เตชินท์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ้วมือของเขาเคาะเข้ากับโต๊ะเบา ๆ ราวกับกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคมที่คิดว่าเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างแต่กลับจับจ้องไปยังรูปภาพที่อยู่บนหน้าจอ
แล็ปท๊อปขนาดใหญ่ที่มีชายหนุ่มกับสาวสวยอีกหนึ่งคนกำลังยืนหวานชื่นท่ามกลางความงดงามของฝรั่งเศษ ก่อนจะลบมันออกจากเครื่องราวกับว่าไม่ต้องการที่จะเห็นมันอีกครั้ง ไม่ว่าภาพหวานชื่นเหล่านั้นจะมีสักเท่าไหร่ชายหนุ่มก็จัดการลบมันออกให้หมดลบมันออกจากหัวใจเพราะเขาเกลียดผู้หญิงทรยศคนนี้เหลือเกิน
ระหว่างที่เขากำลังลบรูปภาพ อยู่ก็เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าสวยหวานออกไปทางคมเล็กน้อยตามแบบฉบับราวกับสาวลูกครึ่ง รอยยิ้มที่ชวนหลงไหลไปกับสดใสตามวัยของเธอเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะมาหลายปีก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ยังเหมือนเคย
แต่อาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาภัคธีมาต้องไม่ได้เจอกันมาหลายปี ครั้งนี้เขาตั้งใจกลับมาพบเธออีกครั้ง สายตาคมเข้มมองงานที่ภัคธีมาส่งมาให้เขาตรวจเช็คอีกครั้งก่อนจะพาเธอเข้าไปดูสถานที่จริงเป็นครั้งที่สอง
“คุณเตครับ คุณเดียร์ส่งแบบมาให้คุณเตมาสองวันแล้วเธอถามผมว่าจะให้เธอเข้าไปดูสถานที่วันไหนครับ”
“สักสองสามวันแล้วกัน”
ชายหนุ่มตอบโดนที่ไม่ละสายตาจากรูปภาพภัคธีมาบนหน้าจอ
“แล้วแบบต้องส่งให้คุณเดียร์แก้ไหมครับ”
“ไม่ต้อง! ผ่านแล้ว แต่ฉันยังอยากจะแกล้งเด็กคนนั้นต่อ”
“เด็กคนนั้น” นิธิเอียงหน้าถามอย่างสงสัยที่ชายหนุ่มพูดถึง
หญิงสาวราวกับรู้จักกันมานานเสียอย่างนั้น“ภัคธีมา”
“นี่มันคุณเดียร์นี่ครับ”
“จำได้ด้วยเหรอ”
“ใบหน้าของคุณเดียร์เธอมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากนะครับ ตอนที่เข้าไปฟังเธอพูดครั้งก่อนพนักงานที่บริษัทต่างชมความสวย เก่งและมากความสามารถของคุณเดียร์มากเลยครับ”
เลขาหนุ่มบอกอย่างชื่นชมในความสวยและความสามารถของสาวเจ้าไม่ว่าจะด้านไหนเธอก็เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง
“เหรอ”
ชายหนุ่มตอบเพียงสั้น ๆ เท่านั้นโดยที่ไม่มีบทสนทนาอะไรต่อแม้แต่นิดเดียว สายตาคมหลุบลงต่ำเล็กน้อยก่อนที่จเหลือบมองราวกับคิดอะไรบางอย่างออก
“นิธิดูตารางว่าฉันว่างวันไหน แล้วนัดเดียร์ไปดูรีสอร์ท”
“ได้ครับ เดี่ยวผมจัดให้”
“บอกผู้จัดการรเตรียมห้องพักเอาไว้ด้วย”
หลังจากที่เจ้านายหนุ่มสั่งงานกับเลขาคนสนิทเรียบร้อยแล้ว สายตาคมกลับจับจ้องรูปภาพบนหน้าจออีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่รูปภาพของภัคธีมาคนเดียว ทว่าภาพถ่ายรูปนี้กลับมีกันอยู่สี่คนนั่นก็คือตัวของเขาเอง ภัคธีมาในชุดนักเรียนมัธยม กับผู้ชายและผู้หญิงอีกสองคนส่งยิ้มให้กล้องเช่นเดียวกัน
ซึ่งทั้งสองคนนั้นไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหนนอกเสียจากผู้หญิงทรยศอย่าง ชลิตา และ ธนิน
แววตาที่ของชายหนุ่มกลับแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีหลังจากที่ได้เห็นทั้งคู่
‘ในเมื่อพวกมึงสองคนหักหลังกู พวกมึงก็อย่ามีความสุขเลย โดยเฉพาะน้องสาวของมึง’
แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้วจะให้หยุดทุกอย่างกลางทางได้อย่างใร ทั้งความรู้สึกของภัคธีมายังมีต่อเขาเช่นเดิม ไม่ว่ากี่ปีมันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง วันนั้นน้องรักเขาอย่างไรวันนี้ความรักที่สื่อผ่านนัยน์ตาหวานจากที่เขาเห็นมันก็ยังเหมือนเดิม
ภัคธีมายังคงรักเขาอยู่
“ถึงแล้วค่ะพี่ธี ไม่ต้องเป็นห่วง”
ภัคธีมาวางสายหลังจากที่คุยกับธีรัตม์เรียบร้อย เพราะทางเจ้านายหนุ่มนั้นโทรมาถามความเรียบร้อยและความปลอดภัยของคนที่เขาเอ็นดูเหมือนน้องสาวที่ต้องเดินทางขับรถไปดูรีสอร์ตท่าจะต่อเติมและสร้างเพิ่มของเตชินท์ที่ชะอำโดยที่มีผู้ช่วยนั่งมาเป็นเพื่อนร่วมทางอีกคนหนึ่ง
สายตาเธอหันไปมองผู้ช่วยที่หลับคอพับคออ่อนไม่มีท่าทีว่าจะตื่น ๆ ดูท่าทางคนข้างจะอ่อนเพลียจากการเดินทาง หลังมือเรียวเคาะเข้ากับกระจกรถยนต์ของตนเพื่อที่จะปลุกให้น้องผู้ช่วยลงจากรถได้แล้ว เพราะตอนนี้พนักงานของที่นี้เดินตรงเข้ามาหาแล้ว
“สวัสดีครับคุณภัคธีมาใช่ไหมครับ” พนักงานสอบถามด้วยความสุภาพ
“ค่ะ ฉันเอง”
