“วันนี้ใครมาคุณเตมารับหรือเปล่าน่ะเดียร์” เสียงของเพื่อนร่วมงานถามอย่างเป็นปกติโดยที่ไม่มีอะไรพิเศษ มันเป็นประโยคที่แสนจะเรียบง่ายก็ตาม แต่มันก็ชินเสียแล้วสำหรับภัคธีมา
“วันนี้กลับเองพอดีพี่เตมีประชุมน่ะ” เธอตอบกลับยิ้ม ๆ
“งั้นดีเลย คุณเตไม่มางั้นเราไปหาอะไรกินกันมั้ย”
ภัคธีมานิ่งราวกับคิดอยู่ครู่ว่ามีงานค้างหรืออะไรที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จหรือเปล่า แต่เมื่อทุกิย่างไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไรเธอจึงพยักหน้าตอบตกลง เพราะเธอเองหลังจากที่หมั้นกับเตชินท์ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเลย วันหยุดก็อยู่แต่กับชายหนุ่มตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
เรียกว่าตัวติดกันจนแทบจะเป็นปาท่องโก๋ก็ว่าได้
“แน่นะว่าไปได้ ไม่ใช่ไปถึงร้านแล้วคุณเตชินท์สุดหล่อของเธอโทรฯหาอีกล่ะ” ตะวันวาดแซวเพื่อนยิ้ม ๆ เพราะมองเพื่อนแววตานั้นเต็มไปด้วยความรักเมื่อพูดถึงคู่หมั้นหนุ่ม
เพราะตะวันวาดเองเพิ่งรู้มาจากเพื่อนว่าเตชินท์เป็นรักแรกของเธอตั้งแต่สมัยเด็กแต่ด้วยความต่างอะไรหลาย ๆ อย่างเลยไม่อาจบอกไป และจำได้ช่วงตอนมัธยมเหมือยอีกฝ่ายจะมีคนรักที่กำลังคบกันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าใคร ทำได้เพียงแค่แอบมองอยู่ห่าง ๆ ในยามที่เพื่อนของพี่ชายคนนี้มาที่บ้านมาทำรายงานหรือไม่ก็มาติวหนังสือกลับกลุ่มเพื่อนของตัวเอง
ตัวเธอเองมีความสุขที่เห็นเพื่อนเป็นฝั่งเป็นฝาถึงแม้วว่าจะยังไม่ได้แต่งงานก็ตาม ทว่าเพียงแค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นการใช้ชีวิตครอบครัวก้าวหนึ่ง
“ไม่โทรฯหรอก แต่เดี่ยวขอส่งข้อความบอกก่อนแล้วกัน”
สิ้นเสียงของภัคธีมาก็มีเสียงร้องแซวมาเป็นสาย ๆ ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับยิ้มเขิน ธีรัตม์ยืนมองรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของน้อง ๆ ที่ทำงานมันคือความสดใสและเป็นกันเองมันทำให้คนพบเห็นพลอยสุขใจไปด้วย
“เจ้านาย มายืนทำอะไรตรงนี้ครับ” เลขาคนสนิทของธีรัตม์ที่เห็นเจ้านายของตัวเองยืนมองไปทางกลุ่มสาว ๆ อยู่นานสองนานไม่ยอมเดินไปไหนเสียที ตนจึงเดินเข้ามาถามเผื่อเจ้านายมีอะไรให้ช่วย
“ไม่มีอะไรหรอก มีงานก็ทำเถอะ” เขาตอบเสียงเรียบทำเอาอีกฝ่ายพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายเพราะเจ้าตัวรู้อยู่แล้วว่าคนตรงหน้าไม่ชอบคนรำรี้รำไรในจังหวะที่กำลังจะเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเองก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงเรียกของธีรัตม์เมื่อครู่
“เดี๋ยวก่อนทิว”
“ครับ ไปบอกสาว ๆ ว่าวันนี้ฉันจะเลี้ยงมื้อเย็นพนักงาน เลือกร้านมาได้เลยว่าจะกินร้านไหน”
“ได้ครับ”
หลังจากที่ได้รับคำสั่งจากธีรัตม์จึงรีบเดินไปหาพนักงานสาวที่จับกลุ่มคุยหันอยู่เมื่อครู่ ก่อนที่จะปรบมือเพื่อให้สัญญาณกับทุกคนให้มาฟังในสิ่งที่เขาพูด
“ทุกคนครับเย็นนี้หลังเลิกงานแล้วใครไม่มีธุระหรือว่างคุณธีจะเลี้ยงมื้อเย็นทุกคนครับ”
“จริงอะ”
ทุกเสียงประสานกันอย่างไม่ได้ตั้งใจไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงต่างพร้อมทั้งหันหน้าเจ้านายที่ยืนกอดอดพิงอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของตนเองที่อยู่ไม่ไกลนัก ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ว่ามาเสียอย่างนั้น เมื่อลูกน้องในองกรณ์มองมาประหนึ่งถามเพื่อความแน่ใจว่าตัวเขาจะเลี้ยงอาหารมื้อนี้จริงไหม
“จริง วันนี้พี่เลี้ยงเองเลือกร้านมาได้เลย ส่วนงานเลี้ยงบริษัทสิ้นปีจะจัดยังไงที่ไหนค่อยว่ากัน”
จบประโยคของเจ้านายหนุ่มที่แสนใจดีในสายตาของพนักงานทุกคนต่างพากับเฮลั่นยกใหญ่ ไม่ใช่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเลี้ยงเป็นครั้งแรก แต่ส่วนใหญ่จะบอกล่วงหน้าไม่ใช่กะทันหันเหมือนวันนี้ ทำเอาพนักงานต่างพากันงงและดีใจในเวลาเดียวกัน
“พี่เต ตื่นได้แล้วค่ะ”
คนตัวเล็กขยับกายลุกขึ้นมาปลุกคนตัวสูงที่นองเอาแขนกอดกายเอวคอดกิ่วของเธออยู่ตลอดคืน แทบไม่ห่างจากกายไปไหนถึงแม้วว่าขยับกายไปทางไหนก็จะมีตัวเขาตามติดไปตลอด
