รถตู้คันหรูสีดำวิ่งออกจากตัวเมืองกรุงเทพมหานครมาได้สองสามชั่วโมงแล้วแต่ดูท่ามันจะยังไม่ไปถึงไหนเพราะภูมิไทเหยียบคันเร่งอย่างกับรถที่น้ำมันจะหมดเปมิกาเองก็นั่งหน้ามุ่ยขยับไปมาพักใหญ่จนต้องตัดสินใจพูดกับคนที่กำลังขับรถเป็นเต่าคลานว่าหากเขายังเหยียบคันเร่งแค่นี้เมื่อไรจะถึงที่หมาย
"ขับให้เร็วกว่านี้ได้หรือเปล่าคะแบบนี้เมื่อไรจะถึง"
"มาขับเองดีหรือเปล่าล่ะให้นั่งเฉยๆยังจะบ่น"
ภูมิไทตอบหญิงสาวอย่างลอยหน้าลอยตาเขานึกว่าเธอจะไม่ยอมพูดกับเขาตลอดทางเสียอีกนับว่าหญิงสาวใจเย็นพอสมควรที่ทนให้เขาแกล้งมาได้ถึงสองสามชั่วโมง
"จอดค่ะ"
"อะไร"
"ฉันจะขับเองคุณจะได้นั่งสบายๆไงล่ะคะคุณเจ้านายใหญ่"
"อืม..."
ภูมิไทค่อยๆลงไปจอดที่ไหล่ทางหากเปมิกาประสงค์จะขับเขาก็ไม่ขัด
ร่างบางเดินลงจากรถดุ่มๆสวนกับภูมิไทเพื่อนสลับที่นั่งเปมิกาเข้ามาในรถพร้อมกับภูมิไทขณะที่ชายหนุ่มกำลังหยิบขวดน้ำขึ้นดื่ม
บรื๊นนน....เอี๊ยดดด
สาวเจ้ามองกระจกแล้วตอนนี้ถนนโล่งเธอจึงขอเอาคืนชายหนุ่มโดยการเหยียบคันเร่งแรงๆแล้วเบรกกะทันหันทำเอาคนตัวโตถึงกับสำลักน้ำแทบหัวทิ่มคอนโซลดีที่มีเบลคาดเอาไว้อยู่แล้ว
"อึก..อืม..ทำอะไรของคุณ"
ตอนนี้เสื้อยืดสีขาวของภูมิไทเปียกไปหมดไม่รู้ว่าเปมิกาขับรถไม่เก่งหรือจงใจจะแกล้งเขากันแน่เห็นทีจะเป็นอย่างหลังที่คิดเสียมากกว่า
"พอดีฉันไม่ชินกับรถแพงๆเท่าไรเลยลองเหยียบคันเร่งเหยียบเบรกดูจะได้รู้จังหวะรถน่ะค่ะ..ไม่ว่ากันนะคะ"
สาวเจ้าว่าด้วยใบหน้าระรื่นทั้งค่อยๆเหยียบคันเร่งออกตัวแบบนิ่มๆไปตามถนนแต่เธอก็ต้องเหลือบมองคนข้างๆเพราะเขาเล่นถอดเสื้อโชว์แผงกล้ามหลาอย่างไม่อายสายตาของใครฟิล์มติดกระจกของรถคันนี้ก็ค่อนข้างใสพอสมควรหากคนอื่นขับรถผ่านไปผ่านมามีหวังคิดว่าพวกเธอมาทำอนาจารบนรถแน่นอน
“ทำอะไรของคุณ”
“ก็เสื้อมันเปียก”
“ใส่เสื้อเดี๋ยวนี้นะคะ..คนอื่นเห็นจะว่าเราทำอนาจารกันในรถ”
“รับปากกับผมว่าจะขับรถดีๆ”
ใบหน้าคมอมยิ้มกริ่มหากเปมิกาคิดจะแกล้งเขาก็ต้องรับมือการเอาคืนให้ได้
“โอเคค่ะ..”
