ช่วงเย็นของวันรัชนนท์หนุ่มหล่อร่างสูงบึกบึนหน้าคมผมยาวรวบมัดตึงวัยสามสิบห้าในชุดเสื้อลินินสีงาช้างกางเกงเลสีดำใส่รองเท้าแตะหูหนีบเดินดุ่มๆแบกถังน้ำมันมาหาภูมิไทที่ท่าเรือก่อนจะวางมันลงที่เรือประมงของตัวเอง
“ทำไมวันนี้อยากจะใช้เรือพี่ล่ะ”
รัชนนน์เอ่ยถามกับชายหนุ่มเจ้าของเกาะที่นั่งรอเขาอยู่ที่ในเรือ
“ผมอยากนั่งเรือเล่นยืมคืนนึงนะครับพี่นนท์”
“ตามสบายเลย”
รัชนนท์รู้ดีว่าภูมิไทคงอยากหาอะไรทำแก้เบื่อเขาก็ไม่ติดอะไรที่ชายหนุ่มจะใช้เรือของเขาไปหาความสนุกเพราะภูมิไทก็ให้ที่พักอาศัยแก่เขาฟรีๆโดยที่ไม่ได้เรียกร้องอะไรแถมยังคอยดูแลอย่างดีอีกต่างหาก
เช้าตรู่วันต่อมา
และแล้วเช้าของวันใหม่หลังจากที่สองสาววางแผนกันมาดิบดีแล้วทั้งสองก็มายืนอยู่ที่หน้าผาชันไม่ใกล้ไม่ไกลกับเกาะของภูมิไทมากนัก
สองสาวยืนรับลมทะเลกันมาพักใหญ่เพื่อรอดูเรือประมงว่าจะมีหันหัวแล่นเข้าเกาะเมื่อไหร่เพราะเมื่อมีเรือมาเปทิกาก็จะรีบกระโดดจากหน้าผาลงไปที่ทะเลทันทีตามแผนที่วางเอาไว้คิดว่ายังไงคนบนเรือก็ต้องลงมาช่วยเธอจังหวะนั้นเธอจะได้ออกอุบายเพื่อเข้าไปที่เกาะส่วนตัวของภูมิไทได้
“เอาแบบนี้จริงเหรอดาว”
ของขวัญที่ยืนอยู่ข้างๆเปมิกาตอนนี้เธอมีสีหน้าไม่สู้ดีนักไม่รู้ว่าเพื่อนเธอไม่คิดแผนใหม่ที่ดีกว่านี้แล้วจริงๆหรือ
“ก็จริงน่ะสิ..ฝากดูแลโลมาด้วยล่ะเดี๋ยวฉันจะหาทางติดต่อกลับไปบ้าง”
“โอเคไม่ต้องห่วง...นั่น..เรือมาแล้ว”
ของขวัญรับปากเปมิกาให้เธอนั้นไม่ต้องห่วงเพราะอย่างไรเธอก็เอ็นดูโลมาเหมือนหลานคนนึงอยู่แล้วระหว่างที่คุยกับเพื่อนเธออยู่สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเรือประมงแล่นเข้ามาที่หน้าเกาะจึงรีบชี้มือชี้ไม้ให้เปมิกาได้เตรียมตัว
ภูมิไทที่กำลังขับเรือกลับที่เกาะยามเช้าตรู่หลังจากที่ออกไปล่องเรือเล่นยามค่ำคืนไม่ไกลจากเกาะนักแถมเขายังตกหมึกมาได้ถังใหญ่อีกด้วย
ตู้มมม..
“หา..”
ชายหนุ่มที่กำลังขับเรืออยู่เขาก็หน้าตาตื่นเบิกตาโพรงตกใจรีบจอดเรือกะทันหันเมื่อเห็นร่างของใครบางคนหล่นลงมาในทะเลคิดในใจว่าไม่พ้นคงมาฆ่าตัวตายตรงนี้แน่เพราะหน้าผาชันใกล้ๆกับเกาะของเขาน้อยคนนักที่จะมาเที่ยวที่นี่คิดได้ดังนั้นก็รีบกระโดดลงทะเลทันที
“อึก..อึก..”
