ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันสุดสัปดาห์ภูมิไทเข้ามาทำงานที่นี่ทุกวันเพราะต้องการจับตาดูพฤติกรรมของเปมิกาจนหญิงสาวจับสังเกตได้มาสองสามวันแล้วเมื่อได้จังหวะเห็นชายหนุ่มอยู่ในห้องทำงานเพียงคนเดียวด้วยคนอื่นอยู่ในสตูดิโอถ่ายภาพเสื้อผ้ากันหมดเธอจึงรีบเข้ามาคุยกับเขาให้รู้เรื่องรู้ราวว่าที่เอาแต่ตามจ้องเธอเพื่อจะจับผิดหรือต้องการอะไรกันแน่
"ฉันเห็นคุณเอาแต่ตามจ้องฉันตลอดเวลาหาเรื่องแกล้งอะไรฉันอีกหรือเปล่า"
"ไม่มีอะไร..ผมมีตาก็ต้องมองคุณบ้างไม่เห็นจะแปลก”
“ไม่มีอะไรแน่นะคะ..”
เปมิกาจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของเขาสักเท่าไร
“อืม..”
“ฉันคงคิดมาไปเอง..”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนยันหน้านิ่งขนาดนั้นเธอเองก็ไม่ได้อยากจะคิดอะไรมากความก่อนจะรีบเข้าไปยืนใกล้ๆคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
“วันเสาร์นี้ฉันขอไม่ไปหาคุณนะคะ.ฉันมีรอบเดือน”
เปมิกาก้มลงกระซิบบอกกับภูมิไทว่าวันเสาร์นี้เธอคงไม่ไปหาเขาที่บ้านเพราะตอนนี้เธอมีรอบเดือนคงจะให้ความสุขกับเขาไม่ได้
“อืม..ถึงเราจะร่วมเตียงกันไม่ได้แต่คุณก็ดูแลผมอย่างอื่นได้นี่”
มือหนารวบเอวบางให้เธอมานั่งอยู่บนตักเปมิกาหน้ามุ่ยเล็กน้อยคิดว่าเขาจะอนุญาตให้เธอหยุดพักหน้าที่ของเธอเอาไว้ก่อนเสียอีก
“เขี้ยวจริงๆเลย..”
ว่าจบก็ลุกออกจากหน้าตักชายหนุ่มเดินกลับขึ้นไปที่สตูดิโอชั้นบนด้วยสีหน้าผิดหวังทั้งที่คิดเอาไว้ว่าเสาร์อาทิตย์นี้จะนอนพักผ่อนให้สบายหลังจากทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์เสียหน่อยกลับต้องไปดูแลภูมิไทอีก
ช่วงบ่ายของวันเสาร์เดือนฉายพาโลมาเข้ามาในห้างสรรพสินค้าใกล้ๆบ้านและมานั่งกินไอศครีมกันที่นี่เธออยากจะพาลูกเที่ยวด้วยตัวเองบ้างหลังจากที่ไม่ได้ดูแลมานาน
"กินแค่ถ้วยเดียวนะคะโลมาเดี๋ยวหนูจะไม่สบายเอา"
“ค่ะแม่”
