Share

ตอนที่15 เป็นไบโพล่า

"หืม...พี่ว่าแค่นี้ก็ได้แล้ว"

"เกรซว่าถ่ายไว้เผื่อเลือกก็ดีนะคะ"

กชกรยังให้เปลี่ยนเซ็ทนางแบบนายแบบไม่ได้เพราะเธออยากให้เปมิกามีรูปที่ขี่หลังกับลูคัสเพราะคิดว่าทั้งสองถ่ายออกมาน่าจะน่ารักไม่น้อย

"คุณเกรซคะ.. โอเคหรือเปล่าคะ"

ยังไม่ทันที่กชกรจะสั่งตอนนี้เปมิกาก็ขึ้นขี่หลังลูคัสเรียบร้อยทำเอาช่างภาพจำเป็นอย่างภูมิไทกำมือแน่นไม่รู้ว่าน้องสาวเขาจะให้สองคนนั้นเป็นคู่รักที่สมจริงไปถึงขั้นไหน

"น่ารักมากค่ะน้องดาว.. พี่ภูมิถ่ายเลยค่ะ"

"อืม...เรียบร้อย"

ภูมิไทลั่นชัตเตอร์ครั้งเดียวอย่างไม่ใส่ใจรูปที่ออกมาอีกเช่นเคยภาวนาให้รูปที่เขาถ่ายมันใช้ไม่ได้จะได้ไม่มีรูปเนื้อแนบเนื้อของเปมิกาและลูคัสออกสื่อ

"ได้รูปแล้วเหรอคะ"

กชกรมองหน้าพี่ชายเธอด้วยสีหน้าสงสัยเพราะยังถ่ายไม่ถึงสามวิรูปที่ได้จะออกมาดีจริงหรือ

"ใช่..จะเปลี่ยนอะไรอีกหรือเปล่า"

ภูมิไทพยักหน้า

"โอเคค่ะ.. พอก็พอ"

“เดี๋ยวพี่ขอพักสักเดี๋ยวนะเกรซ”

“ค่ะ”

เมื่อน้องสาวยอมที่จะพอกับการถ่ายภาพสองคนนี้ภูมิไทก็ละจากหลังกล้องเดินไปสงบอารมณ์ไกลๆไม่ชอบตัวเองที่ต้องรู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นเปมิกาอยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่นเอาเสียเลย

“เป็นอะไรของเค้านะ..พี่ฉันเป็นไบโพล่าป่ะเนี่ย”

กชกรไม่เข้าใจอาการของพี่ชายเธอเอาเสียเลยเพราะจากที่ยังเห็นเขาอารมณ์ดีๆกลับดูอารมณ์เสียขึ้นมากะทันหันทั้งที่ตอนเช้าๆก็ยังไม่ร้อนอากาศกำลังดี

หลังจากเสร็ตสิ้นจากการถ่ายแบบคอลเล็คชั่นแรกของแบรนด์ในช่วงเช้าแล้วช่วงบ่ายทุกคนก็มาสังสรรค์กันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับในเช้าวันพรุ่งนี้ทุกคนสนุกสนานกับการทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเลบางคนก็ไปขับเจ็ทสกีเล่นหรือจับกลุ่มพูดคุยกันตามประสาคนที่ทำงานแวดวงเดียวกัน

แต่เปมิกาดูจะไม่ค่อยสนุกสนานกับเวลานี้เท่าไรนักเพราะรำคาญสายตาของภูมิไทที่เอาแต่จับจ้องเธอไม่วางสายตาไม่รู้ว่าจะจับผิดอะไรเธอนักหนาครั้นจะเสียมารยาทลุกออกจากตรงนี้ไปก็กลัวว่าจะถูกหาว่าเย่อหยิ่งไม่ยอมเข้าสังคมความอึดอัดในใจตอนนี้จึงมีอยู่ไม่น้อย

21.30 น.

