"หืม...พี่ว่าแค่นี้ก็ได้แล้ว"
"เกรซว่าถ่ายไว้เผื่อเลือกก็ดีนะคะ"
กชกรยังให้เปลี่ยนเซ็ทนางแบบนายแบบไม่ได้เพราะเธออยากให้เปมิกามีรูปที่ขี่หลังกับลูคัสเพราะคิดว่าทั้งสองถ่ายออกมาน่าจะน่ารักไม่น้อย
"คุณเกรซคะ.. โอเคหรือเปล่าคะ"
ยังไม่ทันที่กชกรจะสั่งตอนนี้เปมิกาก็ขึ้นขี่หลังลูคัสเรียบร้อยทำเอาช่างภาพจำเป็นอย่างภูมิไทกำมือแน่นไม่รู้ว่าน้องสาวเขาจะให้สองคนนั้นเป็นคู่รักที่สมจริงไปถึงขั้นไหน
"น่ารักมากค่ะน้องดาว.. พี่ภูมิถ่ายเลยค่ะ"
"อืม...เรียบร้อย"
ภูมิไทลั่นชัตเตอร์ครั้งเดียวอย่างไม่ใส่ใจรูปที่ออกมาอีกเช่นเคยภาวนาให้รูปที่เขาถ่ายมันใช้ไม่ได้จะได้ไม่มีรูปเนื้อแนบเนื้อของเปมิกาและลูคัสออกสื่อ
"ได้รูปแล้วเหรอคะ"
กชกรมองหน้าพี่ชายเธอด้วยสีหน้าสงสัยเพราะยังถ่ายไม่ถึงสามวิรูปที่ได้จะออกมาดีจริงหรือ
"ใช่..จะเปลี่ยนอะไรอีกหรือเปล่า"
ภูมิไทพยักหน้า
"โอเคค่ะ.. พอก็พอ"
“เดี๋ยวพี่ขอพักสักเดี๋ยวนะเกรซ”
“ค่ะ”
เมื่อน้องสาวยอมที่จะพอกับการถ่ายภาพสองคนนี้ภูมิไทก็ละจากหลังกล้องเดินไปสงบอารมณ์ไกลๆไม่ชอบตัวเองที่ต้องรู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นเปมิกาอยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่นเอาเสียเลย
“เป็นอะไรของเค้านะ..พี่ฉันเป็นไบโพล่าป่ะเนี่ย”
กชกรไม่เข้าใจอาการของพี่ชายเธอเอาเสียเลยเพราะจากที่ยังเห็นเขาอารมณ์ดีๆกลับดูอารมณ์เสียขึ้นมากะทันหันทั้งที่ตอนเช้าๆก็ยังไม่ร้อนอากาศกำลังดี
หลังจากเสร็ตสิ้นจากการถ่ายแบบคอลเล็คชั่นแรกของแบรนด์ในช่วงเช้าแล้วช่วงบ่ายทุกคนก็มาสังสรรค์กันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับในเช้าวันพรุ่งนี้ทุกคนสนุกสนานกับการทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเลบางคนก็ไปขับเจ็ทสกีเล่นหรือจับกลุ่มพูดคุยกันตามประสาคนที่ทำงานแวดวงเดียวกัน
แต่เปมิกาดูจะไม่ค่อยสนุกสนานกับเวลานี้เท่าไรนักเพราะรำคาญสายตาของภูมิไทที่เอาแต่จับจ้องเธอไม่วางสายตาไม่รู้ว่าจะจับผิดอะไรเธอนักหนาครั้นจะเสียมารยาทลุกออกจากตรงนี้ไปก็กลัวว่าจะถูกหาว่าเย่อหยิ่งไม่ยอมเข้าสังคมความอึดอัดในใจตอนนี้จึงมีอยู่ไม่น้อย
21.30 น.