“ยังเช้าอยู่เลย จะรีบลุกไปไหนเหรอที่รัก” น้ำเสียงของคนสวมกอดติดงัวเงียอยู่ไม่น้อย ราวกับว่าไม่อยากจะลุกออกห่างจากกายหอมนวลเนียนนี้เลย
“เช้าอยู่ก็ต้องลุกค่ะ เดียร์จะลุกไปเตรียมมื้อเช้าให้พี่เตด้วยไงคะ”
“แต่พี่ยังอยากกอดเมียพี่อยู่เลยไม่อยากห่างไปไหนเลย”
เสียงนุ่มทุ้มออดอ้อนราวกับตอนที่อ้อนขอรักจากเธอทุกค่ำคืนเวลาที่ชายหนุ่มมาค้างที่คอนโดมิเนียมของเธอ ทำเอาคนตัวเล็กในอ้อมกอดถึงขึ้นค้อนควับมามองคนตัวโตตาเขียวปัดราวกับว่าถ้าไม่ปล่อยให้เธอลุกไปอาบน้ำเตรียมตัวล่ะก็มีปัญหากันแน่ ๆ ครั้นเมื่อเห็นสายตาของเมียแล้วจึงรีบปล่อยให้ได้เป็นอิสระอย่างโดยเร็ว
“พี่เตก็ลุกได้แล้วค่ะ วันนี้พี่บอกว่ามีงานด่วนไม่ใช่เหรอคะ”
“ครับ เดียร์ก็รีบอาบน้ำเถอะ”
คนตัวเล็กส่งยิ้มให้ชายหนุ่มก่อนที่จะคว้าเสื้อคลุมสีชมพูอ่อนแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เพื่อที่จะจัดการธุระส่วนตัวของตัวเองให้เสร็จแล้วจะได้ให้ชายหนุ่มที่นอนยิ้มกริ่มอยู่บนเตียงมาอาบน้ำต่อ จากที่เธอจำได้เมื่อคุยกับเขาว่ามีคุยงานสำคัญที่บริษัทด้วย ส่วนของเธอก็มีงานที่ต้องจัดการต่อทั้งรีสอร์ของเตชินท์และลูกค้าคนอื่น ๆ อีกมากมายหลายงานที่ต้องส่งเจ้านายให้ทัน
ภัคธีมาใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็ออกจากห้องนอนของตัวเองในชุดใหม่ เป็นชุดลำลองที่แสนเรียบง่านแต่ยังคงความน่ารักเข้ากับสมัย เพราะวันนี้เธอไม่ได้ออกไปไหนจะอยู่ที่คอนโดฯ คนตัวเล็กจัดการหาผ้ากันเปื้อนสีฟ้าขี้นมาสวมให้ตัวเอง และจัดการเปิดตู้เย็นเพื่อที่จะดูวัตถุดิบว่ามีอะไรบ้างที่พอจะเตรียมมื้อเช้าสำหรับสองคน
“เช้านี้ทำอะไรกินดีน่า เอาเมนูง่าย ๆ แล้วกัน”
คำถามที่ถามเองตอบเองมันเป็นปกติของภัคธีมาไปแล้วในยามที่เธอทำอาการหรือทำขนมไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านย่าอ่อนศรีหรือที่ห้องของตัวเองก็ตาม อาการของเธออยู่ในสายตาของเตชินท์มาครู่หนึ่งแล้วภาพนี้เขามักจะเห็นจนชินตาไปเสียแล้ว แต่มันกลับทำให้เขามองเธออย่างน่ารักน่าเอ็นดูในการกระทำของเธอทั้งหมด
ทั้งทำทั้งบ่น แต่สุดท้ายก็มีกลิ่นหอม ๆ ของอาการเช้าลอยมาแตะจมูกจนทำให้เขาต้องเดินเข้าไปหา พร้อมทั้งสวมกอกเธอทำเอาร่างเล็กบอบบางในสายตาเขาถึงกับสะดุ้งโหยงทำเอาสติที่คิดอยู่ในภวังค์ของตนเอง หันเข้ามามองเขาแต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามอะไรก็ถูกชายหนุ่มฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่ม ๆ เสียฟอดใหญ่
“วันนี้ทำอะไรให้พี่ทานครับน้องเดียร์”
“วันนี้เมนูง่าย ๆ ค่ะ เพราะเดียร์กลัวพี่เตเข้าบริษัทสาย”
เธอบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่เต็มไปด้วยรักพร้อมทั้งรอยยิ้มหวานชื่นส่งให้ชายหนุ่ม พลางตักไข่ดาวทรงเครื่องลงจาน พร้อมอีกเมนูที่อยู่ข้าง ๆ กันเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เตชินท์มักจะบอกว่าอร่อยอีกทั้งขอให้ทำให้ทานทุกครั้งเมื่อมีโอกาส
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเมนูที่แสนง่ายก็ตาม
“วันนี้ทำหมูนุ่มผัดพริกขิงให้พี่ไหมครับ”
“ทำสิคะ เมนูโปรดของพี่เตนี่ เดี๋ยวพี่เตนั่งรอที่โต๊ะนะคะ”
“มาพี่ช่วยเอง”
ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าพร้อมทั้งแย่งจานอาหารที่อยู่ในมือของคนตัวเล็กมาถือเอง ก่อนที่จพะเดินตรงไปยังโต๊ะอาหารไม่วายที่จะจัดเตรียมอย่างอื่นช่วยภัคธีมาด้วย แต่ในระหว่างที่เธอนั้นกำลังจัตักข้าวสวยร้อน ๆ ใส่จานก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนแอพพลิแคชั้นไลน์ดังขึ้นสองสามครั้ง คนตัวเล็กหันไปมองเพียงเสี้ยวหนึ่งเพราะคิดว่าจะเป็นนิธิส่งข้อความมารายงานเรื่องงานที่บริษัท แต่เปล่าเลยในคราแรกที่คิดว่าจะเห็นใบหน้าเคร่งขรึมกับงานที่ทำในแต่ละวัน แต่มันกลับเป็นรอยยิ้มที่อารมณ์ดีขึ้นมาแปลก ๆ ในความรู้สึกของเธอที่มองเขา
บางทีเธออาจจะคิดมากไปเองก็ได้
“เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อนนะ น่าจะกลับค่ำหน่อย”
เขาบอกเมียตัวเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มพร้อมกับร้อยยิ่มที่ส่งให้เอ ซื่งแน่นอนว่าภัคธีมาย่อมยิ้มตอบเช่นเดิม อีกทั้งเธอยังคงอวยพรให้เขาทำงานในวันนี้อย่างราบรื่น มื้ออาหารที่อบอุ่นสำหรับคนที่เริ่มต้นชีวิตคู่ได้ไม่นาน
มักมีความสุขและอิ่มอกอิ่มใจเสมอ แต่เธอเองก็ยังไม่มั่นใจว่าความสุขเช่นนี้จะอยู่กับเธออีกนานแค่ไหน แต่เธอจะรักษามันเอาไว้ให้นานที่สุด
ช่วงเวลาหลังเลิกงานของใครหลาย ๆ คน แต่มันไม่ใช่กับเธอ เพราะในวันนี้หญิงสาวตั้งใจที่จะมาซื้อหาวัตถุดิบในการทำขนมเพิ่ม เหมือนจะมีบางอย่างที่มันไม่พอทำแจกน้อง ๆ ในออฟฟิศเธอรวมทั้งพนักงานคนอื่น ๆ ด้วย สายตาหวานกวาดมองของที่อยู่บนเชลล์สลับกับรายการของที่ต้องการบนหน้าจอโทรศัพท์ของเธอ
อีกมือหนึ่งก็จับเข้ากับรถเข็นที่มีของอยู่แล้วส่วนหนึ่ง สองขาเรียวสวยก้าวเดินไปข้างหน้าแล้วหยุดที่ชั้นวางขนมที่อยู่เหนือศีรษะของเธอ แต่ด้วยความที่มันอยู่สูงเกินไป มันทำให้ต้องยืดตัวเพื่อที่จะไปหยิบของสิ่งนั้นแต่ก็ไม่ถึง เหมือนว่าจะมีมืออีกข้างของใครก็บางคนมาช่วยเอหยิบของสิ่งนั้น
ทันทีที่ปาลอตาหันมามองว่าคนที่ช่วยเธอนั้นเป็นใครพร้อมทั้งขอบคุณ
“ขอบคุณ…เอ้าพี่กร”
ยังไม่ทันสิ้นพระโยคก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมาเพราคนที่มาช่วยเธอนั้นไม่ใช้ใครที่ไหนนอกเสียจากพี่ชายของเธอ
“ใช่พี่เอง”
“ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่”
คนเป็นน้องถามอย่างสงสัยไม่คิดว่าจะมาเจอพี่ชายของตนที่นี่ พลันสายตาหวานเจ้ากรรมมองราวกับต้องการคำตอบ แต่ทว่าหากมองออกไปกลับเห็นชายหญิงที่รูปร่างท่าทางคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเสียอย่างงั้น
‘สองคนนั้นเป็นใครกันนะ’ ถึงแม้ว่าเธอจะสงสัยและติดใจว่าสองคนนั้นเป็นใคร แต่ก็ละความสนใจนั้นออกไป ก่อนจะหันกลับมามองพี่ชายตัวเองไม่วายยิ้มให้
“มองอะไรอยู่”
“เปล่าค่ะ” ภัคธีมารีบบอกปัดทันทีเพราะไม่อยากให้ธนินมาสนใจคนที่เธอมองไปเมื่อครู่
“แล้วนี่ซื้อของไปทำอะไรเยอะแยะ ของพวกนี้อยู่ที่บ้านยังเยอะอยู่เลย” พี่ชายกวาดสายตามองของที่อยู่ในรถเข็นมันเหมือนกับซองที่อยู่บ้านของคุณย่าไม่มีผิด แต่จะไม่เหมือนกันก็ตรงปริมาณนี่แหละ
“อ๋อ พอดีเดียร์จะทำขนมแจกคนที่ออฟฟิศน่ะ เลยต้องทำเยอะหน่อย”
“ทำเยอะขนาดนั้นเลยเหรอถึงได้ซื้อมากมายอะไรขนาดนี้” พี่ชายถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมน้องสาวของตัวเองถึงได้ลงทุนซื้อของอะไรมากมาย ทั้ง ๆ หลาย ๆคนที่นั่นก็ไม่ได้ชอบภัคธีมาอยู่บางกลุ่ม เพราะมีวันหนึ่งที่เขาเองไปหานิ้งที่ทำงานและบังเอิญได้ยินคนบางกลุ่มนินทาน้องสาวของตนไปในทางเสียหาย ทำให้พี่ชายอย่างเขาโกรธจนเลือดจะขึ้นหน้า
“คนที่ออฟฟิศเยอะมากเลยค่ะ ไหนจะทีมอื่นฝ่ายอื่น ๆอีก”
“ตามใจน้อง ว่าแต่เงินเราพอเหรอ เดี๋ยวพี่จ่ายให้แล้วกัน”
ธนินรีบออกตัวช่วยน้องสาวในการออกค่าใช้จ่ายของการทำขนมครั้งนี้ที่น่าจะต้องจ่ายมากพอสมควร
“เดี๋ยวพี่จ่ายให้เอง”
แต่ทว่าภัคธีมายังไม่ทันที่จะได้เอ่ยคัดค้านอยู่ ๆ ก็มีเสียงของเตชินท์ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง จึงทำให้สองพี่น้องหันไปมองพร้อมกัน
ก็พบกับแต่ชินท์คนรักของภัคธีมาเดินมาพร้อมกับชลิดาคนรักของพี่ชาย ในบางครั้งมุมมองที่เห็นมันก็ทำให้คนตัวเล้กที่ถือซองช๊อกโกแลตชิฟในมือหันไปมองอย่างสงสัยว่าสองคนนี้มาด้วยกันได้อย่างไร หรือว่าคนที่กอดกับเมื่อครู่ที่เห็นนั้นจะเป็นชลิตา
“พี่เตมาได้ยังไงคะ”
“พอดีพี่มีธุระแถวนี้ บังเอิญเห็นรถองเดียร์ขับเข้ามาเลยเดินตามมาน่ะ” ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้มพลางเดินเข้าไปหาแฟนสาว
ส่วนธนินมองแฟนสาวของตนก่อนเอ่ยถามเช่นกัน “เข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้วเหรอ”
“ใช่ค่ะกร พอออกจากห้องน้ำก็เห็นเตกำลังเดินเข้ามาหาน้องเดียร์เลยเดินตามมา” เจ้าหล่อนตอบทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีใครถามมันยิ่งทำให้คนตัวเล็กเพิ่มความสงสัยมากขึ้น
