"ยังไม่ได้ตรวจเลยย่า"
"ตอนนั้นพ่อเราก็อย่างนี้แหละอีหนู...ย่าว่าต้องท้องแล้วล่ะ"
ทองม้วนค่อนข้างมั่นใจนิโคลัสเองก็ยืนยิ้มแก้มปริเมื่อรู้ตัวส่ากำลังมีทายาทกับคนที่ตัวเองรัก
ส่วนเกวรินทร์คิดไปคิดมาเธอก็ไม่เจอเรื่องแปลกมาเป็นเดือนกว่าแล้วเหมือนกันคงจะจริงอย่างที่ย่าเธอว่าตอนนี้เธอมีลูกกับนิโคลัสอย่างที่อยากมีแล้วจริงๆ
"เค้าเป็นยังไงล่ะลูกถึงไปตกหลุมรักเค้าได้"
หลังมื้อเย็นมาลีและเกวรินทร์ก็ช่วยกันล้างถ้วยล้างชามเวลานี้มาลีจึงได้โอกาสถามไถ่เรื่องความรักของลูกสาวเธอด้วยอยากรู้เหมือนกันว่าลูกเธอไปรักไปชอบคนมีอายุรุ่นราวคราวพ่ออย่างนิโคลัสได้อย่างไร
"ตอนแรกก็ดูดุจนน่ากลัวแต่พอรู้จักจริงๆเค้าอบอุ่นมากเลยจ่ะแม่...ขี้บ่นนิดหน่อยแต่มีปัญหาทีไรเป็นเค้าที่ช่วยเหลือหนูทุกครั้ง"
"อืม... เห็นลูกสาวแม่มีความสุขแบบนี้แม่ก็ดีใจ"
มาลีเห็นลูกสาวเธอพูดถึงนิโคลัสไปยิ้มไปก็รีบรู้ได้ว่าลูกเธอคงมีความสุขที่จะรักนิโคลัสจริงๆไม่ใช่เพียงแค่ผูกพันธ์เพราะความใกล้ชิดเท่านั้นเธอรู้อย่างนี้ก็ค่อยโล่งใจที่เกวรินทร์ไม่ได้รู้สึกแค่ชั่ววูบ
ส่วนนิโคลัสมาลีก็วางใจที่เขาเป็นคนดูแลลูกของเธอเพราะนิโคลัสเป็นผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะและฐานะที่ดีมากพอที่จะดูแลลูกเธอได้เป็นอย่างดี
22.00 น.
"ดูท่าเจ้าเกวจะสดใสขึ้นเยอะเลยนะ"
"จ่ะ...แต่ฉันห่วงว่าวันนึงลูกเราจะต้องมีปัญหาของช่องว่างระหว่างวัย"
เรื่องอื่นมาลีไม่ห่วงเลยนอกจากเรื่องช่องว่างระหว่างวัยของทั้งสองเพราะรู้ตัวว่าลูกสาวตนค่อนข้างจะหัวดื้อ
"เห้อ...เรื่องปัญหาคู่ผัวตัวเมียที่ไหนก็ต้องมีกันบ้างให้พวกเค้าเรียนรู้กันเอาเองพ่อว่านิคผ่านอะไรมามากพอที่จะจัดการกับลูกเรา...และไอ้ปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคู่ของลูกเรานี่แหละที่จะทำให้ลูกเราโตขึ้น"
พนาเข้าใจว่ามาลีห่วงเขาเองก็เช่นกันแต่เขาคิดว่าชีวิตคู่จะมีปัญหาบ้างมันก็เป็นเรื่องปกติไม่เจอปัญหาก็ไม่รู้จักแนวทางแก้ไขเขาเป็นพ่อเป็นแม่ก็แค่คอยยืนเป็นที่ปรึกษาที่พักใจให้ลูกก็พอ
สองเดือนต่อมา
"ตอนนี้เกวรินทร์ท้องเข้าเดือนที่สามแล้วนิโคลัสดูแลประคบประหงมภรรยารักเป็นอย่างดีไม่ยอมให้เธอหยิบจับอะไรเพราะเป็นห่วงว่าจะกระทบกระเทือนถึงลูกในท้องจนเกวรินทร์เริ่มอึดอัดกับความเป็นห่วงจนเกินเหตุของเขา
"บอกว่าไม่ให้ทำอะไรไง"
นิโคลัสกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็นเขาเห็นภรรยารักกำลังปัดกวาดเช็ดถูโต๊ะทานข้าวก็รีบไปดึงมือเธอออกไม่ยอมให้ทำอะไร
"ให้ฉันนั่งๆนอนๆเฉยๆเบื่อแย่เลยค่ะ"
เกวรินทร์บ่นหน้าบูดหน้าบึ้งไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องห้ามทั้งที่เธอก็ยังมีมือมีเท้าปกติ
"เธอยังท้องอ่อนๆไม่เข้าเดือนที่สี่ดีหมอก็บอกแล้วไงว่าต้องระวังให้มาก"
"บ่นฉันตลอดเลยอะไรก็บ่นๆๆ"
"เธออย่าดื้อกับฉันได้หรือเปล่าที่ฉันห้ามเพราะฉันห่วงเธอกับลูกนะ"
"....."