หญิงสาวร่างบางในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งกับกางเกงนอนขายาวสีเทานอนกลิ้งนอนเกลือกอยู่บนเตียงนุ่มในมือเรียวมีมือถือราคาแพงที่ภูมิไทซื้อให้เธอก่อนที่จะผิดใจกัน
ทุกครั้งที่มองมือถือเครื่องนี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่ารูปที่เธอเคยถ่ายในเครื่องของเขาที่เธอทำหน้าจอแตกเขายังเก็บมันไว้อยู่หรือไม่
“เฮ้อ..ไม่ชอบหน้าเราขนาดนั้นเก็บไว้ก็บ้าแล้ว”
เมื่อคิดได้ก็ส่ายหัวด้วยใบหน้าบึ้งตึงรำคาญความรู้สึกตัวเองตอนนี้ที่เอาแต่ไปคิดถึงเรื่องเก่าๆอยู่ได้ทั้งที่บอกกับตัวเองก่อนหน้าว่าจะต้องลืมคนปากร้ายอย่างเขาไป
ทางด้านภูมิไทในตอนนี้ยังคงนั่งคุยอยู่กับธันวาในบ้านพักพร้อมกับกชกรถึงเรื่องงานที่พึ่งจบไปกชกรในเวลานี้หน้าหงิกหน้างอที่พี่ชายเธอถ่ายแบบทุกเซ็ทดีหมดยกเว้นเซ็ทของลูคัสและเปมิกาที่ใช้ได้เพียงแค่ไม่กี่รูปเท่านั้น
“ครั้งหน้าเกรซจะไม่ให้พี่ภูมิถ่ายให้แล้วค่ะเกรซก็ถามแล้วถามอีกว่าใช่ได้จริงหรือเปล่า..รู้แบบนี้ดูเสียตั้งแต่หน้ากองก็ดี”
“อย่าบ่นนักเลยน่าเกรซ..มันก็มีรูปที่ใช้ได้อยู่ไม่ใช่หรือไง”
“ไม่อารมณ์เสียนะครับที่รัก..เดี๋ยวให้กราฟิกส์ลองแก้ไขรูปดูอีกทีว่าใช้ได้หรือไม่ได้”
“เฮ้อ..ก็ได้ค่ะ”
ธันวาต้องกอดร่างบางของคนเป็นภรรยาลูบหัวทุยของเธอเบาๆเพื่อลดอารมณ์โมโหในตัวของเธอในเมื่องานจบแล้วไม่ใช่ว่ารูปที่ถ่ายมาจะใช้ไม่ได้เพราะยังไงก็ต้องไปปรับแต่งภาพโดยทีมส์กราฟฟิกส์อีกครั้งอยู่ดี
หลังจากที่แยกย้ายกันกลับจากที่หัวหินแล้วตอนนี้เปมิกาก็กลับมาที่บ้านด้วยอารมณ์ห่อเหี่ยวเธอไม่ได้บอกของขวัญว่าคนที่เป็นหุ้นใหญ่ของแบรนด์คือใครเพราะรู้ว่าหากบอกไปเพื่อนเธอก็คงจะไม่สบายใจไปด้วยเธออยากให้ของขวัญทำงานอย่างไม่ตะขิดตะขวงอะไรเพราะรู้ว่านี่คือความฝันของเพื่อนเธอที่ฝันร่วมกับเธอมานานแล้วเรื่องที่ต้องการจะทำแบรนด์เสื้อผ้าให้เติบโต
“หมอว่าสุขภาพของโลมาเป็นยังไงบ้างขวัญ”
เปมิกาและของขวัญกำลังตรวจดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าก่อนจะแพ็คลงถุงหญิงสาวมองชะเง้อไปยังหลานสาวตัวเล็กที่กำลังนั่งเล่นบ้านตุ๊กตาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักเป็นระยะ
“ดีขึ้นเรื่อยๆไม่มีอะไรผิดปกติหมอบอกว่าตอนนี้ให้เริ่มพาโลมาออกไปใช้ชีวิตข้างนอกโดยที่ไม่ต้องห่วงได้แล้ว”
“แบบนี้โลมาก็จะใช้ชีวิตในโรงเรียนได้แล้วล่ะสิ”
เปมิกาใจชื้นที่หลานเธอจะเข้าโรงเรียนได้เพราะชีวิตของเด็กเล็กควรจะมีสังคมในวัยเดียวกัน
“อืม..เออ..แล้วเรื่องเซ็นสัญญากับคุณเกรซล่ะ”
“เธอว่าจะส่งให้เรามาอ่านในเมลก่อนแล้วอาทิตย์หน้าจะนัดคุยกับเซ็นสัญญาอีกที”
“ฉันตื่นเต้นอยากจะทำงานใหญ่ไม่ไหวแล้ว”
เปมิกาอมยิ้มอ่อนคราแรกเธอก็ดีใจอย่างของขวัญแต่เมื่อรู้ว่าใครคือหุ้นส่วนใหญ่ก็ลดทอนความดีใจของเธอลง
สามวันต่อมาเปมิกาและของขวัญก็ได้พาโลมาไปสมัครในโรงเรียนอนุบาลทั้งสองโล่งใจที่เห็นโลมานั้นค่อนข้างดีใจที่รู้ว่าจะได้เข้าโรงเรียนไปเจอเพื่อนๆวัยเดียวกันโรงเรียนที่สองสาวพาโลมาไปสมัครอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับบ้านที่พวกเธอเช่าอยู่นักจึงไม่ได้ลำบากในการเดินทาง
หลังจากสมัครเรียนเรียบร้อยแล้วสองสาวก็พาโลมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆเพื่อพาโลมามาวิ่งเล่นในที่กว้างๆพวกเธอเองก็ได้พักผ่อนไปด้วย
“ฉันอยากเห็นภาพนี้มานานแล้วภาพที่หลานสาวฉันแข็งแรงและวิ่งเล่นได้เหมือนเด็กคนอื่นๆเสียที”
เปมิกานั่งกินขนมพรางมองหลานสาวด้วยสายตาที่เอ็นดูริมฝีปากบางมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลาเพราะภาพที่เห็นตอนนี้เป็นภาพที่อยากเห็นมานานแล้ว
เธอยังจำวันแรกที่เธอเจอโลมาได้ตอนนี้หลานเธอตัวเล็กผอมแห้งกว่านี้มากซ้ำยังอ่อนแอจนแทบเดินไม่ไหวต่างกับวันนี้มากเธอไม่อยากจะพูดว่าเงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างเพราะมันซื้อชีวิตของหลานสาวเธอมาแล้ว
“เออ..แล้วพี่เดือนไม่ติดต่อมาบ้างเลยเหรอ..นี่คิดจะห่วงโลมาบ้างหรือเปล่า”
ของขวัญไม่คิดเดือนฉายจะคิดทิ้งลูกได้ลงคอซ้ำยังทิ้งภาระหนักอึ้งเอาไว้ให้น้องสาวตัวเองได้รับผิดชอบแอบรู้สึกโกรธเดือนฉายแทนเปมิกาพอสมควร
“ตอนนี้ฉันไม่นึกถึงพี่ฉันอีกแล้ว...”
เปมิกาเลิกนึกถึงพี่สาวเธอไปแล้วด้วยไม่ค่อยได้มีความผูกพันธ์กันเท่าไรเพราะเดือนฉายออกจากบ้านไปมีครอบครัวตั้งแต่เปมิกายังอยู่ม.ต้นหายไปหลายปีปล่อยให้เธออยู่กับแม่ลำพังหนำซ้ำกลับมาหาเธอแค่ช่วงเวลาสั้นๆยังเอาภาระมาทิ้งไว้อีกต่างหากแต่อีกใจเป็นไปได้ก็อยากให้เดือนฉายกลับมาอยู่กับโลมาเพราะรู้สึกได้ว่าลึกๆในใจแล้วโลมาก็ต้องการแม่แม้จะไม่ได้ร้องเรียกหาแล้วก็ตาม
