Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-02-16 02:41:09

 เตชินท์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ้วมือของเขาเคาะเข้ากับโต๊ะเบา ๆ ราวกับกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคมที่คิดว่าเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างแต่กลับจับจ้องไปยังรูปภาพที่อยู่บนหน้าจอ

แล็ปท๊อปขนาดใหญ่ที่มีชายหนุ่มกับสาวสวยอีกหนึ่งคนกำลังยืนหวานชื่นท่ามกลางความงดงามของฝรั่งเศษ ก่อนจะลบมันออกจากเครื่องราวกับว่าไม่ต้องการที่จะเห็นมันอีกครั้ง ไม่ว่าภาพหวานชื่นเหล่านั้นจะมีสักเท่าไหร่ชายหนุ่มก็จัดการลบมันออกให้หมดลบมันออกจากหัวใจ

เพราะเขาเกลียดผู้หญิงทรยศคนนี้เหลือเกิน

ระหว่างที่เขากำลังลบรูปภาพ อยู่ก็เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าสวยหวานออกไปทางคมเล็กน้อยตามแบบฉบับราวกับสาวลูกครึ่ง รอยยิ้มที่ชวนหลงไหลไปกับสดใสตามวัยของเธอเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะมาหลายปีก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ยังเหมือนเคย

แต่อาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาภัคธีมาต้องไม่ได้เจอกันมาหลายปี ครั้งนี้เขาตั้งใจกลับมาพบเธออีกครั้ง สายตาคมเข้มมองงานที่ภัคธีมาส่งมาให้เขาตรวจเช็คอีกครั้งก่อนจะพาเธอเข้าไปดูสถานที่จริงเป็นครั้งที่สอง

“คุณเตครับ คุณเดียร์ส่งแบบมาให้คุณเตมาสองวันแล้วเธอถามผมว่าจะให้เธอเข้าไปดูสถานที่วันไหนครับ”

“สักสองสามวันแล้วกัน”

ชายหนุ่มตอบโดนที่ไม่ละสายตาจากรูปภาพภัคธีมาบนหน้าจอ

“แล้วแบบต้องส่งให้คุณเดียร์แก้ไหมครับ”

“ไม่ต้อง! ผ่านแล้ว แต่ฉันยังอยากจะแกล้งเด็กคนนั้นต่อ”

“เด็กคนนั้น” นิธิเอียงหน้าถามอย่างสงสัยที่ชายหนุ่มพูดถึง

หญิงสาวราวกับรู้จักกันมานานเสียอย่างนั้น

“ภัคธีมา”

“นี่มันคุณเดียร์นี่ครับ”

“จำได้ด้วยเหรอ”

“ใบหน้าของคุณเดียร์เธอมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากนะครับ ตอนที่เข้าไปฟังเธอพูดครั้งก่อนพนักงานที่บริษัทต่างชมความสวย เก่งและมากความสามารถของคุณเดียร์มากเลยครับ”

เลขาหนุ่มบอกอย่างชื่นชมในความสวยและความสามารถของสาวเจ้าไม่ว่าจะด้านไหนเธอก็เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง

“เหรอ”

ชายหนุ่มตอบเพียงสั้น ๆ เท่านั้นโดยที่ไม่มีบทสนทนาอะไรต่อแม้แต่นิดเดียว สายตาคมหลุบลงต่ำเล็กน้อยก่อนที่จเหลือบมองราวกับคิดอะไรบางอย่างออก

“นิธิดูตารางว่าฉันว่างวันไหน แล้วนัดเดียร์ไปดูรีสอร์ท”

“ได้ครับ เดี่ยวผมจัดให้”

“บอกผู้จัดการรเตรียมห้องพักเอาไว้ด้วย”

หลังจากที่เจ้านายหนุ่มสั่งงานกับเลขาคนสนิทเรียบร้อยแล้ว สายตาคมกลับจับจ้องรูปภาพบนหน้าจออีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่รูปภาพของภัคธีมาคนเดียว ทว่าภาพถ่ายรูปนี้กลับมีกันอยู่สี่คนนั่นก็คือตัวของเขาเอง ภัคธีมาในชุดนักเรียนมัธยม กับผู้ชายและผู้หญิงอีกสองคนส่งยิ้มให้กล้องเช่นเดียวกัน

ซึ่งทั้งสองคนนั้นไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหนนอกเสียจากผู้หญิงทรยศอย่าง ชลิตา และ ธนิน

แววตาที่ของชายหนุ่มกลับแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีหลังจากที่ได้เห็นทั้งคู่

‘ในเมื่อพวกมึงสองคนหักหลังกู พวกมึงก็อย่ามีความสุขเลย โดยเฉพาะน้องสาวของมึง’

แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้วจะให้หยุดทุกอย่างกลางทางได้อย่างใร ทั้งความรู้สึกของภัคธีมายังมีต่อเขาเช่นเดิม ไม่ว่ากี่ปีมันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง วันนั้นน้องรักเขาอย่างไรวันนี้ความรักที่สื่อผ่านนัยน์ตาหวานจากที่เขาเห็นมันก็ยังเหมือนเดิม

ภัคธีมายังคงรักเขาอยู่

“ถึงแล้วค่ะพี่ธี ไม่ต้องเป็นห่วง”

ภัคธีมาวางสายหลังจากที่คุยกับธีรัตม์เรียบร้อย เพราะทางเจ้านายหนุ่มนั้นโทรมาถามความเรียบร้อยและความปลอดภัยของคนที่เขาเอ็นดูเหมือนน้องสาวที่ต้องเดินทางขับรถไปดูรีสอร์ตท่าจะต่อเติมและสร้างเพิ่มของเตชินท์ที่ชะอำโดยที่มีผู้ช่วยนั่งมาเป็นเพื่อนร่วมทางอีกคนหนึ่ง

สายตาเธอหันไปมองผู้ช่วยที่หลับคอพับคออ่อนไม่มีท่าทีว่าจะตื่น ๆ ดูท่าทางคนข้างจะอ่อนเพลียจากการเดินทาง หลังมือเรียวเคาะเข้ากับกระจกรถยนต์ของตนเพื่อที่จะปลุกให้น้องผู้ช่วยลงจากรถได้แล้ว เพราะตอนนี้พนักงานของที่นี้เดินตรงเข้ามาหาแล้ว

“สวัสดีครับคุณภัคธีมาใช่ไหมครับ” พนักงานสอบถามด้วยความสุภาพ

“ค่ะ ฉันเอง”

“คุณเตให้ผมพาคุณภัคธีมากับผู้ช่วยไปที่ห้องพักก่อนครับ และฝากผมขอโทษที่ไม่ได้ที่ไม่ได้ออกมาต้อนรับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็มาก่อนเวลาเหมือนกัน”

ภัคธีมาตอบอย่างเกรงใจเพราะเธอนั้นเดินทางมาก่อนวันนัดหนึ่งวัน โดยที่เธอก็โทรมาบอกเตชินท์แล้วเช่นกัน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ติดอะไรที่หญิงสาวมาก่อนกำหนด ในคราแรกเขาบอกจะมาต้อนรับและพาดูสถานที่เองตอนที่มาถึง

“เชิญคุณภัคธีมาตามผมมาทางนี้เลยครับ”