หญืงสาวเดินหน้ามุ่ยหมายจะกลับกลับเข้าห้องไปเพราะเบื่อที่ต้องฟังเขาห้ามโน่นห้ามนี่
"จะไปไหนเกว...อย่าเดินหนีเป็นเด็กได้ไหม"
คราแรกแค่รำคาญที่สามีตนห้ามนั่นห้ามนี่แต่ตอนนี้เธอเริ่มหัวร้อนเพราะคำที่นิโคลัสว่าเธอเด็กสาวเจ้าหันกลับมามองค้อนสามีให้เขาได้รับรู้ว่าเธอไม่พอใจกับคำพูดของเขาก่อนจะเดินหนีเข้าห้องไป
"จะทำยังไงกับเธอดีนะ"
นิโคลัสไม่รู้จะห้ามเกวรินทร์อย่างไรแล้วเพราะเธอดันไม่เข้าใจความห่วงใยของเขาเอาเสียเลย
22.00 น.
ตั้งแต่เย็นจวบจนตอนนี้เกวรินทร์ไม่เคยพูดกับสามีเธอสักคำดึกแล้วก็ยังคงนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับการดูแลครรภ์เงียบๆจนนิโคลัสต้องมารวบอุ้มเธอจากโซฟาไปนอนที่เตียงนุ่ม
"มานอนได้แล้วเกวดึกแล้ว
เมื่อร่างบางถูกวางที่เตียงได้เธอก็นอนพลิกหันหลังให้นิโคลัสทันทีโดยที่ไม่พูดอะไรด้วยอย่างเคย
"เธอยังงอนฉันอีกเหรอ"
คนเป็นสามีอย่างนิโคลัสถึงกับนอนมองภรรยาจอมดื้อด้วยแววที่อ่อนใจคิดว่าวันนี้เธอคงไม่เลิกงอนเขาง่ายๆแน่จึงหลับตาพักผ่อนเอาแรงก่อนดีกว่าหากชวนกันคุยตอนนี้คงทะเลาะหนักกว่าเดิมจะเสียเวลาพักผ่อนเปล่าๆ
วันต่อมา
วันนี้หลังจากนิโคลัสออกไปทำงานเกวรินทร์ก็นั่งรถไปหานุดีที่บ้านชวนหญิงสาวท้องโตออกมาเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆเพราะเบื่อการนั่งๆนอนๆอยู่แต่บ้านเต็มทน
"นึกยังไงชวนพี่มาเดินเล่น"
"เกวเบื่อค่ะ...ก็คุณนิคเล่นสั่งให้เกวหยุดทำโน่นทำนี่เกวเบื่อ"
"ก็เพราะบอสเป็นห่วงเกวไง..ตอนแรกพี่แดนก็เป็นแต่พี่ก็เข้าใจพยายามพูดกับเค้าว่าเรายังทำได้และระวังตัวเองอยู่แล้ว...พูดกันตรงๆอย่าใช้อารมณ์เดี๋ยวก็เข้าใจกันเองเชื่อพี่"
"เกวไม่อยากพูด... เพราะเกวรำคาญคำสั่งคุณนิค..เกวดูงี่เง่ามากเลยใช่หรือเปล่าคะ"
เกวรินทร์เริ่มรู้ตัวแล้วว่าเธอคงงี่เง่าจริงๆแทนที่จะพูดให้นิโคลัสเข้าใจว่าเธอต้องการอะไรแต่กลับเงียบ
"ไม่หรอกเกวที่เกวดูคิดมากก็เพราะอารมณ์คนท้องมันแปรปรวนง่ายต่างหาก"
ตอนนี้นุดีคิดว่าเธอเข้าใจทั้งนิโคลัสและเกวรินทร์เพราะเธอก็เคยผ่านปัญหาแบบนี้มาก่อนจนตอนนี้เธอและแดเนียลเข้าใจกันดีแล้ว
ระหว่างที่สองสาวกำลังยืนคุยกันอยู่นั้นนิโคลัสก็เดินเข้ามาทักพร้อมกับสาวสวยคนหนึ่งที่เดินตามนิโคลัสมาติดๆ
"เกว.. ออกมาข้างนอกทำไมไม่บอกฉัน"
เกวรินทร์ไม่ได้สนใจที่จะกลัวนิโคลัสบ่นว่าออกมาข้างนอกไม่บอกแล้วคราแรกว่าจะหายงอนแต่ตอนนี้ความงอนเพิ่มเป็นทวีคูณเมื่อเห็นเขาอยู่กับผู้หญิง
"คุณมาคุยกับผู้หญิงคนอื่นข้างนอกยังไม่บอกฉันเลยค่ะ"
"นี่อแมนด้าลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท...เรามาทานข้าว...เกว"
