รถเก๋งสีขาวขับออกมาจากบ้านร่วมพักใหญ่และแล้วมิกาก็ขับรถมาถึงบ่อนการพนันที่นี่ดูอึมครึมลึกลับหากมองภายนอกคงดูไม่ออกว่าเป็นบ่อนเหมือนจะเป็นโรงเก็บของหรือโกดังอะไรมากกว่าเปมิกานั่งรวบรวมความกล้าอยู่ครู่หนึ่งบนรถจึงลงจากรถไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน
เปมิกาเดินเข้ามาหาผู้ชายร่างสูงใหญ่วัยกลางคนที่มีใบหน้าโหดพอสมควรที่หน้าประตูทางเข้าเธอเพียงเอ่ยแค่ว่าเป็นน้องสาวของเดือนฉายเขาก็พาเธอเดินเข้ามาด้านในโดยที่ไม่ถามอะไร
ทางที่เธอเดินเห็นจะเป็นส่วนหลังของบ่อนหรือทางลับเพราะไม่เห็นคนเดินสวนมาแม้แต่คนเดียวไม่นานนักก็มาถึงห้องโถงใหญ่ในห้องโถงมีแสงไฟสลัวจากหลอดไฟไม่กี่หลอดและมีผู้หญิงรูปร่างอ้วนท้วมแต่งตัวสีฉูดฉาดใบหน้ากลมแป้นแต่งหน้าเต็มนั่งรอเธอพร้อมกับเดือนฉายและชายชุดดำอีกสี่ห้าคนอยู่แล้วหากเดาไม่ผิดผู้หญิงร่างท้วมข้างๆพี่สาวเธอคงเป็นเจ๊อ้วนเจ้าของบ่อนที่โทรมาหาเธอแน่
“มาแล้วเหรอดาว”
เดือนฉายหญิงสาวร่างสูงเพรียวใบหน้าสวยคมละม้ายคล้ายกับเปมิกาทุกอย่างติดที่ตอนนี้เธอดูโทรมซูบผอมหน้าดำคล้ำกว่าเดิมไปมากและตอนนี้ก็กำลังนั่งมีน้ำตาไหลมาไม่ขาดสายเพราะกลัวว่าจะถูกขายหลังจากไม่มีเงินมาใช้หนี้บ่อนพนันที่นี่
"พี่เธอติดหนี้ฉันสามล้านถ้าเธอหามาคืนไม่ได้พรุ่งนี้ฉันจะส่งมันขายที่ชายแดน...ฉันก็ไม่รู้นะว่าขายนังนี่ไปแล้วมันจะถูกเอาไปอยู่ในซ่องหรือชำแหละอวัยวะขายเหมือนกัน"
สิ้นเสียงคำขู่แข็งกร้าวของหญิงร่างท้วมเจ้าของบ่อนเปมิกาก็แทบกลืนน้ำลายไม่ลงคอเธอนึกว่าหนี้ที่พี่สาวเธอติดพนันไม่กี่หมื่นเสียอีกคืนเดียวเธอหาไม่ทันแน่ถ้าเงินเป็นล้านขนาดนั้น
"ส.. สามล้านให้เวลาฉันหาเงินหน่อยได้หรือเปล่าสามล้านคืนเดียวใครจะไปหาทัน"
"อืม...ไม่ทันก็ต้องทันถ้าเธอหาเงินมาไม่ได้ก็ต้องให้นังนี่รับชะตากรรมอย่างที่ควรจะเป็น"
"ไม่นะดาวแกต้องช่วยพี่.. ฮือๆๆ"
เดือนฉายนั่งตัวสั่นเทาส่ายหัวร้องให้ระงมความกลัวตายฝังเข้ามาในสมองหากย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่เลือกเดินทางนี้แน่นอน
เปมิกาเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อตั้งสติเพราะเธอเริ่มก็เริ่มมืดแปดด้านแล้วเหมือนกัน
"สัญญากับฉันว่าถ้าฉันช่วยพี่.. จะกลับไปหาโลมาดูแลลูกไม่หายไปไหนและไม่ทำเรื่องที่ผิดแบบนี้อีก"
เปมิกามองหน้าคนเป็นพี่เอ่ยถามให้แน่ใจว่าถ้าหากเธอยื่นมือช่วยแล้วพี่เธอจะกลับตัวและกลับไปดูแลลูกอย่างที่ควรจะเป็นแล้วเธอจะพยายามหาวิธีช่วย
