“คือ...ฉันลองไปดูก็ได้คุณจะให้ฉันอยู่กี่วันฉันคิดว่าหากอยู่นานๆฉันก็คงจะดีขึ้นมาก”
“จะอยู่เท่าไรก็แล้วแต่คุณเลยผมให้อยู่ฟรีกินฟรีด้วย”
ภูมิไทเห็นทีท่าว่าหญิงสาวเริ่มที่จะสนใจสิ่งที่เขานำเสนอแล้วจึงตามใจเธอทุกอย่างเพราะคนที่กำลังจิตใจอ่อนแอย่อมต้องการพลังที่เป็นบวก
“ขอบคุณนะคะ...ฉันชื่อปลาดาวเรียกฉันว่าดาวก็ได้คุณล่ะ”
“ผมชื่อทะเล...นี่ผ้าห่มเอาไว้เดี๋ยวจะหนาว”
ชายหนุ่มแนะนำตัวกับหญิงสาวก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนสีน้ำตาลของเขาที่ยังไม่ได้ใช้เอามาให้เธอห่มเพราะกว่าจะถึงเกาะเธอต้องรับลมทะเลอีกพักใหญ่เดี๋ยวจะหนาวเอาได้
“ขอบคุณนะคะ”
ภูมิไทพาหญิงสาวขึ้นจากท่าเรือเดินตามแนวชายหาดมาไม่ไกลนักก็เจอบ้านหลังสีขาวเล็กๆหลังคาทรงปั้นหยาตัวบ้านยกสูงจากพื้นบันไดสามขั้นด้านหน้ามีชานระเบียงกว้างเอาไว้นั่งรับลม
เปมิกาเห็นคราแรกก็รู้สึกชอบบ้านหลังนี้มากเพราะเป็นบ้านริมทะเลในฝันที่เธออยากจะมีแต่คิดไปคิดมาก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะตอนนี้เธอไม่เห็นมีใครอยู่ที่บ้านอีกอย่างบ้านก็ตั้งอยู่หลังเดียวโดดๆแถมเธอยังมาอยู่กับชายหนุ่มชาวประมงสองต่อสองอีกอันที่จริงนึกว่าขึ้นฝั่งมาแล้วจะเจอคนอื่นบ้างแต่เปล่าเลย
"บ้านผมเอง.."
ภูมิไทที่เดินถือลังโฟมใส่หมึกเกือบเต็มเดินนำหน้าหญิงสาวมาถึงหน้าบ้านก่อนจะหันมาบอกกับหญิงสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่าที่นี่คือบ้านของเขา
ที่นี่คือบ้านหลังเล็กที่ภูทิไทสร้างเอาไว้เมื่อสองสามปีก่อนเพื่อเอาไว้พักผ่อนแยกออกมาจากบ้านใหญ่ที่เขาเลือกสร้างริมทะเลตรงนี้เพราะชอบทัศนียภาพเวลาพระอาทิตย์ตกตรงนี้มาก
"ที่นี่มีบ้านคุณหลังเดียวเหรอคะ"
"มีอีกสามสี่หลังห่างออกจากที่นี่ประมาณกิโลนึง"
"คือ...แล้วบ้านคุณไม่มีใครอยู่เลยเหรอ..พ่อแม่คุณล่ะ"
"ผมไม่มีพ่อแม่"
"....."