ตอนนี้เปมิกาที่ปล่อยร่างจมลงไปในทะเลครู่หนึ่งแล้วเธอก็เริ่มหมดลมแถมเมื่อลืมตามองใต้น้ำเธอก็ยังไม่เห็นมีใครสักคนกระโดดลงมาช่วยแต่เธอก็ไม่ยอมคิดแพ้เพราะหากว่ายน้ำขึ้นไปรับอากาศจะดูไม่น่าเชื่อว่าเธอกำลังจะฆ่าตัวตาย
“อึก..”
สาวเจ้าในตอนนี้เริ่มจะไม่ไหวปล่อยทิ้งตัวนิ่งแต่ไม่นานนักเธอก็เห็นผู้ชายรางใหญ่เข้ามาดึงตัวเธอขึ้นไปและแล้วสิ่งที่เธอคิดเอาไว้ก็สำเร็จนึกในใจว่าเกือบจะต้องมาตายเพราะแผนบ้าๆของตัวเองเสียแล้ว
“โอ้ย..โล่งอก”
ของขวัญที่นอนหมอบเฝ้าดูอยู่บนหน้าผาเห็นผู้ชายร่างใหญ่ลากเพื่อนเธอขึ้นเรือไปได้เธอก็โล่งใจต่อจากนี้ไปหน้าที่ของเธอก็คือกลับไปดูแลโลมาและคอยยื่นมือช่วยเหลือเมื่อเพื่อนเธอขอความช่วยเหลือมาก็เท่านั้นภาวนาว่าให้เปมิกาทำภารกิจให้สำเร็จโดยไม่มีอุปสรรคอะไรก็แล้วกัน
“คุณ..”
ภูมิไทวางร่างบางลงที่หัวเรือก่อนจะเขย่าตัวเรียกเธอให้มีสติในใจตอนนี้คิดว่าหญิงสาวที่กำลังอยู่ในวัยแรกรุ่นแบบนี้ทำไมถึงคิดสั้นคงไม่พ้นอกหักคิดแล้วเขาก็ส่ายหัวไปมาก่อนจะประสานมือกดไปที่กลางหน้าอกของหญิงสาวเพื่อทำการปฐมพยาบาล
“..อืม..”
ตอนนี้เปมิกาเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้วหญิงสาวต้องรีบพลิกหน้าหนีเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังก้มลงมาจะจูบเธอ
“แอ้กๆ...”
สาวเจ้าลุกนั่งก่อนจะไอเอาน้ำทะเลที่กลืนลงไปเสียเยอะให้ออกมารู้สึกแสบคอแสบหูแสบตาพอสมควรแต่ก็คุ้มค่าเพราะตอนนี้เธอได้อยู่บนเรือประมงที่น่าจะเป็นของคนบนเกาะสมใจแล้ว
“ฟื้นแล้วก็ดีครับ..ผมนึกว่าจะช่วยคุณเอาไว้ไม่ได้ซะอีก”
ภูมิไทโล่งอกเมื่อหญิงสาวไม่มาเสียชีวิตใกล้ๆที่นี่เพราะเขาไม่อยากให้ระแวกนี้มีข่าวว่ามีใครมาตายเท่าไร
“มาช่วยฉันทำไม...ฉันอยากตาย”
เปมิกาเริ่มทำทีสะอึกสะอื้นบีบน้ำตา
“อกหักใช่หรือเปล่า”
“ฮือๆๆ...ฉันรักเค้ามากขนาดนั้นแต่เค้ากลับทิ้งฉันลง...ฮือๆๆ”
เปมิกาเริ่มบีบน้ำตาสะอื้นเล่นใหญ่แต่ในใจยิ้มร่าที่ชายหนุ่มเข้าใจว่าเธออกหักโดยที่ไม่ต้องพูดหรืออธิบายอะไรมากนัก
“ชีวิตคนเรามีค่ามากกว่าจะมาตายเพราะผู้ชายทิ้งนะครับ...นี่ถ้าพ่อแม่คุณรู้เค้าจะเสียใจแค่ไหนทำไมทำอะไรไม่คิดเลย”
ภูมิไทนั่งขมวดคิ้วมองหน้าหญิงสาวก่อนจะสอนเธอให้เห็นค่าในตัวเองมากกว่านี้
“ฮือๆๆๆ..”
