Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-02-17 02:41:18

“มาส่งดอกไม้ให้กับคุณภัคธีมาครับ”

พนักงานส่งของบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางกวาดสายตามองหาเจ้าของชื่อว่าจะมีใครออกมารับหรือไม่จากการที่ดูแล้วทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างพากันก้มหน้าก้มตายุ่งงานของตัวเอง

“วันนี้ดอกไม้ก็มาอีกหนึ่งช่อใหญ่ ๆ เหมือนเคย” เพื่อนร่วมงานของภัคธีมากลายเป็นคนรับดอกไม้จำเป็นเสียแล้ว เท่าที่นับได้อาทิตย์นี้เป็นช่อที่สามเห็นจะได้แล้ว

“พี่เดียร์ได้รับดอกไม้อีกแล้ว”

“วันนี้มีข้อความว่ายังไงบ้าง”

เพรื่อนร่วมงานถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะเรื่องราวเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังตามจีบมัณฑนากรสาวคนแก่งของที่นี่กระจายไปทั่งบริษัท

“ตอบไลน์พี่หน่อย จะดองไว้นานแค่ไหนคนดี”

หลังจากเสียงอ่านข้อความในกระดาษการ์ดที่แนบมาด้วยจบทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นพากันหวีดไม่น้อยกับประโยคที่ว่ามา

“นี่ขิง เอาไปให้พี่เดียร์ที” คนที่เพิ่งจะรับของมาเมื่อครู่สอดกระดาษการ์ดใบเล็กเอาไว้ที่เดิมก่อนจะส่งให้ผู้ช่วยของหญองสาว

ก่อนจะเดินตรงเอาช่อดอกไม้แสนสวยไปให้กับภัคธีมาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง ในระหว่างทางที่กำลังจะเอาของไปให้นั้นก็เดินสวนกันกับเจ้านายพอดี

“ดอกไม้ของใครเนี่ยขิง” ธีรัตม์ถามอย่างสงสัยเพราะพักนี้มักจะมีดอกไม้มาส่ง

“ของพี่เดียร์ค่ะ จากคุณเตชินท์เหมือนเดิม”

เจ้านายหนุ่มพยักหน้ารับเล็กน้อยอย่างเข้าใจเพราะช่วงนี้น้องสาวของเขาเสน่ห์แรงเหลือเกิน เมื่อก่อนมีใครเข้ามาจีบก็จะบอกปัดให้ออกห่างตลอด ผิดกับลูกค้ารายใหญ่คนนี้ ที่ส่งดอกไม้มาก็หลายช่อไหนจะข้อความ อีกทั้งช่วงนี้เตชินท์มาที่บ่อยกว่าเมื่อก่อน หากมาเรื่องงานจะส่งเลขามาแทน แต่ช่วงนี้กลับผิดคาดเขามาเองทุกครั้ง

แม้ว่าจะไม่มีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้องก็ตาม

“งั้นขิงขอเอาดอกไม้ไปให้พี่เดียร์ก่อนนะคะ”

“มีอะไรก็ไปทำเถอะ บอกเดียร์มาประชุมกับพี่ด้วยตอนบ่ายสาม”

“ได้ค่ะ” ขนิษฐาขานรับไปพร้อม ๆ กับพยักหน้าอีกครั้ง ก่อนรีบเดินเอาดอกไม้ช่อโตไปให้หญิงสาวและบอกเรื่องประชุมด่วนกับภัคธีมาด้วย

หากให้คิดว่าการทำงานแบบพวกเธอนั้นว่า แต่เปล่าเลย ทุกคนต่างมีงานล้นมือ ทั้งทีมของภัคธีมาและพี่ ๆ อีกหลาย ๆคน ด้วยความที่ว่าทางลูกค้าเจาะจงที่จะให้ทีมของภัคธีมาทำตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่อาจที่จะขัดได้

“พี่เดียร์จ๋ามีดอกไม้มาให้พี่เดียร์อีกแล้วค่ะ” บอกอย่างร่าเริงแกมแซวสาวเจ้าที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานของตนอยู่ คนถูกเรียกส่งยิ้มให้พลางเอียงหน้าหันไปมองช่อดอกไม้ที่วางอยู่มุมห้อง ไม่รู้ว่าจะเอาไปไว้ไหนหรือทำอะไรดี

“เอาไปวางไว้ที่เดิมเลย เดี่ยวเย็นนี้พี่เอากลับคอนโดฯ”

คนที่เอาของมาให้ก็ทำตามอย่างว่าง่าย เอากุหลาบสีแดงช่อโตไปวางลงรวมกับเพื่อนของมันมีแทบจะมีทุกสี

ดอกไม้ทุกดอกล้วนมีความหมายของมัน

“พี่เดียร์จะไม่ยอมไปทานข้าวกับคุณเตหน่อยเหรอคะ”

“พี่ยังไม่ว่างเลย ขิงก็เห็นว่างานของพี่เยอะมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของคุณเตทั้งนั้นแหละ”

“ก็คุณเตเขาเจาะจงแกมาโดยเฉพาะนี่ บอสเราเขาขัดได้ที่ไหนกันล่ะ”

ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนนอกเสียจากเสียงของตะวันวาดที่บังเอิญเข้ามาได้ยินเข้าพอดีก็เลยพูดคุยกันตามประสา อีกทั้งถือวิสาสะเข้าไปดูการ์ดที่แนบมากับช่อกุหลาบด้วย

“รู้น่าว่าเจาะจง แต่พี่เตก็แก้ไม่หยุด นิด ๆหน่อย ๆ ปรับนี่ปรับนั่น เมื่อไหร่จะลงตัวสักทีเหนื่อยแล้ว” ภัคธีมาอดที่จะบ่นไม่ได้กับงานที่อยู่ตรงหน้า

สองสาวมองหน้ากันด้วยความงวยงงเพราะแทบจะไม่เห็นคนตรงหน้าบ่นเกี่ยวกับงานแม้แต่น้อยผิดกับตอนนี้

“ทำเถอะน่าแก”