คำตอบของชายหนุ่มทำเอาเปมิกาไปไม่เป็นเพราะเธอไม่รู้ว่าจะไว้ใจผู้ชายแปลกหน้าได้มากแค่ไหนหากจะต้องพักอยู่กับเขาที่นี่สองต่อสองตอนอยู่บนเรือก็ดันปากหนักไม่ยอมถามอะไรให้ละเอียดเพราะมัวแต่ดีใจที่จะได้มาที่เกาะ
"คุณไม่ต้องกลัวผมจะทำอะไรคุณหรอกไว้ใจผมได้"
ภูมิไทเห็นสีหน้าหญิงสาวก็พอจะเดาออกว่าเธอกำลังคิดอะไรเขาจึงรีบออกตัวไว้ก่อนว่าเขาไม่ใช่พวกชอบฉวยโอกาส
"เอ่อ...ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อยค่ะ"
เปมิกาปั้นหน้ายิ้มแหยๆที่ดูอีกฝ่ายจะเข้าใจความคิดของเธอแต่เธอก็ปฏิเสธไปว่าไม่ได้คิดเช่นนั้นเพราะเธอต้องการจะตีสนิทกับฝ่ายชายจะได้ถามไถ่อะไรเกี่ยวกับเจ้าของเกาะได้มากกว่านี้
"หิวหรือเปล่าเดี๋ยวผมย่างหมึกให้"
ภูมิไทรู้แบบนั้นก็โล่งอกก่อนจะรีบเดินนำหน้าหญิงสาวขึ้นไปบนบ้านเลี้ยวขวาไปตรงห้องครัว
"หิวค่ะ.."
หากถามเรื่องกินกับเปมิกาตอนนี้แล้วมีหรือเธอจะปฏิเสธเพราะเธอนั้นไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานเพราะมัวกังวลอยู่กับการทำแผนการที่จะเข้าเกาะแห่งนี้
กรอกกก
"เอ่อ"
สาวเจ้ายิ้มเอียงอายเล็กน้อยเพราะจู่ๆท้องไส้ก็ดังออกมาไม่ใช่เสียงเบาๆ
"ท่าจะหิวจริงๆ...คุณไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนสิครับเดี๋ยวจะไม่สบายเอา..เดินเข้าไปในห้องนั้นแล้วเปิดตู้เอาเสื้อผ้าผมมาใส่ก่อนได้เลย"
ชายหนุ่มอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะรีบให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเขานั้นจะเข้าครัวทำอาหารให้เธอก่อน
"ค่ะ"
เปมิกาเดินเข้ามาในบ้านทั้งมองหน้ามองหลังด้วยท่าทีที่ระวังเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะหลอกให้เธอเข้ามาในห้องแล้วรีบวิ่งตามมาทำมิดีมิร้ายเธอทีหลัง
แกร๊กก
"ฟู่วว..."
สาวเจ้าพ่นลมหายใจโล่งอกหลังจากเข้าห้องล็อกประตูเรียบร้อย
"อืม...สะอาดสะอ้านดีนี่นา"
หญิงสาวยืนนิ่งพิงประตูก่อนจะมองไปรอบๆห้องด้วยสีหน้าแปลกใจเพราะที่นี่ดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อยเกินกว่าจะเป็นห้องนอนของผู้ชาย
ในห้องนี้มีขนาดกว้างพอสมควรมีเตียงนอนสีขาวขนาดใหญ่มีหน้าต่างสามด้านมีผ้าม่านสีขาวบางๆติดอยู่กับหน้าต่างทุกบาน
"เรียงสีด้วยเหรอ"
สาวเจ้าเปิดตู้เสื้อผ้าออกได้เธอก็ต้องยืนงงเมื่อเสื้อที่เรียงรายอยู่บนราวเป็นเสื้อลินินแขนยาวแบบที่เธอเห็นชายหนุ่มใส่แต่มันไม่ได้มีสีเดียวส่วนมากจะเป็นสีโทนอุ่นที่จัดเรียงสีไว้เป็นระเบียบแถมยังได้รับการรีดจนเนี้ยบทุกตัวมองไปชั้นล่างก็เป็นกางเกงเลสีดำหลายตัวที่พับเอาไว้สองสามแถวเรียงกันตอนนี้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่าเขานั้นเป็นชาวประมงจริงๆใช่หรือเปล่าคราแรกคิดว่าในห้องจะมีพวกแหหรือลังอะไรเต็มห้องเสียอีก
"ฮัดชิ่ว..."
