ระหว่างที่ภูมิไทกำลังจอดรถที่โรงแรมที่เขาพักขณะที่กำลังจะเดินเข้าลิฟท์ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนร้องเรียกให้ช่วยเหลือจึงรีบหันมองไปตามเสียง
"ช่วยด้วยค่ะ.."
ปึก
เมื่อเห็นว่าคนที่ร้องขอความช่วยเหลือคืออรนิชาเธอกำลังถูกดึงรั้งกระเป๋าเขาจึงรีบวิ่งไปกระโดดถีบโจรร่างใหญ่จนล้มไปกองกับพื้น
"โอ้ยย..."
โจรชุดดำเห็นว่าตอนนี้เริ่มมีคนกรูเข้ามาพร้อมคนที่รักษาความปลอดภัยที่นี่จึงรีบหนีไป
"ตามมันไปเลยครับ...ลุกไหวหรือเปล่าครับ"
ภูมิไทรีบชี้ให้รปภ.วิ่งตามโจรไปและเขาก็เข้ามาดูอรนิชาที่ล้มฟุบลงไปกับพื้น
"อืม..ฉันเจ็บค่ะ"
อรนิชาส่ายหัวทั้งเอื้อมมือบีบที่ข้อเท้าด้วยสีหน้าเหยเก
"คุณมาทำอะไรที่นี่"
ภูมิไทไม่คิดว่าจะเจออรนิชาที่อเมริกาไม่รู้ว่าเธอมีธุระอะไรที่นี่
"ฉันมาเที่ยวพักผ่อนน่ะค่ะพักโรงแรมนี้...บังเอิญจังเลยนะคะที่มาเจอคุณที่นี่...แล้วก็เป็นโชคดีที่ได้คุณมาช่วยฉัน"
หลังจากคุยกันเสร็จภูมิไทก็ต้องอุ้มอรนิชาขึ้นมาส่งที่ห้องเพราะเธอเจ็บข้อเท้าตอนล้มพับลงไป
"ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน"
อรนิชานั่งมองภูมิไทด้วยสีหน้าปลื้มปริ่มขณะที่ภูมิไทกำลังนั่งนวดข้อเท้าให้เธอยอมรับว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษจนเธอถูกใจเอามากๆแม้เคยทะเลาะกับเธอแต่เมื่อเห็นเธอเดือดร้อนก็ยังยื่นมือเข้าช่วยเต็มที่
"ปกติคุณไปไหนมาไหนคนเดียวโดยไม่มีคนติดตามเลยหรือไง"
ภูมิไทไม่คิดว่าตระการจะปล่อยลูกสาวคนเดียวมาเที่ยวตามลำพังได้ดีที่เขาเจอเธอไม่อย่างนั้นคงได้เจ็บตัวมากกว่านี้แน่
"ค่ะฉันว่ามันคล่องตัวดีอีกอย่างก็ประมาทคิดว่าน่าจะไม่มีอันตราย...เหมือนคุณไงคะคุณยังไม่มีคนติดตามเลย"
"ผมเป็นผู้ชายดูแลตัวเองได้...แล้วคุณจะแจ้งความหรือเปล่า"
"ไม่ค่ะ...ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่อีกอย่างฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากเดี๋ยวเรื่องบานปลายคุณพ่อรู้ท่านจะเป็นห่วง"
"คุณภูมิไทคะ...ฉันขอโทษที่ครั้งนั้นทำคุณโมโหเพราะปากพล่อยๆของฉัน"
อรนิชาเริ่มผูกมิตรกับชายหนุ่มเพราะเธอไม่อยากจะให้เขามองเธอในแง่ร้าย
"รู้สึกผิดก็ดีแล้วครับ"
"ยินดีที่คุณจะแต่งงานด้วยนะคะปลาดาวเธอคงดีจริงๆคุณถึงเลือกเธอเป็นคู่ชีวิต"
"ใช่ครับเธอดีจริงๆ...ที่เธอรับงานคุณตอนนั้นก็เพราะหลานป่วยต้องหาเงินรักษาไม่ใช่หน้าเงินอย่างที่คุณพูดว่าเธอ"
"ตายจริง...ฉันก็พึ่งรู้นะคะเนี่ยตอนนั้นเราก็ไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรกันมาก"
"คุณไม่ควรตัดสินคนจากที่พึ่งรู้จักนะครับ"
"ค่ะ..ฉันจะจำกรณีนี้ไว้เป็นบทเรียนนะคะ..."
