18.30 น.
RrrrrRrrrrr
เกวรินทร์รีบเดินออกมาจากในครัวเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์
"มีอะไรคะ"
หญิงสาวเห็นว่าเป็นนิโคลัสโทรหาจึงรีบกดรับ
"กลับบ้านหรือยัง"
"กลับมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วค่ะ"
"อืม...ฉันกำลังไปหา"
"มา..ท..."
ตื้ดด
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามว่าเขามีธุระอะไรกับเธอปลายสายก็ตัดไปเสียก่อน
"อ้าวนึกจะวางก็วาง"
ทำเอาสาวเจ้าถึงเท้าเท้าเอวขมวดคิ้วไม่รู้ว่านิโคลัสจะรีบอะไรขนาดนั้น
ครู่ต่อมา
ไม่นานนักนิโคลัสก็ขับรถมาถึงบ้านหอบของพะลุงพะลังมากองไว้ตรงหน้าเกวรินทร์ที่ห้องนั่งเล่น
"คุณโอดินไปซื้อของพวกนี้ให้ฉันเหรอคะ?"
หญิงสาวเปิดดูแทบทุกถุงเห็นว่าเป็นพวกเครื่องแต่งตัวแม้นเธอจะไม่เคยใช้ของพวกนี้แต่เห็นชื่อแบรนด์ก็พอจะรู้ว่าของทั้งหมดนี่คงแพงน่าดู
"อืม.."
"ชุดนี่ท่าจะแพงๆทั้งนั้นเลยย.. เอ่อ.. คุณจะหักเงินค่าชุดฉันหรือเปล่า"
หากนิโคลัสอยากให้เธอใช้ของพวกนี้เธอก็ไม่ปฏิเสธเพียงแค่อยากรู้เท่านั้นว่าเขาจะมาหักเงินเดือนเธอหรือเปล่านี่แหละที่เธอกลัว
"บอกว่าให้ก็คือให้"
"ขอบคุณมากค่ะ...พี่นุดีทำอาหารไทยมาให้ฉันเยอะเลยคุณอยู่กินข้าวเย็นกับฉันนะคะ"
เมื่อได้ยินคำตอบที่ตรงใจสาวเจ้าก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะชวนชายหนุ่มทานข้าวเย็นพร้อมเธอเพราะมีเรื่องอยากจะคุยกับเขาพอดี
"อืม..ก็ได้"
นิโคลัสไม่ได้คิดที่จะปฏิเสธเพราะเขาก็อยากจะอยู่ดูความเรียบร้อยและดูว่าหญิงสาวใช้ชีวิตอย่างไรที่บ้านนี้ด้วยเหมือนกัน
"นุดีทำอาการอร่อยเหมือนกันนะ"
หลังจากนิโคลัสได้ลองชิมข้าวผัดไข่ฝีมือนุดีที่เกวรินทร์พึ่งจะอุ่นเสร็จเขาก็เอ่ยปากชมเปราะแม้นเมนูนี้จะธรรมดาแต่เขารู้สึกถึงความเอาใจใส่ในการทำดูจากเมล็ดข้าวที่นุ่มเต็มเม็ดและมีความมันไม่มากรสชาติกลมกล่อมกำลังดี
"ใช่ค่ะพี่นุดีทำอร่อยทุกอย่างเลยฉันเลยขอไปหาพี่นุดีทุกวันหยุด"
เกวรินทร์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามนิโคลัสเธอรีบพยักหน้าและเอ่ยชมนุดีให้นิโคลัสได้ฟัง
"รบกวนคนอื่นเกินไปหรือเปล่า"
"พี่นุดีบอกฉันว่าให้ไปหาได้ตลอดค่ะ"
"อืม...งั้นถ้าหากเธอจะไปหานุดีก็อย่าลืมซื้ออะไรติดไม้ติดมือไปด้วยล่ะไม่ใช่ไปรบกวนเธออย่างเดียว"
นิโคลัสเห็นว่าหากเกวรินทร์จะไปรบกวนนุดีอย่างเดียวท่าจะไม่เหมาะไม่รู้ว่าเกวรินทร์จะนึกถึงการเกรงใจคนอื่นบ้างหรือเปล่าด้วยเพราะอายุยังน้อยเขาจึงต้องเอ่ยสอนเธอเสียหน่อย