ยังไม่ทันที่นิโคลัสจะพูดได้จบประโยคภรรยาตัวน้อยของเขาก็เดินฉับๆหนีไปเสียแล้ว
"เดี๋ยวนุดีตามไปเองค่ะ.. เกวจะไปไหน"
นุดีเห็นว่านิโคลัสจะตามเกวรินทร์ไปตอนนี้คงดูเสียมารยาทกับลูกค้าพอสมควรเธอจึงอาสาไปตามเองจะดีกว่า
หลังจากที่เกวรินทร์เดินหนีจากนิโคลัสก็ชวนนุดีกลับบ้านมาถึงย้านนุดีเธอก็เอาแต่ขลุกอยู่ที่นี่บอกว่าจะไม่ยอมกลับจนแดเนียลต้องโทรตามให้อาของเขามารับภรรยาตัวเองที่นี่
"ไปนั่งกินอาหารกับผู้หญิงไม่บอกสักคำ"
ร่างบางนั่งกำมือแน่นน้ำตาคลอเขาสั่งเธอสารพัดห้ามทำโน่นทำนี่ทีเขาไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นยังไม่รายงานเธอสักคำยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจ
"เกวอยู่ไหนนุดี"
นิโคลัสมาถึงบ้านแดเนียลกับนุดีได้ก็รีบถามหาเกวรินทร์ทันทีเขาไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนักที่เกวรินทร์ชอบที่จะหนีการพูดคุยกับเขาเวลางอน
"ในห้องค่ะ"
"เธอเป็นอะไรกันแน่"
"น่าจะงอนเรื่องที่บอสไม่ยอมให้เธอทำอะไรแล้วก็บอสอยู่กับลูกค้าสองต่อสอง"
"เห้อ...เกวน่าจะรู้ตัวว่าวันนี้ทำเสียมารยาท"
กว่าเขาจะขอตัวจากอแมนด้ากลับเขาต้องขอโทษเธอพักใหญ่ที่ภรรยาของเขาดันมาไม่พอใจเขาและอแมนด้าแบบนั้นดีที่ลูกค้าเขาเข้าใจอารมณ์ผู้หญิง
"คนท้องมักจะอารมณ์แปรปรวนบอสค่อยๆคุยกับเกวนะคะ"
นุดีย้ำให้นิโคลัสได้ฟังเพราะคิดว่าเขาน่าจะลืมว่าอารมณ์คนท้องมันจะไม่ค่อนปกติเหมือนคนทั่วไป
"ใช่ครับรับมือกับคนท้องเราต้องผิดก่อนเสมอครับอาถึงจะคุยกันรู้เรื่อง"
แดเนียลเอ่ยเสริมก่อนจะเปรยสายตามองหน้านุดีด้วยรอยยิ้มอ่อน..ที่สอนได้เพราะเคยผ่านช่วงนี้มาเหมือนกัน
นิโคลัสเองก็ลืมคิดข้อนี้ไปเหมือนกันเพราะคิดว่าคุยกันด้วยเหตุผลเกวรินทร์น่าจะเข้าใจการมีลูกครั้งแรกถือเป็นประสปการณ์จริงๆ
แดเนียลยื่นกุญแจห้องที่เกวรินทร์อยู่ให้อาของเขาก่อนจะชวนนุดีไปที่อื่นเพราะเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้เคลียกันเอง
"กลับบ้านเถอะนะ"
นิโคลัสเข้าห้องมาได้ก็รีบเข้าไปนั่งคุยกับเกวรินทร์ขอร้องให้เธอกลับบ้านกับเขา
"ไม่กลับ"
"อย่าดื้อเป็นเด็กได้ไหม...วันนี้ออกไปข้างนอกก็ไม่บอกฉันแถมทำเสียมารยาทกับลูกค้าอีก"
"ฉันเป็นเด็กก็ต้องดื้อเรื่องปกติอยู่แล้ว...ฉันไปข้างนอกไม่บอกคุณส่วนคุณก็นั่งทานข้าวกับผู้หญิงคนอื่นไม่บอกฉันเหมือนกัน"
"เกว...ฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอที่นี่นะ"
"ก็กลับไปสิ"
"ได้..แต่เธอต้องกลับด้วย"
นิโคลัสเห็นทีพูดคุยที่นี่คงยืดเยื้ออยู่แบบนี้จึงใช้วิธีรวบอุ้มเธอเลยแล้วกัน
"ปล่อยยย.."