ขณะที่สองแม่ลูกนั่งอยู่ในร้านไอศครีมแน็ตตี้ที่เดินมาชอปปิ้งที่นี่เหลือบมาเห็นจึงเดินเข้ามาในร้านทักทายโลมาด้วยท่าทีเอ็นดูและคิดถึงเพราะไม่ได้เจอนานพอสมควร
"โลมา"
“สวัสดีค่ะป้าแน็ต”
เด็กหญิงยกมือสวัสดีแน็ตตี้ด้วยความคุ้นเคยเพราะเคยเจออยู่บ่อยๆเมื่อตอนมาอยุ่กับเปมิกาใหม่ๆก่อนจะหันไปสนใจไอศครีมในถ้วยต่อ
"คุณแน็ตตี้...วันนี้ไม่ได้อยู่สตูถ่ายแบบเหรอคะ"
เดือนฉายเห็นแน็ตตี้ก็แปลกใจรู้มาจากเปมิกาว่าวันนี้มีถ่ายแบบกับแน็ตตี้แต่ทำไมหญิงสาวไม่ยักจะอยู่กับน้องเธอ
“อ๋อ..ช่วงนี้ไม่ค่อยมีงานมาพักใหญ่แล้วล่ะค่ะ”
“เอ่อ..เหรอคะ”
คำตอบของแน็ตตี้ทำเดือนฉายหน้าเจื่อนในใจตอนนี้เริ่มจะตะหงิดว่าเปมิกาและของขวัญจะต้องมีอะไรปิดบังเธออยู่แน่นอน
“ค่ะ...แล้วน้องดาวเป็นยังไงบ้างคะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เจอเลยตั้งแต่ไปทำงานกับคุณเกรซ”
“เอ่อ...สบายดีค่ะ”
“ดีแล้วล่ะค่ะ”
เดือนฉายนั่งคุยกับแน็ตตี้พักใหญ่ด้วยเรื่องสัพเพเหระทั่วไปทั้งยังไม่เอ่ยถามแน็ตตี้ตรงๆเรื่องเงินที่เปมิกายืมมาด้วยคิดว่าแน็ตตี้ก็คงจะไม่รู้เรื่องคนที่เธอน่าจะได้คำตอบจากความสงสัยได้ดีก็คงไม่พ้นของขวัญ
หลังจากกลับมาถึงบ้านเดือนฉายก็ตัดสินใจที่จะถามเรื่องที่คาใจกับของขวัญทันทีเพราะในเมื่อเปมิกาไม่มีงานถ่ายแบบอย่างที่บอกแล้วน้องเธอไปค้างอ้างแรมที่ไหนมาสองสามเสาร์แล้ว
"บอกพี่มาได้หรือเปล่าขวัญว่าตกลงดาวไปทำอะไรกันแน่...แล้วเงินที่ได้มาช่วยพี่ได้มาจากใครเพราะพี่พึ่งเจอคุณแน็ตวันนี้เธอบอกว่าไม่มีงานถ่ายแบบและไม่เจอดาวนานแล้วด้วย"
"ขวัญก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ"
ของขวัญหลบสายตาเดือนฉายทั้งจะหนีเข้าห้องแต่ก็ถูกเดือนฉายรั้งเอาไว้
"พี่ไม่เชื่อถ้าขวัญไม่รู้จะช่วยกันพูดได้ยังไงว่าแน็ตตี้เป็นคนให้ยืมเงิน...บอกพี่มาสิ"
เดือนฉายเริ่มขอบตาร้อนผ่าวมีน้ำตาคลอเธออยากรู้จริงๆว่าเปมิกาเอาเงินมาจากไหนกันแน่
"ถ้าพี่เดือนอยากรู้ขวัญก็จะบอกว่าที่ผ่านมาดาวต้องเจออะไรบ้างกับภาระที่พี่เดือนเอามาทิ้งไว้.."
