เนตราที่ตื่นมาพร้อมกับความจำแค่สมัยมหาวิทยาลัย คนที่อยู่ข้างเธอคือชวินทร์ เขาบอกความจริงที่น่าตกใจว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน แถมพาตัวตัวเองกระแซะเข้ามาใกล้ ท่ามกลางความสับสนและงงของเธอ ก็เขาน่ะเพลย์บอยตัวพ่อ ส่วนเธอเป็นผู้หญิงระดับกลางๆ ไหงมาคบกันได้ล่ะ
View More“โน้ต อย่านะ!”เนตรากอดแขนชวินทร์ไว้แน่น สุชัจจ์ได้ที ดีดตัวลุกขึ้นเหวี่ยงหมัดหวังโจมตีใบหน้า เธอมาขวางไว้จึงโดนลูกหลงเต็มๆ ร่วงลงไปกองกับพื้น“ดาว!”สองหนุ่มอุทานพร้อมกัน ชวินทร์อยู่ใกล้กว่า ปรี่เข้าประคองร่างเล็กที่ใบหน้าช้ำไปข้างหนึ่ง มีเลือดซึม บริเวณมุมปาก“พี่อาร์มพอก่อนค่ะ อย่าใช้กำลัง”ในปากเธอร้าวเหมือนจะแตก ส่วนที่โดนลูกหลงชาวาบแล้วค่อยทวีความปวด มือใหญ่คลำรอยบนแก้มทะนุถนอม ตาเข้ม กัดฟันกรอด ฮึดฮัดจะลุกขึ้นเอาคืน เนตราเกาะแขนเขาแน่นเป็นตุ๊กแก“พอแล้วโน้ต อย่ามีเรื่องกันอีกเลย โอ้ย!”เธอเสียงอู้อี้ แล้วยกมือลูบแก้ม เพราะแขนเขาไหวมากระทบส่วนที่ปวด ชวินทร์ชะงักกึก“เจ็บมากเหรอ เดี๋ยวพาไปโรงพยาบาลนะ ยัยบ้าเอ๊ย! เอาตัวมาขวางทำไม”ปากบ่น แต่สุชัจจ์เห็นความอาทรในดวงตาชายหนุ่ม“อย่ามาทำตัวอันธพาลแถวนี้”ประกอบกับท่าทีตัดพ้อของหญิงสาว เขาไม่ใช่คนโง่จนคิดไม่ออก“มาว่ากันได้ยังไง ฉันเอายามาให้นะ หมอนี่ต่างหากที่กวนตีนก
“เธอจะโทรไปหาใครก็โทรเลย ฉันจะได้บอกทุกคนเรื่องของเรา”เขาแสยะยิ้ม“ไม่มีเรื่องของเรา”“เรื่องหัวหินแล้วก็เช้าวันนั้นที่ตลาด ไม่คิดเหรอว่ามันอาจจะช้าเกินไป”เนตราหน้าซีด ในสมองคำนวณสิ่งที่เกิดขึ้นประจำทุกเดือนอย่างกังวล“ปฏิเสธหมอนั่นไปซะ มันไม่ใช่คนใจดีพอจะเลี้ยงลูกคนอื่นหรอก”“พี่อาร์มไม่เลวเหมือนคุณ!”“พนันกันไหมล่ะ จะให้ผมบอกหรือให้ดาวบอก”เขากอดอกยียวน เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นต่อ“ชั่วที่สุด”อยากบริภาษให้แรงกว่านี้ แต่สมองตื้อไปหมด“ผมยอมรับผลของการกระทำ ดาวล่ะ”อาจจะผิดจากที่คิดได้เมื่อครู่ แต่เขารู้สึกสบายใจได้เปลาะหนึ่ง เธอจะไม่ตอบตกลงแต่งงานกับสุชัจจ์ในเร็ววันนี้แน่“ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ!”“บางทีดาวอาจจะได้เห็นทั้งหน้าผมทั้งหน้าลูกตลอดชีวิตเลยก็ได้”ชวินทร์หัวเราะ สตาร์ทรถออกไปอาการปวดหัวกลับมาอีกครา เธอเดินไปมาในบ้านเหมือนหนูติดจั่น ชวินทร์
