วัดxx
มาลีและทองม้วนพาเกวรินทร์มาวัดที่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไรนักเมื่อมาถึงก็รีบพึ่งไปที่กุฏิหลวงตาแม้นหลวงตาที่มีเมตตาสูงและช่วยเหลือคนมามาก
หลังจากที่พนาตามหลวงตาออกมาจากกุฏิให้ออกมาดูลูกสาวตนได้หลวงตาก็นั่งมองเกวรินทร์อยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมาเสียงอ่อนตัวท่านเองไม่สามารถแก้ไขอะไรให้ได้เพราะตัวเกวรินทร์เป็นคนผูกยังไงก็ต้องเป็นคนแก้ตอนนี้ตัวท่านทำได้แค่แนะแนวทางเท่านั้น
"อืม..รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับท่านเดี๋ยวก็หาย"
เกวรินทร์นั่งน้ำตาไหลเพราะที่เธอเป็นแบบนี้คงเป็นเพราะคำที่เธอบนบานเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน
"หมายความว่ายังไงคะ"
มาลีมองลูกสาวตนอย่างไม่ค่อยเข้าใจก่อนจะเงยหน้าถามหลวงตาด้วยน้ำเสียงร้อนใจ
"ลูกโยมไปบนบานไว้ผลสำเร็จขึ้นแล้วแต่ยังไม่ได้แก้บน"
"ฉันว่าแล้วเชียว...เราไปบนอะไรไว้ล่ะอีหนู"
สิ้นเสียงหลวงตาแม้นทองม้วนก็ตบเข่าฉาดเพราะเธอนั้นคิดไม่ผิดว่าสิ่งที่หลานเธอเป็นก็เป็นเพราะเรื่องเล้นลับหลังจากนี้ก็แค่ให้หลานสาวเธอแก้บนเสียก็จบเรื่อง
"แล้วเราบนอะไรไว้จะได้แก้"
มาลีเอ่ยถามลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ
"เขียนให้แม่กับย่าเรารับรู้นะโยม"
หลวงตาแม้นยื่นปากกากับกระดาษวางให้เกวรินทร์ได้หยิบ เกวรินทร์นั่งหน้าซีดเรื่องที่เธอต้องแก้บนหากทุกคนรู้คงช็อกกันแน่นอน
"เขียนสิลูกแม่จะได้รู้..จะได้ช่วยกันจัดการ"
มาลีรีบเค้นคนเป็นลูกสาวที่ยังนั่งนิ่งให้เขียนคำที่เคยบนบานขึ้นมาโดยเร็ว
เหตุการณ์ครั้งนั้น
วัดxxx
วันนี้สองสาวเข้ามาในวัดแห่งหนึ่งซึ่งมีรูปปั้นที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักคือรูปปั้นกามเทพเชื่อกันว่าหากใครอยากมีคู่หรือตามให้คนที่เรารักกลับมามาขอที่นี่สำเร็จทุกราย
วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนจะปิดเทอมสองสาวจึงมาที่วัดเพื่อบนบานเพราะยังมีความเชื่อว่าเพื่อนตัวเองจะกลับมา
"หวังว่าเอยจะกลับมาโดยเร็ววันนะเจ้าคะ"
สองสาวยกมือสาธุท่วมหัวหลังจากบนบานเสร็จแต่ก็ยังไม่มีใครปริปากบอกกันว่าจะแก้ด้วยอะไร
และสิ่งที่เกวรินทร์ได้บนไว้ก็คือหลังจากที่เธอเจอเพื่อนรักเธอแล้ววันรุ่งขึ้นต่อมาหากเธอเจอผู้ชายคนไหนคนแรกเธอจะแต่งงานและมีลูกกับเขา
ปัจจุบัน
19.00 น.