ของขวัญจำต้องผิดคำพูดกับเปมิกาหากเดือนฉายอยากจะรู้นักเธอก็จะเล่าทุกอย่างให้ฟังว่าเปมิกานั้นต้องแบกรับภาระและเสียใจกับเรื่องอะไรบ้างเพราะเดือนฉาย
“หน้าเธอยังไม่หายซีดเลยนะเป็นอะไรหรือเปล่า”
ภูมิไทเดินเข้ามาดูเปมิกาในครัวขณะที่เธอกำลังจะลงมือทำอาหารเขาเห็นว่าเธอหน้าซีดตั้งแต่มาถึงแล้วจึงมาเข้ามาดูอาการเสียหน่อย
"ฉันปวดท้องนิดหน่อยน่ะค่ะ"
"ไม่นิดแล้วมั้งไม่ต้องทำแล้วเดี๋ยวฉันสั่งอาหารมาดีกว่า...เธอไปนอนพักเถอะ"
ว่าจบก็รวบอุ้มร่างบางขึ้นด้วยท่าเจ้าสาวพาขึ้นไปที่ห้องนอนทันที
"เอ่อ..ฉันเดินเองได้ค่ะ"
"ผมไม่ชอบให้คุณปฏิเสธเข้าใจหรือเปล่า"
เปมิกาพยักหน้าเบาๆทั้งซุกใบหน้านวลซบอกแกร่งของคนที่กำลังอุ้มอมยิ้มอ่อนรู้สึกเคอะเขินอยู่พอสมควรที่เขาดูแลเธอดีเช่นนี้ทั้งที่วันนี้เธอต้องเป็นคนมาดูแลเขาแท้ๆ
ภูมิไทนั่งเฝ้าเปมิกาจนเธอหลับไปเขาลงมาจากห้องนอนในช่วงเกือบจะเย็นเขาเตรียมยกมือถือกดโทรสั่งอาหารแต่กลับมีสายที่ไม่รู้จักโทรเข้ามาหาเขาเสียก่อน
ตอนนี้เดือนฉายยืนอยู่หน้าบ้านของภูมิไทหลังจากที่คุยกับของขวัญถึงเรื่องที่ผ่านมาความรู้สึกผิดก็จุกอยู่ในอกจนคิดว่าเธอต้องทำอะไรสักอย่างหากจะให้น้องสาวเธอต้องมาขายศักดิ์ศรีเพื่อเธอแบบนี้ต่อไปเธอยอมไม่ได้
ที่เดือนฉายมาที่นี่ได้ก็เพราะแอบใช้มือถือของของขวัญติดต่อหากชกรเพื่อขอที่อยู่ของภูมิไทและโกหกกับของขวัญว่าเธอจะออกไปซื้อของใช้ส่วนตัวสักเดี๋ยวและนั่งรถบึ่งหน้ามาที่บ้านของภูมิไทอย่างรวดเร็ว
"คุณมีธุระอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ"
ภูมิไทนั่งคุยกับเดือนฉายที่ห้องรับแขกตอนที่รับสายคราแรกก็แปลกใจพอสมควรว่าทำไมพี่สาวของเปมิกาถึงอยากจะขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว
"น้องฉันอยู่ที่นี่ใช่หรือเปล่าคะ"
เดือนฉายมองซ้ายมองขวาหาเปมิกาเมื่อไม่เห็นจึงถามชายหนุ่มให้แน่ใจ
"เอ่อ...เธอปวดท้องผมเลยให้เธอนอนพักอยู่ข้างบน"ภูมิไทไม่รู้ว่าเปมิกาได้บอกกับที่บ้านเธอเรื่องที่มาอยู่ที่นี่ในวันเสาร์หรือไม่แต่เขาก็ไม่ได้อยากโกหก"ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะ...ฉันจะมาขอร้องให้คุณหยุดใช้น้องฉันเป็นเครื่องบำเรอความสุขจะได้หรือเปล่าคะ...เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะฉันเงินทุกบาททุกสตางค์ฉันจะทำงานใช้หนี้คุณเอง""เพราะคุณ...ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจได้หรือเปล่าครับ"ดวงตาคมเริ่มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความสงสัยภูมิไทเริ่มอยากจะฟังรายละเอียดให้มันมากกว่านี้เพราะเขานั้นไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวพูดเท่าไรนัก"ฉันมันเลวเองที่ทิ้งลูกที่ป่วยให้ยัยดาวดูแลแล้วก็หนีหายไปจนยัยดาวต้องไปรับงานจากคุณอรนิชาเพื่อที่จะเอาเงินมาผ่าตัดโลมาลูกฉันให้เร็วที่สุด...จนเป็นเหตุทำให้ยัยดาวต้องไปหลอกลวงคุณแล้วเรื่องเงินสามล้านที่ยัยดาวต้องวิ่งโล่มาขายตัวให้คุณเพื่อแลกกับเงินก็เพราะฉันที่ติดหนี้พนันจนเกือบถูกขายที่ชายแดนดีที่ยัยดาวไปช่วยเอาไว้..."เดือนฉายพูดไปปาดน้ำตาไปเธอไม่อายที่จะดูแย่ในสายตาคนอื่นแต่เธออายมากกว่าที่รู้ว่าน้องตัวเองเดือดร้อนเพราะตัวเองอย่างไรแล้วไม่คิดจะยื่นมือช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นเลย"ดาว"
"ตานนท์ท่าจะอยู่ที่นี่เป็นชาวประมงเต็มตัวเลยหรือยังไง"ทางด้านทิพย์เกสรเช้านี้เธอเห็นรัชนนท์เอากุ้งหอยปูปลามาฝากเธอเหมือนเดิมทุกเช้าก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ว่าเขานั้นจะไม่คิดที่จะกลับไปทำงานทำการบ้างหรืออย่างไรเพราะหน้าที่ความรับผิดชอบก็ไม่ใช่เล็กๆรัชนนท์แม้นเป็นเพียงญาติฝั่งแม่ของภูมิไทแต่เธอก็เห็นรัชนนท์มาตั้งแต่เด็กๆเอ็นดูเขาไม่แพ้หลานแท้ๆไม่รู้ว่าเกาะนี้มีอาถรรพ์หรืออย่างไรที่คนอยู่จะต้องไม่อยากกลับ"ผมไม่ได้มีงานยุ่งอะไรนักหนานี่ครับคุณย่าอยู่หาปูหาปลาที่นี่มาฝากคุณย่าได้อีกนาน"เจ้าตัวว่าด้วยหน้าระรื่นเขายังไม่อยากกลับไปในโลกแห่งความจริงเท่าไรอยู่แบบนี้แม้นไม่ได้สุขกายแต่ก็สบายใจ"พี่นนท์"กชกรวิ่งหน้าตั้งนำหน้าทุกคนเข้ามาหาพี่ชายเธอและทิพย์เกสร"อ้าว..ยัยเกรซ""คุณย่าสวัสดีค่ะ""สวัสดีครับคุณย่า"สองสามีภรรยากชกรและธันวายกมือสวัสดีทิพย์เกสรทั้งยังเข้าไปกอดหอมกันคนละฟอดด้วยทิพย์เกสรเป็นคนในดีอบอุ่นเด็กรุ่นหลานจึงสนิทชิดเชื้อแทบทุกคนที่รู้จัก"หวัดดีลูกทำไมวันนี้แห่กันมาที่นี่ได้ล่ะ"ทิพย์เกสรเปรยสายตามองทุกคนด้วยสีหน้าสงสัยเหตุใดจึงกรูกันมาที่นี่โดยที่ไม่นัดแนะบอกกล่าวกันก่อนเธอจ
"ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะต่อไปนี้ก็อย่าโหมงานมากนักกินข้าวให้เป็นเวลาด้วย"รัชนนท์เดินมาลูบหัวทุยน้องสาวตนเบาๆเอ่ยพูดด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ดีว่าน้องสาวตัวเล็กของเขาปกติแล้วชอบโหมงานข้าวก็กินมาตรงเวลาถึงได้ตัวเล็กกระเปี๊ยกอยู่แบบนี้"ไม่ให้เกรซโหมงานพี่นนท์ก็กลับไปช่วยเกรซทำงานสิคะ"กชกรหันมาบุ้ยปากให้พี่ชายเธอหากเขาไม่อยากให้เธอโหมงานเขาก็ต้องกลับไปช่วยทำงานบ้างเพราะละจากงานแบรนด์เสื้อผ้าแล้วบางทีเธอก็ต้องวิ่งไปดูแลร้านเพชรของแม่บางวันก็ต้องเข้าไปเซ็นเอกสารแทนพี่ชายเธอที่บริษัทของเขาอีก"นั่นสิตานนท์...