“ขิงเอาของแล้วเดินตามมา” คนตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะหันไปคุยกับน้องที่มาด้วย

“ค่ะพี่เดียร์ ขิงขอโทษนะคะหลับมาตลอดทางเลย”สาวน้อยรีบขอโทษขอโพยหญิงสาวงที่เจ้านายให้ตอนนั่งรถมาเป็นเพื่อนร่วมทางเพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ แต่นั่งไปไม่กี่ชั่วโมงก็เผลอหลักเสียอย่างนั้น

“ไม่เป็นไร พี่ขับรถคนเดียวได้สบายมากน่ะ” คนตัวเล็กตอบอย่างไม่ใส่ใจ เพราะไม่ว่าจะมีเพื่อนร่วมทางหรือไม่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอแม้แต่น้อย

“งั้นมาเดี๋ยวขิงช่วย”

ขิง ขนิษฐารีบขันอาสาช่วยหญิงสาวถือของอย่างรวดเร็ว เพราะในมือของรุ่นพี่เธอนั้นมีของมากมายไหนจะอุปกรณ์ทำงานและกระเป๋าเสื้อผ้าอีก ทั้งสองสาวเอาสัมภาระของตัวเองและรีบเดินตามพนักงานชายคนนั้นไป

บรรยากาศที่ร่มรื่นและสายลมแผ่ว ๆ ที่พัดผ่านกระทะกายทำเอารู้สึกดีและสดชื่นไม่น้อย หาได้ยากกับชีวิตการทำงานในเมืองนาน ๆ ทีที่จะออกต่างจังหวัดแบบนี้ทำเอาผ่อนคลายจากการทำงานได้มากเลยทีเดียว

“พี่เดียร์ที่นี่อากาศดีมากเลยนะคะ”

“ใช่พี่เห็นด้วยเลย แถมทางนั้นน่าจะเป็นท้ายหาดใช่ไหมนั่น”

สายตาหวานกวาดมองไปรอบ ๆ ที่มีแต่ความสดชื่น เธอเริ่มอยากจะนอนพักอยู่ที่นี่เสียแล้วสิ

“ใช่ครับ ทางนั้นจะเป็นทางท้ายชายหาดครับ แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีคนไป” พนักงานชายคนเดิมตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพพร้อมทั้งพาทั้งสองสาวที่เจ้านายหนุ่มสั่งให้ดูแลเป็นอย่างดีไม่ว่าต้องการอะไรก็หามาให้

“ถึงแล้วครับ นี่คือกุญแจครับ”

“ขอบคุณค่ะ เอ่อขอถามเพิ่มได้ไหมคะ” ภัคธีมากล่าวขอบคุณและถามเพิ่มเติมเพราะเธอเองนั้นคาใจไม่น้อย ว่าทำไมถึงมีใครไปที่นั่นตามที่พนักงานบอก เพราะเท่าที่มองผ่าน ๆ ดวงตา วิวตรงนั้นสวยมากเหมาะกับการถ่ายรู้ลงโชเชียลมีเดียไม่น้อย

“ท้ายหาดเป็นบ้านพักของคุณเตครับ”

“อ่อ ขอบคุณค่ะ” เธอตอบพลางพยักหน้ารับเล็กน้อย

“ถ้าคุณทั้งสองคนตั้งการอะไรเพิ่มเติมแจ้งมาที่ผมได้นะครับ”

“ได้ค่ะ”

หลังจากที่รู้ว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นที่ของใครและทำไมถึงไม่มีใครเข้าไป ขอตัวพักผ่อนเพราะการเดินทางมาใช้เวลานาน จึงพากันเข้าห้องพักที่ตกแต่งเรียบง่ายสไตล์มินิมอลทันสมัย ของภายในห้องดูเข้ากันอีกทั้งไม่น่าจะต้องออกแบบเพิ่มเติมเลย

“ห้องสวยมากเลยนะพี่เดียร์”

ขนิษฐามองไปรอบ ๆ ห้องสำรวจดูว่าภายในก้องมีอะไรบ้าง พลางเดินไปเดินมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าในห้องนี้มีอะไรบ้าง ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานของทางรีสอร์ท

“นั้นสิพี่ว่ามันสวยมากเลยนะ แถมยังน่าอยู่น่าพักอีกต่างหาก” ภัคธีมาบอกพร้อมทั้งวางข้าวของของตนลงกับโต๊ะทำงานที่มีอยู่ภายในห้อง ก่อนจะเอางานอแอกมาดูเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้

“พี่เดียร์ไม่พักสักหน่อยเหรอคะขับรถตั้งสองสามชั่วโมง”

“ถ้าขิงง่วงขิงก็นอนเลย เดี๋ยวพี่ดูงานสักหน่อยค่อยนอน”

“ขิงว่าขิงหลับมาเต็มที่แล้ว ว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย พี่เดียร์กินอะไรไหมคะ เดี๋ยวขิงซื้อกลับมาให้”

“ไม่เป็นไร ไปเดินเล่นก็ระวังตัวด้วย”

เธอบอกอย่างเป็นห่วง ถึงแม้ว่าขนิษฐาจะโตแล้วก็ตามแต่อย่างไรก็เถอะเป็นน้องเป็นนุ่งยังไงเธอก็เป็นห่วงเป็นธรรมดา  สาวเจ้ารับปากเป็นหมั่นเป็นเหมาะว่าจะดูแลตัวเองอย่างดี หากถ่ายรูปจนพอใจแล้วจะรีบกลับ ส่วนคนที่ไม่ออกจากห้องพักนั่งดูงานที่ทำค้างไว้เล็กน้อย ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนกับเตียงนุ่ม ๆ และหลับไปเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความเหนื่อยอ่อน 

เนื่องจากเธอมีงานที่ต้องประชุมเพิ่มเติมกับทีมงานกว่าจะได้พักผ่อนก็แทบจะเข้าเช้าของอีกวัน เรียกว่าทำงานหามรุ่งหามค่ำก็ว่าได้ เพราะต้องการที่จะทำงานแก้งานในจุดต่าง ๆ ให้เรียบร้อยรวมทั้งงานของภัคธีมาที่ถูกส่งให้ทีมต่าง ๆ ดูแลต่อ

เวลาล่วงเลยจนกระทั่งตกเย็นที่บรรยากาศดีกว่าตอนกลางวันที่มาถึง ภัคธีมาตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าที่แช่มชื่นไม่เหนื่อยอ่อนเหมือนตอนที่มาถึงใหม่ ๆ เธอจัดการลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ออกไปเดินเล่นรับลมทะเลยามเย็น เผลอ ๆ บางครั้งเธอจะชวนน้องที่มาด้วยกันไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืนที่เธอเปิดดูแล้วว่ามีของขายมากมายรวมทั้งอาหารการกินด้วยที่มากมายละลานตาเต็มไปหมดตามเพจรีวิวการท่องเที่ยว

“พี่เดียร์เราไปถ่ายรูปกันเถอะ” ขนิษฐารีบเรียกหญิงสาวที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำพอดี

“ไปเดินเล่นหน่อยก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวค่ำๆไปเดินตลาดกันดีไหม”

“ไปค่ะ ขิงอยากหาขนมที่ตลาด”

หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้วสองสาวที่อายุห่างกันเพียงไม่กี่ปีก็พากันเดินชมทิวทัศน์ความสวยงามยามเย็นไปพลางถ่ายรูปไปพลางมาทำงานทั้งทีจะพลาดโอกาสที่จะมีรู้สวย ๆ อัพลงโซเชียลมีเดียเสียหน่อย เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และท่าทางกริยาต่าง ๆ ของภัคธีมาที่สลับกันถ่ายรูปให้กันและกันอยู่ในสายตาของใครบางคนตั้งแต่เธอเดินออกมาแล้ว

แต่เลือกที่จะยืนมองคนตัวเล็กกับท้องทะเลตอนนี้พร้อมกับยกยิ้มมุมปากสายตาคมจับจองไปที่ภัคธีมาไม่วางตาจนกระทั้งหญิงสาวและรุ่นน้องเดินหายลับออกไป คาดว่าน่าพากันไปเดินเล่นทีตลาดที่อยู่ไม่ห่างจากรีสอร์ทของเขา

“เธอต้องเป็นของพี่”

“ตรงนี้ผมอยากได้แบบเรียบ ๆ แต่มีลูกเล่นที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ภายในห้องด้วย แต่ก็ต้องไม่ลืมที่ความร่มรื่นผ่อนคลายมองไปทางไหนสบายตา”

เจ้าของรีสอร์ตบอกความต้องการของตนเองให้กับมัณฑนากรสาวและผู้ช่วยของเธอโน้ตสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นรวมทั้งสิ่งที่ต้องรับและแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเดิมก่อนที่จะส่งงานให้อีกฝ่ายต่อไป

“โอเคค่ะ เท่านี้คุณเตชินท์ต้องการให้เพิ่ม”

“ครับ ส่วนค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ไม่มีปัญหา”

“ได้ค่ะ อีกประมาณสัปดาห์หน้าฉันจะส่งงานออกแบบให้ดูอีกครั้งนะคะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงเรียบราบแต่เต็มไปด้วยความหวั่นเกรงกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ

“ขอบคุณครับ”

ภัคธีมาพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนหันไปหาขนิษฐาน้องผู้ช่วยของตนเอง “โน้ตไว้หมดไหม สรุปรายละเอียดมาให้พี่ เดี๋ยวพี่จะดูงานต่อคืนนี้”

“ได้ค่ะพี่เดียร์”

“คุณเตชินท์ต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกได้นะคะ”

“ครับ”

“งั้นขอตัวก่อนนะคะ” เธอหันไปบอกเขาด้วยความสุภาพพร้อมทั้งส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อย

“เดียร์” ชายหนุ่มเรียกเขาเสียงนุ่มในจังหวะที่เธอกำลังจะเดินออกไปทำเองเจ้าของชื่อรวมทั้งน้องผู้ช่วยหยุดชะงักหันมามองคนเรียกที่อยู่ทางด้านหลังของภัคธีมา

“มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับเดียร์”

“เอ่องั้นขิงไปนั่งสรุปงานที่คาเฟ่รอพี่นะคะ”

“ครับ อยากสั่งอะไรสั่งได้เลย เดี๋ยวผมจัดการเอง”

แต่ยังไม่ทันที่ภัคธีมาจะเอ่ยปากบอกก็ถูกเตชินท์เอ่ยขึ้นก่อนเสียอย่างนั้น ทำเองเธอเองถึงกับงวยงงไม่น้อยว่าทำไมเขาถึงต้องพูดแทรกเธอ

“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณเต”

คนตัวเล็กที่มีอุปกรณ์ทำมาหากินอยู่ในมือถามขึ้น

“ตรงนี้มีแค่เรา เรียกว่าพี่เตดีกว่า”

“ค่ะ พี่เตมีอะไรจะคุยกับเดียร์เหรอคะ” สาวเจ้าถามอย่างสงสัยเพราะน้อยครั้งที่ทั้งเขาและเธอจะมีโอกาสที่จะได้คุยกันสองต่อสองแบบนี้

“เย็นนี้มาทานข้าวกับพี่หน่อย”

“เนื่องในโอกาสอะไรเหรอคะ”

“โอกาสที่เราได้เจอกันอีกครั้งไง”

โอกาสที่เขาบอกว่าได้พบกันอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่สำหรับตน เธอพบเขาโดยบังเอิญหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีตังหวะและโอกาสที่จะได้คุย อีกอย่างด้านภัคธีมาเองก็ไม่ได้มีธุระอะไรที่ต้องคุยกับเขาสองต่อสอง

ทว่าในตอนที่พบกันเธอมักจะไปพร้อมพี่ชายเสียมากกว่า

เพราะเตชินท์กับพี่ชายของเธอเป็นเพื่อนกัน

“เราเจอกันหลายครั้งแล้วนี่คะพี่เต”

“แต่ทุกครั้งมันก็เป็นเรื่องงานทั้งนั้น พี่อยากคุยกับเราโดยที่ไม่มีงานเข้ามาเดี่ยวข้อง” เตชิท์ตอบเสียงทุ้มนุ่มพลางค่อย ๆ เดินเข้าไปหาหญิงสาว ทำเองคนตังเล็กที่ไม่ทันตั้งตัวต้องผละถอยออกเช่นกัน

‘นี่เขากำลังจะทำอะไรเนี่ย’

“เอ่อ พี่เตจะทำอะไรคะ” เธอถามพลางหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

“แมลงมันเกาะที่ไหล่ของเดียร์น่ะ”

เตชินท์ยื่นแขนออกไปปัดแมลงที่เกาะไหล่ของหญิงสาวให้บินออกไปก่อนจะโปรยยิ้มเจ้าเสน่ห์ให้คนตรงหน้า เขาลอบสังเกตุใบหน้าของภัคธีมาแดงระเรื่อราวกับกำลังขวยเขินในการกระทำของตน

 “เอ่อ ขอบคุณค่ะ”

“ว่ายังไงพี่รอคำตอบจากเดียร์อยู่ ไปทานข้าวกับพี่นะเย็นนี้ “

“ได้ค่ะ”

“ว่าแต่เดียร์อยากทานอะไรที่ไหน”

“ทานที่รีสอร์ตก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องไปไกล” เธอบอกอย่างเกรงใจด้วยความที่เตชินท์เป็นทั้งเพื่อนของพี่ชายอีกทั้งยังเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทด้วยหากจะปฎิเสษก็คงดูไม่ดี

เผลออาจจะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในอนาคตอีกต่างหาก

“ตกลงเดี๋ยวเจอกัน”

“ได้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”

“ครับ”

เตชินท์บอกเสียงนุ่มพร้อมทั้งส่งร้อยยิ้มที่แสนละมุนชวนหลงไหลให้กับหญิงสาว เช่นเดียวกับภัคธีมาก็ยิ้มตอบอย่างทำตัวไม่ถูกสักนัก

ชายหนุ่มยืนส่งหญิงสาวจนหายลับออกไป จนกระทั่งมีชายร่างสูงแต่งตัวภูมิฐานดูดีเช่นเดียวกับคนที่ยืนอยู่ก่อนหน้านี้

“คิดจะทำอะไรของมึงวะ”

“ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่” คนถูกถามเฉไฉไม่ยอมเอ่ยความต้องการของตนเองที่กำลังจะทำอะไรอยู่ในตอนนี้

