เกวรินทร์พยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ
“เอ่อ...เราคุยกับเค้าแล้วเหรออีหนูเค้าถึงได้มาที่นี่”
ทองม้วนเอ่ยถามหลานสาวเธอด้วยความใจชื้น
“เปล่าจ่ะย่า...เค้ามาเอง”
“อ้าวเรอะ...แต่ก็ดีแล้ว..มาได้จังหวะเหมาะเจาะพอดีเลย”
เมื่อได้เพ่งสายตาอ่านตัวหนังสือที่หลานสาวเขียนก็ใจแป้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เป็นผลอะไรหากยังไม่รู้วันนี้ชายหนุ่มมาถึงที่นี่แล้วเดี๋ยวก็ได้รู้เอง
“สวัสดีทุกคนครับ”
นิโคลัสเดินตามพนามายืนต่อหน้าทุกคนดวงตาคมของเขาเหลือบมองไปที่หญิงสาวร่างบางที่นั่งอยู่ข้างคนเป็นแม่ด้วยสายตาคาดโทษก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงหน้าลูคัสกับโอดินเองก็ยกมือไหว้ตามเจ้านายตนไปด้วยมาบ้านเมืองของคนอื่นเขาก็ต้องทำตามประเพณีของบ้านเมืองคนอื่นเช่นกัน
“นี่มาลีภรรยาผมแม่เจ้าเกวส่วนนี่ก็แม่ผมชื่อทองม้วน...คุณนิโคลัสเค้าจะมารับเจ้าเกวไปทำงาน”
พนารีบแนะนำตัวทั้งเมียและแม่ให้นิโคลัสได้รู้จักก่อนจะบอกจุดประสงค์ของนิโคลัสให้ทุกคนได้รับรู้
“ก่อนจะไปช่วยอะไรหลานฉันอย่างได้หรือเปล่า”
มาลีและทองม้วนรับไหว้ชายทั้งสามและเป็นทองม้วนเองที่เอ่ยปากออกมาถึงเรื่องที่กำลังร้อนรุ่มในใจอยู่ตอนนี้เธออยากจะเจรจาเสียให้มันจบๆหลานเธอจะได้พ้นจากเรื่องร้ายๆเสียที
“อะไรเหรอครับ”
นิโคลัสมีสีหน้าแปลกใจพอสมควรที่เห็นหญิงชราตรงหน้าเอ่ยปากกับเขาเรื่องขอความช่วยเหลือ
ครู่ต่อมา
"ผมคงช่วยพวกคุณไม่ได้หรอกครับ"
ชายต่างชาติทั้งสามที่ได้ยินคำขอของทองม้วนต่างก็ตกใจกันตามๆกันดูคนที่จะตกใจที่สุดเห็นจะเป็นนิโคลัสเพราะเขาคิดว่ายังไงก็คงจะทำตามคำร้องขอของทองม้วนและทุกคนไม่ได้
เกวรินทร์ตอนนี้ก็หน้าเสียอยู่ไม่น้อยเธอรู้ว่ายังไงเธอก็ต้องได้รับคำตอบที่น่าผิดหวังแต่ยังไงเธอก็คิดว่าครั้งนี้ยังไงเธอก็จะต้องทำให้ตัวเองได้เข้าพิธีแต่งงานให้ได้เพราะไม่อยากเจออะไรร้ายๆอีกแล้ว
"คุณต้องช่วยลูกฉันนะคะไม่อย่างนั้นลูกฉันก็จะพูดไม่ได้อยู่แบบนี้"
มาลีอ้อนวอนนิโคลัสอีกครั้งหวังว่าเขาจะเห็นใจแม้นคำขอของเธอจะดูเห็นแก่ตัวก็เถอะ
"ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องแปลก...แต่หลานฉันออกจะสาวจะสวยทำไมไม่อยากได้เป็นเมียกันล่ะ"
ทองม้วนเอ่ยเสริมมาลีอีกแรง
"เธอไม่มีเสียงทำไมไม่ลองพาไปหาหมอครับเชื่อเรื่องพวกนี้จนงมงายเกินไปหรือเปล่าครับ"
นิโคลัสแทบกุมขมับไม่คิดว่ายังจะมีคนเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้อยู่อีก
"ก็ฉันพาเจ้าเกวไปหาพระมาแล้วท่านบอกว่าเป็นเพราะยังไม่ได้แก้บน...”