หลังจากได้คำรับปากจากคนที่กำลังขับรถด้วยความหน้าเสียเขาจึงหันหลังยื่นมือไปหยิบกระเป๋าเล็กหยิบเสื้อลินินแขนยาวสีครีมดั่งเช่นเคยใส่เมื่ออยู่ที่เกาะมาสวมใส่เอาไว้
เปมิกาเห็นชายหนุ่มใส่เสื้อเช่นนี้สายตาของเธอจากที่โมโหเขาก่อนหน้าก็เริ่มสลดลงเล็กน้อยด้วยมันพาให้นึกถึงวันเก่าๆก่อนจะหันไปมองที่ทางด้านหน้าต่อ
ขณะนี้ฟ้ามืดแล้วเป็นเวลาหนึ่งทุ่มตรงสองหนุ่มสาวก็มาจอดรถอยู่หน้าบ้านไม้สักหลังโตที่มีไฟเปิดสว่างรอบรั้วบ้านอาณาเขตของบ้านนี้กว้างพอสมควรและไม่ได้ติดกับหลังอื่น
เปมิกาลงจากรถยืดเส้นยืดสายเมื่อขาพอสมควรเพราะภูมิไทเล่นไม่เปลี่ยนมาเป็นคนขับให้เธอได้พักบ้างเธอหรือก็ปากหนักจนกว่าจะเอ่ยของความช่วยเหลืออีกฝ่าย
“ปวดขาจังเลย”
“หิวหรือเปล่าผมสั่งให้คนที่ดูแลที่นี่เตรียมอาหารเอาไว้ให้แล้ว”
“ดีค่ะ...หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้วเรารีบเข้าไปข้างในกันเถอะ”
เมื่อได้ยินเรื่องของกินเปมิกาก็หูผึ่งเปิดประตูคว้ากระเป๋าใบเล็กของเธอออกมาจากรถทันทีเธอเดินตามชายหนุ่มเข้ามาในบ้านได้เมื่อแสงสว่างของบ้านได้ถูกเปิดขึ้นเปมิกาก็วางกระเป๋าลงรีบถามหาห้องครัวกับภูมิไททันที
“ห้องครัวอยู่ไหนคะ”
“เดินไปทางขวา”
สาวเจ้าปรี่ตรงไปที่ห้องครัวตามชี่ชายหนุ่มชี้มือบอกโต๊ะอาหารที่เรียงรายอยู่เต็มโต๊ะเป็นจุดสนใจกับดวงตากลมโตตอนนี้พอสมควรเพราะเธอหิวจนไส้กริ่วแล้วด้วยเมื่อกลางวันกินอะไรไม่ค่อยลงใจจดจ่ออยากจะให้ถึงเชียงใหม่ใจจะขาด
ภูมิไทยืนมองหญิงสาวที่กำลังง่วนอยู่กับอาหารพลันนึกถึงตอนที่เธออยู่ที่เกาะด้วยกันสีหน้าของหญิงสาวจะดูมีความสุขมากหากได้กินของอร่อยเช่นตอนนี้เขาอยากจะยิ้มแต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้เพราะมีทิฐิในใจว่าเธอไม่สมควรได้รับรอยยิ้มจากเขาอีกต่อไป
หลังจากจบมื้ออาหารเย็นภูมิไทก็พาหญิงสาวมาเดินดูห้องให้เธอเลือกว่าจะนอนที่ห้องไหนเพราะที่นี่มีถึงสามห้องนอนเรียงติดกัน
“คุณนอนห้องไหน”
เปมิกายืนนิ่งมือหอบกระเป๋าใบเล็กมองซ้ายมองขวาเพื่อดูว่าห้องไหนน่านอนแต่นั่นก็ไม่สำคัญตอนนี้เธออยากรู้ว่าภูมิไทนอนห้องไหนเธอจะได้ไม่ต้องนอนใกล้เขาด้วยกลัวจะไม่ปลอดภัยเพราะเขาก็ไม่ได้น่ารักอย่างนายทะเลคนก่อนที่เธอเคยรู้จัก
“ทำไม..จะนอนกับผมหรือไง”
“หึ่...ฉันถามเพราะฉันจะได้นอนไกลๆคุณไงคะ”
เปมิกามองค้อนขวับร่างสูงยกที่กำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงลอยหน้าลอยตาคิดเข้าข้างตัวเองหญิงสาวนึกในใจว่าเขาไม่คิดกระดากปากที่พูดออกมาบ้างหรืออย่างไร
“ผมนอนห้องตรงกลางคุณจะนอนห้องซ้ายห้องขวาก็ใกล้ผมอยู่ดี...มีห้องที่ไกลกับห้องผมอยู่นะครับแต่จะอยู่หลังบ้านเล็กหน่อยเพราะเป็นห้องน้ำ”
“ฉันนอนห้องนี้ก็ได้ค่ะ”
เปมิกาตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องแรกสุดที่ติดกับชานหน้าบ้านต้องรีบเข้ามาในห้องก่อนกลัวว่าจะอดใจไม่ได้ที่จะยกมือตบปากร้ายๆของเจ้านายใหญ่ของเธอ
“อีตาบ้าเอ้ย..”