เปทิมานั่งทำทีปาดน้ำตาไม่ยอมหยุด
“ฉันแค่อยากหาที่เงียบๆอยู่ให้สบายใจแต่ไม่มีเลย...ฉันคิดว่าใต้ทะเลคงเงียบสุดสำหรับฉัน..ฉันเลยพร้อมที่จะมอบชีวิตให้ทะเล...ฮื่อๆๆ”
ดวงตาคมมองหญิงสาวด้วยความกลุ้มใจกับอาการของเธอครู่หนึ่งก่อนจะเสนอให้เธอไปอยู่ที่เกาะของเขาหากที่เกาะทำให้หญิงสาวอาการดีขึ้นได้เขาก็เขาก็ยินดี
“ถ้าผมมีที่สงบๆให้คุณอยู่เพื่อพักใจ..สัญญากับผมได้หรือเปล่าว่าจะไม่คิดสั้นแบบนี้อีก”
“คุณจะให้ฉันไปอยู่ที่ไหน”
“เกาะนั่นไง”
ชายหนุ่มชี้มือไปที่เกาะส่วนตัวของเขาที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้นัก
“เอ่อ..จะดีเหรอ”
แม้นตอนนี้อยากจะกระโดดกรีดร้องดีใจออกมาดังๆแต่สาวเจ้าก็ยังคงต้องเก็บอาการเอาไว้ทั้งยังต้องทำสีหน้าหมดอาลัยตายอยากตลอดเวลาเพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นว่าเธอพร้อมที่จะคิดสั้นได้ตลอดเวลา
“ดีสิ..ถ้าคุณไว้ใจผม..ผมก็จะพาคุณไป”
“คือ...ฉันลองไปดูก็ได้คุณจะให้ฉันอยู่กี่วันฉันคิดว่าหากอยู่นานๆฉันก็คงจะดีขึ้นมาก”“จะอยู่เท่าไรก็แล้วแต่คุณเลยผมให้อยู่ฟรีกินฟรีด้วย”ภูมิไทเห็นทีท่าว่าหญิงสาวเริ่มที่จะสนใจสิ่งที่เขานำเสนอแล้วจึงตามใจเธอทุกอย่างเพราะคนที่กำลังจิตใจอ่อนแอย่อมต้องการพลังที่เป็นบวก“ขอบคุณนะคะ...ฉันชื่อปลาดาวเรียกฉันว่าดาวก็ได้คุณล่ะ”“ผมชื่อทะเล...นี่ผ้าห่มเอาไว้เดี๋ยวจะหนาว”ชายหนุ่มแนะนำตัวกับหญิงสาวก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนสีน้ำตาลของเขาที่ยังไม่ได้ใช้เอามาให้เธอห่มเพราะกว่าจะถึงเกาะเธอต้องรับลมทะเลอีกพักใหญ่เดี๋ยวจะหนาวเอาได้“ขอบคุณนะคะ”ภูมิไทพาหญิงสาวขึ้นจากท่าเรือเดินตามแนวชายหาดมาไม่ไกลนักก็เจอบ้านหลังสีขาวเล็กๆหลังคาทรงปั้นหยาตัวบ้านยกสูงจากพื้นบันไดสามขั้นด้านหน้ามีชานระเบียงกว้างเอาไว้นั่งรับลมเปมิกาเห็นคราแรกก็รู้สึกชอบบ้านหลังนี้มากเพราะเป็นบ้านริมทะเลในฝันที่เธออยากจะมีแต่คิดไปคิดมาก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะตอนนี้เธอไม่เห็นมีใครอยู่ที่บ้านอีกอย่างบ้านก็ตั้งอยู่หลังเดียวโดดๆแถมเธอยังมาอยู่กับชายหนุ่มชาวประมงสองต่อสองอีกอันที่จริงนึกว่าขึ้นฝั่งมาแล้วจะเจอคนอื่นบ้างแต่เปล่าเลย"บ้านผม