"คุณพักเถอะ...ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมได้ผมอยู่ห้องใกล้ๆ"
"ขอบคุณนะคะ"
ภูมิไทเริ่มเปิดใจกับอรนิชามากขึ้นเพราะเธอไม่ได้อีโก้สูงจนสอนอะไรไม่ได้หากเธอคิดได้ว่าตัวเองนั้นผิดเรื่องอะไรนับว่าหญิงสาวก็เป็นคนที่คบได้อยู่เหมือนกัน
หลังจากภูมิไทดูแลอรนิชาได้พักใหญ่จึงกลับมาพักผ่อนที่ห้องของตัวเองคราแรกว่าจะโทรเล่าเหตุการณ์ในวันนี้ให้กับเปมิกาได้ฟังแต่ดูเวลาแล้วตอนนี้หญิงสาวน่าจะพักผ่อนมากกว่าจึงไม่อยากโทรไปรบกวน
วันต่อมา
ช่วงบ่ายเกือบเย็นวันนี้ธนดลและเปมิกามานั่งเล่นกันที่สวนสาธารณะที่ผู้คนที่นี่ชอบมากันสองหนุ่มสาวนั่งกินลมชมวิวกันพักใหญ่ผู้คนก็เริ่มทะยอยกันเดินเข้ามาในสวนเรื่อยๆเมื้อถึงเวลาแดดร่มลมตก
"ที่นี่บรรยากาศดีครับคนก็มาปิคนิคกันตอนเย็นกว่านี้บรรยากาศจะดีกว่านี้มากผู้คนก็จะพาน้องหมามาเดินเล่นให้เราได้ดูเพลินๆด้วย"
ขณะที่ธนดลกำลังนั่งเพลินๆก็มีคนยื่นขนมปังปิ้งมาตรงหน้าเป็นเปมิกาที่อยากจะป้อนชายหนุ่มเพราะเธอนั่งกินคนเดียวมาพักหนึ่งแล้ว
"เอ่อ...ผมไม่อยากให้คุณดาวมานั่งป้อนผมตรงนี้คนมันเยอะครับ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...ก็ดาวบอกแล้วว่าจะดูแลคุณไงคะ...นี่ค่ะ"
"อืม.."
และแล้วเปมิกาก็ป้อนขนมธนดลจนได้เธอรู้ว่าเขาก็คงหิวเหมือนกันเพราะเมื่อกลางวันก็ยังไม่ได้กินอะไร
อาทิตย์ต่อมา
หลังจากวันนั้นเปมิกาอยู่เที่ยวที่เชียงใหม่อีกสองสามวันแล้วจึงกลับพร้อมกับธนดลหลังจากกลับมาแล้วเธอก็ไปทำงานปกติและยังคงคอยแวะเวียนไปหาธนดลที่บ้านตลอดทุกเย็นบางวันก็ไปกับของขวัญบางวันก็ไปคนเดียว
ภูมิไทในตอนนี้แม้นจะมีงานที่ยังสะสางไม่เสร็จหรือคุยกับคู่ค้าไม่ครบแต่เขาก็ต้องรีบจองตัวเก็บกระเป๋าบินกลับไทยให้เร็วที่สุดด้วยมีผู้หวังดีที่ไม่เอ่ยนามส่งรูปเปมิกาอยู่กับผู้ชายคนอื่นให้เขาได้ดูและบอกว่านี่คือชายชู้ของเธอ
"ผมจะไว้ใจคุณได้จริงๆใช่หรือเปล่า"
ดวงตาคมนั่งจ้องรูปในอีเมลด้วยสีหน้าทีาไม่สบอารมณ์พยายามบอกตัวเองว่าเขาต้องฟังความจริงจากปากของเปมิกาก่อนว่าเรื่องจริงแล้วเป็นอย่างไรขออย่าให้เธอนั้นทำลายความไว้ใจของเขาได้เลย
"คุณเขตหาที่อยู่ของผู้ชายที่ผมส่งรูปให้ทีนะครับขอด่วน"
ภูมิไทส่งรูปชายหนุ่มที่อยู่ในเมลให้กับเขตแดนเพื่อให้เลขาของเขาจ้างนักสืบเพื่อหาที่อยู่ของผู้ชายคนนี้เขาอยากจะเจอและฟังจากปากของผู้ชายปริศนาคนนี้ด้วยเหมือนกันว่ารู้จักกับเปมิกาในฐานะอะไรกันแน่
สองวันต่อมา
