วันเวลาล่วงเลยมาเป็นอาทิตย์วันนี้เป็นวันที่ของขวัญและเปมิกาถึงเวลาที่จะต้องเซ็นสัญญาร่วมงานกับกชกรเสียทีสามสาวนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับรองโฮมของออฟฟิศกชกรที่นี่เป็นบ้านหลังใหญ่ของภูมิไทที่ให้กชกรใช้เป็นออฟฟิศและสตูดิโอในการทำงานของแบรนด์เสื้อผ้า
“ออฟฟิศน่ารักดีนะคะ”
ของขวัญเอ่ยชมออฟฟิศของกชกรเพราะตั้งแต่เข้ามาเธอรู้สึกไม่เหมือนที่นี่เป็นที่ทำงานเท่าไรเพราะแต่ละคนที่นั่งทำงานก็ชิวกันมากเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนอย่างไงอย่างงั้น
“พี่อยากให้ที่ทำงานเป็นเหมือนบ้านไม่ต้องยึดคำว่าเจ้านายลูกน้องอยากให้เป็นแค่เราทุกคนช่วยกันสร้างองค์กรของเราให้เติบโตอย่างมีคุณภาพน่ะ..แล้วสัญญาอ่านกันครบหรือยัง”
“เรียบร้อยค่ะวันนี้เตรียมตัวมาเซ็นโดยเฉพาะค่ะ”
“ดีเลยนี่จะ..เซ็นทุกหน้าเลยนะ”
กชกรยื่นเอกสารปึกหนาพอสมควรให้กับสองสาวหลังจากที่เสร็จธุระเรื่องสัญญาแล้วกชกรก็พาสองสาวเรียนรู้ระบบการทำงานของที่นี่และมอบหมายหน้าที่ให้ทั้งสองโดยการเริ่มออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นต่อไปของแบรนด์ทันที
“สวัสดีครับทุกคน”
“คุณลูคัส”
ระหว่างที่สามสาวกำลังยืนคุยเรื่องงานกันเพลินๆนายแบบลูกครึ่งร่างสูงก็เดินดุ่มๆเข้ามาทักทายเปมิกาที่เห็นลูคัสเธอก็รีบยิ้มต้อนรับอีกฝ่ายแต่ก็แอบสงสัยว่าเขามาทำอะไรที่นี่ทั้งที่ไม่ได้มีการถ่ายงานอะไร
“อ้าวมาพอดีเลย..สองสาวนี่เป็นตากล้องประจำออฟฟิศคนใหม่ของพี่ค่ะ”
“คุณลูคัสรับงานเป็นช่างภาพด้วยเหรอคะ”
“พี่ก็พึ่งรู้ว่าลูคัสรับงานช่างภาพจากพี่แน็ตตี้นี่แหละพี่เลยทาบทามมาให้เป็นตากล้องประจำซะเลยกลัวว่าจะหาช่างกล้องแล้วเจอคนไม่ดีอีก...ลูคัสนี่น้องขวัญเพื่อนน้องดาวเป็นดีไซน์เนอร์ที่พี่ทาบทามให้มาทำงานด้วยอีกคน”
กชกรเห็นความผิดพลาดจากการจ้างตากล้องถ่ายงานแล้วเธอคิดว่าควรจะหาคนที่ไว้ใจได้ทำงานนี้ประจำจะดีกว่าจึงเป็นลูคัสที่เธอเลือกชวนเขามาทำงานด้วยตามคำแนะนำของแน็ตตี้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณขวัญ”
“เช่นกันค่ะ”
ของขวัญยิ้มทักทายชายหนุ่มลูกครึ่งตาน้ำข้าวน้อยครั้งนักที่จะได้เห็นคนหล่อเหลาเช่นนี้เธอจึงเขินจนต้องหลบสายตาอีกฝ่ายเปมิกาเห็นท่าทางของเพื่อนสาวก็รู้ได้ในทันทีว่าของขวัญกำลังรู้สึกประหม่าลูคัสเป็นผู้ชายคนแรกเลยก็ว่าได้ที่ทำให้ของขวัญรู้สึกเขินได้แบบนี้
หลังจากที่ทำความรู้จักกันเรียบร้อยแล้วทุกคนก็อยู่ประชุมงานกันพักใหญ่กว่าจะได้กลับก็เข้าช่วงบ่ายวันนี้ของขวัญต้องขับรถกลับคนเดียวไปก่อนเพื่อที่จะไปรับโลมากลับจากโรงเรียนส่วนเปมิกาก็เดินทางไปหาแน็ตตี้ที่โมเดลลิ่งพร้อมลูคัสเพราะต้องไปรับเช็กกับแน็ตตี้ด้วยกัน