“มึงแน่ใจนะว่าไม่มีอะไร”

“อืม” เขาเพียงแค่ขานรับในลำคอเท่านั้นมองเพื่อนสนิทอีกคนอย่างทยากรที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน

“แล้วมึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็นานพอที่จะเห็นมึงคุยกับน้องของไอ้กรมันนั่นแหละ” ทยากรนิ่งไปครู่หนึ่งราวกับคิดและพอที่จะเดาทางของเพื่อนออกว่าคนอย่างมันกำลังจะทำอะไรกันแน่ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาพลางจับสังเกตุท่าทางของเพื่อน “หรือที่มึงเข้าหาน้องเดียร์เพราะจะเอาคืนเรื่องนั้น”

“แล้วยังไงวะ ถ้ากูจะทำ”

“มึงก็รู้ว่ามันหวงน้องของมันจะตาย”

“ยิ่งมันหวงกูยิ่งอยากทำ”

ทั้งสีหน้าแววน้ำเสียงและคำพูดของเตชินท์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อพูดถึงเรื่องเก่าเมื่อในอดีตที่มันยังคงฝังลึกอยู่ภายในใจของเขา ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมานานแล้วก็ตามมันก็ยังไม่อาจที่จะลบเลือนไปจากใจของ

ชายหนุ่มได้แม้แต่น้อย

“สายตาแบบนี้กูคงห้ามมึงไม่ได้แล้วใช่ไหม แต่มึงก็ระวังหน่อยแล้วกัน เพราะคนที่เจ็บมามันอาจจะเป็นมึงเอง”

ทยากรรู้ดีว่าไม่อาจจที่จะห้ามเพื่อนของตนที่รู้จักกันมานานได้ หากยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุเพื่อนของตน ก็ได้แต่เตือนด้วยความหวังดีว่าอย่าเอาหัวใจของตัวเองมาเล่น อีกทั้งมันยังพ่วงมาด้วยหัวใจดวงน้อยของ

ภัคธีมาด้วย

“แค่มองกูก็รู้ว่าน้องเขารักมึง กูไม่เชื่อว่ามึงจะมองไม่ออกกับสายตาของเดียร์”

“แล้วไงกูไม่สนซะอย่าง ว่าแต่มึงมาหากูถึงที่นี่มีเรื่องอะไร” เตชินท์รีบเปลี่ยนบทสนทนาทันทีพร้อมทั้งถามถึงจขุดหมายว่ามาหาเขาถึงที่มีเรื่องอะไรกันแน่

“เปล่าหรอก แค่อยากเปลี่ยนที่นอนเฉย ๆ”

“แค่นั้น มึงไม่ได้หนีใครมาใช่ไหม” เจ้าของรีสอร์ตหนุ่มถามอย่างรู้ทัน

“เปล่าไปนอนล่ะ”

เตชินท์มองเพื่อนที่เดินโบกมือให้เขาโดยที่ไม่หันกลับมามองจนลับสายตา ถึงแม้ว่าเพื่อนจะเตือนเขาว่าให้ระวังตัวให้ดี ในเมื่อธนินหวงน้องสาวคนเดียวของตัวเองมากขนาดๆไหนเขาก็ไม่กลัว อีกอย่างมันก็ไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทยกว่าจะกลับก็มีเวลาอีกนาน แน่นอนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้

ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรฯหานิธิเพื่อให้จัดการเตรียมตัวสำหรับดินเนอร์คืนนี้

‘แม่งเอ้ยพามาทำไมวะ’

แต่แล้วสิ่งที่เขาวางไว้ก็พังลงเมื่อเขาคิดว่าภัคธีมาจะมารับประทานอาหารเย็นกับเขาสองต่อแสง ไม่คิดว่าจะพาก้างขวางคอมาด้วยตัวเบ้อเร้อเช่นนี้

เธอดันพาผู้ช่วยของตัวเองมาร่วมโต๊ะเสียนี่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เปลืองใจ   บทที่ 4

    “มาส่งดอกไม้ให้กับคุณภัคธีมาครับ”พนักงานส่งของบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางกวาดสายตามองหาเจ้าของชื่อว่าจะมีใครออกมารับหรือไม่จากการที่ดูแล้วทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างพากันก้มหน้าก้มตายุ่งงานของตัวเอง“วันนี้ดอกไม้ก็มาอีกหนึ่งช่อใหญ่ ๆ เหมือนเคย” เพื่อนร่วมงานของภัคธีมากลายเป็นคนรับดอกไม้จำเป็นเสียแล้ว เท่าที่นับได้อาทิตย์นี้เป็นช่อที่สามเห็นจะได้แล้ว“พี่เดียร์ได้รับดอกไม้อีกแล้ว”“วันนี้มีข้อความว่ายังไงบ้าง”เพรื่อนร่วมงานถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะเรื่องราวเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังตามจีบมัณฑนากรสาวคนแก่งของที่นี่กระจายไปทั่งบริษัท“ตอบไลน์พี่หน่อย จะดองไว้นานแค่ไหนคนดี”หลังจากเสียงอ่านข้อความในกระดาษการ์ดที่แนบมาด้วยจบทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นพากันหวีดไม่น้อยกับประโยคที่ว่ามา“นี่ขิง เอาไปให้พี่เดียร์ที” คนที่เพิ่งจะรับของมาเมื่อครู่สอดกระดาษการ์ดใบเล็กเอาไว้ที่เดิมก่อนจะส่งให้ผู้ช่วยของหญองสาวก่อนจะเดินตรงเอาช่อดอกไม้แสนสวยไปให้กับภัคธีมาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง ในระหว่างทางที่กำลังจะเอาของไปให้นั้นก็เดินสวนกันกับเ

    Last Updated : 2025-02-17
  • เปลืองใจ   บทที่ 5

    “ทำไมไม่มาดูตอนกลางวัน”เตชินท์เดินเคียงข้างกับภัคธีมาเข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ เพื่อที่จะดูหนังรอบดึกกันสองต่อสอง เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาดูหนังกันเวลานี้“ก็ตอนกลางวันพี่เตกับเดียร์ก็ทำงานกันนี่คะ แล้วจะเอาเวลาไหนมาดู” คนตัวเล็กที่ถือถังป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำยืนอยู่ตรงหน้า“กลางวันพี่ว่าง”“ก็พี่เป็นเจ้านายเขาจะทำงานก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่เดียร์เป็นลูกจ้างเขานะจะลาหยุดบ่อยก็ไม่ดี”“ลาหยุดไม่ดี งั้นลาออกจากงานมาพี่เลี้ยงเอง”“พูดเป็นเล่นน่าพี่เต” ประโยคเมื่อครู่นี้ทำเอาคนตัวเล็กตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเธอ ส่วนมากก็แค่หยอกเท่านั้น แต่ที่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันดูต่างออกไปเหลือเกิน“พี่พูดจริง”เตชินท์บอกพลางส่งสายตาหวานซึ้งให้หญิงสาวโยที่เจ้าตัวนั้นไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย ผิดกับภัคธีมาที่คอยมองซ้ายแลขวาราวกับกลัวว่าจะมีคนรู้จักมาเห็นเสียอย่างนั้น เธอจึงตัดสินใจจชวนชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาสีแดงที่อยู่ไม่ห่างมากนัก เพราะหากยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเป็นการขวางทางเดินผ่านไปผ่านมา เวลาของภาพยนต์ที่กำล

