"ดี...ตามมาเลย"
เกวรินทร์เห็นนิโคลัสพูดคุยด้วยสีหน้าระรื่นกับยูกิเธอก็รู้สึกว่าบรรยากาศในร้านค่อนข้างอึดอัดสำหรับเธอพอสมควรเลยยิ้มไม่ค่อยจะออกเท่าไร
"เธอเป็นใครเหรอคุณแดเนียลทำไมดูสนิทกับคุณนิคจัง"
หลังจากที่นิโคลัสตามยูกิไปในครัวแล้วเกวรินทร์ก็ได้ทีถามแดเนียลให้หายคาใจ
"เป็นเพื่อนกับคุณอาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วน่าจะเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่สนิท"
"สนิทแบบแค่เพื่อนจริงเหรอ"
เกวรินทร์รู้มาว่านิโคลัสไม่ค่อยสุงสิงกับผู้หญิงทั้งยังรักความเป็นส่วนตัวการที่เขาจะสนิทกับยูกิเธอคิดว่าไม่น่าจะใช่เพื่อนธรรมดา
“อืม..ก็คุณยูกิเธอไม่ได้ชอบผู้ชายแถมมีนิสัยแบบผู้ชายด้วย”
แดเนียลยืนยันว่ายูกิเป็นเค่เพื่อนของอาเขาจริงๆเพราะยูกิไม่ได้ชอบผู้ชาย
“อืม..เข้าใจแล้วค่ะ”
เกวรินทร์แอบอมยิ้มอ่อนเธอรู้แบบนี้ก็ค่อยลดอาการอึดอัดหัวใจลงได้หน่อย
นุดีมองหน้ากับแดเนียลทั้งคู่อมยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัยรู้ว่าทำไมเกวรินทร์ถึงอยากจะรู้นักว่านิโคลัสและยูกิมีความสัมพันธ์เป็นแบบไหนที่นั่งหน้ามุ่ยก่อนหน้าคงเป็นเพราะแอบหวงนิโคลัสเป็นแน่
ครู่ต่อมา
ตอนนี้เกวรินทร์นั่งอยู่คนเดียวเพราะนุดีและแดเนียลเดินออกจากร้านไปหาซื้อของว่างมานั่งทานรออาหารที่ยูกิกำลังทำ
“คุณ”
“คะ”
เกวรินทร์นั่งเล่นมือถืออยู่เพลินๆก็มีเด็กสาวที่ท่าทางจะเป็นคนญี่ปุ่นมาดึงมือเธอออกไปจากร้านทั้งที่เธอยังไม่ได้ตอบตกลงแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมร่างกายของเธอจึงหยุดที่จะเดินตามหญิงสาวคนนี้ตามที่ใจคิดไม่ได้
"ตามฉันมาสิ"
"คุณพูดไทยได้เหรอคะ"
สาวเจ้าค่อนข้างแปลกใจพอสมควรว่าทำไมหญิงสาวญี่ปุ่นคนนี้ถึงพูดไทยคล่องเสียเหลือเกิน
"ใช่"
"จะพาฉันไปไหน...เดี๋ยว..คุณชื่ออะไรแล้วจะพาฉันไปไหน"
"ฉันชื่อเอมิ..ฉันจะพาคุณไปเก็บผลไม้.."
เด็กสาวจูงมือเกวรินทร์มาถึงอีกฝั่งของถนนตรงข้ามกับร้านของยูกิแล้วจึงหันหน้ามาบอกชื่อตัวเองกับเกวรินทร์เด็กสาวที่ชื่อเอมิปล่อยเกวรินทร์ยืนอยู่ริมถนนและเธอก็เดินออกไปกลางถนน
ปรี๊นนนน...
“เอมิ”
ปั้งง
"อ๊ายยยยย..."