“ฉันไม่ได้มานั่งร้านไอติมนานแล้วเท่าที่จำได้ครั้งล่าสุดก็น่าจะเป็นช่วงที่เรียนจบใหม่ๆ”
เปมิกาเสร็จธุระกับแน็ตตี้แล้วเธอกับลูคัสก็มานั่งกันที่ร้านไอศครีมชื่อดังของห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองหากลูคัสไม่ได้เอ่ยปากว่าอยากจะกินไอศครีมเธอคงไม่ได้มานั่งที่นี่แน่ด้วยติดนิสัยเป็นคนไม่ค่อยชอบนั่งแวะกินเที่ยวที่ไหนหลังจากต้องทำงานหาเงินอย่างหนัก
“เหรอครับผมเองก็เหมือนกันน้อยครั้งมากที่ผมจะมานั่งร้านแบบนี้เสียดายนะครับที่คุณขวัญไม่ได้มาด้วยจะได้ทำความรู้จักกันให้มากขึ้นก่อนจะทำงานร่วมกัน”
ที่ลูคัสชวนเปมิกามานั่งที่ร้านนี้ก็เพื่อสร้างสัมพันธ์ให้สนิทมากขึ้นการทำงานต่อไปจะได้ราบรื่นแอบเสียดายที่ของขวัญต้องมีธุระที่ต้องกลับไปทำก่อนไม่อย่างนั้นคงได้มาด้วยกัน
“วันหลังไปกินข้าวเย็นที่บ้านฉันสิคะจะได้ทำความรู้จักกับยัยขวัญให้มากขึ้น”
เปมิกาอมยิ้มอ่อนนึกในใจว่าลูคัสคงมีความสนใจในตัวเพื่อนของเธออยู่บ้างไม่เช่นนั้นคงไม่พูดถึงจึงถือโอกาสนี้ชวนชายหนุ่มไปหาเธอที่บ้านบ้างคิดว่าอาจจะถึงเวลาที่เพื่อนเธอจะมีความรักบ้างแล้วก็เป็นได้
“นั่นลูคัสกับปลาดาวนี่”
สองหนุ่มไฮโซธันวาและภูมิไทที่พึ่งทำธุระในชอปเสื้อผ้าแบรนด์ดังเสร็จพลันสายตาของธันวาก็ดันเหลือบไปเห็นคนรู้จักอย่างเปมิกาและลูคัสจึงกะว่าจะเข้าไปทักทายทั้งสอง
ภูมิไทเกิดอารมณ์เสียกะทันหันเมื่อเห็นเปมิกากับนายแบบหน้าหล่อนั่นเขาต้องรีบรั้งธันวาเอาไว้จนตัวโยนเมื่อเห็นเพื่อนของเขากำลังจะไปขัดขวางเวลาของลูคัสและเปมิกาคิดว่าบางทีสองคนนั้นอาจจะอยากสวีทหวานกันสองต่อสองก็เป็นได้
“เดี๋ยวแกจะไปไหนธัน”
“ก็ไปทักทายสองคนนั้นไง”
“เค้าอาจจะอยากสวีทกันแค่สองคนก็ได้อย่าไปยุ่งเลย”
“อ่อ..ลืมไปสองคนนั้นก็ดูเหมาะสมกันดีนะคนนึงเป็นนายแบบคนนึงก็นางแบบแถมต่อไปยังทำงานใกล้ชิดกันอีก”
ธันวาฟังเสียงค้านของภูมิไทเขาก็เริ่มคิดได้ว่าไม่ควรไปยุ่งกับสองคนนั้นตอนนี้
“หมายความว่าไง”
ภูมิไทเริ่มขมวดคิ้วสงสัยอยากจะรู้รายละเอียดถึงสิ่งที่ธันว่าพึ่งจะกล่าวออกมา
“เมียฉันไม่ได้บอกแกหรือไงว่าให้ลูคัสมาเป็นช่างภาพประจำของแบรนด์แก”
“เปล่านี่...ต้องคุยกับยัยเกรซหน่อยแล้วรับใครเข้าทำงานไม่ปรึกษากันบ้างเลย”
ชายหนุ่มเท้าเอวถอนหายใจพรืดใหญ่
“อย่ามาดุเมียฉันนะโว้ย...เกรซแค่เห็นแกมีงานอื่นอีกเยอะเรื่องพนักงานเกรซเลยจะจัดการเอง”
ธันวารีบแก้ตัวแทนกชกรไม่อยากให้ภูมิไทไปต่อว่าอะไรภรรยาของเขาให้คิดมาก
“แตะต้องไม่ได้เลยนะ..”
