"เธอตั้งครรภ์อ่อนๆประมาณหกสัปดาห์แล้วช่วงนี้ต้องระวังให้มากนะคะ"
"หา..."
แดเนียลอ้าปากค้างดีใจและเสียใจไปในเวลาเดียวกันเพราะวันที่เขารู้ว่าเขามีลูกแต่ดันเกือบจะเสียลูกไปเสียอย่างนั้นเพราะคนนิสัยเสียสองแม่ลูกนั่นยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเจ็บใจ
"จะหาอะไรล่ะคะคุณกำลังจะมีลูกไม่ดีใจหรือไง"
"เธอรู้"
แดเนียลตกใจกว่าที่รู้ว่าเกวรินทร์รู้แสดงว่าก่อนหน้านี้นุดีก็ต้องรู้ตัวแล้วแต่ยังไม่ได้บอกกับเขา
"อืม.."
หญิงสาวพยักหน้ารับเบาๆ
"เดี๋ยวแล้วเธอทำไมไม่บอกฉันจะได้ให้นุดีหยุดทำงาน"
นิโคลัสดึงเกวรินทร์มาคุยนี่ถือเป็นเรื่องร้ายแรงหากนุดีท้องที่จริงจะต้องแจ้งกับเขาจะได้ให้เธอหยุดงานแต่นี่เท่ากับหญิงสาวทั้งสองช่วยกันปกปิดดีที่ตอนนี้ลูกในท้องนุดีไม่เป็นอะไรไม่อย่างนั้นเขาคงรู้สึกผิดกว่านี้แน่เพราะก่อนหน้านี้ให้นุดีจัดการงานหลายเรื่องโดยไม่รู้ว่าเธอท้องอ่อนๆ
"ก็พี่นุดีไม่ให้บอกใครไงคะเธอบอกว่าจะเซอร์ไพรซ์คุณในวันเกิด"
เกวรินทร์ไม่ใช่ไม่อยากบอกแต่เธอถูกนุดีของเอาไว้ต่างหากและเธอก้ไม่รู้ด้วยว่าสองแม่ลูกนั่นจะมาทำเรื่อง
"อาว่าต้องรีบทำอะไรให้มันจบเร็วๆแล้วล่ะ"
นิโคลัสยกมือจับบ่าแดเนียลเห็นทีเรื่องของริตาแดเนียลต้องรีบทำให้มันจบเร็วๆเสียแล้วไม่อย่างนั้นคงไม่ดีต่อสภาพจิตใจของนุดีแน่
ชั่วโมงต่อมา
"แน่ใจใช่ไหมว่าเด็กในท้องเป็นลูกแดเนียล"
โลแกนไม่อยากจะเชื่อว่าแดเนียลจะทำริตาท้องเพราะเขารู้จักลูกชายของเขาดีด้วยหากแดเนียลทำก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
"คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ"
รัตนาอาละวาดใส่โลแกน
"ผมรู้จักลูกผมดีถ้าแดเนียลทำจริงมีหรือจะไม่ยอมรับ"
"ใช่ครับคุณพ่อ"
แดเนียลเดินดุ่มๆเข้ามาในบ้านพร้อมกับนิโคลัสเขาต้องตัดใจละการดูแลนุดีและฝากเธอไว้กับเกวรินทร์เพื่อมาสะสางเรื่องให้มันจบ
"หึ่...คุณเป็นพ่อลูกกันนี่คะยังไงก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้ว...ไปยัยริตาถ้าเค้าไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ"
รัตนาเห็นว่าตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้วจึงรีบดึงมือลูกสาวเธอออกจากบ้านไป
"ขอบคุณนะครับที่พ่อเชื่อใจผม"
แดเนียลกับพ่อของเขาก่อนหน้าแม้นจะไม่ค่อยลงรอยกันเพราะเป็นคนตรงเหมือนกันแต่ครั้งนี้นับว่าพ่อของเขาเข้าใจเขาดี
"ฉันเป็นพ่อแกทำไมจะไม่รู้จักแก"
ตั้งแต่โลแกนรู้เรื่องที่รัตนาไปบังคับนุดีเขาและรัตนาก็มีปัญหากันตลอดมาและไม่คิดว่าครั้งนี้รัตนาจะหาเรื่องมาให้ลูกของเขาอีกตอนนี้เขาต้องทบทวนดูใหม่เสียแล้วว่าเขาคิดถูกหรือคิดผิดที่ให้เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว
"เดี๋ยวอามาขอตัวสักครู่"
นิโคลัสรู้แล้วว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรเมื่อคิดได้จึงรีบเดินกลับไปที่โรงจอดรถทันที
ก๊อกๆๆ
"ตามมาทำไมคะ..."