ยังไม่ทันที่เกวรินทร์จะเรียกเอมิจนจบประโยครถยนต์ที่แล่นมาด้วยความเร็วก็ชนร่างเอมิจนกระเด็นร่างของเอมินอนจมกองเลือดร่างกายบิดเบี้ยวอยู่ใกล้ๆกับเธอทำให้เกวรินทร์ช็อคจนหมดสติฟุบลงกับพื้นไป
"เกว..เกว"
แดเนียลกับนุดีที่เดินกลับมาที่ร้านเห็นเกวรินทร์ยืนกรีดร้องและสลบไปจึงช่วยกันพาเธอกลับเข้ามาในร้าน
10 นาทีต่อมา
"อืม..."
ทุกคนช่วยกัยปฐมพยาบาลจนเกวลินฟื้นขึ้นเมื่อเธอฟื้นขึ้นมาได้ก็มีอาการตกใจกับภาพที่เธอเห็นอยู่พอสมควร
"ตื่นแล้วเหรอเมื่อกี้ไปยืนทำอะไรตรงนั้น"
นุดีรีบถามเกวรินทร์ว่าทำไมถึงออกไปยืนฝั่งตรงข้ามร้านคนเดียวตรงนั้นทั้งที่บอกเองว่าจะรอพวกเธออยู่ในร้านไม่อยากเดินไปไหนตอนที่เธอชวนออกไปหาของว่างข้างนอก
"มีคนถูกรถชนค่ะเธอเป็นยังไงบ้างคะ"
เกวรินทร์ไม่ได้ฟังคำถามของนุดีแม้นแต่น้อยเธอรู้แค่ว่าตอนนี้เอมิถูกรถชนและเธอเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
"ใครถูกรถชนตรงไหนไม่มีนะเกว"
แดเนียลกอดอกมองหน้าเกวรินทร์ด้วยความสงสัยและทุกคนก็มองหน้ากันเพราะไม่รู้ว่าเกวรินทร์เอาเรื่องคนถูกรถชนมาจากไหน
"ก็เมื่อกี้ค่ะ...เธอเดินเข้ามาหาฉันในร้านบอกว่าเธอชื่อเอมิเธอเดินจูงมือฉันไปอีกฝั่งแล้วเธอก็ถูกรถชนต่อหน้าฉันเลย"
หญิงสาวยังมีอาการหน้าเสียทุกครั้งที่พูดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เห็น
"ฉันเห็นเธอยืนกรี้ดอยู่คนเดียวก่อนจะเป็นลมไปนะเกว"
แดเนียลยังยืนยันว่าเขาและนุดีเห็นเธอยืนเป็นลมอยู่คนเดียวไม่เห็นว่ามีอุบัติเหตุอะไรทั้งนั้นแต่คนที่หน้าเสียตามเกวรินทร์เห็นจะเป็นยูกิเพราะรู้จักดีว่าเอมิคือใคร
"คือ...เอมิเป็นพนักงานที่ร้านค่ะเธอพึ่งประสบอุบัติเหตุเมื่อสามเดือนก่อน"
ยูกิไม่คิดว่าเกวรินทร์จะพูดเล่นด้วยเพราะเธอคงไม่รู้จักเอมิแน่นอน
"หา...อีกแล้วเหรอ"
เกวรินทร์ถึงกับตัวอ่อนจะเป็นลมอีกรอบเพราะที่เธอเจอเป็นเรื่องลี้ลับอีกแล้วครั้งนี้สยดสยองจนเป็นภาพติดตาของเธออีกด้วย
การทานข้าวเย็นมื้อนี้ทุกคนก็เลยดูไม่รื่นเริงกันเท่าไรนักโดยเฉพาะเกวรินทร์ที่เธอกลืนอะไรไม่ค่อยจะลงเอาเสียเลย
23.00 น.
“....”