"ฉันรู้ค่ะ...แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีเงินมากพอที่จะซื้ออะไรติดไม้ติดมือไปให้พี่นุดีนี่คะ...เงินเดือนที่พึ่งออกฉันก็ส่งให้แม่ครึ่งนึงที่เหลือก็เอาไปซื้อเครื่องซักผ้ากับเตาอบใหม่ไปแล้ว"
หญิงสาวตอบกลับคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงอู้อี้ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่ามารยาทที่ดีคืออะไรแต่ติดตรงที่เธอเหลือเงินติดตัวไม่มากเท่านั้นเพราะความดีใจที่ได้เงินเดือนก้อนแรกจึงส่งให้ทางบ้านเยอะบวกกับของใช้ที่เธอซื้อเข้าบ้านก็ราคาแพงหูฉี่
"ฉันบอกให้ส่งซักที่ร้านแล้วฉันจะจ่ายให้ไง"
นิโคลัสขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่เข้าใจว่าหญิงสาวทำไมต้องซื้อของใช้พวกนี้ด้วย
"ฉันไม่ชอบส่งซักนี่คะเสื้อผ้าฉันมีน้อยส่งซักทุกวันเปลืองค่ะ...ฉันซักเองดีกว่า"
"แล้วเตาอบซื้อมาทำไม"
"ฉันซื้อเอาไว้เผื่ออยากทำขนมค่ะอยากได้มานานแล้ว"
สาวเจ้าหลบสายตาคนที่กำลังจ้องเธอเขม็ง
"อืม.. เอานี่ไป..."
นิโคลัสเห็นทีจะบ่นเธอไปก็เท่านั้นเพราะหญิงสาวได้ซื้อมาแล้วเขาจึงควักกระเป๋าและยื่นเงินให้เธอจำนวนหนึ่งเขาคิดว่ามันมากพอที่เธอจะใช้ซื้ออาหารทั้งเดือนได้อย่างสบายหากเธออยากจะไปหานุดีจะได้ซื้ออะไรติดไม้ติดมือไปได้บ้าง
"ค่าอะไรคะ..."
เกวรินทร์เบิกตาโพรงเมื่อเห็นอีกฝ่ายยื่นเงินมากองตรงหน้า
"เอาไว้ใช้ไงจะเอาหรือไม่เอา"
"ใครจะไม่เอาล่ะคะคุณนิโคลัสนี่ใจดีที่สุดในโลกเลยค่ะ"
มือเรียวทั้งสองรีบหยิบเงินตรงหน้าอย่างรวดเร็วทั้งยังมีสีหน้ากรุ้มกริ่มดีใจที่นิโคลัสใจดีกับเธออีกแล้ว
"เอ่อ...คุณนิโคลัสคะ"
"อะไร"
"ฉันขอถามคุณอีกครั้งนะคะว่าจะให้ฉันทำงานในตำแหน่งนี้ต่อไปจริงๆเหรอคุณก็เห็นว่าฉันทำมันไม่ได้ดีเลย"
เป็นเพราะเรื่องนี้เกวรินทร์ถึงอยากให้นิโคลัสอยู่ทานข้าวเย็นด้วย
"ก็บอกแล้วไงว่ายิ่งต้องทำ...เพื่อที่จะได้ฝึกให้มันดีขึ้นไง...ฉันรู้ว่าเธอทำงานแล้วเหงาแล้วฉันจะหาคนมาเป็นผู้ช่วยเธอจะได้สนุกกับงานมากกว่านี้"
"เฮ้อ..อืม... อย่างน้อยก็มีคนมาช่วย.."
เมื่อได้รับคำปฏิเสธหญิงสาวถึงกับมีสีหน้าห่อเหี่ยวก้มหน้าบ่นเบาๆ
"ชวนฉันอยู่มื้อเย็นด้วยเพราะจะคุยเรื่องนี้ใช่ไหม"
นิโคลัสพอจะเดาออกแล้วว่าวันนี้หญิงสาวนึกครึ้มอย่างไรชวนเขาร่วมโต๊ะอาหารเย็นด้วย
"คือฉัน...ฉัน"
"คิดข้ออ้างไม่ออกล่ะสิ"
"เปล่านะคะ..ฉันก็แค่เห็นว่าพี่นุดีทำอาหารมาให้เยอะก็เลยให้คุณอยู่ช่วยกินเท่านั้น"
"หึ่..."