ถึงแม้ว่าจะคลางแคลงใจแต่ก็ไม่ยอมถามออกไปได้แต่เก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจตัวเองเท่านั้น คนตัวเล็กเดินเลือกซื้อของอยู่อีกสักพักหนึ่งกับคนรักของตัวเองก่อนจะแบกย้ายกันกลับ เพราะคืนนี้เธอจะไปนอนที่บ้านขงคุณย่าไม่ใช่คอนโดของตัวเอง ทางด้านธนินและชลิตาขอแยกตัวออกไปหลังจากที่คุยกันเรียบร้อยดูเหมือนว่าจะมีของต้องซื้อหรือไม่ก็หาอาหารเย็นรับประทานกันสองต่อสอง
ท่ามกลางเมืองที่แสนวุ่นวายของผู้คนทำงานเช่นเดียวกันกับตะวันวาดที่กำลังว้าวุ่นใจที่มองซ้ายแลขวาไม่พบเพื่อนร่วมงานคนเก่งของตนมาถึงออฟฟิศเสียที เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญเสียด้วย อีกอย่างหญิงสาวเป็นคนที่ตรงเวลาเอามาก ๆ ไม่เคยมาสายแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่อะไรกันสายไปหลายนาทีแล้ว ยังติดต่อภัคธีมาไม่ได้แม้แต่สายเดียว“ฮัลโหลยัยเดียร์แกอยู่ที่ไหนเนี่ย”น้ำเสียงของตะวันวาดกระวนกระวายไม่น้อย เพราะเพื่อนของเธอยังมาไม่ถึงเสียที อีกอย่างสาวเจ้าปลายสายต้องมาพรีเซ็นต์โพรเจกต์งานออกแบบให้กับลูกค้าที่เจาะจงมายังทีมของตนโดยเฉพาะ ถ้าเป็นทีมอื่นจะไม่ทำกับทางบริษัทนี้งานนี้เป็นงานใหญ่ที่ไม่อยากให้เสียหายทางตะวันวาดเลยกระวนกระวายใจไม่น้อยที่กลัวเพื่อนจะมาไม่ทัน“จะถึงแล้ว รอฉันอีกสิบนาทีนะตะวัน”ภัคธีมารับสายแล้วรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดวางสายและยัดโทรศัพท์มือถือกลับเข้าทีเดิม สองขาเรียวสวยรีบสาวเท้าเข้าอาคารตรงไปยังลิฟต์เพื่อไปยังที่หมายให้เร็วที่สุด เพราะเธอไม่อยากให้ลูกค้าต้องรอนาน แต่วันนั้นถค่อนข้างติดเพราะเกิดอุบัติเหตุใหญ่บนท้องถนน ทำให้เธอต้องเรียกวินมอเตอร์ไซค?มารับที่คอนโดมิเนียมที่หญิงสาวพัก
“พี่ฝากงานพวกนี้ด้วยนะ ถ้าสงสัยอะไรไม่เข้าใจยังไงถามพี่ได้ตลอด”ภัคธีมามอบงานให้น้อง ๆ ในทีมที่ทำงานร่วมกับเธอ พร้อมทั้งอธิบายในเนื้องานต่าง ๆ มันเป็นแบบไหนต้องทำอย่างไรกับงานชิ้นนั้น ๆ เธอเชื่อว่าตะวันวาดและคนในทีมจะช่วยกันทำให้ดีที่สุด ส่วนของเธอก็ต้องออกมาดีที่สุดเช่นกัน“ได้เลยค่ะพี่เดียร์ พวกเราจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”“ขอบใจจ้ะ”หลังจากที่น้อง ๆ และเพื่อนรับปากว่าจะทำงานต่อจากเธอตามคำสั่งของบอสเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กที่งานล้นมือจนแทบจะทำไม่ทัน กลับมาทำงานของตัวเองที่ต้องปรับแก้อีกมากมายหลายเพราะเธอเองก็อยากจะจัดการงานชิ้นนี้ให้เรียบร้อยก่อนกำหนดเช่นเดียวกัน“พี่เดียร์งานของคุณเตชินท์พี่จะส่งให้เขาดูเมื่อไหร่เหรอ” ผู้ช่วยอีกคนของเธอถามอย่างสงสัย เพราะน้อยครั้งที่เห็นรุ่นพี่ของตนทำหน้าเคร่งเครียดกับงานแบบศีรษะเล็กเอียงลงเล็กน้อยพร้อมท้าวกับมือแบบชิดแก้มนุ่ม มืออีกข้างเคาะเข้ากับโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด เมื่อน้องร่วมงานพูดถึงงานที่เธอเพิ่งจะส่งเมล์ไปเมื่อสองวันก่อน แต่ผลตอบรับทำเอาเธอถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่“ส่งไปแล้ว”“เป็นไงบ้างคะ ผ่านไหม” คนถามลุ้นกับคำตอบที่จะได้ ๆ ไม่น้อย“ทางนั้น
เตชินท์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ้วมือของเขาเคาะเข้ากับโต๊ะเบา ๆ ราวกับกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคมที่คิดว่าเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างแต่กลับจับจ้องไปยังรูปภาพที่อยู่บนหน้าจอ แล็ปท๊อปขนาดใหญ่ที่มีชายหนุ่มกับสาวสวยอีกหนึ่งคนกำลังยืนหวานชื่นท่ามกลางความงดงามของฝรั่งเศษ ก่อนจะลบมันออกจากเครื่องราวกับว่าไม่ต้องการที่จะเห็นมันอีกครั้ง ไม่ว่าภาพหวานชื่นเหล่านั้นจะมีสักเท่าไหร่ชายหนุ่มก็จัดการลบมันออกให้หมดลบมันออกจากหัวใจเพราะเขาเกลียดผู้หญิงทรยศคนนี้เหลือเกินระหว่างที่เขากำลังลบรูปภาพ อยู่ก็เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าสวยหวานออกไปทางคมเล็กน้อยตามแบบฉบับราวกับสาวลูกครึ่ง รอยยิ้มที่ชวนหลงไหลไปกับสดใสตามวัยของเธอเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะมาหลายปีก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ยังเหมือนเคยแต่อาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาภัคธีมาต้องไม่ได้เจอกันมาหลายปี ครั้งนี้เขาตั้งใจกลับมาพบเธออีกครั้ง สายตาคมเข้มมองงานที่ภัคธีมาส่งมาให้เขาตรวจเช็คอีกครั้งก่อนจะพาเธอเข้าไปดูสถานที่จริงเป็นครั้งที่สอง“คุณเตครับ คุณเดียร์ส่งแบบมาให้คุณเตมาส