เกวรินทร์ยังคงนั่งจิตตกตั้งแต่กลับมาจากร้านอาหารเมื่อช่วงเย็นเธอทั้งง่วงทั้งเพลียตั้งแต่ก็นอนไม่หลับเพราะในใจมันหดหู่จนทำให้หลับตาลงไม่ได้
ก๊อกๆๆ
“มีอะไรเหรอคะ”
เกวรินทร์เลื่อนเปิดประตูเห็นนิโคลัสมาเคาะห้องเธอกลางดึกไม่รู้เหมือนกันว่าเขานั้นมีธุระอะไรจะคุยกับเธอ
"ฉันเห็นไฟเปิดอยู่ยังไม่นอนอีกเหรอ"
"ฉันนอนไม่หลับค่ะ...ภาพติดตา"
"ไว้ใจฉันหรือเปล่า"
"อะไรคะ"
เกวรินทร์มองหน้านิโคลัสด้วยสายตาสงสัยเพราะไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร
"ฉันจะนอนเป็นเพื่อนเธอเอง"
นิโคลัสรู้ว่าหญิงสาวคงนอนไม่หลับไม่อย่างนั้นคงปิดไฟไปนานแล้ว
"ก็ดีค่ะ..คุณนอนตรงนี้นะคะ"
เกวรินทร์รีบกลับไปจัดแจงแบ่งเขตฟูกนอนด้วยหมอนข้างมีหรือที่หญิงสาวจะปฏิเสธเรื่องไว้ใจเธอไว้ใจเขาอยู่แล้วต้องขอบคุณเขามากที่เสนอตัวมานอนเป็นเพื่อนเธอไม่อย่างนั้นคืนนี้คงหลับไม่ลง
“ไม่ว่าฉันนะคะ”
เมื่อนิโคลัสลงนอนได้เกวรินทร์ก็รีบล้มตัวนอนกอดหมอนข้างถือวิสาสะดึงมือของเขามากุมเอาไว้เธอร้สึกอุ่นใจไม่น้อยที่มีเขาอยู่ข้างๆแบบนี้
“อืม..นอนเถอะ..”
นิโคลัสบีบกระชับมือเรียวของหญิงสาวเขาไม่ว่าอะไรที่เธอจะทำแบบนี้หากมันจะทำให้เธอนอนหลับลงได้เขาก็ยินดี
เมื่อสาวเจ้ารู้สึกปลอดภัยไม่นานนักเธอก็หลับลงได้เป็นนิโคลัสเองที่ตอนนี้หลับไม่ลงแทนหญิงสาวเขาเอาแต่จ้องหน้าเธอมองผ่านแสงสลัวของโคมไฟเขานอนมองเธอแบบนั้นพักใหญ่เพราะรู้ว่าอีกไม่นานก็คงไม่ได้มองหน้าเธอใกล้ๆแบบนี้อีกต่อไปแล้ว
เช้าวันต่อมา
เกวรินทร์ตื่นขึ้นมาในช่วงสายพบว่าตัวเองนอนดิ้นมาอยู่ในอ้อมอกนิโคลัสตังแต่เมื่อไรไม่รู้เหือนกันตอนนี้เธอไม่อยากลุกออกไปไหนได้แต่นอนมองนิโคลัสหลับอีกทั้งยังรู้สึกขวยเขินหน้าแดงเมื่อได้ใกล้ชิดขนาดนี้
หญิงสาวค่อยๆใช้มือเรียวลูบไล้ใบหน้าที่มีแต่ไรเคราจนมาถึงริมฝีปากหนาเล่นอย่างสบายใจและแล้วก็ต้องตกใจเมื่อมือของเธอที่กำลังลูบไล้ใบหน้าของนิโคลัสถูกเขาดึงไปกุมเอาไว้
"นอนทับแขนฉันทั้งคืนยังจะแกล้งกวนฉันอีกเหรอ"ดวงตาคมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะบ่นหญิงสาวที่เธอเล่นนอนดิ้นไปมากวนเขาจนนอนไม่หลับจนต้องรวบตัวกอดเอาไว้กว่าจะหลับได้ก็เกือบฟ้าสางพอตื่นมาก็ยังไม่หยุดกวนเขาอีก"เอ่อ...ฉันขอโทษค่ะไม่รู้ว่ามานอนติดคุณตั้งแต่เมื่อไร...น่าจะสายแล้วฉันไปล้างหน้าก่อนนะคะ"เกวรินทร์ก้มหน้างุดไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธอกำลังเขินจึงรีบลุกยืนขึ้นหมายจะออกไปจากห้องเพื่อไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำแต่ก็ถูกนิโคลัสดึงมือไว้เพราะเขาก็จะไปเหมือนกัน"อืม...