    Last Updated : 2025-02-19
  • เปลืองใจ   บทที่ 6

    ชีวิตการทำงานที่แสนราบเรียบของภัคธีมาดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ทุกคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเตชินท์ลูกค้ารายใหญ่ของทางบริษัท เหมือนมีบางอย่างที่ผิดปกเกี่ยวกับอารมณ์ของมัณฑนากรสาวที่ช่วงหลัง ๆ อารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก“ทุกคนเดียร์ซื้อชานมไข่มุกหวานน้อยมาฝากค่ะทุกคน”คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาภายออฟฟิศหลังจากที่เธอออกไปคุยงานกับลูกค้าอีกคนหนึ่งมาและระหว่างทางที่ขับรถกลับออฟฟิศนั้นเกิดอยากจะกินชานมไข่มุกของร้านที่อยู่ข้างล่างเข้าพอดีในจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังจะสั่งคนที่เพิ่งแยกออกมาจะเธอเมื่อช่วงเช้สตรู่เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งจ่ายค่าเครื่องดื่มอีกทั้งยังสั่งเผื่อพนักงานคนอื่น ๆ อีกหลายสิบแก้วให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆก่อนที่เตชินท์จะเดินจากไปเธอถามเขาว่ามมาจ่ายค่าเครื่องดื่มพวกนี้ให้เธอทำไมกันเขาบอกเธอแค่ว่า ‘จ่ายเงินให้เมียมันผิดตรงไหน’ คำพูดของเขาทำเอาเธอนิ่งเงียบไม่สามารถตอบโต้อะไรเขาได้เลย เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมามันคือเรื่องจริง“วันนี้ฝนจะตกไหมเนี่ย““นั่นสิ พักหลัง ๆ

    Last Updated : 2025-02-20
  • เปลืองใจ   บทที่ 7

    “กรทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”น้ำเสียงหวานละมุนของใครบางคนดังมาแต่ไกล เจ้าหล่อนเห็นคนรักของตัวเองเดินมาหยุดที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานสองนาน ไม่ยอมเดินเข้าไปสักทีตนจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปถามไกล ๆ แต่เสียงสนทนาของคนที่อยู่ด้านในนั้นช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน‘ทำไมเสียงมันคุ้น ๆ อะไรแบบนี้ง’“เปล่าหรอกไม่มีอะไร” ธนินหันไปตอบแฟนสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ให้ผิดสังเกตว่าตนกำลังคิดเรื่องราวบางอย่างจึงรีบบอกปัดออกไป“งั้นเข้าไปหาคุณย่าดีกว่า เหมือนชมได้ยินเสียงของน้องเดียร์น่าจะอยู่ข้างในกับคุณย่าเหมือนกัน” ชลิตาแฟนสาวของธนินพูดขึ้นพร้อมทั้งเดินนำหน้าเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งยกมือทักทายย่าอ่อนศรี“สวัสดีค่ะย่า น้องเดียร์”เสียงทักทายของผู้มาใหม่ทำเอาบทสนทนาที่กำลังสนุกคึกครื้นเมื่อครู่นี้เงียบลง ทั้งสามคนพร้อมใจกันหันไปมองตามเสียง แต่ดูเหมือนว่าการมาครั้งนี้จะมีหนึ่งคนที่นิ่งอึ้งไม่พูดอะไร“พี่กร พี่ชม กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะทำไมไม่โทรบอกจะได้ไปรับ”“พี่อยากจะเซอร์ไพร์ทน้องเดียร์ด้วย”คนตัวเล็กฟังแล้วพยักหน้ารับยิ้ม ๆ“สวัส

    Last Updated : 2025-02-21
  • เปลืองใจ   บทที่ 8

    “วันนี้ใครมาคุณเตมารับหรือเปล่าน่ะเดียร์” เสียงของเพื่อนร่วมงานถามอย่างเป็นปกติโดยที่ไม่มีอะไรพิเศษ มันเป็นประโยคที่แสนจะเรียบง่ายก็ตาม แต่มันก็ชินเสียแล้วสำหรับภัคธีมา“วันนี้กลับเองพอดีพี่เตมีประชุมน่ะ” เธอตอบกลับยิ้ม ๆ“งั้นดีเลย คุณเตไม่มางั้นเราไปหาอะไรกินกันมั้ย”ภัคธีมานิ่งราวกับคิดอยู่ครู่ว่ามีงานค้างหรืออะไรที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จหรือเปล่า แต่เมื่อทุกิย่างไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไรเธอจึงพยักหน้าตอบตกลง เพราะเธอเองหลังจากที่หมั้นกับเตชินท์ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเลย วันหยุดก็อยู่แต่กับชายหนุ่มตั้งแต่เช้าจรดค่ำเรียกว่าตัวติดกันจนแทบจะเป็นปาท่องโก๋ก็ว่าได้“แน่นะว่าไปได้ ไม่ใช่ไปถึงร้านแล้วคุณเตชินท์สุดหล่อของเธอโทรฯหาอีกล่ะ” ตะวันวาดแซวเพื่อนยิ้ม ๆ เพราะมองเพื่อนแววตานั้นเต็มไปด้วยความรักเมื่อพูดถึงคู่หมั้นหนุ่มเพราะตะวันวาดเองเพิ่งรู้มาจากเพื่อนว่าเตชินท์เป็นรักแรกของเธอตั้งแต่สมัยเด็กแต่ด้วยความต่างอะไรหลาย ๆ อย่างเลยไม่อาจบอกไป และจำได้ช่วงตอนมัธยมเหมือยอีกฝ่ายจะมีคนรักที่กำลังคบกันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าใคร ทำได้เพียงแค่แอบมองอยู

    Last Updated : 2025-02-22
  • เปลืองใจ   บทที่ 9

    หลายเดือนผ่านไป หลังจากที่งานมั่นของทั้งคู่ได้จัดขึ้นเรียบร้อยรวมทั้งผู้คนหมู่มากรู้เรื่องราวของสองหนุ่มสาวไปบ้างแล้ว ทุกคนต่างใช้ชีวิตกันตามปกติเช่นเดิมในทุก ๆวัน“งานเมื่อไหร่จะเรียบร้อยสักทีเหนื่อยไปหมดแล้ว” ร่างเล็กแต่สูงเพรียวของภัคธีมานั่งอยู่หน้าแลปท็อปของตัวเองพลางแก้งานให้ลูกค้ารายใหม่และรายเก่าที่ยังไม่เรียบร้อยดีจนแทบหัวหมุน แต่ทว่าเธอนั้นโชคดีหน่อยทั่งานของเตชินท์นั้นเรียบร้อยไปเกินครึ่งแล้ว เธอเทียวลงไปดูงานเองแทบจะทุกครั้งตามคำสั่งของเจ้านายอย่างธีรัตม์“เดี๋ยวนี้บ่นเก่งจริง ๆ นะเพื่อนฉันเนี่ย” “ก็ปกติมั้ยที่บ่นเนี่ย วันไหนไม่บ่นน่ะสิแปลกแล้ว”“ก็จริงที่พี่เดียร์พูดนะคะพี่ตะวัน ถ้าขิงไม่ได้ยินพี่เดียร์บ่นน่ะวันนั้นจะเป็นอะไรที่แปลกมากจนคิดว่ามีใครทำอะไรให้ไม่พอใจอย่างนั้นแหละ”“ชอบให้บ่นหรือไม่ให้บ่นล่ะเนี่ย”“บ่นนั่นแหละมันเป็นตัวแกดี เงียบ ๆ ขรึม ๆ เหมือนเมื่ออาทิตย์ก่อนมันไม่ดีบรรยากาศอึมครึมบากขอบอก” ตะวันวาดเสริม พลางมองหน้าคนที่นั่งหน้าเครียดกับงานยิ้ม ๆ