ถึงเวลาแล้วล่ะย่าว่าเราต้องกลับไปทำงานได้แล้ว"ทิพย์เกสรเอ่ยเสริมกชกรไม่ได้อยากไล่ให้ใครไปจากเกาะแต่เมื่อรัชนนท์มีหน้าที่เธอก็อยากจะให้กลับไปรับผิดชอบ"ขอเวลาอีกสักพักละกัน"รัชนนท์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเปรยออกมาว่าเขายังอยากอยู่ที่นี่อีกสักพักเมื่อรัชนนท์ตอบออกมาเช่นนั้นทุกคนจึงไมได้เค้นอะไรเพราะอย่างน้อยเขาก็รับปากแล้วว่าจะกลับหลังจากเสร็จสิ้นจากงานวันเกิดย่าตนแล้วภูมิไทก็ขอพาเปมิกามานอนที่บ้านกลังเล็กหลังเดิมที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันระหว่างที่ทั้งสองนอนกอดก่ายอยู่บนเตียงนุ่มกลางดึกภูมิไ
อาทิตย์ต่อมา"งานประมูลเครื่องเพชรครั้งนี้คุณไปกับผมนะครับ"ภูมิไทเข้ามาหาเปมิกาในห้องทำงานเพื่อที่จะแจ้งให้เธอได้ทราบว่างานประมูลเครื่องเพชรของน้าเขาที่กำลังจะถึงเธอต้องไปงานกับเขา"ไปอยู่แล้วค่ะเพราะฉันรับปากพี่แน็ตตี้ว่าจะเป็นนางแบบในงาน"เปมิการู้แล้วว่ามีงานนี้เพราะเธอพึ่งจะตกปากรับคำเป็นนางแบบให้แน็ตตี้ในงานเมื่อวานเองคำตอบของหญิงสาวทำเอาภูมิไทหน้าบูดหน้าบึ้งเขาต้องการควงเธอไปงานพร้อมกันไม่ใช่ให้มายืนมองเธอเป็นนางแบบในงานเสียหน่อย"อะไรกัน.. ผมต้องการควงคุณต่างหาก""ก็คุณชวนหลังพี่แน็ตตี้นี่คะแล้วฉันก็รับปากพี่แน็ตตี้เอาไว้แล้ว""งั้นคืนนี้ก็ต้องไปค้างกับผม"สองแขนแกร่งรวบกอดร่างบางเอาไว้หลวมๆไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้ของขวัญนั้นเดินหอบเอาแบบเสื้อผ้ากองดตเข้ามาในห้อง"อ.. เอ่อ.. ขอโทษทีค่ะ"หญิงสาวรีบหลบสายตาหันหลังให้ทั้งสองทันทีเธอเองก็ไม่ทันได้มองในห้องเพราะไอ้ผ้ากองโตที่ถืออยู่สองแขนบดบังวิสัยทัศน์ด้านหน้าพอสมควร"เอ่อ.. พวกคุณคุยกันตามสบายเลยนะครับ"ภูมิไทแอบรู้สึกหน้าชาเล็กน้อยจึงรีบออกไปจากห้องทำงานของสองสาวอย่างรวดเร็ว"ดาว...โทษทีที่มาขัดจังหวะ""ขัดจังหวะอะไรกันก็นี่มันห