ชายหนุ่มส่ายหัวเบาๆแม้นหญิงสาวจะปฏิเสธแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาเชื่อว่าเธอต้องการแค่เพื่อนร่วมโต๊ะจริงๆ
กลางดึก
"เกว.."
เกวรินทร์สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเรียกของใครบางคน
"หืม.. คุณเป็นใครเข้ามาที่นี่ได้ยังไง"
หญิงสาวมองผ่านแสงสลัวของโคมไฟหัวนอนเห็นผู้หญิงผมยาวสวมชุดเดรสสีชมพูแต่ตอนนี้เธอยังเห็นหน้าของหญิงตรงหน้าม่าชัดและยังตกใจที่เธอนั้นเข้ามาในห้องนอนของเธอทั้งที่เธอล็อคห้องอย่างแน่นหนาแล้ว
"เธอดูฉันดีๆสิ"
เสียงหวานแต่เย็นยะเยือกทำให้เกวรินทร์ขนลุกซู่ก่อนจะยกมือเรียวขยี้ตาดูคนที่กำลังเข้ามาใกล้ๆเธอให้แน่ชัดอีกครั้งว่าหน้าตาเป็นแบบไหน
"น.. ณดา.. หา..."
เกวรินทร์ที่เห็นหน้าคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆชัดไม่เรียกว่าเดินเรียกว่าลอยเข้ามาใกล้เธอมากกว่าและใบหน้าแบบนี้เธอจำได้ดีว่าเป็นใบหน้าของพี่สาวของนุดีเกวรนิทร์เบิกตาโพรงอ้าปากค้างด้วยความตกใจและเป็นลมสลบไปในทันที
เช้าวันต่อมา
".. ห๊าาว... อืม... ม.. เมื่อคืน.. ฝันร้ายอีกแล้วเหรอเรา"
เกวรินทร์ตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าวันใหม่พอตั้งสติได้หญิงสาวก็ดีดตัวผึงนั่งเกร็งด้วยเมื่อคืนจำได้ดีว่าเจอกับวิญญาณณดาแต่ไม่แน่ใจว่าเห็นจริงๆหรือเธอนั้นฝัน
"เธอไม่ได้ฝัน"
"หืม...เสียงใคร"
จากที่กำลังจะผ่อนคลายความเกร็งกลับต้องเกร็งอีกรอบเพราะน้ำเสียงเย็นยะเยือกที่เธอกำลังได้ยิน
"ฉันเอง"
และแล้วหญิงสาวในชุดเดรสสีชมพูยาวเมื่ิคืนก็ปรากฏตรงหน้า
"ผ.. ผ..อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะคะพี่ณดาเดี๋ยวเกวจะทำบุญไปให้"
หญิงสาวรีบยกมือไหว้หับตาปี๋ไม่คิดว่าพระอาทิตย์ขึ้นจนแสงสว่างจ้าเธอยังคงเห็นอะไรแบบนี้
"เธออย่ากลัวฉันเลยนะเกว...ฉันต้องการให้เธอช่วยจริงๆ"
น้ำเสียงของวิญญาณปะปนความเจ็บปวดจนเกวรินทร์รู้สึกได้
"จ..จะให้ช่วยอะไรล่ะคะ"
เกวรินทร์ยังคงโต้ตอบกับณดาด้วยน้ำเสียงสั่น
"ฉันไม่ได้เกิดอุบัติเหตุแต่ฉันถูกคนชั่วฆ่า"
"อ..อะไรนะ"
เมื่อเธอได้ยินเหตุแห่งความตายที่อยู่ติธรรมจึงประคองสติได้ขึ้นมาบ้างและเอ่ยถามวิญญาณสาวที่กำลังพูดกับเธอด้วยสีหน้าที่สนอกสนใจอยากจะรู้ความจริง
"ฉันอยากให้เธอเห็นภาพแต่เธอต้องตั้งสมาธิดีๆก่อน"
"ภาพอะไร"
"คนที่ทำร้ายฉัน...แล้วเธอจะได้ช่วยฉันได้"
"เฮ้อ...ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย"
เกวรินทร์กุมขมับคิดไม่ตกว่าทำไมเธอถึงได้เจอเรื่องลี้ลับอะไรแบบนี้อีก