ฉันไปด้วย"ทั้งสองเลื่อนประตูออกจากห้องมาพร้อมกันแล้วก็ต้องชะงักงันกันไปทั้งคู่เมื่อเห็นว่านุดีและแดเนียลนั่งอยู่ที่กลางบ้าน"เอ่อ...คือเมื่อคืน..เอ่อ...ไม่ใช่อย่างที่คิดนะคะ"เกวรินทร์เห็นสายตาของแดเนียลและนุดีก็รู้เลยว่าทั้งคู่กำลังคิดอะไรอยู่จึงรีบอธิบายด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก"อาเห็นว่าเกวนอนไม่หลับเลยมานอนเป็นเพื่อนเท่านั้น"นิโคลัสเอ่ยเสริมช่วยเกวรินทร์อีกแรงเพราะไม่อยากถูกมองไม่ดีไม่คิดว่าทั้งสองจะมานั่งรอแบบนี้"อ๋อ.. ครับนอนเป็นเพื่อน"แดเนียลอมยิ้มกริ่มทั้งส่งสายตาหยอกเย้าคนเป็นอาก่อนจะหันมายิ้มกับนุดี"เอ่อ...เราไปเดิ
"ทำไม...รักฉันไม่ใช่หรือไง"นิโคลัสรีบรัดร่างบางมากอดเอาไว้ก่อนที่จะก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลด้วยน้ำเสียงแหบพร่า"...การที่ฉันบอกรักไม่ใช่ว่าฉันจะง่ายกับคุณที่ยังไม่ได้รักฉันตอบนะ""ใครบอกว่าฉันไม่ได้รักเธอ...ยัยเด็กบ้าเอ้ย..ฉันต้องวุ่นวายใจก็เพราะเธอ""คุณนิค...จ...จริงเหรอคะ"ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความดีใจที่ได้ยินคำว่ารักจากปากของคนที่เธอมีใจให้เขานิโคลัสพยักหน้าเบาๆทั้งรวบรัดร่างบางบดจูบให้ชื่นใจอีกรอบ"อื้อ..."คนตัวโตที่กำลังมีอารมณ์รักพลุ่งพล่านอีกรอบในรอบหลายปีเขาผละริมฝีปากออกมามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาหยาดเยิ้มไม่ได้อยากหยุดการกระทำแม้นแต่วินาทีเดียวแต่เห็นว่าคนอ่อนประสปการณ์กำลังหายใจไม่ออกจึงจำใจต้องหยุดให้เธอได้สูดอากาศเข้าปอดฟู่วว..หายใจไม่ออก""ฉันว่าต้องสอนกันอีกเยอะ""อื้อ.."เมื่อเห็นหญิงสาวได้ออกซิเจนพอประมาณแล้วนิโคลัสก็รีบอุ้มร่างบางเข้าห้องนอนค่อยๆวางร่างบางนอนราบกับฟูกประสานมือทั้งสองของเขากับมือเรียวของหญิงสาวเขาบดจูบดูดดึงริมฝีปางบางด้วยความนุ่มนวลอีกรอบค่อยๆสอดส่ายลิ้นร้ายตวัดฉกชิมความหวานเป็นระยะจนตอนนี้หญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างคนตัวโตรู้สึกถึงอารมณ์แห่งความสุ