"ได้พี่สัญญา...พี่สาบานเลยว่าพี่จะไม่หนีไปจากโลมาอีก"
เดือนฉายรีบรับปากอย่างไม่ลังเลหากเธอรอดจากเหตุการณ์ร้ายๆนี้ได้เธอจะกลับตัวกลับใจ
"เงินสามล้านฉันจะเอามาให้คุณภายในวันพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง"
เปมิกาเห็นพี่สาวเธอรับปากได้ก็หันมายืนยันกับเจ้าของบ่อนที่กำลังนั่งต้องเธอเขม็งว่าเธอจะเอาเงินมาคืนให้ได้ภายในวันพรุ่งนี้ทั้งที่ตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาเงินที่ไหน
"ได้...ถ้าเธอรับปากว่าจะเอามาให้ฉันก็จะรอ"
"มาช่วยพี่ให้ได้นะดาว..ฮือๆๆๆ"
ก่อนเปมิกาจะเดินกลับเสียงสั่นเครือของเดือนฉายก็ย้ำเตือนเธอให้หาทางช่วยตัวเองไห้ได้สถานการณ์ตอนนี้ตึงเครียดจนเปมิกากลับมานั่งในรถแล้วไม่รู้ว่าตัวเองจะหันหัวรถไปทางไหนฟ้าตอนนี้ก็มืดสนิทแล้วด้วย
ถ้าเธอต้องการเงินก็มาหาฉัน
จู่ๆหญิงสาวก็นึกถึงภูมิไทเขาเป็นคนเดียวที่เธอคิดว่าเงินสามล้านคงจะได้จากเขาไม่ยากแม้นจะแลกด้วยการถูกตราหน้าว่าหน้าเงินอะไรเธอก็ต้องยอมในเวลานี้
รถเก๋งคันเล็กของเปมิกาแล่นมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของภูมิไทเธอรู้ที่อยู่ของเขาหลังจากโทรถามตั้งแต่ตัดสินใจจะมาขอเงินจากเขา
"เฮ้อ.."
หญิงสาวจอดรถมองบ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดริ์นราคาเหยียบ200ล้านตั้งตระหง่านอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวเธอก้มใบหน้าลงฟุบกับพวงมาลัยรถอย่างเหนื่อยใจกับชีวิตก่อนจะยกหูโทรบอกชายหนุ่มว่าเธอได้มาถึงหน้าบ้านของเขาแล้ว
"คุณภูมิเปิดประตูให้ฉันหน่อยค่ะฉันอยู่ที่หน้าบ้านคุณแล้ว"
ไม่นานนักประตูรั้วก็เปิดอัตโนมัติเปมิการู้ได้ว่าน่าจะเป็นคำสั่งจากการคอนโทรลจากภูมิไทหญิงสาวขับรถเก๋งของเธอเข้ามาจอดที่ลานจอดรถใกล้กับประตูหน้าบ้านของชายหนุ่มก่อนจะเดินลงมาจากรถด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยวซังกะตาย
"ตามผมมาสิ"
ภูมิไทในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีเทากางนอนสีเดียวกันกับเสื้อเดินมายืนหน้าประตูบ้านเมื่อเห็นหญิงสาวลงจากรถเรียบร้อยแล้วจึงเรียกเธอมาคุยข้างในถึงธุระที่หญิงสาวต้องการจะคุยกับเขาในเวลานี้
"มีอะไรมาผมที่นี่ดึกๆดื่นๆ"
ภูมิไทพาเปมิกามานั่งคุยกันที่โซฟาในห้องโถงอยากจะรู้นักว่าหญิงสาวมีธุระด่วนอะไรถึงได้มาขอคุยกับเขาในเวลานี้