ทองม้วนเริ่มเท้าเอวขึ้นเสียงเล็กน้อยเพราะดูท่านิโคลัสจะไม่เชื่อเรื่องที่พวกเธอนั้นเชื่อ
“ผมขอคุยกับเกวเป็นการส่วนตัวสักเดี๋ยวนะครับ”
ชายหนุ่มรีบดึงมือเกวรินทร์ออกจากตรงนี้ไปคุยกันตามลำพังเพราะดูท่าแล้วทั้งพ่อแม่และย่าของเกวรินทร์ก็จะคะยั้นคะยอให้เขาแต่งกับเกวรินทร์ให้ได้
“ช่วยฉันหน่อยนะคะ”
เมื่อเดินตามนิโคลัสมาข้างบ้านได้หญิงสาวก็รีบเขียนขอความช่วยเหลือตัวใหญ่ๆให้นิโคลัสได้อ่าน
"เธอจะบ้าหรือไงใครจะแต่งงานกับเธอ"
ชายหนุ่มยืนจ้องหน้าหญิงสาวตาแข็งเขาเอ่ยเสียงดุใส่หญิงสาวเพราะแทนที่เธอจะไปหาหมอรักษากลับมาเชื่อเรื่องไม่เป็นเรื่อง
"แต่งๆไปก่อนนะคะ...ฉันจะได้หายจากไอ้อาการบ้าๆนี้ซะที"
สาวเจ้าเขียนข้อความใส่สมุดยังไงเธอก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
"ไม่"
เสียงทุ้มแข็งกระด้างตอกใส่หน้าเธอกลับทันควันจนทำให้เกวรินทร์เริ่มน้ำตารื้นเพราะเธออยากจะหายจากไอ้อาการแบบนี้เต็มทนรู้สึกอึดอัดเหลือเกินที่สื่อสารอะไรแต่ละทีก็ช่างลำบากไม่ทันใจเสียเหลือเกิน
"หยุด..อย่าบีบน้ำตาถ้าไม่อยากให้ฉันบอกเรื่องนั้นกับพ่อแม่เธอ...พรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับกรุงเทพพร้อมกันและหลังจากนั้นก็จะกลับอเมริกาให้เร็วที่สุดส่วนเรื่องอาการที่เธอเป็นอยู่ฉันจะหาหมอรักษาให้เอง"
นิโคลัสยกมือชี้หน้าเกวรินทร์ให้เธอหยุดการร้องให้เพราะมันไม่ได้ช่วยให้เขาใจอ่อนง่ายๆและยังขู่ว่าจะขุดประเด็นเก่าขึ้นมาหากหญิงสาวไม่ยอมหยุดตื๊อเขาเรื่องนี้ในส่วนอาการที่หญิงสาวเป็นอยู่ตอนนี้เขาคิดว่าหากเธอได้พบหมอเก่งๆยังไงก็ต้องหายเธอจะได้เลิกเชื่อว่าเกิดจากสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นเสียที
ครู่ต่อมา
"ไม่ยอมก็ไม่เป็นอะไร...แล้วนี่จะกลับกันเมื่อไรล่ะ"
หลังจากที่นิโคลัสยังคงยืนยันคำตอบเดิมทุกคนก็เอาแต่เงียบและมองหน้ากันอย่างหมดหวังทองม้วนโพร่งออกมาทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงและสีหน้าถอดใจจนพนามาลีและเกวรินทร์ต่างมองทองม้วนเป็นตาเดียวเพราะปกติแล้วทุกคนในบ้านจะรู้ดีว่าทองม้วนนั้นเป็นคนที่ไม่ถอดใจกับอะไรง่ายๆแต่ครั้งนี้ดูจะแปลกกว่าทุกครั้ง