ร่างบางเข้ามาได้ก็เปิดไฟนั่งฟุบลงนอนเหยียดยาวกับเตียงนอนหลังใหญ่สีขาวนุ่มพักขาครู่หนึ่งจึงลุกขึ้นนั่งเล่นมือถืออีกพักใหญ่รออาหารเย็นย่อยแล้วจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาชมบรรยากาศที่ระเบียงหลังห้อง
“ติดกันหมดเลยเหรอ”
หญิงสาวในชุดนอนออกมาที่ระเบียงได้ก็พึ่งจะรู้ว่าระเบียงของห้องนอนทั้งสามสามารถเดินทะลุกันได้มีเพียงแค่ผนังห้องยื่นยาวออกมากั้นให้เป็นพื้นที่แต่ละห้องไม่ยาวมากเท่าไรพอให้ได้รู้ว่าพื้นที่ใครเป็นพื้นที่ใครเท่านั้น
หญิงสาวฟุบลงนั่งเก้าอี้ไม้ที่ระเบียงพักใหญ่ดูดาวดาวจนพอใจแล้วกะว่าจะเข้าไปนอนด้านในเพราะยุงตรงนี้ค่อนข้างเยอะพอสมควรแต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูก็มีสายจากลูคัสโทรเข้ามาหาเธอก่อน
RrrrrRrrrrr
“ค่ะคุณลูคัส”
ภูมิไทที่เดินออกมาดูดาวหลังระเบียงยังไม่ทันเดินพ้นฝาผนังที่กำลังกั้นก็ได้ยินเสียงของเปมิกาคุยกับลูคัสเข้าจึงหยุดชะงักอยากรู้ว่าเธอคุยอะไรกับนายแบบหนุ่มนั่น
“ขอเป็นแฟน...จริงเหรอคะ..ดาวดีใจที่สุดเลยค่ะแบบนี้ต้องฉลองแล้ว..ค่ะ..ไว้เจอกันค่ะ”เปมิกายิ้มร่าดีใจแทนของขวัญจนเนื้อเต้นที่ได้เจอคนที่ถูกใจแถมลูคัสยังเอ่ยปากขอของขวัญเป็นแฟนก่อนอีกนับว่าทริปทะเลครั้งนี้ที่เธอคิดขึ้นแม้นจะไม่ได้ไปเที่ยวกับทุกคนแต่ก็ไม่เสียเปล่าเพราะเพื่อนเธอได้มีแฟนกับเค้าแล้วระหว่างที่เปมิกากำลังดีใจเปิดบ้านเลื่อนเข้าไปปิดนอนในห้องด้วยความอารมณ์เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีคนยืนกำมือแน่นและกำลังเดินดุ่มๆมาเคาะที่หลังห้องเธอพร้อมกับอารมณ์ที่มีแต่โทสะลูกใหญ่อยู่ในอกก๊อกๆๆ“หืม..”เปมิกามองออกไปที่บ้านเลื่อนแสงไฟรอบรั้วทำให้เธอเห็นว่าเป็นภูมิไทแม้นจะไม่ชัดเท่าไรไม่รู้ว่าเขามาเคาะห้องเธอทำไมเวลานี้ทั้งที่มันเป็นเวลาที่เธอจะต้องพักผ่อนมีหรือเธอจะลุกไปเปิดยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงเพื่อให้อีกฝ่ายคิดว่าเธอหลับไปแล้ว“ผมรู้ว่าคุณยังไม่นอนเปิดเดี๋ยวนี้”“โอ้ย...อะไรนักหนา”สิ้นเสียงภูมิไทเปกิกาก็ลุกออกจาเตียงด้วยความหงุดหงิดบ่นอู้อี้วันนี้เธอก็ขับรถจนเมื่อยมาทั้งวันแล้วไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มทำไมต้องมารบกวนการพักผ่อนของเธออีก“อะไรของคุณ..อื้ออ..”ยังไม่ทันที่จะได้ถามจบประโยคร่างบาง
