"เค้ามาที่นี่เหรอ"
"อืม..."
"ก็ช่างเค้าสิเค้าก็ไม่ได้มายุ่งกับเราซะหน่อย"
เปมิกาตกใจเล็กน้อยแต่พยายามทำทีท่าไม่ใส่ใจเพราะถึงภูมิไทอยู่ที่นี่เขาก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับเธออยู่แล้ว
RrrrRrrrrr
ขณะที่สองสาวกำลังคุยกันด้วยสีหน้าค่อนข้างซีเรียสเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานก็ดังขึ้นเป็นของขวัญที่รีบเอื้อมมือยกหูรับ
"ขวัญพูดค่ะ.. ค่ะ... ได้ค่ะคุณเกรซ"
"ดาวคุณเกรซให้ไปคุยที่ห้องยอกว่าจะคุยเรื่องโรงงานผ้า"
"ฉันคนเดียวเหรอ"
"อืม"
เปมิการับเดินออกไปหากชกรในห้องทันทีหวังในมจว่าขอให้ภูมิไทไม่อยู่ในระหว่างที่เธอคุยงานแต่เมื่อมาถึงยังไม่ทันได้เปิดประตูดวงตากลมก็เห็นอยู่แล้วว่าในห้องทำงานของกชกรมีภูมิไทนั่งหัวโด่อยู่ด้วยสาวเจ้าจึงเริ่มมีความอึดอัดขึ้นมาทันที
"น้องดาวมาพอดีพี่ภูมิมีเรื่องจะคุยกับเราหน่อยน่ะเดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะ"
"เอ่อ.. ค่ะ.."
หลังจากเปิดประตูเข้าห้องทำงานของกชกรมาได้เปมิกายังไม่ทันที่จะได้กล่าวอะไรกชกรก็พูดสวนออกมาทั้งเดินสวนเธอออกจากห้องไปทิ้งให้เธออยู่กับภูมิไทในห้องนี้สองต่อสองเสียอย่างนั้น
"พรุ่งนี้คุณต้องไปเชียงใหม่ไปดูโรงงานผ้ากับผม"
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนล้วงมือทั้งสองเข้ากระเป๋าเอ่ยปากถึงงานที่เธอต้องไปทำกับเขาในวันพรุ่งนี้ทั้งยังมองจ้องเธอไม่วางตาไม่รู้ว่าหน้าตาของเขามันไม่น่าเริงรมณ์สำหรับหญิงสาวนักหรืออย่างไรถึงได้เจอกันกี่ครั้งก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตา
"เอ่อ..แต่พรุ่งนี้วันหยุดฉันนะคะแล้วฉันก็ไม่ว่างด้วย"
เปมิกายืนก้มหน้างุดตอบกลับคนที่กำลังเดินเข้ามาประชิดเสียงดังฟังชัดพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเธอคงไม่ผิดอะไรที่เธอจะปฏิเสธเพราะเขาไม่ได้บอกเธอล่วงหน้าเรื่องที่จะให้เธอทำงานในวันพรุ่งนี้
"ไม่ว่างก็ต้องว่างเพราะงานนี้ผมรีบอีกอย่างเกรซก็ไม่ว่างไปกับผมด้วย"
"คุณไปคนเดียวไม่ได้หรือไงคะ"
"ไม่ได้...ผมไม่ได้รู้เรื่องผ้าดีเท่าคุณ...ถ้าผมใช้อะไรคุณไม่ได้จะจ้างมาเพื่ออะไรอีกอย่างผมก็มีเงินพิเศษให้คุณเพิ่มไม่ใช่ให้ทำงานวันหยุดฟรีๆเสียหน่อย"
"ฉันขอปฏิเสธงานนี้ค่ะ"
เปมิกายืนยันคำเดิมทั้งเริ่มเลยหน้ามองจ้องร่างสูงเขม็งดูเขาจะเผด็จการเกินคนไปแล้วเห็นว่าเธอเป็นลูกน้องก็ออกคำสั่งโดยที่ไม่คิดจะเกรงใจ
"อยากให้เพื่อนตกงานด้วยงั้นสิ"
ภูมิไทโน้มใบหน้าลงกระซิบข้างใบหน้านวลจนหญิงสาวต้องผงะถอยหลังตวัดสายตามองค้อนคนเผด็จการอีกรอบหากเธอไม่ยอมรับงานเขาก็เล่นเอาหน้าที่การงานของเพื่อนเธอมาบีบเห็นเธอเป็นลูกไก่ในกำมือของเขาหรืออย่างไร
"คุณภูมิไท..คุณเป็นเจ้านายที่นิสัยแย่ที่สุดที่ฉันเคยเจอเลย"
"ตกลงหรือเปล่าล่ะ...ไม่ตกลงก็เขียนใบลาออกได้เลย"
"ฉันตกลงก็ได้ค่ะ..”
