ตอนนี้เป็นเวลาร่วมเดือนหว่าแล้วที่เปมิกาและของขวัญได้ทำงานที่บรัทของกชกรพวกเธอสนุกกับการทำงานที่ออฟฟิศแห่งนี้มากตอนนี้คอลเลคชั่นหน้าหนาวที่กชกรต้องการสองสาวก็ออกแบบกันเสร็จเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปก็เป็นการขึ้นตัวอย่างและเริ่มผลิตกับโรงงาน
เปมิกามีความสุขกับการทำงานดีเพราะตลอดเวลาที่เธอทำงานที่นี่ก็ไม่ได้เจอหน้าของภูมิไทเลยสักครั้งเธอแอบหวังว่าอยากให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปเพราะหากเธอจะต้องมาทำงานใกล้ชิดภูมิไทคงไม่ค่อยมีสมาธิแน่
ในส่วนของของขวัญกับลูคัสก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นทุกวันสุดสัปดาห์ลูคัสจะไปกินข้าวเย็นกับสาวๆที่บ้านประจำแถมเขายังเข้ากันได้ดีกับโลมาอีกด้วย
เปมิกาก็เป็นแม่สื่อแม่ชักดีที่หนึ่งหากเห็นลูคัสมีวันว่างวันไหนเป็นต้องนัดให้มาเจอกันเพื่อเปิดโอกาสให้ลูคัสและของขวัญได้พูดคุยสานสัมพันธ์กันให้สนิทสนมมากขึ้น
"วันเสาร์นี้คุณลูคัสว่างหรือเปล่าคะ"
เปมิกาเดินเข้ามาหาลูคัสขณะที่เขากำลังเข้ามาดื่มกาแฟในช่วงบ่ายครัว
"ครับผมว่างทั้งเสาร์อาทิตย์เลย"
"ดีจังเลยค่ะฉันกับขวัญว่าจะพาโลมาไปทะเลคุณลูคัสไปด้วยกันนะคะพวกเราอยากมีรูปสวยๆที่ทะเลเก็บเอาไว้"
"ยินดีเลยครับ"
ลูคัสไม่ปฏิเสธหญิงสาวเพราะเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะได้อยู่ใกล้ชิดของขวัญมากขึ้น
"เย่...คืนนี้นอนค้างที่บ้านฉันเลยไหมคะพรุ่งนี้เช้าจะได้ออกเดินทางกันแต่เช้า"
"อืม.. จะดีเหรอครับ"
"ดีสิคะ"
"อย่างนั้นก็ได้ครับเย็นนี้ผมจะกลับเตรียมกระเป๋าที่คอนโดแล้วจะขับรถไปหาคุณดาวที่บ้านนะครับ"
"โอเคค่ะอืมเย็นนี้คุณลูคัสอยากทานอะไรคะดาวกับขวัญจะเตรียมไว้ให้"
"อะไรก็ได้ครับฝีมือพวกคุณอร่อยอยู่แล้ว"
"โอเคค่ะ"
สองหนุ่มสาวที่กำลังคุยกันอย่างออกรสอยู่ในครัวไม่รู้เลยว่าตอนนี้ภูมิไทยืนอยู่ใกล้ๆกับประตูเขาได้ยินทั้งสองคุยกันตั้งแต่ประโยคที่เปมิกาชวนลูคัสไปนอนที่บ้านนึกดูถูกหญิงสาวในใจว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนที่เอ่ยปากชวนผู้ชายไปนอนที่บ้านได้อย่างหน้าไม่อาย
คราแรกว่าจะเข้ามาหาน้ำเย็นๆดื่มแก้กระหายหลังจากพึ่งขับรถมาถึงแต่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองคงจะกลืนอะไรไม่ลงเพราะเอียนคำพูดคำจาที่ดูจะฉอเลาะของเปมิกาที่พูดกับลูคัสพอสมควร