ช่วงเย็นของวันภูมิไทกลับมาจากอเมริกาได้ขับรถมาที่บ้านของธนดลตามที่อยู่ที่เขตแดนสืบมาได้เขาเข้าหมู่บ้านมาจนถึงด้านในสุดจอดอยู่ห่างๆจากบ้านของธนดลเขาไม่ต้องสอบถามใครให้รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของคนที่ต้องการพบแน่ชัดหรือไม่เพราะมีรถของเปมิกาอยู่ที่หน้าบ้านแถมเมื่อมองไปในรั้วบ้านก็ยังเห็นเปมิกาและชายหนุ่มเดินเล่นอยู่ด้วยกัน
มือหนากำบีบกันแน่นดวงตาคมตอนนี้มีแต่ไฟโทสะคราแรกว่าจะมาถามธนดลเรื่องความสัมพันธ์ของเขาและเปมิกาแต่ก็ต้องเลี้ยวรถกลับเพราะเขาอยากจะคุยกันเป็นการส่วนตัวมากกว่าหากเข้าไปถามความสัมพันธ์ทั้งสองตรงๆด้วยกันคงไม่ไม่ได้รับความจริงเป็นแน่
ตกดึกขณะที่เปมิกากำลังจะล้มตัวลงนอนมือถือของเธอก็มีเสียงข้อความดังเข้ามาก่อนจึงรีบกดเปิดดูและภาพในมือถือจากเมลปริศนาที่เธอไม่รู้จักส่งมาก็เป็นภาพนิ่งที่อรนิชาร่วมงานพูดคุยกับภูมิไทแถมยังมีภาพที่ถ่ายจากโรงแรมขณะที่ภูมิไทอุ้มอรนิชาเข้าไปในห้องด้วย
จากที่จะนอนหลับฝันดีไม่มีเรื่องให้ต้องคิดมากเพราะแต่กลับนอนหลับไม่ลงเสียแล้วครั้นจะโทรไปถามหาความจริงจากชายหนุ่มก็กลัวว่าเขาจะไม่ตอบความจริงแล้วเธอจะยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่
จากผู้หวังดี...เธอคิดว่าคนอย่างภูมิไทจะเอานางแบบธรรมดามาเป็นคู่ชีวิตเธอคิดผิดยังไงเค้าก็ต้องเลือกคนที่เหมาะสมเชิดหน้าชูตาเค้าได้อยู่ดี
"เฮ้อ..ฉันจะพยายามไม่คิดอะไรมากนะคะ"
เปมิกาอ่านข้อความที่มากับภาพด้วยก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจหดหู่ลงไปอีกตอนนี้พยายามทำใจไว้ใจภูมิไทด้วยตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยนอกลู่นอกทางเชื่อว่าเขาคงทำแบบนั้นไปเพราะน่าจะมีเหตุจำเป็นอะไรบางอย่างไม่ใช่นอกใจเธอแน่นอน
วันต่อมาในช่วงพักเที่ยงอรนิชาติดต่อมาขอพบเปมิกาเป็นการส่วนตัวที่ร้านกาแฟใกล้ๆออฟฟิศเปมิกาไม่ได้คิดจะปฏิเสธเธออยากรู้ความจริงจากอรนิชาว่าหญิงสาวไปทำอะไรที่อเมริกาและเจอกับภูมิไทคนรักของเธอได้อย่างไรจะได้หายคาใจเรื่องภาพเมื่อคืนเสียที
"ภูมิไทเค้าขอเธอแต่งงานจริงๆใช่หรือเปล่า"
อรนิชาเห็นเปมิกานั่งลงได้ก็เปิดประเด็นไม่พูดพร่ำนอกเรื่องให้เสียเวลา"เคยเกริ่นๆไว้ค่ะ"สีหน้าของเปมิกาตอนนี้ไม่สู้ดีนักเพราะไม่รู้ว่าอรนิชาจะถามเรื่องนี้กับเธอเพื่ออะไร"อืม...