“...ดีพรุ่งนี้ไปหาผมที่บ้านตอนแปดโมงเช้าอย่าสายล่ะโลเคชั่นเดี๋ยวผมให่เกรซส่งไปให้"
ว่าจบก็เดินออกจากห้องด้วยสีหน้าระรื่นที่ทำให้เปมิกาอดไปเที่ยวกับลูคัสได้
“นิสัย...ลูกคนเดียวเป็นแบบน้าสินะ...บังคับฉันนักเดี๋ยวได้เจอดีแน่”
หลังจากภูมิไทเดินลอยหน้าลอยตาออกไปได้สาวเจ้าก็ยืนหน้ามุ่ยกำมือแน่นหากเขาเห็นเธอเป็นลูกไก่ในกำมือลูกไก่ตัวนี้ก็ขอจิกให้คนที่กำตัวเธอได้แผลเสียบ้างคงจะดี
วันต่อมาเปมิกาเดินทางมาที่บ้านของภูมิไทในช่วงเช้าของวันเสาร์เมื่อมาถึงเธอก็ต้องมีน้ำโหขึ้นมากะทันหันด้วยคราแรกนึกว่าชายหนุ่มจะพาเธอนั่งเครื่องบินไปที่หมายเพื่อย่นระยะเวลาเดินทางแต่เขากลับเลือกที่จะขับรถตู้คันหรูสีดำไปแทน
"เราไม่ได้นั่งเครื่องไปเหรอคะ"
"ไม่...ผมจะขับรถไปเผื่อขนตัวอย่างผ้ากลับมาด้วย..."
"เฮ้อ...แล้วเมื่อไรจะถึงคะ"
"เมื่อไรก็เมื่อนั้น"
หากมีคนขับรถไปด้วยเปมิกาก็ไม่มีปัญหาเท่าไรแต่นี่ต้องไปกับชายหนุ่มสองต่อสองมีหวังเธอได้นั่งอึดอัดหัวใจตายเป็นสิบชั่วโมงเพราะเชื่อว่าต้องมีคำพูดที่ทำให้เธอไม่สบอารมณ์จากปากเขาระหว่างการเดินทางแน่นอน
ทางด้านของลูคัสและของขวัญก็ออกเดินทางพาโลมาไปทะเลกันแต่เช้าตรู่เพื่อต้องการจะเดินทางถึงเกาะให้เร็วสองวันนี้หนูน้อยอย่างโลมาจะได้มีเวลาเพลิดเพลินอยู่กับบรรยากาศของทะเลได้เต็มที่
"คนตื่นเต้นหลับซะแล้ว"
ของขวัญเดินทางมาพร้อมทั้งสองได้ครึ่งทางก็หันหลังไปมองหลานสาวที่นอนหลับอยู่ในคาร์ซีทใส่ชุดนางเงือกน้อยกระโปรงสีเขียวฟูฟ่องด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มจะไม่ให้โลมาหลับได้อย่างไรก็เล่นตื่นมาตั้งแต่ตีสี่ตื่นเต้นที่จะได้ไปทะเล
"โลมาไม่ค่อยได้ไปไหนเหรอครับดูเธอตื่นเต้นเป็นพิเศษ"
ลูคัสหันมาถามของขวัญครู่หนึ่งก่อนจะมองทางข้างหน้าขณะขับรถต่อ
"โลมาไม่แข็งแรงตั้งแต่มาอยู่กับพวกเราแล้วค่ะหลังจากผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูกตอนนี้ก็เริ่มจะแข็งแรงจึงพอใช้ชีวิตอย่างเด็กปกติได้เธอก็เลยดูตื่นเต้นมากเพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาทะเล"
"อย่างนี้นี่เอง...จริงสิผมไม่เคยเห็นแม่โลมาเลยเธออยู่ไหนเหรอครับ"
"คือ..ตั้งแต่พาโลมามาอยู่กับพวกเราได้พักใหญ่เธอก็หายไปไม่กลับมาอีกเลย"
"เอ่อ..แล้วโลมา...”