"ยังไม่ได้ตรวจเลยย่า""ตอนนั้นพ่อเราก็อย่างนี้แหละอีหนู...ย่าว่าต้องท้องแล้วล่ะ"ทองม้วนค่อนข้างมั่นใจนิโคลัสเองก็ยืนยิ้มแก้มปริเมื่อรู้ตัวส่ากำลังมีทายาทกับคนที่ตัวเองรักส่วนเกวรินทร์คิดไปคิดมาเธอก็ไม่เจอเรื่องแปลกมาเป็นเดือนกว่าแล้วเหมือนกันคงจะจริงอย่างที่ย่าเธอว่าตอนนี้เธอมีลูกกับนิโคลัสอย่างที่อยากมีแล้วจริงๆ"เค้าเป็นยังไงล่ะลูกถึงไปตกหลุมรักเค้าได้"หลังมื้อเย็นมาลีและเกวรินทร์ก็ช่วยกันล้างถ้วยล้างชามเวลานี้มาลีจึงได้โอกาสถามไถ่เรื่องความรักของลูกสาวเธอด้วยอยากรู้เหมือนกันว่าลูกเธอไปรักไปชอบคนมีอายุรุ่นราวคราวพ่ออย่างนิโคลัสได้อย่างไร"ตอนแรกก็ดูดุจนน่ากลัวแต่พอรู้จักจริงๆเค้าอบอุ่นมากเลยจ่ะแม่...ขี้บ่นนิดหน่อยแต่มีปัญหาทีไรเป็นเค้าที่ช่วยเหลือหนูทุกครั้ง""อืม... เห็นลูกสาวแม่มีความสุขแบบนี้แม่ก็ดีใจ"มาลีเห็นลูกสาวเธอพูดถึงนิโคลัสไปยิ้มไปก็รีบรู้ได้ว่าลูกเธอคงมีความสุขที่จะรักนิโคลัสจริงๆไม่ใช่เพียงแค่ผูกพันธ์เพราะความใกล้ชิดเท่านั้นเธอรู้อย่างนี้ก็ค่อยโล่งใจที่เกวรินทร์ไม่ได้รู้สึกแค่ชั่ววูบส่วนนิโคลัสมาลีก็วางใจที่เขาเป็นคนดูแลลูกของเธอเพราะนิโคลัสเป็นผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะและ
จันทบุรีสวนไพรวัลย์บ้านสวนไพรวัลย์เป็นที่ของไพรวัลย์และทองม้วนปู่และย่าของเกวรินทร์ซึ่งหลังจากที่ไพรวัลย์เสียเมื่อหลายสิบปีก่อนมาลีและพนาก็มาบริหารต่อเรื่อยมาสวนนี้มีอาณาเขตกว้างขวางมีทั้งสวนเงาะลำใยทุเรียนและทุกคนก็อาศัยกันอยู่ในสวนนี้ด้วยบ้านที่พนามาลีและทองม้วนอาศัยอยู่เป็นบ้านเรือนไทยโบราณที่ปลูกตั้งแต่สมัยไพรวัลย์และมาลีพึ่งแต่งงานกันใหม่ๆจวบจนถึงตอนนี้ก็หลายสิบปีแล้วบ้านหลังนี้เป็นบ้านเรือนไทยหลังค่อนข้างใหญ่โตเมื่อก่อนเป็นใต้ถุนโล่งแต่พอทองม้วนแก่ตัวเข้าพนาก็ต่อเติมห้องหับที่ชั้นล่างแถบหลังบ้านเพื่อที่ทองม้วนจะได้ไม่ต้องขึ้นลงบันไดให้ลำบากส่วนพนาและมาลีเองก็ย้ายมานอนกันข้างล่างเช่นกันเพราะสะดวกกว่าอยู่ข้างบนมากตอนนี้ห้องนอนชั้นบนเห็นจะมีแค่ห้องของเกวรินทร์เท่านั้น"ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย"เสียงบ่นพึงพำของเกวรินทร์หญิงสาวหน้าสวยวัย21ย่าง22ปีเธอพึ่งเรียนจบบริหารหมาดๆจากมหาลัยในกรุงเทพมหานครหญิงสาวเป็นคนผอมแห้งสูง160 ผิวสีน้ำผึ้งใบหน้ากลมแก้มป่องผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกยาวถึงกลางหลังคิ้วบางได้รูปตากลมหางตาเฉี่ยวเหมือนลูกแมวจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากบางเป็นกระจับตอนนี