“ฉันไม่อยากให้เมียฉันเครียดกำลังจะเตรียมตัวมีเบบี๋ด้วย”
“โถ..เตรียมตัวๆ...ฉันเห็นแกเตรียมตัวมาตั้งนานแล้วถ้าน้ำยาดีป่านนี้ยัยเกรซท้องไปแล้ว”
ว่าจบก็เดินหนีเพื่อนตนดุ่มๆหมายจะออกไปลานจอดรถด้วยไม่อยากจะยืนจุดนี้นานเท่าไร
“เมียฉันมัวแต่ยุ่งกับงานต่างหากเล่าถึงไม่ค่อยมีเวลาให้กัน...ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลย”
ธันวาขมวดคิ้วขึ้นผูกโบว์เรื่องอื่นเขายอมให้เพื่อนต่อว่าได้ไม่มีปัญหาแต่เรื่องคำว่าไม่มีน้ำยาเขาค่อนข้างเคืองใจด้วยมีปมอยู่แล้วว่าแต่งงานกับภรรยามาหลายเดือนแต่กชกรก็ยังไม่ท้องเสียที
22.00 น.
ภูมิไทออกมานอนเล่นริมสระน้ำในบ้านหลังใหญ่สุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาปกติแล้วดาวบนท้องฟ้าจะเป็นที่สนใจแก่สายตาของชายหนุ่มแต่คืนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นเขายกมือถือเครื่องที่เปมิกาทำหน้าจอแตกขึ้นมาเลื่อนดูภาพในเครื่อง
นิ้วโป้งหนาเลื่อนดูภาพของเปมิกาที่ถ่ายในตอนที่นั่งดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันเขาเลื่อนภาพกลับไปกลับมาหลายหนพยายามให้ตัวเองไม่รู้สึกอะไรกับคนในภาพแต่ยิ่งมองภาพความทรงจำกลับยิ่งตอกย้ำชัดเจนจนต้องรีบวางมือถือลง
ตอนนี้เป็นเวลาร่วมเดือนหว่าแล้วที่เปมิกาและของขวัญได้ทำงานที่บรัทของกชกรพวกเธอสนุกกับการทำงานที่ออฟฟิศแห่งนี้มากตอนนี้คอลเลคชั่นหน้าหนาวที่กชกรต้องการสองสาวก็ออกแบบกันเสร็จเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปก็เป็นการขึ้นตัวอย่างและเริ่มผลิตกับโรงงานเปมิกามีความสุขกับการทำงานดีเพราะตลอดเวลาที่เธอทำงานที่นี่ก็ไม่ได้เจอหน้าของภูมิไทเลยสักครั้งเธอแอบหวังว่าอยากให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปเพราะหากเธอจะต้องมาทำงานใกล้ชิดภูมิไทคงไม่ค่อยมีสมาธิแน่ในส่วนของของขวัญกับลูคัสก็ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้นทุกวันสุดสัปดาห์ลูคัสจะไปกินข้าวเย็นกับสาวๆที่บ้านประจำแถมเขายังเข้ากันได้ดีกับโลมาอีกด้วยเปมิกาก็เป็นแม่สื่อแม่ชักดีที่หนึ่งหากเห็นลูคัสมีวันว่างวันไหนเป็นต้องนัดให้มาเจอกันเพื่อเปิดโอกาสให้ลูคัสและของขวัญได้พูดคุยสานสัมพันธ์กันให้สนิทสนมมากขึ้น"วันเสาร์นี้คุณลูคัสว่างหรือเปล่าคะ"เปมิกาเดินเข้ามาหาลูคัสขณะที่เขากำลังเข้ามาดื่มกาแฟในช่วงบ่ายครัว"ครับผมว่างทั้งเสาร์อาทิตย์เลย""ดีจังเลยค่ะฉันกับขวัญว่าจะพาโลมาไปทะเลคุณลูคัสไปด้วยกันนะคะพวกเราอยากมีรูปสวยๆที่ทะเลเก็บเอาไว้""ยินดีเลยครับ"ลูคัสไม่ปฏิเสธหญิงสาวเพราะเห