การอาบน้ำนอกจากช่วยให้เนตราสดชื่น ยังขจัดเมฆหมอกที่รบกวนจิตใจในหลายวันนี้มลายหายไปด้วย เธอเข้าใจจุดประสงค์ของชวินทร์แล้วเขาต้องการปกป้องฉัตรบรรณ แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นถูกที่ถูกเวลา เขาจึงเล่นตามน้ำ สวมรอยว่าเป็นแฟนเธอ จนเลยเถิดถึงขนาดมีอะไรกัน ...นำความร้าวรานมาสู่เธออีกคราเสียงกดออดหน้าบ้านดึงสติกลับสู่ปัจจุบัน เธอรีบสวมชุดอยู่บ้านสบายๆ ออกมาดูแขกในยามสาย สุชัจจ์ยืนยิ้มพร้อมในมือมีถุงของใบเขื่อง“พี่เดาถูกจริงๆ ว่าดาวยังไม่กลับไปทำงาน”“ไม่เป็นไร คุณแปงบอกแล้วว่าสบายใจเมื่อไรค่อยไป”เนตราเคยโกหกเขาว่าเริ่มเบื่องานเพราะทำมาตั้งหกปีแล้ว เลยอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อจะตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือหางานใหม่“วันนี้พี่อาร์มไม่เข้าออฟฟิศเหรอคะ”สุชัชจ์ทำงานบริษัทรถยนต์อยู่ในตำแหน่งฝ่ายขายอาวุโส“จะเข้าบ่ายๆ นะจ๊ะ พี่เอาขนมจากญี่ปุ่นมาฝาก”ก่อนเกิดอุบัติเหตุ สุชัชจ์ไปญี่ปุ่นกับบริษัท เขายังไลน์มาถามเธอเลยว่าอยากได้เครื่องสำอางไหม“ขอบคุณค่ะ”แฟนเธอเป็นคนน
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณแปงค่ะ”เธอรวบรวมความกล้า เข้ามายืนตรงหน้าเจ้านาย“เรื่อง?”ฉัตรบรรณมองลอดแว่น นิ้วพรมไปตามคีย์บอร์ดโน้ตบุค“มีข่าวเรื่องฉัน คิดว่าคุณแปงคงจะรู้แล้ว”เจ้านายชะงัก“ผมไม่อยากสนใจเรื่องส่วนตัวของคุณ ถ้ามันไม่ได้มีญาติผมอย่างโน้ตมาเกี่ยวด้วย”ความเงียบเคลื่อนมาเป็นเจ้าเรือนในห้องนั้น ต่างคนมองตา เนตราใจเสีย หน้าเหลือสองนิ้ว เจ้านายรู้เรื่องแล้วจริงๆ ...แต่รู้แค่ไหนกันล่ะ“ถ้าดาวไม่สะดวกเล่าก็ไม่เป็นไร”ฉัตรบรรณยกมือขึ้นประสานวางเหนือโน้ตบุคที่ปิดลง ห้วงเวลาแห่งความยากลำบากมาถึง สมองสรรหาคำพูดอย่างหนักเพื่ออธิบายเรื่องเมื่อหกปีที่แล้ว“ฉันเคยนอนกับคุณโน้ตค่ะ”เนตราเม้มริมฝีปาก รอฟังว่าเขาจะถามอะไรต่อ ฉัตรบรรณเพียงมองเธอนิ่ง“แต่ฉันไม่ได้แย่งคุณโน้ตมาจากคุณแจงนะคะ มันเป็นอุบัติเหตุ เราเมาทั้งคู่”ให้เป็นเหตุผลนี้จะดีกว่า เขาเมาสุรา แค่เธอเมารัก“แล้วเราก็ไม่ได้คบกันด้วย”