กว่าภูมิไทจะพาเปมิกากลับถึงบ้านได้ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนหญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเธอก็มานั่งข้างๆคนรักที่นั่งเปลือยเปล่าโชว์แผงอกพันผ้าขนหนูรอบเอวอยู่ที่โซฟาดวงตากลมโตของเปมิกามองหน้าภูมิไทด้วยสีหน้าที่สงสัยเพราะเห็นว่าเขาทำหน้าเครียดๆตั้งแต่ก่อนจะกลับจากงานแล้ว"เป็นอะไรหรือเปล่าคะสีหน้าดูไม่ดีเลย""ไม่มีอะไรหรอกครับ.. คุณเหนื่อยหรือเปล่ายืนตลอดทั้งงานเลย"ชายหนุ่มส่ายหัวก่อนจะยกอุ้มร่างบางไปนอนที่เตียงด้วยกัน"ไม่หรอกค่ะฉันสนุกมากกว่า"เปมิกายิ้มร่าส่ายหัวเล็กๆเธอสนุกกับงานที่ทำมากกว่าจะเหนื่อย"ครั้งหน้าผมไม่ให้รับงานอะไรแบบนี้แล้วนะครับมีแต่ผู้ชายมาคุยกับคุณผมไม่ชอบเลย"ชายหนุ่มบุ้ยปากจนน่าเอ็นดูก่อนจะซุกใบหน้าลงที่ลำคอระหงส์บ่นอุกไม่ชอบใจที่เห็นเหล่าผู้ชายไฮโซในงานเฝ้าอยู่แต่กับคนรักของตน"เค้าแค่มาคุยถามเรื่องเพชรที่ฉันใส่เท่านั้นแหละค่ะ""วันนี้คุณสวยมากเลยสวยจนผมอยากจะลากคุณกลับไม่อยากให้ใครมามองของๆผม"ริมฝีปากหนาขยับบ่นพึมพำขณะที่มือยังคงรีบทำงานปลดเสื้อผ้าร่างบางออกจนเหลือตัวเปลือยเปล่าก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของเขาและเธอเอาไว้"ขนาดนั้นเลยเหรอคะ"เ
ณ เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมืองสาวสวยไฮโซที่นั่งดื่มคนเดียวบนโซฟาแบรนด์หรูราคาแพงเธอนั่งมองไอแพดในมืออ่านข่าวของภูมิไทและเปมิกาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงวางลง"หึ่...มาทำให้ฉันถูกใจแล้วจะหนีไปแต่งงานง่ายๆได้ยังไงคะ"อรนิชาหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบด้วยใบหน้าบึ้งตึงไม่คิดว่าภูมิไทจะให้ข่าวด้วยตัวเองว่าจะแต่งงานกับเปมิกาแต่มีหรือที่เธอจะปล่อยให้คนที่เธอถูกใจมากๆหลุดมือไปคนอย่างเธออยากได้อะไรก็ต้องได้หรือถ้าเธอไม่ได้คนอื่นก็ไม่ต้องได้เช่นกันอาทิตย์ต่อมาวันนี้ภูมิไทขออนุญาตเดือนฉายพาเปมิกามาค้างที่บ้านเช่นทุกอาทิตย์แต่อาทิตย์นี้ดูชายหนุ่มจะเศร้าหมองเป็นพิเศษเพราะเขารู้ตัวว่าพรุ่งนี้จะต้องห่างจากเปมิกาไปร่วมสองอาทิตย์เขาคะยั้นคะยอให้เธอไปด้วยเท่าไรเธอก็ไม่ตอบตกลง"ผมต้องไปดูงานเป็นครึ่งเดือนไม่ไปกับผมจริงๆเหรอครับ""เราจะตัวติดกันตลอดเวลาไม่ได้นะคะตอนนี้เริ่มถ่ายแบบคอลเลคชั่นใหม่แล้วด้วย""ผมอยากแยกร่างได้จังเลยครับ"ชายหนุ่มกอดก่ายร่างบางบ่นอู้อี้เป็นเด็กตอนนี้เขาติดเธอมากห่างวันนึงความรู้สึกเหมือนห่างเป็นปีก็ว่าได้สองวันต่อมาตอนนี้เปมิกาและของขวัญยกทีมมาถ่ายงานกันที่เชียงใหม่ตลอดงานนี้เปมิกาไม่มีกะใจ