“สู้ ๆ นะคะพี่เดียร์ เอ่อมีอีกเรื่องค่ะบอสบอกว่าบ่ายสามมีประชุมด่วนนะคะ”

“แกเข้าประชุมไหมตะวัน”

“เข้าสิ ไว้เจอกันนะ แล้วก็มีหนุ่มมาชวนกินข้าวก็ไปกินสิ”

“ที่เป็นเพื่อนของพี่ชายกับลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทเนี่ยนะ”

“ใช่ ก็ไปในฐานะพี่น้องไง คิดอะไรมาก”

ภัคธีมาพยักหน้าพลางเล็กน้อยกับสิ่งที่ตะวันวาดเอ่ยขึ้นมา เธอนั้นคิดมากทุกครั้งที่ชายหนุ่มชวนเธอไปรับประทานอาหารด้วยกัน สองต่อสองโดยส่วนตัวไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เราไม่สามารถห้ามความคิดของคืนอื่นได้

“ไว้เจอกันตอนประชุมนะ เดี๋ยวขอทำงานก่อน”

             

“ให้ตายเถอะ นี่มันอะไรกันเนี่ยเมื่อไหร่งานฉันจะเสร็จสักที”

การประชุมงานที่แสนยืดเยื้อยาวนานเป็นเวลาหลายชั่วโมงทำเอาทุกคนสภาพแทบไม่ต่างจากภัคธีมาแม้แต่น้อย

“นั่นสิงานเก่ายังไม่เรียบร้อย งานใหม่มากองรอเป็นภูเขา”  

หลายคนต่างพากันบ่นเป็นเสียงเดียวกันแต่จะทำอย่างไรได้งานเยอะยังดีกว่าไม่มีงานทำและช่วงนี้ทุกคนต่างพากันรีโนเวทบ้าน รีสอร์ทกันใหม่ให้เข้ากันตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

เช่นเดียวกับรีสอร์ทของเตชินท์ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้มันดีขั้น แต่เขาก็ยังไม่ยอมอนุมัติให้ผ่านงานเสียที

“นี่ยัยเดียร์ของแกก็มีแต่ของคุณเตชินท์”

“ใช่ของคุณเตชินท์ จะห้าเดือนแล้วปรับนั่นปรับนี่อยู่ได้ แล้วไหนบอกว่ารีบนักรีบหนา”

คนตัวเล็กบ่นอุบอิบให้กับคนที่สั่งเธอปรับงานแล้วปรับงานอีก นับตั้งแต่วันที่เธอไปดูสถานที่พร้อมกับน้องผู้ช่วยนี่ก็หนึ่งเดือนแล้ว

ทว่านับตั้งแต่กลับมาจากที่นั้นเธอรู้สึกว่าชายหนุ่มจะปฎิบัติกับเธอแตกต่างออกไป จากที่ไม่เคยมายุ่งวุ่นวายกับเธอกลับมาหาที่ออฟฟิศค่อนข้างบ่อย ไหนจะช่อดอกไม้เกือบสิบช่อที่วางอยู่ในห้องอีก

“อย่าบ่นไปนักเลยน่า”

“ทำไมคะพี่ธีน้องบ่นนิดหน่อยเองนะ” เธอหันไปบอกเจ้านายที่เคารพเหมือนพี่ชายอีกคนพลางทำหน้ามุ้ยเล็กน้อย

“บ่นน่ะบ่นได้ไม่ว่าอะไรหรอก ว่าแต่ช่วงนี้คุณเตเขาส่งดอกไม้มาให้เราบ่อยนะ”

ธีรัมต์ถามแกมยิ้มแซวสาวรุ่นน้อง

“ใช่ค่ะบอสรับช่อดอกไม้แทบจะทุกวัน” ไม่วายที่เพื่อนร่วมงานต่างแซวภัคธีมาตามเจ้านายอีกระรอกหนึ่ง

“มีอะไรหรือเปล่า”

“ไม่มีอะไรนี่คะพี่ธี เดียร์ก็ไม่รู้ว่าเขาจะส่งมาให้เดียร์ทำไม”

เธอเองนั้นไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องส่งดอกไม้มาให้เธอทุกวัน ไหนจะบางครั้งมีสั่งอาหารมาเลี้ยงพนักงานที่ออฟฟิศอีกด้วย

ถ้าหากว่าเป็นเหตุผลที่ต้องการให้เธอไปทานข้าวด้วยก็เถอะ 

“หรือว่าคุณเตชินท์เขากำลังจีบพี่เดียร์”

อยู่ ๆ ขนิษฐาพูดขึ้นในจังหวะที่ภัคธีมากำลังจิบน้ำได้ยอนถึงกับสำลักน้ำหันมองผู้ช่วยรุ่นน้องทันที

“อันนี้ก็เป็นไปได้” ตะวันวาดเสริม

“ไม่จริงหรอก” สาวเจ้ารีบปฏิเสษทันที โดยที่พยายามปกปิดซ่อนเร้นความรู้สึกของตนเองที่มีต่อชายหนุ่มเอาไว้ด้วย

“สายตาที่คุณเตชินท์มองพี่เดียร์มันแปลก ๆ อยู่นะ”

“ไม่มีอะไรหรอก แค่มองในฐานะน้องสาวนั่นแหละไม่ต้องใส่ใจหรอก” ภัคธีมารีบบอกปัดทันทีและขอตัวกลับก่อนเพราะถ้าหากอยู่นานกว่านี้เรื่องราวคงบานปลายแน่นอน ผู้ร่วมวงสนทนาทั้งสามคนก็ไม่ติดอะไรเพราะนี่ก็เลยเวลาเลิกงานมาพอสมควรแล้ว  ทว่าคิดไปคิดมาภัคธีมาจะกลับบ้านตอนนี้ก็ได้ แต่ก็ต้องเสียเวลารถติดหลายชั่วโมง จากที่เก็บของเตรียมกลับบ้านจึงเปลี่ยนใจนั่งทำงานต่อน่าจะดีกว่า

“พี่เดียร์ขิงกลับก่อนนะ”

“ฉันกลับก่อนนะ ขับรถดี ๆ ล่ะ”

เพื่อนร่วมงานหลายต่อหลายคนต่างผลัดกันมาบอกภัคธีมาว่าขอตัวกลับก่อนเพราะเห็นหญิงสาวยังไม่ออกมาจึงแวะมาบอกเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ตกใจที่ออกมาแล้วไม่พบใคร ทุกคนมักจะทราบดีว่าเวลาที่คนตัวเล็กทำงานจนจะไม่สนใจสิ่งรอบ ๆ ข้างเลย

เหมือนเช่นตอนนี้ที่กำลังมีใครบางคนยืนกอดอกมองหญิงสาวที่กำลังตั้งอกตั้งใจในการทำงานอยู่ ทำเอาคนที่ยืนมองถึงกับส่ายหน้าน้อย ๆ กับความไม่ระวังตัวของเธอเอาเสียเลย หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาจะทำอย่างไร

“แล้วพี่จะกลับมาเมื่อไหร่”

อยู่ ๆ ภัคธีมาก็พูดขึ้นมาทำเอาคนที่ยืนแอบมองถึงกับฉงนเล็กน้อยพลางหรีตามองว่าหญิงสาวกำลังคุยกับใครอยู่

“ค่ะ งั้นอีกสามเดือนเจอกันคิดถึงนะคะพี่ชายขา”

หลังจากคุยธุระกับพี่ชายดสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนวางสายไม่วายอ้อยอ้อนคนปลายสายตามประสาพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันมานาน เธอโทรคุยกับพี่ชายไปแก้งานที่อยู่ตรงหน้าไปเพลิน ๆ จนเวลาล่วงเลยมาสองชั่วโมงเห็นจะได้

“ในที่สุดก็เสร็จสักที” 

เธอเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ พลางบิดยืดเส้นยืดสายเล็กน้อยให้คลายความเมื่อยล้าจากการนั่งทำงานโดยที่ไม่เปลี่ยนท่าทางเป็นเวลานาน ๆ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะเข้ากับกระจกทำเอาคนที่นั่งอยู่ถึงกับหันควับด้วยความตกใจ

“งานเสร็จแล้วไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อย”

ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนนอกเสียจากเตชินท์คนที่คอยตามตื้อภัคธีมาตามประสาคนที่เขาจะสานสัมพันธ์กับเธอ

“พี่เต มาทำอะไรที่นี่คะ”

“มารอรับเดียร์ไปทานข้าว”

“ก็ได้ค่ะ ไปก็ไปแต่ต้องเป็นร้านที่เดียร์เลือกนะคะ”

เธอถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะตกปากรับคำว่าจะไปกับเขา แต่มีข้อแม้ว่าร้านที่ไปต้องเป็นร้านที่ตนเลือกเท่านั้น แน่นอนว่าชายหนุ่มย่อมตกลงอยู่แล้ว

ว่าเธอจะพาไปร้านอาหารร้านไหน

อาหารมื้อพิเศษที่เธออยากกินมานานคงหนีไม่พ้น ร้านหมูกระทะ แต่ไม่มีโอกาสได้กินเสียทีเพราะงานยุ่งมาก เตชินท์เห็นร้านแล้วก็ไม่ได้ว่าหรือติดอะไร เขาเองก็รู้สึกชอบไม่น้อยที่ได้กลับมากินอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ได้มากับคนตรงหน้ามันย่อมดีเข้าทางเข้า

แค่ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปทางเส้นทางของมัน

ไม่ใช่สิ ต้องเป็นไปตามแผนที่เขาวางเอาไว้ที่จะเอาคืนคนพวกนั้น

“เดียร์”

อยู่ ๆ ชายหนุ่มก็เรียกชื่อหญิงสาวขึ้นมา

“คะ”

“พี่จะจีบเดียร์”

ร่างสูงเพรียวก้าวเดินไปข้างหน้ากวาดสายตามองร้านเสื้อผ้าหลากหลายแบรน์ทั้งราคาที่จับต้องได้และราคาที่เกินความสามารถที่คนอย่างเธอสามารถซื้อหาได้ แต่อันที่จริงเราไม่จำเป็นต้องซื้อสิ่งของราคาแพงก็ได้ใส่ชุดไหนถูกใจและชอบก็ซื้อหามาใส่

แต่ส่วนใหญ่ที่เข้าร้านหรู ๆ ราคาแพง ๆ ก็มักจะลองชุดนั้นชุดนี้ไปเรื่อยถูกใจค่อยซื้อ น้อยครั้งที่จะเห็นคนอย่างภัคธีมามาเดินเล่นภายในห้างสรรพสินค้าแบบนี้ หากไม่มีเรื่องที่คิดไม่ตกเรื่องงานที่ทำอยู่ ก็เป็นเรื่องส่วนตัว

‘พี่จะจีบเดียร์’

คำ ๆ นี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวอยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่วันนั้นที่เตชินท์ได้พูดกับเธอ

คนตัวเล็กที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ภายในร้านพลางคิดถึงเรื่องที่ชายหนุ่มพูดกับเธอถึงกับพึมพำกับตัวเอง

“ไม่ใช่หรอกมั้งพี่เตเขาแกล้งแกรึเปล่า” เธอบ่นกับตัวเองเบา ๆ พลางเอาชุดที่อยู่ในมือทาบกับตัวเองและดูความเหมาะสมและเข้ากัน ในจังหวะที่เธอถอยหลังไปชนกับใครบางคนเข้า

“โอ๊ยนี่ถอยหลังประสาอะไรเนี่ย” น้ำเสียงเหวี่ยงวีนอย่างไม่พอใจที่มาชนเจ้าหล่อน

“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้มองค่ะ” 

ใช่อันที่จริงเธอเองก็ไม่ได้ระวังด้วยจนทำให้ชนคนข้างหลัง จึงรีบขอโทษขอโพยสาวเจ้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องจกตะลึงในความสวยของคนตรงหน้า