เมื่อกลับมาบ้านได้ตอนนี้ทุกคนก็นั่งหน้าเคร่งเครียดเพราะคำบนบานของเกวรินทร์เป็นสิ่งที่เกี่ยวกับชีวิตทั้งชีวิตของหญิงสาว
เมื่อเจอเจ้าเอยแล้วเช้าวันต่อมาหากเจอผู้ชายคนไหนเป็นคนแรกจะแต่งงานกับเค้า
พนาชายร่างสูงท้วมพ่อของเกวรินทร์อ่านจบก็กุมขมับหนึบ
"ทำไมเราบนอะไรพิลึกพิเลนอย่างนี้ล่ะเจ้าเกว"
"พิเลนเหมือนพ่อนั่นแหละ"
มาลีเห็นทีนิสัยพิลึกพิเลนของลูกสาวเธอเห็นจะมาจากสามีเธอทั้งนั้น
"อ้าว...เรื่องไม่ดีรีบยกให้พ่อเลยนะ"
"เฮ้อ...เราสองคนจะเถียงกันทำไมเตรียมงานแต่งให้อีหนูมันดีกว่า...แล้วก็เรียกผู้ชายคนนั้นมาแต่งๆจะได้จบๆไป"
ทองม้วนแม้นจะหวงหลานสาวเธอก็จริงแต่ก็เชื่อในสิ่งลี้ลับยังไงก็ต้องยอมให้หลานสาวของเธอแต่งงานกับคนที่เธอเองก็ยังไม่รู้จักและเชื่อว่ามาลีกับพนาก็ต้องยอมเช่นกันเพราะไม่อยากให้ลูกสาวตนเป็นอะไรไปถึงแก่ชีวิต
เกวรินทร์ยังคงนั่งหน้าเศร้าไม่หายนี่แค่เธอเขียนบอกทุกคนว่าจะต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ใช่แฟนหากเขียนด้วยว่าเธอจะต้องมีลูกไม่รู้ว่าทุกคนจะช็อกขนาดไหนตอนนี้เธอคิดว่าคงยังไม่บอกเรื่องนี้กับใครรอให้ปัญหาแรกคือการจะต้องแต่งงานผ่านไปก่อนจะดีกว่า
"เอ่อ..แล้ว..ผู้ชายคนนั้นเป็นใครล่ะอีหนู"
ทองม้วนหันมาถามหลานสาวเธอให้หายสงสัยเพราะรู้อยู่แล้วว่าหลานเธอต้องรู้อยู่แก่ใจ
"เจ้านายที่หนูจะไปทำงานด้วยจ่ะย่า"
มือน้อยค่อยๆเขียนลงกระดาษบอกทุกคนสีหน้าของเธอห่อเหี่ยวหมดอาลัยตายอยากอย่างเห็นได้ชัด
"เฮ้อ...นี่ถ้าเราไม่เป็นแบบนี้พ่อไม่ยอมจริงๆด้วย"
พนานั่งส่ายหัวอย่างอึดอัดหัวใจหากลูกสาวเขาไม่เป็นหนักขนาดจนพูดไม่ได้เขาไม่ยอมให้เกวรินทร์แต่งงานกับใครโดยที่เขาไม่รู้จักมาก่อนแน่
"แล้วนี่จะคุยกับเค้ายังไงล่ะเค้าพูดไทยได้ใช่หรือเปล่า""ได้จ่ะพ่อ""..เอาเบอเจ้านายเรามาเดี๋ยวพ่อโทรคุยเอง"พนารู้ว่าเจ้านายลูกสาวตนที่เป็นต่างชาติพูดไทยได้จึงอยากจะเจรจากับอีกฝ่ายเอง"แล้วเค้ามีลูกมีเมียหรือเปล่า..."มาลีลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทมัวแต่อยากให้ลูกตัวเองหายไวๆเพราะถ้าหากผู้ชายคนนั้นมีลูกมีเมียแล้วคงเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจน่าดู"ไม่มีจ่ะแม่...เดี๋ยวหนูติดต่อบอกเรื่องนี้กับเค้าเองจ่ะพ่อ"เกวรินทร์รีบส่ายหัวก่อนจะรีบเขียนบอกพ่อกับแม่ตนว่าเธอจะติดต่อกับเจ้านายเธอเอง"งั้นก็ให้มันเร็วๆล่ะปล่อยไปแบบนี้จะไม่ดีกับตัวเรา"พนาเห็นว่าลูกสาวตนจะจัดการเองก็ไม่ขัดอะไรเพียงแค่อยากให้อีกฝ่ายรับรู้โดยไวเพราะหากปล่อยเวลาผ่านไปไม่รู้ว่าลูกเขาจะเจออะไรบ้าง 20.30น.