รัตนาลดกระจกรถลงเมื่อเห็นนิโคลัสเคาะเรียก
"เอ่อ..ก็จะมาบอกว่าผมหาหมอตรวจดีเอ็นเอให้ได้นะครับ"
นิโคลัสเท้าประตูก่อนจะพูดกับรัตนาด้วยความหวังดีเรื่องที่จะหาหมอเก่งๆมาตรวจดีเอ็นเอลูกในท้องของริตาให้
"หึ่.."
คำพูดของนิโคลัสแม้นจะดูหวังดีแต่รัตนาก็รู้ว่านิโคลัสสื่ออะไรเรื่องนี้เธอไม่ยอมง่ายๆแน่อย่างไรลูกในท้องริตาก็จะต้องได้ชื่อว่าเป็นลูกแดเนียลไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม
ครู่ต่อมา
"คุณแม่คะถ้าริตาตรวจดีเอ็นเอแล้วผลมันออกมาไม่ใช่ล่ะคะ"
"มีเงินซะอย่าง"
"คุณแม่จะทำยังไงคะ"
"ก็เอาเงินจากบริษัทออกมาก่อนไงอย่างที่ฉันหาให้แกใช้นี่แหละ"
"แต่แดเนียลยังมียัยนุดีอยู่ถึงผลตรวจออกมาว่าใช่แดเนียก็ไม่สนใจริตาอยู่ดี"
"ก็ทำให้มันหายไปเหมือนที่ฉันทำกับแม่แดเนียลไง"
"คุณแม่จะสั่งฆ่าคนอีกแล้วเหรอคะ"
"จำเป็นฉันก็ต้องทำ"
เสียงบทสนทนาของสองแม่ลูกในรถตอนนี้แดเนียลโลแกนและนิโคลัสได้ยินทุกคำพูดและบันทึกเก็บไว้เป็นหลักฐานเมื่อครู่ที่นิโคลัสไปพูดคุยกับสองแม่ลูกนั่นไม่ใช่เพียงต้องการคุยเรื่องหาหมอตรวจดีเอ็นเอเท่านั้นแต่เขาใช้จังหวัเท้าช่องกระจกประตูรถเอื้อมมือไปติดเครื่องดักฟังชิ้นเล็กในรถด้วย...ดีที่เขาจำได้ว่าในรถของเขามีเครื่องดักฟังที่ซื้อเอาไว้แล้วไม่ได้ใช้นับว่ามันเป็นประโยชน์ก็คราวนี้
“ฉันมันโง่เอง”
โลแกนที่ได้ฟังความชั่วของรัตนาเขาก็เข่าทรุดที่แท้เขาก็เป็นคนที่ชักศึกเข้าบ้านอย่านั้นหรือความดีที่รัตนาทำให้เขาเห็นตอนรู้จักกันมันเป็นเรื่องจอมปลอมทั้งนั้น
“เลวที่สุด”
แดเนียลกัดฟันกรอดเจ็บใจเรื่องแม่ของเขาเป็นที่สุดไม่คิดว่ารัตนาจะใจดำอำมหิตขนาดฆ่าแม่ของเขาแล้วยังจะฆ่าภรรยาของเขาอีกคน
นิโคลัสพูดอะไรไม่ออกในตอนนี้คราแรกคิดว่าจะหาทางช่วยหลานของเขาแต่กลับต้องมารู้เบื้องหลังความชั่วของรัตนาทั้งหมดสิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือเรียกตำรวจให้จัดการจับสองแม่ลูกนั่นให้เร็วที่สุด
ชั่วโมงต่อมา
สถานีตำรวจ
"ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้"
โลแกนเอ่ยปากพูดกับรัตนาทั้งน้ำตาตอนนี้เขาปวดหน่วงในใจไปหมดไม่คิดว่าภรรยาใหม่ของเขาคนนี้จะเป็นคนที่สั่งฆ่าภรรยาเก่าของเขาได้แถมยังจพคิดแผนร้ายทำลายชีวิตรักของลูกชายเขาอีก