“เล่ามาเถอะค่ะเจ้ ก่อนที่คุณแปงรู้เองแล้วมันจะเป็นเรื่อง”เนตราเลือกเจ้านายมาอ้าง ปลายสายทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนร่าย“ดาวเคยแย่งคุณโน้ตมาจากแฟนเก่าเขาใช่ไหม”“พี่ไปเอาข่าวมาจากไหน”เธอตาโต ในอกบีบรัดแน่นแทบระเบิด“ลือกัน ตั้งแต่เมื่อคืน เจ้ก็ฟังเขามาอีกที”มือกำแน่นเล็บจิกกลางฝ่ามือ จนน่ากลัวจะเป็นแผล“แล้วจริงไหม...หือ”เธอวางโทรศัพท์ลง สูดลมหายใจลึกๆ สะกดกลั้นอารมณ์พลุ่งพล่าน ไม่นึกเลยว่าผลการกระทำในคืนนั้นจะมาหลอกหลอนเพียงนี้ ข่าวแพร่มาที่ทำงานได้อย่างไร“บอกป้าหวานให้ชงกาแฟเข้มๆ ให้ผมถ้วยหนึ่ง”ฉัตรบรรณละจากการคุยมือถือ สั่งเธอก่อนเดินเข้าห้องไป แม่บ้านเอาของที่สั่งมาเสิร์ฟ ปรายตาดูเธอที่หน้าเครียดอยู่ กำลังจะขยับปาก เจ้านายก็เปิดประตูเรียก“ดาวมานี่หน่อย”ท้ายทอยเธอชาวาบ เลือดในกายแข็งไปหมด ฉัตรบรรณรู้เรื่องข่าวแล้วหรืออย่างไร“ช่วยดูให้หน่อยว่างานสัปดาห์นี้มีอะไรเลื่อนไปได้บ้าง ผมจะไปพัทยาเย็นวันศุก
ร่างในเสื้อคอปาดแขนยาวขาว กระโปรงทรงดินสอสีแดง เดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะเนตรา“คุณแปงอยู่ไหม”เจมิลลาสวมแว่นกันแดดสีชา เสียงนิ่ง ยากจะเดาความรู้สึก“กำลังคุยกับฝ่ายดีเวลล็อปเปอร์อยู่ค่ะ คงสักพักถึงจะเสร็จ”“แล้วคุณดาวไม่ประชุมด้วยเหรอคะ”ศีรษะปกคลุมด้วยผมย้อมสีน้ำตาลทองยาวถึงกลางหลัง ชะเง้อไปมองทางห้องทำงานคนรัก“เรื่องระบบฉันไม่ค่อยรู้เรื่อง เดี๋ยวคุณแปงก็ย่อให้ฟังอีกที แล้วค่อยทำรายงานการประชุมส่ง ระหว่างนี้รอรับโทรศัพท์ดีกว่าค่ะ”เธอผายมือไปทางชุดรับแขกขนาดกะทัดรัดหน้าห้อง“เชิญคุณเจมี่นั่งรอก่อนนะคะ”“อยากคุยกับคุณดาวมากกว่า”“คะ”“ดื่มกาแฟ คุยกันตามประสาผู้หญิงน่ะค่ะ”เจมิลลายิ้ม เดินไปนั่งที่ชุดรับแขก คนรักของฉัตรบรรณเป็นคนน่ารัก และเนตรารู้จักเพียงผิวเผิน ขนาดจะมาจิบกาแฟเม้าท์มอยนี่ก็ไม่เคย“มาสิคะ”อีกฝ่ายเร่ง เลื่อนแว่นคาดศีรษะ พยักหน้าไปยังเก้าอี้ตัวข้างกัน“คุณ