เปมิกาเริ่มจามออกมาเพราะยังคงใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้นอยู่นานเธอจึงเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำเล็กๆที่ติดกับห้องนอนเสร็จแล้วจึงรีบหยิบเสื้อหยิบกางเกงเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและห่มผ้าห่มเอาไว้เช่นเดิมด้วยเธอไม่มีชั้นในใส่หากใส่เสื้อตัวเดียวไม่มีอะไรคลุมมีหวังชายหนุ่มคงคิดว่าเธอยั่วยวนเขาพอดี
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็เดินไปเปิดหน้าต่างเพราะอยากจะรู้นักว่าหากมองลอดหน้าต่างห้องนี้ไปจะเห็นวิวทิวทัศน์เป็นอย่างไร
"สวย..มากกก"
ดวงตากลมโตมองเห็นชายหาดที่มีน้ำสีฟ้าครามแสงแดดกระทบกับหาดทรายสีขาวจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับเสมือนหน้าต่างนี้เป็นภาพวาดที่สวยงามตอนนี้เธอรู้สึกอิจฉาคนที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้เสียแล้ว
"หอมจังเลย"
เปมิกาเดินออกจากห้องมาได้เธอก็เดินตามกลิ่นหมึกย่างมาจนถึงในครัวเห็นชายหนุ่มกำลังหั่นหมึกกระดองตัวโตๆแถมกลิ่นน้ำจิ้มซีฟู้ดก็เตะจมูกกจนเริ่มน้ำลายสอ
"คุณออกมาพอดีมากินเลยครับ"
ภูมิไทเห็นหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเรียกเธอเข้ามาเพื่อนั่งทานให้หายหิว
"หืม...อร่อยสุดๆไปเลยค่ะ"
เมื่อได้รับคำเชิญเรื่องของกินคนอย่างเปมิกาหรือจะปฏิเสธเธอใช้ส้อมจิ้มเนื้อหมึกกระดองชิ้นโตจิ้มน้ำจิ้มจนชุ่มก่อนจะใส่เข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆสีหน้าเธอตอนนี้มีความสุขเสียจนคนที่ยืนมองข้างๆอมยิ้มตามดีใจที่ทำให้เธออารมณ์ดีได้
"อร่อยก็กินเยอะๆเลยครับเดี๋ยวผมจะไปอาบน้ำบ้างแล้ว"
ว่าจบก็เดินหนีหญิงสาวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่รบกวนการกินของเธออีกต่อไป
หลังจากที่ภูมิไทไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพักใหญ่เปมิกาก็ง่วนอยู่กับการกินหมึกย่างจนตอนนี้หมึกย่างในถาดสแตนเลสใหญ่ก็ได้หมดลงไม่เหลือสักชิ้น"อืม.. เอ่อะ"ร่างบางนั่งตัวตรงเรอออกมาอย่างไม่ห่วงสวยหลังจากเคี้ยวหมึกชิ้นสุดท้ายหมดปาก"แล้วเค้าจะกินอะไรล่ะ"พออิ่มจนพุงกางเปมิกาก็พึ่งนึกได้ว่าคนที่หาหมึกพวกนี้มาน่าจะยังไม่ได้กินอะไรเธอจึงรีบมองซ้ายมองขวาแล้วลุกไปที่ตู้เย็นทันที"ฉันหุงข้าวกับทำไข่เจียวให้คุณก็แล้วกัน"เปิดตู้เย็นมาเจอไข่หญิงสาวก็หยิบมันออกมาสองลูกก่อนจะมองไปที่หม้อข้าวตั้งอยู่ที่เคาเตอร์ครัวแล้วลงมือหุงข้าวด้วยความชำนาญก่อนจะเริ่มตอกไข่ใส่ถ้วยเพื่อที่จะตีทำไข่เจียว"ทำอะไรเหรอครับ""พอดีฉันกินหมึกย่างจนหมดกลัวคุณไม่มีอะไรกินฉันเลยถือวิสาสะหุงข้าวกับจะทำไข่เจียวให้คุณ"เปมิกาหันยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มที่กำลังถือผ้าเช็ดผมของเขาที่เปียกหมาดๆอยู่เธอละอายใจพอสมควรที่กินไม่เหลือเผื่อแผ่ให้เจ้าของอาหาร"กินหมดถาดเลยเหรอครับ""คือ.. อย่าโกรธฉันเลยนะคะฉันหิว"หญิงสาวรีบขอโทษชายหนุ่มที่กำลังยืนทำสีหน้านิ่งงัน"เปล่าครับผมไม่ได้โกรธแค่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างคุณจะกินไม่เยอะเสียอีก...หมึกยัง
"คุณนอนในห้องผมแล้วผมนอนที่โซฟาข้างนอกเอง"เห็นสีหน้าหญิงสาวเริ่มเสียกะทันหันภูมิใทจึงต้องรีบอธิบายให้จบว่าเขาไม่ได้หมายความว่าเขาจะนอนกับเธอ"อ่อ..ค่ะ...รบกวนคุณแย่เลยเนอะ"ชายหนุ่มว่าจบร่างบางก็ร้องอ๋อเสียงสูงปัดไม้ปัดมือทำท่าพูดเกรงอกเกรงใจทั้งที่ในใจพอใจกับคำตอบของอีกฝ่ายพอสมควรที่เขาจะยกห้องนอนให้เธอแล้วออกไปนอนข้างนอก"ไม่เป็นไรเลยครับ"22.00 น.“นายเป็นใครกันแน่นายทะเล”กลางดึกแล้วตอนนี้เปมิกาก็ยังนอนไม่หลับเธอยังคงแปลกใจกับบ้านของชาวประมงธรรมดาเพราะเมื่อมาสังเกตดีๆเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ที่นี่ทุกชิ้นแพงๆทั้งนั้นแถมเสื้อที่เธอใส่อยู่นี่ก็น่าจะเป็นเสื้อผ้าที่สั่งตัดมาโดยเฉพาะผิวพรรณชายหนุ่มก็ดูเนียนไม่กระดำกระด่างคำพูดคำจาก็ไม่ติดสำเนียงคนท้องถิ่นแม้แต่น้อยอยากจะรู้นักว่าทะเลคนนี้คือใครกันแน่เพราะตอนนี้เธอเริ่มไม่ค่อยเชื่อแล้วว่าเขาคือชาวประมงทางด้านภูมิไทหลังจากที่โทรบอกกับทุกคนในเกาะว่ามีคนมาอยู่กับเขาที่บ้านเล็กตอนนี้และสั่งห้ามไม่ให้ทุกคนยุ่มย่ามมาที่นี่เพราะไม่อยากให้หญิงสาวได้เจอใครกลัวว่าคนเหล่านั้นจะหลุดปากบอกกับเธอว่าเขาเป็นใครเวลานี้ชายหนุ่มก็เอาเตียงผ้าใบมานอนกางที่ระเบี
ภูมิไทไม่ได้มีปัญหาว่าหญิงสาวจะคืนเงินหรือไม่คืนอยู่แล้วหลังจากที่คุยกันเรียบร้อยทั้งสองก็เตรียมตัวออกเรือไปที่ฝั่งกันทันทีเรือเล่นมาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงฝั่งเล่นเอาเปมิกาเวียนหัวอยู่พอสมควรเพราะไม่ค่อยได้นั่งเรือบ่อยเท่าไรนักภูมิไทจึงพาเธอมานั่งพักที่เก้าอี้สาธารณะริมฟุตบาทก่อนที่จะไปทำธุระกันต่อ“ค่อยยังชั่วแล้วหรือยังครับ”“ค่ะ..”“เราต้องต่อรถไปอีกนิดนะครับถึงจะถึงห้าง”ภูมิไทเห็นว่าหญิงสาวค่อยยังชั่วแล้วจึงอยากให้เธอเดินทางต่อเพราะยังต้องต่อรถอีกพักใหญ่ถึงจะเดินทางถึงห้างในตัวเมือง“ไปห้างทำไมคะแถวนี้ก็น่าจะมีของที่ฉันจะซื้อแถมยังมีพวกอาหารสดด้วย...แต่ฉันขอกินข้าวก่อนแล้วค่อยเดินนะคะ..หิวไม่ไหวแล้วจริงๆ”เปมิกาเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัยเธอไม่ได้คิดจะเข้าห้างสรรพสินค้าเพราะตรงหน้าก็เป็นลานตลาดนัดกว้างท่าจะมีทั้งของกินของใช้ครบเลยแต่ก่อนจะเดินเธอต้องขอกินอะไรก่อนออกเรือมาก็ไม่ได้กินอะไรรองท้องมาเลย“ผมไม่เห็นมีร้านอาหารแถวนี้นะครับ”ภูมิไทคิดว่าหญิงสาวจะต้องติดใช้ของในห้างเสียอีกหากเธออยากจะเดินที่นี่เขาก็ไม่ว่าแต่เขาไม่ยักเห็นร้านอาหารแถวนี้จะเปิดสักร้านเพราะส่วนมากจะเปิด
อาทิตย์ต่อมาจากวันที่เปมิกาเจ็บวันนั้นตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ภูมิไทอยู่ดูแลหญิงสาวไม่ห่างทั้งทำอาหารทำแผลคอยอุ้มหญิงสาวออกไปนั่งเล่นข้างนอกเพราะกลัวว่าเธอจะเบื่อตอนนี้ทั้งคู่เลยดูสนิมกันโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็มีความรู้สึกดีๆให้กันอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัวด้วยภูมิไทเองก็ไม่เคยดูแลใกล้ชิดผู้หญิงคนไหนมาก่อนเช่นเดียวกับเปมิกาเธอก็ไม่เคยมีแฟนและใกล้ผู้ชายคนไหนมาก่อนเช่นกันเมื่อได้ใกล้กันเข้าแถมยังคุยกันถูกคอความรู้สึกดีๆเลยเกิดขึ้นได้ไม่ยากตอนนี้หญิงสาวก็ตัดไหมเรียบร้อยแล้วแผลบนหัวไม่มีความรู้สึกเจ็บเท่าไรนักแต่ที่เท้ายังคงมีนิดหน่อยหากลงเดิน“ให้ฉันช่วยนะคะ”เปมิกาเดินกะเผลกๆมาที่ในครัวเพื่อจะช่วยชายหนุ่มทำอาหารเพราะให้เขาทำให้เธอกินมาหลายวันแล้ว“ผมบอกว่าอย่าเดินเองไงครับ”ภูมไทรีบละมือหมายจะเข้ามาประคองอุ้มร่างบางไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารแต่เธอก็รีบปฏิเสธเพราะเธอนั้นพอเดินเองไหว“คุณไม่ต้องอุ้มฉันแล้วก็ได้ค่ะ..ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”“ไม่ครับ..ผมอยากอุ้ม..”ว่าจบก็รวบยกร่างบางขึ้นทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเคอะเขินหลังจากจบมื้ออาหารเย็นภูมิไทก็พาหญิงสาวขี่หลัง