สวยมา ผู้หญิงอะไรทำไมสวยอะไรขนาดนี้ ขนาดภัคธีมาเองที่เป็นผู้หญิงด้วยกันถึงขั้นเอ่ยปากชมในความสวย

“ไม่เป็นไร คราวหลังก็หนัดระวังบ้างล่ะจะได้ไม่ไปชนคนอื่นเขาอีก” น้ำเสียงของคนตรงหน้าเปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่วีนเธอด้วย

“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ”

“ไม่เป็นไร” สาวสวยคนนั้นเดินออกไปเลือกกระเป๋าแบรน์เนมราคาแสนแพง เธอมองอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันมาสนใจในส่วนของตัวเองและวนกลับคิดเรื่องของตัวเอง แต่ก็ต้องส่ายหน้าไล่ความคิดนั้นออกจากหัวไปให้หมดไม่ต้องคิดในตอนนี้

ภัคธีมากำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ก็มีข้อความแจ้งเตือนผ่านหน้าจอล็อคสกลีนโทรศัพท์มือถือของตน จึงเอาของที่อยู่ในมือเก็บเข้าที่เดิมก่อนมาตอบข้อความเพียงเสี้ยววินาทีก็เปลี่ยนเป็นรับสายแทน

“ฮัลโหลว่ายังไงตะวัน”

“แกอยูไหนเนี่ยเดียร์” คนปลายสายรีบถามทันทีที่เพื่อนเงียบหายไปไม่ได้ติดต่ออะไร เพราะปกติสาวเจ้ามักจะบ่นเรื่องงานหรือสิ่งที่เจอชวนให้ปวดหัวในแต่ละวัน

“เดินห้างคลายเครียดน่ะ”

“แปลกนะที่แกไม่ชวนฉันไปกับแกด้วย”

“ฉันเห็นว่าแกงานเยอะน่ะเลยไม่ได้ชวนแค่มาเดินเล่นแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้ว”

“เดี๋ยวก็กลับใช่มั้ย เย็นนี้กินหมูกระทะกัน” ตะวันวาดชวนเพื่อนไปหาอาหารเย็น

“ได้ เจอกันร้านเดิม”

หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยภัคธีมาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าและเอาชุดที่เธอหมายตาไปให้พนักงานพร้อมทั้งชำระเงิน ในระหว่างที่เธอรอเสื้อผ้าชุดใหม่จากพนักงาน สาวสวยคนเมื่อครุ๋นี้ก็เดินมายื่นข้าง ๆ พร้อมทั้งบอกพนักงานว่าต้องการกระเป๋าใบนั้น

“กระเป๋าใบนี้ยังเหลืออยู่ไหมคะ"

สาวเจ้าถามพนักงานอีกคนที่ยืนประจำอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์

“สักครู่นะคะคุณลูกค้าเดี๋ยวดิฉันเช็คสต๊อคให้ค่ะ”

ระหว่างที่ภัคธีมากำลังรอพนักงานนำของมาให้ อยู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวสวมทับด้วยสูทสีดำกางเกงสแล็กผ้าเนื้อดี เดินตรงมายังเธอกับสาวสวยผมยาวดัดลอนในเสื้อคาดิแกนท์สีเทาอ่อนตัดกับ

มินิสเกิร์ตสีขาวสั้นเหนือเข่าโชว์ขาเรียวสวยรับกับรองเท้าส้นสูง ยิ่งทำให้ดูดีมากขึ้น  ในมือถือกระเป๋าแบรน์เนมใบหรู

“ซื้อเสร็จหรือยัง”

“พนักงานไปดูให้อยู่ รอหน่อยไม่ได้หรือไงแค่นี้ทำเป็นรอไม่ได้”

“รอได้พี่สาวทั้งคน”

เสียงสนทนาของทั้งสองที่อยู่ไกล้ ๆ ภัคธีมารู้สึกคุ้นเสียงของผู้ชายที่เดินเข้ามาใหม่เหลือเกิน จนคนตัวเล็กอดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นใคร

แต่กำลังจะหันก็ถูกพนักงานคนก่อนหน้านี้เรียกเอาไว้เสียก่อน

“ชุดของคุณลูกค้าที่สั่งได้แล้วค่ะ จำนวนสองชุด”

“ขอบคุณค่ะ”

ภัคธีมาส่งบัตรเครดิตในมือให้พนักงานเพื่อที่จะชำระเงินและถุงเสื้อผ้ามาไว้กับมือ จังหวะที่เธอกำลังหันหลังเดินออกนอกร้านก็ต้องหยุดชะงักกับเสียงเรียกชื่อของตัวเอง

“เดียร์”

“พี่เต”

“รู้จักกันด้วยเหรอ” สาวสวยผมลอนชี้ไปทางทั้งสองราวกับสงสัยว่ารู้จักกันได้อย่างไร

“รู้ นี่เดียร์น้องสาวของไอ้กร ส่วนเดียร์นี่พี่ปลายพี่สาวของพี่”

“สวัสดีค่ะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เดียร์นะคะเป็นมัณฑนากรที่ออกแบบภายในให้

รีสอร์ตของพี่เต”

ทั้งสามคุยกันเล็กน้อยก่อนจะพากันแยกย้ายไปในที่ที่ตนอยากไป เช่นเดียวกันกับเตชินท์ที่ผละออกจากพี่สาวแล้วตามภัคธีมาออกไป

