"คุณลุคไม่สบายมากหรือเปล่าคะ...เมื่อกลางวันขวัญยังเห็นคุณดีๆอยู่เลย...แล้วทำไมไม่เปิดไฟคะ"
ของขวัญเห็นว่าในห้องนี้มีเพียงแสงสลัวๆเท่านั้นไม่รู้ว่าทำไมลูคัสถึงได้ปล่อยให้ห้องอยู่ในความมืดเช่นนี้
"ถ้าจะบอกว่าป่วยใจอยากให้แฟนมาอยู่ใกล้ๆจะได้หรือเปล่าครับ"
ลูคัสดึงคนตัวเล็กเข้ามาในห้องก่อนจะรีบปิดประตูพร้อมแกะกล่องแหวนมาสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาวโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว
"เอ่อ.."
"ผมขอจองไว้ก่อนนะครับเก็บเงินได้มากกว่านี้เมื่อไรขอแต่งแน่"
สิ้นเสียงลูคัสแสงไฟก็สว่างโล่เผยให้ของขวัญนั้นเห็นว่าที่นี่ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้และลูกโป่งหลากสีสันแถมยังมีเปมิกาและกชกรยืนชื่นชมความหวานของเธอและลูคัสอยู่ด้วย
"เย่..ดีใจด้วยนะคะน้องขวัญ"
"ดีใจด้วยนะขวัญ"
"ดาวไหนบอกจะไปหาพี่แน็ต"
ของขวัญบุ้ยปากเห็นทีจะถูกเพื่อนหลอกเอาได้ก็คราวนี้
"ฉันมาเป็นพยานรักให้แกกับคุณลูคัสต่างหาก"
"พี่ก็ด้วยรักกันนานๆนะคะพี่จะรอการ์ดแต่งงานทั้งคู่นะ"
หลังจากผ่านการเซอร์ไพรซ์ได้ทั้งสี่ก็นั่งร่วมโต๊ะอาหารกันพักใหญ่แล้วจึงแยกย้ายกันกลับส่วนลูคัสนั้นก็ขอตัวรั้งของขวัญเอาไว้เพราะอยากสวีทกันสองต่อสอง
วันต่อมา
ในช่วงเย็นของวันเสาร์เปมิกาอ้างกับพี่สาวเธอว่าต้องทำงานให้แน็ตตี้ทุกเสาร์เป็นเวลาสามเดือนซึ่งเดือนฉายก็เข้าใจดีไม่ได้ถามรายละเอียดอะไรมากนักทั้งยังให้น้องเธอทำงานโดยไม่ต้องห่วงบ้านเพราะเธอจะดูแลทุกอย่างให้เอง
"มานี่สิ"
ภูมิไทเห็นเปมิกาจอดรถเดินมาถึงหน้าบ้านได้ก็รีบจูงมือเธอเข้ามาในครัวด้วยรอร่วมโต๊ะอาหารเย็นพร้อมเธอมานานแล้ว
"ทำไมอาหารเต็มโต๊ะแบบนี้ล่ะคะจะมีใครมาเหรอ"
หญิงสาวถูกจับมานั่งที่โต๊ะอาหารตอนนี้ตรงหน้าเธอมีอาหารทะเลเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะแอบตกใจจนต้องถามว่าจะมีคนอื่นมาที่นี่อีกหรือเปล่าถึงได้มีอาหารเยอะเช่นนี้
"ผมรู้ว่าคุณกินเยอะ...นี่ผมให้"
ว่าจบก็รีบยื่นมือถือเครื่องใหม่ให้หญิงสาวชดเชยที่เขาทำเครื่องเก่าของเธอพัง
"มือถือ"
"ใช่...ก็วันนั้นผมทำของคุณพัง"
"คุณภูมิไม่สบายหรือเปล่าคะ"
เปมิกายิ้มแหยเธอจำได้ว่าเมื่อวานเขายังปากเสียหาเรื่องเธออยู่เลยวันนี้กลับทำดีกับเธอเสียอย่างนั้นในหัวคิดจนสับสนว่าตกลงแล้วเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่เธอเริ่มจะเดาอารมณ์ของเขาไม่ถูกแล้ว
"เปล่า...กินเถอะเดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด"
ใบหน้าคมส่ายไปมาเล็กน้อยก่อนจะเริ่มชวนให้หญิงสาวเริ่มกินอาหาร
เปมิกานั่งกินไปดวงตากลมโตก็พรางมองชายหนุ่มไปแปลกใจว่าทำไมเขาดูใจดีกับเธอทั้งยังดูหน้าระรื่นเป็นพิเศษคิดในใจว่าคงไม่ใช่ทำงานเยอะจนเพี้ยนไปแล้วหรือไม่ก็เลือดลมไม่ปกติ
22.30 น.