หญิงสาวร่างบางในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งกับกางเกงนอนขายาวสีเทานอนกลิ้งนอนเกลือกอยู่บนเตียงนุ่มในมือเรียวมีมือถือราคาแพงที่ภูมิไทซื้อให้เธอก่อนที่จะผิดใจกัน

ทุกครั้งที่มองมือถือเครื่องนี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่ารูปที่เธอเคยถ่ายในเครื่องของเขาที่เธอทำหน้าจอแตกเขายังเก็บมันไว้อยู่หรือไม่

“เฮ้อ..ไม่ชอบหน้าเราขนาดนั้นเก็บไว้ก็บ้าแล้ว”

เมื่อคิดได้ก็ส่ายหัวด้วยใบหน้าบึ้งตึงรำคาญความรู้สึกตัวเองตอนนี้ที่เอาแต่ไปคิดถึงเรื่องเก่าๆอยู่ได้ทั้งที่บอกกับตัวเองก่อนหน้าว่าจะต้องลืมคนปากร้ายอย่างเขาไป

ทางด้านภูมิไทในตอนนี้ยังคงนั่งคุยอยู่กับธันวาในบ้านพักพร้อมกับกชกรถึงเรื่องงานที่พึ่งจบไปกชกรในเวลานี้หน้าหงิกหน้างอที่พี่ชายเธอถ่ายแบบทุกเซ็ทดีหมดยกเว้นเซ็ทของลูคัสและเปมิกาที่ใช้ได้เพียงแค่ไม่กี่รูปเท่านั้น

“ครั้งหน้าเกรซจะไม่ให้พี่ภูมิถ่ายให้แล้วค่ะเกรซก็ถามแล้วถามอีกว่าใช่ได้จริงหรือเปล่า..รู้แบบนี้ดูเสียตั้งแต่หน้ากองก็ดี”

“อย่าบ่นนักเลยน่าเกรซ..มันก็มีรูปที่ใช้ได้อยู่ไม่ใช่หรือไง”

“ไม่อารมณ์เสียนะครับที่รัก..เดี๋ยวให้กราฟิกส์ลองแก้ไขรูปดูอีกทีว่าใช้ได้หรือไม่ได้”

“เฮ้อ..ก็ได้ค่ะ”

ธันวาต้องกอดร่างบางของคนเป็นภรรยาลูบหัวทุยของเธอเบาๆเพื่อลดอารมณ์โมโหในตัวของเธอในเมื่องานจบแล้วไม่ใช่ว่ารูปที่ถ่ายมาจะใช้ไม่ได้เพราะยังไงก็ต้องไปปรับแต่งภาพโดยทีมส์กราฟฟิกส์อีกครั้งอยู่ดี

หลังจากที่แยกย้ายกันกลับจากที่หัวหินแล้วตอนนี้เปมิกาก็กลับมาที่บ้านด้วยอารมณ์ห่อเหี่ยวเธอไม่ได้บอกของขวัญว่าคนที่เป็นหุ้นใหญ่ของแบรนด์คือใครเพราะรู้ว่าหากบอกไปเพื่อนเธอก็คงจะไม่สบายใจไปด้วยเธออยากให้ของขวัญทำงานอย่างไม่ตะขิดตะขวงอะไรเพราะรู้ว่านี่คือความฝันของเพื่อนเธอที่ฝันร่วมกับเธอมานานแล้วเรื่องที่ต้องการจะทำแบรนด์เสื้อผ้าให้เติบโต

“หมอว่าสุขภาพของโลมาเป็นยังไงบ้างขวัญ”

เปมิกาและของขวัญกำลังตรวจดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าก่อนจะแพ็คลงถุงหญิงสาวมองชะเง้อไปยังหลานสาวตัวเล็กที่กำลังนั่งเล่นบ้านตุ๊กตาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักเป็นระยะ

“ดีขึ้นเรื่อยๆไม่มีอะไรผิดปกติหมอบอกว่าตอนนี้ให้เริ่มพาโลมาออกไปใช้ชีวิตข้างนอกโดยที่ไม่ต้องห่วงได้แล้ว”