Related chapters

  • เปลืองใจ   บทที่ 5

    “ทำไมไม่มาดูตอนกลางวัน”เตชินท์เดินเคียงข้างกับภัคธีมาเข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ เพื่อที่จะดูหนังรอบดึกกันสองต่อสอง เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาดูหนังกันเวลานี้“ก็ตอนกลางวันพี่เตกับเดียร์ก็ทำงานกันนี่คะ แล้วจะเอาเวลาไหนมาดู” คนตัวเล็กที่ถือถังป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำยืนอยู่ตรงหน้า“กลางวันพี่ว่าง”“ก็พี่เป็นเจ้านายเขาจะทำงานก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่เดียร์เป็นลูกจ้างเขานะจะลาหยุดบ่อยก็ไม่ดี”“ลาหยุดไม่ดี งั้นลาออกจากงานมาพี่เลี้ยงเอง”“พูดเป็นเล่นน่าพี่เต” ประโยคเมื่อครู่นี้ทำเอาคนตัวเล็กตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเธอ ส่วนมากก็แค่หยอกเท่านั้น แต่ที่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันดูต่างออกไปเหลือเกิน“พี่พูดจริง”เตชินท์บอกพลางส่งสายตาหวานซึ้งให้หญิงสาวโยที่เจ้าตัวนั้นไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย ผิดกับภัคธีมาที่คอยมองซ้ายแลขวาราวกับกลัวว่าจะมีคนรู้จักมาเห็นเสียอย่างนั้น เธอจึงตัดสินใจจชวนชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาสีแดงที่อยู่ไม่ห่างมากนัก เพราะหากยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเป็นการขวางทางเดินผ่านไปผ่านมา เวลาของภาพยนต์ที่กำล

    Last Updated : 2025-02-19
  • เปลืองใจ   บทที่ 6

    ชีวิตการทำงานที่แสนราบเรียบของภัคธีมาดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ทุกคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเตชินท์ลูกค้ารายใหญ่ของทางบริษัท เหมือนมีบางอย่างที่ผิดปกเกี่ยวกับอารมณ์ของมัณฑนากรสาวที่ช่วงหลัง ๆ อารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก“ทุกคนเดียร์ซื้อชานมไข่มุกหวานน้อยมาฝากค่ะทุกคน”คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาภายออฟฟิศหลังจากที่เธอออกไปคุยงานกับลูกค้าอีกคนหนึ่งมาและระหว่างทางที่ขับรถกลับออฟฟิศนั้นเกิดอยากจะกินชานมไข่มุกของร้านที่อยู่ข้างล่างเข้าพอดีในจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังจะสั่งคนที่เพิ่งแยกออกมาจะเธอเมื่อช่วงเช้สตรู่เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งจ่ายค่าเครื่องดื่มอีกทั้งยังสั่งเผื่อพนักงานคนอื่น ๆ อีกหลายสิบแก้วให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆก่อนที่เตชินท์จะเดินจากไปเธอถามเขาว่ามมาจ่ายค่าเครื่องดื่มพวกนี้ให้เธอทำไมกันเขาบอกเธอแค่ว่า ‘จ่ายเงินให้เมียมันผิดตรงไหน’ คำพูดของเขาทำเอาเธอนิ่งเงียบไม่สามารถตอบโต้อะไรเขาได้เลย เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมามันคือเรื่องจริง“วันนี้ฝนจะตกไหมเนี่ย““นั่นสิ พักหลัง ๆ

    Last Updated : 2025-02-20
  • เปลืองใจ   บทที่ 7

    “กรทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”น้ำเสียงหวานละมุนของใครบางคนดังมาแต่ไกล เจ้าหล่อนเห็นคนรักของตัวเองเดินมาหยุดที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานสองนาน ไม่ยอมเดินเข้าไปสักทีตนจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปถามไกล ๆ แต่เสียงสนทนาของคนที่อยู่ด้านในนั้นช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน‘ทำไมเสียงมันคุ้น ๆ อะไรแบบนี้ง’“เปล่าหรอกไม่มีอะไร” ธนินหันไปตอบแฟนสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ให้ผิดสังเกตว่าตนกำลังคิดเรื่องราวบางอย่างจึงรีบบอกปัดออกไป“งั้นเข้าไปหาคุณย่าดีกว่า เหมือนชมได้ยินเสียงของน้องเดียร์น่าจะอยู่ข้างในกับคุณย่าเหมือนกัน” ชลิตาแฟนสาวของธนินพูดขึ้นพร้อมทั้งเดินนำหน้าเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งยกมือทักทายย่าอ่อนศรี“สวัสดีค่ะย่า น้องเดียร์”เสียงทักทายของผู้มาใหม่ทำเอาบทสนทนาที่กำลังสนุกคึกครื้นเมื่อครู่นี้เงียบลง ทั้งสามคนพร้อมใจกันหันไปมองตามเสียง แต่ดูเหมือนว่าการมาครั้งนี้จะมีหนึ่งคนที่นิ่งอึ้งไม่พูดอะไร“พี่กร พี่ชม กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะทำไมไม่โทรบอกจะได้ไปรับ”“พี่อยากจะเซอร์ไพร์ทน้องเดียร์ด้วย”คนตัวเล็กฟังแล้วพยักหน้ารับยิ้ม ๆ“สวัส

    Last Updated : 2025-02-21
  • เปลืองใจ   บทที่ 1

    ท่ามกลางเมืองที่แสนวุ่นวายของผู้คนทำงานเช่นเดียวกันกับตะวันวาดที่กำลังว้าวุ่นใจที่มองซ้ายแลขวาไม่พบเพื่อนร่วมงานคนเก่งของตนมาถึงออฟฟิศเสียที เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญเสียด้วย อีกอย่างหญิงสาวเป็นคนที่ตรงเวลาเอามาก ๆ ไม่เคยมาสายแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่อะไรกันสายไปหลายนาทีแล้ว ยังติดต่อภัคธีมาไม่ได้แม้แต่สายเดียว“ฮัลโหลยัยเดียร์แกอยู่ที่ไหนเนี่ย”น้ำเสียงของตะวันวาดกระวนกระวายไม่น้อย เพราะเพื่อนของเธอยังมาไม่ถึงเสียที อีกอย่างสาวเจ้าปลายสายต้องมาพรีเซ็นต์โพรเจกต์งานออกแบบให้กับลูกค้าที่เจาะจงมายังทีมของตนโดยเฉพาะ ถ้าเป็นทีมอื่นจะไม่ทำกับทางบริษัทนี้งานนี้เป็นงานใหญ่ที่ไม่อยากให้เสียหายทางตะวันวาดเลยกระวนกระวายใจไม่น้อยที่กลัวเพื่อนจะมาไม่ทัน“จะถึงแล้ว รอฉันอีกสิบนาทีนะตะวัน”ภัคธีมารับสายแล้วรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดวางสายและยัดโทรศัพท์มือถือกลับเข้าทีเดิม สองขาเรียวสวยรีบสาวเท้าเข้าอาคารตรงไปยังลิฟต์เพื่อไปยังที่หมายให้เร็วที่สุด เพราะเธอไม่อยากให้ลูกค้าต้องรอนาน แต่วันนั้นถค่อนข้างติดเพราะเกิดอุบัติเหตุใหญ่บนท้องถนน ทำให้เธอต้องเรียกวินมอเตอร์ไซค?มารับที่คอนโดมิเนียมที่หญิงสาวพัก

