึงเรื่องพ่อกับแม่เธอก็มีสีหน้าที่เศร้าลงอย่างที่ภูมิไทสังเกตได้ชัด
"เสียใจด้วยนะครับ..แล้วตอนนี้คุณดีขึ้นบ้างหรือเปล่า"
"คะ?"
หญิงสาวเงยหน้าเบิกตามองอีกฝ่ายอย่างสงสัยแม่เธอเสียไปนานแล้วตอนนี้ก็ทำใจได้นานแล้วด้วยทำไมอีกฝ่ายถามอย่างกับว่าเธอพึ่งจะเสียแม่ไปอย่างนั้น
"ก็..คุณอกหัก"
"เอ่อ...อืม..ก็เศร้าอยู่ค่ะ..แต่ได้กินหมึกย่างของคุณไปฉันก็อารมณ์ดีแล้วล่ะค่ะ"
เปมิกายกมือเกาหัวแกรกๆทั้งยิ้มหน้าแหยที่ตนนั้นลืมไปเสียได้ว่ามาที่นี่ได้ก็เพราะออกอุบายว่าอกหักอยากฆ่าตัวตาย
"อืม...งั้นผมต้องย่างให้คุณกินทุกวันแล้วล่ะ"
ภูมิไทเห็นว่าหญิงสาวดูจะอารมณ์ดีขึ้นเพราะหมึกย่างของเขาตัวชายหนุ่มเองก็ยิ้มออกแอบไม่เข้าใจว่าคนที่อกหักจนถึงขั้นฆ่าตัวตายจะอารมณ์ดีขึ้นได้เร็วเพราะหมึกย่างจริงหรือแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากมายนักด้วยไม่เข้าคนอกหักเพราะไม่เคยรักใครแบบคนรักเขาถึงว่ากันว่าใจคนเปลี่ยนกันได้แทบทุกวินาทีเป็นแบบนี้นี่เอง
"ดีค่ะฉันชอบ...เอ่อ..แล้วฉันมาอยู่ที่เกาะแบบนี้ต้องบอกให้เจ้าของเค้ารู้ก่อนหรือเปล่าคะคุณพาฉันไปขออนุญาตเค้าหน่อยสิ"
เปมิกาคุยไปคุยมาเธอก็เริ่มโยงถึงคนที่ตัวเองต้องการจะพบเจอ
"เอ่อ..เค้าไม่อยู่ครับกลับกรุงเทพไปทำงานคุณอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจเลยครับไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น"
"อ้าว..เอ่อแล้วเค้าจะกลับมาเมื่อไรคะ"
หญิงสาวรีบถามชายหนุ่มถึงวันกลับของเจ้าของเกาะเพราะหากเขาไม่กลับมาเท่ากับเธอมาที่นี่เสียเที่ยวแถมยังเกือบตายเพราะวิธีการมาที่เกาะอีกต่างหาก
"น่าจะไม่นานนะครับถ้าเค้ามาแล้วเดี๋ยวผมจะบอกอีกที"
"อืม..ไม่นาน...ค่ะ"
เปมิกาเริ่มหน้าเจื่อนลงเพราะคิดไม่ตกว่าคำว่าไม่นานของชายหนุ่มนั้นมันประมาณกี่วันกันหากจะถามซ้ำหรือถามอะไรเพิ่มก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะมองเธอผิดสังเกต
"ดูคุณอยากจะเจอเค้าจังเลยนะครับ"
"คือ...ฉัน...ก็แค่ไม่อยากเป็นคนลักลอบเข้ามาอยู่ในที่ของคนอื่นโดยที่ไม่ขออนุญาตน่ะค่ะไม่มีอะไร"
เมื่ออีกฝ่ายดูสงสัยเปมิกาก็รีบหาเหตุผลมาตอบคนที่ถามโดยไม่ให้เขานั้นสงสัยได้เพราะหากเกิดการสงสัยขึ้นแล้วเดี๋ยวมันจะไม่ดีต่อแผนการของเธอ