"วันนั้นที่ฉันนอนกับคุณ...ฉันยังไม่ได้เงิน"
เปมิกานั่งตัวเกร็งหน้าชาเล็กน้อยเธอเอ่ยปากขอเงินจากชายหนุ่มอย่างหน้าไม่อายด้วยต้องการเงินอย่างเร่งด่วนจริงๆ
"หึ่...ที่แท้ก็เรื่องเงิน...อยากได้เท่าไรล่ะ"
ภูมิไทเปลี่ยนอริยาบถจากนั่งตั้งแขนบนเข่ากุมมือจ้องหน้าหญิงสาวเป็นทิ้งหลังพิงโซฟายกขานั่งไขว่ห้างกรอกลิ้นดึงสายตากลับไม่ยอมมองใบหน้านวลอีกเขาก็นึกว่าเธอมีเรื่องอะไรที่แท้ก็เพียงต้องการเงินเท่านั้นเขาไม่น่าถามแต่แรกเพราะเท่าที่รู้จักเปมิกาก็เข้าหาเขาเพียงเพราะมีผลประโยชน์ให้
"สามล้านค่ะ"
คำตอบของหญิงสาวทำเอาร่างสูงที่นั่งไขว่ห้างลุกขึ้นพรวดล้วงกระเป๋ามองหน้าเปมิกาด้วยสีหน้าบึ้งตึงแม้นเธอจะรู้ว่าเขามีทุนทรัพย์มากแต่ก็ไม่น่าจะรีดไถกันมากมายเพียงนี้
"เรียกแพงไปหน่อยหรือเปล่า"
"ฉันขอสามล้านแล้วคุณจะให้ฉันนอนกับคุณอีกกี่คืนก็ได้"
มือเรียวจิกกำกันแน่นจนแทบเลือดซิบจากที่ชาแค่หน้าตอนนี้กลับชาทั้งตัวที่ต้องขายศักดิ์ศรีเพื่อเงินจริงๆอย่างที่เขาเคยว่า
"เดือดร้อนเรื่องเงินขนาดนั้นเลย...จะเอาไปทำอะไรซื้อกระเป๋าหรือเครื่องสำอางค์"
"จะให้หรือไม่ให้คะ"
เปมิกาเปรยสายตามองและย้ำถามคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าอย่างเร่งรีบที่จะได้คำตอบ
"ไปอาบน้ำคืนนี้คุณต้องนอนกับผมที่นี่แล้วพรุ่งนี้เช้าผมจะเซ็นเช็กให้...ทุกคืนวันเสาร์คุณต้องมานอนที่นี่กับผมเป็นเวลาสามเดือนตกลงหรือเปล่า"
ภูมิไทไม่ขัดที่จะสงเคราะห์ความหน้าเงินของเปมิกาเขารีบจูงมือเธอขึ้นมาบนห้องนอนชี้ให้เธอไปจัดการตัวเองในห้องน้ำหากเธออยากจะได้เงินด่วนนักเขาก็จะรับข้อเสนอ
เปมิกายืนก้มหน้านิ่งครู่หนึ่งหลังจากอีกฝ่ายว่าข้อตกลงจบเธอไม่อยากรับปากแต่หากจะงอแงก็กลัวว่าจะไม่ได้อะไรเลยจึงจำต้องยอมตกลงรับปากแต่โดยดีโดยไม่มีข้อแม้หรือโต้แย้งใดๆ"ค่ะ.."ร่างบางวางกระเป๋าลงทั้งเดินดิ่งตรงไปจัดการตัวเองอย่างว่าง่ายยังไม่ทันที่จะถึงประตูห้องน้ำดีหญิงสาวก็ต้องหยุดชะงักหันหน้ามาหาคนที่กำลังเอ่ยปากพูดด้วย"ถ้าจะเป็นคนของผมคุณต้องเลิกกับแฟนของคุณเพราะผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร"ภูมิไทต้องบอกเปมิกาให้เธอได้รู้ว่าแม้นเธอจะมีแฟนแต่ช่วงเวลาที่เธอต้องมานอนกับเขาเธอจะต้องห้ามยุ่งกับใคร"แฟน?""อืม..""ฉัน...ไม่มีแฟนนะคะ"คิ้วได้รูปขมวดปมสงสัยว่าชายหนุ่มเอาเรื่องที่เธอนั้นมีแฟนมาจากไหน"คุณแน่ใจว่าคุณไม่ได้โกหกผม""ค่ะ..."