"พรุ่งนี้ครับ...พวกผมต้องขอตัวกลับโรงแรมก่อน"นิโคลัสพอจะโล่งใจได้บ้างที่ทองม้วนดูจะถอดใจแล้วตอนนี้เขาก็เห็นว่ามันเย็นมากแล้วจึงถือโอกาสนี้ขอตัวกลับไปที่โรงแรมเสียก่อนที่ฟ้าจะมืด"ถ้าไม่รังเกียจก็นอนเสียที่นี่เถอะนะ..."พนากับมาลีถึงกับมองหน้ากันเพราะรู้ได้แน่ชัดว่าแม่ตนต้องมีแผนการอะไรแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่ชวนคนแปลกหน้าที่พึ่งเจอนอนที่บ้านนิโคลัสเองก็ชะงักไปครู่หนึ่งอันที่จริงเขาไม่ได้อยากรบกวนอะไรคนที่บ้านนี้แต่คำว่าถ้าไม่รังเกียจของผู้อาวุโสทำให้เขาต้องจำใจทำตามคำขอ"เอ่อ..ก็ได้ครับ"ครู่ต่อมาหลังจากนิโคลัสตกลงที่จะพักที่นี่ทองม้วนและพนาจึงเข้าครัวเพื่อทำอาหารเพิ่มให้กับสามหนุ่ม"แม่จะทำอะไรกันแน่"พนาที่กำลังลงมือผัดข้าวผัดเมนูที่คิดว่าต่างชาติน่าจะทานได้ถูกปากเขาหันมาถามคนเป็นแม่ที่กำลังบดามุนไพรอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้มอ่อน"เอ็งรู้เหรอไอ้ฑิต"ทองม้วนหันมามองหน้าลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเช่นกันทั้งยังเอ่ยเสียงเบาทำท่าลับลมคมใน"ฉันลูกแม่นี่นา""รู้ก็ดีแล้วเอ็งเอาไอ้นี่ไปใส่ในน้ำสามคนนั้นนะ"ว่าจบก็วางสมุนไพรลงบนผ้าขาวบางแล้วบีบผสมน้ำนิดหน่อย"อะไรเหรอแม่"พนาทำสีหน้าแปลกใจเพราะเขาเอ
"นั่นสิจ้ะ...เมื่อไรหนูจะหายจากอาการบ้าๆนี่ซะที"เกวรินทร์เองก็หน้ามุ่ยห่อเหี่ยวหัวใจที่ตนพูดไม่ได้เสียที"อีหนู...เราพูดได้แล้วนี่นา"สิ้นเสียงเกวรินทร์ทุกคนต่างก็เบิกตาโพรงดีใจกันยกใหญ่ทั้งเจ้าตัวเองก็ตกใจและดีใจในคราวเดียวกัน"ได้ผลจริงๆด้วย.."มาลีเข้าไปสวมกอดลูกสาวเธอสีหน้าระรื่น"เย่ๆ..."เกวรินทร์ตื่นเต้นกระโดดไปมาที่เธอกลับมาพูดมีเสียงเสียทีนับว่าคำขอของเธอที่ขอแก้บนข้อเดียวก่อนมันได้ผลเช้าวันต่อมา"พวกคุณทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง" เป็นอย่างที่เกวรินทร์คิดเมื่อนิโคลัสตื่นขึ้นมาได้ก็ฏโมโหเอาการที่ถูกมัดมือชกเรื่องเมื่อคืนตอนนี้ทุกคนก็เอาแต่เงียบเพราะไม่มีอะไรจะแก้ตัวคำที่ดีที่สุดก็คือคำว่าขอโทษ"ทุกคนทำก็เพื่อช่วยฉันคุณอย่าโกรธเลยนะคะ...เห็นไหมพอฉันแต่งกับคุณฉันก็พูดได้เลย"เกวรินทร์พยายามทำให้นิโคลัสอารมณ์เย็นลงและบอกให้เขาเชื่อว่าสิ่งที่พวกเธอคิดมันไม่ผิดเรื่องลี้ลับมีจริและที่เธอหายเป็นปกติกลับมามีเสียงได้ก็เพราะเมื่อคืนแต่งงานกับเขา"เรื่องนี้จะไม่มีใครรู้ฉันสัญญา""เฮ้อ.."ชายหนุ่มร่างสูงยืนเท้าเอวปวดหัวหนึบไม่คิดเลยว่าจะมาเสียทีคนที่นี่ได้เขารู้ได้เลยว่านิสัยพิเลนๆของเกวริ