"มือถือนั่นผมเป็นคนซื้อให้คุณผมมีสิทธิ์จะทำอะไรกับมันก็ได้...อย่าลืมที่ผมเตือนสิผู้ชายคนไหนรู้ว่าคุณขายตัวใครเค้าก็ไม่อยากจริงจังกับคุณหรอก"เพี๊ยะ"หมาในปากของคุณฉันนับตัวไม่ถ้วนเลยนะคะ"สิ้นเสียงชายหนุ่มเปมิกาก็ยกมือเรียวฟาดไปที่แก้มสากของคนที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวรู้สึกไม่ชอบในความเอาแต่ใจเผด็จการของภูมิไทจนถึงขั้นเกลียดก็ว่าได้"อื้อออ..."สาวเจ้าดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียงเมื่อคนตัวโตก้มมาบดจูบเธอโดยไร้ซึ่งความนุ่มนวลอีกครั้ง"ปล่อย..ฉันนะ"และแล้วเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ก็กระจายขาดวิ่นอยู่รอบเตียงด้วยฝีมือของคนตัวโตบทสวาทเร่าร้อนไร้ความนิ่มนวลเกิดขึ้นเนิ่นนานเสียจนร่างบางสลบเหมือดคาเตียงเวลาพ้นผ่านไปพักใหญ่เมื่อเปมิกาตื่นมาอีกครั้งในช่วงเย็นของวันก็ไม่เห็นคนที่หาความสุขบนตัวของเธออยู่ที่นี่แล้วดวงตากลมโตมีน้ำตาไม่ขาดสายเพราะรู้ตัวว่าตัวเองคงเป็นได้แค่ที่ระบายของเขาเท่านั้น22.00 น.หลังจากสองสาวกล่อมโลมาจนหลับไปแล้วก็มานั่งคุยกันต่อที่ห้องนั่งเล่นของขวัญนึกขึ้นได้ว่าช่วงเกือบๆเที่ยงที่เธอใช้มือถือลูคัสโทรหาเปมิกาทำไมจึงไม่ติด"ตอนบ่ายแบตเครื่องฉันหมดเลยยืมมือถือคุณลุคโทรหาแล้วเครื่อง
รถเก๋งสีขาวขับออกมาจากบ้านร่วมพักใหญ่และแล้วมิกาก็ขับรถมาถึงบ่อนการพนันที่นี่ดูอึมครึมลึกลับหากมองภายนอกคงดูไม่ออกว่าเป็นบ่อนเหมือนจะเป็นโรงเก็บของหรือโกดังอะไรมากกว่าเปมิกานั่งรวบรวมความกล้าอยู่ครู่หนึ่งบนรถจึงลงจากรถไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยเผชิญมาก่อนเปมิกาเดินเข้ามาหาผู้ชายร่างสูงใหญ่วัยกลางคนที่มีใบหน้าโหดพอสมควรที่หน้าประตูทางเข้าเธอเพียงเอ่ยแค่ว่าเป็นน้องสาวของเดือนฉายเขาก็พาเธอเดินเข้ามาด้านในโดยที่ไม่ถามอะไรทางที่เธอเดินเห็นจะเป็นส่วนหลังของบ่อนหรือทางลับเพราะไม่เห็นคนเดินสวนมาแม้แต่คนเดียวไม่นานนักก็มาถึงห้องโถงใหญ่ในห้องโถงมีแสงไฟสลัวจากหลอดไฟไม่กี่หลอดและมีผู้หญิงรูปร่างอ้วนท้วมแต่งตัวสีฉูดฉาดใบหน้ากลมแป้นแต่งหน้าเต็มนั่งรอเธอพร้อมกับเดือนฉายและชายชุดดำอีกสี่ห้าคนอยู่แล้วหากเดาไม่ผิดผู้หญิงร่างท้วมข้างๆพี่สาวเธอคงเป็นเจ๊อ้วนเจ้าของบ่อนที่โทรมาหาเธอแน่“มาแล้วเหรอดาว”เดือนฉายหญิงสาวร่างสูงเพรียวใบหน้าสวยคมละม้ายคล้ายกับเปมิกาทุกอย่างติดที่ตอนนี้เธอดูโทรมซูบผอมหน้าดำคล้ำกว่าเดิมไปมากและตอนนี้ก็กำลังนั่งมีน้ำตาไหลมาไม่ขาดสายเพราะกลัวว่าจะถูกขายหลังจากไม่มีเงินมาใช้หนี้บ่