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงได้สื่อกับเธอได้แต่เมื่อฉันสื่อกับเธอได้..ช่วยฉันเถอะนะถ้าคดีถูกตัดสินไปในทางที่ถูกฉันจะได้ไปสบายเสียทีไม่ต้องมาเร่ร่อนอยู่แบบนี้"ที่ณดายังไปไหนไม่ได้เพราะเธอยังไม่ได้รับความยุติธรรมเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมดวงจิตของเธอถึงได้สื่อสารกับเกวรินทร์ได้คนเดียวทั้งที่ก่อนหน้าพยายามติดต่อกับน้องสาวเธอแต่ไม่เป็นผล"ฉันขอทำใจสักแปปนะคะ"เกวรินทร์ได้ยินเรื่องเลวร้ายที่ณดาเจอเธอก็นึกโกรธแทนหญิงสาวแต่ตอนนี้หากจะให้เธอมีสมาธิคงต้องรอให้เธอตั้งสติอีกสักเดี๋ยวครู่ต่อมาตอนนี้ณดากำลังทำให้เกวรินทร์เห็นภาพและรับรู้ความรู้สึกของณดาขณะนั้นได้เกวรินทร์เห็นผู้ชายต่างชาติคนหนึ่งกำลังดึงณดามาที่สระว่ายน้ำหน้าบ้านหลังใหญ่ในตอนกลางคืน"คุณจะทำอะไร"ณดาพูดกับผู้ชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นความรู้สึกเจ็บปวดเสียใจของณดาทำเกวรินทร์ร้องให้ออกมาในตอนนี้ด้วยเช่นกัน"ฉันบอกให้เธอเอาเด็กในท้องออกไง"ผู้ชายต่างชาติคนนั้นเขาตวาดใส่ณดาจนเธอสะดุ้งตัวโยน"ไม่..ถ้าคุณไม่ต้องการฉันก็จะเลี้ยงเค้าเอง"เพี๊ยะ"อ๊ายยย.."ณดาถูกตบฉาดใหญ่จนเธอล้มไปกองอยู่ข้างสระน้ำ"พูดดีๆไม่รู้เรื่องใช่
วันต่อมาวันนี้เป็นวันทำงานเริ่มแรกของสัปดาห์เกวรินทร์ที่มาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าเธอก็มานั่งทำงานของเธอตามปกติที่โต๊ะทำงานหน้าห้องของนิโคลัสแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะถูกจับตามองจากคนในบริษัทเป็นพิเศษเพราะเธอเล่นสวมใส่เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าและเครื่องประดับที่เป็นแบรนด์เนมราคาแพงทั้งตัวทั้งที่พึ่งจะเริ่มทำงานได้เพียงเดือนเดียวแต่ดูท่าหญิงสาวจะไม่ได้รู้ตัวว่าคนจะจับสังเกตเรื่องนี้เพราะในหัวตอนนี้มีแต่งานด้วยไม่อยากให้นิโคลัสดุอะไรเธออีกจึงต้องใส่ใจกับรายละเอียดของงานเป็นพิเศษไม่ให้ขาดตกบกพร่องอะไรไป"มาดูแม่เลขาบอสสิ""ทำไม"เฮลี่ย์เซลสาวเพื่อนรักกับเอเลน่าเห็นเอเลน่าเดินเข้ามาในออฟฟิศก็รีบดึงมือเพื่อนสาวเธอแกล้งเดินผ่านหน้าโต๊ะทำงานของเกวรินทร์"ดูแม่นั่นแต่งตัวสิ...เนื้อตัวคอลเลคชั่นใหมทั้งนั้นพึ่งเริ่มทำงานจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อนักหนาถ้าไม่มีใครให้"เฮลี่ย์เดินพาเอเลน่ามาถึงตรงหน้าโต๊ะทำงานของเกวรินทร์เธอก็กระซิบกระซาบกับเอเลน่าด้วยความอิจฉาตาร้อนแต่ดูเกวรินทร์จะไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่หันหลังเก็บแยกอกสารที่ตู้หลังโต๊ะทำงานเอเลน่าเห็นชุดที่เกวรินทร์ใส่แวบแรกเธอก็รู้ได้ทันทีว่าชุดที่หญิงสาวใส่เป
