"..เฮ้อ.."
ของขวัญเองก็ได้แต่ยืนถอนหายใจเพราะเงินที่เธอมียังไงก็รวมกับเปมิกาไม่ถึงที่จะเป็นค่าใช้จ่ายใช้ผ่าตัดให้โลมาอยู่ดี
ของขวัญหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งวัยยี่สิบสี่ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยคิ้วบางได้รูปตาคมเหมือนลูกแมวผิวขาวอมชมพูผมหยักศกสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังเธอเป็นเพื่อนกับเปมิกาตั้งแต่เข้ามหาลัย
หญิงสาวมีชะตาชีวิตที่ค่อนข้างเหมือนกับเปมิกาจึงเข้าอกเข้าใจกันและสนิทกันมากทำงานหาเงินเรียนแฟชั่นด้วยกันจบมาก็ช่วยกันออกแบบเสื้อผ้าขายและติดตามเป็นคนช่วยเหลือเปมิกาทุกครั้งที่เพื่อนเธอต้องมาเดินแบบหรือถ่ายแบบให้โมเดลลิ่งที่จ้าง
แต่ช่วงหลังมานี้ไม่ค่อยติดตามเพื่อนเธอเท่าไรเพราะต้องช่วยดูแลโลมาหลานสาวของเปมิกาอีกอย่างแบรนด์เสื้อผาที่พวกเธอทำก็ค่อนข้างขายได้เยอะกว่าแต่ก่อนส่วนมากจึงจะทำงานอยู่กับบ้านมากกว่า
"ฉันขอคุยกับเธอหน่อยได้หรือเปล่า"
"คุณอรนิชา...เอ่อ...ได้ค่ะ"
ขณะที่สองสาวนั่งเครียดกันอยู่จู่ๆก็มีอรนิชาไฮโซสาววัยสามสิบลูกสาวเจ้าของงานเดินแบบโชว์เครื่องเพชรวันนี้เข้ามาขอคุยกับเปมิกาทำเอานางแบบสาวตกใจพอสมควรไม่รู้ว่าเธอทำเพชรเม็ดไหนของเจ้าของงานหลุดไปหรือเปล่าถึงตามมาคุยกับเธอถึงตรงนี้
อรนิชาเป็นไฮโซสาวที่กำลังถูกสื่อจับตามองเป็นอย่างมากเพราะเธอเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระการเจ้าของแบรนด์จิวเวอรี่ยักษ์ใหญ่ที่จัดงานในวันนี้แถมยังเป็นนักเรียนนอกที่ได้เกียรตินิยมนับว่าทั้งสวยรวยเก่งครบในตัวของเธอเลยทีเดียว
เธอกลับมาที่เมืองไทยเพื่อช่วยครอบครัวบริหารงานในบริษัทและตอนนี้เป้าหมายของเธอที่ต้องการก็คือที่ดินผืนงามของตระกูลทักษาธาราที่เจ้าของปฏิเสธการขายกับทุกคนแม้จะให้ราคาแสนงามเพียงใด
เธอเห็นว่าพ่อของเธอทำไม่เคยสำเร็จสักครั้งในการติดต่อขอซื้อที่ดินผืนงามทางเหนือของประเทศไทยกับภูมิไทว่ากันว่าใต้ผืนดินแห่งนั้นมีแร่อัญมณีมากมายที่มูลค่าประเมิณไม่ได้หากพ่อเธอเจรจาไม่เคยสำเร็จตอนนี้เธอจึงขอใช้วิธีของเธอในการทำเรื่องนี้ให้สำเร็จเลยแล้วกัน
อรนิชาคิดเอาไว้แล้วว่าเธอจะจ้างนางแบบโนเนมให้เข้าไปตีสนิทกับภูมิไทและคนที่เข้าตาของเธอเห็นจะเป็นเปมิกาหลังจากที่เธอดูนางแบบเดินแบบในงานมีเปมิกาที่ดูสะดุดตาเธอที่สุดแถมยังเป็นคนที่ยังไม่มีชื่อเสียงเปมิกาจึงตกเป็นที่ต้องการที่อรนิชาจะให้ทำงานใหญ่นี้ให้