"เค้ามาที่นี่เหรอ""อืม...""ก็ช่างเค้าสิเค้าก็ไม่ได้มายุ่งกับเราซะหน่อย"เปมิกาตกใจเล็กน้อยแต่พยายามทำทีท่าไม่ใส่ใจเพราะถึงภูมิไทอยู่ที่นี่เขาก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับเธออยู่แล้วRrrrRrrrrrขณะที่สองสาวกำลังคุยกันด้วยสีหน้าค่อนข้างซีเรียสเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานก็ดังขึ้นเป็นของขวัญที่รีบเอื้อมมือยกหูรับ"ขวัญพูดค่ะ.. ค่ะ... ได้ค่ะคุณเกรซ""ดาวคุณเกรซให้ไปคุยที่ห้องยอกว่าจะคุยเรื่องโรงงานผ้า""ฉันคนเดียวเหรอ""อืม"เปมิการับเดินออกไปหากชกรในห้องทันทีหวังในมจว่าขอให้ภูมิไทไม่อยู่ในระหว่างที่เธอคุยงานแต่เมื่อมาถึงยังไม่ทันได้เปิดประตูดวงตากลมก็เห็นอยู่แล้วว่าในห้องทำงานของกชกรมีภูมิไทนั่งหัวโด่อยู่ด้วยสาวเจ้าจึงเริ่มมีความอึดอัดขึ้นมาทันที"น้องดาวมาพอดีพี่ภูมิมีเรื่องจะคุยกับเราหน่อยน่ะเดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะ""เอ่อ.. ค่ะ.."หลังจากเปิดประตูเข้าห้องทำงานของกชกรมาได้เปมิกายังไม่ทันที่จะได้กล่าวอะไรกชกรก็พูดสวนออกมาทั้งเดินสวนเธอออกจากห้องไปทิ้งให้เธออยู่กับภูมิไทในห้องนี้สองต่อสองเสียอย่างนั้น"พรุ่งนี้คุณต้องไปเชียงใหม่ไปดูโรงงานผ้ากับผม"ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนล้วงมือทั้งสองเข้ากระเป๋าเอ่ยปากถึง
รถตู้คันหรูสีดำวิ่งออกจากตัวเมืองกรุงเทพมหานครมาได้สองสามชั่วโมงแล้วแต่ดูท่ามันจะยังไม่ไปถึงไหนเพราะภูมิไทเหยียบคันเร่งอย่างกับรถที่น้ำมันจะหมดเปมิกาเองก็นั่งหน้ามุ่ยขยับไปมาพักใหญ่จนต้องตัดสินใจพูดกับคนที่กำลังขับรถเป็นเต่าคลานว่าหากเขายังเหยียบคันเร่งแค่นี้เมื่อไรจะถึงที่หมาย"ขับให้เร็วกว่านี้ได้หรือเปล่าคะแบบนี้เมื่อไรจะถึง""มาขับเองดีหรือเปล่าล่ะให้นั่งเฉยๆยังจะบ่น"ภูมิไทตอบหญิงสาวอย่างลอยหน้าลอยตาเขานึกว่าเธอจะไม่ยอมพูดกับเขาตลอดทางเสียอีกนับว่าหญิงสาวใจเย็นพอสมควรที่ทนให้เขาแกล้งมาได้ถึงสองสามชั่วโมง"จอดค่ะ""อะไร""ฉันจะขับเองคุณจะได้นั่งสบายๆไงล่ะคะคุณเจ้านายใหญ่""อืม..."