"คุณ..โอลิเวอร์ใช่หรือเปล่าคะ?"เมื่อพาแขกทั้งสองเข้าห้องมาได้เกวรินทร์ก็ตัดสินใจเอ่ยทักกับนิโคลัสน้ำเสียงค่อนข้างแข็งเพราะอยากจะได้คำตอบจากปากนิโคลัสว่าจะตอบอย่างไรหากเธอพูดถึงเรื่องของณดา"ครับผมโอลิเวอร์ยินดีที่ได้.. "โอลิเวอร์ยื่นมือมาทักทายเกวรินทร์เขาทระนงตัวคิดว่าเกวรินทร์น่าจะอยากสานสัมพันธ์ด้วยและเขาเองก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธอะไร"คุณรู้จักคุณณดาหรือเปล่าคะ"เกวรินทร์โพร่งถามโอลิเวอร์ขณะที่เขายังพูดไม่จบประโยคทำเอาเดฟและโอลิเวอร์ต่างก็มองหน้ากันด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก"ณดาเธอเคยเป็นพนักงานในบริษัทของผมแต่เธอเสียไปได้สองปีแล้วคุณถามทำไมเหรอครับ"โอลิเวอร์พยายามปั้นหน้ายิ้มไม่กระโตกกระตากเพราะเขายังไม่รู่ว่าที่หญิงสาวถามหาณดากับเขาต้องการอะไรกันแน่"เธอเสียเพราะอะไรเหรอคะ""อุบัติเหตุระหว่างทำงานน่ะครับ""โกหก...คุณนั่นแหละที่เป็นคนฆ่าเธอ"เกวรินทร์ได้ยินคำตอบของโอลิเวอร์เธอถึงกับฟิวส์ขาดชี้หน้าตะคอกใส่โอลิเวอร์จนตอนนี้มั้งเดฟและโอลิเวอร์มีท่าทางไม่พอใจหญิงสาวอย่างมากและตกใจมากไปในคราเดียวกันที่ไม่รู้ว่าหญิงสาวตรงหน้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร"กรุณาให้เกียรตินายผมด้วยเค้าไม่ใช่เพื้อ
เมื่อใกล้เวลาเลิกงานในวันสุดสัปดาห์เกวรินทร์เอาเวลาว่างที่กำลังจะเลิกงานนี้มานั่งปรึกษากับนุดีเรื่องแผนที่จะบุกไปที่บ้านของโอลิเวอร์"พรุ่งนี้เกวจะไปที่บ้านโอลิเวอร์ค่ะ""เอาจริงเหรอเกวพี่คิดไปคิดมามันจะไม่ปลอดภัยนะ...เราลองปรึกษาคนที่น่าจะปรึกษาได้ก่อนดีไหม"นุดีค้นหาประวัติโอลิเวอร์มาทั้งอาทิตย์เธอรู้สึกว่าเขาค่อนข้างน่ากลัวและค่อนข้างมีอิทธิพลเธอจึงเห็นว่าหากการที่เกวรินทร์จะทำเช่นนั้นมันดูเสี่ยงเกินไป"ไม่ต้องปรึกษาใครแล้วค่ะ...เกวคิดแผนมาแล้วเชื่อใจเกวนะคะพี่นุดี"เกวรินทร์ส่ายหัวหงึกหงักเธอคิดแผนนี้มาได้สองสามวันแล้วและคิดว่ามันน่าจะได้ผลอีกอย่างหากไปขอคำปรึกษาจากคนอื่นก็ต้องเล่าเรื่องเหนือธรรมชาติที่เธอเจอแล้วคนที่รับฟังคงจะเชื่อยากอีกเช่นเคยดังนั้ครั้งนี้เธอลงมือเองจะดีกว่า"เอ่อ..ก็ได้""พี่นุดีพอจะรู้หรือเปล่าคะว่าโอลิเวอร์ชอบติดต่อกับบอสเราเรื่องอะไร""เห็นว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ของบอสที่โอลิเวอร์อยากได้ไปสร้างคาสิโนนะเห็นมาติดต่อหลายครั้งแล้วแต่บอสไม่ยอมซะที""อ่อ..เกวจะเก็บเป็นข้อมูลไว้ค่ะ"เกวรินทร์ดูมั่นใจเต็มร้อยผิดกับนุดีที่ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างไรเธอก็คงจะป