วันเวลาล่วงเลยมาเป็นอาทิตย์วันนี้เป็นวันที่ของขวัญและเปมิกาถึงเวลาที่จะต้องเซ็นสัญญาร่วมงานกับกชกรเสียทีสามสาวนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับรองโฮมของออฟฟิศกชกรที่นี่เป็นบ้านหลังใหญ่ของภูมิไทที่ให้กชกรใช้เป็นออฟฟิศและสตูดิโอในการทำงานของแบรนด์เสื้อผ้า“ออฟฟิศน่ารักดีนะคะ”ของขวัญเอ่ยชมออฟฟิศของกชกรเพราะตั้งแต่เข้ามาเธอรู้สึกไม่เหมือนที่นี่เป็นที่ทำงานเท่าไรเพราะแต่ละคนที่นั่งทำงานก็ชิวกันมากเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนอย่างไงอย่างงั้น“พี่อยากให้ที่ทำงานเป็นเหมือนบ้านไม่ต้องยึดคำว่าเจ้านายลูกน้องอยากให้เป็นแค่เราทุกคนช่วยกันสร้างองค์กรของเราให้เติบโตอย่างมีคุณภาพน่ะ..แล้วสัญญาอ่านกันครบหรือยัง”“เรียบร้อยค่ะวันนี้เตรียมตัวมาเซ็นโดยเฉพาะค่ะ”“ดีเลยนี่จะ..เซ็นทุกหน้าเลยนะ”กชกรยื่นเอกสารปึกหนาพอสมควรให้กับสองสาวหลังจากที่เสร็จธุระเรื่องสัญญาแล้วกชกรก็พาสองสาวเรียนรู้ระบบการทำงานของที่นี่และมอบหมายหน้าที่ให้ทั้งสองโดยการเริ่มออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นต่อไปของแบรนด์ทันที“สวัสดีครับทุกคน”“คุณลูคัส”ระหว่างที่สามสาวกำลังยืนคุยเรื่องงานกันเพลินๆนายแบบลูกครึ่งร่างสูงก็เดินดุ่มๆเข้ามาทักทายเปมิกาที่เห็นลู
ตอนนี้เป็นเวลาร่วมเดือนหว่าแล้วที่เปมิกาและของขวัญได้ทำงานที่บรัทของกชกรพวกเธอสนุกกับการทำงานที่ออฟฟิศแห่งนี้มากตอนนี้คอลเลคชั่นหน้าหนาวที่กชกรต้องการสองสาวก็ออกแบบกันเสร็จเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปก็เป็นการขึ้นตัวอย่างและเริ่มผลิตกับโรงงานเปมิกามีความสุขกับการทำงานดีเพราะตลอดเวลาที่เธอทำงานที่นี่ก็ไม่ได้เจอหน้าของภูมิไทเลยสักครั้งเธอแอบหวังว่าอยากให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปเพราะหากเธอจะต้องมาทำงานใกล้ชิดภูมิไทคงไม่ค่อยมีสมาธิแน่ในส่วนของของขวัญกับลูคัสก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นทุกวันสุดสัปดาห์ลูคัสจะไปกินข้าวเย็นกับสาวๆที่บ้านประจำแถมเขายังเข้ากันได้ดีกับโลมาอีกด้วยเปมิกาก็เป็นแม่สื่อแม่ชักดีที่หนึ่งหากเห็นลูคัสมีวันว่างวันไหนเป็นต้องนัดให้มาเจอกันเพื่อเปิดโอกาสให้ลูคัสและของขวัญได้พูดคุยสานสัมพันธ์กันให้สนิทสนมมากขึ้น"วันเสาร์นี้คุณลูคัสว่างหรือเปล่าคะ"เปมิกาเดินเข้ามาหาลูคัสขณะที่เขากำลังเข้ามาดื่มกาแฟในช่วงบ่ายครัว"ครับผมว่างทั้งเสาร์อาทิตย์เลย""ดีจังเลยค่ะฉันกับขวัญว่าจะพาโลมาไปทะเลคุณลูคัสไปด้วยกันนะคะพวกเราอยากมีรูปสวยๆที่ทะเลเก็บเอาไว้""ยินดีเลยครับ"ลูคัสไม่ปฏิเสธหญิงสาวเพราะเห