แม้นหญิงสาวจะโวยวายบ้างแต่เธอก็รู้ตัวว่าโวยวายมากมายไม่ได้ด้วยเป็นห่วงลูกในท้องนิโคลัสขับรถไม่นานนักก็พาภรรยาตัวเล็กมาถึงบ้าน
"เกว...เปิดประตู"
เมื่อมาถึงบ้านได้สาวเจ้าก็เข้าห้องปิดประตูหนีนิโคลัสเพราะไม่อยากจะมองหน้าสามีเธอเท่าไรนักเพราะยังเคืองอยู่มากพอสมควร
"มาว่าฉันเด็กทำไม...ฉันเป็นแม่คนแล้วฉันโตแล้ววว"
เกวรินทร์ตะโกนมาจากในห้องด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"จะไม่ให้ว่าก็อย่าทำตัวแบบนี้เปิดประตูมาคุยกัน"
"ไม่..."
แกร๊กก
ไม่นานนักเสียงประตูก็เปิดพร้อมคนตัวโตเดินดุ่มๆเข้ามาหาเธอที่นิโคลัสเงียบไปเมื่อครู่เขาเพียงไปหากุญแจมาไขห้องนอน
"เข้ามาได้ไง"
"ที่นี่บ้านใครล่ะ"
นิโคลัสพยายามใจเย็นพูดคุยกับหญิงสาวเสียงอ่อนรวบกอดเธอเอาไว้เบาๆเพราะเริ่มย้ำกับตัวเองถึงคำที่แดเนียลบอกมาว่าต้องผิดไปก่อนคิดว่าการจะให้หญิงสาวหายงอนในตอนนี้เขาต้องใช้ไม้อ่อนกับเธอ
"อย่ามายุ่ง..ไม่ต้องมากอด"
เกวรินทร์ยังคงเคืองคำว่าเด็กที่นิโคลัสชอบบ่นเธอไม่หาย
"คุยกันดีๆได้ไหม...ที่ฉันหวงฉันห้ามเพราะเป็นห่วงเข้าใจกันหน่อยได้หรือเปล่า"
"เข้าใจ"
"แล้วโกรธเรื่องอะไร"
"ฉันไม่ชอบให้มาว่าฉันเด็ก...ฉันไม่ใช่เด็กแค่คุณแก่กว่าฉันเยอะเท่านั้น...อีกอย่างทีคุณนั่งกินข้าวกับผู้หญิงยังไม่บอกฉันเลย"
เมื่อนิโคลัสเริ่มอ่อนลงเกวรินทร์ก็เริ่มที่จะยอมพูดเรื่องในใจมากขึ้นตอนนี้นิโคลัสจึงพอจะรู้แล้วที่เธอกะฟัดกะเฟียดเพราะอะไร
"หึง.."
"......"
เกวรินทร์ไม่ตอบกลับได้แต่เพียงหันหน้าหนีเล็กน้อยเพราะที่เขาพูดมาว่าหึงก็จริงอย่างที่เขาพูด
"ฉันก็คุยกับลูกค้าเป็นเรื่องปกติขอโทษที่ไม่ได้บอกเธอ..."