“ดาวซื้อไอ้นั่นมาหรือยัง”ฉัตรบรรณยืนอยู่หลังโต๊ะทำงาน ยกนิ้วขึ้น ทำท่าจะพูดอะไรแต่ติดอยู่ที่ริมฝีปาก ชวินทร์นั่งเก้าอี้ตัวตรงข้ามบนตักมีโน้ตบุค แสดงกราฟข้อมูล“สายชาร์ตไอแพ็ดอันใหม่ซื้อให้แล้วค่ะ อยู่ในลิ้นชักโต๊ะอันกลาง”เธอเอาแฟ้มงานต้องอนุมัติด่วนมาให้เขาเซ็น“บ่ายสองวันนี้...เลื่อนสัมภาษณ์นะคะ ฉันเลยจองสปาที่คุณเจมี่เคยแนะนำไปไว้ให้ เธอดีใจมาก เดี๋ยวจะให้คนเอาแบล๊คไทน์ออกงานคืนนี้ไปให้ที่นั่นเลยค่ะ จะได้ไปรับคุณเจมี่ทันเวลา”เนตราเอ่ยชื่อสื่อออนไลน์ยักษ์ใหญ่ในต้นประโยค แล้วจบท้ายด้วยเรื่องเกี่ยวข้องเจมิลลา...คู่หมั้นเขา“เลขาฯมึงรู้งานดีจังว่ะแปง”ชวินทร์ชมเหมือนเยาะ เพราะมีเสียงหึตามมาด้วย“แหงล่ะ เลขาฯดีๆ ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ”ฉัตรบรรณเปิดลิ้นชักหาของที่ต้องการ แล้วก็เจอจริงๆ“ว่างๆ ขอยืมตัวไปใช้ตอนทำโปรเจ็คบ้างสิ”ตาคมปลาบราวกับจะเฉือนเธอเป็นชิ้นๆ“เรื่องอะไร เลขาฯก็หาเองสิ”“เรื่องอย่างนี้มันต้
เนตรากะพริบตาปริบๆ ไล่ความง่วงงุนจากนิทรารมย์ออก กายค่อยขยับคลายความเมื่อยขบแดดยามเช้าส่องลอดกระจกหน้าต่างเข้ามา เธอเผลอหลับกลางห้องรับแขก ท่ามกลางอัลบั้มรูปที่เปิดกางหกปี...เธอเคยคิดว่าตัวเองก้าวผ่านเรื่องเขามาแล้ว แต่ชวินทร์ยังตามตอแยเธอไม่เลิก หลอกหลอนทั้งในความจริงและความฝันใครล่ะจะคิดว่าเธอ ชวินทร์ ดุลยา จะมาเจอกันที่บริษัทของฉัตรบรรณเนตราได้งานเลขาฯด้วยฉัตรบรรณให้โอกาสเด็กจบใหม่อย่างเธอ แรกๆ งานเต็มไปด้วยความขัดข้อง แต่หลายปีถัดไปอะไรก็เข้าที่เข้าทางฉัตรบรรณเป็นเจ้านายที่ดีและเนตราก็รักงานที่ทำอยู่ กระทั่งฉัตรบรรณไปเจรจาเป็นพันธมิตรกับนรธิปคนทั้งบริษัทดีใจมากที่ได้สัญญาธุรกิจนี้ เพราะบริษัทฉัตรบรรณเป็นสตาร์ทอัพแอปพลิเคชันเกี่ยวร้านอาหารการได้พันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีเครือข่ายธุรกิจมากมาย เป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นวันเซ็นสัญญามีนักข่าวมาทำข่าวเยอะ และที่สำคัญคือการปรากฏตัวของดุลยา...ในฐานะคนรักของนรธิป เนตราจำได้ในวินาทีนั้นเอง นรธิปคือคนที่จูบกับดุลยาในคืนงานเลี้ยงอำลาหลังจากที
