"พรุ่งนี้ครับ...พวกผมต้องขอตัวกลับโรงแรมก่อน"
นิโคลัสพอจะโล่งใจได้บ้างที่ทองม้วนดูจะถอดใจแล้วตอนนี้เขาก็เห็นว่ามันเย็นมากแล้วจึงถือโอกาสนี้ขอตัวกลับไปที่โรงแรมเสียก่อนที่ฟ้าจะมืด
"ถ้าไม่รังเกียจก็นอนเสียที่นี่เถอะนะ..."
พนากับมาลีถึงกับมองหน้ากันเพราะรู้ได้แน่ชัดว่าแม่ตนต้องมีแผนการอะไรแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่ชวนคนแปลกหน้าที่พึ่งเจอนอนที่บ้าน
นิโคลัสเองก็ชะงักไปครู่หนึ่งอันที่จริงเขาไม่ได้อยากรบกวนอะไรคนที่บ้านนี้แต่คำว่าถ้าไม่รังเกียจของผู้อาวุโสทำให้เขาต้องจำใจทำตามคำขอ
"เอ่อ..ก็ได้ครับ"
ครู่ต่อมา
หลังจากนิโคลัสตกลงที่จะพักที่นี่ทองม้วนและพนาจึงเข้าครัวเพื่อทำอาหารเพิ่มให้กับสามหนุ่ม
"แม่จะทำอะไรกันแน่"
พนาที่กำลังลงมือผัดข้าวผัดเมนูที่คิดว่าต่างชาติน่าจะทานได้ถูกปากเขาหันมาถามคนเป็นแม่ที่กำลังบดามุนไพรอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้มอ่อน
"เอ็งรู้เหรอไอ้ฑิต"
ทองม้วนหันมามองหน้าลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเช่นกันทั้งยังเอ่ยเสียงเบาทำท่าลับลมคมใน
"ฉันลูกแม่นี่นา"
"รู้ก็ดีแล้วเอ็งเอาไอ้นี่ไปใส่ในน้ำสามคนนั้นนะ"
ว่าจบก็วางสมุนไพรลงบนผ้าขาวบางแล้วบีบผสมน้ำนิดหน่อย
"อะไรเหรอแม่"
พนาทำสีหน้าแปลกใจเพราะเขาเองก็พึ่งเห็นคนเป็นแม่ทำอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก
"สมุนไพรช่วยให้หลับลึกช่วยให้อะไรๆมันง่ายขึ้นไง"
"อ๋อ.."
พนาพยักหน้าเข้าใจตอนนี้เขายิ่งทึ่งในตัวคนเป็นแม่มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีกมิน่าคนแถบนี้จึงให้ฉายาหมอตำแยไม่ใช่เป็นหมอทำคลอดแต่เป็นคนที่มีลูกล่อลูกชนที่แพรวพราวหากใครดีมาก็ดีตอบใครร้ายมาก็เอาคืนได้อย่างเจ็บแสบ
สองชั่วโมงต่อมา
หลังจากเวลาอาหารเย็นได้เกือบชั่วโมงตอนนี้ทั้งสามหนุ่มหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในห้องมาลีกับพนาจึงช่วยกันแบกร่างนิโคลัสเข้ามาในห้องคนเป็นลูกสาวอย่างทุลักทุเล
"เฮ้อ.. เรียบร้อย"
เมื่อวางร่างใหญ่ลงบนเตียงสีชมพูของลูกสาวตนได้พนากับมาลีถึงกับปาดเหงื่อ
"เอาแบบนี้จริงเหรอย่าจะได้ผลใช่ไหม"
เกวรินทร์เขียนบอกกับย่าตนด้วยสีหน้ากังวลเธอไม่รู้ว่าแผนการของย่าเธอจะทำให้เธอหายจากอาการนี้หรือไม่เพราะนิโคลัสไม่ได้เต็มใจแถมพวกเธอยังกระทำการโดยที่เขาไม่รู้ตัวเหมือนการลักหลับอีกด้วย
"ก็ต้องแบบนี้แหละ...เราสองคนเตรียมพิธีผูกข้อไม้ข้อมือเลย"
ทองม้วนเท้าเอวพยักหน้าและรีบสั่งให้ลูกชายและลูกสะใภ้เตรียมด้ายมาผูกข้อไม้ข้อมือนิโคลัสและหลานสาวเธอโดยเร็ว
"จ่ะแม่"
พนาและมาลีลุกรี้ลุกรนเตรียมการจนเสร็จโดยใช้เวลาไม่นานนัก
ครู่ต่อมา
ตอนนี้เกวรินทร์นั่งมองนิโคลัสอยู่ข้างๆเขาบนเตียงขณะที่พ่อแม่และย่าเธอกำลังทำการสู่ขอกันเป็นพิธี
หญิงสาวเอ่ยขอโทษชายหนุ่มในใจแต่ยังไงเธอก็ต้องเอาตัวเองรอดก่อนแม้นจะรู้ว่าหากนิโคลัสตื่นมาคงโวยวายแต่พิธีก็ได้เสร็จสิ้นไปแล้วเรื่องการรับมือกับเขาเธอค่อยว่ากันอีกที