ภูมิไทนอนเปลือยเปล่ากอดก่ายที่ไร้สิ้นผ้าผ่อนติดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยกันหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมสวาทยกแรกของคืน
"เงินที่ผมให้คุณไปหมดหรือยัง"
เสียงแหบพร่าเอ่ยถามขณะซุกไซร้บดจูบลำคอระหงส์เล่น
"ถามทำไมคะ"
"เปล่า...ผมก็แค่ถามดูกลัวคุณเอาไปใช้ไร้สาระจนหมดหรือไม่..ก็เอาเงินไปลงกับการพนัน"
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจ้องใบหน้านวลที่กำลังมีสีหน้าสงสัยในคำถามเขาไม่อยากที่จะถามตรงๆเพราะอยากจะดูเชิงว่าหญิงสาวจะตอบเขาเช่นไร
"ฉันไม่ใช่คนสิ้นคิดเอาเงินไปทิ้งกับเรื่องการพนันหรือใช้ไร้สาระค่ะ”
เปมิกาบุ้ยปากเล็กน้อยทั้งจ้องดวงตาคมเขม็งยืนยันว่าเธอไม่ใช่คนที่ชอบเรื่องพนันและไม่ใช่คนที่จะใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายไร้สาระไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเขามาถามเธอเรื่องนี้
“แน่ใจ”
“ค่ะ”
ภูมิไทดูจากแววตาของเปมิกาใกล้ๆขณะที่เธอตอบกลับเมื่อครู่เขาก็ต้องเชื่อเพราะเธอไม่มีความสั่นไหวในดวงตาแม้แต่น้อยอยากจะรู้นักว่าวันนั้นเธอเข้าไปในบ่อนพนันเพื่ออะไรถ้าหากไม่ได้ชอบเรื่องการพนันคิดในใจว่าหากถามอะไรไปตรงๆก็กลัวจะมาทะเลาะกันจนเขาเสียอารมณ์เสียก่อน
ภูมิไทสลัดความคิดเรื่องอื่นให้ออกไปจากหัวสมองเพราะตอนนี้เขาต้องการจะดื่มด่ำความสุขกับเปมิกาในค่ำคืนนี้ให้นานที่สุด
คนตัวโตวาดตัวคร่อมอยู่บนร่างบางสองมือสอดประสานกันแน่นกดลงบนเตียงนุ่มเริ่มบดจูบริมฝีปากบางอวบอิ่มด้วยความนุ่มนวลนับว่ากิจกรรมบนเตียงครั้งนี้เริ่มทำให้เปมิการู้สึกดีกว่าครั้งก่อนหน้าไม่น้อยเพราะชายหนุ่มนุ่มนวลจนเธอเผลอเคลิบเคลิ้มไปกับรสรักของเขาโดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งสองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจนเกือบรุ่งสางตอนนี้เปมิกาหมดแรงสลบเหมือดคาเตียงแต่ภูมิไทยังคงนอนตะแคงกอดมองจ้องใบหน้านวลผ่านแสงสว่างของโคมไฟที่หัวนอนด้วยสีหน้าครุ่นคิด
เขากำลังคิดทบทวนอยู่ว่าหากหญิงสาวไม่ได้ไปที่บ่อนนั่นเพื่อเล่นพนันแล้วจะไปทำอะไรได้อีกเมื่อนึกไปนึกมาพักใหญ่ความคิดที่ว่าหญิงสาวอาจจะติดยาเสพติดก็แวบเข้ามาในหัวเพราะตนเองพอจะรู้คราวๆมาว่าคนที่ติดยาตัวจะผอมแห้งซึ่งก็ตรงกับเปมิกาในตอนนี้