“มาส่งดอกไม้ให้กับคุณภัคธีมาครับ”พนักงานส่งของบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางกวาดสายตามองหาเจ้าของชื่อว่าจะมีใครออกมารับหรือไม่จากการที่ดูแล้วทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างพากันก้มหน้าก้มตายุ่งงานของตัวเอง“วันนี้ดอกไม้ก็มาอีกหนึ่งช่อใหญ่ ๆ เหมือนเคย” เพื่อนร่วมงานของภัคธีมากลายเป็นคนรับดอกไม้จำเป็นเสียแล้ว เท่าที่นับได้อาทิตย์นี้เป็นช่อที่สามเห็นจะได้แล้ว“พี่เดียร์ได้รับดอกไม้อีกแล้ว”“วันนี้มีข้อความว่ายังไงบ้าง”เพรื่อนร่วมงานถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะเรื่องราวเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังตามจีบมัณฑนากรสาวคนแก่งของที่นี่กระจายไปทั่งบริษัท“ตอบไลน์พี่หน่อย จะดองไว้นานแค่ไหนคนดี”หลังจากเสียงอ่านข้อความในกระดาษการ์ดที่แนบมาด้วยจบทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นพากันหวีดไม่น้อยกับประโยคที่ว่ามา“นี่ขิง เอาไปให้พี่เดียร์ที” คนที่เพิ่งจะรับของมาเมื่อครู่สอดกระดาษการ์ดใบเล็กเอาไว้ที่เดิมก่อนจะส่งให้ผู้ช่วยของหญองสาวก่อนจะเดินตรงเอาช่อดอกไม้แสนสวยไปให้กับภัคธีมาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง ในระหว่างทางที่กำลังจะเอาของไปให้นั้นก็เดินสวนกันกับเ
“ทำไมไม่มาดูตอนกลางวัน”เตชินท์เดินเคียงข้างกับภัคธีมาเข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ เพื่อที่จะดูหนังรอบดึกกันสองต่อสอง เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาดูหนังกันเวลานี้“ก็ตอนกลางวันพี่เตกับเดียร์ก็ทำงานกันนี่คะ แล้วจะเอาเวลาไหนมาดู” คนตัวเล็กที่ถือถังป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำยืนอยู่ตรงหน้า“กลางวันพี่ว่าง”“ก็พี่เป็นเจ้านายเขาจะทำงานก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่เดียร์เป็นลูกจ้างเขานะจะลาหยุดบ่อยก็ไม่ดี”“ลาหยุดไม่ดี งั้นลาออกจากงานมาพี่เลี้ยงเอง”“พูดเป็นเล่นน่าพี่เต” ประโยคเมื่อครู่นี้ทำเอาคนตัวเล็กตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเธอ ส่วนมากก็แค่หยอกเท่านั้น แต่ที่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันดูต่างออกไปเหลือเกิน“พี่พูดจริง”เตชินท์บอกพลางส่งสายตาหวานซึ้งให้หญิงสาวโยที่เจ้าตัวนั้นไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย ผิดกับภัคธีมาที่คอยมองซ้ายแลขวาราวกับกลัวว่าจะมีคนรู้จักมาเห็นเสียอย่างนั้น เธอจึงตัดสินใจจชวนชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาสีแดงที่อยู่ไม่ห่างมากนัก เพราะหากยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเป็นการขวางทางเดินผ่านไปผ่านมา เวลาของภาพยนต์ที่กำล
ชีวิตการทำงานที่แสนราบเรียบของภัคธีมาดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ทุกคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเตชินท์ลูกค้ารายใหญ่ของทางบริษัท เหมือนมีบางอย่างที่ผิดปกเกี่ยวกับอารมณ์ของมัณฑนากรสาวที่ช่วงหลัง ๆ อารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก“ทุกคนเดียร์ซื้อชานมไข่มุกหวานน้อยมาฝากค่ะทุกคน”คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาภายออฟฟิศหลังจากที่เธอออกไปคุยงานกับลูกค้าอีกคนหนึ่งมาและระหว่างทางที่ขับรถกลับออฟฟิศนั้นเกิดอยากจะกินชานมไข่มุกของร้านที่อยู่ข้างล่างเข้าพอดีในจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังจะสั่งคนที่เพิ่งแยกออกมาจะเธอเมื่อช่วงเช้สตรู่เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งจ่ายค่าเครื่องดื่มอีกทั้งยังสั่งเผื่อพนักงานคนอื่น ๆ อีกหลายสิบแก้วให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆก่อนที่เตชินท์จะเดินจากไปเธอถามเขาว่ามมาจ่ายค่าเครื่องดื่มพวกนี้ให้เธอทำไมกันเขาบอกเธอแค่ว่า ‘จ่ายเงินให้เมียมันผิดตรงไหน’ คำพูดของเขาทำเอาเธอนิ่งเงียบไม่สามารถตอบโต้อะไรเขาได้เลย เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมามันคือเรื่องจริง“วันนี้ฝนจะตกไหมเนี่ย““นั่นสิ พักหลัง ๆ
“กรทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”น้ำเสียงหวานละมุนของใครบางคนดังมาแต่ไกล เจ้าหล่อนเห็นคนรักของตัวเองเดินมาหยุดที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานสองนาน ไม่ยอมเดินเข้าไปสักทีตนจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปถามไกล ๆ แต่เสียงสนทนาของคนที่อยู่ด้านในนั้นช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน‘ทำไมเสียงมันคุ้น ๆ อะไรแบบนี้ง’“เปล่าหรอกไม่มีอะไร” ธนินหันไปตอบแฟนสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ให้ผิดสังเกตว่าตนกำลังคิดเรื่องราวบางอย่างจึงรีบบอกปัดออกไป“งั้นเข้าไปหาคุณย่าดีกว่า เหมือนชมได้ยินเสียงของน้องเดียร์น่าจะอยู่ข้างในกับคุณย่าเหมือนกัน” ชลิตาแฟนสาวของธนินพูดขึ้นพร้อมทั้งเดินนำหน้าเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งยกมือทักทายย่าอ่อนศรี“สวัสดีค่ะย่า น้องเดียร์”เสียงทักทายของผู้มาใหม่ทำเอาบทสนทนาที่กำลังสนุกคึกครื้นเมื่อครู่นี้เงียบลง ทั้งสามคนพร้อมใจกันหันไปมองตามเสียง แต่ดูเหมือนว่าการมาครั้งนี้จะมีหนึ่งคนที่นิ่งอึ้งไม่พูดอะไร“พี่กร พี่ชม กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะทำไมไม่โทรบอกจะได้ไปรับ”“พี่อยากจะเซอร์ไพร์ทน้องเดียร์ด้วย”คนตัวเล็กฟังแล้วพยักหน้ารับยิ้ม ๆ“สวัส
“วันนี้ใครมาคุณเตมารับหรือเปล่าน่ะเดียร์” เสียงของเพื่อนร่วมงานถามอย่างเป็นปกติโดยที่ไม่มีอะไรพิเศษ มันเป็นประโยคที่แสนจะเรียบง่ายก็ตาม แต่มันก็ชินเสียแล้วสำหรับภัคธีมา“วันนี้กลับเองพอดีพี่เตมีประชุมน่ะ” เธอตอบกลับยิ้ม ๆ“งั้นดีเลย คุณเตไม่มางั้นเราไปหาอะไรกินกันมั้ย”ภัคธีมานิ่งราวกับคิดอยู่ครู่ว่ามีงานค้างหรืออะไรที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จหรือเปล่า แต่เมื่อทุกิย่างไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไรเธอจึงพยักหน้าตอบตกลง เพราะเธอเองหลังจากที่หมั้นกับเตชินท์ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเลย วันหยุดก็อยู่แต่กับชายหนุ่มตั้งแต่เช้าจรดค่ำเรียกว่าตัวติดกันจนแทบจะเป็นปาท่องโก๋ก็ว่าได้“แน่นะว่าไปได้ ไม่ใช่ไปถึงร้านแล้วคุณเตชินท์สุดหล่อของเธอโทรฯหาอีกล่ะ” ตะวันวาดแซวเพื่อนยิ้ม ๆ เพราะมองเพื่อนแววตานั้นเต็มไปด้วยความรักเมื่อพูดถึงคู่หมั้นหนุ่มเพราะตะวันวาดเองเพิ่งรู้มาจากเพื่อนว่าเตชินท์เป็นรักแรกของเธอตั้งแต่สมัยเด็กแต่ด้วยความต่างอะไรหลาย ๆ อย่างเลยไม่อาจบอกไป และจำได้ช่วงตอนมัธยมเหมือยอีกฝ่ายจะมีคนรักที่กำลังคบกันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าใคร ทำได้เพียงแค่แอบมองอยู
“กรทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”น้ำเสียงหวานละมุนของใครบางคนดังมาแต่ไกล เจ้าหล่อนเห็นคนรักของตัวเองเดินมาหยุดที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานสองนาน ไม่ยอมเดินเข้าไปสักทีตนจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปถามไกล ๆ แต่เสียงสนทนาของคนที่อยู่ด้านในนั้นช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน‘ทำไมเสียงมันคุ้น ๆ อะไรแบบนี้ง’“เปล่าหรอกไม่มีอะไร” ธนินหันไปตอบแฟนสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ให้ผิดสังเกตว่าตนกำลังคิดเรื่องราวบางอย่างจึงรีบบอกปัดออกไป“งั้นเข้าไปหาคุณย่าดีกว่า เหมือนชมได้ยินเสียงของน้องเดียร์น่าจะอยู่ข้างในกับคุณย่าเหมือนกัน” ชลิตาแฟนสาวของธนินพูดขึ้นพร้อมทั้งเดินนำหน้าเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งยกมือทักทายย่าอ่อนศรี“สวัสดีค่ะย่า น้องเดียร์”เสียงทักทายของผู้มาใหม่ทำเอาบทสนทนาที่กำลังสนุกคึกครื้นเมื่อครู่นี้เงียบลง ทั้งสามคนพร้อมใจกันหันไปมองตามเสียง แต่ดูเหมือนว่าการมาครั้งนี้จะมีหนึ่งคนที่นิ่งอึ้งไม่พูดอะไร“พี่กร พี่ชม กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะทำไมไม่โทรบอกจะได้ไปรับ”“พี่อยากจะเซอร์ไพร์ทน้องเดียร์ด้วย”คนตัวเล็กฟังแล้วพยักหน้ารับยิ้ม ๆ“สวัส