"ขอโทษเหรอ"
"อืม..ฉันขอโทษฉันผิดทุกอย่าง"
"ใช่...คุณผิดทุกอย่าง...คุณไม่คิดบ้างหรือไงว่าฉันก็ต้องระวังตัวเองในทุกการกระทำอยู่แล้ว"
"อืม..ฉันรู้แต่ก็ห่วงอยู่ดีเอาเป็นว่าถ้าเธอจะไปไหนก็ต้องบอกฉันก่อนเข้าใจหรือเปล่าแล้วถ้าฉันจะไปไหนกับลูกค้าผู้หญิงจะบอกก่อน...เรามาคุยดีๆกันนะ"
"ก็ได้"
"หายโกรธแล้วนะ"
"ก็ได้ค่ะ"
นิโคลัสยกมือหนาชูนิ้วก้อยขอคืนดีกับภรรยารักไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ก็เพราะทีภรนยาที่อ่อนกว่าหลายสิบปีแต่ก็เต็มใจหากมันทำให้เธอกลับมาอารมณ์ดีได้
หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาเป็นปีตอนนี้เกวรินทร์กับนิโคลัสก็เป็นพ่อแม่เต็มตัวมาหกเดือนแล้วหลังจากที่หนูน้อยเอริคเด็กชายจ้ำม่ำเกิดมาก็มาเติมเต็มความสุขให้เกวรินทร์และนิโคลัสมากขึ้น
แม้นจะมีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้างแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะทั้งสองก็รู้แก่ใจว่าปัญหามันคือสีสันของชีวิตคู่อยู่แล้วขอแค่ผ่านไปด้วยกันได้เป็นพอ
ถึงช่วงเวลานี้เกวรินทร์รู้ตัวเลยว่าเธอมีความสุขเพิ่มมากขึ้นทุกวันหากให้ย้อนเวลากลับไปได้เธอก็จะไม่แก้ไขอะไรมันทั้งนั้นเพราะทุกๆเรื่องทั้งดีและร้ายมันทำให้เธอมายืนในจุดที่มีความสุขเช่นนี้
จบแล้วจ้าาาาาา...................
ขอบคุณที่ติดตามอ่านผลงานของไรท์จนจบนะคะ....
จันทบุรีสวนไพรวัลย์บ้านสวนไพรวัลย์เป็นที่ของไพรวัลย์และทองม้วนปู่และย่าของเกวรินทร์ซึ่งหลังจากที่ไพรวัลย์เสียเมื่อหลายสิบปีก่อนมาลีและพนาก็มาบริหารต่อเรื่อยมาสวนนี้มีอาณาเขตกว้างขวางมีทั้งสวนเงาะลำใยทุเรียนและทุกคนก็อาศัยกันอยู่ในสวนนี้ด้วยบ้านที่พนามาลีและทองม้วนอาศัยอยู่เป็นบ้านเรือนไทยโบราณที่ปลูกตั้งแต่สมัยไพรวัลย์และมาลีพึ่งแต่งงานกันใหม่ๆจวบจนถึงตอนนี้ก็หลายสิบปีแล้วบ้านหลังนี้เป็นบ้านเรือนไทยหลังค่อนข้างใหญ่โตเมื่อก่อนเป็นใต้ถุนโล่งแต่พอทองม้วนแก่ตัวเข้าพนาก็ต่อเติมห้องหับที่ชั้นล่างแถบหลังบ้านเพื่อที่ทองม้วนจะได้ไม่ต้องขึ้นลงบันไดให้ลำบากส่วนพนาและมาลีเองก็ย้ายมานอนกันข้างล่างเช่นกันเพราะสะดวกกว่าอยู่ข้างบนมากตอนนี้ห้องนอนชั้นบนเห็นจะมีแค่ห้องของเกวรินทร์เท่านั้น"ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย"เสียงบ่นพึงพำของเกวรินทร์หญิงสาวหน้าสวยวัย21ย่าง22ปีเธอพึ่งเรียนจบบริหารหมาดๆจากมหาลัยในกรุงเทพมหานครหญิงสาวเป็นคนผอมแห้งสูง160 ผิวสีน้ำผึ้งใบหน้ากลมแก้มป่องผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกยาวถึงกลางหลังคิ้วบางได้รูปตากลมหางตาเฉี่ยวเหมือนลูกแมวจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากบางเป็นกระจับตอนนี