เมื่อนึกขึ้นได้ดังนั้นจึงรีบคิดหาวิธีพิสูจน์โดยเร็วหากพบว่าหญิงสาวติดยาจริงเขาก็จะเป็นคนช่วยให้เธอนั้นเลิกให้ได้เพราะยาเสพติดมันไม่เป็นผลดีต่อชีวิตใครสักคนเดียว
มาถึงวันทำงานในวันจันทร์กชกรก็ต้องรีบโทรตามภูมิไทเข้ามาคุยที่ออฟฟิศเนื่องด้วยจู่ๆก็มาออกคำสั่งให้พนักงานทุกคนไปตรวจสุขภาพกะทันหันที่โรงพยาบาลทั้งที่พึ่งตรวจไปยังไม่ถึงสองเดือนด้วยซ้ำ
"ทำไมจู่ๆพี่ภูมิก็เรียกพนักงานตรวจสุขภาพกะทันหันแบบนี้ล่ะคะพวกเราก็พึ่งตรวจกันไปเอง"
"ก็..พี่อยากให้ตรวจบ่อยๆพนักงานสุขภาพดีเค้าจะได้มีพลังกายพลังใจทำงานได้เต็มที่ไง"
"ไอ้ดี..มันก็ดีค่ะ..แต่ตรวจทุกหกเดือนเกรซก็ถือว่าโอเคแล้วนะคะ"
“เอาน่าค่าใช้จ่ายทุกอย่างพี่ออกเองไม่ได้ใช้เงินของบริษัท”
ว่าจบก็นั่งอมยิ้มอ่อนเพราะรู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงเขาก็จะได้รู้แล้วว่าเปมิกานั้นติดยาเสพติดอย่างที่ตนคิดหรือไม่
หลังจากเวลาผ่านไปสามสี่ชั่วโมงตอนนี้ผลตรวจของพนักงานทุกคนก็ได้กองอยู่ที่โต๊ะทำงานของภูมิไทเรียบร้อยแล้วเอกสารชุดแรกที่เขาหยิบขึ้นมาดูไม่ใช่ของใครที่ไหนเป็นของเปมิกาที่เขาอยากจะเห็นที่สุดคือผลตรวจสารเสพติดภายในร่างกายของเธอหลังจากอ่านข้อมูลจบได้ก็ต้องวางมันลงด้วยสีหน้าค่อนข้างมีความครางแครงในใจเพราะผลตรวจสารเสพติดในร่างกายเธอพบว่าไม่มีอะไรแบบนี้เขาก็คงต้องสงสัยต่อไปว่าวันนั้นเห็นหญิงสาวไปที่บ่อนเพื่อไปทำอะไรกันแน่
ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันสุดสัปดาห์ภูมิไทเข้ามาทำงานที่นี่ทุกวันเพราะต้องการจับตาดูพฤติกรรมของเปมิกาจนหญิงสาวจับสังเกตได้มาสองสามวันแล้วเมื่อได้จังหวะเห็นชายหนุ่มอยู่ในห้องทำงานเพียงคนเดียวด้วยคนอื่นอยู่ในสตูดิโอถ่ายภาพเสื้อผ้ากันหมดเธอจึงรีบเข้ามาคุยกับเขาให้รู้เรื่องรู้ราวว่าที่เอาแต่ตามจ้องเธอเพื่อจะจับผิดหรือต้องการอะไรกันแน่"ฉันเห็นคุณเอาแต่ตามจ้องฉันตลอดเวลาหาเรื่องแกล้งอะไรฉันอีกหรือเปล่า""ไม่มีอะไร..ผมมีตาก็ต้องมองคุณบ้างไม่เห็นจะแปลก”“ไม่มีอะไรแน่นะคะ..”เปมิกาจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของเขาสักเท่าไร“อืม..”“ฉันคงคิดมาไปเอง..”เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนยันหน้านิ่งขนาดนั้นเธอเองก็ไม่ได้อยากจะคิดอะไรมากความก่อนจะรีบเข้าไปยืนใกล้ๆคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้“วันเสาร์นี้ฉันขอไม่ไปหาคุณนะคะ.ฉันมีรอบเดือน”เปมิกาก้มลงกระซิบบอกกับภูมิไทว่าวันเสาร์นี้เธอคงไม่ไปหาเขาที่บ้านเพราะตอนนี้เธอมีรอบเดือนคงจะให้ความสุขกับเขาไม่ได้“อืม..ถึงเราจะร่วมเตียงกันไม่ได้แต่คุณก็ดูแลผมอย่างอื่นได้นี่”มือหนารวบเอวบางให้เธอมานั่งอยู่บนตักเปมิกาหน้ามุ่ยเล็กน้อยคิดว่าเขาจะอนุญาตให้เธอหยุดพักหน้า
"เอ่อ...เธอปวดท้องผมเลยให้เธอนอนพักอยู่ข้างบน"ภูมิไทไม่รู้ว่าเปมิกาได้บอกกับที่บ้านเธอเรื่องที่มาอยู่ที่นี่ในวันเสาร์หรือไม่แต่เขาก็ไม่ได้อยากโกหก"ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะ...ฉันจะมาขอร้องให้คุณหยุดใช้น้องฉันเป็นเครื่องบำเรอความสุขจะได้หรือเปล่าคะ...เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะฉันเงินทุกบาททุกสตางค์ฉันจะทำงานใช้หนี้คุณเอง""เพราะคุณ...ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจได้หรือเปล่าครับ"ดวงตาคมเริ่มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความสงสัยภูมิไทเริ่มอยากจะฟังรายละเอียดให้มันมากกว่านี้เพราะเขานั้นไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวพูดเท่าไรนัก"ฉันมันเลวเองที่ทิ้งลูกที่ป่วยให้ยัยดาวดูแลแล้วก็หนีหายไปจนยัยดาวต้องไปรับงานจากคุณอรนิชาเพื่อที่จะเอาเงินมาผ่าตัดโลมาลูกฉันให้เร็วที่สุด...จนเป็นเหตุทำให้ยัยดาวต้องไปหลอกลวงคุณแล้วเรื่องเงินสามล้านที่ยัยดาวต้องวิ่งโล่มาขายตัวให้คุณเพื่อแลกกับเงินก็เพราะฉันที่ติดหนี้พนันจนเกือบถูกขายที่ชายแดนดีที่ยัยดาวไปช่วยเอาไว้..."เดือนฉายพูดไปปาดน้ำตาไปเธอไม่อายที่จะดูแย่ในสายตาคนอื่นแต่เธออายมากกว่าที่รู้ว่าน้องตัวเองเดือดร้อนเพราะตัวเองอย่างไรแล้วไม่คิดจะยื่นมือช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นเลย"ดาว"
"ตานนท์ท่าจะอยู่ที่นี่เป็นชาวประมงเต็มตัวเลยหรือยังไง"ทางด้านทิพย์เกสรเช้านี้เธอเห็นรัชนนท์เอากุ้งหอยปูปลามาฝากเธอเหมือนเดิมทุกเช้าก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ว่าเขานั้นจะไม่คิดที่จะกลับไปทำงานทำการบ้างหรืออย่างไรเพราะหน้าที่ความรับผิดชอบก็ไม่ใช่เล็กๆรัชนนท์แม้นเป็นเพียงญาติฝั่งแม่ของภูมิไทแต่เธอก็เห็นรัชนนท์มาตั้งแต่เด็กๆเอ็นดูเขาไม่แพ้หลานแท้ๆไม่รู้ว่าเกาะนี้มีอาถรรพ์หรืออย่างไรที่คนอยู่จะต้องไม่อยากกลับ"ผมไม่ได้มีงานยุ่งอะไรนักหนานี่ครับคุณย่าอยู่หาปูหาปลาที่นี่มาฝากคุณย่าได้อีกนาน"เจ้าตัวว่าด้วยหน้าระรื่นเขายังไม่อยากกลับไปในโลกแห่งความจริงเท่าไรอยู่แบบนี้แม้นไม่ได้สุขกายแต่ก็สบายใจ"พี่นนท์"กชกรวิ่งหน้าตั้งนำหน้าทุกคนเข้ามาหาพี่ชายเธอและทิพย์เกสร"อ้าว..