“คุณเตให้ผมพาคุณภัคธีมากับผู้ช่วยไปที่ห้องพักก่อนครับ และฝากผมขอโทษที่ไม่ได้ที่ไม่ได้ออกมาต้อนรับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็มาก่อนเวลาเหมือนกัน”
ภัคธีมาตอบอย่างเกรงใจเพราะเธอนั้นเดินทางมาก่อนวันนัดหนึ่งวัน โดยที่เธอก็โทรมาบอกเตชินท์แล้วเช่นกัน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ติดอะไรที่หญิงสาวมาก่อนกำหนด ในคราแรกเขาบอกจะมาต้อนรับและพาดูสถานที่เองตอนที่มาถึง
“เชิญคุณภัคธีมาตามผมมาทางนี้เลยครับ”
“ขิงเอาของแล้วเดินตามมา” คนตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะหันไปคุยกับน้องที่มาด้วย
“ค่ะพี่เดียร์ ขิงขอโทษนะคะหลับมาตลอดทางเลย”สาวน้อยรีบขอโทษขอโพยหญิงสาวงที่เจ้านายให้ตอนนั่งรถมาเป็นเพื่อนร่วมทางเพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ แต่นั่งไปไม่กี่ชั่วโมงก็เผลอหลักเสียอย่างนั้น
“ไม่เป็นไร พี่ขับรถคนเดียวได้สบายมากน่ะ” คนตัวเล็กตอบอย่างไม่ใส่ใจ เพราะไม่ว่าจะมีเพื่อนร่วมทางหรือไม่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอแม้แต่น้อย
“งั้นมาเดี๋ยวขิงช่วย”
ขิง ขนิษฐารีบขันอาสาช่วยหญิงสาวถือของอย่างรวดเร็ว เพราะในมือของรุ่นพี่เธอนั้นมีของมากมายไหนจะอุปกรณ์ทำงานและกระเป๋าเสื้อผ้าอีก ทั้งสองสาวเอาสัมภาระของตัวเองและรีบเดินตามพนักงานชายคนนั้นไป
บรรยากาศที่ร่มรื่นและสายลมแผ่ว ๆ ที่พัดผ่านกระทะกายทำเอารู้สึกดีและสดชื่นไม่น้อย หาได้ยากกับชีวิตการทำงานในเมืองนาน ๆ ทีที่จะออกต่างจังหวัดแบบนี้ทำเอาผ่อนคลายจากการทำงานได้มากเลยทีเดียว
“พี่เดียร์ที่นี่อากาศดีมากเลยนะคะ”
“ใช่พี่เห็นด้วยเลย แถมทางนั้นน่าจะเป็นท้ายหาดใช่ไหมนั่น”
สายตาหวานกวาดมองไปรอบ ๆ ที่มีแต่ความสดชื่น เธอเริ่มอยากจะนอนพักอยู่ที่นี่เสียแล้วสิ
“ใช่ครับ ทางนั้นจะเป็นทางท้ายชายหาดครับ แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีคนไป” พนักงานชายคนเดิมตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพพร้อมทั้งพาทั้งสองสาวที่เจ้านายหนุ่มสั่งให้ดูแลเป็นอย่างดีไม่ว่าต้องการอะไรก็หามาให้
“ถึงแล้วครับ นี่คือกุญแจครับ”
“ขอบคุณค่ะ เอ่อขอถามเพิ่มได้ไหมคะ” ภัคธีมากล่าวขอบคุณและถามเพิ่มเติมเพราะเธอเองนั้นคาใจไม่น้อย ว่าทำไมถึงมีใครไปที่นั่นตามที่พนักงานบอก เพราะเท่าที่มองผ่าน ๆ ดวงตา วิวตรงนั้นสวยมากเหมาะกับการถ่ายรู้ลงโชเชียลมีเดียไม่น้อย
“ท้ายหาดเป็นบ้านพักของคุณเตครับ”
“อ่อ ขอบคุณค่ะ” เธอตอบพลางพยักหน้ารับเล็กน้อย
“ถ้าคุณทั้งสองคนตั้งการอะไรเพิ่มเติมแจ้งมาที่ผมได้นะครับ”
“ได้ค่ะ”
หลังจากที่รู้ว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นที่ของใครและทำไมถึงไม่มีใครเข้าไป ขอตัวพักผ่อนเพราะการเดินทางมาใช้เวลานาน จึงพากันเข้าห้องพักที่ตกแต่งเรียบง่ายสไตล์มินิมอลทันสมัย ของภายในห้องดูเข้ากันอีกทั้งไม่น่าจะต้องออกแบบเพิ่มเติมเลย
“ห้องสวยมากเลยนะพี่เดียร์”
ขนิษฐามองไปรอบ ๆ ห้องสำรวจดูว่าภายในก้องมีอะไรบ้าง พลางเดินไปเดินมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าในห้องนี้มีอะไรบ้าง ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานของทางรีสอร์ท
“นั้นสิพี่ว่ามันสวยมากเลยนะ แถมยังน่าอยู่น่าพักอีกต่างหาก” ภัคธีมาบอกพร้อมทั้งวางข้าวของของตนลงกับโต๊ะทำงานที่มีอยู่ภายในห้อง ก่อนจะเอางานอแอกมาดูเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้
“พี่เดียร์ไม่พักสักหน่อยเหรอคะขับรถตั้งสองสามชั่วโมง”
“ถ้าขิงง่วงขิงก็นอนเลย เดี๋ยวพี่ดูงานสักหน่อยค่อยนอน”
“ขิงว่าขิงหลับมาเต็มที่แล้ว ว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย พี่เดียร์กินอะไรไหมคะ เดี๋ยวขิงซื้อกลับมาให้”
“ไม่เป็นไร ไปเดินเล่นก็ระวังตัวด้วย”
เธอบอกอย่างเป็นห่วง ถึงแม้ว่าขนิษฐาจะโตแล้วก็ตามแต่อย่างไรก็เถอะเป็นน้องเป็นนุ่งยังไงเธอก็เป็นห่วงเป็นธรรมดา สาวเจ้ารับปากเป็นหมั่นเป็นเหมาะว่าจะดูแลตัวเองอย่างดี หากถ่ายรูปจนพอใจแล้วจะรีบกลับ ส่วนคนที่ไม่ออกจากห้องพักนั่งดูงานที่ทำค้างไว้เล็กน้อย ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนกับเตียงนุ่ม ๆ และหลับไปเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความเหนื่อยอ่อน