"คุณมันเลวเกินคนเห็นแก่ตัว...ฆ่าแม่ผมทำไมห้ะ..ฆ่าแม่ผมทำไม"
เป็นแดเนียลที่ตวาดใส่รัตนาและริตาไม่หยุดเมื่อมาถึง
"แกไม่เคยจนนี่จะรู้เหรอห้ะ...ว่าฉันต้องดิ้นรนมากแค่ไหนถึงจะมาอยู่จุดนี้"
รัตนาที่กดดันในตอนนี้จึงอาละวาดใส่แดเนียลกลับเช่นกันที่เธอทำทั้งหมดเพื่อให้ชีวิตตัวเองอยู่ดีกินดียังคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำคือการเอาตัวรอดเท่านั้น
"มีวิธีอื่นตั้งหลายวิธีที่จะทำให้คุณมีกินได้แบบนี้มันเห็นแก่ตัวเข้าใจไหมนังฆาตกร"
"ใจเย็นแดเนียล"
นิโคลัสต้องดึงหลานชายของเขาออกมาจากสถานีไม่อย่างนั้นคงอาละวาดไม่หยุดแน่นอนไม่นานนักโลแกนก็เดินตามทั้งสองออกมาเหมือนกันเพราะเขาจะไม่ช่วยเหลืออะไรรัตนาทั้งนั้นผิดอะไรบ้างก็ให้กฎหมายลงโทษพวกเธอไป
โรงพยาบาล"พี่นุดีคะสบายใจได้แล้วนะคะริตารับสารภาพแล้วว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกคุณแดเนียล"เกวรินทร์รับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากการคุยโทรศัพท์กับนิโคลัสเมื่อครู่ก็รีบมาบอกความจริงให้นุดีรู้ว่าสองแม่ลูกนั่นหลอกลวงให้นุดีสบายใจได้ว่าแดเนียลไม่ได้โกหก"อืม...ตอนนี้พี่แดนเป็นยังไงบ้าง"ตอนนี้นุดีค่อนข้างห่วงสภาพจิตใจของแดเนียลมากกว่าว่าจะเป็นอย่างไรเพราะเธอรู้ว่าแดเนียลรักแม่ของเขามากยิ่งรู้ว่าการตายของแม่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุแต่เกิดจากการถูกฆาตกรรมสภาพจิตใจแดเนียลจะเป็นอย่างไร"คุณนิคบอกว่าค่อนข้างเครียดค่ะ""พี่อยากไปหาพี่แดน""อย่าพึ่งขยับตัวค่ะ...ตอนนี้คุณนิคกับคุณแดเนียลกำลังกลับมาค่ะ"เกวรินทร์รีบห้ามไม่ให้นุดีลุกเพราะตอนนี้หมอยังไม่ให้นุดีขยับตัวแกร๊กก"คุณแดเนียลมาพอดีเลยเกวขอตัวนะคะ"เกวรินทร์เห็นแดเนียลเปิดประตูเข้ามาพอดีเธอจึงขอตัวออกจากห้องไปเพราะรู้ว่าทั้งสองมีเรื่องที่จะต้องคุยกันเป็นการส่วนตัวส่วนเธอก็ออกมานั่งคุยกับนิโคลัสด้านนอก"สองแม่ลูกนั่นร้ายเหมือนกันนะคะ""นี่แหละความอยากได้อยากมีจนหน้ามืดตามัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี"นิโคลัสรู้เลยว่าความอยากได้อยากมีของคนมันทำให้เห็นแก่