"แต่คนคุ้มกันที่นี่แน่นหนามากเลยนะเกว"นุดีไม่เห็นด้วยเท่าไรที่เกวรินทร์จะออกไปเพราะคนคุ้มกันที่นี่ค่อนข้างแน่นหนาหากถูกจับดึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่แน่"เกวเอาอยู่ค่ะถ้าใครถามว่าเกวไปไหนบอกไปเข้าห้องน้ำนะคะ"เกวรินทร์มีหรือจะฟังว่าจบก็รีบออกไปจากห้องไวปานลิงข้างทิ้งให้นุดีนั่งหน้าเสียใจเต้นไม่เป็นส่ำอยู่คนเดียว"เกว.."หญิงสาวนั่งกำมือแน่นเหงื่อไหลซิกแม้นอากาศไม่ได้ร้อนแต่ตอนนี้เลือดสูบฉีดพลุ่งพล่านเพราะความกลัว"คุณณดา.. คุณอยู่ที่ไหนมาหาฉันหน่อยได้ไหมคะ"ทางด้านเกวรินทร์ตอนนี้ทำตัวดั่งลิงลมหลบซ้ายทีขวาทีเพื่อไม่ให้เหล่าบอดี้การ์ดที่นี่เห็นเธอได้เธอเข้ามาถึงด้านในตัวบ้านของโอลิเวอร์เธอไม่รู้ว่าจะไปทางซ้ายหรือขวาหรือจะขึ้นด้านบนจึงยืนหลับตาปี๋เรียกให้ณดามาหาเธอตอนนี้"เกว.."ไม่ทันได้ลืมตาเสียงของณดาก็เรียกเกวรินทร์จนเธอสะดุ้งเฮือกเล็กน้อย"อุ้ย...ตอนนั้นคุณบอกว่าเข้ามาไม่ได้ไงคะ""ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันพอฉันได้ยินเสียงเธอเรียกก็มาโผล่ที่นี่...ตามฉันมาทางนี้เร็ว"วิญญาณสาวไม่รู้ว่าทำไมดวงจิตเธอถึงเข้ามาที่นี่ได้ทั้งที่ก่อนหน้าพยายามเท่าไรก็เข้ามาไม่ได้แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาหาคำตอบณดารี
"บอสคะฉันผิดเองที่ให้เกวมาที่นี่"นุดีรีบรับผิดแทนเกวรินทร์เพราะเธอเองเป็นคนที่ยอมให้เกวรินทร์มาที่ไม่ได้คัดค้านอะไร"ก็ผิดกันทั้งคู่ทำอะไรไม่ปรึกษาใคร...แดเนียลไปส่งนุดี"นิโคลัสไม่โทษคนใดคนหนึ่งเมื่อมาด้วยกันก็คือผิดด้วยกันแต่ตอนนี้เขาต้องตักเตือนกับเกวรินทร์ให้เด็ดขาดจึงให้แดเนียลไปส่งนุดีที่คอนโดของเธอส่วนตัวเขาเองก็รีบลากเกวรินทร์ขึ้นรถดิ่งตรงไปที่บ้านที่เธอพักทันที"ทำบ้าอะไรของเธอทำไมไม่รู้จักโต"เมื่อมาถึงนิโคลัสก็ต่อว่าเกวรินทร์ยกใหญ่แต่ดูเหมือนสาวเจ้าจะไม่คิดว่าตัวเองผิดเลยสักนิดเพราะคิดตลอดว่าสิ่งที่เธอทำก็เพื่อเปิดโปงคนชั่ว"ฉันก็แค่อยากเปิดโปงคนชั่ว""เธอเกือบพาตัวเองไปตายไม่ใช่ตายแค่คนเดียวยังรวมนุดีด้วยคิดก่อนทำหรือเปล่า""คิดแล้วค่ะคิดดีแล้วด้วย""ถามหน่อยก่อนเธอจะทำอะไรเสี่ยงๆคิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่บ้างหรือเปล่า...ถ้าเธอเป็นอะไรไปเค้าจะเสียใจแค่ไหน...แถมฉันจะถูกต่อว่าว่าดูแลเธอไม่ดีอีก...""คุณไม่อยากให้คนชั่วได้รับผิดหรือไง"เกวรินทร์ไม่เข้าใจว่านิโคลัสทำไมเอาแต่ต่อว่าเธอทั้งที่ควรจะช่วยเธอหาหลักฐานมากกว่า"เธอมโนไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้"ชายหนุ่มเท้าเอวมองหน้าหญิงสาวด้วย