หลังจากที่ภูมิไทไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพักใหญ่เปมิกาก็ง่วนอยู่กับการกินหมึกย่างจนตอนนี้หมึกย่างในถาดสแตนเลสใหญ่ก็ได้หมดลงไม่เหลือสักชิ้น"อืม.. เอ่อะ"ร่างบางนั่งตัวตรงเรอออกมาอย่างไม่ห่วงสวยหลังจากเคี้ยวหมึกชิ้นสุดท้ายหมดปาก"แล้วเค้าจะกินอะไรล่ะ"พออิ่มจนพุงกางเปมิกาก็พึ่งนึกได้ว่าคนที่หาหมึกพวกนี้มาน่าจะยังไม่ได้กินอะไรเธอจึงรีบมองซ้ายมองขวาแล้วลุกไปที่ตู้เย็นทันที"ฉันหุงข้าวกับทำไข่เจียวให้คุณก็แล้วกัน"เปิดตู้เย็นมาเจอไข่หญิงสาวก็หยิบมันออกมาสองลูกก่อนจะมองไปที่หม้อข้าวตั้งอยู่ที่เคาเตอร์ครัวแล้วลงมือหุงข้าวด้วยความชำนาญก่อนจะเริ่มตอกไข่ใส่ถ้วยเพื่อที่จะตีทำไข่เจียว"ทำอะไรเหรอครับ""พอดีฉันกินหมึกย่างจนหมดกลัวคุณไม่มีอะไรกินฉันเลยถือวิสาสะหุงข้าวกับจะทำไข่เจียวให้คุณ"เปมิกาหันยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มที่กำลังถือผ้าเช็ดผมของเขาที่เปียกหมาดๆอยู่เธอละอายใจพอสมควรที่กินไม่เหลือเผื่อแผ่ให้เจ้าของอาหาร"กินหมดถาดเลยเหรอครับ""คือ.. อย่าโกรธฉันเลยนะคะฉันหิว"หญิงสาวรีบขอโทษชายหนุ่มที่กำลังยืนทำสีหน้านิ่งงัน"เปล่าครับผมไม่ได้โกรธแค่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างคุณจะกินไม่เยอะเสียอีก...หมึกยัง
"คุณนอนในห้องผมแล้วผมนอนที่โซฟาข้างนอกเอง"เห็นสีหน้าหญิงสาวเริ่มเสียกะทันหันภูมิใทจึงต้องรีบอธิบายให้จบว่าเขาไม่ได้หมายความว่าเขาจะนอนกับเธอ"อ่อ..ค่ะ...รบกวนคุณแย่เลยเนอะ"ชายหนุ่มว่าจบร่างบางก็ร้องอ๋อเสียงสูงปัดไม้ปัดมือทำท่าพูดเกรงอกเกรงใจทั้งที่ในใจพอใจกับคำตอบของอีกฝ่ายพอสมควรที่เขาจะยกห้องนอนให้เธอแล้วออกไปนอนข้างนอก"ไม่เป็นไรเลยครับ"22.00 น.“นายเป็นใครกันแน่นายทะเล”กลางดึกแล้วตอนนี้เปมิกาก็ยังนอนไม่หลับเธอยังคงแปลกใจกับบ้านของชาวประมงธรรมดาเพราะเมื่อมาสังเกตดีๆเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ที่นี่ทุกชิ้นแพงๆทั้งนั้นแถมเสื้อที่เธอใส่อยู่นี่ก็น่าจะเป็นเสื้อผ้าที่สั่งตัดมาโดยเฉพาะผิวพรรณชายหนุ่มก็ดูเนียนไม่กระดำกระด่างคำพูดคำจาก็ไม่ติดสำเนียงคนท้องถิ่นแม้แต่น้อยอยากจะรู้นักว่าทะเลคนนี้คือใครกันแน่เพราะตอนนี้เธอเริ่มไม่ค่อยเชื่อแล้วว่าเขาคือชาวประมงทางด้านภูมิไทหลังจากที่โทรบอกกับทุกคนในเกาะว่ามีคนมาอยู่กับเขาที่บ้านเล็กตอนนี้และสั่งห้ามไม่ให้ทุกคนยุ่มย่ามมาที่นี่เพราะไม่อยากให้หญิงสาวได้เจอใครกลัวว่าคนเหล่านั้นจะหลุดปากบอกกับเธอว่าเขาเป็นใครเวลานี้ชายหนุ่มก็เอาเตียงผ้าใบมานอนกางที่ระเบี