"อ้าวพี่ภูมิทำไมเข้ามาที่นี่กะทันหันล่ะคะ"
กชกรเอ่ยทักทายเมื่อเห็นภูมิเดินเข้ามาในห้องทำงานแปลกใจที่เห็นเขามาที่นี่กะทันหันไม่รู้ว่ามีธุระด่วนอะไร
"พี่จะมาคุยเรื่องโรงงานผ้าพี่รู้จักอีกโรงงานที่น่าจะต้นทุนต่ำกว่าโรงงานที่เราสั่งผลิตตอนนี้พี่เลยจะชวนเราไปดูพรุ่งนี้ที่เชียงใหม่ว่างหรือเปล่า"
ภูมิไทหย่อนก้นทิ้งตัวนั่งโซฟานุ่มด้วยท่าที่สบายชายหนุ่มพึ่งกลับมาจากเกาะหลังจากไปเยี่ยมย่าของเขาที่ล้มป่วยด้วยอาการของโรคคนแก่เมื่อกลับมาได้ก็รีบมาคุยเรื่องโรงงานทอผ้ากับกชกรเพราะเขาเห็นว่าโรงงานที่ใช้บริการอยู่ตอนนี้ค่อนข้างคิดราคาสูงไปพอสมควร
สิ้นเสียงภูมิไทกชกรก็เริ่มบุ้ยปากหากพี่ชายเธอบอกธุระไวกว่านี้สักนิดคงจะดีเพราะเธอมีแพลนที่จะไปที่อื่นแล้วในวันพรุ่งนี้แถมไปนานเสียด้วย
"อืม...พรุ่งนี้เกรซกับพี่ธันต้องบินไปปารีสน่ะสิคะไปเป็นอาทิตย์แน่ะ...เอาแบบนี้ให้น้องดาวหรือน้องขวัญไปดูคุณภาพผ้าเป็นเพื่อนดีหรือเปล่าคะ"
กชกรคิดว่าสองสาวนี้มีความรู้เรื่องผ้าพอกับเธอหากคนใดคนหนึ่งไปช่วยพี่ชายเธอดูงานครั้งนี้คงช่วยกันตัดสินใจได้ภูมิไทได้ฟังเช่นนั้นก็เงียบครู่หนึ่งก่อนจะคิดอะไรบางอย่างได้และรีบตอบตกลงกชกรทันที
"อืม..ก็ดีงั้นให้ดาวไปกับพี่ละกัน"
"พี่ภูมิจะไปกี่วันคะเกรซจะลองถามน้องดาวให้"
"เดี๋ยวพี่ไปคุยกับเธอเอง.."
"ค่ะพี่ภูมิ"
กชกรคลายกังวลริมฝีปากบางพอจะยิ้มออกคราแรกคิดว่าพี่ชายเธอจะไม่ยอมเดินทางไปกับคนอื่นเสียอีกแอบแปลกใจที่เขานั้นเอ่ยปากเจาะจงเป็นเปมิกาที่จะให้ไปด้วยจนผิดวิสัยคนโลกส่วนตัวสูงนับว่าเปมิกาท่าจะต้องตาพี่ชายเธอไม่น้อยไม่เช่นนั้นคงไม่ยอมให้ใกล้ชิดสนิทจนไปไหนสองต่อสองด้วยแน่
"นั่นคุณเกรซคุยกับใครพี่โด่ง"
ของขวัญรีบสะกิดถามดนัยกราฟฟิกพี่ใหญ่สุดของออฟฟิศว่าคนที่กชกรคุยด้วยในห้องทำงานนั้นเป็นใครเพราะเขาดูภูมิฐานน่าเกรงขรามไม่น้อยหากจะเป็นแค่คนมาสมัครงานคงไม่ใช่
"คุณภูมิไทหุ้นส่วนใหญ่ของแบรนด์พี่ชายคุณเกรซไง...นั่นไฮโซที่ชอบเก็บตัวจะเจอตัวไม่ใช่ง่ายๆพี่ก็พึ่งจะเห็นเค้าเข้ามาที่นี่เป็นครั้งที่สองนี่แหละ"
ดนัยเปรยตามองผ่านกระจกห้องทำงานของกชกรครู่หนึ่งก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ชายร่างสูงคนนั้นคือใคร
"ภูมิไทนามสกุลอะไรคะ"
ของขวัญชักเริ่มทะแม่งๆกับคำว่าไฮโซโลกส่วนตัวสูงเสียแล้ว
"ภูมิไท..ทักษาธารา"
"เอ่อ..เหรอคะ"
"อืม.."