“แบบนี้โลมาก็จะใช้ชีวิตในโรงเรียนได้แล้วล่ะสิ”

เปมิกาใจชื้นที่หลานเธอจะเข้าโรงเรียนได้เพราะชีวิตของเด็กเล็กควรจะมีสังคมในวัยเดียวกัน

“อืม..เออ..แล้วเรื่องเซ็นสัญญากับคุณเกรซล่ะ”

“เธอว่าจะส่งให้เรามาอ่านในเมลก่อนแล้วอาทิตย์หน้าจะนัดคุยกับเซ็นสัญญาอีกที”

“ฉันตื่นเต้นอยากจะทำงานใหญ่ไม่ไหวแล้ว”

เปมิกาอมยิ้มอ่อนคราแรกเธอก็ดีใจอย่างของขวัญแต่เมื่อรู้ว่าใครคือหุ้นส่วนใหญ่ก็ลดทอนความดีใจของเธอลง

สามวันต่อมาเปมิกาและของขวัญก็ได้พาโลมาไปสมัครในโรงเรียนอนุบาลทั้งสองโล่งใจที่เห็นโลมานั้นค่อนข้างดีใจที่รู้ว่าจะได้เข้าโรงเรียนไปเจอเพื่อนๆวัยเดียวกันโรงเรียนที่สองสาวพาโลมาไปสมัครอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับบ้านที่พวกเธอเช่าอยู่นักจึงไม่ได้ลำบากในการเดินทาง

หลังจากสมัครเรียนเรียบร้อยแล้วสองสาวก็พาโลมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆเพื่อพาโลมามาวิ่งเล่นในที่กว้างๆพวกเธอเองก็ได้พักผ่อนไปด้วย

“ฉันอยากเห็นภาพนี้มานานแล้วภาพที่หลานสาวฉันแข็งแรงและวิ่งเล่นได้เหมือนเด็กคนอื่นๆเสียที”

เปมิกานั่งกินขนมพรางมองหลานสาวด้วยสายตาที่เอ็นดูริมฝีปากบางมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลาเพราะภาพที่เห็นตอนนี้เป็นภาพที่อยากเห็นมานานแล้ว

เธอยังจำวันแรกที่เธอเจอโลมาได้ตอนนี้หลานเธอตัวเล็กผอมแห้งกว่านี้มากซ้ำยังอ่อนแอจนแทบเดินไม่ไหวต่างกับวันนี้มากเธอไม่อยากจะพูดว่าเงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างเพราะมันซื้อชีวิตของหลานสาวเธอมาแล้ว

“เออ..แล้วพี่เดือนไม่ติดต่อมาบ้างเลยเหรอ..นี่คิดจะห่วงโลมาบ้างหรือเปล่า”

ของขวัญไม่คิดเดือนฉายจะคิดทิ้งลูกได้ลงคอซ้ำยังทิ้งภาระหนักอึ้งเอาไว้ให้น้องสาวตัวเองได้รับผิดชอบแอบรู้สึกโกรธเดือนฉายแทนเปมิกาพอสมควร

“ตอนนี้ฉันไม่นึกถึงพี่ฉันอีกแล้ว...”

เปมิกาเลิกนึกถึงพี่สาวเธอไปแล้วด้วยไม่ค่อยได้มีความผูกพันธ์กันเท่าไรเพราะเดือนฉายออกจากบ้านไปมีครอบครัวตั้งแต่เปมิกายังอยู่ม.ต้นหายไปหลายปีปล่อยให้เธออยู่กับแม่ลำพังหนำซ้ำกลับมาหาเธอแค่ช่วงเวลาสั้นๆยังเอาภาระมาทิ้งไว้อีกต่างหากแต่อีกใจเป็นไปได้ก็อยากให้เดือนฉายกลับมาอยู่กับโลมาเพราะรู้สึกได้ว่าลึกๆในใจแล้วโลมาก็ต้องการแม่แม้จะไม่ได้ร้องเรียกหาแล้วก็ตาม

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status