ภูมิไทไม่ได้มีปัญหาว่าหญิงสาวจะคืนเงินหรือไม่คืนอยู่แล้วหลังจากที่คุยกันเรียบร้อยทั้งสองก็เตรียมตัวออกเรือไปที่ฝั่งกันทันทีเรือเล่นมาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงฝั่งเล่นเอาเปมิกาเวียนหัวอยู่พอสมควรเพราะไม่ค่อยได้นั่งเรือบ่อยเท่าไรนักภูมิไทจึงพาเธอมานั่งพักที่เก้าอี้สาธารณะริมฟุตบาทก่อนที่จะไปทำธุระกันต่อ“ค่อยยังชั่วแล้วหรือยังครับ”“ค่ะ..”“เราต้องต่อรถไปอีกนิดนะครับถึงจะถึงห้าง”ภูมิไทเห็นว่าหญิงสาวค่อยยังชั่วแล้วจึงอยากให้เธอเดินทางต่อเพราะยังต้องต่อรถอีกพักใหญ่ถึงจะเดินทางถึงห้างในตัวเมือง“ไปห้างทำไมคะแถวนี้ก็น่าจะมีของที่ฉันจะซื้อแถมยังมีพวกอาหารสดด้วย...แต่ฉันขอกินข้าวก่อนแล้วค่อยเดินนะคะ..หิวไม่ไหวแล้วจริงๆ”เปมิกาเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัยเธอไม่ได้คิดจะเข้าห้างสรรพสินค้าเพราะตรงหน้าก็เป็นลานตลาดนัดกว้างท่าจะมีทั้งของกินของใช้ครบเลยแต่ก่อนจะเดินเธอต้องขอกินอะไรก่อนออกเรือมาก็ไม่ได้กินอะไรรองท้องมาเลย“ผมไม่เห็นมีร้านอาหารแถวนี้นะครับ”ภูมิไทคิดว่าหญิงสาวจะต้องติดใช้ของในห้างเสียอีกหากเธออยากจะเดินที่นี่เขาก็ไม่ว่าแต่เขาไม่ยักเห็นร้านอาหารแถวนี้จะเปิดสักร้านเพราะส่วนมากจะเปิด
อาทิตย์ต่อมาจากวันที่เปมิกาเจ็บวันนั้นตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ภูมิไทอยู่ดูแลหญิงสาวไม่ห่างทั้งทำอาหารทำแผลคอยอุ้มหญิงสาวออกไปนั่งเล่นข้างนอกเพราะกลัวว่าเธอจะเบื่อตอนนี้ทั้งคู่เลยดูสนิมกันโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็มีความรู้สึกดีๆให้กันอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัวด้วยภูมิไทเองก็ไม่เคยดูแลใกล้ชิดผู้หญิงคนไหนมาก่อนเช่นเดียวกับเปมิกาเธอก็ไม่เคยมีแฟนและใกล้ผู้ชายคนไหนมาก่อนเช่นกันเมื่อได้ใกล้กันเข้าแถมยังคุยกันถูกคอความรู้สึกดีๆเลยเกิดขึ้นได้ไม่ยากตอนนี้หญิงสาวก็ตัดไหมเรียบร้อยแล้วแผลบนหัวไม่มีความรู้สึกเจ็บเท่าไรนักแต่ที่เท้ายังคงมีนิดหน่อยหากลงเดิน“ให้ฉันช่วยนะคะ”เปมิกาเดินกะเผลกๆมาที่ในครัวเพื่อจะช่วยชายหนุ่มทำอาหารเพราะให้เขาทำให้เธอกินมาหลายวันแล้ว“ผมบอกว่าอย่าเดินเองไงครับ”ภูมไทรีบละมือหมายจะเข้ามาประคองอุ้มร่างบางไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารแต่เธอก็รีบปฏิเสธเพราะเธอนั้นพอเดินเองไหว“คุณไม่ต้องอุ้มฉันแล้วก็ได้ค่ะ..ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”“ไม่ครับ..ผมอยากอุ้ม..”ว่าจบก็รวบยกร่างบางขึ้นทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเคอะเขินหลังจากจบมื้ออาหารเย็นภูมิไทก็พาหญิงสาวขี่หลัง
“ฮ่าๆๆ..หนูเป็นคนคุยสนุกแบบนี้นี่เองหลานย่าถึงได้มีรอยยิ้มเยอะกว่าเดิมมากเลย”“คุณทะเลเค้าไม่ค่อยยิ้มเหรอคะคุณย่า...ตอนอยู่ด้วยกันเค้ายิ้มตลอดเลยปากแทบจะฉีกถึงหูเลยล่ะค่ะ”ว่าแล้วก็พูดอวดทิพย์เกสรยกใหญ่ว่าตอนที่ชายหนุ่มอยู่กับเธอเขาแทบจะไม่หุบยิ้มเลยด้วยซ้ำนึกไม่ออกเลยว่าเวลาเขาทำหน้าดุจะเป็นเช่นไร“ขนาดนั้นเลยเหรอลูก”“ค่ะ..”“ใครนินทาผมอยู่หรือเปล่าครับ”ภูมิไทที่กำลังจะเข้ามาเรียกทั้งสองไปที่โต๊ะอาหารเขาก็ได้ยินประโยคหลังๆที่เปมิกาและทิพย์เกสรคุยกันแทบทุกคำจึงรู้ตัวว่ากำลังถูกนินทา“อืม...แฮร่..”คนที่รู้ตัวว่าถูกจับได้อย่างเปมิกาก็รีบยิ้มแหยให้ฝ่ายชายก่อนจะก้มหน้างุดมองไหมพรมที่กำลังถักในมือต่อ“อย่าทำให้หนูดาวเสียหายนะลูก”ก่อนภูมิไทและเปมิกาจะกลับทิพย์เกสรก็เรียกหลานชายเธอมาคุยตามลำพังถึงเธอจะไว้ใจหลานชายมากเพียงใดแต่ก็ไม่ลืมจะย้ำให้เขาได้ฟังอีกรอบว่าการเป็นสุภาพบุรุษจะต้องทำอย่างไร“ครับคุณย่าผมจะให้เกียรติเธอ”ชายหนุ่มรับปากคนเป็นย่าด้วยรอยยิ้มอ่อนแม้นเขาจะชอบเธอเพียงใดแต่ก็ไม่คิดจะล่วงเกินหากหญิงสาวไม่เต็มใจและจะไม่ทำให้เธอดูไม่ดีในสายตาของคนอื่นเด็ดขาด22.00 น.จากทุกคืนที่เ
"ฉันยืมมือถือคุณโทรหาเพื่อนได้หรือเปล่าคะเผื่อตอนนี้พวกเค้าจะตามหาฉันอยู่"สองหนุ่มสาวกลับมาถึงเกาะได้เปมิกาก็ขอยืมมือถือชายหนุ่มเพราะเธอนั้นขาดการติดต่อกับของขวัญนานแล้วทั้งยังอยากรู้ว่าหลานสาวของเธอตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"นี่ครับผมให้คนซื้อมาไว้ให้คุณตั่งแต่เมื่อวานแล้วแบตชาร์จเต็มแล้วด้วยคุณใช้งานได้เลย..