ลูคัสได้ฟังคำตอบของหญิงสาวเขาก็หน้าเสียไม่คิดว่าเธอจะมีโชคชะตาเช่นนี้แต่ยังดีที่มีน้าสาวใจดีสองคนช่วยดูแล
"แรกๆก็ร้องบ้างหลังๆก็ไม่เรียกหาแล้วล่ะค่ะพวกเราพยายามทำทุกอย่างให้โลมาไม่รู้สึกขาดอะไร"
"ดูคุณขวัญจะเอ็นดูโลมามากเลยนะครับ"
"ค่ะ...โลมาเป็นเด็กที่ว่าง่ายมากๆฉันเลยทั้งรักทั้งสงสารนึกถึงตัวเองตอนไม่มีแม่มันว้าเหว่มาก"
ของขวัญเห็นโลมาก็นึกถึงตัวเองเธอถูกแม่เอามาทิ้งกับยายไว้ตั้งแต่เล็กๆโดยไม่ใยดีแม้แต่น้อยพอโตขึ้นมาหน่อยยายก็ดันมาเสียจึงเหลือตัวคนเดียวเช่นนี้ดีที่มาเจอเปมิกาจึงอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย
"อืม...ผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดีเพราะผมก็ไม่มีเหมือนกันครับ"
ลูคัสหน้าเจื่อนลงพอสมควรเขาเองก็ไม่มีแม่เช่นกันเพราะแม่ของเขาหายไปตั้งแต่เขาเล็กๆเพราะพ่อเขานั้นนอกใจเอาผู้หญิงคนใหม่เข้าบ้านพอโตขึ้นเขาจึงแยกออกจากครอบครัวและไม่ยอมกลับไปที่บ้านอีกเลย
"เจอคนหัวอกเดียวกันอีกแล้ว...บังเอิญจังเลยนะคะ"
ของขวัญหันมาสบตากับลูคัสเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปก้มหน้าก้มตาเคอะเขินอีกฝ่ายจนแทบจะทำตัวไม่ถูกลูคัสพอใจปฏิกิริยาของหญิงสาวในเวลาที่เธอเขินเพราะเธอดูน่ารักน่าทะนุถนอมขึ้นเป็นกอง
รถตู้คันหรูสีดำวิ่งออกจากตัวเมืองกรุงเทพมหานครมาได้สองสามชั่วโมงแล้วแต่ดูท่ามันจะยังไม่ไปถึงไหนเพราะภูมิไทเหยียบคันเร่งอย่างกับรถที่น้ำมันจะหมดเปมิกาเองก็นั่งหน้ามุ่ยขยับไปมาพักใหญ่จนต้องตัดสินใจพูดกับคนที่กำลังขับรถเป็นเต่าคลานว่าหากเขายังเหยียบคันเร่งแค่นี้เมื่อไรจะถึงที่หมาย"ขับให้เร็วกว่านี้ได้หรือเปล่าคะแบบนี้เมื่อไรจะถึง""มาขับเองดีหรือเปล่าล่ะให้นั่งเฉยๆยังจะบ่น"ภูมิไทตอบหญิงสาวอย่างลอยหน้าลอยตาเขานึกว่าเธอจะไม่ยอมพูดกับเขาตลอดทางเสียอีกนับว่าหญิงสาวใจเย็นพอสมควรที่ทนให้เขาแกล้งมาได้ถึงสองสามชั่วโมง"จอดค่ะ""อะไร""ฉันจะขับเองคุณจะได้นั่งสบายๆไงล่ะคะคุณเจ้านายใหญ่""อืม..."ภูมิไทค่อยๆลงไปจอดที่ไหล่ทางหากเปมิกาประสงค์จะขับเขาก็ไม่ขัดร่างบางเดินลงจากรถดุ่มๆสวนกับภูมิไทเพื่อนสลับที่นั่งเปมิกาเข้ามาในรถพร้อมกับภูมิไทขณะที่ชายหนุ่มกำลังหยิบขวดน้ำขึ้นดื่มบรื๊นนน....เอี๊ยดดดสาวเจ้ามองกระจกแล้วตอนนี้ถนนโล่งเธอจึงขอเอาคืนชายหนุ่มโดยการเหยียบคันเร่งแรงๆแล้วเบรกกะทันหันทำเอาคนตัวโตถึงกับสำลักน้ำแทบหัวทิ่มคอนโซลดีที่มีเบลคาดเอาไว้อยู่แล้ว"อึก..อืม..ทำอะไรของคุณ"ตอนนี้เสื้อยืดสีขา