ค่ำคืนนี้ในบ้านสวนเงียบเชียบไม่มีเสียงผู้คนเสียงหรีดหริ่งเรไรที่เคยร้องอยู่ทุกคืนก็เงียบสนิทจนผิดปกติจนเกวลินที่นอนอยู่ในห้องถึงกับรู้สึกวังเวงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแต่เธอก็พยายามสลัดความรู้สึกผิดปกติออกจากหัวสมองและทำการพยายามนั่งแหกปากเปล่งเสียงให้ออกมาให้ได้นานสองนานที่เธอนั่งพยายามอยู่แบบนั้นแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลสำเร็จเล
“อีกประมาณสองกิโลครับนาย”ลูคัสมือขวาคนสนิทวัยสามสิบกว่าๆนั่งอยู่ข้างๆโอดินมือซ้ายของนิโคลัสที่กำลังขับรถเขาหันกลับมาบอกคนเป็นนายพร้อมชูมือถือที่กำลังเปิดจีพีเอส“อืม..”นิโคลัสตอบกลับพร้อมพยักหน้าเบาๆด้วยน้ำเสียงทุ้มในลำคอก่อนจะเปรยสายตาหันมองข้างทางที่ส่วนมากจะมีแต่ป่าแต่สวนเป็นส่วนใหญ่ยิ่งเข้าลึกมามากเท่าไรถนนหนทางก็ค่อนข้างลำบากมากขึ้นเท่านั้นเขาเดาออกว่าถนนหนทางแถวนี้น่าจะใช้เดินทางเข้าไร่เข้าสวนเสียมากจึงไม่ค่อยเจริญเท่าไรนัก นิโคลัสหนุ่มใหญ่วัยเกือบห้าสิบเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกาครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเลียมแต่เขาให้คนเป็นพี่บริหารธุรกิจนี้เพียงคนเดียวแต่ก็มีปรึกษางานกันกับคนเป็นพี่ที่บริษัทบ่อยๆส่วนธุรกิจของตัวเขาเองก็คือการทำอสังหาโรงแรมบ้านพักต่างๆนิโคลัสเป็นหนุ่มใหญ่ที่ตอนนี้ยังครองตัวโสดเพราะภรรยาคนที่สองเสียไปด้วยโรคร้ายเมื่อประมาณห้าปีก่อนเขาไม่คิดจะมีใครเพิ่มเพราะไม่อยากจะเสียใจกับการสูญเสียคนรักไปอีกเนื่องจากภรรยาทั้งคนแรกและคนที่สองที่เขาแต่งงานด้วยอยู่กันได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นเธอก็ต้องเป็นโรคร้ายและจากเขาไปในที่สุดแม้นอายุจะเกือบเลขห้าแต่เขาค่อนข้างดูหนุ่
เกวรินทร์พยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ“เอ่อ...เราคุยกับเค้าแล้วเหรออีหนูเค้าถึงได้มาที่นี่”ทองม้วนเอ่ยถามหลานสาวเธอด้วยความใจชื้น“เปล่าจ่ะย่า...เค้ามาเอง”“อ้าวเรอะ...แต่ก็ดีแล้ว..