วัดxxมาลีและทองม้วนพาเกวรินทร์มาวัดที่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไรนักเมื่อมาถึงก็รีบพึ่งไปที่กุฏิหลวงตาแม้นหลวงตาที่มีเมตตาสูงและช่วยเหลือคนมามากหลังจากที่พนาตามหลวงตาออกมาจากกุฏิให้ออกมาดูลูกสาวตนได้หลวงตาก็นั่งมองเกวรินทร์อยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมาเสียงอ่อนตัวท่านเองไม่สามารถแก้ไขอะไรให้ได้เพราะตัวเกวรินทร์เป็นคนผูกยังไงก็ต้องเป็นคนแก้ตอนนี้ตัวท่านทำได้แค่แนะแนวทางเท่านั้น"อืม..รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับท่านเดี๋ยวก็หาย"เกวรินทร์นั่งน้ำตาไหลเพราะที่เธอเป็นแบบนี้คงเป็นเพราะคำที่เธอบนบานเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน"หมายความว่ายังไงคะ"มาลีมองลูกสาวตนอย่างไม่ค่อยเข้าใจก่อนจะเงยหน้าถามหลวงตาด้วยน้ำเสียงร้อนใจ"ลูกโยมไปบนบานไว้ผลสำเร็จขึ้นแล้วแต่ยังไม่ได้แก้บน""ฉันว่าแล้วเชียว...เราไปบนอะไรไว้ล่ะอีหนู"สิ้นเสียงหลวงตาแม้นทองม้วนก็ตบเข่าฉาดเพราะเธอนั้นคิดไม่ผิดว่าสิ่งที่หลานเธอเป็นก็เป็นเพราะเรื่องเล้นลับหลังจากนี้ก็แค่ให้หลานสาวเธอแก้บนเสียก็จบเรื่อง"แล้วเราบนอะไรไว้จะได้แก้"มาลีเอ่ยถามลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ"เขียนให้แม่กับย่าเรารับรู้นะโยม"หลวงตาแม้นยื่นปากกากับกระดาษวางให้เกวรินทร์ได้หยิบ เกวรินทร์
"แล้วนี่จะคุยกับเค้ายังไงล่ะเค้าพูดไทยได้ใช่หรือเปล่า""ได้จ่ะพ่อ""..เอาเบอเจ้านายเรามาเดี๋ยวพ่อโทรคุยเอง"พนารู้ว่าเจ้านายลูกสาวตนที่เป็นต่างชาติพูดไทยได้จึงอยากจะเจรจากับอีกฝ่ายเอง"แล้วเค้ามีลูกมีเมียหรือเปล่า..."มาลีลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทมัวแต่อยากให้ลูกตัวเองหายไวๆเพราะถ้าหากผู้ชายคนนั้นมีลูกมีเมียแล้วคงเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจน่าดู"ไม่มีจ่ะแม่...เดี๋ยวหนูติดต่อบอกเรื่องนี้กับเค้าเองจ่ะพ่อ"เกวรินทร์รีบส่ายหัวก่อนจะรีบเขียนบอกพ่อกับแม่ตนว่าเธอจะติดต่อกับเจ้านายเธอเอง"งั้นก็ให้มันเร็วๆล่ะปล่อยไปแบบนี้จะไม่ดีกับตัวเรา"พนาเห็นว่าลูกสาวตนจะจัดการเองก็ไม่ขัดอะไรเพียงแค่อยากให้อีกฝ่ายรับรู้โดยไวเพราะหากปล่อยเวลาผ่านไปไม่รู้ว่าลูกเขาจะเจออะไรบ้าง 20.30น.ค่ำคืนนี้ในบ้านสวนเงียบเชียบไม่มีเสียงผู้คนเสียงหรีดหริ่งเรไรที่เคยร้องอยู่ทุกคืนก็เงียบสนิทจนผิดปกติจนเกวลินที่นอนอยู่ในห้องถึงกับรู้สึกวังเวงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแต่เธอก็พยายามสลัดความรู้สึกผิดปกติออกจากหัวสมองและทำการพยายามนั่งแหกปากเปล่งเสียงให้ออกมาให้ได้นานสองนานที่เธอนั่งพยายามอยู่แบบนั้นแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลสำเร็จเล
“อีกประมาณสองกิโลครับนาย”ลูคัสมือขวาคนสนิทวัยสามสิบกว่าๆนั่งอยู่ข้างๆโอดินมือซ้ายของนิโคลัสที่กำลังขับรถเขาหันกลับมาบอกคนเป็นนายพร้อมชูมือถือที่กำลังเปิดจีพีเอส“อืม..”