เปมิกายืนก้มหน้านิ่งครู่หนึ่งหลังจากอีกฝ่ายว่าข้อตกลงจบเธอไม่อยากรับปากแต่หากจะงอแงก็กลัวว่าจะไม่ได้อะไรเลยจึงจำต้องยอมตกลงรับปากแต่โดยดีโดยไม่มีข้อแม้หรือโต้แย้งใดๆ"ค่ะ.."ร่างบางวางกระเป๋าลงทั้งเดินดิ่งตรงไปจัดการตัวเองอย่างว่าง่ายยังไม่ทันที่จะถึงประตูห้องน้ำดีหญิงสาวก็ต้องหยุดชะงักหันหน้ามาหาคนที่กำลังเอ่ยปากพูดด้วย"ถ้าจะเป็นคนของผมคุณต้องเลิกกับแฟนของคุณเพราะผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร"ภูมิไทต้องบอกเปมิกาให้เธอได้รู้ว่าแม้นเธอจะมีแฟนแต่ช่วงเวลาที่เธอต้องมานอนกับเขาเธอจะต้องห้ามยุ่งกับใคร"แฟน?""อืม..""ฉัน...ไม่มีแฟนนะคะ"คิ้วได้รูปขมวดปมสงสัยว่าชายหนุ่มเอาเรื่องที่เธอนั้นมีแฟนมาจากไหน"คุณแน่ใจว่าคุณไม่ได้โกหกผม""ค่ะ..."เปมิกาพยักหน้ายืนยันก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะเข้าใจว่าเขาคงคิดเองเออเองตามประสาคนที่อยากจะหาเรื่องเธอมากกว่า"หึ่.. หน้าเงินเสียจนไม่มีความจริงใจให้ใครเลยหรือไง"ภูมิไททิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงคิดดูถูกเปมิกาที่เห็นเธออยากจะได้เงินจากเขาจนต้องโกหกหน้าตายว่าตัวเองไม่มีแฟนขณะใช้เวลาชำระร้างร่างกายอยู่ในห้องน้ำเปมิกามีน้ำตารื้นออกมาตลอดเพราะตอนนี้เธอก็แค่ผู้หญิงข
เย็นของวันนี้กับข้าวทุกอย่างล้วนเป็นฝีมือของเดือนฉายเพราะเธอเอ่ยปากจะดูแลงานบ้านกับโลมาทั้งหมดให้สองสาวได้มีเวลาทำงานของตนเองไป"โลมาดีใจที่สุดเลยค่ะที่แม่กลับมาอยู่กับโลมาแล้วแม่อยู่กับโลมาตลอดไปเลยนะคะ""จะ..แม่จะอยู่กับหนูทุกวันเลย""เย่"เปมิกาและของขวัญยิ้มจนแก้มปริเพราะโลมาน้อยดูจะร่าเริงพูดเจื้อยแจ้วมากคำเมื่อได้อยู่กับแม่หลายวันต่อมาวันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ลูคัสรีบมานัดแนะเปมิกาว่าเขาต้องการจัดเซอร์ไพรซ์ของของขวัญหมั้นแม้นเวลาที่รู้จักกันมันจะไม่นานเท่าไรแต่เขาก็มั่นใจว่าของขวัญเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันจึงอยากจะหมั้นจับจองหญิงสาวเอาไว้ก่อนหากอนาคตมีทุนทรัพย์มากกว่านี้ก็อยากจะแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวกับของขวัญอีกด้วย"เย็นนี้นะครับคุณดาว""ให้ดาวไปที่คอนโดคุณใช่หรือเปล่าคะ""ครับ""โอเคค่ะเลิกงานแล้วดาวจะรีบไปนะคะ"เป็นอีกครั้งที่เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญที่ภูมิไทได้มาเห็นลูคัสและเปมิกาหัวร่อต่อกระซิกกันในห้องทำงานผ่านหน้าห้องกระจกเขาไม่รู้ว่าเรื่องที่สองคนนั้นคุยกันมันเรื่องอะไรแต่ดูท่าทั้งสองจะคุยกันเพลินจนไม่เห็นว่าเขายืนดูทั้งสองอยู่"นี่เห
"คุณลุคไม่สบายมากหรือเปล่าคะ...เมื่อกลางวันขวัญยังเห็นคุณดีๆอยู่เลย...แล้วทำไมไม่เปิดไฟคะ"ของขวัญเห็นว่าในห้องนี้มีเพียงแสงสลัวๆเท่านั้นไม่รู้ว่าทำไมลูคัสถึงได้ปล่อยให้ห้องอยู่ในความมืดเช่นนี้"ถ้าจะบอกว่าป่วยใจอยากให้แฟนมาอยู่ใกล้ๆจะได้หรือเปล่าครับ"ลูคัสดึงคนตัวเล็กเข้ามาในห้องก่อนจะรีบปิดประตูพร้อมแกะกล่องแหวนมาสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาวโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว"เอ่อ..""ผมขอจองไว้ก่อนนะครับเก็บเงินได้มากกว่านี้เมื่อไรขอแต่งแน่"สิ้นเสียงลูคัสแสงไฟก็สว่างโล่เผยให้ของขวัญนั้นเห็นว่าที่นี่ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้และลูกโป่งหลากสีสันแถมยังมีเปมิกาและกชกรยืนชื่นชมความหวานของเธอและลูคัสอยู่ด้วย"เย่..ดีใจด้วยนะคะน้องขวัญ""ดีใจด้วยนะขวัญ""ดาวไหนบอกจะไปหาพี่แน็ต"ของขวัญบุ้ยปากเห็นทีจะถูกเพื่อนหลอกเอาได้ก็คราวนี้"ฉันมาเป็นพยานรักให้แกกับคุณลูคัสต่างหาก""พี่ก็ด้วยรักกันนานๆนะคะพี่จะรอการ์ดแต่งงานทั้งคู่นะ"หลังจากผ่านการเซอร์ไพรซ์ได้ทั้งสี่ก็นั่งร่วมโต๊ะอาหารกันพักใหญ่แล้วจึงแยกย้ายกันกลับส่วนลูคัสนั้นก็ขอตัวรั้งของขวัญเอาไว้เพราะอยากสวีทกันสองต่อสองวันต่อมาในช่วงเย็นของวันเสา
ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันสุดสัปดาห์ภูมิไทเข้ามาทำงานที่นี่ทุกวันเพราะต้องการจับตาดูพฤติกรรมของเปมิกาจนหญิงสาวจับสังเกตได้มาสองสามวันแล้วเมื่อได้จังหวะเห็นชายหนุ่มอยู่ในห้องทำงานเพียงคนเดียวด้วยคนอื่นอยู่ในสตูดิโอถ่ายภาพเสื้อผ้ากันหมดเธอจึงรีบเข้ามาคุยกับเขาให้รู้เรื่องรู้ราวว่าที่เอาแต่ตามจ้องเธอเพื่อจะจับผิดหรือต้องการอะไรกันแน่"ฉันเห็นคุณเอาแต่ตามจ้องฉันตลอดเวลาหาเรื่องแกล้งอะไรฉันอีกหรือเปล่า""ไม่มีอะไร..