ภูมิไทค่อยๆลงไปจอดที่ไหล่ทางหากเปมิกาประสงค์จะขับเขาก็ไม่ขัดร่างบางเดินลงจากรถดุ่มๆสวนกับภูมิไทเพื่อนสลับที่นั่งเปมิกาเข้ามาในรถพร้อมกับภูมิไทขณะที่ชายหนุ่มกำลังหยิบขวดน้ำขึ้นดื่มบรื๊นนน....เอี๊ยดดดสาวเจ้ามองกระจกแล้วตอนนี้ถนนโล่งเธอจึงขอเอาคืนชายหนุ่มโดยการเหยียบคันเร่งแรงๆแล้วเบรกกะทันหันทำเอาคนตัวโตถึงกับสำลักน้ำแทบหัวทิ่มคอนโซลดีที่มีเบลคาดเอาไว้อยู่แล้ว"อึก..อืม..ทำอะไรของคุณ"ตอนนี้เสื้อยืดสีขา
“ขอเป็นแฟน...จริงเหรอคะ..ดาวดีใจที่สุดเลยค่ะแบบนี้ต้องฉลองแล้ว..ค่ะ..ไว้เจอกันค่ะ”เปมิกายิ้มร่าดีใจแทนของขวัญจนเนื้อเต้นที่ได้เจอคนที่ถูกใจแถมลูคัสยังเอ่ยปากขอของขวัญเป็นแฟนก่อนอีกนับว่าทริปทะเลครั้งนี้ที่เธอคิดขึ้นแม้นจะไม่ได้ไปเที่ยวกับทุกคนแต่ก็ไม่เสียเปล่าเพราะเพื่อนเธอได้มีแฟนกับเค้าแล้วระหว่างที่เปมิกากำลังดีใจเปิดบ้านเลื่อนเข้าไปปิดนอนในห้องด้วยความอารมณ์เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีคนยืนกำมือแน่นและกำลังเดินดุ่มๆมาเคาะที่หลังห้องเธอพร้อมกับอารมณ์ที่มีแต่โทสะลูกใหญ่อยู่ในอกก๊อกๆๆ“หืม..”เปมิกามองออกไปที่บ้านเลื่อนแสงไฟรอบรั้วทำให้เธอเห็นว่าเป็นภูมิไทแม้นจะไม่ชัดเท่าไรไม่รู้ว่าเขามาเคาะห้องเธอทำไมเวลานี้ทั้งที่มันเป็นเวลาที่เธอจะต้องพักผ่อนมีหรือเธอจะลุกไปเปิดยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงเพื่อให้อีกฝ่ายคิดว่าเธอหลับไปแล้ว“ผมรู้ว่าคุณยังไม่นอนเปิดเดี๋ยวนี้”“โอ้ย...อะไรนักหนา”สิ้นเสียงภูมิไทเปกิกาก็ลุกออกจาเตียงด้วยความหงุดหงิดบ่นอู้อี้วันนี้เธอก็ขับรถจนเมื่อยมาทั้งวันแล้วไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มทำไมต้องมารบกวนการพักผ่อนของเธออีก“อะไรของคุณ..อื้ออ..”ยังไม่ทันที่จะได้ถามจบประโยคร่างบาง
"มือถือนั่นผมเป็นคนซื้อให้คุณผมมีสิทธิ์จะทำอะไรกับมันก็ได้...อย่าลืมที่ผมเตือนสิผู้ชายคนไหนรู้ว่าคุณขายตัวใครเค้าก็ไม่อยากจริงจังกับคุณหรอก"เพี๊ยะ"หมาในปากของคุณฉันนับตัวไม่ถ้วนเลยนะคะ"สิ้นเสียงชายหนุ่มเปมิกาก็ยกมือเรียวฟาดไปที่แก้มสากของคนที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวรู้สึกไม่ชอบในความเอาแต่ใจเผด็จการของภูมิไทจนถึงขั้นเกลียดก็ว่าได้"อื้อออ..."