"เค้ามาที่นี่เหรอ""อืม...""ก็ช่างเค้าสิเค้าก็ไม่ได้มายุ่งกับเราซะหน่อย"เปมิกาตกใจเล็กน้อยแต่พยายามทำทีท่าไม่ใส่ใจเพราะถึงภูมิไทอยู่ที่นี่เขาก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับเธออยู่แล้วRrrrRrrrrrขณะที่สองสาวกำลังคุยกันด้วยสีหน้าค่อนข้างซีเรียสเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานก็ดังขึ้นเป็นของขวัญที่รีบเอื้อมมือยกหูรับ"ขวัญพูดค่ะ.. ค่ะ... ได้ค่ะคุณเกรซ""ดาวคุณเกรซให้ไปคุยที่ห้องยอกว่าจะคุยเรื่องโรงงานผ้า""ฉันคนเดียวเหรอ""อืม"เปมิการับเดินออกไปหากชกรในห้องทันทีหวังในมจว่าขอให้ภูมิไทไม่อยู่ในระหว่างที่เธอคุยงานแต่เมื่อมาถึงยังไม่ทันได้เปิดประตูดวงตากลมก็เห็นอยู่แล้วว่าในห้องทำงานของกชกรมีภูมิไทนั่งหัวโด่อยู่ด้วยสาวเจ้าจึงเริ่มมีความอึดอัดขึ้นมาทันที"น้องดาวมาพอดีพี่ภูมิมีเรื่องจะคุยกับเราหน่อยน่ะเดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะ""เอ่อ.. ค่ะ.."หลังจากเปิดประตูเข้าห้องทำงานของกชกรมาได้เปมิกายังไม่ทันที่จะได้กล่าวอะไรกชกรก็พูดสวนออกมาทั้งเดินสวนเธอออกจากห้องไปทิ้งให้เธออยู่กับภูมิไทในห้องนี้สองต่อสองเสียอย่างนั้น"พรุ่งนี้คุณต้องไปเชียงใหม่ไปดูโรงงานผ้ากับผม"ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนล้วงมือทั้งสองเข้ากระเป๋าเอ่ยปากถึง
รถตู้คันหรูสีดำวิ่งออกจากตัวเมืองกรุงเทพมหานครมาได้สองสามชั่วโมงแล้วแต่ดูท่ามันจะยังไม่ไปถึงไหนเพราะภูมิไทเหยียบคันเร่งอย่างกับรถที่น้ำมันจะหมดเปมิกาเองก็นั่งหน้ามุ่ยขยับไปมาพักใหญ่จนต้องตัดสินใจพูดกับคนที่กำลังขับรถเป็นเต่าคลานว่าหากเขายังเหยียบคันเร่งแค่นี้เมื่อไรจะถึงที่หมาย"ขับให้เร็วกว่านี้ได้หรือเปล่าคะแบบนี้เมื่อไรจะถึง""มาขับเองดีหรือเปล่าล่ะให้นั่งเฉยๆยังจะบ่น"ภูมิไทตอบหญิงสาวอย่างลอยหน้าลอยตาเขานึกว่าเธอจะไม่ยอมพูดกับเขาตลอดทางเสียอีกนับว่าหญิงสาวใจเย็นพอสมควรที่ทนให้เขาแกล้งมาได้ถึงสองสามชั่วโมง"จอดค่ะ""อะไร""ฉันจะขับเองคุณจะได้นั่งสบายๆไงล่ะคะคุณเจ้านายใหญ่""อืม..."ภูมิไทค่อยๆลงไปจอดที่ไหล่ทางหากเปมิกาประสงค์จะขับเขาก็ไม่ขัดร่างบางเดินลงจากรถดุ่มๆสวนกับภูมิไทเพื่อนสลับที่นั่งเปมิกาเข้ามาในรถพร้อมกับภูมิไทขณะที่ชายหนุ่มกำลังหยิบขวดน้ำขึ้นดื่มบรื๊นนน....เอี๊ยดดดสาวเจ้ามองกระจกแล้วตอนนี้ถนนโล่งเธอจึงขอเอาคืนชายหนุ่มโดยการเหยียบคันเร่งแรงๆแล้วเบรกกะทันหันทำเอาคนตัวโตถึงกับสำลักน้ำแทบหัวทิ่มคอนโซลดีที่มีเบลคาดเอาไว้อยู่แล้ว"อึก..อืม..ทำอะไรของคุณ"ตอนนี้เสื้อยืดสีขา
