“ปิ่น ตื่นมาเถอะนะ พี่ขอโทษพี่ไม่ได้ตั้งใจ” ปากบอกพลางใช้อีกมือหนึ่งลูบศีรษะของปาลิตาอย่างแผ่วเบาราวกับว่ากลัวจะทำหญิงสาวเจ็บตัวอีกครั้ง เวลาผ่านไปไม่นาน นิ้วเรียวของคนป่วยขยับเล็กน้อยทำให้คนที่นั่งกุมมืออยู่รู้สึกตัวขึ้นมา แพรขนตาสวยขยับราวกับปรับสายตาให้คุ้นชินกับความสว่างที่อยู่รอบตัว “ปิ่น เธอฟื้นแล้ว” เขาอย่างดีใจที่หญิงสาวตื่นขึ้นมา แต่ทว่าดวงใจของเขากลับเหี่ยวเฉาเมื่อเห็นสายตาหวานมองมาที่เขาก่อนที่จะเบนออกไปมองที่นอกหน้าต่างเมื่อกับเขาไม่มีตัวตนอย่างไรอย่างนั้น “ปิ่น พี่ขอโทษ คุยกับพี่หน่อยนะ” คนป่วยที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาเมื่อครู่ ค่อย ๆ ดึงมือของคนเองกลับเขามาและเอามาวางไว้บนหน้าท้องของตนเอง ราวกับว่ากำลังปกป้องสิ่งมีชีวิตน้อย ๆ เอาไว้ ชายหนุ่มมองการกระทำของคนตัวเล็กที่อยู่บนเตียงอย่างรู้สึกผิดที่เขาขังเธอไว้เช่นนั้น อีกทั้งไม่ฟังเหตุผลของเขาอีก “ปิ่นคุยกับพี่หน่อยเถอะ”
View More“มาที่นี่ทำไมวะ” พี่ชายของภัคธีมาถามราวกับไม่ได้เป็นมิตรเสียอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่จัดการปัญหาที่ค้างคาแล้ว “กูมาหาเดียร์ เดียร์อยู่ข้างในใช่ไหม”“อยู่ แต่มึงเข้าไปน้องกูก็ไม่อยากเจอมึงอยู่ดี” ธนินบอกไปตามตรงหลังจากที่สังเกตุอาการของน้องตัวเอง“แต่กูอยากคุยกับเดียร์จริงๆ”เสียงของชายหนุ่มอ้อนวอนคนตรงหน้าอย่างขอความเห็นใจ พลางกวาดสายตามองเข้าไปข้างในบ้านด้วยความคุ้นเคย แต่กลับไปสะดุดกับร่างคุ้นตาที่แสนคิดถึงที่เดินออกมาจากในครัวและเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสอง“เดียร์เป็นยังไงบ้าง คุยกับพี่หน่อย”หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกของคนที่ทำร้ายจิตใจของเธอไม่อาจลืม ผู้ชายคนที่เธอมอบหัวทั้งดวงเอาไปให้เขาโยนทิ้ง ภัคธีมามองไปทางเตชินท์ที่ยืนอยู่หน้าพี่ชายเธอครู่หนึ่งก่อนจะเดินขึ้นห้องไปทำทีเป็นไม่สนใจ แต่ในใจของเธอนั้นก็ยังคงรักเขาอยู่ ด้วยความที่บาดแผลที่เธอได้รับมานั้นเพิ่งสด ๆ ร้อน ๆ ขอเวลาให้ตัวเองได้ทบทวนอะไรต่อมิอะไรเสียหน่อยว่าจะเอาอย่างไรต่อไป“เดียร์พี่ขอโทษคุยกับพี่ก่อน”“มึงให้เวลาน้อง
รีสอร์ทของเตชินท์แทบจะกลายเป็นที่ประจำของภัคธีมาเมื่อหลายเดือนก่อน เพราะเธอมาที่นี่ทำงานอีกทั้งก็มาพักผ่อนกับคนรักของเธอ แต่พักหลังมานี้คนตัวเล็กแทบจะไม่มีเวลามาอีกทั้งงานที่เธอรับผิดชอบก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีเพียงแค่มาช่วยดูรายละเอียดความเรียบร้อยของการตกแต่งต่าง ๆ ว่าเป็นไปตามที่เธออกแบบหรือเปล่า“เข้าไปข้างในกัน”สองพี่น้องเดินตรงเข้าไปข้างในรีสอร์ทของเตชินท์ เพื่อที่จะให้ภัคธีมาคุยประบความเข้าใจกับเพื่อนของตัวเอง ทั้งสองเดินหาอยู่นานสองนานก็ยังไม่พบ จึงเอ่ยถามพนักงานที่อยู่แต่นั้นว่าเห็นเจ้าของรีสอร์ทหนุ่มอยู่ที่ไหน หลังจากที่ได้คำตอบแล้วจึงรีบเดินตรงไปที่นั่นทันที ในยามนี้ท้องฟ้าเริ่มที่จะมืดพอสมควรตอนนี้มันเริ่มค่ำแล้วเพราะจากคำบอกเล่าของพนกงานชายและหญิงสองคนนั้นตอบมา ว่าเห็นเจ้านายกำลังนั่งดื่มกับเพื่อนอยู่ที่บ้านพักของตนเองที่ท้ายหาดข้างบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างได้ไม่นาน ก็ได้ยอนเสียงสนทนาที่ค่อย ๆ ดังขั้นมา“มึงทำจริงเหรอวะที่มึงหมั้นกับน้องเดียร์เพราะอยากเอาคืนไอ้กรที่มันเคยทำกับมึงไว้ใช่ไหม”ตุลธรถามเพื่อนอย่างสงสัย ผู้ร่ว
หลายเดือนผ่านไป หลังจากที่งานมั่นของทั้งคู่ได้จัดขึ้นเรียบร้อยรวมทั้งผู้คนหมู่มากรู้เรื่องราวของสองหนุ่มสาวไปบ้างแล้ว ทุกคนต่างใช้ชีวิตกันตามปกติเช่นเดิมในทุก ๆวัน“งานเมื่อไหร่จะเรียบร้อยสักทีเหนื่อยไปหมดแล้ว” ร่างเล็กแต่สูงเพรียวของภัคธีมานั่งอยู่หน้าแลปท็อปของตัวเองพลางแก้งานให้ลูกค้ารายใหม่และรายเก่าที่ยังไม่เรียบร้อยดีจนแทบหัวหมุน แต่ทว่าเธอนั้นโชคดีหน่อยทั่งานของเตชินท์นั้นเรียบร้อยไปเกินครึ่งแล้ว เธอเทียวลงไปดูงานเองแทบจะทุกครั้งตามคำสั่งของเจ้านายอย่างธีรัตม์“เดี๋ยวนี้บ่นเก่งจริง ๆ นะเพื่อนฉันเนี่ย” “ก็ปกติมั้ยที่บ่นเนี่ย วันไหนไม่บ่นน่ะสิแปลกแล้ว”“ก็จริงที่พี่เดียร์พูดนะคะพี่ตะวัน ถ้าขิงไม่ได้ยินพี่เดียร์บ่นน่ะวันนั้นจะเป็นอะไรที่แปลกมากจนคิดว่ามีใครทำอะไรให้ไม่พอใจอย่างนั้นแหละ”“ชอบให้บ่นหรือไม่ให้บ่นล่ะเนี่ย”“บ่นนั่นแหละมันเป็นตัวแกดี เงียบ ๆ ขรึม ๆ เหมือนเมื่ออาทิตย์ก่อนมันไม่ดีบรรยากาศอึมครึมบากขอบอก” ตะวันวาดเสริม พลางมองหน้าคนที่นั่งหน้าเครียดกับงานยิ้ม ๆ
“วันนี้ใครมาคุณเตมารับหรือเปล่าน่ะเดียร์” เสียงของเพื่อนร่วมงานถามอย่างเป็นปกติโดยที่ไม่มีอะไรพิเศษ มันเป็นประโยคที่แสนจะเรียบง่ายก็ตาม แต่มันก็ชินเสียแล้วสำหรับภัคธีมา“วันนี้กลับเองพอดีพี่เตมีประชุมน่ะ” เธอตอบกลับยิ้ม ๆ“งั้นดีเลย คุณเตไม่มางั้นเราไปหาอะไรกินกันมั้ย”ภัคธีมานิ่งราวกับคิดอยู่ครู่ว่ามีงานค้างหรืออะไรที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จหรือเปล่า แต่เมื่อทุกิย่างไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไรเธอจึงพยักหน้าตอบตกลง เพราะเธอเองหลังจากที่หมั้นกับเตชินท์ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเลย วันหยุดก็อยู่แต่กับชายหนุ่มตั้งแต่เช้าจรดค่ำเรียกว่าตัวติดกันจนแทบจะเป็นปาท่องโก๋ก็ว่าได้“แน่นะว่าไปได้ ไม่ใช่ไปถึงร้านแล้วคุณเตชินท์สุดหล่อของเธอโทรฯหาอีกล่ะ” ตะวันวาดแซวเพื่อนยิ้ม ๆ เพราะมองเพื่อนแววตานั้นเต็มไปด้วยความรักเมื่อพูดถึงคู่หมั้นหนุ่มเพราะตะวันวาดเองเพิ่งรู้มาจากเพื่อนว่าเตชินท์เป็นรักแรกของเธอตั้งแต่สมัยเด็กแต่ด้วยความต่างอะไรหลาย ๆ อย่างเลยไม่อาจบอกไป และจำได้ช่วงตอนมัธยมเหมือยอีกฝ่ายจะมีคนรักที่กำลังคบกันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าใคร ทำได้เพียงแค่แอบมองอยู
“กรทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”น้ำเสียงหวานละมุนของใครบางคนดังมาแต่ไกล เจ้าหล่อนเห็นคนรักของตัวเองเดินมาหยุดที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานสองนาน ไม่ยอมเดินเข้าไปสักทีตนจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปถามไกล ๆ แต่เสียงสนทนาของคนที่อยู่ด้านในนั้นช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน‘ทำไมเสียงมันคุ้น ๆ อะไรแบบนี้ง’“เปล่าหรอกไม่มีอะไร” ธนินหันไปตอบแฟนสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ให้ผิดสังเกตว่าตนกำลังคิดเรื่องราวบางอย่างจึงรีบบอกปัดออกไป“งั้นเข้าไปหาคุณย่าดีกว่า เหมือนชมได้ยินเสียงของน้องเดียร์น่าจะอยู่ข้างในกับคุณย่าเหมือนกัน” ชลิตาแฟนสาวของธนินพูดขึ้นพร้อมทั้งเดินนำหน้าเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งยกมือทักทายย่าอ่อนศรี“สวัสดีค่ะย่า น้องเดียร์”เสียงทักทายของผู้มาใหม่ทำเอาบทสนทนาที่กำลังสนุกคึกครื้นเมื่อครู่นี้เงียบลง ทั้งสามคนพร้อมใจกันหันไปมองตามเสียง แต่ดูเหมือนว่าการมาครั้งนี้จะมีหนึ่งคนที่นิ่งอึ้งไม่พูดอะไร“พี่กร พี่ชม กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะทำไมไม่โทรบอกจะได้ไปรับ”“พี่อยากจะเซอร์ไพร์ทน้องเดียร์ด้วย”คนตัวเล็กฟังแล้วพยักหน้ารับยิ้ม ๆ“สวัส
ชีวิตการทำงานที่แสนราบเรียบของภัคธีมาดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ทุกคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเตชินท์ลูกค้ารายใหญ่ของทางบริษัท เหมือนมีบางอย่างที่ผิดปกเกี่ยวกับอารมณ์ของมัณฑนากรสาวที่ช่วงหลัง ๆ อารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก“ทุกคนเดียร์ซื้อชานมไข่มุกหวานน้อยมาฝากค่ะทุกคน”คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาภายออฟฟิศหลังจากที่เธอออกไปคุยงานกับลูกค้าอีกคนหนึ่งมาและระหว่างทางที่ขับรถกลับออฟฟิศนั้นเกิดอยากจะกินชานมไข่มุกของร้านที่อยู่ข้างล่างเข้าพอดีในจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังจะสั่งคนที่เพิ่งแยกออกมาจะเธอเมื่อช่วงเช้สตรู่เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งจ่ายค่าเครื่องดื่มอีกทั้งยังสั่งเผื่อพนักงานคนอื่น ๆ อีกหลายสิบแก้วให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆก่อนที่เตชินท์จะเดินจากไปเธอถามเขาว่ามมาจ่ายค่าเครื่องดื่มพวกนี้ให้เธอทำไมกันเขาบอกเธอแค่ว่า ‘จ่ายเงินให้เมียมันผิดตรงไหน’ คำพูดของเขาทำเอาเธอนิ่งเงียบไม่สามารถตอบโต้อะไรเขาได้เลย เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมามันคือเรื่องจริง“วันนี้ฝนจะตกไหมเนี่ย““นั่นสิ พักหลัง ๆ