"อ่อ..ครับ"
"แล้วคืนนี้คุณต้องออกเรืออีกหรือเปล่าคะ"
ที่เปมิกาถามแบบนี้เพราะในใจหวังว่าเขาจะไม่อยู่ในช่วงกลางคืนเธอจะได้นอนหลับตาได้อย่างสนิทแม้นจะทำท่าไว้ใจชายหนุ่มแต่ยังไงการอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าสองต่อสองในบ้านริมทะเลหลังเดียวแถมไกลจากผู้คนแบบนี้ความอันตรายของเธอก็ยังอยู่ในขีดที่ยังต้องระวังตัวสุดชีวิต
"ไม่หรอกครับผมพักผ่อน"
ภูมิไทคิดว่าเขายังทิ้งหญิงสาวที่ผ่านเหตุการณ์คิดฆ่าตัวตายมาหมาดๆไม่ได้หากเขาไม่อยู่แล้วเธอคิดสั้นขึ้นมาอีกคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร
"แล้วคุณจะให้ฉันนอนที่ไหนคะ"
"ในห้องผมไงครับ"
"อ..อะไรนะคะ"
สาวเจ้าถามไปหัวใจก็เต้นแรงไปในหัวตอนนี้เริ่มคิดไม่ดีไว้ก่อนแล้วแม้นอีกฝ่ายจะหล่อดูดีเท่าไรแต่เธอก็ใช่ว่าจะยอมถวายตัวให้เขาง่ายๆแบบวันไนท์สแตนโดยไม่คิดอะไรหากไม่ใช่คนที่รัก
"คุณนอนในห้องผมแล้วผมนอนที่โซฟาข้างนอกเอง"เห็นสีหน้าหญิงสาวเริ่มเสียกะทันหันภูมิใทจึงต้องรีบอธิบายให้จบว่าเขาไม่ได้หมายความว่าเขาจะนอนกับเธอ"อ่อ..ค่ะ...รบกวนคุณแย่เลยเนอะ"ชายหนุ่มว่าจบร่างบางก็ร้องอ๋อเสียงสูงปัดไม้ปัดมือทำท่าพูดเกรงอกเกรงใจทั้งที่ในใจพอใจกับคำตอบของอีกฝ่ายพอสมควรที่เขาจะยกห้องนอนให้เธอแล้วออกไปนอนข้างนอก"ไม่เป็นไรเลยครับ"22.00 น.“นายเป็นใครกันแน่นายทะเล”กลางดึกแล้วตอนนี้เปมิกาก็ยังนอนไม่หลับเธอยังคงแปลกใจกับบ้านของชาวประมงธรรมดาเพราะเมื่อมาสังเกตดีๆเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ที่นี่ทุกชิ้นแพงๆทั้งนั้นแถมเสื้อที่เธอใส่อยู่นี่ก็น่าจะเป็นเสื้อผ้าที่สั่งตัดมาโดยเฉพาะผิวพรรณชายหนุ่มก็ดูเนียนไม่กระดำกระด่างคำพูดคำจาก็ไม่ติดสำเนียงคนท้องถิ่นแม้แต่น้อยอยากจะรู้นักว่าทะเลคนนี้คือใครกันแน่เพราะตอนนี้เธอเริ่มไม่ค่อยเชื่อแล้วว่าเขาคือชาวประมงทางด้านภูมิไทหลังจากที่โทรบอกกับทุกคนในเกาะว่ามีคนมาอยู่กับเขาที่บ้านเล็กตอนนี้และสั่งห้ามไม่ให้ทุกคนยุ่มย่ามมาที่นี่เพราะไม่อยากให้หญิงสาวได้เจอใครกลัวว่าคนเหล่านั้นจะหลุดปากบอกกับเธอว่าเขาเป็นใครเวลานี้ชายหนุ่มก็เอาเตียงผ้าใบมานอนกางที่ระเบี