“ขอเป็นแฟน...จริงเหรอคะ..ดาวดีใจที่สุดเลยค่ะแบบนี้ต้องฉลองแล้ว..ค่ะ..ไว้เจอกันค่ะ”เปมิกายิ้มร่าดีใจแทนของขวัญจนเนื้อเต้นที่ได้เจอคนที่ถูกใจแถมลูคัสยังเอ่ยปากขอของขวัญเป็นแฟนก่อนอีกนับว่าทริปทะเลครั้งนี้ที่เธอคิดขึ้นแม้นจะไม่ได้ไปเที่ยวกับทุกคนแต่ก็ไม่เสียเปล่าเพราะเพื่อนเธอได้มีแฟนกับเค้าแล้วระหว่างที่เปมิกากำลังดีใจเปิดบ้านเลื่อนเข้าไปปิดนอนในห้องด้วยความอารมณ์เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีคนยืนกำมือแน่นและกำลังเดินดุ่มๆมาเคาะที่หลังห้องเธอพร้อมกับอารมณ์ที่มีแต่โทสะลูกใหญ่อยู่ในอกก๊อกๆๆ“หืม..”เปมิกามองออกไปที่บ้านเลื่อนแสงไฟรอบรั้วทำให้เธอเห็นว่าเป็นภูมิไทแม้นจะไม่ชัดเท่าไรไม่รู้ว่าเขามาเคาะห้องเธอทำไมเวลานี้ทั้งที่มันเป็นเวลาที่เธอจะต้องพักผ่อนมีหรือเธอจะลุกไปเปิดยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงเพื่อให้อีกฝ่ายคิดว่าเธอหลับไปแล้ว“ผมรู้ว่าคุณยังไม่นอนเปิดเดี๋ยวนี้”“โอ้ย...อะไรนักหนา”สิ้นเสียงภูมิไทเปกิกาก็ลุกออกจาเตียงด้วยความหงุดหงิดบ่นอู้อี้วันนี้เธอก็ขับรถจนเมื่อยมาทั้งวันแล้วไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มทำไมต้องมารบกวนการพักผ่อนของเธออีก“อะไรของคุณ..อื้ออ..”ยังไม่ทันที่จะได้ถามจบประโยคร่างบาง
"มือถือนั่นผมเป็นคนซื้อให้คุณผมมีสิทธิ์จะทำอะไรกับมันก็ได้...อย่าลืมที่ผมเตือนสิผู้ชายคนไหนรู้ว่าคุณขายตัวใครเค้าก็ไม่อยากจริงจังกับคุณหรอก"เพี๊ยะ"หมาในปากของคุณฉันนับตัวไม่ถ้วนเลยนะคะ"สิ้นเสียงชายหนุ่มเปมิกาก็ยกมือเรียวฟาดไปที่แก้มสากของคนที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวรู้สึกไม่ชอบในความเอาแต่ใจเผด็จการของภูมิไทจนถึงขั้นเกลียดก็ว่าได้"อื้อออ..."สาวเจ้าดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียงเมื่อคนตัวโตก้มมาบดจูบเธอโดยไร้ซึ่งความนุ่มนวลอีกครั้ง"ปล่อย..ฉันนะ"และแล้วเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ก็กระจายขาดวิ่นอยู่รอบเตียงด้วยฝีมือของคนตัวโตบทสวาทเร่าร้อนไร้ความนิ่มนวลเกิดขึ้นเนิ่นนานเสียจนร่างบางสลบเหมือดคาเตียงเวลาพ้นผ่านไปพักใหญ่เมื่อเปมิกาตื่นมาอีกครั้งในช่วงเย็นของวันก็ไม่เห็นคนที่หาความสุขบนตัวของเธออยู่ที่นี่แล้วดวงตากลมโตมีน้ำตาไม่ขาดสายเพราะรู้ตัวว่าตัวเองคงเป็นได้แค่ที่ระบายของเขาเท่านั้น22.00 น.หลังจากสองสาวกล่อมโลมาจนหลับไปแล้วก็มานั่งคุยกันต่อที่ห้องนั่งเล่นของขวัญนึกขึ้นได้ว่าช่วงเกือบๆเที่ยงที่เธอใช้มือถือลูคัสโทรหาเปมิกาทำไมจึงไม่ติด"ตอนบ่ายแบตเครื่องฉันหมดเลยยืมมือถือคุณลุคโทรหาแล้วเครื่อง
รถเก๋งสีขาวขับออกมาจากบ้านร่วมพักใหญ่และแล้วมิกาก็ขับรถมาถึงบ่อนการพนันที่นี่ดูอึมครึมลึกลับหากมองภายนอกคงดูไม่ออกว่าเป็นบ่อนเหมือนจะเป็นโรงเก็บของหรือโกดังอะไรมากกว่าเปมิกานั่งรวบรวมความกล้าอยู่ครู่หนึ่งบนรถจึงลงจากรถไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยเผชิญมาก่อนเปมิกาเดินเข้ามาหาผู้ชายร่างสูงใหญ่วัยกลางคนที่มีใบหน้าโหดพอสมควรที่หน้าประตูทางเข้าเธอเพียงเอ่ยแค่ว่าเป็นน้องสาวของเดือนฉายเขาก็พาเธอเดินเข้ามาด้านในโดยที่ไม่ถามอะไรทางที่เธอเดินเห็นจะเป็นส่วนหลังของบ่อนหรือทางลับเพราะไม่เห็นคนเดินสวนมาแม้แต่คนเดียวไม่นานนักก็มาถึงห้องโถงใหญ่ในห้องโถงมีแสงไฟสลัวจากหลอดไฟไม่กี่หลอดและมีผู้หญิงรูปร่างอ้วนท้วมแต่งตัวสีฉูดฉาดใบหน้ากลมแป้นแต่งหน้าเต็มนั่งรอเธอพร้อมกับเดือนฉายและชายชุดดำอีกสี่ห้าคนอยู่แล้วหากเดาไม่ผิดผู้หญิงร่างท้วมข้างๆพี่สาวเธอคงเป็นเจ๊อ้วนเจ้าของบ่อนที่โทรมาหาเธอแน่“มาแล้วเหรอดาว”เดือนฉายหญิงสาวร่างสูงเพรียวใบหน้าสวยคมละม้ายคล้ายกับเปมิกาทุกอย่างติดที่ตอนนี้เธอดูโทรมซูบผอมหน้าดำคล้ำกว่าเดิมไปมากและตอนนี้ก็กำลังนั่งมีน้ำตาไหลมาไม่ขาดสายเพราะกลัวว่าจะถูกขายหลังจากไม่มีเงินมาใช้หนี้บ่
เปมิกายืนก้มหน้านิ่งครู่หนึ่งหลังจากอีกฝ่ายว่าข้อตกลงจบเธอไม่อยากรับปากแต่หากจะงอแงก็กลัวว่าจะไม่ได้อะไรเลยจึงจำต้องยอมตกลงรับปากแต่โดยดีโดยไม่มีข้อแม้หรือโต้แย้งใดๆ"ค่ะ.."ร่างบางวางกระเป๋าลงทั้งเดินดิ่งตรงไปจัดการตัวเองอย่างว่าง่ายยังไม่ทันที่จะถึงประตูห้องน้ำดีหญิงสาวก็ต้องหยุดชะงักหันหน้ามาหาคนที่กำลังเอ่ยปากพูดด้วย"ถ้าจะเป็นคนของผมคุณต้องเลิกกับแฟนของคุณเพราะผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร"ภูมิไทต้องบอกเปมิกาให้เธอได้รู้ว่าแม้นเธอจะมีแฟนแต่ช่วงเวลาที่เธอต้องมานอนกับเขาเธอจะต้องห้ามยุ่งกับใคร"แฟน?""