“ทำไมไม่มาดูตอนกลางวัน”เตชินท์เดินเคียงข้างกับภัคธีมาเข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ เพื่อที่จะดูหนังรอบดึกกันสองต่อสอง เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาดูหนังกันเวลานี้“ก็ตอนกลางวันพี่เตกับเดียร์ก็ทำงานกันนี่คะ แล้วจะเอาเวลาไหนมาดู” คนตัวเล็กที่ถือถังป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำยืนอยู่ตรงหน้า“กลางวันพี่ว่าง”“ก็พี่เป็นเจ้านายเขาจะทำงานก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่เดียร์เป็นลูกจ้างเขานะจะลาหยุดบ่อยก็ไม่ดี”“ลาหยุดไม่ดี งั้นลาออกจากงานมาพี่เลี้ยงเอง”“พูดเป็นเล่นน่าพี่เต” ประโยคเมื่อครู่นี้ทำเอาคนตัวเล็กตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเธอ ส่วนมากก็แค่หยอกเท่านั้น แต่ที่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันดูต่างออกไปเหลือเกิน“พี่พูดจริง”เตชินท์บอกพลางส่งสายตาหวานซึ้งให้หญิงสาวโยที่เจ้าตัวนั้นไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย ผิดกับภัคธีมาที่คอยมองซ้ายแลขวาราวกับกลัวว่าจะมีคนรู้จักมาเห็นเสียอย่างนั้น เธอจึงตัดสินใจจชวนชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาสีแดงที่อยู่ไม่ห่างมากนัก เพราะหากยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเป็นการขวางทางเดินผ่านไปผ่านมา เวลาของภาพยนต์ที่กำล
“มาส่งดอกไม้ให้กับคุณภัคธีมาครับ”พนักงานส่งของบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางกวาดสายตามองหาเจ้าของชื่อว่าจะมีใครออกมารับหรือไม่จากการที่ดูแล้วทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างพากันก้มหน้าก้มตายุ่งงานของตัวเอง“วันนี้ดอกไม้ก็มาอีกหนึ่งช่อใหญ่ ๆ เหมือนเคย” เพื่อนร่วมงานของภัคธีมากลายเป็นคนรับดอกไม้จำเป็นเสียแล้ว เท่าที่นับได้อาทิตย์นี้เป็นช่อที่สามเห็นจะได้แล้ว“พี่เดียร์ได้รับดอกไม้อีกแล้ว”“วันนี้มีข้อความว่ายังไงบ้าง”เพรื่อนร่วมงานถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะเรื่องราวเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังตามจีบมัณฑนากรสาวคนแก่งของที่นี่กระจายไปทั่งบริษัท“ตอบไลน์พี่หน่อย จะดองไว้นานแค่ไหนคนดี”หลังจากเสียงอ่านข้อความในกระดาษการ์ดที่แนบมาด้วยจบทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นพากันหวีดไม่น้อยกับประโยคที่ว่ามา“นี่ขิง เอาไปให้พี่เดียร์ที” คนที่เพิ่งจะรับของมาเมื่อครู่สอดกระดาษการ์ดใบเล็กเอาไว้ที่เดิมก่อนจะส่งให้ผู้ช่วยของหญองสาวก่อนจะเดินตรงเอาช่อดอกไม้แสนสวยไปให้กับภัคธีมาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง ในระหว่างทางที่กำลังจะเอาของไปให้นั้นก็เดินสวนกันกับเ