ฉันก็ไม่ได้อยากจะมาพูดให้เธอเสียใจหรอกนะตอนไปดูงานเค้าก็โทรตามฉันไปด้วยแถมตอนที่เราอยู่ด้วยกันบนเตียงเค้าก็บอกเองว่าไม่ได้จริงจังกับเธอและจะพยายามหาเรื่องทะเลาะตีตัวออกห่างเธอให้มากที่สุดเพื่อที่จะแต่งงานกับฉันคนที่เหมาะสมกับเค้า""แค่นี้ใช่ไหมคะที่คุณจะพูด"จากคราแรกที่ว่าจะมาถามหาความจริงจากอรนิชาตอนนี้เปมิกาคิดว่าได้คำตอบแล้วเธอจึงไม่คิดจะอยู่ต่อเพราะกลัวว่าน้ำตาเจ้ากรรมจะไหลออกมาเธอไม่กลัวจะเสียมารยาทด้วยดูท่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้อยากจะเห็นมารยาทจากเธอเช่นกันคงอยากเห็นเธอเสียใจเสียมากกว่า"จะไม่เชื่อฉันก็ได้แต่ขอให้ดูเอาเองว่าหลังจากนี้เขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน...อ่อ..แล้วตอนนี้เค้าก็กลับมาที่ไทยตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็อยู่กับฉันทั้งคืนเค้าได้บอกเธอก่อนหรือเปล่า"อรนิชาเปรยตามหลังเปมิกาด้วยสีหน้าท่าทางของผู้ชนะเธอรู้ดีว่าต่อไปเปมิกาจะต้องเจอกับอะไรเพราะเรื่องราวทุกอย่างที่เปมิกาเจอล้วนเป็นเธอที่จ้างคนจัดฉากขึ้นมาทั้งนั้น
ร้านอาหาร"แล้วไปอยู่ไหนกันล่ะเนี่ย"ช่วงเที่ยงสองสาวต้องมานั่งปวดหัวกันที่ร้านอาหารด้วยไปบ้านภูมิไทก็ไม่เจอใครแถมติดต่อก็ไม่ได้เจอแบบนี้กชกรไม่รู้จะเอายังไงต่อเลยภูเก็ตภูมิไทมาถึงบ้านพักที่ภูเก็ตตั้งแต่เมื่อคืนเขานั่งเครื่องมาพักใจที่นี่มาถึงก็เอาแต่ดื่มหนักจวบจนเวลาเย็นของวันนี้ปวดหัวใจที่ถูกหญิงสาวทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าเข้าใจว่าการที่เธอไม่อยากแต่งงานกับเขาไม่ใช่เพียงอยากรอเวลาแต่เธอไม่ได้ต้องการผูกมัดกับเขามากกว่าทางด้านเปมิกาก็เดินทางขึ้นรถทัวร์มาทางเหนือเธอขอมาพักใจสักพักใหญ่เพื่อขจัดความรู้สึกที่มีต่อภูมิไทให้ได้จะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมที่เคยเป็นเปมิกามาเช่าบ้านหลังเก่าๆในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งค่อนข้างที่จะกันดานพอสมควรเพื่อตัดจากโลกภายนอกอยู่กับตัวเองอยู่กับธรรมชาติเพื่อที่จะลืมสิ่งที่ปวดใจตอนนี้โดยเร็ววันเวลาพ้นผ่านไปร่วมเดือนที่เปมิกาและภูมิไทยังทำตัวสูญหายติดต่อไม่ได้กชกรก็ให้สามีเธอช่วยตามหาภูมิไททุกทางเพราะอยากจะพูดคุยถึงเรื่องราวที่อยากจะรู้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหาเจอเลยแม้แต่เงา"คุณเกรซคะได้เรื่องยังไงบ้างคะ""ยังเลยน้องขวัญ..เฮ้อ.."ขณะที่สองสาวกำลังห