วัดxxมาลีและทองม้วนพาเกวรินทร์มาวัดที่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไรนักเมื่อมาถึงก็รีบพึ่งไปที่กุฏิหลวงตาแม้นหลวงตาที่มีเมตตาสูงและช่วยเหลือคนมามากหลังจากที่พนาตามหลวงตาออกมาจากกุฏิให้ออกมาดูลูกสาวตนได้หลวงตาก็นั่งมองเกวรินทร์อยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมาเสียงอ่อนตัวท่านเองไม่สามารถแก้ไขอะไรให้ได้เพราะตัวเกวรินทร์เป็นคนผูกยังไงก็ต้องเป็นคนแก้ตอนนี้ตัวท่านทำได้แค่แนะแนวทางเท่านั้น"อืม..รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับท่านเดี๋ยวก็หาย"เกวรินทร์นั่งน้ำตาไหลเพราะที่เธอเป็นแบบนี้คงเป็นเพราะคำที่เธอบนบานเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน"หมายความว่ายังไงคะ"มาลีมองลูกสาวตนอย่างไม่ค่อยเข้าใจก่อนจะเงยหน้าถามหลวงตาด้วยน้ำเสียงร้อนใจ"ลูกโยมไปบนบานไว้ผลสำเร็จขึ้นแล้วแต่ยังไม่ได้แก้บน""ฉันว่าแล้วเชียว...เราไปบนอะไรไว้ล่ะอีหนู"สิ้นเสียงหลวงตาแม้นทองม้วนก็ตบเข่าฉาดเพราะเธอนั้นคิดไม่ผิดว่าสิ่งที่หลานเธอเป็นก็เป็นเพราะเรื่องเล้นลับหลังจากนี้ก็แค่ให้หลานสาวเธอแก้บนเสียก็จบเรื่อง"แล้วเราบนอะไรไว้จะได้แก้"มาลีเอ่ยถามลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ"เขียนให้แม่กับย่าเรารับรู้นะโยม"หลวงตาแม้นยื่นปากกากับกระดาษวางให้เกวรินทร์ได้หยิบ เกวรินทร์
"แล้วนี่จะคุยกับเค้ายังไงล่ะเค้าพูดไทยได้ใช่หรือเปล่า""ได้จ่ะพ่อ""..เอาเบอเจ้านายเรามาเดี๋ยวพ่อโทรคุยเอง"พนารู้ว่าเจ้านายลูกสาวตนที่เป็นต่างชาติพูดไทยได้จึงอยากจะเจรจากับอีกฝ่ายเอง"แล้วเค้ามีลูกมีเมียหรือเปล่า..."มาลีลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทมัวแต่อยากให้ลูกตัวเองหายไวๆเพราะถ้าหากผู้ชายคนนั้นมีลูกมีเมียแล้วคงเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจน่าดู"ไม่มีจ่ะแม่...เดี๋ยวหนูติดต่อบอกเรื่องนี้กับเค้าเองจ่ะพ่อ"เกวรินทร์รีบส่ายหัวก่อนจะรีบเขียนบอกพ่อกับแม่ตนว่าเธอจะติดต่อกับเจ้านายเธอเอง"งั้นก็ให้มันเร็วๆล่ะปล่อยไปแบบนี้จะไม่ดีกับตัวเรา"พนาเห็นว่าลูกสาวตนจะจัดการเองก็ไม่ขัดอะไรเพียงแค่อยากให้อีกฝ่ายรับรู้โดยไวเพราะหากปล่อยเวลาผ่านไปไม่รู้ว่าลูกเขาจะเจออะไรบ้าง 20.30น.ค่ำคืนนี้ในบ้านสวนเงียบเชียบไม่มีเสียงผู้คนเสียงหรีดหริ่งเรไรที่เคยร้องอยู่ทุกคืนก็เงียบสนิทจนผิดปกติจนเกวลินที่นอนอยู่ในห้องถึงกับรู้สึกวังเวงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแต่เธอก็พยายามสลัดความรู้สึกผิดปกติออกจากหัวสมองและทำการพยายามนั่งแหกปากเปล่งเสียงให้ออกมาให้ได้นานสองนานที่เธอนั่งพยายามอยู่แบบนั้นแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลสำเร็จเล