สิ้นเสียงดนัยของขวัญก็รีบเดินดิ่งไปหาเปมิกาที่พึ่งเดินออกจากห้องครัวมาพร้อมน้ำส้มครั้นแก้วใหญ่รีบลากเพื่อนเธอเข้ามาคุยในห้องทำงานด้วยความรวดเร็ว
"ดาว..ดาว"
"ฉันว่าจะบอกแกว่าพรุ่งนี้คุณลูคัสจะไปทะเลกับเราด้วย"
"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนตอนนี้แกรู้ใช่หรือเปล่าว่าแบรนด์ที่เราทำงานให้มีใครเป็นหุ้นใหญ่"
ตอนนี้ของขวัญไม่มีอารมณ์คุยเรื่องอื่นกับเปมิกาแล้วไม่รู้ว่าเพื่อนเธอรู้หรือเปล่าว่าภูมิไทเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่นี่ถึงได้ยอมเข้ามาทำงานกับแบรนด์นี้ง่ายๆ
"ร...รู้สิทำไมล่ะ"
ใบหน้านวลพยักหน้าหงึกหงักสงสัยว่าของขวัญจะมาแครงใจอะไรเรื่องหุ้นว่วนใหญ่ของที่นี่ตอนนี้
"อ้าว..แล้วแกก็ไม่บอกฉัน..แกโอเคเหรอที่ต้องร่วมงานกับคุณภูมิไท"
"งานนี้ก็เป็นงานที่เราฝันอยากจะทำกันไม่ใช่หรือไงที่ฉันไม่บอกแกเพราะไม่อยากให้แกไม่สบายใจ"
"แล้วแกก็ต้องทนไม่สบายใจเนี่ยนะ"
ของขวัญได้รับคำตอบจากเพื่อนสาวก็ซึ้งในความเสียสละของเปมิกามากพอสมควรที่เพื่อนนั้นยอมละทิ้งความรู้สึกส่วนตัวเพื่อให้เธอได้ทำตามความฝัน
"เปล่าซะหน่อยตอนนี้ฉันไม่ได้สนใจอะไรแล้วอีกอย่างคุณภูมิไทเค้าก็ไม่ได้มายุ่งอะไรที่นี่"
เปมิกาส่ายหัวพยายามปั้นสีหน้าว่าไม่ได้คิดหรือรู้สึกอะไรกับอดีตเพราะไม่อยากให้ของขวัญไม่สบายใจ
"ไม่ได้มายุ่งบ้าอะไรล่ะ...ฉันเห็นเค้ายืนคุยกับคุณเกรซในห้องทำงาน"
"เค้ามาที่นี่เหรอ""อืม...""ก็ช่างเค้าสิเค้าก็ไม่ได้มายุ่งกับเราซะหน่อย"เปมิกาตกใจเล็กน้อยแต่พยายามทำทีท่าไม่ใส่ใจเพราะถึงภูมิไทอยู่ที่นี่เขาก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับเธออยู่แล้วRrrrRrrrrrขณะที่สองสาวกำลังคุยกันด้วยสีหน้าค่อนข้างซีเรียสเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานก็ดังขึ้นเป็นของขวัญที่รีบเอื้อมมือยกหูรับ"ขวัญพูดค่ะ.. ค่ะ... ได้ค่ะคุณเกรซ""ดาวคุณเกรซให้ไปคุยที่ห้องยอกว่าจะคุยเรื่องโรงงานผ้า""ฉันคนเดียวเหรอ""อืม"เปมิการับเดินออกไปหากชกรในห้องทันทีหวังในมจว่าขอให้ภูมิไทไม่อยู่ในระหว่างที่เธอคุยงานแต่เมื่อมาถึงยังไม่ทันได้เปิดประตูดวงตากลมก็เห็นอยู่แล้วว่าในห้องทำงานของกชกรมีภูมิไทนั่งหัวโด่อยู่ด้วยสาวเจ้าจึงเริ่มมีความอึดอัดขึ้นมาทันที"น้องดาวมาพอดีพี่ภูมิมีเรื่องจะคุยกับเราหน่อยน่ะเดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะ""เอ่อ.. ค่ะ.."