งานที่เธอจะให้เปมิกาได้ทำก็คือต้องเข้าไปตีสนิทกับภูมิไทให้ได้เร็วที่สุดและตะล่อมให้เขานั้นยอมขายที่ให้ได้แล้วเปมิกาก็จะได้ค่าตอบแทนอย่างงามเมื่องานสำเร็จ
เปมิกานั่งฟังความต้องการของอรนิชาและข้อเสนอของเธอพักใหญ่หญิงสาวก็ไม่คิดจะปฏิเสธอรนิชาแม้แต่น้อยด้วยเห็นเม็ดเงินมันล่อตาล่อใจเสียเหลือเกินหากงานสำเร็จเธอก็จะได้มีเงินผ่าตัดหลานสาวเธอเสียที
กว่าสองสาวจะกลับมาถึงโรงแรมได้ก็เกือบตีหนึ่งเพราะมัวแต่นั่งคุยกับอรนิชาพักใหญ่ถึงรายละเอียดที่อรนิชาอยากจะให้เปมิกาจัดการ
"แกจะทำจริงเหรอดาว"
ของขวัญมาถึงโรงแรมเธอก็รีบถามเปมิกาให้แน่ใจอีกรอบว่าเพื่อนเธอจะรับงานนี้จริงหรือไม่
"อืม.."
สีหน้าของเปมิกาดูมุ่งมั่นไม่โลเลแม้แต่น้อยเพราะหากงานนี้สำเร็จโดยเร็วเท่าไรเท่ากับว่าเธอก็จะได้เงินมาช่วยชีวิตโลมาได้เร็วเท่านั้น
"อืม..ถ้าแกจะทำจริงๆฉันช่วยแกสุดตัว"
"ขอบใจนะขวัญ"
สองสาวกอดกันกลมของขวัญเห็นเพื่อนเธอมั่นใจว่าจะทำงานนี้ให้สำเร็จเธอเป็นเพื่อนที่ร่วมทุกขร่วมสุขกันมาจนถึงวันนี้ยังไงก็ต้องช่วยเพื่อนจนสุดตัวอยู่แล้ว
เช้าของวันต่อมาทิพย์เกสรหญิงชราร่างเล็กวัยเกือบจะแปดสิบแต่เธอยังเดินเหินได้คล่องแคล่วเพราะเป็นคนที่ดูแลสุขภาพมาตั้งแต่สมัยสาวๆทิพย์เกสรเดินเข้ามาหาหลานชายเธอในห้องทำงานเพื่อจะถามไถ่หลานชายเธอว่าเมื่อไรเขานั้นจะกลับไปดูแลบริษัทเสียทีเพราะทำงานอยู่ที่นี่เป็นครึ่งค่อนปีแล้ว
"ใจคอจะนั่งทำงานที่นี่ทุกวันเลยหรือไงลูก"
"ครับคุณย่าที่บริษัทไม่ได้มีอะไรน่าห่วง"
ภูมิไทหันมายิ้มอ่อนให้ย่าตนก่อนจะลุกขึ้นไปกดอหอมอย่างเช่นที่เคยทำตั้งแต่เด็กยันโต
"ได้ข่าวว่ามีคนไปเจรจาขอซื้อที่ตรงนั้นทุกวันเลยใช่ไหม"
ทิพย์เกสรได้ข่าวมาเหมือนกันว่าที่ดินทางเหนือที่ทัดเทพลูกชายเธอเคยซื้อไว้เมื่อนานมาแล้วตอนนี้มีคนอยากได้มากพอสมควรเธอคิดว่านี่คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หลานชายเธอไม่ยอมออกจากเกาะนี้ไปเป็นแน่
"ครับ...แต่ยังไงผมก็ไม่ยอมขายอยู่แล้วเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน"
"ย่าว่าเรามาอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะบริษัทไม่มีอะไรน่าห่วงแต่เพราะอยากหนีคนมากกว่าถ้าย่าเดาไม่ผิด"
"คุณย่าก็เดาใจผมถูกทุกอย่างอยู่แล้วนี่ครับ"