    Last Updated : 2025-02-23
  • เปลืองใจ   บทที่ 10

    รีสอร์ทของเตชินท์แทบจะกลายเป็นที่ประจำของภัคธีมาเมื่อหลายเดือนก่อน เพราะเธอมาที่นี่ทำงานอีกทั้งก็มาพักผ่อนกับคนรักของเธอ แต่พักหลังมานี้คนตัวเล็กแทบจะไม่มีเวลามาอีกทั้งงานที่เธอรับผิดชอบก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีเพียงแค่มาช่วยดูรายละเอียดความเรียบร้อยของการตกแต่งต่าง ๆ ว่าเป็นไปตามที่เธออกแบบหรือเปล่า“เข้าไปข้างในกัน”สองพี่น้องเดินตรงเข้าไปข้างในรีสอร์ทของเตชินท์ เพื่อที่จะให้ภัคธีมาคุยประบความเข้าใจกับเพื่อนของตัวเอง ทั้งสองเดินหาอยู่นานสองนานก็ยังไม่พบ จึงเอ่ยถามพนักงานที่อยู่แต่นั้นว่าเห็นเจ้าของรีสอร์ทหนุ่มอยู่ที่ไหน หลังจากที่ได้คำตอบแล้วจึงรีบเดินตรงไปที่นั่นทันที ในยามนี้ท้องฟ้าเริ่มที่จะมืดพอสมควรตอนนี้มันเริ่มค่ำแล้วเพราะจากคำบอกเล่าของพนกงานชายและหญิงสองคนนั้นตอบมา ว่าเห็นเจ้านายกำลังนั่งดื่มกับเพื่อนอยู่ที่บ้านพักของตนเองที่ท้ายหาดข้างบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างได้ไม่นาน ก็ได้ยอนเสียงสนทนาที่ค่อย ๆ ดังขั้นมา“มึงทำจริงเหรอวะที่มึงหมั้นกับน้องเดียร์เพราะอยากเอาคืนไอ้กรที่มันเคยทำกับมึงไว้ใช่ไหม”ตุลธรถามเพื่อนอย่างสงสัย ผู้ร่ว

    Last Updated : 2025-02-24
  • เปลืองใจ   บทส่งท้าย

    “มาที่นี่ทำไมวะ” พี่ชายของภัคธีมาถามราวกับไม่ได้เป็นมิตรเสียอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่จัดการปัญหาที่ค้างคาแล้ว “กูมาหาเดียร์ เดียร์อยู่ข้างในใช่ไหม”“อยู่ แต่มึงเข้าไปน้องกูก็ไม่อยากเจอมึงอยู่ดี” ธนินบอกไปตามตรงหลังจากที่สังเกตุอาการของน้องตัวเอง“แต่กูอยากคุยกับเดียร์จริงๆ”เสียงของชายหนุ่มอ้อนวอนคนตรงหน้าอย่างขอความเห็นใจ พลางกวาดสายตามองเข้าไปข้างในบ้านด้วยความคุ้นเคย แต่กลับไปสะดุดกับร่างคุ้นตาที่แสนคิดถึงที่เดินออกมาจากในครัวและเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสอง“เดียร์เป็นยังไงบ้าง คุยกับพี่หน่อย”หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกของคนที่ทำร้ายจิตใจของเธอไม่อาจลืม ผู้ชายคนที่เธอมอบหัวทั้งดวงเอาไปให้เขาโยนทิ้ง ภัคธีมามองไปทางเตชินท์ที่ยืนอยู่หน้าพี่ชายเธอครู่หนึ่งก่อนจะเดินขึ้นห้องไปทำทีเป็นไม่สนใจ แต่ในใจของเธอนั้นก็ยังคงรักเขาอยู่ ด้วยความที่บาดแผลที่เธอได้รับมานั้นเพิ่งสด ๆ ร้อน ๆ ขอเวลาให้ตัวเองได้ทบทวนอะไรต่อมิอะไรเสียหน่อยว่าจะเอาอย่างไรต่อไป“เดียร์พี่ขอโทษคุยกับพี่ก่อน”“มึงให้เวลาน้อง

    Last Updated : 2025-02-25

Latest chapter

  • เปลืองใจ   บทส่งท้าย

    “มาที่นี่ทำไมวะ” พี่ชายของภัคธีมาถามราวกับไม่ได้เป็นมิตรเสียอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่จัดการปัญหาที่ค้างคาแล้ว “กูมาหาเดียร์ เดียร์อยู่ข้างในใช่ไหม”“อยู่ แต่มึงเข้าไปน้องกูก็ไม่อยากเจอมึงอยู่ดี” ธนินบอกไปตามตรงหลังจากที่สังเกตุอาการของน้องตัวเอง“แต่กูอยากคุยกับเดียร์จริงๆ”เสียงของชายหนุ่มอ้อนวอนคนตรงหน้าอย่างขอความเห็นใจ พลางกวาดสายตามองเข้าไปข้างในบ้านด้วยความคุ้นเคย แต่กลับไปสะดุดกับร่างคุ้นตาที่แสนคิดถึงที่เดินออกมาจากในครัวและเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสอง“เดียร์เป็นยังไงบ้าง คุยกับพี่หน่อย”หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกของคนที่ทำร้ายจิตใจของเธอไม่อาจลืม ผู้ชายคนที่เธอมอบหัวทั้งดวงเอาไปให้เขาโยนทิ้ง ภัคธีมามองไปทางเตชินท์ที่ยืนอยู่หน้าพี่ชายเธอครู่หนึ่งก่อนจะเดินขึ้นห้องไปทำทีเป็นไม่สนใจ แต่ในใจของเธอนั้นก็ยังคงรักเขาอยู่ ด้วยความที่บาดแผลที่เธอได้รับมานั้นเพิ่งสด ๆ ร้อน ๆ ขอเวลาให้ตัวเองได้ทบทวนอะไรต่อมิอะไรเสียหน่อยว่าจะเอาอย่างไรต่อไป“เดียร์พี่ขอโทษคุยกับพี่ก่อน”“มึงให้เวลาน้อง