เนื่องจากเธอมีงานที่ต้องประชุมเพิ่มเติมกับทีมงานกว่าจะได้พักผ่อนก็แทบจะเข้าเช้าของอีกวัน เรียกว่าทำงานหามรุ่งหามค่ำก็ว่าได้ เพราะต้องการที่จะทำงานแก้งานในจุดต่าง ๆ ให้เรียบร้อยรวมทั้งงานของภัคธีมาที่ถูกส่งให้ทีมต่าง ๆ ดูแลต่อ
เวลาล่วงเลยจนกระทั่งตกเย็นที่บรรยากาศดีกว่าตอนกลางวันที่มาถึง ภัคธีมาตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าที่แช่มชื่นไม่เหนื่อยอ่อนเหมือนตอนที่มาถึงใหม่ ๆ เธอจัดการลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ออกไปเดินเล่นรับลมทะเลยามเย็น เผลอ ๆ บางครั้งเธอจะชวนน้องที่มาด้วยกันไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืนที่เธอเปิดดูแล้วว่ามีของขายมากมายรวมทั้งอาหารการกินด้วยที่มากมายละลานตาเต็มไปหมดตามเพจรีวิวการท่องเที่ยว
“พี่เดียร์เราไปถ่ายรูปกันเถอะ” ขนิษฐารีบเรียกหญิงสาวที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำพอดี
“ไปเดินเล่นหน่อยก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวค่ำๆไปเดินตลาดกันดีไหม”
“ไปค่ะ ขิงอยากหาขนมที่ตลาด”
หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้วสองสาวที่อายุห่างกันเพียงไม่กี่ปีก็พากันเดินชมทิวทัศน์ความสวยงามยามเย็นไปพลางถ่ายรูปไปพลางมาทำงานทั้งทีจะพลาดโอกาสที่จะมีรู้สวย ๆ อัพลงโซเชียลมีเดียเสียหน่อย เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และท่าทางกริยาต่าง ๆ ของภัคธีมาที่สลับกันถ่ายรูปให้กันและกันอยู่ในสายตาของใครบางคนตั้งแต่เธอเดินออกมาแล้ว
แต่เลือกที่จะยืนมองคนตัวเล็กกับท้องทะเลตอนนี้พร้อมกับยกยิ้มมุมปากสายตาคมจับจองไปที่ภัคธีมาไม่วางตาจนกระทั้งหญิงสาวและรุ่นน้องเดินหายลับออกไป คาดว่าน่าพากันไปเดินเล่นทีตลาดที่อยู่ไม่ห่างจากรีสอร์ทของเขา
“เธอต้องเป็นของพี่”
“ตรงนี้ผมอยากได้แบบเรียบ ๆ แต่มีลูกเล่นที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ภายในห้องด้วย แต่ก็ต้องไม่ลืมที่ความร่มรื่นผ่อนคลายมองไปทางไหนสบายตา”
เจ้าของรีสอร์ตบอกความต้องการของตนเองให้กับมัณฑนากรสาวและผู้ช่วยของเธอโน้ตสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นรวมทั้งสิ่งที่ต้องรับและแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเดิมก่อนที่จะส่งงานให้อีกฝ่ายต่อไป
“โอเคค่ะ เท่านี้คุณเตชินท์ต้องการให้เพิ่ม”
“ครับ ส่วนค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ไม่มีปัญหา”
“ได้ค่ะ อีกประมาณสัปดาห์หน้าฉันจะส่งงานออกแบบให้ดูอีกครั้งนะคะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงเรียบราบแต่เต็มไปด้วยความหวั่นเกรงกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
“ขอบคุณครับ”
ภัคธีมาพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนหันไปหาขนิษฐาน้องผู้ช่วยของตนเอง “โน้ตไว้หมดไหม สรุปรายละเอียดมาให้พี่ เดี๋ยวพี่จะดูงานต่อคืนนี้”
“ได้ค่ะพี่เดียร์”
“คุณเตชินท์ต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกได้นะคะ”
“ครับ”
“งั้นขอตัวก่อนนะคะ” เธอหันไปบอกเขาด้วยความสุภาพพร้อมทั้งส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อย
“เดียร์” ชายหนุ่มเรียกเขาเสียงนุ่มในจังหวะที่เธอกำลังจะเดินออกไปทำเองเจ้าของชื่อรวมทั้งน้องผู้ช่วยหยุดชะงักหันมามองคนเรียกที่อยู่ทางด้านหลังของภัคธีมา
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับเดียร์”
“เอ่องั้นขิงไปนั่งสรุปงานที่คาเฟ่รอพี่นะคะ”
“ครับ อยากสั่งอะไรสั่งได้เลย เดี๋ยวผมจัดการเอง”
แต่ยังไม่ทันที่ภัคธีมาจะเอ่ยปากบอกก็ถูกเตชินท์เอ่ยขึ้นก่อนเสียอย่างนั้น ทำเองเธอเองถึงกับงวยงงไม่น้อยว่าทำไมเขาถึงต้องพูดแทรกเธอ
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณเต”
คนตัวเล็กที่มีอุปกรณ์ทำมาหากินอยู่ในมือถามขึ้น
“ตรงนี้มีแค่เรา เรียกว่าพี่เตดีกว่า”
“ค่ะ พี่เตมีอะไรจะคุยกับเดียร์เหรอคะ” สาวเจ้าถามอย่างสงสัยเพราะน้อยครั้งที่ทั้งเขาและเธอจะมีโอกาสที่จะได้คุยกันสองต่อสองแบบนี้
“เย็นนี้มาทานข้าวกับพี่หน่อย”
“เนื่องในโอกาสอะไรเหรอคะ”
“โอกาสที่เราได้เจอกันอีกครั้งไง”
โอกาสที่เขาบอกว่าได้พบกันอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่สำหรับตน เธอพบเขาโดยบังเอิญหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีตังหวะและโอกาสที่จะได้คุย อีกอย่างด้านภัคธีมาเองก็ไม่ได้มีธุระอะไรที่ต้องคุยกับเขาสองต่อสอง