    Last Updated : 2025-02-13
  • เปลืองใจ   บทที่ 2

    “พี่ฝากงานพวกนี้ด้วยนะ ถ้าสงสัยอะไรไม่เข้าใจยังไงถามพี่ได้ตลอด”ภัคธีมามอบงานให้น้อง ๆ ในทีมที่ทำงานร่วมกับเธอ พร้อมทั้งอธิบายในเนื้องานต่าง ๆ มันเป็นแบบไหนต้องทำอย่างไรกับงานชิ้นนั้น ๆ เธอเชื่อว่าตะวันวาดและคนในทีมจะช่วยกันทำให้ดีที่สุด ส่วนของเธอก็ต้องออกมาดีที่สุดเช่นกัน“ได้เลยค่ะพี่เดียร์ พวกเราจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”“ขอบใจจ้ะ”หลังจากที่น้อง ๆ และเพื่อนรับปากว่าจะทำงานต่อจากเธอตามคำสั่งของบอสเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กที่งานล้นมือจนแทบจะทำไม่ทัน กลับมาทำงานของตัวเองที่ต้องปรับแก้อีกมากมายหลายเพราะเธอเองก็อยากจะจัดการงานชิ้นนี้ให้เรียบร้อยก่อนกำหนดเช่นเดียวกัน“พี่เดียร์งานของคุณเตชินท์พี่จะส่งให้เขาดูเมื่อไหร่เหรอ” ผู้ช่วยอีกคนของเธอถามอย่างสงสัย เพราะน้อยครั้งที่เห็นรุ่นพี่ของตนทำหน้าเคร่งเครียดกับงานแบบศีรษะเล็กเอียงลงเล็กน้อยพร้อมท้าวกับมือแบบชิดแก้มนุ่ม มืออีกข้างเคาะเข้ากับโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด เมื่อน้องร่วมงานพูดถึงงานที่เธอเพิ่งจะส่งเมล์ไปเมื่อสองวันก่อน แต่ผลตอบรับทำเอาเธอถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่“ส่งไปแล้ว”“เป็นไงบ้างคะ ผ่านไหม” คนถามลุ้นกับคำตอบที่จะได้ ๆ ไม่น้อย“ทางนั้น

    Last Updated : 2025-02-13
  • เปลืองใจ   บทที่ 3

    เตชินท์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ้วมือของเขาเคาะเข้ากับโต๊ะเบา ๆ ราวกับกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคมที่คิดว่าเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างแต่กลับจับจ้องไปยังรูปภาพที่อยู่บนหน้าจอ แล็ปท๊อปขนาดใหญ่ที่มีชายหนุ่มกับสาวสวยอีกหนึ่งคนกำลังยืนหวานชื่นท่ามกลางความงดงามของฝรั่งเศษ ก่อนจะลบมันออกจากเครื่องราวกับว่าไม่ต้องการที่จะเห็นมันอีกครั้ง ไม่ว่าภาพหวานชื่นเหล่านั้นจะมีสักเท่าไหร่ชายหนุ่มก็จัดการลบมันออกให้หมดลบมันออกจากหัวใจเพราะเขาเกลียดผู้หญิงทรยศคนนี้เหลือเกินระหว่างที่เขากำลังลบรูปภาพ อยู่ก็เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าสวยหวานออกไปทางคมเล็กน้อยตามแบบฉบับราวกับสาวลูกครึ่ง รอยยิ้มที่ชวนหลงไหลไปกับสดใสตามวัยของเธอเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะมาหลายปีก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ยังเหมือนเคยแต่อาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาภัคธีมาต้องไม่ได้เจอกันมาหลายปี ครั้งนี้เขาตั้งใจกลับมาพบเธออีกครั้ง สายตาคมเข้มมองงานที่ภัคธีมาส่งมาให้เขาตรวจเช็คอีกครั้งก่อนจะพาเธอเข้าไปดูสถานที่จริงเป็นครั้งที่สอง“คุณเตครับ คุณเดียร์ส่งแบบมาให้คุณเตมาส

    Last Updated : 2025-02-16

Latest chapter

  • เปลืองใจ   บทที่ 7

    “กรทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”น้ำเสียงหวานละมุนของใครบางคนดังมาแต่ไกล เจ้าหล่อนเห็นคนรักของตัวเองเดินมาหยุดที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานสองนาน ไม่ยอมเดินเข้าไปสักทีตนจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปถามไกล ๆ แต่เสียงสนทนาของคนที่อยู่ด้านในนั้นช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน‘ทำไมเสียงมันคุ้น ๆ อะไรแบบนี้ง’“เปล่าหรอกไม่มีอะไร” ธนินหันไปตอบแฟนสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ให้ผิดสังเกตว่าตนกำลังคิดเรื่องราวบางอย่างจึงรีบบอกปัดออกไป“งั้นเข้าไปหาคุณย่าดีกว่า เหมือนชมได้ยินเสียงของน้องเดียร์น่าจะอยู่ข้างในกับคุณย่าเหมือนกัน” ชลิตาแฟนสาวของธนินพูดขึ้นพร้อมทั้งเดินนำหน้าเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งยกมือทักทายย่าอ่อนศรี“สวัสดีค่ะย่า น้องเดียร์”เสียงทักทายของผู้มาใหม่ทำเอาบทสนทนาที่กำลังสนุกคึกครื้นเมื่อครู่นี้เงียบลง ทั้งสามคนพร้อมใจกันหันไปมองตามเสียง แต่ดูเหมือนว่าการมาครั้งนี้จะมีหนึ่งคนที่นิ่งอึ้งไม่พูดอะไร“พี่กร พี่ชม กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะทำไมไม่โทรบอกจะได้ไปรับ”“พี่อยากจะเซอร์ไพร์ทน้องเดียร์ด้วย”คนตัวเล็กฟังแล้วพยักหน้ารับยิ้ม ๆ“สวัส