แกร๊กกก.. เมื่อเปิดประตูได้สาวเจ้าก็เงยหน้ามองชายร่างสูงด้วยสีหน้าสงสัย"คุณ...มีธุระอะไรคะ?""ฉันแค่จะมาบอกว่าหวังว่าเธอคงจะไม่ก่อเรื่องอะไรให้ฉันต้องมามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอีกนะเกวรินทร์"นิโคลัสเดินผ่านร่างบางเข้ามาในห้องของเธอก่อนจะทิ้งตัวนั่งไขว่ห้างลงบนโซฟาก่อนจะยื่นคำขาดกับหญิงสาวที่เดินตามมานั่งตรงข้ามกับเขา"เอ่อ...อืม..ค่ะ..น่าจะไม่มีแล้วมั้งคะ"เกวรินทร์เม้มปากกลอกตาไปมาเล็กน้อยก่อนจะรับปากด้วยสีหน้าระรื่นตอนนี้เธอยังไม่มีอะไรให้เขาต้องช่วยจึงยังไม่เอ่ยความจริงอีกข้อ"เตรียมตัวให้พร้อมฉันจะเดินทางในอีกสองวันระหว่างนี้เธอก็ต้องอยู่ที่นี่เพราะฉันขี้เกียจจะตามหาเธออีก""ค่ะ..ฉันจะเชื่อฟังคำสั่งคุณทุกอย่างเลยค่ะคุณเจ้านาย..."หญิงสาวเอ่ยเสียงแหลมด้วยสีหน้าระรื่นเช่นเดิม"อย่าลืมปรับบุคลิกใหม่ด้วยล่ะ...เป็นเลขาฉันต้องน่าเชื่อถือเข้าใจหรือเปล่า"นิโคลัสรู้ว่าเกวรินทร์ยังมีบุคลิกท่าทีคำพูดที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่มากนักเขาจึงต้องสั่งให้เธอปรับตรงนี้เพราะคนที่จะเป็นเลขาติดตามเขาตลอดต้องดูดีและน่าเชื่อถือ"ให้ฉันเป็นเลขาคุณเลยเหรอคะ"สาวเจ้าชะงักงันเบิกตาโพรงคราแรกคิดว่าเขาจะให้เธอทำงานใ
"ฉันขออยู่ตรงนี้ก็ได้คุณไปนอนเถอะอย่าปิดประตูล่ะเปิดประตูเอาไว้ให้ฉันตื่นมาเห็นคุณตลอด...ฉันกลัวเห็นใจฉันเถอะนะคะ"สาวเจ้ามองหน้าเจ้าของห้องด้วยสายตาอ้อนวอน"เกวรินทร์!"นิโคลัสเสียงแข็งใส่หญิงสาวอีกรอบ"นะคะ..ฉันไหว้ล่ะ"เธอยกมือไหว้คนตรงหน้าที่กำลังทำหน้าดุประหงกๆดูซิว่าเขาจะใจดำกับเธออีกได้หรือเปล่า"เฮ้อ...อย่ากวนฉันอีกละกัน"นิโคลัสเงยหน้ากรอกสายตามองบนก่อนจะเดินเข้าห้องนอนตัวเองไปเขาแง้มประตูเอาไว้ตามที่หญิงสาวบอกและกำชับกับเธออีกครั้งว่าห้ามกวนเขาอีกหากจะนอนที่นี่"ค่ะ..ขอบคุณนะคะ"สาวเจ้ายิ้มร่าและแล้วลูกอ้อนของเธอก็ทำให้เขาใจอ่อนจนได้ชั่วโมงต่อมา"หึ่.."นิโคลัสเดินถือผ้านวมอีกผืนออกมาจากห้องนอนเขาสบถในลำคอเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างบางนอนขดตัวอยู่บนโซฟาเขาคิดไม่ผิดว่าเธอคงต้องนอนหนาวเป็นแน่เพราะเขาเปิดแอร์ต่ำกว่า20องศาคนไทยอย่างเธอคงรู้สึกไม่โอเคเท่าไรแต่สำหรับเขาอากาศกำลังสบายนิโคลัสค่อยๆห่มผ้าให้เกวรินทร์ก่อนจะยืนเท้าเอวมองหน้าหญิงสาวที่หลับตาพริ้มครู่หนึ่งพรางคิดในใจว่าวันข้างหน้าเธอจะมีเรื่องอะไรให้เขาปวดหัวอีกหรือเปล่าก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปพักผ่อนเช้าวันต่อมา "อืม...ก็ใจ