นิโคลัสตอบกลับพร้อมพยักหน้าเบาๆด้วยน้ำเสียงทุ้มในลำคอก่อนจะเปรยสายตาหันมองข้างทางที่ส่วนมากจะมีแต่ป่าแต่สวนเป็นส่วนใหญ่ยิ่งเข้าลึกมามากเท่าไรถนนหนทางก็ค่อนข้างลำบากมากขึ้นเท่านั้นเขาเดาออกว่าถนนหนทางแถวนี้น่าจะใช้เดินทางเข้าไร่เข้าสวนเสียมากจึงไม่ค่อยเจริญเท่าไรนัก นิโคลัสหนุ่มใหญ่วัยเกือบห้าสิบเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกาครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเลียมแต่เขาให้คนเป็นพี่บริหารธุรกิจนี้เพียงคนเดียวแต่ก็มีปรึกษางานกันกับคนเป็นพี่ที่บริษัทบ่อยๆส่วนธุรกิจของตัวเขาเองก็คือการทำอสังหาโรงแรมบ้านพักต่างๆนิโคลัสเป็นหนุ่มใหญ่ที่ตอนนี้ยังครองตัวโสดเพราะภรรยาคนที่สองเสียไปด้วยโรคร้ายเมื่อประมาณห้าปีก่อนเขาไม่คิดจะมีใครเพิ่มเพราะไม่อยากจะเสียใจกับการสูญเสียคนรักไปอีกเนื่องจากภรรยาทั้งคนแรกและคนที่สองที่เขาแต่งงานด้วยอยู่กันได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นเธอก็ต้องเป็นโรคร้ายและจากเขาไปในที่สุดแม้นอายุจะเกือบเลขห้าแต่เขาค่อนข้างดูหนุ่
เกวรินทร์พยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ“เอ่อ...เราคุยกับเค้าแล้วเหรออีหนูเค้าถึงได้มาที่นี่”ทองม้วนเอ่ยถามหลานสาวเธอด้วยความใจชื้น“เปล่าจ่ะย่า...เค้ามาเอง”“อ้าวเรอะ...แต่ก็ดีแล้ว..มาได้จังหวะเหมาะเจาะพอดีเลย”เมื่อได้เพ่งสายตาอ่านตัวหนังสือที่หลานสาวเขียนก็ใจแป้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เป็นผลอะไรหากยังไม่รู้วันนี้ชายหนุ่มมาถึงที่นี่แล้วเดี๋ยวก็ได้รู้เอง“สวัสดีทุกคนครับ”นิโคลัสเดินตามพนามายืนต่อหน้าทุกคนดวงตาคมของเขาเหลือบมองไปที่หญิงสาวร่างบางที่นั่งอยู่ข้างคนเป็นแม่ด้วยสายตาคาดโทษก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงหน้าลูคัสกับโอดินเองก็ยกมือไหว้ตามเจ้านายตนไปด้วยมาบ้านเมืองของคนอื่นเขาก็ต้องทำตามประเพณีของบ้านเมืองคนอื่นเช่นกัน“นี่มาลีภรรยาผมแม่เจ้าเกวส่วนนี่ก็แม่ผมชื่อทองม้วน...คุณนิโคลัสเค้าจะมารับเจ้าเกวไปทำงาน”พนารีบแนะนำตัวทั้งเมียและแม่ให้นิโคลัสได้รู้จักก่อนจะบอกจุดประสงค์ของนิโคลัสให้ทุกคนได้รับรู้“ก่อนจะไปช่วยอะไรหลานฉันอย่างได้หรือเปล่า”มาลีและทองม้วนรับไหว้ชายทั้งสามและเป็นทองม้วนเองที่เอ่ยปากออกมาถึงเรื่องที่กำลังร้อนรุ่มในใจอยู่ตอนนี้เธออยากจะเจรจาเสียให้มันจบๆหล
"พรุ่งนี้ครับ...พวกผมต้องขอตัวกลับโรงแรมก่อน"นิโคลัสพอจะโล่งใจได้บ้างที่ทองม้วนดูจะถอดใจแล้วตอนนี้เขาก็เห็นว่ามันเย็นมากแล้วจึงถือโอกาสนี้ขอตัวกลับไปที่โรงแรมเสียก่อนที่ฟ้าจะมืด"ถ้าไม่รังเกียจก็นอนเสียที่นี่เถอะนะ..."พนากับมาลีถึงกับมองหน้ากันเพราะรู้ได้แน่ชัดว่าแม่ตนต้องมีแผนการอะไรแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่ชวนคนแปลกหน้าที่พึ่งเจอนอนที่บ้านนิโคลัสเองก็ชะงักไปครู่หนึ่งอันที่จริงเขาไม่ได้อยากรบกวนอะไรคนที่บ้านนี้แต่คำว่าถ้าไม่รังเกียจของผู้อาวุโสทำให้เขาต้องจำใจทำตามคำขอ"เอ่อ..