“อีกประมาณสองกิโลครับนาย”ลูคัสมือขวาคนสนิทวัยสามสิบกว่าๆนั่งอยู่ข้างๆโอดินมือซ้ายของนิโคลัสที่กำลังขับรถเขาหันกลับมาบอกคนเป็นนายพร้อมชูมือถือที่กำลังเปิดจีพีเอส“อืม..”นิโคลัสตอบกลับพร้อมพยักหน้าเบาๆด้วยน้ำเสียงทุ้มในลำคอก่อนจะเปรยสายตาหันมองข้างทางที่ส่วนมากจะมีแต่ป่าแต่สวนเป็นส่วนใหญ่ยิ่งเข้าลึกมามากเท่าไรถนนหนทางก็ค่อนข้างลำบากมากขึ้นเท่านั้นเขาเดาออกว่าถนนหนทางแถวนี้น่าจะใช้เดินทางเข้าไร่เข้าสวนเสียมากจึงไม่ค่อยเจริญเท่าไรนัก นิโคลัสหนุ่มใหญ่วัยเกือบห้าสิบเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกาครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเลียมแต่เขาให้คนเป็นพี่บริหารธุรกิจนี้เพียงคนเดียวแต่ก็มีปรึกษางานกันกับคนเป็นพี่ที่บริษัทบ่อยๆส่วนธุรกิจของตัวเขาเองก็คือการทำอสังหาโรงแรมบ้านพักต่างๆนิโคลัสเป็นหนุ่มใหญ่ที่ตอนนี้ยังครองตัวโสดเพราะภรรยาคนที่สองเสียไปด้วยโรคร้ายเมื่อประมาณห้าปีก่อนเขาไม่คิดจะมีใครเพิ่มเพราะไม่อยากจะเสียใจกับการสูญเสียคนรักไปอีกเนื่องจากภรรยาทั้งคนแรกและคนที่สองที่เขาแต่งงานด้วยอยู่กันได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นเธอก็ต้องเป็นโรคร้ายและจากเขาไปในที่สุดแม้นอายุจะเกือบเลขห้าแต่เขาค่อนข้างดูหนุ่
เกวรินทร์พยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ“เอ่อ...เราคุยกับเค้าแล้วเหรออีหนูเค้าถึงได้มาที่นี่”ทองม้วนเอ่ยถามหลานสาวเธอด้วยความใจชื้น“เปล่าจ่ะย่า...เค้ามาเอง”“อ้าวเรอะ...แต่ก็ดีแล้ว..มาได้จังหวะเหมาะเจาะพอดีเลย”เมื่อได้เพ่งสายตาอ่านตัวหนังสือที่หลานสาวเขียนก็ใจแป้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เป็นผลอะไรหากยังไม่รู้วันนี้ชายหนุ่มมาถึงที่นี่แล้วเดี๋ยวก็ได้รู้เอง“สวัสดีทุกคนครับ”นิโคลัสเดินตามพนามายืนต่อหน้าทุกคนดวงตาคมของเขาเหลือบมองไปที่หญิงสาวร่างบางที่นั่งอยู่ข้างคนเป็นแม่ด้วยสายตาคาดโทษก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงหน้าลูคัสกับโอดินเองก็ยกมือไหว้ตามเจ้านายตนไปด้วยมาบ้านเมืองของคนอื่นเขาก็ต้องทำตามประเพณีของบ้านเมืองคนอื่นเช่นกัน“นี่มาลีภรรยาผมแม่เจ้าเกวส่วนนี่ก็แม่ผมชื่อทองม้วน...คุณนิโคลัสเค้าจะมารับเจ้าเกวไปทำงาน”พนารีบแนะนำตัวทั้งเมียและแม่ให้นิโคลัสได้รู้จักก่อนจะบอกจุดประสงค์ของนิโคลัสให้ทุกคนได้รับรู้“ก่อนจะไปช่วยอะไรหลานฉันอย่างได้หรือเปล่า”มาลีและทองม้วนรับไหว้ชายทั้งสามและเป็นทองม้วนเองที่เอ่ยปากออกมาถึงเรื่องที่กำลังร้อนรุ่มในใจอยู่ตอนนี้เธออยากจะเจรจาเสียให้มันจบๆหล