อืม..""ฉัน...ไม่มีแฟนนะคะ"คิ้วได้รูปขมวดปมสงสัยว่าชายหนุ่มเอาเรื่องที่เธอนั้นมีแฟนมาจากไหน"คุณแน่ใจว่าคุณไม่ได้โกหกผม""ค่ะ..."เปมิกาพยักหน้ายืนยันก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะเข้าใจว่าเขาคงคิดเองเออเองตามประสาคนที่อยากจะหาเรื่องเธอมากกว่า"หึ่.. หน้าเงินเสียจนไม่มีความจริงใจให้ใครเลยหรือไง"ภูมิไททิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงคิดดูถูกเปมิกาที่เห็นเธออยากจะได้เงินจากเขาจนต้องโกหกหน้าตายว่าตัวเองไม่มีแฟนขณะใช้เวลาชำระร้างร่างกายอยู่ในห้องน้ำเปมิกามีน้ำตารื้นออกมาตลอดเพราะตอนนี้เธอก็แค่ผู้หญิงข
เย็นของวันนี้กับข้าวทุกอย่างล้วนเป็นฝีมือของเดือนฉายเพราะเธอเอ่ยปากจะดูแลงานบ้านกับโลมาทั้งหมดให้สองสาวได้มีเวลาทำงานของตนเองไป"โลมาดีใจที่สุดเลยค่ะที่แม่กลับมาอยู่กับโลมาแล้วแม่อยู่กับโลมาตลอดไปเลยนะคะ""จะ..แม่จะอยู่กับหนูทุกวันเลย""เย่"เปมิกาและของขวัญยิ้มจนแก้มปริเพราะโลมาน้อยดูจะร่าเริงพูดเจื้อยแจ้วมากคำเมื่อได้อยู่กับแม่หลายวันต่อมาวันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ลูคัสรีบมานัดแนะเปมิกาว่าเขาต้องการจัดเซอร์ไพรซ์ของของขวัญหมั้นแม้นเวลาที่รู้จักกันมันจะไม่นานเท่าไรแต่เขาก็มั่นใจว่าของขวัญเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันจึงอยากจะหมั้นจับจองหญิงสาวเอาไว้ก่อนหากอนาคตมีทุนทรัพย์มากกว่านี้ก็อยากจะแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวกับของขวัญอีกด้วย"เย็นนี้นะครับคุณดาว""ให้ดาวไปที่คอนโดคุณใช่หรือเปล่าคะ""ครับ""โอเคค่ะเลิกงานแล้วดาวจะรีบไปนะคะ"เป็นอีกครั้งที่เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญที่ภูมิไทได้มาเห็นลูคัสและเปมิกาหัวร่อต่อกระซิกกันในห้องทำงานผ่านหน้าห้องกระจกเขาไม่รู้ว่าเรื่องที่สองคนนั้นคุยกันมันเรื่องอะไรแต่ดูท่าทั้งสองจะคุยกันเพลินจนไม่เห็นว่าเขายืนดูทั้งสองอยู่"นี่เห