“ฮ่าๆๆ..หนูเป็นคนคุยสนุกแบบนี้นี่เองหลานย่าถึงได้มีรอยยิ้มเยอะกว่าเดิมมากเลย”“คุณทะเลเค้าไม่ค่อยยิ้มเหรอคะคุณย่า...ตอนอยู่ด้วยกันเค้ายิ้มตลอดเลยปากแทบจะฉีกถึงหูเลยล่ะค่ะ”ว่าแล้วก็พูดอวดทิพย์เกสรยกใหญ่ว่าตอนที่ชายหนุ่มอยู่กับเธอเขาแทบจะไม่หุบยิ้มเลยด้วยซ้ำนึกไม่ออกเลยว่าเวลาเขาทำหน้าดุจะเป็นเช่นไร“ขนาดนั้นเลยเหรอลูก”“ค่ะ..”“ใครนินทาผมอยู่หรือเปล่าครับ”ภูมิไทที่กำลังจะเข้ามาเรียกทั้งสองไปที่โต๊ะอาหารเขาก็ได้ยินประโยคหลังๆที่เปมิกาและทิพย์เกสรคุยกันแทบทุกคำจึงรู้ตัวว่ากำลังถูกนินทา“อืม...แฮร่..”คนที่รู้ตัวว่าถูกจับได้อย่างเปมิกาก็รีบยิ้มแหยให้ฝ่ายชายก่อนจะก้มหน้างุดมองไหมพรมที่กำลังถักในมือต่อ“อย่าทำให้หนูดาวเสียหายนะลูก”ก่อนภูมิไทและเปมิกาจะกลับทิพย์เกสรก็เรียกหลานชายเธอมาคุยตามลำพังถึงเธอจะไว้ใจหลานชายมากเพียงใดแต่ก็ไม่ลืมจะย้ำให้เขาได้ฟังอีกรอบว่าการเป็นสุภาพบุรุษจะต้องทำอย่างไร“ครับคุณย่าผมจะให้เกียรติเธอ”ชายหนุ่มรับปากคนเป็นย่าด้วยรอยยิ้มอ่อนแม้นเขาจะชอบเธอเพียงใดแต่ก็ไม่คิดจะล่วงเกินหากหญิงสาวไม่เต็มใจและจะไม่ทำให้เธอดูไม่ดีในสายตาของคนอื่นเด็ดขาด22.00 น.จากทุกคืนที่เ
"ฉันยืมมือถือคุณโทรหาเพื่อนได้หรือเปล่าคะเผื่อตอนนี้พวกเค้าจะตามหาฉันอยู่"สองหนุ่มสาวกลับมาถึงเกาะได้เปมิกาก็ขอยืมมือถือชายหนุ่มเพราะเธอนั้นขาดการติดต่อกับของขวัญนานแล้วทั้งยังอยากรู้ว่าหลานสาวของเธอตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"นี่ครับผมให้คนซื้อมาไว้ให้คุณตั่งแต่เมื่อวานแล้วแบตชาร์จเต็มแล้วด้วยคุณใช้งานได้เลย..แล้วก็มีพวกชุดที่ผมซื้อเพิ่มมาให้คุณด้วยนะครับ"ภูมิไทรีบจูงหญิงสาวเข้ามาในห้องและหยิบกล่องมือถือแบรนด์ดังราคาเหยียบครึ่งแสนที่วางอยู่บนโต๊ะให้เธอพร้อมเปิดตู้เสื้อผ้าให้หญิงสาวดูว่าตอนนี้เธอมีเสื้อผ้าของผู้หญิงใส่ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าของเขาอีกต่อไป"ขอบคุณนะคะคุณดีกับฉันอีกแล้ว"เปมิกายิ้มแก้มปริชายหนุ่มเล่นดีกับเธอแบบนี้เธอจะไม่ให้เธอรู้สึกผิดกับเขาได้ยังไง"ผมต้องดีกับแฟนผมอยู่แล้วครับ"ภูมิไทยกมือลูบหัวหญิงสาวเบาๆอย่างเอ็นดู"ฉันตกลงเป็นแฟนคุณตอนไหนคะ"สาวเจ้าเงยหน้าขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่มดูท่าว่าเขาจะคิดเองเออเองเสีย"ในห้องนอนบนเรือไงครับ"ภูมิไทก้มกระซิบข้างใบหน้านวลเขาถือว่าเรื่องที่เธอยอมให้เขาจูบโดยไม่ขัดขืนนั้นแสดงว่าเธอตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วไม่ใช่เพียงแค่คนคุยธรรมดาอีกต่อไป"คนบ้