เปมิกาพยักหน้ายืนยันก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะเข้าใจว่าเขาคงคิดเองเออเองตามประสาคนที่อยากจะหาเรื่องเธอมากกว่า"หึ่.. หน้าเงินเสียจนไม่มีความจริงใจให้ใครเลยหรือไง"ภูมิไททิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงคิดดูถูกเปมิกาที่เห็นเธออยากจะได้เงินจากเขาจนต้องโกหกหน้าตายว่าตัวเองไม่มีแฟนขณะใช้เวลาชำระร้างร่างกายอยู่ในห้องน้ำเปมิกามีน้ำตารื้นออกมาตลอดเพราะตอนนี้เธอก็แค่ผู้หญิงข
เย็นของวันนี้กับข้าวทุกอย่างล้วนเป็นฝีมือของเดือนฉายเพราะเธอเอ่ยปากจะดูแลงานบ้านกับโลมาทั้งหมดให้สองสาวได้มีเวลาทำงานของตนเองไป"โลมาดีใจที่สุดเลยค่ะที่แม่กลับมาอยู่กับโลมาแล้วแม่อยู่กับโลมาตลอดไปเลยนะคะ""จะ..แม่จะอยู่กับหนูทุกวันเลย""เย่"เปมิกาและของขวัญยิ้มจนแก้มปริเพราะโลมาน้อยดูจะร่าเริงพูดเจื้อยแจ้วมากคำเมื่อได้อยู่กับแม่หลายวันต่อมาวันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ลูคัสรีบมานัดแนะเปมิกาว่าเขาต้องการจัดเซอร์ไพรซ์ของของขวัญหมั้นแม้นเวลาที่รู้จักกันมันจะไม่นานเท่าไรแต่เขาก็มั่นใจว่าของขวัญเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันจึงอยากจะหมั้นจับจองหญิงสาวเอาไว้ก่อนหากอนาคตมีทุนทรัพย์มากกว่านี้ก็อยากจะแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวกับของขวัญอีกด้วย"เย็นนี้นะครับคุณดาว""ให้ดาวไปที่คอนโดคุณใช่หรือเปล่าคะ""ครับ""โอเคค่ะเลิกงานแล้วดาวจะรีบไปนะคะ"เป็นอีกครั้งที่เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญที่ภูมิไทได้มาเห็นลูคัสและเปมิกาหัวร่อต่อกระซิกกันในห้องทำงานผ่านหน้าห้องกระจกเขาไม่รู้ว่าเรื่องที่สองคนนั้นคุยกันมันเรื่องอะไรแต่ดูท่าทั้งสองจะคุยกันเพลินจนไม่เห็นว่าเขายืนดูทั้งสองอยู่"นี่เห
"คุณลุคไม่สบายมากหรือเปล่าคะ...เมื่อกลางวันขวัญยังเห็นคุณดีๆอยู่เลย...แล้วทำไมไม่เปิดไฟคะ"ของขวัญเห็นว่าในห้องนี้มีเพียงแสงสลัวๆเท่านั้นไม่รู้ว่าทำไมลูคัสถึงได้ปล่อยให้ห้องอยู่ในความมืดเช่นนี้"ถ้าจะบอกว่าป่วยใจอยากให้แฟนมาอยู่ใกล้ๆจะได้หรือเปล่าครับ"ลูคัสดึงคนตัวเล็กเข้ามาในห้องก่อนจะรีบปิดประตูพร้อมแกะกล่องแหวนมาสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาวโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว"เอ่อ..""