ทว่าในตอนที่พบกันเธอมักจะไปพร้อมพี่ชายเสียมากกว่า
เพราะเตชินท์กับพี่ชายของเธอเป็นเพื่อนกัน
“เราเจอกันหลายครั้งแล้วนี่คะพี่เต”
“แต่ทุกครั้งมันก็เป็นเรื่องงานทั้งนั้น พี่อยากคุยกับเราโดยที่ไม่มีงานเข้ามาเดี่ยวข้อง” เตชิท์ตอบเสียงทุ้มนุ่มพลางค่อย ๆ เดินเข้าไปหาหญิงสาว ทำเองคนตังเล็กที่ไม่ทันตั้งตัวต้องผละถอยออกเช่นกัน
‘นี่เขากำลังจะทำอะไรเนี่ย’
“เอ่อ พี่เตจะทำอะไรคะ” เธอถามพลางหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“แมลงมันเกาะที่ไหล่ของเดียร์น่ะ”
เตชินท์ยื่นแขนออกไปปัดแมลงที่เกาะไหล่ของหญิงสาวให้บินออกไปก่อนจะโปรยยิ้มเจ้าเสน่ห์ให้คนตรงหน้า เขาลอบสังเกตุใบหน้าของภัคธีมาแดงระเรื่อราวกับกำลังขวยเขินในการกระทำของตน
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”
“ว่ายังไงพี่รอคำตอบจากเดียร์อยู่ ไปทานข้าวกับพี่นะเย็นนี้ “
“ได้ค่ะ”
“ว่าแต่เดียร์อยากทานอะไรที่ไหน”
“ทานที่รีสอร์ตก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องไปไกล” เธอบอกอย่างเกรงใจด้วยความที่เตชินท์เป็นทั้งเพื่อนของพี่ชายอีกทั้งยังเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทด้วยหากจะปฎิเสษก็คงดูไม่ดี
เผลออาจจะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในอนาคตอีกต่างหาก
“ตกลงเดี๋ยวเจอกัน”
“ได้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
“ครับ”
เตชินท์บอกเสียงนุ่มพร้อมทั้งส่งร้อยยิ้มที่แสนละมุนชวนหลงไหลให้กับหญิงสาว เช่นเดียวกับภัคธีมาก็ยิ้มตอบอย่างทำตัวไม่ถูกสักนัก
ชายหนุ่มยืนส่งหญิงสาวจนหายลับออกไป จนกระทั่งมีชายร่างสูงแต่งตัวภูมิฐานดูดีเช่นเดียวกับคนที่ยืนอยู่ก่อนหน้านี้“คิดจะทำอะไรของมึงวะ”
“ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่” คนถูกถามเฉไฉไม่ยอมเอ่ยความต้องการของตนเองที่กำลังจะทำอะไรอยู่ในตอนนี้
“มึงแน่ใจนะว่าไม่มีอะไร”
“อืม” เขาเพียงแค่ขานรับในลำคอเท่านั้นมองเพื่อนสนิทอีกคนอย่างทยากรที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน
“แล้วมึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็นานพอที่จะเห็นมึงคุยกับน้องของไอ้กรมันนั่นแหละ” ทยากรนิ่งไปครู่หนึ่งราวกับคิดและพอที่จะเดาทางของเพื่อนออกว่าคนอย่างมันกำลังจะทำอะไรกันแน่ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาพลางจับสังเกตุท่าทางของเพื่อน “หรือที่มึงเข้าหาน้องเดียร์เพราะจะเอาคืนเรื่องนั้น”
“แล้วยังไงวะ ถ้ากูจะทำ”
“มึงก็รู้ว่ามันหวงน้องของมันจะตาย”
“ยิ่งมันหวงกูยิ่งอยากทำ”
ทั้งสีหน้าแววน้ำเสียงและคำพูดของเตชินท์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อพูดถึงเรื่องเก่าเมื่อในอดีตที่มันยังคงฝังลึกอยู่ภายในใจของเขา ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมานานแล้วก็ตามมันก็ยังไม่อาจที่จะลบเลือนไปจากใจของ
ชายหนุ่มได้แม้แต่น้อย“สายตาแบบนี้กูคงห้ามมึงไม่ได้แล้วใช่ไหม แต่มึงก็ระวังหน่อยแล้วกัน เพราะคนที่เจ็บมามันอาจจะเป็นมึงเอง”
ทยากรรู้ดีว่าไม่อาจจที่จะห้ามเพื่อนของตนที่รู้จักกันมานานได้ หากยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุเพื่อนของตน ก็ได้แต่เตือนด้วยความหวังดีว่าอย่าเอาหัวใจของตัวเองมาเล่น อีกทั้งมันยังพ่วงมาด้วยหัวใจดวงน้อยของ
ภัคธีมาด้วย“แค่มองกูก็รู้ว่าน้องเขารักมึง กูไม่เชื่อว่ามึงจะมองไม่ออกกับสายตาของเดียร์”
“แล้วไงกูไม่สนซะอย่าง ว่าแต่มึงมาหากูถึงที่นี่มีเรื่องอะไร” เตชินท์รีบเปลี่ยนบทสนทนาทันทีพร้อมทั้งถามถึงจขุดหมายว่ามาหาเขาถึงที่มีเรื่องอะไรกันแน่
“เปล่าหรอก แค่อยากเปลี่ยนที่นอนเฉย ๆ”
“แค่นั้น มึงไม่ได้หนีใครมาใช่ไหม” เจ้าของรีสอร์ตหนุ่มถามอย่างรู้ทัน
“เปล่าไปนอนล่ะ”
เตชินท์มองเพื่อนที่เดินโบกมือให้เขาโดยที่ไม่หันกลับมามองจนลับสายตา ถึงแม้ว่าเพื่อนจะเตือนเขาว่าให้ระวังตัวให้ดี ในเมื่อธนินหวงน้องสาวคนเดียวของตัวเองมากขนาดๆไหนเขาก็ไม่กลัว อีกอย่างมันก็ไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทยกว่าจะกลับก็มีเวลาอีกนาน แน่นอนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรฯหานิธิเพื่อให้จัดการเตรียมตัวสำหรับดินเนอร์คืนนี้
‘แม่งเอ้ยพามาทำไมวะ’
แต่แล้วสิ่งที่เขาวางไว้ก็พังลงเมื่อเขาคิดว่าภัคธีมาจะมารับประทานอาหารเย็นกับเขาสองต่อแสง ไม่คิดว่าจะพาก้างขวางคอมาด้วยตัวเบ้อเร้อเช่นนี้