  • เปลืองใจ   บทที่ 10

    รีสอร์ทของเตชินท์แทบจะกลายเป็นที่ประจำของภัคธีมาเมื่อหลายเดือนก่อน เพราะเธอมาที่นี่ทำงานอีกทั้งก็มาพักผ่อนกับคนรักของเธอ แต่พักหลังมานี้คนตัวเล็กแทบจะไม่มีเวลามาอีกทั้งงานที่เธอรับผิดชอบก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีเพียงแค่มาช่วยดูรายละเอียดความเรียบร้อยของการตกแต่งต่าง ๆ ว่าเป็นไปตามที่เธออกแบบหรือเปล่า“เข้าไปข้างในกัน”สองพี่น้องเดินตรงเข้าไปข้างในรีสอร์ทของเตชินท์ เพื่อที่จะให้ภัคธีมาคุยประบความเข้าใจกับเพื่อนของตัวเอง ทั้งสองเดินหาอยู่นานสองนานก็ยังไม่พบ จึงเอ่ยถามพนักงานที่อยู่แต่นั้นว่าเห็นเจ้าของรีสอร์ทหนุ่มอยู่ที่ไหน หลังจากที่ได้คำตอบแล้วจึงรีบเดินตรงไปที่นั่นทันที ในยามนี้ท้องฟ้าเริ่มที่จะมืดพอสมควรตอนนี้มันเริ่มค่ำแล้วเพราะจากคำบอกเล่าของพนกงานชายและหญิงสองคนนั้นตอบมา ว่าเห็นเจ้านายกำลังนั่งดื่มกับเพื่อนอยู่ที่บ้านพักของตนเองที่ท้ายหาดข้างบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างได้ไม่นาน ก็ได้ยอนเสียงสนทนาที่ค่อย ๆ ดังขั้นมา“มึงทำจริงเหรอวะที่มึงหมั้นกับน้องเดียร์เพราะอยากเอาคืนไอ้กรที่มันเคยทำกับมึงไว้ใช่ไหม”ตุลธรถามเพื่อนอย่างสงสัย ผู้ร่ว

  • เปลืองใจ   บทที่ 9

    หลายเดือนผ่านไป หลังจากที่งานมั่นของทั้งคู่ได้จัดขึ้นเรียบร้อยรวมทั้งผู้คนหมู่มากรู้เรื่องราวของสองหนุ่มสาวไปบ้างแล้ว ทุกคนต่างใช้ชีวิตกันตามปกติเช่นเดิมในทุก ๆวัน“งานเมื่อไหร่จะเรียบร้อยสักทีเหนื่อยไปหมดแล้ว” ร่างเล็กแต่สูงเพรียวของภัคธีมานั่งอยู่หน้าแลปท็อปของตัวเองพลางแก้งานให้ลูกค้ารายใหม่และรายเก่าที่ยังไม่เรียบร้อยดีจนแทบหัวหมุน แต่ทว่าเธอนั้นโชคดีหน่อยทั่งานของเตชินท์นั้นเรียบร้อยไปเกินครึ่งแล้ว เธอเทียวลงไปดูงานเองแทบจะทุกครั้งตามคำสั่งของเจ้านายอย่างธีรัตม์“เดี๋ยวนี้บ่นเก่งจริง ๆ นะเพื่อนฉันเนี่ย” “ก็ปกติมั้ยที่บ่นเนี่ย วันไหนไม่บ่นน่ะสิแปลกแล้ว”“ก็จริงที่พี่เดียร์พูดนะคะพี่ตะวัน ถ้าขิงไม่ได้ยินพี่เดียร์บ่นน่ะวันนั้นจะเป็นอะไรที่แปลกมากจนคิดว่ามีใครทำอะไรให้ไม่พอใจอย่างนั้นแหละ”“ชอบให้บ่นหรือไม่ให้บ่นล่ะเนี่ย”“บ่นนั่นแหละมันเป็นตัวแกดี เงียบ ๆ ขรึม ๆ เหมือนเมื่ออาทิตย์ก่อนมันไม่ดีบรรยากาศอึมครึมบากขอบอก” ตะวันวาดเสริม พลางมองหน้าคนที่นั่งหน้าเครียดกับงานยิ้ม ๆ

  • เปลืองใจ   บทที่ 8

    “วันนี้ใครมาคุณเตมารับหรือเปล่าน่ะเดียร์” เสียงของเพื่อนร่วมงานถามอย่างเป็นปกติโดยที่ไม่มีอะไรพิเศษ มันเป็นประโยคที่แสนจะเรียบง่ายก็ตาม แต่มันก็ชินเสียแล้วสำหรับภัคธีมา“วันนี้กลับเองพอดีพี่เตมีประชุมน่ะ” เธอตอบกลับยิ้ม ๆ“งั้นดีเลย คุณเตไม่มางั้นเราไปหาอะไรกินกันมั้ย”ภัคธีมานิ่งราวกับคิดอยู่ครู่ว่ามีงานค้างหรืออะไรที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จหรือเปล่า แต่เมื่อทุกิย่างไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไรเธอจึงพยักหน้าตอบตกลง เพราะเธอเองหลังจากที่หมั้นกับเตชินท์ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเลย วันหยุดก็อยู่แต่กับชายหนุ่มตั้งแต่เช้าจรดค่ำเรียกว่าตัวติดกันจนแทบจะเป็นปาท่องโก๋ก็ว่าได้“แน่นะว่าไปได้ ไม่ใช่ไปถึงร้านแล้วคุณเตชินท์สุดหล่อของเธอโทรฯหาอีกล่ะ” ตะวันวาดแซวเพื่อนยิ้ม ๆ เพราะมองเพื่อนแววตานั้นเต็มไปด้วยความรักเมื่อพูดถึงคู่หมั้นหนุ่มเพราะตะวันวาดเองเพิ่งรู้มาจากเพื่อนว่าเตชินท์เป็นรักแรกของเธอตั้งแต่สมัยเด็กแต่ด้วยความต่างอะไรหลาย ๆ อย่างเลยไม่อาจบอกไป และจำได้ช่วงตอนมัธยมเหมือยอีกฝ่ายจะมีคนรักที่กำลังคบกันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าใคร ทำได้เพียงแค่แอบมองอยู

  • เปลืองใจ   บทที่ 7

    “กรทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”น้ำเสียงหวานละมุนของใครบางคนดังมาแต่ไกล เจ้าหล่อนเห็นคนรักของตัวเองเดินมาหยุดที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานสองนาน ไม่ยอมเดินเข้าไปสักทีตนจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปถามไกล ๆ แต่เสียงสนทนาของคนที่อยู่ด้านในนั้นช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน‘ทำไมเสียงมันคุ้น ๆ อะไรแบบนี้ง’“เปล่าหรอกไม่มีอะไร” ธนินหันไปตอบแฟนสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ให้ผิดสังเกตว่าตนกำลังคิดเรื่องราวบางอย่างจึงรีบบอกปัดออกไป“งั้นเข้าไปหาคุณย่าดีกว่า เหมือนชมได้ยินเสียงของน้องเดียร์น่าจะอยู่ข้างในกับคุณย่าเหมือนกัน” ชลิตาแฟนสาวของธนินพูดขึ้นพร้อมทั้งเดินนำหน้าเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งยกมือทักทายย่าอ่อนศรี“สวัสดีค่ะย่า น้องเดียร์”เสียงทักทายของผู้มาใหม่ทำเอาบทสนทนาที่กำลังสนุกคึกครื้นเมื่อครู่นี้เงียบลง ทั้งสามคนพร้อมใจกันหันไปมองตามเสียง แต่ดูเหมือนว่าการมาครั้งนี้จะมีหนึ่งคนที่นิ่งอึ้งไม่พูดอะไร“พี่กร พี่ชม กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะทำไมไม่โทรบอกจะได้ไปรับ”“พี่อยากจะเซอร์ไพร์ทน้องเดียร์ด้วย”คนตัวเล็กฟังแล้วพยักหน้ารับยิ้ม ๆ“สวัส