  • เปลืองใจ   บทที่ 6

    ชีวิตการทำงานที่แสนราบเรียบของภัคธีมาดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ทุกคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเตชินท์ลูกค้ารายใหญ่ของทางบริษัท เหมือนมีบางอย่างที่ผิดปกเกี่ยวกับอารมณ์ของมัณฑนากรสาวที่ช่วงหลัง ๆ อารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก“ทุกคนเดียร์ซื้อชานมไข่มุกหวานน้อยมาฝากค่ะทุกคน”คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาภายออฟฟิศหลังจากที่เธอออกไปคุยงานกับลูกค้าอีกคนหนึ่งมาและระหว่างทางที่ขับรถกลับออฟฟิศนั้นเกิดอยากจะกินชานมไข่มุกของร้านที่อยู่ข้างล่างเข้าพอดีในจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังจะสั่งคนที่เพิ่งแยกออกมาจะเธอเมื่อช่วงเช้สตรู่เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งจ่ายค่าเครื่องดื่มอีกทั้งยังสั่งเผื่อพนักงานคนอื่น ๆ อีกหลายสิบแก้วให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆก่อนที่เตชินท์จะเดินจากไปเธอถามเขาว่ามมาจ่ายค่าเครื่องดื่มพวกนี้ให้เธอทำไมกันเขาบอกเธอแค่ว่า ‘จ่ายเงินให้เมียมันผิดตรงไหน’ คำพูดของเขาทำเอาเธอนิ่งเงียบไม่สามารถตอบโต้อะไรเขาได้เลย เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมามันคือเรื่องจริง“วันนี้ฝนจะตกไหมเนี่ย““นั่นสิ พักหลัง ๆ

  • เปลืองใจ   บทที่ 5

    “ทำไมไม่มาดูตอนกลางวัน”เตชินท์เดินเคียงข้างกับภัคธีมาเข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ เพื่อที่จะดูหนังรอบดึกกันสองต่อสอง เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาดูหนังกันเวลานี้“ก็ตอนกลางวันพี่เตกับเดียร์ก็ทำงานกันนี่คะ แล้วจะเอาเวลาไหนมาดู” คนตัวเล็กที่ถือถังป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำยืนอยู่ตรงหน้า“กลางวันพี่ว่าง”“ก็พี่เป็นเจ้านายเขาจะทำงานก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่เดียร์เป็นลูกจ้างเขานะจะลาหยุดบ่อยก็ไม่ดี”“ลาหยุดไม่ดี งั้นลาออกจากงานมาพี่เลี้ยงเอง”“พูดเป็นเล่นน่าพี่เต” ประโยคเมื่อครู่นี้ทำเอาคนตัวเล็กตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเธอ ส่วนมากก็แค่หยอกเท่านั้น แต่ที่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันดูต่างออกไปเหลือเกิน“พี่พูดจริง”เตชินท์บอกพลางส่งสายตาหวานซึ้งให้หญิงสาวโยที่เจ้าตัวนั้นไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย ผิดกับภัคธีมาที่คอยมองซ้ายแลขวาราวกับกลัวว่าจะมีคนรู้จักมาเห็นเสียอย่างนั้น เธอจึงตัดสินใจจชวนชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาสีแดงที่อยู่ไม่ห่างมากนัก เพราะหากยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเป็นการขวางทางเดินผ่านไปผ่านมา เวลาของภาพยนต์ที่กำล

  • เปลืองใจ   บทที่ 4

    “มาส่งดอกไม้ให้กับคุณภัคธีมาครับ”พนักงานส่งของบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางกวาดสายตามองหาเจ้าของชื่อว่าจะมีใครออกมารับหรือไม่จากการที่ดูแล้วทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างพากันก้มหน้าก้มตายุ่งงานของตัวเอง“วันนี้ดอกไม้ก็มาอีกหนึ่งช่อใหญ่ ๆ เหมือนเคย” เพื่อนร่วมงานของภัคธีมากลายเป็นคนรับดอกไม้จำเป็นเสียแล้ว เท่าที่นับได้อาทิตย์นี้เป็นช่อที่สามเห็นจะได้แล้ว“พี่เดียร์ได้รับดอกไม้อีกแล้ว”“วันนี้มีข้อความว่ายังไงบ้าง”เพรื่อนร่วมงานถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะเรื่องราวเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังตามจีบมัณฑนากรสาวคนแก่งของที่นี่กระจายไปทั่งบริษัท“ตอบไลน์พี่หน่อย จะดองไว้นานแค่ไหนคนดี”หลังจากเสียงอ่านข้อความในกระดาษการ์ดที่แนบมาด้วยจบทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นพากันหวีดไม่น้อยกับประโยคที่ว่ามา“นี่ขิง เอาไปให้พี่เดียร์ที” คนที่เพิ่งจะรับของมาเมื่อครู่สอดกระดาษการ์ดใบเล็กเอาไว้ที่เดิมก่อนจะส่งให้ผู้ช่วยของหญองสาวก่อนจะเดินตรงเอาช่อดอกไม้แสนสวยไปให้กับภัคธีมาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง ในระหว่างทางที่กำลังจะเอาของไปให้นั้นก็เดินสวนกันกับเ