ชีวิตการทำงานที่แสนราบเรียบของภัคธีมาดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ทุกคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเตชินท์ลูกค้ารายใหญ่ของทางบริษัท เหมือนมีบางอย่างที่ผิดปกเกี่ยวกับอารมณ์ของมัณฑนากรสาวที่ช่วงหลัง ๆ อารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก“ทุกคนเดียร์ซื้อชานมไข่มุกหวานน้อยมาฝากค่ะทุกคน”คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาภายออฟฟิศหลังจากที่เธอออกไปคุยงานกับลูกค้าอีกคนหนึ่งมาและระหว่างทางที่ขับรถกลับออฟฟิศนั้นเกิดอยากจะกินชานมไข่มุกของร้านที่อยู่ข้างล่างเข้าพอดีในจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังจะสั่งคนที่เพิ่งแยกออกมาจะเธอเมื่อช่วงเช้สตรู่เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งจ่ายค่าเครื่องดื่มอีกทั้งยังสั่งเผื่อพนักงานคนอื่น ๆ อีกหลายสิบแก้วให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆก่อนที่เตชินท์จะเดินจากไปเธอถามเขาว่ามมาจ่ายค่าเครื่องดื่มพวกนี้ให้เธอทำไมกันเขาบอกเธอแค่ว่า ‘จ่ายเงินให้เมียมันผิดตรงไหน’ คำพูดของเขาทำเอาเธอนิ่งเงียบไม่สามารถตอบโต้อะไรเขาได้เลย เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมามันคือเรื่องจริง“วันนี้ฝนจะตกไหมเนี่ย““นั่นสิ พักหลัง ๆ
“ทำไมไม่มาดูตอนกลางวัน”เตชินท์เดินเคียงข้างกับภัคธีมาเข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ เพื่อที่จะดูหนังรอบดึกกันสองต่อสอง เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาดูหนังกันเวลานี้“ก็ตอนกลางวันพี่เตกับเดียร์ก็ทำงานกันนี่คะ แล้วจะเอาเวลาไหนมาดู” คนตัวเล็กที่ถือถังป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำยืนอยู่ตรงหน้า“กลางวันพี่ว่าง”“ก็พี่เป็นเจ้านายเขาจะทำงานก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่เดียร์เป็นลูกจ้างเขานะจะลาหยุดบ่อยก็ไม่ดี”“ลาหยุดไม่ดี งั้นลาออกจากงานมาพี่เลี้ยงเอง”“พูดเป็นเล่นน่าพี่เต” ประโยคเมื่อครู่นี้ทำเอาคนตัวเล็กตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเธอ ส่วนมากก็แค่หยอกเท่านั้น แต่ที่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันดูต่างออกไปเหลือเกิน“พี่พูดจริง”เตชินท์บอกพลางส่งสายตาหวานซึ้งให้หญิงสาวโยที่เจ้าตัวนั้นไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย ผิดกับภัคธีมาที่คอยมองซ้ายแลขวาราวกับกลัวว่าจะมีคนรู้จักมาเห็นเสียอย่างนั้น เธอจึงตัดสินใจจชวนชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาสีแดงที่อยู่ไม่ห่างมากนัก เพราะหากยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเป็นการขวางทางเดินผ่านไปผ่านมา เวลาของภาพยนต์ที่กำล
“มาส่งดอกไม้ให้กับคุณภัคธีมาครับ”พนักงานส่งของบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางกวาดสายตามองหาเจ้าของชื่อว่าจะมีใครออกมารับหรือไม่จากการที่ดูแล้วทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างพากันก้มหน้าก้มตายุ่งงานของตัวเอง“วันนี้ดอกไม้ก็มาอีกหนึ่งช่อใหญ่ ๆ เหมือนเคย” เพื่อนร่วมงานของภัคธีมากลายเป็นคนรับดอกไม้จำเป็นเสียแล้ว เท่าที่นับได้อาทิตย์นี้เป็นช่อที่สามเห็นจะได้แล้ว“พี่เดียร์ได้รับดอกไม้อีกแล้ว”“วันนี้มีข้อความว่ายังไงบ้าง”เพรื่อนร่วมงานถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะเรื่องราวเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังตามจีบมัณฑนากรสาวคนแก่งของที่นี่กระจายไปทั่งบริษัท“ตอบไลน์พี่หน่อย จะดองไว้นานแค่ไหนคนดี”หลังจากเสียงอ่านข้อความในกระดาษการ์ดที่แนบมาด้วยจบทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นพากันหวีดไม่น้อยกับประโยคที่ว่ามา“นี่ขิง เอาไปให้พี่เดียร์ที” คนที่เพิ่งจะรับของมาเมื่อครู่สอดกระดาษการ์ดใบเล็กเอาไว้ที่เดิมก่อนจะส่งให้ผู้ช่วยของหญองสาวก่อนจะเดินตรงเอาช่อดอกไม้แสนสวยไปให้กับภัคธีมาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง ในระหว่างทางที่กำลังจะเอาของไปให้นั้นก็เดินสวนกันกับเ