ภูมิไทไม่ได้มีปัญหาว่าหญิงสาวจะคืนเงินหรือไม่คืนอยู่แล้วหลังจากที่คุยกันเรียบร้อยทั้งสองก็เตรียมตัวออกเรือไปที่ฝั่งกันทันทีเรือเล่นมาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงฝั่งเล่นเอาเปมิกาเวียนหัวอยู่พอสมควรเพราะไม่ค่อยได้นั่งเรือบ่อยเท่าไรนักภูมิไทจึงพาเธอมานั่งพักที่เก้าอี้สาธารณะริมฟุตบาทก่อนที่จะไปทำธุระกันต่อ“ค่อยยังชั่วแล้วหรือยังครับ”“ค่ะ..”“เราต้องต่อรถไปอีกนิดนะครับถึงจะถึงห้าง”ภูมิไทเห็นว่าหญิงสาวค่อยยังชั่วแล้วจึงอยากให้เธอเดินทางต่อเพราะยังต้องต่อรถอีกพักใหญ่ถึงจะเดินทางถึงห้างในตัวเมือง“ไปห้างทำไมคะแถวนี้ก็น่าจะมีของที่ฉันจะซื้อแถมยังมีพวกอาหารสดด้วย...แต่ฉันขอกินข้าวก่อนแล้วค่อยเดินนะคะ..หิวไม่ไหวแล้วจริงๆ”เปมิกาเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัยเธอไม่ได้คิดจะเข้าห้างสรรพสินค้าเพราะตรงหน้าก็เป็นลานตลาดนัดกว้างท่าจะมีทั้งของกินของใช้ครบเลยแต่ก่อนจะเดินเธอต้องขอกินอะไรก่อนออกเรือมาก็ไม่ได้กินอะไรรองท้องมาเลย“ผมไม่เห็นมีร้านอาหารแถวนี้นะครับ”ภูมิไทคิดว่าหญิงสาวจะต้องติดใช้ของในห้างเสียอีกหากเธออยากจะเดินที่นี่เขาก็ไม่ว่าแต่เขาไม่ยักเห็นร้านอาหารแถวนี้จะเปิดสักร้านเพราะส่วนมากจะเปิด
อาทิตย์ต่อมาจากวันที่เปมิกาเจ็บวันนั้นตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ภูมิไทอยู่ดูแลหญิงสาวไม่ห่างทั้งทำอาหารทำแผลคอยอุ้มหญิงสาวออกไปนั่งเล่นข้างนอกเพราะกลัวว่าเธอจะเบื่อตอนนี้ทั้งคู่เลยดูสนิมกันโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็มีความรู้สึกดีๆให้กันอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัวด้วยภูมิไทเองก็ไม่เคยดูแลใกล้ชิดผู้หญิงคนไหนมาก่อนเช่นเดียวกับเปมิกาเธอก็ไม่เคยมีแฟนและใกล้ผู้ชายคนไหนมาก่อนเช่นกันเมื่อได้ใกล้กันเข้าแถมยังคุยกันถูกคอความรู้สึกดีๆเลยเกิดขึ้นได้ไม่ยากตอนนี้หญิงสาวก็ตัดไหมเรียบร้อยแล้วแผลบนหัวไม่มีความรู้สึกเจ็บเท่าไรนักแต่ที่เท้ายังคงมีนิดหน่อยหากลงเดิน“ให้ฉันช่วยนะคะ”เปมิกาเดินกะเผลกๆมาที่ในครัวเพื่อจะช่วยชายหนุ่มทำอาหารเพราะให้เขาทำให้เธอกินมาหลายวันแล้ว“ผมบอกว่าอย่าเดินเองไงครับ”ภูมไทรีบละมือหมายจะเข้ามาประคองอุ้มร่างบางไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารแต่เธอก็รีบปฏิเสธเพราะเธอนั้นพอเดินเองไหว“คุณไม่ต้องอุ้มฉันแล้วก็ได้ค่ะ..ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”“ไม่ครับ..ผมอยากอุ้ม..”ว่าจบก็รวบยกร่างบางขึ้นทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเคอะเขินหลังจากจบมื้ออาหารเย็นภูมิไทก็พาหญิงสาวขี่หลัง
“ฮ่าๆๆ..หนูเป็นคนคุยสนุกแบบนี้นี่เองหลานย่าถึงได้มีรอยยิ้มเยอะกว่าเดิมมากเลย”“คุณทะเลเค้าไม่ค่อยยิ้มเหรอคะคุณย่า...ตอนอยู่ด้วยกันเค้ายิ้มตลอดเลยปากแทบจะฉีกถึงหูเลยล่ะค่ะ”ว่าแล้วก็พูดอวดทิพย์เกสรยกใหญ่ว่าตอนที่ชายหนุ่มอยู่กับเธอเขาแทบจะไม่หุบยิ้มเลยด้วยซ้ำนึกไม่ออกเลยว่าเวลาเขาทำหน้าดุจะเป็นเช่นไร“ขนาดนั้นเลยเหรอลูก”“ค่ะ..”“ใครนินทาผมอยู่หรือเปล่าครับ”ภูมิไทที่กำลังจะเข้ามาเรียกทั้งสองไปที่โต๊ะอาหารเขาก็ได้ยินประโยคหลังๆที่เปมิกาและทิพย์เกสรคุยกันแทบทุกคำจึงรู้ตัวว่ากำลังถูกนินทา“อืม...แฮร่..”คนที่รู้ตัวว่าถูกจับได้อย่างเปมิกาก็รีบยิ้มแหยให้ฝ่ายชายก่อนจะก้มหน้างุดมองไหมพรมที่กำลังถักในมือต่อ“อย่าทำให้หนูดาวเสียหายนะลูก”ก่อนภูมิไทและเปมิกาจะกลับทิพย์เกสรก็เรียกหลานชายเธอมาคุยตามลำพังถึงเธอจะไว้ใจหลานชายมากเพียงใดแต่ก็ไม่ลืมจะย้ำให้เขาได้ฟังอีกรอบว่าการเป็นสุภาพบุรุษจะต้องทำอย่างไร“ครับคุณย่าผมจะให้เกียรติเธอ”ชายหนุ่มรับปากคนเป็นย่าด้วยรอยยิ้มอ่อนแม้นเขาจะชอบเธอเพียงใดแต่ก็ไม่คิดจะล่วงเกินหากหญิงสาวไม่เต็มใจและจะไม่ทำให้เธอดูไม่ดีในสายตาของคนอื่นเด็ดขาด22.00 น.จากทุกคืนที่เ
"ฉันยืมมือถือคุณโทรหาเพื่อนได้หรือเปล่าคะเผื่อตอนนี้พวกเค้าจะตามหาฉันอยู่"สองหนุ่มสาวกลับมาถึงเกาะได้เปมิกาก็ขอยืมมือถือชายหนุ่มเพราะเธอนั้นขาดการติดต่อกับของขวัญนานแล้วทั้งยังอยากรู้ว่าหลานสาวของเธอตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"นี่ครับผมให้คนซื้อมาไว้ให้คุณตั่งแต่เมื่อวานแล้วแบตชาร์จเต็มแล้วด้วยคุณใช้งานได้เลย..