ร่างบางหลับตานอนนิ่งขณะที่ชายหนุ่มกำลังไล่ซุกไซร้ลำคอระหงส์และประกบริมฝีปากหนาบดจูบอย่างไร้ความนุ่มนวลภูมิไทดูดดึงจนริมฝีปากบางจนแทบห้อเลือดก่อนจะส่งลิ้นร้ายตวัดดึงลิ้นเรียวของหญิงสาวเล่นน้ำตาของเธอที่ถูกปาดจนแห้งไปคราแรกตอนนี้กลับพรั่งพรูออกมาอีกรอบเพราะรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มไม่มีทีท่าจะนุ่มนวลเอาเสียเลยทั้งยังเสียใจที่ตอนนี้รู้แก่ใจว่าอีกฝ่ายน่าจะเกลียดเธอเอามากทั้งที่ตอนนี้เธอนั้นเริ่มรู้สึกดีกับเขามากๆไปแล้วภูมิไทไม่เคยคิดปราณีหญิงสาวแม้นเสี้ยววินาทีตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์โกรธที่เธอกล้ามาหลอกลวงเขาอีกอย่างก็โมโหที่หญิงสาวนั้นทำทุกอย่างได้ก็เพื่อเงินไม่เว้นแม้แต่ขายศักดิ์ศรีของตัวเองคนที่เขาคิดว่าดีไม่ได้ดีอย่างที่คิดเสียแล้วฟึ่บบเมื่อสำรวจบดจูบริมฝีปากบางจนพอใจแล้วมือหนาก็กระชากเสื้อตัวบางที่เปมิกาสวมใส่ขาดวิ่นเผยให้เห็นบราชิ้นเล็กสีครีมที่ปกปิดสองเต้างามชายหนุ่มไม่รีรอเขารีบสอดแขนประคองยกร่างบางขึ้นเล็กน้อยปลดตะขอสลัดเจ้าบราชิ้นเล็กทิ้งลงไปข้างเตียงทุกการกระทำของชายหนุ่มเปมิกาไม่เคยมองมันได้อย่างเต็มตาเธอพยายามหันหน้าหนีและหลับตาตลอดไม่อยากจดจำภาพต่างๆที่ชายหนุ่มได้กระทำกับตนแม้
เช้ามืดวันต่อมา"น้าไปทำงานก่อนนะโลมาเสร็จแล้วจะรีบกลับอย่าดื้อกับน้าขวัญล่ะ"เช้าวันต่อมาเปมิกาเข้ามากอดหอมหลานสาวตัวน้อยเช้ามืดในห้องของโลมาก่อนที่จะเดินทางไปทำงาน"ค่ะน้าดาว""เดินทางดีๆล่ะ"ของขวัญยื่นกระเป๋าให้เปมิกาทั้งอวยพรให้เพื่อนเธอเดินทางปลอดภัยเพราะต้องนั่งรถตู้ไกลพอสมควร"อืมไปล่ะ"หญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาหิ้วกระเป๋าใบไม่ใหญ่มากนักเดินออกไปจากบ้านนั่งแท็กซี่ไปต่อรถตู้ที่หน้าบ้านของแน็ตตี้โมเดลลิ่งเจ้าประจำที่ชอบเรียกเธอไปทำงานให้กว่าเปมิกาและเหล่านางแบบนายแบบอีกหลายคนเดินทางมาถึงหัวหินก็นั่งกันจนเมื่อยก้นนายแบบนางแบบบางคนที่มีทุนทรัพย์มากหน่อยก็ขับรถกันมาเองส่วนเปมิกาเลือกที่จะนั่งรถฟรีเพราะรถเก๋งคันเดียวของเธอต้องเอาไว้ให้ของขวัญใช้เพื่อพาโลมาไปหาหมอและไปส่งของตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้วเมื่อทุกคนมาถึงก็มารับคีย์การ์ดบ้านพักของตัวเองในรีสอร์ทหรูระดับห้าดาวที่มีบ้านพักหลายหลังรายล้อมติดริมทะเล"พักหรูแบบนี้เลยเหรอคะ"เปมิกานั่งรถกอล์ฟที่พนักงานจากรีสอร์ทขับมาส่งพร้อมแน็ตตี้เพราะบ้านที่เธอพักกับบ้านแน็ตตี้อยู่ใกล้ๆกันเธออดถามแน็ตตี้ไม่ได้ว่าให้พวกเธอพักค