แล้วก็มีพวกชุดที่ผมซื้อเพิ่มมาให้คุณด้วยนะครับ"ภูมิไทรีบจูงหญิงสาวเข้ามาในห้องและหยิบกล่องมือถือแบรนด์ดังราคาเหยียบครึ่งแสนที่วางอยู่บนโต๊ะให้เธอพร้อมเปิดตู้เสื้อผ้าให้หญิงสาวดูว่าตอนนี้เธอมีเสื้อผ้าของผู้หญิงใส่ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าของเขาอีกต่อไป"ขอบคุณนะคะคุณดีกับฉันอีกแล้ว"เปมิกายิ้มแก้มปริชายหนุ่มเล่นดีกับเธอแบบนี้เธอจะไม่ให้เธอรู้สึกผิดกับเขาได้ยังไง"ผมต้องดีกับแฟนผมอยู่แล้วครับ"ภูมิไทยกมือลูบหัวหญิงสาวเบาๆอย่างเอ็นดู"ฉันตกลงเป็นแฟนคุณตอนไหนคะ"สาวเจ้าเงยหน้าขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่มดูท่าว่าเขาจะคิดเองเออเองเสีย"ในห้องนอนบนเรือไงครับ"ภูมิไทก้มกระซิบข้างใบหน้านวลเขาถือว่าเรื่องที่เธอยอมให้เขาจูบโดยไม่ขัดขืนนั้นแสดงว่าเธอตกลงเป็นแฟนกับเขาแล้วไม่ใช่เพียงแค่คนคุยธรรมดาอีกต่อไป"คนบ้
ร่างบางหลับตานอนนิ่งขณะที่ชายหนุ่มกำลังไล่ซุกไซร้ลำคอระหงส์และประกบริมฝีปากหนาบดจูบอย่างไร้ความนุ่มนวลภูมิไทดูดดึงจนริมฝีปากบางจนแทบห้อเลือดก่อนจะส่งลิ้นร้ายตวัดดึงลิ้นเรียวของหญิงสาวเล่นน้ำตาของเธอที่ถูกปาดจนแห้งไปคราแรกตอนนี้กลับพรั่งพรูออกมาอีกรอบเพราะรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มไม่มีทีท่าจะนุ่มนวลเอาเสียเลยทั้งยังเสียใจที่ตอนนี้รู้แก่ใจว่าอีกฝ่ายน่าจะเกลียดเธอเอามากทั้งที่ตอนนี้เธอนั้นเริ่มรู้สึกดีกับเขามากๆไปแล้วภูมิไทไม่เคยคิดปราณีหญิงสาวแม้นเสี้ยววินาทีตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์โกรธที่เธอกล้ามาหลอกลวงเขาอีกอย่างก็โมโหที่หญิงสาวนั้นทำทุกอย่างได้ก็เพื่อเงินไม่เว้นแม้แต่ขายศักดิ์ศรีของตัวเองคนที่เขาคิดว่าดีไม่ได้ดีอย่างที่คิดเสียแล้วฟึ่บบเมื่อสำรวจบดจูบริมฝีปากบางจนพอใจแล้วมือหนาก็กระชากเสื้อตัวบางที่เปมิกาสวมใส่ขาดวิ่นเผยให้เห็นบราชิ้นเล็กสีครีมที่ปกปิดสองเต้างามชายหนุ่มไม่รีรอเขารีบสอดแขนประคองยกร่างบางขึ้นเล็กน้อยปลดตะขอสลัดเจ้าบราชิ้นเล็กทิ้งลงไปข้างเตียงทุกการกระทำของชายหนุ่มเปมิกาไม่เคยมองมันได้อย่างเต็มตาเธอพยายามหันหน้าหนีและหลับตาตลอดไม่อยากจดจำภาพต่างๆที่ชายหนุ่มได้กระทำกับตนแม้