"ดี...ตามมาเลย"เกวรินทร์เห็นนิโคลัสพูดคุยด้วยสีหน้าระรื่นกับยูกิเธอก็รู้สึกว่าบรรยากาศในร้านค่อนข้างอึดอัดสำหรับเธอพอสมควรเลยยิ้มไม่ค่อยจะออกเท่าไร"เธอเป็นใครเหรอคุณแดเนียลทำไมดูสนิทกับคุณนิคจัง"หลังจากที่นิโคลัสตามยูกิไปในครัวแล้วเกวรินทร์ก็ได้ทีถามแดเนียลให้หายคาใจ"เป็นเพื่อนกับคุณอาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วน่าจะเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่สนิท""สนิทแบบแค่เพื่อนจริงเหรอ"เกวรินทร์รู้มาว่านิโคลัสไม่ค่อยสุงสิงกับผู้หญิงทั้งยังรักความเป็นส่วนตัวการที่เขาจะสนิทกับยูกิเธอคิดว่าไม่น่าจะใช่เพื่อนธรรมดา“อืม..ก็คุณยูกิเธอไม่ได้ชอบผู้ชายแถมมีนิสัยแบบผู้ชายด้วย”แดเนียลยืนยันว่ายูกิเป็นเค่เพื่อนของอาเขาจริงๆเพราะยูกิไม่ได้ชอบผู้ชาย“อืม..เข้าใจแล้วค่ะ”เกวรินทร์แอบอมยิ้มอ่อนเธอรู้แบบนี้ก็ค่อยลดอาการอึดอัดหัวใจลงได้หน่อยนุดีมองหน้ากับแดเนียลทั้งคู่อมยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัยรู้ว่าทำไมเกวรินทร์ถึงอยากจะรู้นักว่านิโคลัสและยูกิมีความสัมพันธ์เป็นแบบไหนที่นั่งหน้ามุ่ยก่อนหน้าคงเป็นเพราะแอบหวงนิโคลัสเป็นแน่ครู่ต่อมาตอนนี้เกวรินทร์นั่งอยู่คนเดียวเพราะนุดีและแดเนียลเดินออกจากร้านไปหาซื้อของว่างมานั่งท
"นอนทับแขนฉันทั้งคืนยังจะแกล้งกวนฉันอีกเหรอ"ดวงตาคมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะบ่นหญิงสาวที่เธอเล่นนอนดิ้นไปมากวนเขาจนนอนไม่หลับจนต้องรวบตัวกอดเอาไว้กว่าจะหลับได้ก็เกือบฟ้าสางพอตื่นมาก็ยังไม่หยุดกวนเขาอีก"เอ่อ...ฉันขอโทษค่ะไม่รู้ว่ามานอนติดคุณตั้งแต่เมื่อไร...น่าจะสายแล้วฉันไปล้างหน้าก่อนนะคะ"เกวรินทร์ก้มหน้างุดไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธอกำลังเขินจึงรีบลุกยืนขึ้นหมายจะออกไปจากห้องเพื่อไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำแต่ก็ถูกนิโคลัสดึงมือไว้เพราะเขาก็จะไปเหมือนกัน"อืม...ฉันไปด้วย"ทั้งสองเลื่อนประตูออกจากห้องมาพร้อมกันแล้วก็ต้องชะงักงันกันไปทั้งคู่เมื่อเห็นว่านุดีและแดเนียลนั่งอยู่ที่กลางบ้าน"เอ่อ...คือเมื่อคืน..เอ่อ...ไม่ใช่อย่างที่คิดนะคะ"เกวรินทร์เห็นสายตาของแดเนียลและนุดีก็รู้เลยว่าทั้งคู่กำลังคิดอะไรอยู่จึงรีบอธิบายด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก"อาเห็นว่าเกวนอนไม่หลับเลยมานอนเป็นเพื่อนเท่านั้น"นิโคลัสเอ่ยเสริมช่วยเกวรินทร์อีกแรงเพราะไม่อยากถูกมองไม่ดีไม่คิดว่าทั้งสองจะมานั่งรอแบบนี้"อ๋อ.. ครับนอนเป็นเพื่อน"แดเนียลอมยิ้มกริ่มทั้งส่งสายตาหยอกเย้าคนเป็นอาก่อนจะหันมายิ้มกับนุดี"เอ่อ...เราไปเดิ