ผมขอจองไว้ก่อนนะครับเก็บเงินได้มากกว่านี้เมื่อไรขอแต่งแน่"สิ้นเสียงลูคัสแสงไฟก็สว่างโล่เผยให้ของขวัญนั้นเห็นว่าที่นี่ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้และลูกโป่งหลากสีสันแถมยังมีเปมิกาและกชกรยืนชื่นชมความหวานของเธอและลูคัสอยู่ด้วย"เย่..ดีใจด้วยนะคะน้องขวัญ""ดีใจด้วยนะขวัญ""ดาวไหนบอกจะไปหาพี่แน็ต"ของขวัญบุ้ยปากเห็นทีจะถูกเพื่อนหลอกเอาได้ก็คราวนี้"ฉันมาเป็นพยานรักให้แกกับคุณลูคัสต่างหาก""พี่ก็ด้วยรักกันนานๆนะคะพี่จะรอการ์ดแต่งงานทั้งคู่นะ"หลังจากผ่านการเซอร์ไพรซ์ได้ทั้งสี่ก็นั่งร่วมโต๊ะอาหารกันพักใหญ่แล้วจึงแยกย้ายกันกลับส่วนลูคัสนั้นก็ขอตัวรั้งของขวัญเอาไว้เพราะอยากสวีทกันสองต่อสองวันต่อมาในช่วงเย็นของวันเสา
ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันสุดสัปดาห์ภูมิไทเข้ามาทำงานที่นี่ทุกวันเพราะต้องการจับตาดูพฤติกรรมของเปมิกาจนหญิงสาวจับสังเกตได้มาสองสามวันแล้วเมื่อได้จังหวะเห็นชายหนุ่มอยู่ในห้องทำงานเพียงคนเดียวด้วยคนอื่นอยู่ในสตูดิโอถ่ายภาพเสื้อผ้ากันหมดเธอจึงรีบเข้ามาคุยกับเขาให้รู้เรื่องรู้ราวว่าที่เอาแต่ตามจ้องเธอเพื่อจะจับผิดหรือต้องการอะไรกันแน่"ฉันเห็นคุณเอาแต่ตามจ้องฉันตลอดเวลาหาเรื่องแกล้งอะไรฉันอีกหรือเปล่า""ไม่มีอะไร..ผมมีตาก็ต้องมองคุณบ้างไม่เห็นจะแปลก”“ไม่มีอะไรแน่นะคะ..”เปมิกาจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของเขาสักเท่าไร“อืม..”“ฉันคงคิดมาไปเอง..”เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนยันหน้านิ่งขนาดนั้นเธอเองก็ไม่ได้อยากจะคิดอะไรมากความก่อนจะรีบเข้าไปยืนใกล้ๆคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้“วันเสาร์นี้ฉันขอไม่ไปหาคุณนะคะ.ฉันมีรอบเดือน”เปมิกาก้มลงกระซิบบอกกับภูมิไทว่าวันเสาร์นี้เธอคงไม่ไปหาเขาที่บ้านเพราะตอนนี้เธอมีรอบเดือนคงจะให้ความสุขกับเขาไม่ได้“อืม..ถึงเราจะร่วมเตียงกันไม่ได้แต่คุณก็ดูแลผมอย่างอื่นได้นี่”มือหนารวบเอวบางให้เธอมานั่งอยู่บนตักเปมิกาหน้ามุ่ยเล็กน้อยคิดว่าเขาจะอนุญาตให้เธอหยุดพักหน้า
"เอ่อ...เธอปวดท้องผมเลยให้เธอนอนพักอยู่ข้างบน"ภูมิไทไม่รู้ว่าเปมิกาได้บอกกับที่บ้านเธอเรื่องที่มาอยู่ที่นี่ในวันเสาร์หรือไม่แต่เขาก็ไม่ได้อยากโกหก"ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะ...ฉันจะมาขอร้องให้คุณหยุดใช้น้องฉันเป็นเครื่องบำเรอความสุขจะได้หรือเปล่าคะ...เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะฉันเงินทุกบาททุกสตางค์ฉันจะทำงานใช้หนี้คุณเอง""เพราะคุณ...ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจได้หรือเปล่าครับ"ดวงตาคมเริ่มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความสงสัยภูมิไทเริ่มอยากจะฟังรายละเอียดให้มันมากกว่านี้เพราะเขานั้นไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวพูดเท่าไรนัก"ฉันมันเลวเองที่ทิ้งลูกที่ป่วยให้ยัยดาวดูแลแล้วก็หนีหายไปจนยัยดาวต้องไปรับงานจากคุณอรนิชาเพื่อที่จะเอาเงินมาผ่าตัดโลมาลูกฉันให้เร็วที่สุด...จนเป็นเหตุทำให้ยัยดาวต้องไปหลอกลวงคุณแล้วเรื่องเงินสามล้านที่ยัยดาวต้องวิ่งโล่มาขายตัวให้คุณเพื่อแลกกับเงินก็เพราะฉันที่ติดหนี้พนันจนเกือบถูกขายที่ชายแดนดีที่ยัยดาวไปช่วยเอาไว้..."เดือนฉายพูดไปปาดน้ำตาไปเธอไม่อายที่จะดูแย่ในสายตาคนอื่นแต่เธออายมากกว่าที่รู้ว่าน้องตัวเองเดือดร้อนเพราะตัวเองอย่างไรแล้วไม่คิดจะยื่นมือช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นเลย"ดาว"
"ตานนท์ท่าจะอยู่ที่นี่เป็นชาวประมงเต็มตัวเลยหรือยังไง"ทางด้านทิพย์เกสรเช้านี้เธอเห็นรัชนนท์เอากุ้งหอยปูปลามาฝากเธอเหมือนเดิมทุกเช้าก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ว่าเขานั้นจะไม่คิดที่จะกลับไปทำงานทำการบ้างหรืออย่างไรเพราะหน้าที่ความรับผิดชอบก็ไม่ใช่เล็กๆรัชนนท์แม้นเป็นเพียงญาติฝั่งแม่ของภูมิไทแต่เธอก็เห็นรัชนนท์มาตั้งแต่เด็กๆเอ็นดูเขาไม่แพ้หลานแท้ๆไม่รู้ว่าเกาะนี้มีอาถรรพ์หรืออย่างไรที่คนอยู่จะต้องไม่อยากกลับ"ผมไม่ได้มีงานยุ่งอะไรนักหนานี่ครับคุณย่าอยู่หาปูหาปลาที่นี่มาฝากคุณย่าได้อีกนาน"เจ้าตัวว่าด้วยหน้าระรื่นเขายังไม่อยากกลับไปในโลกแห่งความจริงเท่าไรอยู่แบบนี้แม้นไม่ได้สุขกายแต่ก็สบายใจ"พี่นนท์"กชกรวิ่งหน้าตั้งนำหน้าทุกคนเข้ามาหาพี่ชายเธอและทิพย์เกสร"อ้าว..ยัยเกรซ""คุณย่าสวัสดีค่ะ""สวัสดีครับคุณย่า"สองสามีภรรยากชกรและธันวายกมือสวัสดีทิพย์เกสรทั้งยังเข้าไปกอดหอมกันคนละฟอดด้วยทิพย์เกสรเป็นคนในดีอบอุ่นเด็กรุ่นหลานจึงสนิทชิดเชื้อแทบทุกคนที่รู้จัก"หวัดดีลูกทำไมวันนี้แห่กันมาที่นี่ได้ล่ะ"ทิพย์เกสรเปรยสายตามองทุกคนด้วยสีหน้าสงสัยเหตุใดจึงกรูกันมาที่นี่โดยที่ไม่นัดแนะบอกกล่าวกันก่อนเธอจ
"ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะต่อไปนี้ก็อย่าโหมงานมากนักกินข้าวให้เป็นเวลาด้วย"รัชนนท์เดินมาลูบหัวทุยน้องสาวตนเบาๆเอ่ยพูดด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ดีว่าน้องสาวตัวเล็กของเขาปกติแล้วชอบโหมงานข้าวก็กินมาตรงเวลาถึงได้ตัวเล็กกระเปี๊ยกอยู่แบบนี้"ไม่ให้เกรซโหมงานพี่นนท์ก็กลับไปช่วยเกรซทำงานสิคะ"กชกรหันมาบุ้ยปากให้พี่ชายเธอหากเขาไม่อยากให้เธอโหมงานเขาก็ต้องกลับไปช่วยทำงานบ้างเพราะละจากงานแบรนด์เสื้อผ้าแล้วบางทีเธอก็ต้องวิ่งไปดูแลร้านเพชรของแม่บางวันก็ต้องเข้าไปเซ็นเอกสารแทนพี่ชายเธอที่บริษัทของเขาอีก"นั่นสิตานนท์...ถึงเวลาแล้วล่ะย่าว่าเราต้องกลับไปทำงานได้แล้ว"ทิพย์เกสรเอ่ยเสริมกชกรไม่ได้อยากไล่ให้ใครไปจากเกาะแต่เมื่อรัชนนท์มีหน้าที่เธอก็อยากจะให้กลับไปรับผิดชอบ"ขอเวลาอีกสักพักละกัน"รัชนนท์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเปรยออกมาว่าเขายังอยากอยู่ที่นี่อีกสักพักเมื่อรัชนนท์ตอบออกมาเช่นนั้นทุกคนจึงไมได้เค้นอะไรเพราะอย่างน้อยเขาก็รับปากแล้วว่าจะกลับหลังจากเสร็จสิ้นจากงานวันเกิดย่าตนแล้วภูมิไทก็ขอพาเปมิกามานอนที่บ้านกลังเล็กหลังเดิมที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันระหว่างที่ทั้งสองนอนกอดก่ายอยู่บนเตียงนุ่มกลางดึกภูมิไ
อาทิตย์ต่อมา"งานประมูลเครื่องเพชรครั้งนี้คุณไปกับผมนะครับ"ภูมิไทเข้ามาหาเปมิกาในห้องทำงานเพื่อที่จะแจ้งให้เธอได้ทราบว่างานประมูลเครื่องเพชรของน้าเขาที่กำลังจะถึงเธอต้องไปงานกับเขา"ไปอยู่แล้วค่ะเพราะฉันรับปากพี่แน็ตตี้ว่าจะเป็นนางแบบในงาน"เปมิการู้แล้วว่ามีงานนี้เพราะเธอพึ่งจะตกปากรับคำเป็นนางแบบให้แน็ตตี้ในงานเมื่อวานเองคำตอบของหญิงสาวทำเอาภูมิไทหน้าบูดหน้าบึ้งเขาต้องการควงเธอไปงานพร้อมกันไม่ใช่ให้มายืนมองเธอเป็นนางแบบในงานเสียหน่อย"อะไรกัน.. ผมต้องการควงคุณต่างหาก""ก็คุณชวนหลังพี่แน็ตตี้นี่คะแล้วฉันก็รับปากพี่แน็ตตี้เอาไว้แล้ว""งั้นคืนนี้ก็ต้องไปค้างกับผม"สองแขนแกร่งรวบกอดร่างบางเอาไว้หลวมๆไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้ของขวัญนั้นเดินหอบเอาแบบเสื้อผ้ากองดตเข้ามาในห้อง"อ.. เอ่อ.. ขอโทษทีค่ะ"หญิงสาวรีบหลบสายตาหันหลังให้ทั้งสองทันทีเธอเองก็ไม่ทันได้มองในห้องเพราะไอ้ผ้ากองโตที่ถืออยู่สองแขนบดบังวิสัยทัศน์ด้านหน้าพอสมควร"เอ่อ.. พวกคุณคุยกันตามสบายเลยนะครับ"ภูมิไทแอบรู้สึกหน้าชาเล็กน้อยจึงรีบออกไปจากห้องทำงานของสองสาวอย่างรวดเร็ว"ดาว...โทษทีที่มาขัดจังหวะ""ขัดจังหวะอะไรกันก็นี่มันห