ระหว่างที่ภูมิไทกำลังจอดรถที่โรงแรมที่เขาพักขณะที่กำลังจะเดินเข้าลิฟท์ก็ได้ยินเสียงของใครบางคนร้องเรียกให้ช่วยเหลือจึงรีบหันมองไปตามเสียง"ช่วยด้วยค่ะ.."ปึกเมื่อเห็นว่าคนที่ร้องขอความช่วยเหลือคืออรนิชาเธอกำลังถูกดึงรั้งกระเป๋าเขาจึงรีบวิ่งไปกระโดดถีบโจรร่างใหญ่จนล้มไปกองกับพื้น"โอ้ยย..."โจรชุดดำเห็นว่าตอนนี้เริ่มมีคนกรูเข้ามาพร้อมคนที่รักษาความปลอดภัยที่นี่จึงรีบหนีไป"ตามมันไปเลยครับ...ลุกไหวหรือเปล่าครับ"ภูมิไทรีบชี้ให้รปภ.วิ่งตามโจรไปและเขาก็เข้ามาดูอรนิชาที่ล้มฟุบลงไปกับพื้น"อืม..ฉันเจ็บค่ะ"อรนิชาส่ายหัวทั้งเอื้อมมือบีบที่ข้อเท้าด้วยสีหน้าเหยเก"คุณมาทำอะไรที่นี่"ภูมิไทไม่คิดว่าจะเจออรนิชาที่อเมริกาไม่รู้ว่าเธอมีธุระอะไรที่นี่"ฉันมาเที่ยวพักผ่อนน่ะค่ะพักโรงแรมนี้...บังเอิญจังเลยนะคะที่มาเจอคุณที่นี่...แล้วก็เป็นโชคดีที่ได้คุณมาช่วยฉัน"หลังจากคุยกันเสร็จภูมิไทก็ต้องอุ้มอรนิชาขึ้นมาส่งที่ห้องเพราะเธอเจ็บข้อเท้าตอนล้มพับลงไป"ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน"อรนิชานั่งมองภูมิไทด้วยสีหน้าปลื้มปริ่มขณะที่ภูมิไทกำลังนั่งนวดข้อเท้าให้เธอยอมรับว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษจนเธอถูกใจเอามากๆแม้เคยทะเ
อรนิชาเห็นเปมิกานั่งลงได้ก็เปิดประเด็นไม่พูดพร่ำนอกเรื่องให้เสียเวลา"เคยเกริ่นๆไว้ค่ะ"สีหน้าของเปมิกาตอนนี้ไม่สู้ดีนักเพราะไม่รู้ว่าอรนิชาจะถามเรื่องนี้กับเธอเพื่ออะไร"อืม...ฉันก็ไม่ได้อยากจะมาพูดให้เธอเสียใจหรอกนะตอนไปดูงานเค้าก็โทรตามฉันไปด้วยแถมตอนที่เราอยู่ด้วยกันบนเตียงเค้าก็บอกเองว่าไม่ได้จริงจังกับเธอและจะพยายามหาเรื่องทะเลาะตีตัวออกห่างเธอให้มากที่สุดเพื่อที่จะแต่งงานกับฉันคนที่เหมาะสมกับเค้า""แค่นี้ใช่ไหมคะที่คุณจะพูด"จากคราแรกที่ว่าจะมาถามหาความจริงจากอรนิชาตอนนี้เปมิกาคิดว่าได้คำตอบแล้วเธอจึงไม่คิดจะอยู่ต่อเพราะกลัวว่าน้ำตาเจ้ากรรมจะไหลออกมาเธอไม่กลัวจะเสียมารยาทด้วยดูท่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้อยากจะเห็นมารยาทจากเธอเช่นกันคงอยากเห็นเธอเสียใจเสียมากกว่า"จะไม่เชื่อฉันก็ได้แต่ขอให้ดูเอาเองว่าหลังจากนี้เขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน...อ่อ..แล้วตอนนี้เค้าก็กลับมาที่ไทยตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็อยู่กับฉันทั้งคืนเค้าได้บอกเธอก่อนหรือเปล่า"อรนิชาเปรยตามหลังเปมิกาด้วยสีหน้าท่าทางของผู้ชนะเธอรู้ดีว่าต่อไปเปมิกาจะต้องเจอกับอะไรเพราะเรื่องราวทุกอย่างที่เปมิกาเจอล้วนเป็นเธอที่จ้างคนจัดฉากขึ้นมาทั้งนั้น