  • เปลืองใจ   บทที่ 3

    เตชินท์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ้วมือของเขาเคาะเข้ากับโต๊ะเบา ๆ ราวกับกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคมที่คิดว่าเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างแต่กลับจับจ้องไปยังรูปภาพที่อยู่บนหน้าจอ แล็ปท๊อปขนาดใหญ่ที่มีชายหนุ่มกับสาวสวยอีกหนึ่งคนกำลังยืนหวานชื่นท่ามกลางความงดงามของฝรั่งเศษ ก่อนจะลบมันออกจากเครื่องราวกับว่าไม่ต้องการที่จะเห็นมันอีกครั้ง ไม่ว่าภาพหวานชื่นเหล่านั้นจะมีสักเท่าไหร่ชายหนุ่มก็จัดการลบมันออกให้หมดลบมันออกจากหัวใจเพราะเขาเกลียดผู้หญิงทรยศคนนี้เหลือเกินระหว่างที่เขากำลังลบรูปภาพ อยู่ก็เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าสวยหวานออกไปทางคมเล็กน้อยตามแบบฉบับราวกับสาวลูกครึ่ง รอยยิ้มที่ชวนหลงไหลไปกับสดใสตามวัยของเธอเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะมาหลายปีก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ยังเหมือนเคยแต่อาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาภัคธีมาต้องไม่ได้เจอกันมาหลายปี ครั้งนี้เขาตั้งใจกลับมาพบเธออีกครั้ง สายตาคมเข้มมองงานที่ภัคธีมาส่งมาให้เขาตรวจเช็คอีกครั้งก่อนจะพาเธอเข้าไปดูสถานที่จริงเป็นครั้งที่สอง“คุณเตครับ คุณเดียร์ส่งแบบมาให้คุณเตมาส

  • เปลืองใจ   บทที่ 2

    “พี่ฝากงานพวกนี้ด้วยนะ ถ้าสงสัยอะไรไม่เข้าใจยังไงถามพี่ได้ตลอด”ภัคธีมามอบงานให้น้อง ๆ ในทีมที่ทำงานร่วมกับเธอ พร้อมทั้งอธิบายในเนื้องานต่าง ๆ มันเป็นแบบไหนต้องทำอย่างไรกับงานชิ้นนั้น ๆ เธอเชื่อว่าตะวันวาดและคนในทีมจะช่วยกันทำให้ดีที่สุด ส่วนของเธอก็ต้องออกมาดีที่สุดเช่นกัน“ได้เลยค่ะพี่เดียร์ พวกเราจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”“ขอบใจจ้ะ”หลังจากที่น้อง ๆ และเพื่อนรับปากว่าจะทำงานต่อจากเธอตามคำสั่งของบอสเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กที่งานล้นมือจนแทบจะทำไม่ทัน กลับมาทำงานของตัวเองที่ต้องปรับแก้อีกมากมายหลายเพราะเธอเองก็อยากจะจัดการงานชิ้นนี้ให้เรียบร้อยก่อนกำหนดเช่นเดียวกัน“พี่เดียร์งานของคุณเตชินท์พี่จะส่งให้เขาดูเมื่อไหร่เหรอ” ผู้ช่วยอีกคนของเธอถามอย่างสงสัย เพราะน้อยครั้งที่เห็นรุ่นพี่ของตนทำหน้าเคร่งเครียดกับงานแบบศีรษะเล็กเอียงลงเล็กน้อยพร้อมท้าวกับมือแบบชิดแก้มนุ่ม มืออีกข้างเคาะเข้ากับโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด เมื่อน้องร่วมงานพูดถึงงานที่เธอเพิ่งจะส่งเมล์ไปเมื่อสองวันก่อน แต่ผลตอบรับทำเอาเธอถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่“ส่งไปแล้ว”“เป็นไงบ้างคะ ผ่านไหม” คนถามลุ้นกับคำตอบที่จะได้ ๆ ไม่น้อย“ทางนั้น

  • เปลืองใจ   บทที่ 1

    ท่ามกลางเมืองที่แสนวุ่นวายของผู้คนทำงานเช่นเดียวกันกับตะวันวาดที่กำลังว้าวุ่นใจที่มองซ้ายแลขวาไม่พบเพื่อนร่วมงานคนเก่งของตนมาถึงออฟฟิศเสียที เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญเสียด้วย อีกอย่างหญิงสาวเป็นคนที่ตรงเวลาเอามาก ๆ ไม่เคยมาสายแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่อะไรกันสายไปหลายนาทีแล้ว ยังติดต่อภัคธีมาไม่ได้แม้แต่สายเดียว“ฮัลโหลยัยเดียร์แกอยู่ที่ไหนเนี่ย”น้ำเสียงของตะวันวาดกระวนกระวายไม่น้อย เพราะเพื่อนของเธอยังมาไม่ถึงเสียที อีกอย่างสาวเจ้าปลายสายต้องมาพรีเซ็นต์โพรเจกต์งานออกแบบให้กับลูกค้าที่เจาะจงมายังทีมของตนโดยเฉพาะ ถ้าเป็นทีมอื่นจะไม่ทำกับทางบริษัทนี้งานนี้เป็นงานใหญ่ที่ไม่อยากให้เสียหายทางตะวันวาดเลยกระวนกระวายใจไม่น้อยที่กลัวเพื่อนจะมาไม่ทัน“จะถึงแล้ว รอฉันอีกสิบนาทีนะตะวัน”ภัคธีมารับสายแล้วรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดวางสายและยัดโทรศัพท์มือถือกลับเข้าทีเดิม สองขาเรียวสวยรีบสาวเท้าเข้าอาคารตรงไปยังลิฟต์เพื่อไปยังที่หมายให้เร็วที่สุด เพราะเธอไม่อยากให้ลูกค้าต้องรอนาน แต่วันนั้นถค่อนข้างติดเพราะเกิดอุบัติเหตุใหญ่บนท้องถนน ทำให้เธอต้องเรียกวินมอเตอร์ไซค?มารับที่คอนโดมิเนียมที่หญิงสาวพัก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status