เดือนต่อมาเปมิกามาอยู่ที่หมู่บ้านชนบทแห่งนี้ได้ร่วมเดือนกว่าแล้วหัวใจช่วงนี้ก็เริ่มดีขึ้นมากกว่าเดิมพอสมควรยิ่งอยู่ในที่ๆสงบใจเธอก็เริ่มเย็นลงมาก"ยินดีด้วยนะคะคุณตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้ว"หญิงสาวนั่งเหม่ออยู่ริมระเบียงบ้านไม้ยามค่ำคืนคำพูดของหมอสาวที่เธอไปหาที่โรงพยาบาลเมื่อเช้ายังลอยอยู่ในหัวตอนนี้จะว่าดีใจที่มีลูกก็ดีใจแต่จะดีกว่านี้ถ้าเธอและภูมิไทไม่มีปัญหากันหากเธอกลับไปบอกภูมิไทว่าเธอท้องลูกของเขาก็คงไม่เชื่ออยู่ดีดังนั้นเธอคิดว่าไม่ควรจะบอกเขาดีกว่าด้วยกลัวว่าจะถูกเขากล่าววาจาร้ายๆใส่เธออีกแค่ลูกคนเดียวเธอเลี้ยงได้อยู่แล้ว"ได้เรื่องยังไงบ้างครับคุณเขต""เธอเข้ารักษาที่โรงพยาบาลxxxครับ"ทางด้านของภูมิไทแม้นจะงานยุ่งเขาก็ยังให้คนคอยตามหาเปมิกาอยู่ตลอดจวบจนวันนี้เขาก็ยิ้มได้เสียทีแต่ก็ตกใจพอสมควรเมื่อเขตแดนบอกว่าเธอเข้ารักษาที่โรงพยาบาลภาวนาในใจว่าอย่าให้เธอได้เป็นอะไรร้ายแรงเลย"แล้วเธอเป็นอะไร""คุณดาวตั้งท้องครับ"เขตแดนอมยิ้มอ่อนรู้ว่าข่าวนี้คงทำให้เจ้านายตนใจชื้นชุ่มฉ่ำขึ้นมาได้ในรอบหลายวัน"ว...ว่าไงนะ"ภูมิไทใจเต้นระรัวดั่งกลองเพลเขาดีใจจนน้ำตาคลอแม้นจะยังไม่รู้พิกั
ซ่าาา.. ซ่าาา....เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งบนเกาะเล็กๆทางตอนใต้ของประเทศไทยบรรยากาศยามค่ำคืนนี้ท้องฟ้าโปร่งเดือนหงายมีดาวระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้าแสงของดวงจันทร์กลมโตสะท้อนกับน้ำทะเลเป็นภาพที่สวยงามในสายตาของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงผ้าใบริมชายหาดไม่น้อยภูมิไท ทักษาธาราชายหนุ่มวัยสามสิบสองทายาทกิจการโรงแรมหมื่นล้านและธุรกิจอื่นๆของเครือทักษาธาราเพียงคนเดียวของตระกูลเพราะย่าของภูมิไทก็มีลูกชายคนเดียวส่วนพ่อกับเม่ชายหนุ่มก็มีแค่ภูมิไทเป็นลูกชายคนเดียวเท่านั้นสถานะของภูมิไทคือโสดมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาคมเข้มคิ้วหนาดวงตาคมจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากหนาเป็นกระจับอมชมพูปล่อยผมยาวหยิกหยักศกประบ่ามีไรหนวดเคราเล็กน้อยสูง180ร่างกายกำยำบึกบึนเพราะออกกำลังกายเป็นประจำเขากำลังนอนมองท้องฟ้าด้วยรอยยิ้มอ่อน....แทบทุกคืนของวันพระจันทร์เต็มดวงเขาจะต้องมานอนสัมผัสบรรยากาศแทบทุกครั้งเพราะมันทำให้เขาผ่อนคลายเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศเขาชอบความสงบนอนฟังเสียงคลื่นไปเพลินๆเสมือนธรรมชาติกำลังบำบัดขัดเกลาความขุ่นมัวในใจออกไปได้เป็นอย่างดีเกาะที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวของภูมิไทที่สัมปทานไว้ได้ตั้งแต่รุ่นปู่จนมาถึงมือของช