ก็ได้ครับ"ครู่ต่อมาหลังจากนิโคลัสตกลงที่จะพักที่นี่ทองม้วนและพนาจึงเข้าครัวเพื่อทำอาหารเพิ่มให้กับสามหนุ่ม"แม่จะทำอะไรกันแน่"พนาที่กำลังลงมือผัดข้าวผัดเมนูที่คิดว่าต่างชาติน่าจะทานได้ถูกปากเขาหันมาถามคนเป็นแม่ที่กำลังบดามุนไพรอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้มอ่อน"เอ็งรู้เหรอไอ้ฑิต"ทองม้วนหันมามองหน้าลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเช่นกันทั้งยังเอ่ยเสียงเบาทำท่าลับลมคมใน"ฉันลูกแม่นี่นา""รู้ก็ดีแล้วเอ็งเอาไอ้นี่ไปใส่ในน้ำสามคนนั้นนะ"ว่าจบก็วางสมุนไพรลงบนผ้าขาวบางแล้วบีบผสมน้ำนิดหน่อย"อะไรเหรอแม่"พนาทำสีหน้าแปลกใจเพราะเขาเอ
"นั่นสิจ้ะ...เมื่อไรหนูจะหายจากอาการบ้าๆนี่ซะที"เกวรินทร์เองก็หน้ามุ่ยห่อเหี่ยวหัวใจที่ตนพูดไม่ได้เสียที"อีหนู...เราพูดได้แล้วนี่นา"สิ้นเสียงเกวรินทร์ทุกคนต่างก็เบิกตาโพรงดีใจกันยกใหญ่ทั้งเจ้าตัวเองก็ตกใจและดีใจในคราวเดียวกัน"ได้ผลจริงๆด้วย.."มาลีเข้าไปสวมกอดลูกสาวเธอสีหน้าระรื่น"เย่ๆ..."เกวรินทร์ตื่นเต้นกระโดดไปมาที่เธอกลับมาพูดมีเสียงเสียทีนับว่าคำขอของเธอที่ขอแก้บนข้อเดียวก่อนมันได้ผลเช้าวันต่อมา"พวกคุณทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง" เป็นอย่างที่เกวรินทร์คิดเมื่อนิโคลัสตื่นขึ้นมาได้ก็ฏโมโหเอาการที่ถูกมัดมือชกเรื่องเมื่อคืนตอนนี้ทุกคนก็เอาแต่เงียบเพราะไม่มีอะไรจะแก้ตัวคำที่ดีที่สุดก็คือคำว่าขอโทษ"ทุกคนทำก็เพื่อช่วยฉันคุณอย่าโกรธเลยนะคะ...เห็นไหมพอฉันแต่งกับคุณฉันก็พูดได้เลย"เกวรินทร์พยายามทำให้นิโคลัสอารมณ์เย็นลงและบอกให้เขาเชื่อว่าสิ่งที่พวกเธอคิดมันไม่ผิดเรื่องลี้ลับมีจริและที่เธอหายเป็นปกติกลับมามีเสียงได้ก็เพราะเมื่อคืนแต่งงานกับเขา"เรื่องนี้จะไม่มีใครรู้ฉันสัญญา""เฮ้อ.."ชายหนุ่มร่างสูงยืนเท้าเอวปวดหัวหนึบไม่คิดเลยว่าจะมาเสียทีคนที่นี่ได้เขารู้ได้เลยว่านิสัยพิเลนๆของเกวริ
แกร๊กกก.. เมื่อเปิดประตูได้สาวเจ้าก็เงยหน้ามองชายร่างสูงด้วยสีหน้าสงสัย"คุณ...มีธุระอะไรคะ?""ฉันแค่จะมาบอกว่าหวังว่าเธอคงจะไม่ก่อเรื่องอะไรให้ฉันต้องมามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอีกนะเกวรินทร์"นิโคลัสเดินผ่านร่างบางเข้ามาในห้องของเธอก่อนจะทิ้งตัวนั่งไขว่ห้างลงบนโซฟาก่อนจะยื่นคำขาดกับหญิงสาวที่เดินตามมานั่งตรงข้ามกับเขา"เอ่อ...อืม..ค่ะ..น่าจะไม่มีแล้วมั้งคะ"เกวรินทร์เม้มปากกลอกตาไปมาเล็กน้อยก่อนจะรับปากด้วยสีหน้าระรื่นตอนนี้เธอยังไม่มีอะไรให้เขาต้องช่วยจึงยังไม่เอ่ยความจริงอีกข้อ"เตรียมตัวให้พร้อมฉันจะเดินทางในอีกสองวันระหว่างนี้เธอก็ต้องอยู่ที่นี่เพราะฉันขี้เกียจจะตามหาเธออีก""ค่ะ..ฉันจะเชื่อฟังคำสั่งคุณทุกอย่างเลยค่ะคุณเจ้านาย..."หญิงสาวเอ่ยเสียงแหลมด้วยสีหน้าระรื่นเช่นเดิม"อย่าลืมปรับบุคลิกใหม่ด้วยล่ะ...เป็นเลขาฉันต้องน่าเชื่อถือเข้าใจหรือเปล่า"นิโคลัสรู้ว่าเกวรินทร์ยังมีบุคลิกท่าทีคำพูดที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่มากนักเขาจึงต้องสั่งให้เธอปรับตรงนี้เพราะคนที่จะเป็นเลขาติดตามเขาตลอดต้องดูดีและน่าเชื่อถือ"ให้ฉันเป็นเลขาคุณเลยเหรอคะ"สาวเจ้าชะงักงันเบิกตาโพรงคราแรกคิดว่าเขาจะให้เธอทำงานใ