สวนสาธารณะนุดีออกมาจากห้องของเธอตั้งแต่เช้าตรู่เธอมานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเงียบๆคนเดียวจนถึงช่วงสายขณะที่นั่งอยู่เพลินๆจู่ๆไหล่ของเธอก็ถูกใครบางคนกระชากจนตัวเอนแทบล่วงจากเก้าอี้ที่นั่ง"นังนุดี""คุณรัต"ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นรัตนาแม่เลี้ยงของแดเนียลเองเพี๊ยะ"โอ๊ย.."ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยทักทายอะไรอีกฝ่ายรัตนาก็วาดฝ่ามือมาฟาดที่หน้าของเธอจนหน้าหัน"แกบอกว่าจะไม่ยุ่งกับแดเนียล...ตอแหล...เมื่อคืนมีความสุขที่ได้แอบลักกินขโมยกินสินะ"รัตนาคอยให้คนตามดูแดเนียลตลอดเพื่อที่จะรู้ทุกความเคลื่อนไหวเธอจึงรู้ว่าเมื่อคืนทั้งคืนแดเนียลอยู่กับนุดีทั้งที่เธอเคยสั่งแล้วว่าห้ามให้นุดีมายุ่งกับแดเนียลแต่พอเธอเผลอก็เป็นเช่นเดิม"ถ้าคุณไม่อยากให้เค้ามายุ่งกับฉันก็ไปบอกเค้าสิคะ"นุดีเห็นทีจะต้องให้รัตนาไปบอกกับแดเนียลเองแล้วว่าอย่าฝห้เขามายุ่งกับเธอเพราะตัวเธอเองก็พยายามที่จะไม่เจอเขามาตลอด"ฉันทำแน่...ไม่ต้องมาสอนเพราะอีกไม่กี่เดือนแดเนียลก็จะแต่งงานกับลูกสาวของฉัน"ว่าจบรัตนาก็เดินสะบัดก้นหันหลังกลับไปส่วนนุดีก็นั่งฟุบลงกับเก้าอี้แม้นตอนนี้คนที่เดินอยู่ที่สวนประปรายจะมองมาที่เธอเป็นตาเดียวแต่เธอก็ไม
“มีความหวังแล้ว”สาวเจ้ายิ้มหน้าบานดวงตาเป็นประกายเพราะตอนนี้เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งว่าเธอจะสามารถช่วยณดาและให้คนชั่วรับผิดได้สำเร็จ“ฉันหวังว่าความจริงจะเปิดเผยโดยเร็ว”ไม่เพียงแค่เกวรินทร์ที่สีหน้าดูร่าเริงเป็นณดาที่พลังงานดวงจิตของเธอก็เริ่มมีความหวังความสดใสขึ้นกว่าเดิม“ฉันก็หวังแบบนั้นเหมือนกันค่ะ”เกวรินทร์ยกมือประสานแน่นเตรียมคิดแผนการหลังจากที่จบประโยคสุดท้ายของเธอณดาก็ได้หายไปหลังจากนั้นเกวรินทร์ก็นั่งไม่ติดที่โทรหานุดีรีบถามหาชื่อตำรวจคนที่ทำคดีให้ณดาทันทีวันต่อมาสองสาวเกวรินทร์และนุดีมาถึงที่ทำงานได้ก็นั่งสุมหัวกันสองคนตั้งแต่เช้าดูนุดีจะมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดเพราะเธอนั้นติดต่อไปที่สำนักงานที่ตำรวจคนทำคดีพี่สาวแต่กลับพบว่าตำรวจคนนั้นไม่ได้ทำงานเป็นตำรวจแล้วและไม่รู้ที่อยู่ของเขาด้วย“เกวนี่คือชื่อตำรวจที่ทำคดีพี่สาวพี่แต่พี่ลองเช็กดูแล้วตำรวจคนนี้ไม่ได้ทำงานแล้ว”“เค้าไปไหนล่ะคะ”“ไม่มีใครรู้เหมือนกัน”“อืม...การทำคดีต้องมีการชันสูตรใช่หรือเปล่าคะ”เกวรินทร์รู้แบบนี้เห็นทีเธอจึงต้องเปลี่ยนแผนเพราะหากตามหาตำรวจคนนั้นก็เท่ากับงมเข็มในมหาสมุทรเธอจึงเปลี่ยน