"..เฮ้อ.."ของขวัญเองก็ได้แต่ยืนถอนหายใจเพราะเงินที่เธอมียังไงก็รวมกับเปมิกาไม่ถึงที่จะเป็นค่าใช้จ่ายใช้ผ่าตัดให้โลมาอยู่ดีของขวัญหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งวัยยี่สิบสี่ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยคิ้วบางได้รูปตาคมเหมือนลูกแมวผิวขาวอมชมพูผมหยักศกสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังเธอเป็นเพื่อนกับเปมิกาตั้งแต่เข้ามหาลัยหญิงสาวมีชะตาชีวิตที่ค่อนข้างเหมือนกับเปมิกาจึงเข้าอกเข้าใจกันและสนิทกันมากทำงานหาเงินเรียนแฟชั่นด้วยกันจบมาก็ช่วยกันออกแบบเสื้อผ้าขายและติดตามเป็นคนช่วยเหลือเปมิกาทุกครั้งที่เพื่อนเธอต้องมาเดินแบบหรือถ่ายแบบให้โมเดลลิ่งที่จ้างแต่ช่วงหลังมานี้ไม่ค่อยติดตามเพื่อนเธอเท่าไรเพราะต้องช่วยดูแลโลมาหลานสาวของเปมิกาอีกอย่างแบรนด์เสื้อผาที่พวกเธอทำก็ค่อนข้างขายได้เยอะกว่าแต่ก่อนส่วนมากจึงจะทำงานอยู่กับบ้านมากกว่า"ฉันขอคุยกับเธอหน่อยได้หรือเปล่า""คุณอรนิชา...เอ่อ...ได้ค่ะ"ขณะที่สองสาวนั่งเครียดกันอยู่จู่ๆก็มีอรนิชาไฮโซสาววัยสามสิบลูกสาวเจ้าของงานเดินแบบโชว์เครื่องเพชรวันนี้เข้ามาขอคุยกับเปมิกาทำเอานางแบบสาวตกใจพอสมควรไม่รู้ว่าเธอทำเพชรเม็ดไหนของเจ้าของงานหลุดไปหรือเปล่าถึงตามมาคุยกับเธอถึงตรงน
ช่วงเย็นของวันรัชนนท์หนุ่มหล่อร่างสูงบึกบึนหน้าคมผมยาวรวบมัดตึงวัยสามสิบห้าในชุดเสื้อลินินสีงาช้างกางเกงเลสีดำใส่รองเท้าแตะหูหนีบเดินดุ่มๆแบกถังน้ำมันมาหาภูมิไทที่ท่าเรือก่อนจะวางมันลงที่เรือประมงของตัวเอง“ทำไมวันนี้อยากจะใช้เรือพี่ล่ะ”รัชนนน์เอ่ยถามกับชายหนุ่มเจ้าของเกาะที่นั่งรอเขาอยู่ที่ในเรือ“ผมอยากนั่งเรือเล่นยืมคืนนึงนะครับพี่นนท์”“ตามสบายเลย”รัชนนท์รู้ดีว่าภูมิไทคงอยากหาอะไรทำแก้เบื่อเขาก็ไม่ติดอะไรที่ชายหนุ่มจะใช้เรือของเขาไปหาความสนุกเพราะภูมิไทก็ให้ที่พักอาศัยแก่เขาฟรีๆโดยที่ไม่ได้เรียกร้องอะไรแถมยังคอยดูแลอย่างดีอีกต่างหากเช้าตรู่วันต่อมาและแล้วเช้าของวันใหม่หลังจากที่สองสาววางแผนกันมาดิบดีแล้วทั้งสองก็มายืนอยู่ที่หน้าผาชันไม่ใกล้ไม่ไกลกับเกาะของภูมิไทมากนักสองสาวยืนรับลมทะเลกันมาพักใหญ่เพื่อรอดูเรือประมงว่าจะมีหันหัวแล่นเข้าเกาะเมื่อไหร่เพราะเมื่อมีเรือมาเปทิกาก็จะรีบกระโดดจากหน้าผาลงไปที่ทะเลทันทีตามแผนที่วางเอาไว้คิดว่ายังไงคนบนเรือก็ต้องลงมาช่วยเธอจังหวะนั้นเธอจะได้ออกอุบายเพื่อเข้าไปที่เกาะส่วนตัวของภูมิไทได้“เอาแบบนี้จริงเหรอดาว”ของขวัญที่ยืนอยู่ข้างๆเปมิกาต