"เอกสารฝากให้บอสด้วย"ระหว่างที่สองสาวนั่งคุยหัวร่อต่อกระซิกกันอยู่เอเลน่าเซลสาวสวยเซ็กซี่ประจำออฟฟิศก็เดินเอาเอกสารมากองตรงหน้าของเกวรินทร์บนโต๊ะของนุดีด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรเกวรินทร์พอจะมองออกว่าเอเลน่าไม่ชอบหน้าเธอตั้งแต่แรกพบแต่เธอก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรดีที่เธอและเอเลน่าไม่ได้ติดต่องานอะไรกันมากนักจึงไม่น่าอึดอัดเท่าไร"เอกสารอะไรเหรอคะ?"หญิงสาวแม้นจะรู้ว่าเอเลน่าไม่ชอบแต่ก็ยังคุยกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่เปื้อนด้วยรอยยิ้มทุกครั้ง"อ่านเอาสิฉันว่าเธอน่าจะมีสมองนะ"ว่าจบเอเลน่าสาวสวยในชุดเดรสรัดรูปสีดำสั้นจนแทบจะเห็นแก้มก้นก็เดินบิดสะโพกออกไป"หืม..."เกวรินทร์มองหน้ากับนุดีด้วยสีหน้าเอือมระอา"อย่าไปใส่ใจเลยเอเลน่านางก็เป็นแบบนี้หวงของทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเอง""ของ?..ของอะไรคะ""เอเลน่าเธอชอบบอสทุกคนที่นี่รู้ดีมีบอสน่าจะไม่รู้...ผู้หญิงคนไหนที่ได้ใกล้ชิดกับบอสจะถูกเธอเขม่นใส่ทุกคน"คราแรกนุดีก็ว่าจะไม่พูดแต่เห็นทีคงต้องพูดให้เกวรินทร์รู้ตัวเสียหน่อยไม่อย่างนั้นก็จะสงสัยแบบนี้ต่อไปว่าทำไมเอเลน่าถึงมีทีท่าไม่ค่อยชอบเกวรินทร์แบบนั้น"อ่อ...อย่างนี้นี่เองเกวจะพยายามไม่สนใจเธอละกันนะคะ"เ
18.30 น.RrrrrRrrrrrเกวรินทร์รีบเดินออกมาจากในครัวเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์"มีอะไรคะ"หญิงสาวเห็นว่าเป็นนิโคลัสโทรหาจึงรีบกดรับ"กลับบ้านหรือยัง""กลับมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วค่ะ""อืม...ฉันกำลังไปหา""มา..ท..."ตื้ดดยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามว่าเขามีธุระอะไรกับเธอปลายสายก็ตัดไปเสียก่อน"อ้าวนึกจะวางก็วาง"ทำเอาสาวเจ้าถึงเท้าเท้าเอวขมวดคิ้วไม่รู้ว่านิโคลัสจะรีบอะไรขนาดนั้นครู่ต่อมาไม่นานนักนิโคลัสก็ขับรถมาถึงบ้านหอบของพะลุงพะลังมากองไว้ตรงหน้าเกวรินทร์ที่ห้องนั่งเล่น"คุณโอดินไปซื้อของพวกนี้ให้ฉันเหรอคะ?"หญิงสาวเปิดดูแทบทุกถุงเห็นว่าเป็นพวกเครื่องแต่งตัวแม้นเธอจะไม่เคยใช้ของพวกนี้แต่เห็นชื่อแบรนด์ก็พอจะรู้ว่าของทั้งหมดนี่คงแพงน่าดู"อืม..""ชุดนี่ท่าจะแพงๆทั้งนั้นเลยย.. เอ่อ.. คุณจะหักเงินค่าชุดฉันหรือเปล่า"หากนิโคลัสอยากให้เธอใช้ของพวกนี้เธอก็ไม่ปฏิเสธเพียงแค่อยากรู้เท่านั้นว่าเขาจะมาหักเงินเดือนเธอหรือเปล่านี่แหละที่เธอกลัว"บอกว่าให้ก็คือให้""ขอบคุณมากค่ะ...พี่นุดีทำอาหารไทยมาให้ฉันเยอะเลยคุณอยู่กินข้าวเย็นกับฉันนะคะ"เมื่อได้ยินคำตอบที่ตรงใจสาวเจ้าก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะชวนชายหนุ่มท