เธอยังพอมีเพื่อนอีกหลายคนให้ถาม สุดท้ายเนตราก็หาเบอร์โทรดุลยามาจนได้ เธอหลบแอบมาโทรในห้องน้ำ“สวัสดีค่ะ”เสียงรับสายไม่ใช่ดุลยา“เบอร์แจงหรือเปล่าคะ”“จากไหนคะ”ปลายทางถามเรียบเฉย ราวกับถามคำถามนี้มาเป็นร้อยๆ ครั้ง“จากดาว...เนตราค่ะ”“ติดต่อเรื่องอะไรคะ”“จะคุยเรื่องเมื่อคืนกับโน้ตค่ะ”ฝั่งนั้นเงียบไป ก่อนกลับมา“คุณแจงไม่สะดวกคุยค่ะ”สายตัดไปทันที มีหรือที่เนตราจะยอมแพ้ เธอโทรกลับไปสองหน ได้คำตอบเดียวกันทั้งสองครั้ง“ขอคุยกับแจงหน่อยค่ะ บอกเขาว่าฉันอยากอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น”เธออ้อนวอน ปลายสายเงียบไปอึดใจ ก่อนจะตอบกลับมาด้วยเสียงหนึ่ง“ว่ามา” ดุลยา!“ฉันอยากอธิบายเรื่องเมื่อคืน”“เรื่องที่เธอนอนกับแฟนฉันนะเหรอ”ริมฝีปากเนตราสั่น ไม่คิดว่าดุลยาจะตรงขนาดนี้ โอเค...เธอนอนกับชวินทร์จริง แต่ดุลยาเรียกเขาว่าแฟนนั้นไม่ถูก เพราะตัวเองจูบกับ
ภาพแรกที่ค่อยๆ แจ่มชัดในสายตาเนตราคือ แสงไฟสว่างจ้าจากหลอดฟูลออเรสเซนต์ในห้องขาวเธอกระพริบตากลมโตถี่ๆ เรียกสติคืนจากความง่วงงุน ศีรษะหนักอึ้ง คอแห้งเหมือนคนหลงในทะเลทรายมานานเมื่อสายตาชินกับแสงจึงเห็นสภาพห้อง เธอนอนบนเตียง มีขวดน้ำเกลือแขวนเหนือศีรษะ สายเล็กเรียวมาหยุดอยู่ที่กลางแขนขวาทีแรกคิดว่าตนเองอยู่ลำพัง แต่เหลือบเห็นประตูกระจกกั้นระเบียง ใครบางคนยืนอยู่ด้านนอก“มีใครอยู่บ้างคะ สวัสดีค่ะ”อยากลุก แต่จนด้วยเนื้อตัวระบมไปหมด ได้แต่ส่งเสียงทัก ประตูเคลื่อนเปิด เผยให้เห็นสมาชิกร่วมห้อง ชวินทร์! เนตราอ้าปากเหวอ“จะเอาอะไรเหรอ เดี๋ยวเรียกพยาบาลให้”เขาเดินมากดปุ่มเหนือหัวเตียง เผยให้เห็นไหล่กว้าง ท่อนแขนเข็งแรง“นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วฉันล่ะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”คำถามยิงรัวเร็วเกือบเท่าจังหวะการหายใจถี่กระทั้น“คุณล้ม หัวฟาดกระถางต้นไม้ ผมพามาโรงพยาบาล”สรรพนามก็เปลี่ยนไป จากที่เคยเรียก “เธอ” กลายเป็น “คุณ” ท่าทีเย็นชาเปลี่ยนเป็นห่วงใย“หลับไปสองวันเต็มๆ”“แล้วนายไปเจอฉันหัวฟาดกระถางต้นไม้ได้ยังไง ไหนบอกว่าเราอย่าเจอกันสองต่อสองอีก”ชวินทร์ขมวดคิ้ว“อย่างนี้แฟนนายจะคิดยังไง”ดว...
Comments