"ทำไม...รักฉันไม่ใช่หรือไง"นิโคลัสรีบรัดร่างบางมากอดเอาไว้ก่อนที่จะก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลด้วยน้ำเสียงแหบพร่า"...การที่ฉันบอกรักไม่ใช่ว่าฉันจะง่ายกับคุณที่ยังไม่ได้รักฉันตอบนะ""ใครบอกว่าฉันไม่ได้รักเธอ...ยัยเด็กบ้าเอ้ย..ฉันต้องวุ่นวายใจก็เพราะเธอ""คุณนิค...จ...จริงเหรอคะ"ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความดีใจที่ได้ยินคำว่ารักจากปากของคนที่เธอมีใจให้เขานิโคลัสพยักหน้าเบาๆทั้งรวบรัดร่างบางบดจูบให้ชื่นใจอีกรอบ"อื้อ..."คนตัวโตที่กำลังมีอารมณ์รักพลุ่งพล่านอีกรอบในรอบหลายปีเขาผละริมฝีปากออกมามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาหยาดเยิ้มไม่ได้อยากหยุดการกระทำแม้นแต่วินาทีเดียวแต่เห็นว่าคนอ่อนประสปการณ์กำลังหายใจไม่ออกจึงจำใจต้องหยุดให้เธอได้สูดอากาศเข้าปอดฟู่วว..หายใจไม่ออก""ฉันว่าต้องสอนกันอีกเยอะ""อื้อ.."เมื่อเห็นหญิงสาวได้ออกซิเจนพอประมาณแล้วนิโคลัสก็รีบอุ้มร่างบางเข้าห้องนอนค่อยๆวางร่างบางนอนราบกับฟูกประสานมือทั้งสองของเขากับมือเรียวของหญิงสาวเขาบดจูบดูดดึงริมฝีปางบางด้วยความนุ่มนวลอีกรอบค่อยๆสอดส่ายลิ้นร้ายตวัดฉกชิมความหวานเป็นระยะจนตอนนี้หญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างคนตัวโตรู้สึกถึงอารมณ์แห่งความสุ
"ยังไม่ได้ตรวจเลยย่า""ตอนนั้นพ่อเราก็อย่างนี้แหละอีหนู...ย่าว่าต้องท้องแล้วล่ะ"ทองม้วนค่อนข้างมั่นใจนิโคลัสเองก็ยืนยิ้มแก้มปริเมื่อรู้ตัวส่ากำลังมีทายาทกับคนที่ตัวเองรักส่วนเกวรินทร์คิดไปคิดมาเธอก็ไม่เจอเรื่องแปลกมาเป็นเดือนกว่าแล้วเหมือนกันคงจะจริงอย่างที่ย่าเธอว่าตอนนี้เธอมีลูกกับนิโคลัสอย่างที่อยากมีแล้วจริงๆ"เค้าเป็นยังไงล่ะลูกถึงไปตกหลุมรักเค้าได้"หลังมื้อเย็นมาลีและเกวรินทร์ก็ช่วยกันล้างถ้วยล้างชามเวลานี้มาลีจึงได้โอกาสถามไถ่เรื่องความรักของลูกสาวเธอด้วยอยากรู้เหมือนกันว่าลูกเธอไปรักไปชอบคนมีอายุรุ่นราวคราวพ่ออย่างนิโคลัสได้อย่างไร"ตอนแรกก็ดูดุจนน่ากลัวแต่พอรู้จักจริงๆเค้าอบอุ่นมากเลยจ่ะแม่...