สาวเจ้าดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียงเมื่อคนตัวโตก้มมาบดจูบเธอโดยไร้ซึ่งความนุ่มนวลอีกครั้ง"ปล่อย..ฉันนะ"และแล้วเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ก็กระจายขาดวิ่นอยู่รอบเตียงด้วยฝีมือของคนตัวโตบทสวาทเร่าร้อนไร้ความนิ่มนวลเกิดขึ้นเนิ่นนานเสียจนร่างบางสลบเหมือดคาเตียงเวลาพ้นผ่านไปพักใหญ่เมื่อเปมิกาตื่นมาอีกครั้งในช่วงเย็นของวันก็ไม่เห็นคนที่หาความสุขบนตัวของเธออยู่ที่นี่แล้วดวงตากลมโตมีน้ำตาไม่ขาดสายเพราะรู้ตัวว่าตัวเองคงเป็นได้แค่ที่ระบายของเขาเท่านั้น22.00 น.หลังจากสองสาวกล่อมโลมาจนหลับไปแล้วก็มานั่งคุยกันต่อที่ห้องนั่งเล่นของขวัญนึกขึ้นได้ว่าช่วงเกือบๆเที่ยงที่เธอใช้มือถือลูคัสโทรหาเปมิกาทำไมจึงไม่ติด"ตอนบ่ายแบตเครื่องฉันหมดเลยยืมมือถือคุณลุคโทรหาแล้วเครื่อง
รถเก๋งสีขาวขับออกมาจากบ้านร่วมพักใหญ่และแล้วมิกาก็ขับรถมาถึงบ่อนการพนันที่นี่ดูอึมครึมลึกลับหากมองภายนอกคงดูไม่ออกว่าเป็นบ่อนเหมือนจะเป็นโรงเก็บของหรือโกดังอะไรมากกว่าเปมิกานั่งรวบรวมความกล้าอยู่ครู่หนึ่งบนรถจึงลงจากรถไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยเผชิญมาก่อนเปมิกาเดินเข้ามาหาผู้ชายร่างสูงใหญ่วัยกลางคนที่มีใบหน้าโหดพอสมควรที่หน้าประตูทางเข้าเธอเพียงเอ่ยแค่ว่าเป็นน้องสาวของเดือนฉายเขาก็พาเธอเดินเข้ามาด้านในโดยที่ไม่ถามอะไรทางที่เธอเดินเห็นจะเป็นส่วนหลังของบ่อนหรือทางลับเพราะไม่เห็นคนเดินสวนมาแม้แต่คนเดียวไม่นานนักก็มาถึงห้องโถงใหญ่ในห้องโถงมีแสงไฟสลัวจากหลอดไฟไม่กี่หลอดและมีผู้หญิงรูปร่างอ้วนท้วมแต่งตัวสีฉูดฉาดใบหน้ากลมแป้นแต่งหน้าเต็มนั่งรอเธอพร้อมกับเดือนฉายและชายชุดดำอีกสี่ห้าคนอยู่แล้วหากเดาไม่ผิดผู้หญิงร่างท้วมข้างๆพี่สาวเธอคงเป็นเจ๊อ้วนเจ้าของบ่อนที่โทรมาหาเธอแน่“มาแล้วเหรอดาว”เดือนฉายหญิงสาวร่างสูงเพรียวใบหน้าสวยคมละม้ายคล้ายกับเปมิกาทุกอย่างติดที่ตอนนี้เธอดูโทรมซูบผอมหน้าดำคล้ำกว่าเดิมไปมากและตอนนี้ก็กำลังนั่งมีน้ำตาไหลมาไม่ขาดสายเพราะกลัวว่าจะถูกขายหลังจากไม่มีเงินมาใช้หนี้บ่