"ไอ้ฑิตเราเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวมาลีเราเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว..เอาเงินเก้าบาทมากองสู่ขอกันซะเสร็จแล้วจะได้ผูกข้อไม้ข้อมือ"
ทองม้วนเป็นคนจัดแจงทุกอย่างหลังจากทำการสู่ขอกันเรียบร้อยทองม้วนจึงเริ่มการผูกข้อไม้ข้อมือหลานสาวเธอกับนิโคลัสต่อด้วยมาลีและพนาทุกคนในตอนนี้ต่างก็ใจจดใจจ่อว่าการครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่แต่ในใจลึกๆทุกคนก็เชื่อว่ายังไงเกวรินทร์ก็ต้องหาย
"อีหนูจุดธูป16ดอกบอกเค้าสิลูกว่าเราได้แต่งงานเรียบร้อยแล้ว"
"จ่ะย่า"
เกวรินทร์รีบรับธูปที่คนเป็นย่าส่งมาให้เดินลงจากบ้านพร้อมไฟแช็คสีเหลืองหนึ่งอันไปที่หน้าต้นไม้ใหญ่
"หวังว่าจะหายนะ...ขอแก้หนึ่งข้อก่อนแล้วกันนะเจ้าคะ"
สาวเจ้าคิดในใจขณะจุดธูปเธอรู้ว่าตอนนี้เธอยังคงแก้บนไม่ครบแต่ยังไงก็ได้ถือว่าทำตามสัจจะหนึ่งข้อแล้วยังไงก็ภาวนาให้เธอหายจากอาการนี้ก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน
หลังจากธูปติดสาวเจ้าก็นั่งหลับตาพนมมืออธิษฐานบอกชื่อนามสกุลและคำที่เธอเคยบนบานเอาไว้เมื่อไหว้เสร็จเกวรินทร์ก็กลับขึ้นมาบนบ้านนั่งรวมกลุ่มกับพ่อแม่และย่าของเธอทั้งสามใจจดใจจ่อมองไปที่เกวรินทร์ที่กำลังพยายามเปล่งเสียงแต่ก็ไม่เห็นจะเป็นผล
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ฟู่วววว...
จากที่คืนนี้เป็นคืนที่เงียบเชียบไม่มีแม้แต่เสียงลมและหรีดหริ่งเรไรจู่ๆลมแรงก็พัดมาวูบหนึ่งทำให้ทุกคนขนลุก
"ไอ้ฑิตชะเง้อดูซิธูปหมดยัง"
ทองม้วนเห็นว่านี่น่าจะเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างจึงให้พนาเดินไปที่ชานเรือนเพื้อที่ชะเง้อดูธูปที่หลานสาวเธอปักว่าไฟแดงๆที่ธูปหมดหรือยัง
"ธูปก็ดับหมดแล้วทำไมเจ้าเกวมันยังพูดไม่ได้ล่ะแม่"
สีหน้าพนาไม่ค่อยสู้ดีนัก
"นั่นสิจ้ะ...เมื่อไรหนูจะหายจากอาการบ้าๆนี่ซะที"เกวรินทร์เองก็หน้ามุ่ยห่อเหี่ยวหัวใจที่ตนพูดไม่ได้เสียที"อีหนู...เราพูดได้แล้วนี่นา"สิ้นเสียงเกวรินทร์ทุกคนต่างก็เบิกตาโพรงดีใจกันยกใหญ่ทั้งเจ้าตัวเองก็ตกใจและดีใจในคราวเดียวกัน"ได้ผลจริงๆด้วย.."มาลีเข้าไปสวมกอดลูกสาวเธอสีหน้าระรื่น"เย่ๆ..."เกวรินทร์ตื่นเต้นกระโดดไปมาที่เธอกลับมาพูดมีเสียงเสียทีนับว่าคำขอของเธอที่ขอแก้บนข้อเดียวก่อนมันได้ผลเช้าวันต่อมา"พวกคุณทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง" เป็นอย่างที่เกวรินทร์คิดเมื่อนิโคลัสตื่นขึ้นมาได้ก็ฏโมโหเอาการที่ถูกมัดมือชกเรื่องเมื่อคืนตอนนี้ทุกคนก็เอาแต่เงียบเพราะไม่มีอะไรจะแก้ตัวคำที่ดีที่สุดก็คือคำว่าขอโทษ"ทุกคนทำก็เพื่อช่วยฉันคุณอย่าโกรธเลยนะคะ...เห็นไหมพอฉันแต่งกับคุณฉันก็พูดได้เลย"เกวรินทร์พยายามทำให้นิโคลัสอารมณ์เย็นลงและบอกให้เขาเชื่อว่าสิ่งที่พวกเธอคิดมันไม่ผิดเรื่องลี้ลับมีจริและที่เธอหายเป็นปกติกลับมามีเสียงได้ก็เพราะเมื่อคืนแต่งงานกับเขา"เรื่องนี้จะไม่มีใครรู้ฉันสัญญา""เฮ้อ.."ชายหนุ่มร่างสูงยืนเท้าเอวปวดหัวหนึบไม่คิดเลยว่าจะมาเสียทีคนที่นี่ได้เขารู้ได้เลยว่านิสัยพิเลนๆของเกวริ