หลังจากเปิดประตูเข้าห้องทำงานของกชกรมาได้เปมิกายังไม่ทันที่จะได้กล่าวอะไรกชกรก็พูดสวนออกมาทั้งเดินสวนเธอออกจากห้องไปทิ้งให้เธออยู่กับภูมิไทในห้องนี้สองต่อสองเสียอย่างนั้น"พรุ่งนี้คุณต้องไปเชียงใหม่ไปดูโรงงานผ้ากับผม"ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนล้วงมือทั้งสองเข้ากระเป๋าเอ่ยปากถึง
รถตู้คันหรูสีดำวิ่งออกจากตัวเมืองกรุงเทพมหานครมาได้สองสามชั่วโมงแล้วแต่ดูท่ามันจะยังไม่ไปถึงไหนเพราะภูมิไทเหยียบคันเร่งอย่างกับรถที่น้ำมันจะหมดเปมิกาเองก็นั่งหน้ามุ่ยขยับไปมาพักใหญ่จนต้องตัดสินใจพูดกับคนที่กำลังขับรถเป็นเต่าคลานว่าหากเขายังเหยียบคันเร่งแค่นี้เมื่อไรจะถึงที่หมาย"ขับให้เร็วกว่านี้ได้หรือเปล่าคะแบบนี้เมื่อไรจะถึง""มาขับเองดีหรือเปล่าล่ะให้นั่งเฉยๆยังจะบ่น"ภูมิไทตอบหญิงสาวอย่างลอยหน้าลอยตาเขานึกว่าเธอจะไม่ยอมพูดกับเขาตลอดทางเสียอีกนับว่าหญิงสาวใจเย็นพอสมควรที่ทนให้เขาแกล้งมาได้ถึงสองสามชั่วโมง"จอดค่ะ""อะไร""ฉันจะขับเองคุณจะได้นั่งสบายๆไงล่ะคะคุณเจ้านายใหญ่""อืม..."ภูมิไทค่อยๆลงไปจอดที่ไหล่ทางหากเปมิกาประสงค์จะขับเขาก็ไม่ขัดร่างบางเดินลงจากรถดุ่มๆสวนกับภูมิไทเพื่อนสลับที่นั่งเปมิกาเข้ามาในรถพร้อมกับภูมิไทขณะที่ชายหนุ่มกำลังหยิบขวดน้ำขึ้นดื่มบรื๊นนน....เอี๊ยดดดสาวเจ้ามองกระจกแล้วตอนนี้ถนนโล่งเธอจึงขอเอาคืนชายหนุ่มโดยการเหยียบคันเร่งแรงๆแล้วเบรกกะทันหันทำเอาคนตัวโตถึงกับสำลักน้ำแทบหัวทิ่มคอนโซลดีที่มีเบลคาดเอาไว้อยู่แล้ว"อึก..อืม..ทำอะไรของคุณ"ตอนนี้เสื้อยืดสีขา
“ขอเป็นแฟน...จริงเหรอคะ..ดาวดีใจที่สุดเลยค่ะแบบนี้ต้องฉลองแล้ว..ค่ะ..ไว้เจอกันค่ะ”เปมิกายิ้มร่าดีใจแทนของขวัญจนเนื้อเต้นที่ได้เจอคนที่ถูกใจแถมลูคัสยังเอ่ยปากขอของขวัญเป็นแฟนก่อนอีกนับว่าทริปทะเลครั้งนี้ที่เธอคิดขึ้นแม้นจะไม่ได้ไปเที่ยวกับทุกคนแต่ก็ไม่เสียเปล่าเพราะเพื่อนเธอได้มีแฟนกับเค้าแล้วระหว่างที่เปมิกากำลังดีใจเปิดบ้านเลื่อนเข้าไปปิดนอนในห้องด้วยความอารมณ์เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีคนยืนกำมือแน่นและกำลังเดินดุ่มๆมาเคาะที่หลังห้องเธอพร้อมกับอารมณ์ที่มีแต่โทสะลูกใหญ่อยู่ในอกก๊อกๆๆ“หืม..”