ภูมิไทหลี่สายตามองย่าตนทั้งยิ้มร่าเพราะไม่มีอะไรที่เขาจะปิดบังคนเป็นย่าได้เลย
หลังจากวันงานเปมิกาและของขวัญยังไม่ได้กลับไปที่กรุงเทพเพราะตั้งใจว่าจะรีบทำแผนการตีสนิทกับภูมิไทให้สำเร็จ
สองสาวเมื่อได้รับข้อมูลของภูมิไทมาบางส่วนจากอรนิชาก็มานั่งปรึกษากันว่าจะวางแผนเพื่อไปตีสนิทกับภูมิไทอย่างไรและตอนนี้ทั้งสองสาวก็นั่งกุมขมับหนึงด้วยข้อมูลของภูมิไทนั้นน้อยเสียเหลือเกินแถมใบหน้าค่าตาเป็นเช่นไรพวกเธอก็ไม่รู้เพราะชายหนุ่มไม่ออกสื่อแถมยังไม่ยอมให้สื่อเปิดเผยใบหน้าตนแม้แต่นิดเดียว
“ข้อมูลบอกว่าอยู่ที่เกาะXXXเป็นคนชอบเก็บตัวตอนนี้อายุน่าจะประมาณสามสิบกว่า...เฮ้อเค้าท่าจะโลกส่วนตัวสูงม๊ากกกก...จริงๆนะข้อมูลถึงได้มีน้อยนิดเสียเหลือเกิน...นี่เค้าเรียนโรงเรียนไหนอะน่าจะมีรูปติดบัตรให้ดูซะหน่อยก็ยังดี”
ของขวัญเห็นท่าว่างานนี้จะเป็นงานยากของเปมิกาเสียแล้ว
“เค้าเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็ก..แกจะไปหาไหมล่ะ”
เปมิกานั่งอ่านข้อมูลที่มีน้อยนิดวนไปวนมาก่อนจะหันมาทำหน้าเซ็งกับเพื่อนสาว
“ไหนขออ่านอีกรอบซิ”
ของขวัญเลื่อนโน๊ตบุ๊คของมาตรงหน้าตนเพื่ออ่านข้อมูลจากอีเมลที่อรนิชาส่งมาอีกรอบ
“อืม..อยู่กับย่าที่เกาะ..ส่วนที่เกาะก็จะมีเรือประมงออกมาหาปลาเป็นประจำโอ้ย..ย่าชื่ออะไรก็ไม่มีข้อมูล...เออดาว..แกว่าถ้าเราติดเรือคนที่ออกหาปลากลับไปที่เกาะเค้าจะให้เราไปป่ะวะแก”
“นั่นสิ...ฉันคิดอะไรออกแล้ว”
เปมิกายิ้มร่าเพราะเธอรู้แล้วว่าจะเข้าไปที่เกาะนั้นได้อย่างไรแล้วเรื่องตามหาว่าใครคือภูมิไทค่อยว่ากันอีกที
ช่วงเย็นของวันรัชนนท์หนุ่มหล่อร่างสูงบึกบึนหน้าคมผมยาวรวบมัดตึงวัยสามสิบห้าในชุดเสื้อลินินสีงาช้างกางเกงเลสีดำใส่รองเท้าแตะหูหนีบเดินดุ่มๆแบกถังน้ำมันมาหาภูมิไทที่ท่าเรือก่อนจะวางมันลงที่เรือประมงของตัวเอง“ทำไมวันนี้อยากจะใช้เรือพี่ล่ะ”รัชนนน์เอ่ยถามกับชายหนุ่มเจ้าของเกาะที่นั่งรอเขาอยู่ที่ในเรือ“ผมอยากนั่งเรือเล่นยืมคืนนึงนะครับพี่นนท์”“ตามสบายเลย”รัชนนท์รู้ดีว่าภูมิไทคงอยากหาอะไรทำแก้เบื่อเขาก็ไม่ติดอะไรที่ชายหนุ่มจะใช้เรือของเขาไปหาความสนุกเพราะภูมิไทก็ให้ที่พักอาศัยแก่เขาฟรีๆโดยที่ไม่ได้เรียกร้องอะไรแถมยังคอยดูแลอย่างดีอีกต่างหากเช้าตรู่วันต่อมาและแล้วเช้าของวันใหม่หลังจากที่สองสาววางแผนกันมาดิบดีแล้วทั้งสองก็มายืนอยู่ที่หน้าผาชันไม่ใกล้ไม่ไกลกับเกาะของภูมิไทมากนักสองสาวยืนรับลมทะเลกันมาพักใหญ่เพื่อรอดูเรือประมงว่าจะมีหันหัวแล่นเข้าเกาะเมื่อไหร่เพราะเมื่อมีเรือมาเปทิกาก็จะรีบกระโดดจากหน้าผาลงไปที่ทะเลทันทีตามแผนที่วางเอาไว้คิดว่ายังไงคนบนเรือก็ต้องลงมาช่วยเธอจังหวะนั้นเธอจะได้ออกอุบายเพื่อเข้าไปที่เกาะส่วนตัวของภูมิไทได้“เอาแบบนี้จริงเหรอดาว”ของขวัญที่ยืนอยู่ข้างๆเปมิกาต
“คือ...ฉันลองไปดูก็ได้คุณจะให้ฉันอยู่กี่วันฉันคิดว่าหากอยู่นานๆฉันก็คงจะดีขึ้นมาก”“จะอยู่เท่าไรก็แล้วแต่คุณเลยผมให้อยู่ฟรีกินฟรีด้วย”ภูมิไทเห็นทีท่าว่าหญิงสาวเริ่มที่จะสนใจสิ่งที่เขานำเสนอแล้วจึงตามใจเธอทุกอย่างเพราะคนที่กำลังจิตใจอ่อนแอย่อมต้องการพลังที่เป็นบวก“ขอบคุณนะคะ...ฉันชื่อปลาดาวเรียกฉันว่าดาวก็ได้คุณล่ะ”“ผมชื่อทะเล...นี่ผ้าห่มเอาไว้เดี๋ยวจะหนาว”ชายหนุ่มแนะนำตัวกับหญิงสาวก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนสีน้ำตาลของเขาที่ยังไม่ได้ใช้เอามาให้เธอห่มเพราะกว่าจะถึงเกาะเธอต้องรับลมทะเลอีกพักใหญ่เดี๋ยวจะหนาวเอาได้“ขอบคุณนะคะ”ภูมิไทพาหญิงสาวขึ้นจากท่าเรือเดินตามแนวชายหาดมาไม่ไกลนักก็เจอบ้านหลังสีขาวเล็กๆหลังคาทรงปั้นหยาตัวบ้านยกสูงจากพื้นบันไดสามขั้นด้านหน้ามีชานระเบียงกว้างเอาไว้นั่งรับลมเปมิกาเห็นคราแรกก็รู้สึกชอบบ้านหลังนี้มากเพราะเป็นบ้านริมทะเลในฝันที่เธออยากจะมีแต่คิดไปคิดมาก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะตอนนี้เธอไม่เห็นมีใครอยู่ที่บ้านอีกอย่างบ้านก็ตั้งอยู่หลังเดียวโดดๆแถมเธอยังมาอยู่กับชายหนุ่มชาวประมงสองต่อสองอีกอันที่จริงนึกว่าขึ้นฝั่งมาแล้วจะเจอคนอื่นบ้างแต่เปล่าเลย"บ้านผม
หลังจากที่ภูมิไทไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพักใหญ่เปมิกาก็ง่วนอยู่กับการกินหมึกย่างจนตอนนี้หมึกย่างในถาดสแตนเลสใหญ่ก็ได้หมดลงไม่เหลือสักชิ้น"อืม.. เอ่อะ"ร่างบางนั่งตัวตรงเรอออกมาอย่างไม่ห่วงสวยหลังจากเคี้ยวหมึกชิ้นสุดท้ายหมดปาก"แล้วเค้าจะกินอะไรล่ะ"พออิ่มจนพุงกางเปมิกาก็พึ่งนึกได้ว่าคนที่หาหมึกพวกนี้มาน่าจะยังไม่ได้กินอะไรเธอจึงรีบมองซ้ายมองขวาแล้วลุกไปที่ตู้เย็นทันที"ฉันหุงข้าวกับทำไข่เจียวให้คุณก็แล้วกัน"เปิดตู้เย็นมาเจอไข่หญิงสาวก็หยิบมันออกมาสองลูกก่อนจะมองไปที่หม้อข้าวตั้งอยู่ที่เคาเตอร์ครัวแล้วลงมือหุงข้าวด้วยความชำนาญก่อนจะเริ่มตอกไข่ใส่ถ้วยเพื่อที่จะตีทำไข่เจียว"ทำอะไรเหรอครับ""พอดีฉันกินหมึกย่างจนหมดกลัวคุณไม่มีอะไรกินฉันเลยถือวิสาสะหุงข้าวกับจะทำไข่เจียวให้คุณ"เปมิกาหันยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มที่กำลังถือผ้าเช็ดผมของเขาที่เปียกหมาดๆอยู่เธอละอายใจพอสมควรที่กินไม่เหลือเผื่อแผ่ให้เจ้าของอาหาร"กินหมดถาดเลยเหรอครับ""คือ.. อย่าโกรธฉันเลยนะคะฉันหิว"หญิงสาวรีบขอโทษชายหนุ่มที่กำลังยืนทำสีหน้านิ่งงัน"เปล่าครับผมไม่ได้โกรธแค่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างคุณจะกินไม่เยอะเสียอีก...หมึกยัง
"คุณนอนในห้องผมแล้วผมนอนที่โซฟาข้างนอกเอง"เห็นสีหน้าหญิงสาวเริ่มเสียกะทันหันภูมิใทจึงต้องรีบอธิบายให้จบว่าเขาไม่ได้หมายความว่าเขาจะนอนกับเธอ"อ่อ..ค่ะ...รบกวนคุณแย่เลยเนอะ"ชายหนุ่มว่าจบร่างบางก็ร้องอ๋อเสียงสูงปัดไม้ปัดมือทำท่าพูดเกรงอกเกรงใจทั้งที่ในใจพอใจกับคำตอบของอีกฝ่ายพอสมควรที่เขาจะยกห้องนอนให้เธอแล้วออกไปนอนข้างนอก"ไม่เป็นไรเลยครับ"22.00 น.“นายเป็นใครกันแน่นายทะเล”กลางดึกแล้วตอนนี้เปมิกาก็ยังนอนไม่หลับเธอยังคงแปลกใจกับบ้านของชาวประมงธรรมดาเพราะเมื่อมาสังเกตดีๆเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ที่นี่ทุกชิ้นแพงๆทั้งนั้นแถมเสื้อที่เธอใส่อยู่นี่ก็น่าจะเป็นเสื้อผ้าที่สั่งตัดมาโดยเฉพาะผิวพรรณชายหนุ่มก็ดูเนียนไม่กระดำกระด่างคำพูดคำจาก็ไม่ติดสำเนียงคนท้องถิ่นแม้แต่น้อยอยากจะรู้นักว่าทะเลคนนี้คือใครกันแน่เพราะตอนนี้เธอเริ่มไม่ค่อยเชื่อแล้วว่าเขาคือชาวประมงทางด้านภูมิไทหลังจากที่โทรบอกกับทุกคนในเกาะว่ามีคนมาอยู่กับเขาที่บ้านเล็กตอนนี้และสั่งห้ามไม่ให้ทุกคนยุ่มย่ามมาที่นี่เพราะไม่อยากให้หญิงสาวได้เจอใครกลัวว่าคนเหล่านั้นจะหลุดปากบอกกับเธอว่าเขาเป็นใครเวลานี้ชายหนุ่มก็เอาเตียงผ้าใบมานอนกางที่ระเบี
ภูมิไทไม่ได้มีปัญหาว่าหญิงสาวจะคืนเงินหรือไม่คืนอยู่แล้วหลังจากที่คุยกันเรียบร้อยทั้งสองก็เตรียมตัวออกเรือไปที่ฝั่งกันทันทีเรือเล่นมาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงฝั่งเล่นเอาเปมิกาเวียนหัวอยู่พอสมควรเพราะไม่ค่อยได้นั่งเรือบ่อยเท่าไรนักภูมิไทจึงพาเธอมานั่งพักที่เก้าอี้สาธารณะริมฟุตบาทก่อนที่จะไปทำธุระกันต่อ“ค่อยยังชั่วแล้วหรือยังครับ”“ค่ะ..”“เราต้องต่อรถไปอีกนิดนะครับถึงจะถึงห้าง”ภูมิไทเห็นว่าหญิงสาวค่อยยังชั่วแล้วจึงอยากให้เธอเดินทางต่อเพราะยังต้องต่อรถอีกพักใหญ่ถึงจะเดินทางถึงห้างในตัวเมือง“ไปห้างทำไมคะแถวนี้ก็น่าจะมีของที่ฉันจะซื้อแถมยังมีพวกอาหารสดด้วย...แต่ฉันขอกินข้าวก่อนแล้วค่อยเดินนะคะ..หิวไม่ไหวแล้วจริงๆ”เปมิกาเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัยเธอไม่ได้คิดจะเข้าห้างสรรพสินค้าเพราะตรงหน้าก็เป็นลานตลาดนัดกว้างท่าจะมีทั้งของกินของใช้ครบเลยแต่ก่อนจะเดินเธอต้องขอกินอะไรก่อนออกเรือมาก็ไม่ได้กินอะไรรองท้องมาเลย“ผมไม่เห็นมีร้านอาหารแถวนี้นะครับ”ภูมิไทคิดว่าหญิงสาวจะต้องติดใช้ของในห้างเสียอีกหากเธออยากจะเดินที่นี่เขาก็ไม่ว่าแต่เขาไม่ยักเห็นร้านอาหารแถวนี้จะเปิดสักร้านเพราะส่วนมากจะเปิด
อาทิตย์ต่อมาจากวันที่เปมิกาเจ็บวันนั้นตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ภูมิไทอยู่ดูแลหญิงสาวไม่ห่างทั้งทำอาหารทำแผลคอยอุ้มหญิงสาวออกไปนั่งเล่นข้างนอกเพราะกลัวว่าเธอจะเบื่อตอนนี้ทั้งคู่เลยดูสนิมกันโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็มีความรู้สึกดีๆให้กันอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัวด้วยภูมิไทเองก็ไม่เคยดูแลใกล้ชิดผู้หญิงคนไหนมาก่อนเช่นเดียวกับเปมิกาเธอก็ไม่เคยมีแฟนและใกล้ผู้ชายคนไหนมาก่อนเช่นกันเมื่อได้ใกล้กันเข้าแถมยังคุยกันถูกคอความรู้สึกดีๆเลยเกิดขึ้นได้ไม่ยากตอนนี้หญิงสาวก็ตัดไหมเรียบร้อยแล้วแผลบนหัวไม่มีความรู้สึกเจ็บเท่าไรนักแต่ที่เท้ายังคงมีนิดหน่อยหากลงเดิน“ให้ฉันช่วยนะคะ”เปมิกาเดินกะเผลกๆมาที่ในครัวเพื่อจะช่วยชายหนุ่มทำอาหารเพราะให้เขาทำให้เธอกินมาหลายวันแล้ว“ผมบอกว่าอย่าเดินเองไงครับ”ภูมไทรีบละมือหมายจะเข้ามาประคองอุ้มร่างบางไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารแต่เธอก็รีบปฏิเสธเพราะเธอนั้นพอเดินเองไหว“คุณไม่ต้องอุ้มฉันแล้วก็ได้ค่ะ..ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”“ไม่ครับ..ผมอยากอุ้ม..”ว่าจบก็รวบยกร่างบางขึ้นทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเคอะเขินหลังจากจบมื้ออาหารเย็นภูมิไทก็พาหญิงสาวขี่หลัง