มาได้จังหวะเหมาะเจาะพอดีเลย”เมื่อได้เพ่งสายตาอ่านตัวหนังสือที่หลานสาวเขียนก็ใจแป้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เป็นผลอะไรหากยังไม่รู้วันนี้ชายหนุ่มมาถึงที่นี่แล้วเดี๋ยวก็ได้รู้เอง“สวัสดีทุกคนครับ”นิโคลัสเดินตามพนามายืนต่อหน้าทุกคนดวงตาคมของเขาเหลือบมองไปที่หญิงสาวร่างบางที่นั่งอยู่ข้างคนเป็นแม่ด้วยสายตาคาดโทษก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงหน้าลูคัสกับโอดินเองก็ยกมือไหว้ตามเจ้านายตนไปด้วยมาบ้านเมืองของคนอื่นเขาก็ต้องทำตามประเพณีของบ้านเมืองคนอื่นเช่นกัน“นี่มาลีภรรยาผมแม่เจ้าเกวส่วนนี่ก็แม่ผมชื่อทองม้วน...คุณนิโคลัสเค้าจะมารับเจ้าเกวไปทำงาน”พนารีบแนะนำตัวทั้งเมียและแม่ให้นิโคลัสได้รู้จักก่อนจะบอกจุดประสงค์ของนิโคลัสให้ทุกคนได้รับรู้“ก่อนจะไปช่วยอะไรหลานฉันอย่างได้หรือเปล่า”มาลีและทองม้วนรับไหว้ชายทั้งสามและเป็นทองม้วนเองที่เอ่ยปากออกมาถึงเรื่องที่กำลังร้อนรุ่มในใจอยู่ตอนนี้เธออยากจะเจรจาเสียให้มันจบๆหล
"พรุ่งนี้ครับ...พวกผมต้องขอตัวกลับโรงแรมก่อน"นิโคลัสพอจะโล่งใจได้บ้างที่ทองม้วนดูจะถอดใจแล้วตอนนี้เขาก็เห็นว่ามันเย็นมากแล้วจึงถือโอกาสนี้ขอตัวกลับไปที่โรงแรมเสียก่อนที่ฟ้าจะมืด"ถ้าไม่รังเกียจก็นอนเสียที่นี่เถอะนะ..."พนากับมาลีถึงกับมองหน้ากันเพราะรู้ได้แน่ชัดว่าแม่ตนต้องมีแผนการอะไรแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่ชวนคนแปลกหน้าที่พึ่งเจอนอนที่บ้านนิโคลัสเองก็ชะงักไปครู่หนึ่งอันที่จริงเขาไม่ได้อยากรบกวนอะไรคนที่บ้านนี้แต่คำว่าถ้าไม่รังเกียจของผู้อาวุโสทำให้เขาต้องจำใจทำตามคำขอ"เอ่อ..ก็ได้ครับ"ครู่ต่อมาหลังจากนิโคลัสตกลงที่จะพักที่นี่ทองม้วนและพนาจึงเข้าครัวเพื่อทำอาหารเพิ่มให้กับสามหนุ่ม"แม่จะทำอะไรกันแน่"พนาที่กำลังลงมือผัดข้าวผัดเมนูที่คิดว่าต่างชาติน่าจะทานได้ถูกปากเขาหันมาถามคนเป็นแม่ที่กำลังบดามุนไพรอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้มอ่อน"เอ็งรู้เหรอไอ้ฑิต"ทองม้วนหันมามองหน้าลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเช่นกันทั้งยังเอ่ยเสียงเบาทำท่าลับลมคมใน"ฉันลูกแม่นี่นา""รู้ก็ดีแล้วเอ็งเอาไอ้นี่ไปใส่ในน้ำสามคนนั้นนะ"ว่าจบก็วางสมุนไพรลงบนผ้าขาวบางแล้วบีบผสมน้ำนิดหน่อย"อะไรเหรอแม่"พนาทำสีหน้าแปลกใจเพราะเขาเอ