เปมิกามองออกไปที่บ้านเลื่อนแสงไฟรอบรั้วทำให้เธอเห็นว่าเป็นภูมิไทแม้นจะไม่ชัดเท่าไรไม่รู้ว่าเขามาเคาะห้องเธอทำไมเวลานี้ทั้งที่มันเป็นเวลาที่เธอจะต้องพักผ่อนมีหรือเธอจะลุกไปเปิดยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงเพื่อให้อีกฝ่ายคิดว่าเธอหลับไปแล้ว“ผมรู้ว่าคุณยังไม่นอนเปิดเดี๋ยวนี้”“โอ้ย...อะไรนักหนา”สิ้นเสียงภูมิไทเปกิกาก็ลุกออกจาเตียงด้วยความหงุดหงิดบ่นอู้อี้วันนี้เธอก็ขับรถจนเมื่อยมาทั้งวันแล้วไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มทำไมต้องมารบกวนการพักผ่อนของเธออีก“อะไรของคุณ..อื้ออ..”ยังไม่ทันที่จะได้ถามจบประโยคร่างบาง
"มือถือนั่นผมเป็นคนซื้อให้คุณผมมีสิทธิ์จะทำอะไรกับมันก็ได้...อย่าลืมที่ผมเตือนสิผู้ชายคนไหนรู้ว่าคุณขายตัวใครเค้าก็ไม่อยากจริงจังกับคุณหรอก"เพี๊ยะ"หมาในปากของคุณฉันนับตัวไม่ถ้วนเลยนะคะ"สิ้นเสียงชายหนุ่มเปมิกาก็ยกมือเรียวฟาดไปที่แก้มสากของคนที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวรู้สึกไม่ชอบในความเอาแต่ใจเผด็จการของภูมิไทจนถึงขั้นเกลียดก็ว่าได้"อื้อออ..."สาวเจ้าดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียงเมื่อคนตัวโตก้มมาบดจูบเธอโดยไร้ซึ่งความนุ่มนวลอีกครั้ง"ปล่อย..ฉันนะ"และแล้วเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ก็กระจายขาดวิ่นอยู่รอบเตียงด้วยฝีมือของคนตัวโตบทสวาทเร่าร้อนไร้ความนิ่มนวลเกิดขึ้นเนิ่นนานเสียจนร่างบางสลบเหมือดคาเตียงเวลาพ้นผ่านไปพักใหญ่เมื่อเปมิกาตื่นมาอีกครั้งในช่วงเย็นของวันก็ไม่เห็นคนที่หาความสุขบนตัวของเธออยู่ที่นี่แล้วดวงตากลมโตมีน้ำตาไม่ขาดสายเพราะรู้ตัวว่าตัวเองคงเป็นได้แค่ที่ระบายของเขาเท่านั้น22.00 น.หลังจากสองสาวกล่อมโลมาจนหลับไปแล้วก็มานั่งคุยกันต่อที่ห้องนั่งเล่นของขวัญนึกขึ้นได้ว่าช่วงเกือบๆเที่ยงที่เธอใช้มือถือลูคัสโทรหาเปมิกาทำไมจึงไม่ติด"ตอนบ่ายแบตเครื่องฉันหมดเลยยืมมือถือคุณลุคโทรหาแล้วเครื่อง
รถเก๋งสีขาวขับออกมาจากบ้านร่วมพักใหญ่และแล้วมิกาก็ขับรถมาถึงบ่อนการพนันที่นี่ดูอึมครึมลึกลับหากมองภายนอกคงดูไม่ออกว่าเป็นบ่อนเหมือนจะเป็นโรงเก็บของหรือโกดังอะไรมากกว่าเปมิกานั่งรวบรวมความกล้าอยู่ครู่หนึ่งบนรถจึงลงจากรถไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยเผชิญมาก่อนเปมิกาเดินเข้ามาหาผู้ชายร่างสูงใหญ่วัยกลางคนที่มีใบหน้าโหดพอสมควรที่หน้าประตูทางเข้าเธอเพียงเอ่ยแค่ว่าเป็นน้องสาวของเดือนฉายเขาก็พาเธอเดินเข้ามาด้านในโดยที่ไม่ถามอะไรทางที่เธอเดินเห็นจะเป็นส่วนหลังของบ่อนหรือทางลับเพราะไม่เห็นคนเดินสวนมาแม้แต่คนเดียวไม่นานนักก็มาถึงห้องโถงใหญ่ในห้องโถงมีแสงไฟสลัวจากหลอดไฟไม่กี่หลอดและมีผู้หญิงรูปร่างอ้วนท้วมแต่งตัวสีฉูดฉาดใบหน้ากลมแป้นแต่งหน้าเต็มนั่งรอเธอพร้อมกับเดือนฉายและชายชุดดำอีกสี่ห้าคนอยู่แล้วหากเดาไม่ผิดผู้หญิงร่างท้วมข้างๆพี่สาวเธอคงเป็นเจ๊อ้วนเจ้าของบ่อนที่โทรมาหาเธอแน่“มาแล้วเหรอดาว”เดือนฉายหญิงสาวร่างสูงเพรียวใบหน้าสวยคมละม้ายคล้ายกับเปมิกาทุกอย่างติดที่ตอนนี้เธอดูโทรมซูบผอมหน้าดำคล้ำกว่าเดิมไปมากและตอนนี้ก็กำลังนั่งมีน้ำตาไหลมาไม่ขาดสายเพราะกลัวว่าจะถูกขายหลังจากไม่มีเงินมาใช้หนี้บ่
เปมิกายืนก้มหน้านิ่งครู่หนึ่งหลังจากอีกฝ่ายว่าข้อตกลงจบเธอไม่อยากรับปากแต่หากจะงอแงก็กลัวว่าจะไม่ได้อะไรเลยจึงจำต้องยอมตกลงรับปากแต่โดยดีโดยไม่มีข้อแม้หรือโต้แย้งใดๆ"ค่ะ.."ร่างบางวางกระเป๋าลงทั้งเดินดิ่งตรงไปจัดการตัวเองอย่างว่าง่ายยังไม่ทันที่จะถึงประตูห้องน้ำดีหญิงสาวก็ต้องหยุดชะงักหันหน้ามาหาคนที่กำลังเอ่ยปากพูดด้วย"ถ้าจะเป็นคนของผมคุณต้องเลิกกับแฟนของคุณเพราะผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร"ภูมิไทต้องบอกเปมิกาให้เธอได้รู้ว่าแม้นเธอจะมีแฟนแต่ช่วงเวลาที่เธอต้องมานอนกับเขาเธอจะต้องห้ามยุ่งกับใคร"แฟน?""อืม..""ฉัน...ไม่มีแฟนนะคะ"คิ้วได้รูปขมวดปมสงสัยว่าชายหนุ่มเอาเรื่องที่เธอนั้นมีแฟนมาจากไหน"คุณแน่ใจว่าคุณไม่ได้โกหกผม""ค่ะ..."เปมิกาพยักหน้ายืนยันก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะเข้าใจว่าเขาคงคิดเองเออเองตามประสาคนที่อยากจะหาเรื่องเธอมากกว่า"หึ่.. หน้าเงินเสียจนไม่มีความจริงใจให้ใครเลยหรือไง"ภูมิไททิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงคิดดูถูกเปมิกาที่เห็นเธออยากจะได้เงินจากเขาจนต้องโกหกหน้าตายว่าตัวเองไม่มีแฟนขณะใช้เวลาชำระร้างร่างกายอยู่ในห้องน้ำเปมิกามีน้ำตารื้นออกมาตลอดเพราะตอนนี้เธอก็แค่ผู้หญิงข