เธอดันพาผู้ช่วยของตัวเองมาร่วมโต๊ะเสียนี่
“มาส่งดอกไม้ให้กับคุณภัคธีมาครับ”พนักงานส่งของบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางกวาดสายตามองหาเจ้าของชื่อว่าจะมีใครออกมารับหรือไม่จากการที่ดูแล้วทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างพากันก้มหน้าก้มตายุ่งงานของตัวเอง“วันนี้ดอกไม้ก็มาอีกหนึ่งช่อใหญ่ ๆ เหมือนเคย” เพื่อนร่วมงานของภัคธีมากลายเป็นคนรับดอกไม้จำเป็นเสียแล้ว เท่าที่นับได้อาทิตย์นี้เป็นช่อที่สามเห็นจะได้แล้ว“พี่เดียร์ได้รับดอกไม้อีกแล้ว”“วันนี้มีข้อความว่ายังไงบ้าง”เพรื่อนร่วมงานถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะเรื่องราวเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังตามจีบมัณฑนากรสาวคนแก่งของที่นี่กระจายไปทั่งบริษัท“ตอบไลน์พี่หน่อย จะดองไว้นานแค่ไหนคนดี”หลังจากเสียงอ่านข้อความในกระดาษการ์ดที่แนบมาด้วยจบทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นพากันหวีดไม่น้อยกับประโยคที่ว่ามา“นี่ขิง เอาไปให้พี่เดียร์ที” คนที่เพิ่งจะรับของมาเมื่อครู่สอดกระดาษการ์ดใบเล็กเอาไว้ที่เดิมก่อนจะส่งให้ผู้ช่วยของหญองสาวก่อนจะเดินตรงเอาช่อดอกไม้แสนสวยไปให้กับภัคธีมาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง ในระหว่างทางที่กำลังจะเอาของไปให้นั้นก็เดินสวนกันกับเ
“ทำไมไม่มาดูตอนกลางวัน”เตชินท์เดินเคียงข้างกับภัคธีมาเข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ เพื่อที่จะดูหนังรอบดึกกันสองต่อสอง เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาดูหนังกันเวลานี้“ก็ตอนกลางวันพี่เตกับเดียร์ก็ทำงานกันนี่คะ แล้วจะเอาเวลาไหนมาดู” คนตัวเล็กที่ถือถังป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำยืนอยู่ตรงหน้า“กลางวันพี่ว่าง”“ก็พี่เป็นเจ้านายเขาจะทำงานก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่เดียร์เป็นลูกจ้างเขานะจะลาหยุดบ่อยก็ไม่ดี”“ลาหยุดไม่ดี งั้นลาออกจากงานมาพี่เลี้ยงเอง”“พูดเป็นเล่นน่าพี่เต” ประโยคเมื่อครู่นี้ทำเอาคนตัวเล็กตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเธอ ส่วนมากก็แค่หยอกเท่านั้น แต่ที่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันดูต่างออกไปเหลือเกิน“พี่พูดจริง”เตชินท์บอกพลางส่งสายตาหวานซึ้งให้หญิงสาวโยที่เจ้าตัวนั้นไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย ผิดกับภัคธีมาที่คอยมองซ้ายแลขวาราวกับกลัวว่าจะมีคนรู้จักมาเห็นเสียอย่างนั้น เธอจึงตัดสินใจจชวนชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาสีแดงที่อยู่ไม่ห่างมากนัก เพราะหากยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเป็นการขวางทางเดินผ่านไปผ่านมา เวลาของภาพยนต์ที่กำล
ชีวิตการทำงานที่แสนราบเรียบของภัคธีมาดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ทุกคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเตชินท์ลูกค้ารายใหญ่ของทางบริษัท เหมือนมีบางอย่างที่ผิดปกเกี่ยวกับอารมณ์ของมัณฑนากรสาวที่ช่วงหลัง ๆ อารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก“ทุกคนเดียร์ซื้อชานมไข่มุกหวานน้อยมาฝากค่ะทุกคน”คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาภายออฟฟิศหลังจากที่เธอออกไปคุยงานกับลูกค้าอีกคนหนึ่งมาและระหว่างทางที่ขับรถกลับออฟฟิศนั้นเกิดอยากจะกินชานมไข่มุกของร้านที่อยู่ข้างล่างเข้าพอดีในจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังจะสั่งคนที่เพิ่งแยกออกมาจะเธอเมื่อช่วงเช้สตรู่เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งจ่ายค่าเครื่องดื่มอีกทั้งยังสั่งเผื่อพนักงานคนอื่น ๆ อีกหลายสิบแก้วให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆก่อนที่เตชินท์จะเดินจากไปเธอถามเขาว่ามมาจ่ายค่าเครื่องดื่มพวกนี้ให้เธอทำไมกันเขาบอกเธอแค่ว่า ‘จ่ายเงินให้เมียมันผิดตรงไหน’ คำพูดของเขาทำเอาเธอนิ่งเงียบไม่สามารถตอบโต้อะไรเขาได้เลย เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมามันคือเรื่องจริง“วันนี้ฝนจะตกไหมเนี่ย““นั่นสิ พักหลัง ๆ
“กรทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”น้ำเสียงหวานละมุนของใครบางคนดังมาแต่ไกล เจ้าหล่อนเห็นคนรักของตัวเองเดินมาหยุดที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานสองนาน ไม่ยอมเดินเข้าไปสักทีตนจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปถามไกล ๆ แต่เสียงสนทนาของคนที่อยู่ด้านในนั้นช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน‘ทำไมเสียงมันคุ้น ๆ อะไรแบบนี้ง’“เปล่าหรอกไม่มีอะไร” ธนินหันไปตอบแฟนสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ให้ผิดสังเกตว่าตนกำลังคิดเรื่องราวบางอย่างจึงรีบบอกปัดออกไป“งั้นเข้าไปหาคุณย่าดีกว่า เหมือนชมได้ยินเสียงของน้องเดียร์น่าจะอยู่ข้างในกับคุณย่าเหมือนกัน” ชลิตาแฟนสาวของธนินพูดขึ้นพร้อมทั้งเดินนำหน้าเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งยกมือทักทายย่าอ่อนศรี“สวัสดีค่ะย่า น้องเดียร์”เสียงทักทายของผู้มาใหม่ทำเอาบทสนทนาที่กำลังสนุกคึกครื้นเมื่อครู่นี้เงียบลง ทั้งสามคนพร้อมใจกันหันไปมองตามเสียง แต่ดูเหมือนว่าการมาครั้งนี้จะมีหนึ่งคนที่นิ่งอึ้งไม่พูดอะไร“พี่กร พี่ชม กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะทำไมไม่โทรบอกจะได้ไปรับ”“พี่อยากจะเซอร์ไพร์ทน้องเดียร์ด้วย”คนตัวเล็กฟังแล้วพยักหน้ารับยิ้ม ๆ“สวัส
ท่ามกลางเมืองที่แสนวุ่นวายของผู้คนทำงานเช่นเดียวกันกับตะวันวาดที่กำลังว้าวุ่นใจที่มองซ้ายแลขวาไม่พบเพื่อนร่วมงานคนเก่งของตนมาถึงออฟฟิศเสียที เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญเสียด้วย อีกอย่างหญิงสาวเป็นคนที่ตรงเวลาเอามาก ๆ ไม่เคยมาสายแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่อะไรกันสายไปหลายนาทีแล้ว ยังติดต่อภัคธีมาไม่ได้แม้แต่สายเดียว“ฮัลโหลยัยเดียร์แกอยู่ที่ไหนเนี่ย”น้ำเสียงของตะวันวาดกระวนกระวายไม่น้อย เพราะเพื่อนของเธอยังมาไม่ถึงเสียที อีกอย่างสาวเจ้าปลายสายต้องมาพรีเซ็นต์โพรเจกต์งานออกแบบให้กับลูกค้าที่เจาะจงมายังทีมของตนโดยเฉพาะ ถ้าเป็นทีมอื่นจะไม่ทำกับทางบริษัทนี้งานนี้เป็นงานใหญ่ที่ไม่อยากให้เสียหายทางตะวันวาดเลยกระวนกระวายใจไม่น้อยที่กลัวเพื่อนจะมาไม่ทัน“จะถึงแล้ว รอฉันอีกสิบนาทีนะตะวัน”ภัคธีมารับสายแล้วรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดวางสายและยัดโทรศัพท์มือถือกลับเข้าทีเดิม สองขาเรียวสวยรีบสาวเท้าเข้าอาคารตรงไปยังลิฟต์เพื่อไปยังที่หมายให้เร็วที่สุด เพราะเธอไม่อยากให้ลูกค้าต้องรอนาน แต่วันนั้นถค่อนข้างติดเพราะเกิดอุบัติเหตุใหญ่บนท้องถนน ทำให้เธอต้องเรียกวินมอเตอร์ไซค?มารับที่คอนโดมิเนียมที่หญิงสาวพัก
“พี่ฝากงานพวกนี้ด้วยนะ ถ้าสงสัยอะไรไม่เข้าใจยังไงถามพี่ได้ตลอด”ภัคธีมามอบงานให้น้อง ๆ ในทีมที่ทำงานร่วมกับเธอ พร้อมทั้งอธิบายในเนื้องานต่าง ๆ มันเป็นแบบไหนต้องทำอย่างไรกับงานชิ้นนั้น ๆ เธอเชื่อว่าตะวันวาดและคนในทีมจะช่วยกันทำให้ดีที่สุด ส่วนของเธอก็ต้องออกมาดีที่สุดเช่นกัน“ได้เลยค่ะพี่เดียร์ พวกเราจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”“ขอบใจจ้ะ”หลังจากที่น้อง ๆ และเพื่อนรับปากว่าจะทำงานต่อจากเธอตามคำสั่งของบอสเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กที่งานล้นมือจนแทบจะทำไม่ทัน กลับมาทำงานของตัวเองที่ต้องปรับแก้อีกมากมายหลายเพราะเธอเองก็อยากจะจัดการงานชิ้นนี้ให้เรียบร้อยก่อนกำหนดเช่นเดียวกัน“พี่เดียร์งานของคุณเตชินท์พี่จะส่งให้เขาดูเมื่อไหร่เหรอ” ผู้ช่วยอีกคนของเธอถามอย่างสงสัย เพราะน้อยครั้งที่เห็นรุ่นพี่ของตนทำหน้าเคร่งเครียดกับงานแบบศีรษะเล็กเอียงลงเล็กน้อยพร้อมท้าวกับมือแบบชิดแก้มนุ่ม มืออีกข้างเคาะเข้ากับโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด เมื่อน้องร่วมงานพูดถึงงานที่เธอเพิ่งจะส่งเมล์ไปเมื่อสองวันก่อน แต่ผลตอบรับทำเอาเธอถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่“ส่งไปแล้ว”“เป็นไงบ้างคะ ผ่านไหม” คนถามลุ้นกับคำตอบที่จะได้ ๆ ไม่น้อย“ทางนั้น
“กรทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”น้ำเสียงหวานละมุนของใครบางคนดังมาแต่ไกล เจ้าหล่อนเห็นคนรักของตัวเองเดินมาหยุดที่ประตูหน้าบ้านเป็นเวลานานสองนาน ไม่ยอมเดินเข้าไปสักทีตนจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปถามไกล ๆ แต่เสียงสนทนาของคนที่อยู่ด้านในนั้นช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน‘ทำไมเสียงมันคุ้น ๆ อะไรแบบนี้ง’“เปล่าหรอกไม่มีอะไร” ธนินหันไปตอบแฟนสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ให้ผิดสังเกตว่าตนกำลังคิดเรื่องราวบางอย่างจึงรีบบอกปัดออกไป“งั้นเข้าไปหาคุณย่าดีกว่า เหมือนชมได้ยินเสียงของน้องเดียร์น่าจะอยู่ข้างในกับคุณย่าเหมือนกัน” ชลิตาแฟนสาวของธนินพูดขึ้นพร้อมทั้งเดินนำหน้าเข้าไปในบ้านพร้อมทั้งยกมือทักทายย่าอ่อนศรี“สวัสดีค่ะย่า น้องเดียร์”เสียงทักทายของผู้มาใหม่ทำเอาบทสนทนาที่กำลังสนุกคึกครื้นเมื่อครู่นี้เงียบลง ทั้งสามคนพร้อมใจกันหันไปมองตามเสียง แต่ดูเหมือนว่าการมาครั้งนี้จะมีหนึ่งคนที่นิ่งอึ้งไม่พูดอะไร“พี่กร พี่ชม กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะทำไมไม่โทรบอกจะได้ไปรับ”“พี่อยากจะเซอร์ไพร์ทน้องเดียร์ด้วย”คนตัวเล็กฟังแล้วพยักหน้ารับยิ้ม ๆ“สวัส
ชีวิตการทำงานที่แสนราบเรียบของภัคธีมาดำเนินไปตามปกติเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ทุกคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอกับเตชินท์ลูกค้ารายใหญ่ของทางบริษัท เหมือนมีบางอย่างที่ผิดปกเกี่ยวกับอารมณ์ของมัณฑนากรสาวที่ช่วงหลัง ๆ อารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก“ทุกคนเดียร์ซื้อชานมไข่มุกหวานน้อยมาฝากค่ะทุกคน”คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาภายออฟฟิศหลังจากที่เธอออกไปคุยงานกับลูกค้าอีกคนหนึ่งมาและระหว่างทางที่ขับรถกลับออฟฟิศนั้นเกิดอยากจะกินชานมไข่มุกของร้านที่อยู่ข้างล่างเข้าพอดีในจังหวะที่คนตัวเล็กกำลังจะสั่งคนที่เพิ่งแยกออกมาจะเธอเมื่อช่วงเช้สตรู่เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งจ่ายค่าเครื่องดื่มอีกทั้งยังสั่งเผื่อพนักงานคนอื่น ๆ อีกหลายสิบแก้วให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆก่อนที่เตชินท์จะเดินจากไปเธอถามเขาว่ามมาจ่ายค่าเครื่องดื่มพวกนี้ให้เธอทำไมกันเขาบอกเธอแค่ว่า ‘จ่ายเงินให้เมียมันผิดตรงไหน’ คำพูดของเขาทำเอาเธอนิ่งเงียบไม่สามารถตอบโต้อะไรเขาได้เลย เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมามันคือเรื่องจริง“วันนี้ฝนจะตกไหมเนี่ย““นั่นสิ พักหลัง ๆ
“ทำไมไม่มาดูตอนกลางวัน”เตชินท์เดินเคียงข้างกับภัคธีมาเข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ เพื่อที่จะดูหนังรอบดึกกันสองต่อสอง เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาดูหนังกันเวลานี้“ก็ตอนกลางวันพี่เตกับเดียร์ก็ทำงานกันนี่คะ แล้วจะเอาเวลาไหนมาดู” คนตัวเล็กที่ถือถังป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำยืนอยู่ตรงหน้า“กลางวันพี่ว่าง”“ก็พี่เป็นเจ้านายเขาจะทำงานก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่เดียร์เป็นลูกจ้างเขานะจะลาหยุดบ่อยก็ไม่ดี”“ลาหยุดไม่ดี งั้นลาออกจากงานมาพี่เลี้ยงเอง”“พูดเป็นเล่นน่าพี่เต” ประโยคเมื่อครู่นี้ทำเอาคนตัวเล็กตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเธอ ส่วนมากก็แค่หยอกเท่านั้น แต่ที่ฟังจากน้ำเสียงแล้วมันดูต่างออกไปเหลือเกิน“พี่พูดจริง”เตชินท์บอกพลางส่งสายตาหวานซึ้งให้หญิงสาวโยที่เจ้าตัวนั้นไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย ผิดกับภัคธีมาที่คอยมองซ้ายแลขวาราวกับกลัวว่าจะมีคนรู้จักมาเห็นเสียอย่างนั้น เธอจึงตัดสินใจจชวนชายหนุ่มมานั่งที่โซฟาสีแดงที่อยู่ไม่ห่างมากนัก เพราะหากยืนอยู่ตรงนี้ก็จะเป็นการขวางทางเดินผ่านไปผ่านมา เวลาของภาพยนต์ที่กำล
“มาส่งดอกไม้ให้กับคุณภัคธีมาครับ”พนักงานส่งของบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางกวาดสายตามองหาเจ้าของชื่อว่าจะมีใครออกมารับหรือไม่จากการที่ดูแล้วทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างพากันก้มหน้าก้มตายุ่งงานของตัวเอง“วันนี้ดอกไม้ก็มาอีกหนึ่งช่อใหญ่ ๆ เหมือนเคย” เพื่อนร่วมงานของภัคธีมากลายเป็นคนรับดอกไม้จำเป็นเสียแล้ว เท่าที่นับได้อาทิตย์นี้เป็นช่อที่สามเห็นจะได้แล้ว“พี่เดียร์ได้รับดอกไม้อีกแล้ว”“วันนี้มีข้อความว่ายังไงบ้าง”เพรื่อนร่วมงานถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะเรื่องราวเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังตามจีบมัณฑนากรสาวคนแก่งของที่นี่กระจายไปทั่งบริษัท“ตอบไลน์พี่หน่อย จะดองไว้นานแค่ไหนคนดี”หลังจากเสียงอ่านข้อความในกระดาษการ์ดที่แนบมาด้วยจบทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นพากันหวีดไม่น้อยกับประโยคที่ว่ามา“นี่ขิง เอาไปให้พี่เดียร์ที” คนที่เพิ่งจะรับของมาเมื่อครู่สอดกระดาษการ์ดใบเล็กเอาไว้ที่เดิมก่อนจะส่งให้ผู้ช่วยของหญองสาวก่อนจะเดินตรงเอาช่อดอกไม้แสนสวยไปให้กับภัคธีมาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง ในระหว่างทางที่กำลังจะเอาของไปให้นั้นก็เดินสวนกันกับเ