ขี้บ่นนิดหน่อยแต่มีปัญหาทีไรเป็นเค้าที่ช่วยเหลือหนูทุกครั้ง""อืม... เห็นลูกสาวแม่มีความสุขแบบนี้แม่ก็ดีใจ"มาลีเห็นลูกสาวเธอพูดถึงนิโคลัสไปยิ้มไปก็รีบรู้ได้ว่าลูกเธอคงมีความสุขที่จะรักนิโคลัสจริงๆไม่ใช่เพียงแค่ผูกพันธ์เพราะความใกล้ชิดเท่านั้นเธอรู้อย่างนี้ก็ค่อยโล่งใจที่เกวรินทร์ไม่ได้รู้สึกแค่ชั่ววูบส่วนนิโคลัสมาลีก็วางใจที่เขาเป็นคนดูแลลูกของเธอเพราะนิโคลัสเป็นผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะและ
จันทบุรีสวนไพรวัลย์บ้านสวนไพรวัลย์เป็นที่ของไพรวัลย์และทองม้วนปู่และย่าของเกวรินทร์ซึ่งหลังจากที่ไพรวัลย์เสียเมื่อหลายสิบปีก่อนมาลีและพนาก็มาบริหารต่อเรื่อยมาสวนนี้มีอาณาเขตกว้างขวางมีทั้งสวนเงาะลำใยทุเรียนและทุกคนก็อาศัยกันอยู่ในสวนนี้ด้วยบ้านที่พนามาลีและทองม้วนอาศัยอยู่เป็นบ้านเรือนไทยโบราณที่ปลูกตั้งแต่สมัยไพรวัลย์และมาลีพึ่งแต่งงานกันใหม่ๆจวบจนถึงตอนนี้ก็หลายสิบปีแล้วบ้านหลังนี้เป็นบ้านเรือนไทยหลังค่อนข้างใหญ่โตเมื่อก่อนเป็นใต้ถุนโล่งแต่พอทองม้วนแก่ตัวเข้าพนาก็ต่อเติมห้องหับที่ชั้นล่างแถบหลังบ้านเพื่อที่ทองม้วนจะได้ไม่ต้องขึ้นลงบันไดให้ลำบากส่วนพนาและมาลีเองก็ย้ายมานอนกันข้างล่างเช่นกันเพราะสะดวกกว่าอยู่ข้างบนมากตอนนี้ห้องนอนชั้นบนเห็นจะมีแค่ห้องของเกวรินทร์เท่านั้น"ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย"เสียงบ่นพึงพำของเกวรินทร์หญิงสาวหน้าสวยวัย21ย่าง22ปีเธอพึ่งเรียนจบบริหารหมาดๆจากมหาลัยในกรุงเทพมหานครหญิงสาวเป็นคนผอมแห้งสูง160 ผิวสีน้ำผึ้งใบหน้ากลมแก้มป่องผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกยาวถึงกลางหลังคิ้วบางได้รูปตากลมหางตาเฉี่ยวเหมือนลูกแมวจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากบางเป็นกระจับตอนนี
วัดxxมาลีและทองม้วนพาเกวรินทร์มาวัดที่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไรนักเมื่อมาถึงก็รีบพึ่งไปที่กุฏิหลวงตาแม้นหลวงตาที่มีเมตตาสูงและช่วยเหลือคนมามากหลังจากที่พนาตามหลวงตาออกมาจากกุฏิให้ออกมาดูลูกสาวตนได้หลวงตาก็นั่งมองเกวรินทร์อยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมาเสียงอ่อนตัวท่านเองไม่สามารถแก้ไขอะไรให้ได้เพราะตัวเกวรินทร์เป็นคนผูกยังไงก็ต้องเป็นคนแก้ตอนนี้ตัวท่านทำได้แค่แนะแนวทางเท่านั้น"อืม..รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับท่านเดี๋ยวก็หาย"เกวรินทร์นั่งน้ำตาไหลเพราะที่เธอเป็นแบบนี้คงเป็นเพราะคำที่เธอบนบานเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน"หมายความว่ายังไงคะ"มาลีมองลูกสาวตนอย่างไม่ค่อยเข้าใจก่อนจะเงยหน้าถามหลวงตาด้วยน้ำเสียงร้อนใจ"ลูกโยมไปบนบานไว้ผลสำเร็จขึ้นแล้วแต่ยังไม่ได้แก้บน""ฉันว่าแล้วเชียว...เราไปบนอะไรไว้ล่ะอีหนู"สิ้นเสียงหลวงตาแม้นทองม้วนก็ตบเข่าฉาดเพราะเธอนั้นคิดไม่ผิดว่าสิ่งที่หลานเธอเป็นก็เป็นเพราะเรื่องเล้นลับหลังจากนี้ก็แค่ให้หลานสาวเธอแก้บนเสียก็จบเรื่อง"แล้วเราบนอะไรไว้จะได้แก้"มาลีเอ่ยถามลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ"เขียนให้แม่กับย่าเรารับรู้นะโยม"หลวงตาแม้นยื่นปากกากับกระดาษวางให้เกวรินทร์ได้หยิบ เกวรินทร์
"แล้วนี่จะคุยกับเค้ายังไงล่ะเค้าพูดไทยได้ใช่หรือเปล่า""ได้จ่ะพ่อ""..เอาเบอเจ้านายเรามาเดี๋ยวพ่อโทรคุยเอง"พนารู้ว่าเจ้านายลูกสาวตนที่เป็นต่างชาติพูดไทยได้จึงอยากจะเจรจากับอีกฝ่ายเอง"แล้วเค้ามีลูกมีเมียหรือเปล่า..."มาลีลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทมัวแต่อยากให้ลูกตัวเองหายไวๆเพราะถ้าหากผู้ชายคนนั้นมีลูกมีเมียแล้วคงเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจน่าดู"ไม่มีจ่ะแม่...เดี๋ยวหนูติดต่อบอกเรื่องนี้กับเค้าเองจ่ะพ่อ"เกวรินทร์รีบส่ายหัวก่อนจะรีบเขียนบอกพ่อกับแม่ตนว่าเธอจะติดต่อกับเจ้านายเธอเอง"งั้นก็ให้มันเร็วๆล่ะปล่อยไปแบบนี้จะไม่ดีกับตัวเรา"พนาเห็นว่าลูกสาวตนจะจัดการเองก็ไม่ขัดอะไรเพียงแค่อยากให้อีกฝ่ายรับรู้โดยไวเพราะหากปล่อยเวลาผ่านไปไม่รู้ว่าลูกเขาจะเจออะไรบ้าง 20.30น.ค่ำคืนนี้ในบ้านสวนเงียบเชียบไม่มีเสียงผู้คนเสียงหรีดหริ่งเรไรที่เคยร้องอยู่ทุกคืนก็เงียบสนิทจนผิดปกติจนเกวลินที่นอนอยู่ในห้องถึงกับรู้สึกวังเวงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแต่เธอก็พยายามสลัดความรู้สึกผิดปกติออกจากหัวสมองและทำการพยายามนั่งแหกปากเปล่งเสียงให้ออกมาให้ได้นานสองนานที่เธอนั่งพยายามอยู่แบบนั้นแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลสำเร็จเล