เปมิกายืนก้มหน้านิ่งครู่หนึ่งหลังจากอีกฝ่ายว่าข้อตกลงจบเธอไม่อยากรับปากแต่หากจะงอแงก็กลัวว่าจะไม่ได้อะไรเลยจึงจำต้องยอมตกลงรับปากแต่โดยดีโดยไม่มีข้อแม้หรือโต้แย้งใดๆ"ค่ะ.."ร่างบางวางกระเป๋าลงทั้งเดินดิ่งตรงไปจัดการตัวเองอย่างว่าง่ายยังไม่ทันที่จะถึงประตูห้องน้ำดีหญิงสาวก็ต้องหยุดชะงักหันหน้ามาหาคนที่กำลังเอ่ยปากพูดด้วย"ถ้าจะเป็นคนของผมคุณต้องเลิกกับแฟนของคุณเพราะผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร"ภูมิไทต้องบอกเปมิกาให้เธอได้รู้ว่าแม้นเธอจะมีแฟนแต่ช่วงเวลาที่เธอต้องมานอนกับเขาเธอจะต้องห้ามยุ่งกับใคร"แฟน?""อืม..""ฉัน...ไม่มีแฟนนะคะ"คิ้วได้รูปขมวดปมสงสัยว่าชายหนุ่มเอาเรื่องที่เธอนั้นมีแฟนมาจากไหน"คุณแน่ใจว่าคุณไม่ได้โกหกผม""ค่ะ..."เปมิกาพยักหน้ายืนยันก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะเข้าใจว่าเขาคงคิดเองเออเองตามประสาคนที่อยากจะหาเรื่องเธอมากกว่า"หึ่.. หน้าเงินเสียจนไม่มีความจริงใจให้ใครเลยหรือไง"ภูมิไททิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงคิดดูถูกเปมิกาที่เห็นเธออยากจะได้เงินจากเขาจนต้องโกหกหน้าตายว่าตัวเองไม่มีแฟนขณะใช้เวลาชำระร้างร่างกายอยู่ในห้องน้ำเปมิกามีน้ำตารื้นออกมาตลอดเพราะตอนนี้เธอก็แค่ผู้หญิงข
เย็นของวันนี้กับข้าวทุกอย่างล้วนเป็นฝีมือของเดือนฉายเพราะเธอเอ่ยปากจะดูแลงานบ้านกับโลมาทั้งหมดให้สองสาวได้มีเวลาทำงานของตนเองไป"โลมาดีใจที่สุดเลยค่ะที่แม่กลับมาอยู่กับโลมาแล้วแม่อยู่กับโลมาตลอดไปเลยนะคะ""จะ..แม่จะอยู่กับหนูทุกวันเลย""เย่"เปมิกาและของขวัญยิ้มจนแก้มปริเพราะโลมาน้อยดูจะร่าเริงพูดเจื้อยแจ้วมากคำเมื่อได้อยู่กับแม่หลายวันต่อมาวันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ลูคัสรีบมานัดแนะเปมิกาว่าเขาต้องการจัดเซอร์ไพรซ์ของของขวัญหมั้นแม้นเวลาที่รู้จักกันมันจะไม่นานเท่าไรแต่เขาก็มั่นใจว่าของขวัญเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันจึงอยากจะหมั้นจับจองหญิงสาวเอาไว้ก่อนหากอนาคตมีทุนทรัพย์มากกว่านี้ก็อยากจะแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวกับของขวัญอีกด้วย"เย็นนี้นะครับคุณดาว""ให้ดาวไปที่คอนโดคุณใช่หรือเปล่าคะ""ครับ""โอเคค่ะเลิกงานแล้วดาวจะรีบไปนะคะ"เป็นอีกครั้งที่เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญที่ภูมิไทได้มาเห็นลูคัสและเปมิกาหัวร่อต่อกระซิกกันในห้องทำงานผ่านหน้าห้องกระจกเขาไม่รู้ว่าเรื่องที่สองคนนั้นคุยกันมันเรื่องอะไรแต่ดูท่าทั้งสองจะคุยกันเพลินจนไม่เห็นว่าเขายืนดูทั้งสองอยู่"นี่เห