เตชินท์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนิ้วมือของเขาเคาะเข้ากับโต๊ะเบา ๆ ราวกับกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคมที่คิดว่าเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่างแต่กลับจับจ้องไปยังรูปภาพที่อยู่บนหน้าจอ แล็ปท๊อปขนาดใหญ่ที่มีชายหนุ่มกับสาวสวยอีกหนึ่งคนกำลังยืนหวานชื่นท่ามกลางความงดงามของฝรั่งเศษ ก่อนจะลบมันออกจากเครื่องราวกับว่าไม่ต้องการที่จะเห็นมันอีกครั้ง ไม่ว่าภาพหวานชื่นเหล่านั้นจะมีสักเท่าไหร่ชายหนุ่มก็จัดการลบมันออกให้หมดลบมันออกจากหัวใจเพราะเขาเกลียดผู้หญิงทรยศคนนี้เหลือเกินระหว่างที่เขากำลังลบรูปภาพ อยู่ก็เห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากับใบหน้าสวยหวานออกไปทางคมเล็กน้อยตามแบบฉบับราวกับสาวลูกครึ่ง รอยยิ้มที่ชวนหลงไหลไปกับสดใสตามวัยของเธอเมื่อหลายปีก่อน ไม่ว่าจะมาหลายปีก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ยังเหมือนเคยแต่อาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาภัคธีมาต้องไม่ได้เจอกันมาหลายปี ครั้งนี้เขาตั้งใจกลับมาพบเธออีกครั้ง สายตาคมเข้มมองงานที่ภัคธีมาส่งมาให้เขาตรวจเช็คอีกครั้งก่อนจะพาเธอเข้าไปดูสถานที่จริงเป็นครั้งที่สอง“คุณเตครับ คุณเดียร์ส่งแบบมาให้คุณเตมาส
“พี่ฝากงานพวกนี้ด้วยนะ ถ้าสงสัยอะไรไม่เข้าใจยังไงถามพี่ได้ตลอด”ภัคธีมามอบงานให้น้อง ๆ ในทีมที่ทำงานร่วมกับเธอ พร้อมทั้งอธิบายในเนื้องานต่าง ๆ มันเป็นแบบไหนต้องทำอย่างไรกับงานชิ้นนั้น ๆ เธอเชื่อว่าตะวันวาดและคนในทีมจะช่วยกันทำให้ดีที่สุด ส่วนของเธอก็ต้องออกมาดีที่สุดเช่นกัน“ได้เลยค่ะพี่เดียร์ พวกเราจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”“ขอบใจจ้ะ”หลังจากที่น้อง ๆ และเพื่อนรับปากว่าจะทำงานต่อจากเธอตามคำสั่งของบอสเรียบร้อยแล้ว คนตัวเล็กที่งานล้นมือจนแทบจะทำไม่ทัน กลับมาทำงานของตัวเองที่ต้องปรับแก้อีกมากมายหลายเพราะเธอเองก็อยากจะจัดการงานชิ้นนี้ให้เรียบร้อยก่อนกำหนดเช่นเดียวกัน“พี่เดียร์งานของคุณเตชินท์พี่จะส่งให้เขาดูเมื่อไหร่เหรอ” ผู้ช่วยอีกคนของเธอถามอย่างสงสัย เพราะน้อยครั้งที่เห็นรุ่นพี่ของตนทำหน้าเคร่งเครียดกับงานแบบศีรษะเล็กเอียงลงเล็กน้อยพร้อมท้าวกับมือแบบชิดแก้มนุ่ม มืออีกข้างเคาะเข้ากับโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด เมื่อน้องร่วมงานพูดถึงงานที่เธอเพิ่งจะส่งเมล์ไปเมื่อสองวันก่อน แต่ผลตอบรับทำเอาเธอถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่“ส่งไปแล้ว”“เป็นไงบ้างคะ ผ่านไหม” คนถามลุ้นกับคำตอบที่จะได้ ๆ ไม่น้อย“ทางนั้น
ท่ามกลางเมืองที่แสนวุ่นวายของผู้คนทำงานเช่นเดียวกันกับตะวันวาดที่กำลังว้าวุ่นใจที่มองซ้ายแลขวาไม่พบเพื่อนร่วมงานคนเก่งของตนมาถึงออฟฟิศเสียที เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญเสียด้วย อีกอย่างหญิงสาวเป็นคนที่ตรงเวลาเอามาก ๆ ไม่เคยมาสายแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่อะไรกันสายไปหลายนาทีแล้ว ยังติดต่อภัคธีมาไม่ได้แม้แต่สายเดียว“ฮัลโหลยัยเดียร์แกอยู่ที่ไหนเนี่ย”น้ำเสียงของตะวันวาดกระวนกระวายไม่น้อย เพราะเพื่อนของเธอยังมาไม่ถึงเสียที อีกอย่างสาวเจ้าปลายสายต้องมาพรีเซ็นต์โพรเจกต์งานออกแบบให้กับลูกค้าที่เจาะจงมายังทีมของตนโดยเฉพาะ ถ้าเป็นทีมอื่นจะไม่ทำกับทางบริษัทนี้งานนี้เป็นงานใหญ่ที่ไม่อยากให้เสียหายทางตะวันวาดเลยกระวนกระวายใจไม่น้อยที่กลัวเพื่อนจะมาไม่ทัน“จะถึงแล้ว รอฉันอีกสิบนาทีนะตะวัน”ภัคธีมารับสายแล้วรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดวางสายและยัดโทรศัพท์มือถือกลับเข้าทีเดิม สองขาเรียวสวยรีบสาวเท้าเข้าอาคารตรงไปยังลิฟต์เพื่อไปยังที่หมายให้เร็วที่สุด เพราะเธอไม่อยากให้ลูกค้าต้องรอนาน แต่วันนั้นถค่อนข้างติดเพราะเกิดอุบัติเหตุใหญ่บนท้องถนน ทำให้เธอต้องเรียกวินมอเตอร์ไซค?มารับที่คอนโดมิเนียมที่หญิงสาวพัก