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงได้สื่อกับเธอได้แต่เมื่อฉันสื่อกับเธอได้..ช่วยฉันเถอะนะถ้าคดีถูกตัดสินไปในทางที่ถูกฉันจะได้ไปสบายเสียทีไม่ต้องมาเร่ร่อนอยู่แบบนี้"ที่ณดายังไปไหนไม่ได้เพราะเธอยังไม่ได้รับความยุติธรรมเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมดวงจิตของเธอถึงได้สื่อสารกับเกวรินทร์ได้คนเดียวทั้งที่ก่อนหน้าพยายามติดต่อกับน้องสาวเธอแต่ไม่เป็นผล"ฉันขอทำใจสักแปปนะคะ"เกวรินทร์ได้ยินเรื่องเลวร้ายที่ณดาเจอเธอก็นึกโกรธแทนหญิงสาวแต่ตอนนี้หากจะให้เธอมีสมาธิคงต้องรอให้เธอตั้งสติอีกสักเดี๋ยวครู่ต่อมาตอนนี้ณดากำลังทำให้เกวรินทร์เห็นภาพและรับรู้ความรู้สึกของณดาขณะนั้นได้เกวรินทร์เห็นผู้ชายต่างชาติคนหนึ่งกำลังดึงณดามาที่สระว่ายน้ำหน้าบ้านหลังใหญ่ในตอนกลางคืน"คุณจะทำอะไร"ณดาพูดกับผู้ชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นความรู้สึกเจ็บปวดเสียใจของณดาทำเกวรินทร์ร้องให้ออกมาในตอนนี้ด้วยเช่นกัน"ฉันบอกให้เธอเอาเด็กในท้องออกไง"ผู้ชายต่างชาติคนนั้นเขาตวาดใส่ณดาจนเธอสะดุ้งตัวโยน"ไม่..ถ้าคุณไม่ต้องการฉันก็จะเลี้ยงเค้าเอง"เพี๊ยะ"อ๊ายยย.."ณดาถูกตบฉาดใหญ่จนเธอล้มไปกองอยู่ข้างสระน้ำ"พูดดีๆไม่รู้เรื่องใช่
วันต่อมาวันนี้เป็นวันทำงานเริ่มแรกของสัปดาห์เกวรินทร์ที่มาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าเธอก็มานั่งทำงานของเธอตามปกติที่โต๊ะทำงานหน้าห้องของนิโคลัสแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะถูกจับตามองจากคนในบริษัทเป็นพิเศษเพราะเธอเล่นสวมใส่เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าและเครื่องประดับที่เป็นแบรนด์เนมราคาแพงทั้งตัวทั้งที่พึ่งจะเริ่มทำงานได้เพียงเดือนเดียวแต่ดูท่าหญิงสาวจะไม่ได้รู้ตัวว่าคนจะจับสังเกตเรื่องนี้เพราะในหัวตอนนี้มีแต่งานด้วยไม่อยากให้นิโคลัสดุอะไรเธออีกจึงต้องใส่ใจกับรายละเอียดของงานเป็นพิเศษไม่ให้ขาดตกบกพร่องอะไรไป"มาดูแม่เลขาบอสสิ""ทำไม"เฮลี่ย์เซลสาวเพื่อนรักกับเอเลน่าเห็นเอเลน่าเดินเข้ามาในออฟฟิศก็รีบดึงมือเพื่อนสาวเธอแกล้งเดินผ่านหน้าโต๊ะทำงานของเกวรินทร์"ดูแม่นั่นแต่งตัวสิ...เนื้อตัวคอลเลคชั่นใหมทั้งนั้นพึ่งเริ่มทำงานจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อนักหนาถ้าไม่มีใครให้"เฮลี่ย์เดินพาเอเลน่ามาถึงตรงหน้าโต๊ะทำงานของเกวรินทร์เธอก็กระซิบกระซาบกับเอเลน่าด้วยความอิจฉาตาร้อนแต่ดูเกวรินทร์จะไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่หันหลังเก็บแยกอกสารที่ตู้หลังโต๊ะทำงานเอเลน่าเห็นชุดที่เกวรินทร์ใส่แวบแรกเธอก็รู้ได้ทันทีว่าชุดที่หญิงสาวใส่เป