"คุณลุคไม่สบายมากหรือเปล่าคะ...เมื่อกลางวันขวัญยังเห็นคุณดีๆอยู่เลย...แล้วทำไมไม่เปิดไฟคะ"ของขวัญเห็นว่าในห้องนี้มีเพียงแสงสลัวๆเท่านั้นไม่รู้ว่าทำไมลูคัสถึงได้ปล่อยให้ห้องอยู่ในความมืดเช่นนี้"ถ้าจะบอกว่าป่วยใจอยากให้แฟนมาอยู่ใกล้ๆจะได้หรือเปล่าครับ"ลูคัสดึงคนตัวเล็กเข้ามาในห้องก่อนจะรีบปิดประตูพร้อมแกะกล่องแหวนมาสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาวโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว"เอ่อ..""ผมขอจองไว้ก่อนนะครับเก็บเงินได้มากกว่านี้เมื่อไรขอแต่งแน่"สิ้นเสียงลูคัสแสงไฟก็สว่างโล่เผยให้ของขวัญนั้นเห็นว่าที่นี่ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้และลูกโป่งหลากสีสันแถมยังมีเปมิกาและกชกรยืนชื่นชมความหวานของเธอและลูคัสอยู่ด้วย"เย่..ดีใจด้วยนะคะน้องขวัญ""ดีใจด้วยนะขวัญ""ดาวไหนบอกจะไปหาพี่แน็ต"ของขวัญบุ้ยปากเห็นทีจะถูกเพื่อนหลอกเอาได้ก็คราวนี้"ฉันมาเป็นพยานรักให้แกกับคุณลูคัสต่างหาก""พี่ก็ด้วยรักกันนานๆนะคะพี่จะรอการ์ดแต่งงานทั้งคู่นะ"หลังจากผ่านการเซอร์ไพรซ์ได้ทั้งสี่ก็นั่งร่วมโต๊ะอาหารกันพักใหญ่แล้วจึงแยกย้ายกันกลับส่วนลูคัสนั้นก็ขอตัวรั้งของขวัญเอาไว้เพราะอยากสวีทกันสองต่อสองวันต่อมาในช่วงเย็นของวันเสา
ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันสุดสัปดาห์ภูมิไทเข้ามาทำงานที่นี่ทุกวันเพราะต้องการจับตาดูพฤติกรรมของเปมิกาจนหญิงสาวจับสังเกตได้มาสองสามวันแล้วเมื่อได้จังหวะเห็นชายหนุ่มอยู่ในห้องทำงานเพียงคนเดียวด้วยคนอื่นอยู่ในสตูดิโอถ่ายภาพเสื้อผ้ากันหมดเธอจึงรีบเข้ามาคุยกับเขาให้รู้เรื่องรู้ราวว่าที่เอาแต่ตามจ้องเธอเพื่อจะจับผิดหรือต้องการอะไรกันแน่"ฉันเห็นคุณเอาแต่ตามจ้องฉันตลอดเวลาหาเรื่องแกล้งอะไรฉันอีกหรือเปล่า""ไม่มีอะไร..ผมมีตาก็ต้องมองคุณบ้างไม่เห็นจะแปลก”“ไม่มีอะไรแน่นะคะ..”เปมิกาจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของเขาสักเท่าไร“อืม..”“ฉันคงคิดมาไปเอง..”เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนยันหน้านิ่งขนาดนั้นเธอเองก็ไม่ได้อยากจะคิดอะไรมากความก่อนจะรีบเข้าไปยืนใกล้ๆคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้“วันเสาร์นี้ฉันขอไม่ไปหาคุณนะคะ.ฉันมีรอบเดือน”เปมิกาก้มลงกระซิบบอกกับภูมิไทว่าวันเสาร์นี้เธอคงไม่ไปหาเขาที่บ้านเพราะตอนนี้เธอมีรอบเดือนคงจะให้ความสุขกับเขาไม่ได้“อืม..ถึงเราจะร่วมเตียงกันไม่ได้แต่คุณก็ดูแลผมอย่างอื่นได้นี่”มือหนารวบเอวบางให้เธอมานั่งอยู่บนตักเปมิกาหน้ามุ่ยเล็กน้อยคิดว่าเขาจะอนุญาตให้เธอหยุดพักหน้า