"นั่นสิจ้ะ...เมื่อไรหนูจะหายจากอาการบ้าๆนี่ซะที"เกวรินทร์เองก็หน้ามุ่ยห่อเหี่ยวหัวใจที่ตนพูดไม่ได้เสียที"อีหนู...เราพูดได้แล้วนี่นา"สิ้นเสียงเกวรินทร์ทุกคนต่างก็เบิกตาโพรงดีใจกันยกใหญ่ทั้งเจ้าตัวเองก็ตกใจและดีใจในคราวเดียวกัน"ได้ผลจริงๆด้วย.."มาลีเข้าไปสวมกอดลูกสาวเธอสีหน้าระรื่น"เย่ๆ..."เกวรินทร์ตื่นเต้นกระโดดไปมาที่เธอกลับมาพูดมีเสียงเสียทีนับว่าคำขอของเธอที่ขอแก้บนข้อเดียวก่อนมันได้ผลเช้าวันต่อมา"พวกคุณทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง" เป็นอย่างที่เกวรินทร์คิดเมื่อนิโคลัสตื่นขึ้นมาได้ก็ฏโมโหเอาการที่ถูกมัดมือชกเรื่องเมื่อคืนตอนนี้ทุกคนก็เอาแต่เงียบเพราะไม่มีอะไรจะแก้ตัวคำที่ดีที่สุดก็คือคำว่าขอโทษ"ทุกคนทำก็เพื่อช่วยฉันคุณอย่าโกรธเลยนะคะ...เห็นไหมพอฉันแต่งกับคุณฉันก็พูดได้เลย"เกวรินทร์พยายามทำให้นิโคลัสอารมณ์เย็นลงและบอกให้เขาเชื่อว่าสิ่งที่พวกเธอคิดมันไม่ผิดเรื่องลี้ลับมีจริและที่เธอหายเป็นปกติกลับมามีเสียงได้ก็เพราะเมื่อคืนแต่งงานกับเขา"เรื่องนี้จะไม่มีใครรู้ฉันสัญญา""เฮ้อ.."ชายหนุ่มร่างสูงยืนเท้าเอวปวดหัวหนึบไม่คิดเลยว่าจะมาเสียทีคนที่นี่ได้เขารู้ได้เลยว่านิสัยพิเลนๆของเกวริ
แกร๊กกก.. เมื่อเปิดประตูได้สาวเจ้าก็เงยหน้ามองชายร่างสูงด้วยสีหน้าสงสัย"คุณ...มีธุระอะไรคะ?""ฉันแค่จะมาบอกว่าหวังว่าเธอคงจะไม่ก่อเรื่องอะไรให้ฉันต้องมามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอีกนะเกวรินทร์"นิโคลัสเดินผ่านร่างบางเข้ามาในห้องของเธอก่อนจะทิ้งตัวนั่งไขว่ห้างลงบนโซฟาก่อนจะยื่นคำขาดกับหญิงสาวที่เดินตามมานั่งตรงข้ามกับเขา"เอ่อ...อืม..ค่ะ..น่าจะไม่มีแล้วมั้งคะ"เกวรินทร์เม้มปากกลอกตาไปมาเล็กน้อยก่อนจะรับปากด้วยสีหน้าระรื่นตอนนี้เธอยังไม่มีอะไรให้เขาต้องช่วยจึงยังไม่เอ่ยความจริงอีกข้อ"เตรียมตัวให้พร้อมฉันจะเดินทางในอีกสองวันระหว่างนี้เธอก็ต้องอยู่ที่นี่เพราะฉันขี้เกียจจะตามหาเธออีก""ค่ะ..ฉันจะเชื่อฟังคำสั่งคุณทุกอย่างเลยค่ะคุณเจ้านาย..."หญิงสาวเอ่ยเสียงแหลมด้วยสีหน้าระรื่นเช่นเดิม"อย่าลืมปรับบุคลิกใหม่ด้วยล่ะ...เป็นเลขาฉันต้องน่าเชื่อถือเข้าใจหรือเปล่า"นิโคลัสรู้ว่าเกวรินทร์ยังมีบุคลิกท่าทีคำพูดที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่มากนักเขาจึงต้องสั่งให้เธอปรับตรงนี้เพราะคนที่จะเป็นเลขาติดตามเขาตลอดต้องดูดีและน่าเชื่อถือ"ให้ฉันเป็นเลขาคุณเลยเหรอคะ"สาวเจ้าชะงักงันเบิกตาโพรงคราแรกคิดว่าเขาจะให้เธอทำงานใ