ยัยเกรซ""คุณย่าสวัสดีค่ะ""สวัสดีครับคุณย่า"สองสามีภรรยากชกรและธันวายกมือสวัสดีทิพย์เกสรทั้งยังเข้าไปกอดหอมกันคนละฟอดด้วยทิพย์เกสรเป็นคนในดีอบอุ่นเด็กรุ่นหลานจึงสนิทชิดเชื้อแทบทุกคนที่รู้จัก"หวัดดีลูกทำไมวันนี้แห่กันมาที่นี่ได้ล่ะ"ทิพย์เกสรเปรยสายตามองทุกคนด้วยสีหน้าสงสัยเหตุใดจึงกรูกันมาที่นี่โดยที่ไม่นัดแนะบอกกล่าวกันก่อนเธอจ
"ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะต่อไปนี้ก็อย่าโหมงานมากนักกินข้าวให้เป็นเวลาด้วย"รัชนนท์เดินมาลูบหัวทุยน้องสาวตนเบาๆเอ่ยพูดด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ดีว่าน้องสาวตัวเล็กของเขาปกติแล้วชอบโหมงานข้าวก็กินมาตรงเวลาถึงได้ตัวเล็กกระเปี๊ยกอยู่แบบนี้"ไม่ให้เกรซโหมงานพี่นนท์ก็กลับไปช่วยเกรซทำงานสิคะ"กชกรหันมาบุ้ยปากให้พี่ชายเธอหากเขาไม่อยากให้เธอโหมงานเขาก็ต้องกลับไปช่วยทำงานบ้างเพราะละจากงานแบรนด์เสื้อผ้าแล้วบางทีเธอก็ต้องวิ่งไปดูแลร้านเพชรของแม่บางวันก็ต้องเข้าไปเซ็นเอกสารแทนพี่ชายเธอที่บริษัทของเขาอีก"นั่นสิตานนท์...ถึงเวลาแล้วล่ะย่าว่าเราต้องกลับไปทำงานได้แล้ว"ทิพย์เกสรเอ่ยเสริมกชกรไม่ได้อยากไล่ให้ใครไปจากเกาะแต่เมื่อรัชนนท์มีหน้าที่เธอก็อยากจะให้กลับไปรับผิดชอบ"ขอเวลาอีกสักพักละกัน"รัชนนท์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเปรยออกมาว่าเขายังอยากอยู่ที่นี่อีกสักพักเมื่อรัชนนท์ตอบออกมาเช่นนั้นทุกคนจึงไมได้เค้นอะไรเพราะอย่างน้อยเขาก็รับปากแล้วว่าจะกลับหลังจากเสร็จสิ้นจากงานวันเกิดย่าตนแล้วภูมิไทก็ขอพาเปมิกามานอนที่บ้านกลังเล็กหลังเดิมที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันระหว่างที่ทั้งสองนอนกอดก่ายอยู่บนเตียงนุ่มกลางดึกภูมิไ
อาทิตย์ต่อมา"งานประมูลเครื่องเพชรครั้งนี้คุณไปกับผมนะครับ"ภูมิไทเข้ามาหาเปมิกาในห้องทำงานเพื่อที่จะแจ้งให้เธอได้ทราบว่างานประมูลเครื่องเพชรของน้าเขาที่กำลังจะถึงเธอต้องไปงานกับเขา"ไปอยู่แล้วค่ะเพราะฉันรับปากพี่แน็ตตี้ว่าจะเป็นนางแบบในงาน"เปมิการู้แล้วว่ามีงานนี้เพราะเธอพึ่งจะตกปากรับคำเป็นนางแบบให้แน็ตตี้ในงานเมื่อวานเองคำตอบของหญิงสาวทำเอาภูมิไทหน้าบูดหน้าบึ้งเขาต้องการควงเธอไปงานพร้อมกันไม่ใช่ให้มายืนมองเธอเป็นนางแบบในงานเสียหน่อย"อะไรกัน.. ผมต้องการควงคุณต่างหาก""ก็คุณชวนหลังพี่แน็ตตี้นี่คะแล้วฉันก็รับปากพี่แน็ตตี้เอาไว้แล้ว""งั้นคืนนี้ก็ต้องไปค้างกับผม"สองแขนแกร่งรวบกอดร่างบางเอาไว้หลวมๆไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้ของขวัญนั้นเดินหอบเอาแบบเสื้อผ้ากองดตเข้ามาในห้อง"อ.. เอ่อ.. ขอโทษทีค่ะ"หญิงสาวรีบหลบสายตาหันหลังให้ทั้งสองทันทีเธอเองก็ไม่ทันได้มองในห้องเพราะไอ้ผ้ากองโตที่ถืออยู่สองแขนบดบังวิสัยทัศน์ด้านหน้าพอสมควร"เอ่อ.. พวกคุณคุยกันตามสบายเลยนะครับ"ภูมิไทแอบรู้สึกหน้าชาเล็กน้อยจึงรีบออกไปจากห้องทำงานของสองสาวอย่างรวดเร็ว"ดาว...โทษทีที่มาขัดจังหวะ""ขัดจังหวะอะไรกันก็นี่มันห
กว่าภูมิไทจะพาเปมิกากลับถึงบ้านได้ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนหญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเธอก็มานั่งข้างๆคนรักที่นั่งเปลือยเปล่าโชว์แผงอกพันผ้าขนหนูรอบเอวอยู่ที่โซฟาดวงตากลมโตของเปมิกามองหน้าภูมิไทด้วยสีหน้าที่สงสัยเพราะเห็นว่าเขาทำหน้าเครียดๆตั้งแต่ก่อนจะกลับจากงานแล้ว"เป็นอะไรหรือเปล่าคะสีหน้าดูไม่ดีเลย""ไม่มีอะไรหรอกครับ.. คุณเหนื่อยหรือเปล่ายืนตลอดทั้งงานเลย"ชายหนุ่มส่ายหัวก่อนจะยกอุ้มร่างบางไปนอนที่เตียงด้วยกัน"ไม่หรอกค่ะฉันสนุกมากกว่า"เปมิกายิ้มร่าส่ายหัวเล็กๆเธอสนุกกับงานที่ทำมากกว่าจะเหนื่อย"ครั้งหน้าผมไม่ให้รับงานอะไรแบบนี้แล้วนะครับมีแต่ผู้ชายมาคุยกับคุณผมไม่ชอบเลย"ชายหนุ่มบุ้ยปากจนน่าเอ็นดูก่อนจะซุกใบหน้าลงที่ลำคอระหงส์บ่นอุกไม่ชอบใจที่เห็นเหล่าผู้ชายไฮโซในงานเฝ้าอยู่แต่กับคนรักของตน"เค้าแค่มาคุยถามเรื่องเพชรที่ฉันใส่เท่านั้นแหละค่ะ""วันนี้คุณสวยมากเลยสวยจนผมอยากจะลากคุณกลับไม่อยากให้ใครมามองของๆผม"ริมฝีปากหนาขยับบ่นพึมพำขณะที่มือยังคงรีบทำงานปลดเสื้อผ้าร่างบางออกจนเหลือตัวเปลือยเปล่าก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของเขาและเธอเอาไว้"ขนาดนั้นเลยเหรอคะ"เ
ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองสาวสวยไฮโซที่นั่งดื่มคนเดียวบนโซฟาแบรนด์หรูราคาแพงเธอนั่งมองไอแพดในมืออ่านข่าวของภูมิไทและเปมิกาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงวางลง"หึ่...มาทำให้ฉันถูกใจแล้วจะหนีไปแต่งงานง่ายๆได้ยังไงคะ"อรนิชาหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบด้วยใบหน้าบึ้งตึงไม่คิดว่าภูมิไทจะให้ข่าวด้วยตัวเองว่าจะแต่งงานกับเปมิกาแต่มีหรือที่เธอจะปล่อยให้คนที่เธอถูกใจมากๆหลุดมือไปคนอย่างเธออยากได้อะไรก็ต้องได้หรือถ้าเธอไม่ได้คนอื่นก็ไม่ต้องได้เช่นกันอาทิตย์ต่อมาวันนี้ภูมิไทขออนุญาตเดือนฉายพาเปมิกามาค้างที่บ้านเช่นทุกอาทิตย์แต่อาทิตย์นี้ดูชายหนุ่มจะเศร้าหมองเป็นพิเศษเพราะเขารู้ตัวว่าพรุ่งนี้จะต้องห่างจากเปมิกาไปร่วมสองอาทิตย์เขาคะยั้นคะยอให้เธอไปด้วยเท่าไรเธอก็ไม่ตอบตกลง"ผมต้องไปดูงานเป็นครึ่งเดือนไม่ไปกับผมจริงๆเหรอครับ""เราจะตัวติดกันตลอดเวลาไม่ได้นะคะตอนนี้เริ่มถ่ายแบบคอลเลคชั่นใหม่แล้วด้วย""ผมอยากแยกร่างได้จังเลยครับ"ชายหนุ่มกอดก่ายร่างบางบ่นอู้อี้เป็นเด็กตอนนี้เขาติดเธอมากห่างวันนึงความรู้สึกเหมือนห่างเป็นปีก็ว่าได้สองวันต่อมาตอนนี้เปมิกาและของขวัญยกทีมมาถ่ายงานกันที่เชียงใหม่ตลอดงานนี้เปมิกาไม่มีกะใจ
ระหว่างที่ภูมิไทกำลังจอดรถที่โรงแรมที่เขาพักขณะที่กำลังจะเดินเข้าลิฟท์ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนร้องเรียกให้ช่วยเหลือจึงรีบหันมองไปตามเสียง"ช่วยด้วยค่ะ.."ปึกเมื่อเห็นว่าคนที่ร้องขอความช่วยเหลือคืออรนิชาเธอกำลังถูกดึงรั้งกระเป๋าเขาจึงรีบวิ่งไปกระโดดถีบโจรร่างใหญ่จนล้มไปกองกับพื้น"โอ้ยย..."โจรชุดดำเห็นว่าตอนนี้เริ่มมีคนกรูเข้ามาพร้อมคนที่รักษาความปลอดภัยที่นี่จึงรีบหนีไป"ตามมันไปเลยครับ...ลุกไหวหรือเปล่าครับ"ภูมิไทรีบชี้ให้รปภ.วิ่งตามโจรไปและเขาก็เข้ามาดูอรนิชาที่ล้มฟุบลงไปกับพื้น"อืม..ฉันเจ็บค่ะ"อรนิชาส่ายหัวทั้งเอื้อมมือบีบที่ข้อเท้าด้วยสีหน้าเหยเก"คุณมาทำอะไรที่นี่"ภูมิไทไม่คิดว่าจะเจออรนิชาที่อเมริกาไม่รู้ว่าเธอมีธุระอะไรที่นี่"ฉันมาเที่ยวพักผ่อนน่ะค่ะพักโรงแรมนี้...บังเอิญจังเลยนะคะที่มาเจอคุณที่นี่...แล้วก็เป็นโชคดีที่ได้คุณมาช่วยฉัน"หลังจากคุยกันเสร็จภูมิไทก็ต้องอุ้มอรนิชาขึ้นมาส่งที่ห้องเพราะเธอเจ็บข้อเท้าตอนล้มพับลงไป"ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน"อรนิชานั่งมองภูมิไทด้วยสีหน้าปลื้มปริ่มขณะที่ภูมิไทกำลังนั่งนวดข้อเท้าให้เธอยอมรับว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษจนเธอถูกใจเอามากๆแม้เคยทะเ