“ฮ่าๆๆ..หนูเป็นคนคุยสนุกแบบนี้นี่เองหลานย่าถึงได้มีรอยยิ้มเยอะกว่าเดิมมากเลย”“คุณทะเลเค้าไม่ค่อยยิ้มเหรอคะคุณย่า...ตอนอยู่ด้วยกันเค้ายิ้มตลอดเลยปากแทบจะฉีกถึงหูเลยล่ะค่ะ”ว่าแล้วก็พูดอวดทิพย์เกสรยกใหญ่ว่าตอนที่ชายหนุ่มอยู่กับเธอเขาแทบจะไม่หุบยิ้มเลยด้วยซ้ำนึกไม่ออกเลยว่าเวลาเขาทำหน้าดุจะเป็นเช่นไร“ขนาดนั้นเลยเหรอลูก”“ค่ะ..”“ใครนินทาผมอยู่หรือเปล่าครับ”ภูมิไทที่กำลังจะเข้ามาเรียกทั้งสองไปที่โต๊ะอาหารเขาก็ได้ยินประโยคหลังๆที่เปมิกาและทิพย์เกสรคุยกันแทบทุกคำจึงรู้ตัวว่ากำลังถูกนินทา“อืม...แฮร่..”คนที่รู้ตัวว่าถูกจับได้อย่างเปมิกาก็รีบยิ้มแหยให้ฝ่ายชายก่อนจะก้มหน้างุดมองไหมพรมที่กำลังถักในมือต่อ“อย่าทำให้หนูดาวเสียหายนะลูก”ก่อนภูมิไทและเปมิกาจะกลับทิพย์เกสรก็เรียกหลานชายเธอมาคุยตามลำพังถึงเธอจะไว้ใจหลานชายมากเพียงใดแต่ก็ไม่ลืมจะย้ำให้เขาได้ฟังอีกรอบว่าการเป็นสุภาพบุรุษจะต้องทำอย่างไร“ครับคุณย่าผมจะให้เกียรติเธอ”ชายหนุ่มรับปากคนเป็นย่าด้วยรอยยิ้มอ่อนแม้นเขาจะชอบเธอเพียงใดแต่ก็ไม่คิดจะล่วงเกินหากหญิงสาวไม่เต็มใจและจะไม่ทำให้เธอดูไม่ดีในสายตาของคนอื่นเด็ดขาด22.00 น.จากทุกคืนที่เ
"ฉันยืมมือถือคุณโทรหาเพื่อนได้หรือเปล่าคะเผื่อตอนนี้พวกเค้าจะตามหาฉันอยู่"สองหนุ่มสาวกลับมาถึงเกาะได้เปมิกาก็ขอยืมมือถือชายหนุ่มเพราะเธอนั้นขาดการติดต่อกับของขวัญนานแล้วทั้งยังอยากรู้ว่าหลานสาวของเธอตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"นี่ครับผมให้คนซื้อมาไว้ให้คุณตั่งแต่เมื่อวานแล้วแบตชาร์จเต็มแล้วด้วยคุณใช้งานได้เลย..แล้วก็มีพวกชุดที่ผมซื้อเพิ่มมาให้คุณด้วยนะครับ"ภูมิไทรีบจูงหญิงสาวเข้ามาในห้องและหยิบกล่องมือถือแบรนด์ดังราคาเหยียบครึ่งแสนที่วางอยู่บนโต๊ะให้เธอพร้อมเปิดตู้เสื้อผ้าให้หญิงสาวดูว่าตอนนี้เธอมีเสื้อผ้าของผู้หญิงใส่ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าของเขาอีกต่อไป"ขอบคุณนะคะคุณดีกับฉันอีกแล้ว"เปมิกายิ้มแก้มปริชายหนุ่มเล่นดีกับเธอแบบนี้เธอจะไม่ให้เธอรู้สึกผิดกับเขาได้ยังไง"ผมต้องดีกับแฟนผมอยู่แล้วครับ"ภูมิไทยกมือลูบหัวหญิงสาวเบาๆอย่างเอ็นดู"ฉันตกลงเป็นแฟนคุณตอนไหนคะ"สาวเจ้าเงยหน้าขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่มดูท่าว่าเขาจะคิดเองเออเองเสีย"ในห้องนอนบนเรือไงครับ"ภูมิไทก้มกระซิบข้างใบหน้านวลเขาถือว่าเรื่องที่เธอยอมให้เขาจูบโดยไม่ขัดขืนนั้นแสดงว่าเธอตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วไม่ใช่เพียงแค่คนคุยธรรมดาอีกต่อไป"คนบ้