“ขอเป็นแฟน...จริงเหรอคะ..ดาวดีใจที่สุดเลยค่ะแบบนี้ต้องฉลองแล้ว..ค่ะ..ไว้เจอกันค่ะ”เปมิกายิ้มร่าดีใจแทนของขวัญจนเนื้อเต้นที่ได้เจอคนที่ถูกใจแถมลูคัสยังเอ่ยปากขอของขวัญเป็นแฟนก่อนอีกนับว่าทริปทะเลครั้งนี้ที่เธอคิดขึ้นแม้นจะไม่ได้ไปเที่ยวกับทุกคนแต่ก็ไม่เสียเปล่าเพราะเพื่อนเธอได้มีแฟนกับเค้าแล้วระหว่างที่เปมิกากำลังดีใจเปิดบ้านเลื่อนเข้าไปปิดนอนในห้องด้วยความอารมณ์เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีคนยืนกำมือแน่นและกำลังเดินดุ่มๆมาเคาะที่หลังห้องเธอพร้อมกับอารมณ์ที่มีแต่โทสะลูกใหญ่อยู่ในอกก๊อกๆๆ“หืม..”เปมิกามองออกไปที่บ้านเลื่อนแสงไฟรอบรั้วทำให้เธอเห็นว่าเป็นภูมิไทแม้นจะไม่ชัดเท่าไรไม่รู้ว่าเขามาเคาะห้องเธอทำไมเวลานี้ทั้งที่มันเป็นเวลาที่เธอจะต้องพักผ่อนมีหรือเธอจะลุกไปเปิดยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงเพื่อให้อีกฝ่ายคิดว่าเธอหลับไปแล้ว“ผมรู้ว่าคุณยังไม่นอนเปิดเดี๋ยวนี้”“โอ้ย...อะไรนักหนา”สิ้นเสียงภูมิไทเปกิกาก็ลุกออกจาเตียงด้วยความหงุดหงิดบ่นอู้อี้วันนี้เธอก็ขับรถจนเมื่อยมาทั้งวันแล้วไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มทำไมต้องมารบกวนการพักผ่อนของเธออีก“อะไรของคุณ..อื้ออ..”ยังไม่ทันที่จะได้ถามจบประโยคร่างบาง
"มือถือนั่นผมเป็นคนซื้อให้คุณผมมีสิทธิ์จะทำอะไรกับมันก็ได้...อย่าลืมที่ผมเตือนสิผู้ชายคนไหนรู้ว่าคุณขายตัวใครเค้าก็ไม่อยากจริงจังกับคุณหรอก"เพี๊ยะ"หมาในปากของคุณฉันนับตัวไม่ถ้วนเลยนะคะ"สิ้นเสียงชายหนุ่มเปมิกาก็ยกมือเรียวฟาดไปที่แก้มสากของคนที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวรู้สึกไม่ชอบในความเอาแต่ใจเผด็จการของภูมิไทจนถึงขั้นเกลียดก็ว่าได้"อื้อออ..."สาวเจ้าดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียงเมื่อคนตัวโตก้มมาบดจูบเธอโดยไร้ซึ่งความนุ่มนวลอีกครั้ง"ปล่อย..ฉันนะ"และแล้วเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ก็กระจายขาดวิ่นอยู่รอบเตียงด้วยฝีมือของคนตัวโตบทสวาทเร่าร้อนไร้ความนิ่มนวลเกิดขึ้นเนิ่นนานเสียจนร่างบางสลบเหมือดคาเตียงเวลาพ้นผ่านไปพักใหญ่เมื่อเปมิกาตื่นมาอีกครั้งในช่วงเย็นของวันก็ไม่เห็นคนที่หาความสุขบนตัวของเธออยู่ที่นี่แล้วดวงตากลมโตมีน้ำตาไม่ขาดสายเพราะรู้ตัวว่าตัวเองคงเป็นได้แค่ที่ระบายของเขาเท่านั้น22.00 น.หลังจากสองสาวกล่อมโลมาจนหลับไปแล้วก็มานั่งคุยกันต่อที่ห้องนั่งเล่นของขวัญนึกขึ้นได้ว่าช่วงเกือบๆเที่ยงที่เธอใช้มือถือลูคัสโทรหาเปมิกาทำไมจึงไม่ติด"ตอนบ่ายแบตเครื่องฉันหมดเลยยืมมือถือคุณลุคโทรหาแล้วเครื่อง