  • เปลืองใจ   บทที่ 6

    ชีวิตการทำงานที่แสนราบเรียบของภัคธีมาดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ทุกคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเตชินท์ลูกค้ารายใหญ่ของทางบริษัท เหมือนมีบางอย่างที่ผิดปกเกี่ยวกับอารมณ์ของมัณฑนากรสาวที่ช่วงหลัง ๆ อารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก“ทุกคนเดียร์ซื้อชานมไข่มุกหวานน้อยมาฝากค่ะทุกคน”คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาภายออฟฟิศหลังจากที่เธอออกไปคุยงานกับลูกค้าอีกคนหนึ่งมาและระหว่างทางที่ขับรถกลับออฟฟิศนั้นเกิดอยากจะกินชานมไข่มุกของร้านที่อยู่ข้างล่างเข้าพอดีในจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังจะสั่งคนที่เพิ่งแยกออกมาจะเธอเมื่อช่วงเช้สตรู่เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งจ่ายค่าเครื่องดื่มอีกทั้งยังสั่งเผื่อพนักงานคนอื่น ๆ อีกหลายสิบแก้วให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆก่อนที่เตชินท์จะเดินจากไปเธอถามเขาว่ามมาจ่ายค่าเครื่องดื่มพวกนี้ให้เธอทำไมกันเขาบอกเธอแค่ว่า ‘จ่ายเงินให้เมียมันผิดตรงไหน’ คำพูดของเขาทำเอาเธอนิ่งเงียบไม่สามารถตอบโต้อะไรเขาได้เลย เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมามันคือเรื่องจริง“วันนี้ฝนจะตกไหมเนี่ย““นั่นสิ พักหลัง ๆ

  • เปลืองใจ   บทที่ 5

    “ทำไมไม่มาดูตอนกลางวัน”เตชินท์เดินเคียงข้างกับภัคธีมาเข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ เพื่อที่จะดูหนังรอบดึกกันสองต่อสอง เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาดูหนังกันเวลานี้“ก็ตอนกลางวันพี่เตกับเดียร์ก็ทำงานกันนี่คะ แล้วจะเอาเวลาไหนมาดู” คนตัวเล็กที่ถือถังป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำยืนอยู่ตรงหน้า“กลางวันพี่ว่าง”“ก็พี่เป็นเจ้านายเขาจะทำงานก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่เดียร์เป็นลูกจ้างเขานะจะลาหยุดบ่อยก็ไม่ดี”“ลาหยุดไม่ดี งั้นลาออกจากงานมาพี่เลี้ยงเอง”“พูดเป็นเล่นน่าพี่เต” ประโยคเมื่อครู่นี้ทำเอาคนตัวเล็กตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเธอ ส่วนมากก็แค่หยอกเท่านั้น แต่ที่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันดูต่างออกไปเหลือเกิน“พี่พูดจริง”เตชินท์บอกพลางส่งสายตาหวานซึ้งให้หญิงสาวโยที่เจ้าตัวนั้นไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย ผิดกับภัคธีมาที่คอยมองซ้ายแลขวาราวกับกลัวว่าจะมีคนรู้จักมาเห็นเสียอย่างนั้น เธอจึงตัดสินใจจชวนชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาสีแดงที่อยู่ไม่ห่างมากนัก เพราะหากยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเป็นการขวางทางเดินผ่านไปผ่านมา เวลาของภาพยนต์ที่กำล

  • เปลืองใจ   บทที่ 4

    “มาส่งดอกไม้ให้กับคุณภัคธีมาครับ”พนักงานส่งของบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางกวาดสายตามองหาเจ้าของชื่อว่าจะมีใครออกมารับหรือไม่จากการที่ดูแล้วทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างพากันก้มหน้าก้มตายุ่งงานของตัวเอง“วันนี้ดอกไม้ก็มาอีกหนึ่งช่อใหญ่ ๆ เหมือนเคย” เพื่อนร่วมงานของภัคธีมากลายเป็นคนรับดอกไม้จำเป็นเสียแล้ว เท่าที่นับได้อาทิตย์นี้เป็นช่อที่สามเห็นจะได้แล้ว“พี่เดียร์ได้รับดอกไม้อีกแล้ว”“วันนี้มีข้อความว่ายังไงบ้าง”เพรื่อนร่วมงานถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะเรื่องราวเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังตามจีบมัณฑนากรสาวคนแก่งของที่นี่กระจายไปทั่งบริษัท“ตอบไลน์พี่หน่อย จะดองไว้นานแค่ไหนคนดี”หลังจากเสียงอ่านข้อความในกระดาษการ์ดที่แนบมาด้วยจบทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นพากันหวีดไม่น้อยกับประโยคที่ว่ามา“นี่ขิง เอาไปให้พี่เดียร์ที” คนที่เพิ่งจะรับของมาเมื่อครู่สอดกระดาษการ์ดใบเล็กเอาไว้ที่เดิมก่อนจะส่งให้ผู้ช่วยของหญองสาวก่อนจะเดินตรงเอาช่อดอกไม้แสนสวยไปให้กับภัคธีมาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง ในระหว่างทางที่กำลังจะเอาของไปให้นั้นก็เดินสวนกันกับเ

  • เปลืองใจ   บทที่ 3

    เตชินท์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ้วมือของเขาเคาะเข้ากับโต๊ะเบา ๆ ราวกับกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคมที่คิดว่าเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างแต่กลับจับจ้องไปยังรูปภาพที่อยู่บนหน้าจอ แล็ปท๊อปขนาดใหญ่ที่มีชายหนุ่มกับสาวสวยอีกหนึ่งคนกำลังยืนหวานชื่นท่ามกลางความงดงามของฝรั่งเศษ ก่อนจะลบมันออกจากเครื่องราวกับว่าไม่ต้องการที่จะเห็นมันอีกครั้ง ไม่ว่าภาพหวานชื่นเหล่านั้นจะมีสักเท่าไหร่ชายหนุ่มก็จัดการลบมันออกให้หมดลบมันออกจากหัวใจเพราะเขาเกลียดผู้หญิงทรยศคนนี้เหลือเกินระหว่างที่เขากำลังลบรูปภาพ อยู่ก็เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าสวยหวานออกไปทางคมเล็กน้อยตามแบบฉบับราวกับสาวลูกครึ่ง รอยยิ้มที่ชวนหลงไหลไปกับสดใสตามวัยของเธอเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะมาหลายปีก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ยังเหมือนเคยแต่อาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาภัคธีมาต้องไม่ได้เจอกันมาหลายปี ครั้งนี้เขาตั้งใจกลับมาพบเธออีกครั้ง สายตาคมเข้มมองงานที่ภัคธีมาส่งมาให้เขาตรวจเช็คอีกครั้งก่อนจะพาเธอเข้าไปดูสถานที่จริงเป็นครั้งที่สอง“คุณเตครับ คุณเดียร์ส่งแบบมาให้คุณเตมาส

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status