ผมมีตาก็ต้องมองคุณบ้างไม่เห็นจะแปลก”“ไม่มีอะไรแน่นะคะ..”เปมิกาจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของเขาสักเท่าไร“อืม..”“ฉันคงคิดมาไปเอง..”เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนยันหน้านิ่งขนาดนั้นเธอเองก็ไม่ได้อยากจะคิดอะไรมากความก่อนจะรีบเข้าไปยืนใกล้ๆคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้“วันเสาร์นี้ฉันขอไม่ไปหาคุณนะคะ.ฉันมีรอบเดือน”เปมิกาก้มลงกระซิบบอกกับภูมิไทว่าวันเสาร์นี้เธอคงไม่ไปหาเขาที่บ้านเพราะตอนนี้เธอมีรอบเดือนคงจะให้ความสุขกับเขาไม่ได้“อืม..ถึงเราจะร่วมเตียงกันไม่ได้แต่คุณก็ดูแลผมอย่างอื่นได้นี่”มือหนารวบเอวบางให้เธอมานั่งอยู่บนตักเปมิกาหน้ามุ่ยเล็กน้อยคิดว่าเขาจะอนุญาตให้เธอหยุดพักหน้า
"เอ่อ...เธอปวดท้องผมเลยให้เธอนอนพักอยู่ข้างบน"ภูมิไทไม่รู้ว่าเปมิกาได้บอกกับที่บ้านเธอเรื่องที่มาอยู่ที่นี่ในวันเสาร์หรือไม่แต่เขาก็ไม่ได้อยากโกหก"ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะ...ฉันจะมาขอร้องให้คุณหยุดใช้น้องฉันเป็นเครื่องบำเรอความสุขจะได้หรือเปล่าคะ...เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะฉันเงินทุกบาททุกสตางค์ฉันจะทำงานใช้หนี้คุณเอง""เพราะคุณ...ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจได้หรือเปล่าครับ"ดวงตาคมเริ่มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความสงสัยภูมิไทเริ่มอยากจะฟังรายละเอียดให้มันมากกว่านี้เพราะเขานั้นไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวพูดเท่าไรนัก"ฉันมันเลวเองที่ทิ้งลูกที่ป่วยให้ยัยดาวดูแลแล้วก็หนีหายไปจนยัยดาวต้องไปรับงานจากคุณอรนิชาเพื่อที่จะเอาเงินมาผ่าตัดโลมาลูกฉันให้เร็วที่สุด...จนเป็นเหตุทำให้ยัยดาวต้องไปหลอกลวงคุณแล้วเรื่องเงินสามล้านที่ยัยดาวต้องวิ่งโล่มาขายตัวให้คุณเพื่อแลกกับเงินก็เพราะฉันที่ติดหนี้พนันจนเกือบถูกขายที่ชายแดนดีที่ยัยดาวไปช่วยเอาไว้..."เดือนฉายพูดไปปาดน้ำตาไปเธอไม่อายที่จะดูแย่ในสายตาคนอื่นแต่เธออายมากกว่าที่รู้ว่าน้องตัวเองเดือดร้อนเพราะตัวเองอย่างไรแล้วไม่คิดจะยื่นมือช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นเลย"ดาว"