“คือ...ฉันลองไปดูก็ได้คุณจะให้ฉันอยู่กี่วันฉันคิดว่าหากอยู่นานๆฉันก็คงจะดีขึ้นมาก”“จะอยู่เท่าไรก็แล้วแต่คุณเลยผมให้อยู่ฟรีกินฟรีด้วย”ภูมิไทเห็นทีท่าว่าหญิงสาวเริ่มที่จะสนใจสิ่งที่เขานำเสนอแล้วจึงตามใจเธอทุกอย่างเพราะคนที่กำลังจิตใจอ่อนแอย่อมต้องการพลังที่เป็นบวก“ขอบคุณนะคะ...ฉันชื่อปลาดาวเรียกฉันว่าดาวก็ได้คุณล่ะ”“ผมชื่อทะเล...นี่ผ้าห่มเอาไว้เดี๋ยวจะหนาว”ชายหนุ่มแนะนำตัวกับหญิงสาวก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนสีน้ำตาลของเขาที่ยังไม่ได้ใช้เอามาให้เธอห่มเพราะกว่าจะถึงเกาะเธอต้องรับลมทะเลอีกพักใหญ่เดี๋ยวจะหนาวเอาได้“ขอบคุณนะคะ”ภูมิไทพาหญิงสาวขึ้นจากท่าเรือเดินตามแนวชายหาดมาไม่ไกลนักก็เจอบ้านหลังสีขาวเล็กๆหลังคาทรงปั้นหยาตัวบ้านยกสูงจากพื้นบันไดสามขั้นด้านหน้ามีชานระเบียงกว้างเอาไว้นั่งรับลมเปมิกาเห็นคราแรกก็รู้สึกชอบบ้านหลังนี้มากเพราะเป็นบ้านริมทะเลในฝันที่เธออยากจะมีแต่คิดไปคิดมาก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะตอนนี้เธอไม่เห็นมีใครอยู่ที่บ้านอีกอย่างบ้านก็ตั้งอยู่หลังเดียวโดดๆแถมเธอยังมาอยู่กับชายหนุ่มชาวประมงสองต่อสองอีกอันที่จริงนึกว่าขึ้นฝั่งมาแล้วจะเจอคนอื่นบ้างแต่เปล่าเลย"บ้านผม
หลังจากที่ภูมิไทไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพักใหญ่เปมิกาก็ง่วนอยู่กับการกินหมึกย่างจนตอนนี้หมึกย่างในถาดสแตนเลสใหญ่ก็ได้หมดลงไม่เหลือสักชิ้น"อืม.. เอ่อะ"ร่างบางนั่งตัวตรงเรอออกมาอย่างไม่ห่วงสวยหลังจากเคี้ยวหมึกชิ้นสุดท้ายหมดปาก"แล้วเค้าจะกินอะไรล่ะ"พออิ่มจนพุงกางเปมิกาก็พึ่งนึกได้ว่าคนที่หาหมึกพวกนี้มาน่าจะยังไม่ได้กินอะไรเธอจึงรีบมองซ้ายมองขวาแล้วลุกไปที่ตู้เย็นทันที"ฉันหุงข้าวกับทำไข่เจียวให้คุณก็แล้วกัน"เปิดตู้เย็นมาเจอไข่หญิงสาวก็หยิบมันออกมาสองลูกก่อนจะมองไปที่หม้อข้าวตั้งอยู่ที่เคาเตอร์ครัวแล้วลงมือหุงข้าวด้วยความชำนาญก่อนจะเริ่มตอกไข่ใส่ถ้วยเพื่อที่จะตีทำไข่เจียว"ทำอะไรเหรอครับ""พอดีฉันกินหมึกย่างจนหมดกลัวคุณไม่มีอะไรกินฉันเลยถือวิสาสะหุงข้าวกับจะทำไข่เจียวให้คุณ"เปมิกาหันยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มที่กำลังถือผ้าเช็ดผมของเขาที่เปียกหมาดๆอยู่เธอละอายใจพอสมควรที่กินไม่เหลือเผื่อแผ่ให้เจ้าของอาหาร"กินหมดถาดเลยเหรอครับ""คือ.. อย่าโกรธฉันเลยนะคะฉันหิว"หญิงสาวรีบขอโทษชายหนุ่มที่กำลังยืนทำสีหน้านิ่งงัน"เปล่าครับผมไม่ได้โกรธแค่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างคุณจะกินไม่เยอะเสียอีก...หมึกยัง