แล้วก็มีพวกชุดที่ผมซื้อเพิ่มมาให้คุณด้วยนะครับ"ภูมิไทรีบจูงหญิงสาวเข้ามาในห้องและหยิบกล่องมือถือแบรนด์ดังราคาเหยียบครึ่งแสนที่วางอยู่บนโต๊ะให้เธอพร้อมเปิดตู้เสื้อผ้าให้หญิงสาวดูว่าตอนนี้เธอมีเสื้อผ้าของผู้หญิงใส่ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าของเขาอีกต่อไป"ขอบคุณนะคะคุณดีกับฉันอีกแล้ว"เปมิกายิ้มแก้มปริชายหนุ่มเล่นดีกับเธอแบบนี้เธอจะไม่ให้เธอรู้สึกผิดกับเขาได้ยังไง"ผมต้องดีกับแฟนผมอยู่แล้วครับ"ภูมิไทยกมือลูบหัวหญิงสาวเบาๆอย่างเอ็นดู"ฉันตกลงเป็นแฟนคุณตอนไหนคะ"สาวเจ้าเงยหน้าขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่มดูท่าว่าเขาจะคิดเองเออเองเสีย"ในห้องนอนบนเรือไงครับ"ภูมิไทก้มกระซิบข้างใบหน้านวลเขาถือว่าเรื่องที่เธอยอมให้เขาจูบโดยไม่ขัดขืนนั้นแสดงว่าเธอตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วไม่ใช่เพียงแค่คนคุยธรรมดาอีกต่อไป"คนบ้
ร่างบางหลับตานอนนิ่งขณะที่ชายหนุ่มกำลังไล่ซุกไซร้ลำคอระหงส์และประกบริมฝีปากหนาบดจูบอย่างไร้ความนุ่มนวลภูมิไทดูดดึงจนริมฝีปากบางจนแทบห้อเลือดก่อนจะส่งลิ้นร้ายตวัดดึงลิ้นเรียวของหญิงสาวเล่นน้ำตาของเธอที่ถูกปาดจนแห้งไปคราแรกตอนนี้กลับพรั่งพรูออกมาอีกรอบเพราะรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มไม่มีทีท่าจะนุ่มนวลเอาเสียเลยทั้งยังเสียใจที่ตอนนี้รู้แก่ใจว่าอีกฝ่ายน่าจะเกลียดเธอเอามากทั้งที่ตอนนี้เธอนั้นเริ่มรู้สึกดีกับเขามากๆไปแล้วภูมิไทไม่เคยคิดปราณีหญิงสาวแม้นเสี้ยววินาทีตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์โกรธที่เธอกล้ามาหลอกลวงเขาอีกอย่างก็โมโหที่หญิงสาวนั้นทำทุกอย่างได้ก็เพื่อเงินไม่เว้นแม้แต่ขายศักดิ์ศรีของตัวเองคนที่เขาคิดว่าดีไม่ได้ดีอย่างที่คิดเสียแล้วฟึ่บบเมื่อสำรวจบดจูบริมฝีปากบางจนพอใจแล้วมือหนาก็กระชากเสื้อตัวบางที่เปมิกาสวมใส่ขาดวิ่นเผยให้เห็นบราชิ้นเล็กสีครีมที่ปกปิดสองเต้างามชายหนุ่มไม่รีรอเขารีบสอดแขนประคองยกร่างบางขึ้นเล็กน้อยปลดตะขอสลัดเจ้าบราชิ้นเล็กทิ้งลงไปข้างเตียงทุกการกระทำของชายหนุ่มเปมิกาไม่เคยมองมันได้อย่างเต็มตาเธอพยายามหันหน้าหนีและหลับตาตลอดไม่อยากจดจำภาพต่างๆที่ชายหนุ่มได้กระทำกับตนแม้