เตชินท์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ้วมือของเขาเคาะเข้ากับโต๊ะเบา ๆ ราวกับกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคมที่คิดว่าเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างแต่กลับจับจ้องไปยังรูปภาพที่อยู่บนหน้าจอ แล็ปท๊อปขนาดใหญ่ที่มีชายหนุ่มกับสาวสวยอีกหนึ่งคนกำลังยืนหวานชื่นท่ามกลางความงดงามของฝรั่งเศษ ก่อนจะลบมันออกจากเครื่องราวกับว่าไม่ต้องการที่จะเห็นมันอีกครั้ง ไม่ว่าภาพหวานชื่นเหล่านั้นจะมีสักเท่าไหร่ชายหนุ่มก็จัดการลบมันออกให้หมดลบมันออกจากหัวใจเพราะเขาเกลียดผู้หญิงทรยศคนนี้เหลือเกินระหว่างที่เขากำลังลบรูปภาพ อยู่ก็เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าสวยหวานออกไปทางคมเล็กน้อยตามแบบฉบับราวกับสาวลูกครึ่ง รอยยิ้มที่ชวนหลงไหลไปกับสดใสตามวัยของเธอเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะมาหลายปีก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ยังเหมือนเคยแต่อาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาภัคธีมาต้องไม่ได้เจอกันมาหลายปี ครั้งนี้เขาตั้งใจกลับมาพบเธออีกครั้ง สายตาคมเข้มมองงานที่ภัคธีมาส่งมาให้เขาตรวจเช็คอีกครั้งก่อนจะพาเธอเข้าไปดูสถานที่จริงเป็นครั้งที่สอง“คุณเตครับ คุณเดียร์ส่งแบบมาให้คุณเตมาส
ท่ามกลางเมืองที่แสนวุ่นวายของผู้คนทำงานเช่นเดียวกันกับตะวันวาดที่กำลังว้าวุ่นใจที่มองซ้ายแลขวาไม่พบเพื่อนร่วมงานคนเก่งของตนมาถึงออฟฟิศเสียที เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญเสียด้วย อีกอย่างหญิงสาวเป็นคนที่ตรงเวลาเอามาก ๆ ไม่เคยมาสายแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่อะไรกันสายไปหลายนาทีแล้ว ยังติดต่อภัคธีมาไม่ได้แม้แต่สายเดียว“ฮัลโหลยัยเดียร์แกอยู่ที่ไหนเนี่ย”น้ำเสียงของตะวันวาดกระวนกระวายไม่น้อย เพราะเพื่อนของเธอยังมาไม่ถึงเสียที อีกอย่างสาวเจ้าปลายสายต้องมาพรีเซ็นต์โพรเจกต์งานออกแบบให้กับลูกค้าที่เจาะจงมายังทีมของตนโดยเฉพาะ ถ้าเป็นทีมอื่นจะไม่ทำกับทางบริษัทนี้งานนี้เป็นงานใหญ่ที่ไม่อยากให้เสียหายทางตะวันวาดเลยกระวนกระวายใจไม่น้อยที่กลัวเพื่อนจะมาไม่ทัน“จะถึงแล้ว รอฉันอีกสิบนาทีนะตะวัน”ภัคธีมารับสายแล้วรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดวางสายและยัดโทรศัพท์มือถือกลับเข้าทีเดิม สองขาเรียวสวยรีบสาวเท้าเข้าอาคารตรงไปยังลิฟต์เพื่อไปยังที่หมายให้เร็วที่สุด เพราะเธอไม่อยากให้ลูกค้าต้องรอนาน แต่วันนั้นถค่อนข้างติดเพราะเกิดอุบัติเหตุใหญ่บนท้องถนน ทำให้เธอต้องเรียกวินมอเตอร์ไซค?มารับที่คอนโดมิเนียมที่หญิงสาวพัก...
Comments