รถเก๋งสีขาวขับออกมาจากบ้านร่วมพักใหญ่และแล้วมิกาก็ขับรถมาถึงบ่อนการพนันที่นี่ดูอึมครึมลึกลับหากมองภายนอกคงดูไม่ออกว่าเป็นบ่อนเหมือนจะเป็นโรงเก็บของหรือโกดังอะไรมากกว่าเปมิกานั่งรวบรวมความกล้าอยู่ครู่หนึ่งบนรถจึงลงจากรถไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยเผชิญมาก่อนเปมิกาเดินเข้ามาหาผู้ชายร่างสูงใหญ่วัยกลางคนที่มีใบหน้าโหดพอสมควรที่หน้าประตูทางเข้าเธอเพียงเอ่ยแค่ว่าเป็นน้องสาวของเดือนฉายเขาก็พาเธอเดินเข้ามาด้านในโดยที่ไม่ถามอะไรทางที่เธอเดินเห็นจะเป็นส่วนหลังของบ่อนหรือทางลับเพราะไม่เห็นคนเดินสวนมาแม้แต่คนเดียวไม่นานนักก็มาถึงห้องโถงใหญ่ในห้องโถงมีแสงไฟสลัวจากหลอดไฟไม่กี่หลอดและมีผู้หญิงรูปร่างอ้วนท้วมแต่งตัวสีฉูดฉาดใบหน้ากลมแป้นแต่งหน้าเต็มนั่งรอเธอพร้อมกับเดือนฉายและชายชุดดำอีกสี่ห้าคนอยู่แล้วหากเดาไม่ผิดผู้หญิงร่างท้วมข้างๆพี่สาวเธอคงเป็นเจ๊อ้วนเจ้าของบ่อนที่โทรมาหาเธอแน่“มาแล้วเหรอดาว”เดือนฉายหญิงสาวร่างสูงเพรียวใบหน้าสวยคมละม้ายคล้ายกับเปมิกาทุกอย่างติดที่ตอนนี้เธอดูโทรมซูบผอมหน้าดำคล้ำกว่าเดิมไปมากและตอนนี้ก็กำลังนั่งมีน้ำตาไหลมาไม่ขาดสายเพราะกลัวว่าจะถูกขายหลังจากไม่มีเงินมาใช้หนี้บ่
เปมิกายืนก้มหน้านิ่งครู่หนึ่งหลังจากอีกฝ่ายว่าข้อตกลงจบเธอไม่อยากรับปากแต่หากจะงอแงก็กลัวว่าจะไม่ได้อะไรเลยจึงจำต้องยอมตกลงรับปากแต่โดยดีโดยไม่มีข้อแม้หรือโต้แย้งใดๆ"ค่ะ.."ร่างบางวางกระเป๋าลงทั้งเดินดิ่งตรงไปจัดการตัวเองอย่างว่าง่ายยังไม่ทันที่จะถึงประตูห้องน้ำดีหญิงสาวก็ต้องหยุดชะงักหันหน้ามาหาคนที่กำลังเอ่ยปากพูดด้วย"ถ้าจะเป็นคนของผมคุณต้องเลิกกับแฟนของคุณเพราะผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร"ภูมิไทต้องบอกเปมิกาให้เธอได้รู้ว่าแม้นเธอจะมีแฟนแต่ช่วงเวลาที่เธอต้องมานอนกับเขาเธอจะต้องห้ามยุ่งกับใคร"แฟน?""อืม..""ฉัน...ไม่มีแฟนนะคะ"คิ้วได้รูปขมวดปมสงสัยว่าชายหนุ่มเอาเรื่องที่เธอนั้นมีแฟนมาจากไหน"คุณแน่ใจว่าคุณไม่ได้โกหกผม""ค่ะ..."เปมิกาพยักหน้ายืนยันก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะเข้าใจว่าเขาคงคิดเองเออเองตามประสาคนที่อยากจะหาเรื่องเธอมากกว่า"หึ่.. หน้าเงินเสียจนไม่มีความจริงใจให้ใครเลยหรือไง"ภูมิไททิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงคิดดูถูกเปมิกาที่เห็นเธออยากจะได้เงินจากเขาจนต้องโกหกหน้าตายว่าตัวเองไม่มีแฟนขณะใช้เวลาชำระร้างร่างกายอยู่ในห้องน้ำเปมิกามีน้ำตารื้นออกมาตลอดเพราะตอนนี้เธอก็แค่ผู้หญิงข