เช้ามืดวันต่อมา"น้าไปทำงานก่อนนะโลมาเสร็จแล้วจะรีบกลับอย่าดื้อกับน้าขวัญล่ะ"เช้าวันต่อมาเปมิกาเข้ามากอดหอมหลานสาวตัวน้อยเช้ามืดในห้องของโลมาก่อนที่จะเดินทางไปทำงาน"ค่ะน้าดาว""เดินทางดีๆล่ะ"ของขวัญยื่นกระเป๋าให้เปมิกาทั้งอวยพรให้เพื่อนเธอเดินทางปลอดภัยเพราะต้องนั่งรถตู้ไกลพอสมควร"อืมไปล่ะ"หญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาหิ้วกระเป๋าใบไม่ใหญ่มากนักเดินออกไปจากบ้านนั่งแท็กซี่ไปต่อรถตู้ที่หน้าบ้านของแน็ตตี้โมเดลลิ่งเจ้าประจำที่ชอบเรียกเธอไปทำงานให้กว่าเปมิกาและเหล่านางแบบนายแบบอีกหลายคนเดินทางมาถึงหัวหินก็นั่งกันจนเมื่อยก้นนายแบบนางแบบบางคนที่มีทุนทรัพย์มากหน่อยก็ขับรถกันมาเองส่วนเปมิกาเลือกที่จะนั่งรถฟรีเพราะรถเก๋งคันเดียวของเธอต้องเอาไว้ให้ของขวัญใช้เพื่อพาโลมาไปหาหมอและไปส่งของตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้วเมื่อทุกคนมาถึงก็มารับคีย์การ์ดบ้านพักของตัวเองในรีสอร์ทหรูระดับห้าดาวที่มีบ้านพักหลายหลังรายล้อมติดริมทะเล"พักหรูแบบนี้เลยเหรอคะ"เปมิกานั่งรถกอล์ฟที่พนักงานจากรีสอร์ทขับมาส่งพร้อมแน็ตตี้เพราะบ้านที่เธอพักกับบ้านแน็ตตี้อยู่ใกล้ๆกันเธออดถามแน็ตตี้ไม่ได้ว่าให้พวกเธอพักค
ตกเย็นตอนนี้ทางทีมงานถ่ายแบบและเหล่านางแบบก็มารวมตัวกันที่ชายหาดและเริ่มถ่ายกันอย่างรวดเร็วก่อนที่แสงสวยๆของพระอาทิตย์เวลาที่กำลังตกจะหมดไปกชกรเองก็ดูงานอยู่ตลอดไม่เคยละสายตาแม้แต่วินาทีเดียวเพราะอยากให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบดั่งใจเธอที่สุด“ภูมิมันจะมาถึงที่นี่เมื่อไรครับ”ธันวาเดินเข้ามาหาภรรยาตัวเล็กในขณะที่เธอกำลังยืนดูการถ่ายแบบแบรนด์เสื้อผ้าเพื่อที่จะถามหาภูมิไทเพราะเห็นภรรยาตัวเองบอกว่าเพื่อนเขาจะมาวันนี้แต่เขาก็ไม่ยักจะเห็นเสียที“น่าจะดึกๆนะคะพี่ธันเพราะพี่ภูมิบอกว่าพึ่งจะขับรถออกมา”“อืมแล้วนี่อีกนานหรือเปล่าครับกว่าจะถ่ายแบบเสร็จ”ธันวากอดไหล่มนของภรรยาตัวน้อยเอาไว้หลวมๆ“ของวันนี้อีกเซ็ทเดียวก็เรียบร้อยแล้วค่ะทำไมเหรอคะ”“พี่ก็จะได้สวีทกับภรรยาพี่บ้างน่ะสิ.”ชายหนุ่มทำสีหน้าออดอ้อนเพราะตั้งแต่กชกรเริ่มต้นทำแบรนด์เสื้อผ้าเขากับเธอก็มีเวลาสวีทกันน้อยเสียเหลือเกิน“เกรซมีงานนี่คะ..เอาไว้คอลเลคชั่นแรกเปิดตัวแล้วและมีดีไซน์เนอร์ใหม่เมื่อไรเราไปเที่ยวกันนะคะ”“ดีเลย..แล้วเมื่อไรจะมีดีไซน์เนอร์ใหม่ล่ะ”“ตอนนี้เกรซกำลังทาบทามอยู่ค่ะ”“เร็วๆล่ะพี่อยากปั๊มเบบี๋แย่แล้ว”“คนลามก”ธันวากระ