เตชินท์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ้วมือของเขาเคาะเข้ากับโต๊ะเบา ๆ ราวกับกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคมที่คิดว่าเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างแต่กลับจับจ้องไปยังรูปภาพที่อยู่บนหน้าจอ แล็ปท๊อปขนาดใหญ่ที่มีชายหนุ่มกับสาวสวยอีกหนึ่งคนกำลังยืนหวานชื่นท่ามกลางความงดงามของฝรั่งเศษ ก่อนจะลบมันออกจากเครื่องราวกับว่าไม่ต้องการที่จะเห็นมันอีกครั้ง ไม่ว่าภาพหวานชื่นเหล่านั้นจะมีสักเท่าไหร่ชายหนุ่มก็จัดการลบมันออกให้หมดลบมันออกจากหัวใจเพราะเขาเกลียดผู้หญิงทรยศคนนี้เหลือเกินระหว่างที่เขากำลังลบรูปภาพ อยู่ก็เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าสวยหวานออกไปทางคมเล็กน้อยตามแบบฉบับราวกับสาวลูกครึ่ง รอยยิ้มที่ชวนหลงไหลไปกับสดใสตามวัยของเธอเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะมาหลายปีก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ยังเหมือนเคยแต่อาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาภัคธีมาต้องไม่ได้เจอกันมาหลายปี ครั้งนี้เขาตั้งใจกลับมาพบเธออีกครั้ง สายตาคมเข้มมองงานที่ภัคธีมาส่งมาให้เขาตรวจเช็คอีกครั้งก่อนจะพาเธอเข้าไปดูสถานที่จริงเป็นครั้งที่สอง“คุณเตครับ คุณเดียร์ส่งแบบมาให้คุณเตมาส
“พี่ฝากงานพวกนี้ด้วยนะ ถ้าสงสัยอะไรไม่เข้าใจยังไงถามพี่ได้ตลอด”ภัคธีมามอบงานให้น้อง ๆ ในทีมที่ทำงานร่วมกับเธอ พร้อมทั้งอธิบายในเนื้องานต่าง ๆ มันเป็นแบบไหนต้องทำอย่างไรกับงานชิ้นนั้น ๆ เธอเชื่อว่าตะวันวาดและคนในทีมจะช่วยกันทำให้ดีที่สุด ส่วนของเธอก็ต้องออกมาดีที่สุดเช่นกัน“ได้เลยค่ะพี่เดียร์ พวกเราจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”“ขอบใจจ้ะ”หลังจากที่น้อง ๆ และเพื่อนรับปากว่าจะทำงานต่อจากเธอตามคำสั่งของบอสเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กที่งานล้นมือจนแทบจะทำไม่ทัน กลับมาทำงานของตัวเองที่ต้องปรับแก้อีกมากมายหลายเพราะเธอเองก็อยากจะจัดการงานชิ้นนี้ให้เรียบร้อยก่อนกำหนดเช่นเดียวกัน“พี่เดียร์งานของคุณเตชินท์พี่จะส่งให้เขาดูเมื่อไหร่เหรอ” ผู้ช่วยอีกคนของเธอถามอย่างสงสัย เพราะน้อยครั้งที่เห็นรุ่นพี่ของตนทำหน้าเคร่งเครียดกับงานแบบศีรษะเล็กเอียงลงเล็กน้อยพร้อมท้าวกับมือแบบชิดแก้มนุ่ม มืออีกข้างเคาะเข้ากับโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด เมื่อน้องร่วมงานพูดถึงงานที่เธอเพิ่งจะส่งเมล์ไปเมื่อสองวันก่อน แต่ผลตอบรับทำเอาเธอถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่“ส่งไปแล้ว”“เป็นไงบ้างคะ ผ่านไหม” คนถามลุ้นกับคำตอบที่จะได้ ๆ ไม่น้อย“ทางนั้น
ท่ามกลางเมืองที่แสนวุ่นวายของผู้คนทำงานเช่นเดียวกันกับตะวันวาดที่กำลังว้าวุ่นใจที่มองซ้ายแลขวาไม่พบเพื่อนร่วมงานคนเก่งของตนมาถึงออฟฟิศเสียที เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญเสียด้วย อีกอย่างหญิงสาวเป็นคนที่ตรงเวลาเอามาก ๆ ไม่เคยมาสายแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่อะไรกันสายไปหลายนาทีแล้ว ยังติดต่อภัคธีมาไม่ได้แม้แต่สายเดียว“ฮัลโหลยัยเดียร์แกอยู่ที่ไหนเนี่ย”น้ำเสียงของตะวันวาดกระวนกระวายไม่น้อย เพราะเพื่อนของเธอยังมาไม่ถึงเสียที อีกอย่างสาวเจ้าปลายสายต้องมาพรีเซ็นต์โพรเจกต์งานออกแบบให้กับลูกค้าที่เจาะจงมายังทีมของตนโดยเฉพาะ ถ้าเป็นทีมอื่นจะไม่ทำกับทางบริษัทนี้งานนี้เป็นงานใหญ่ที่ไม่อยากให้เสียหายทางตะวันวาดเลยกระวนกระวายใจไม่น้อยที่กลัวเพื่อนจะมาไม่ทัน“จะถึงแล้ว รอฉันอีกสิบนาทีนะตะวัน”ภัคธีมารับสายแล้วรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดวางสายและยัดโทรศัพท์มือถือกลับเข้าทีเดิม สองขาเรียวสวยรีบสาวเท้าเข้าอาคารตรงไปยังลิฟต์เพื่อไปยังที่หมายให้เร็วที่สุด เพราะเธอไม่อยากให้ลูกค้าต้องรอนาน แต่วันนั้นถค่อนข้างติดเพราะเกิดอุบัติเหตุใหญ่บนท้องถนน ทำให้เธอต้องเรียกวินมอเตอร์ไซค?มารับที่คอนโดมิเนียมที่หญิงสาวพัก