"ฉันขออยู่ตรงนี้ก็ได้คุณไปนอนเถอะอย่าปิดประตูล่ะเปิดประตูเอาไว้ให้ฉันตื่นมาเห็นคุณตลอด...ฉันกลัวเห็นใจฉันเถอะนะคะ"สาวเจ้ามองหน้าเจ้าของห้องด้วยสายตาอ้อนวอน"เกวรินทร์!"นิโคลัสเสียงแข็งใส่หญิงสาวอีกรอบ"นะคะ..ฉันไหว้ล่ะ"เธอยกมือไหว้คนตรงหน้าที่กำลังทำหน้าดุประหงกๆดูซิว่าเขาจะใจดำกับเธออีกได้หรือเปล่า"เฮ้อ...อย่ากวนฉันอีกละกัน"นิโคลัสเงยหน้ากรอกสายตามองบนก่อนจะเดินเข้าห้องนอนตัวเองไปเขาแง้มประตูเอาไว้ตามที่หญิงสาวบอกและกำชับกับเธออีกครั้งว่าห้ามกวนเขาอีกหากจะนอนที่นี่"ค่ะ..ขอบคุณนะคะ"สาวเจ้ายิ้มร่าและแล้วลูกอ้อนของเธอก็ทำให้เขาใจอ่อนจนได้ชั่วโมงต่อมา"หึ่.."นิโคลัสเดินถือผ้านวมอีกผืนออกมาจากห้องนอนเขาสบถในลำคอเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างบางนอนขดตัวอยู่บนโซฟาเขาคิดไม่ผิดว่าเธอคงต้องนอนหนาวเป็นแน่เพราะเขาเปิดแอร์ต่ำกว่า20องศาคนไทยอย่างเธอคงรู้สึกไม่โอเคเท่าไรแต่สำหรับเขาอากาศกำลังสบายนิโคลัสค่อยๆห่มผ้าให้เกวรินทร์ก่อนจะยืนเท้าเอวมองหน้าหญิงสาวที่หลับตาพริ้มครู่หนึ่งพรางคิดในใจว่าวันข้างหน้าเธอจะมีเรื่องอะไรให้เขาปวดหัวอีกหรือเปล่าก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปพักผ่อนเช้าวันต่อมา "อืม...ก็ใจ
"เอกสารฝากให้บอสด้วย"ระหว่างที่สองสาวนั่งคุยหัวร่อต่อกระซิกกันอยู่เอเลน่าเซลสาวสวยเซ็กซี่ประจำออฟฟิศก็เดินเอาเอกสารมากองตรงหน้าของเกวรินทร์บนโต๊ะของนุดีด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรเกวรินทร์พอจะมองออกว่าเอเลน่าไม่ชอบหน้าเธอตั้งแต่แรกพบแต่เธอก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรดีที่เธอและเอเลน่าไม่ได้ติดต่องานอะไรกันมากนักจึงไม่น่าอึดอัดเท่าไร"เอกสารอะไรเหรอคะ?"หญิงสาวแม้นจะรู้ว่าเอเลน่าไม่ชอบแต่ก็ยังคุยกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่เปื้อนด้วยรอยยิ้มทุกครั้ง"อ่านเอาสิฉันว่าเธอน่าจะมีสมองนะ"ว่าจบเอเลน่าสาวสวยในชุดเดรสรัดรูปสีดำสั้นจนแทบจะเห็นแก้มก้นก็เดินบิดสะโพกออกไป"หืม..."เกวรินทร์มองหน้ากับนุดีด้วยสีหน้าเอือมระอา"อย่าไปใส่ใจเลยเอเลน่านางก็เป็นแบบนี้หวงของทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเอง""ของ?..ของอะไรคะ""เอเลน่าเธอชอบบอสทุกคนที่นี่รู้ดีมีบอสน่าจะไม่รู้...ผู้หญิงคนไหนที่ได้ใกล้ชิดกับบอสจะถูกเธอเขม่นใส่ทุกคน"คราแรกนุดีก็ว่าจะไม่พูดแต่เห็นทีคงต้องพูดให้เกวรินทร์รู้ตัวเสียหน่อยไม่อย่างนั้นก็จะสงสัยแบบนี้ต่อไปว่าทำไมเอเลน่าถึงมีทีท่าไม่ค่อยชอบเกวรินทร์แบบนั้น"อ่อ...อย่างนี้นี่เองเกวจะพยายามไม่สนใจเธอละกันนะคะ"เ