เย็นของวันนี้กับข้าวทุกอย่างล้วนเป็นฝีมือของเดือนฉายเพราะเธอเอ่ยปากจะดูแลงานบ้านกับโลมาทั้งหมดให้สองสาวได้มีเวลาทำงานของตนเองไป"โลมาดีใจที่สุดเลยค่ะที่แม่กลับมาอยู่กับโลมาแล้วแม่อยู่กับโลมาตลอดไปเลยนะคะ""จะ..แม่จะอยู่กับหนูทุกวันเลย""เย่"เปมิกาและของขวัญยิ้มจนแก้มปริเพราะโลมาน้อยดูจะร่าเริงพูดเจื้อยแจ้วมากคำเมื่อได้อยู่กับแม่หลายวันต่อมาวันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ลูคัสรีบมานัดแนะเปมิกาว่าเขาต้องการจัดเซอร์ไพรซ์ของของขวัญหมั้นแม้นเวลาที่รู้จักกันมันจะไม่นานเท่าไรแต่เขาก็มั่นใจว่าของขวัญเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันจึงอยากจะหมั้นจับจองหญิงสาวเอาไว้ก่อนหากอนาคตมีทุนทรัพย์มากกว่านี้ก็อยากจะแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวกับของขวัญอีกด้วย"เย็นนี้นะครับคุณดาว""ให้ดาวไปที่คอนโดคุณใช่หรือเปล่าคะ""ครับ""โอเคค่ะเลิกงานแล้วดาวจะรีบไปนะคะ"เป็นอีกครั้งที่เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญที่ภูมิไทได้มาเห็นลูคัสและเปมิกาหัวร่อต่อกระซิกกันในห้องทำงานผ่านหน้าห้องกระจกเขาไม่รู้ว่าเรื่องที่สองคนนั้นคุยกันมันเรื่องอะไรแต่ดูท่าทั้งสองจะคุยกันเพลินจนไม่เห็นว่าเขายืนดูทั้งสองอยู่"นี่เห
"คุณลุคไม่สบายมากหรือเปล่าคะ...เมื่อกลางวันขวัญยังเห็นคุณดีๆอยู่เลย...แล้วทำไมไม่เปิดไฟคะ"ของขวัญเห็นว่าในห้องนี้มีเพียงแสงสลัวๆเท่านั้นไม่รู้ว่าทำไมลูคัสถึงได้ปล่อยให้ห้องอยู่ในความมืดเช่นนี้"ถ้าจะบอกว่าป่วยใจอยากให้แฟนมาอยู่ใกล้ๆจะได้หรือเปล่าครับ"ลูคัสดึงคนตัวเล็กเข้ามาในห้องก่อนจะรีบปิดประตูพร้อมแกะกล่องแหวนมาสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาวโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว"เอ่อ..""ผมขอจองไว้ก่อนนะครับเก็บเงินได้มากกว่านี้เมื่อไรขอแต่งแน่"สิ้นเสียงลูคัสแสงไฟก็สว่างโล่เผยให้ของขวัญนั้นเห็นว่าที่นี่ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้และลูกโป่งหลากสีสันแถมยังมีเปมิกาและกชกรยืนชื่นชมความหวานของเธอและลูคัสอยู่ด้วย"เย่..ดีใจด้วยนะคะน้องขวัญ""ดีใจด้วยนะขวัญ""ดาวไหนบอกจะไปหาพี่แน็ต"ของขวัญบุ้ยปากเห็นทีจะถูกเพื่อนหลอกเอาได้ก็คราวนี้"ฉันมาเป็นพยานรักให้แกกับคุณลูคัสต่างหาก""พี่ก็ด้วยรักกันนานๆนะคะพี่จะรอการ์ดแต่งงานทั้งคู่นะ"หลังจากผ่านการเซอร์ไพรซ์ได้ทั้งสี่ก็นั่งร่วมโต๊ะอาหารกันพักใหญ่แล้วจึงแยกย้ายกันกลับส่วนลูคัสนั้นก็ขอตัวรั้งของขวัญเอาไว้เพราะอยากสวีทกันสองต่อสองวันต่อมาในช่วงเย็นของวันเสา