แกร๊กกก.. เมื่อเปิดประตูได้สาวเจ้าก็เงยหน้ามองชายร่างสูงด้วยสีหน้าสงสัย"คุณ...มีธุระอะไรคะ?""ฉันแค่จะมาบอกว่าหวังว่าเธอคงจะไม่ก่อเรื่องอะไรให้ฉันต้องมามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอีกนะเกวรินทร์"นิโคลัสเดินผ่านร่างบางเข้ามาในห้องของเธอก่อนจะทิ้งตัวนั่งไขว่ห้างลงบนโซฟาก่อนจะยื่นคำขาดกับหญิงสาวที่เดินตามมานั่งตรงข้ามกับเขา"เอ่อ...อืม..ค่ะ..น่าจะไม่มีแล้วมั้งคะ"เกวรินทร์เม้มปากกลอกตาไปมาเล็กน้อยก่อนจะรับปากด้วยสีหน้าระรื่นตอนนี้เธอยังไม่มีอะไรให้เขาต้องช่วยจึงยังไม่เอ่ยความจริงอีกข้อ"เตรียมตัวให้พร้อมฉันจะเดินทางในอีกสองวันระหว่างนี้เธอก็ต้องอยู่ที่นี่เพราะฉันขี้เกียจจะตามหาเธออีก""ค่ะ..ฉันจะเชื่อฟังคำสั่งคุณทุกอย่างเลยค่ะคุณเจ้านาย..."หญิงสาวเอ่ยเสียงแหลมด้วยสีหน้าระรื่นเช่นเดิม"อย่าลืมปรับบุคลิกใหม่ด้วยล่ะ...เป็นเลขาฉันต้องน่าเชื่อถือเข้าใจหรือเปล่า"นิโคลัสรู้ว่าเกวรินทร์ยังมีบุคลิกท่าทีคำพูดที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่มากนักเขาจึงต้องสั่งให้เธอปรับตรงนี้เพราะคนที่จะเป็นเลขาติดตามเขาตลอดต้องดูดีและน่าเชื่อถือ"ให้ฉันเป็นเลขาคุณเลยเหรอคะ"สาวเจ้าชะงักงันเบิกตาโพรงคราแรกคิดว่าเขาจะให้เธอทำงานใ
"ฉันขออยู่ตรงนี้ก็ได้คุณไปนอนเถอะอย่าปิดประตูล่ะเปิดประตูเอาไว้ให้ฉันตื่นมาเห็นคุณตลอด...ฉันกลัวเห็นใจฉันเถอะนะคะ"สาวเจ้ามองหน้าเจ้าของห้องด้วยสายตาอ้อนวอน"เกวรินทร์!"นิโคลัสเสียงแข็งใส่หญิงสาวอีกรอบ"นะคะ..ฉันไหว้ล่ะ"เธอยกมือไหว้คนตรงหน้าที่กำลังทำหน้าดุประหงกๆดูซิว่าเขาจะใจดำกับเธออีกได้หรือเปล่า"เฮ้อ...อย่ากวนฉันอีกละกัน"นิโคลัสเงยหน้ากรอกสายตามองบนก่อนจะเดินเข้าห้องนอนตัวเองไปเขาแง้มประตูเอาไว้ตามที่หญิงสาวบอกและกำชับกับเธออีกครั้งว่าห้ามกวนเขาอีกหากจะนอนที่นี่"ค่ะ..ขอบคุณนะคะ"สาวเจ้ายิ้มร่าและแล้วลูกอ้อนของเธอก็ทำให้เขาใจอ่อนจนได้ชั่วโมงต่อมา"หึ่.."นิโคลัสเดินถือผ้านวมอีกผืนออกมาจากห้องนอนเขาสบถในลำคอเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างบางนอนขดตัวอยู่บนโซฟาเขาคิดไม่ผิดว่าเธอคงต้องนอนหนาวเป็นแน่เพราะเขาเปิดแอร์ต่ำกว่า20องศาคนไทยอย่างเธอคงรู้สึกไม่โอเคเท่าไรแต่สำหรับเขาอากาศกำลังสบายนิโคลัสค่อยๆห่มผ้าให้เกวรินทร์ก่อนจะยืนเท้าเอวมองหน้าหญิงสาวที่หลับตาพริ้มครู่หนึ่งพรางคิดในใจว่าวันข้างหน้าเธอจะมีเรื่องอะไรให้เขาปวดหัวอีกหรือเปล่าก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปพักผ่อนเช้าวันต่อมา "อืม...ก็ใจ
"เอกสารฝากให้บอสด้วย"ระหว่างที่สองสาวนั่งคุยหัวร่อต่อกระซิกกันอยู่เอเลน่าเซลสาวสวยเซ็กซี่ประจำออฟฟิศก็เดินเอาเอกสารมากองตรงหน้าของเกวรินทร์บนโต๊ะของนุดีด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรเกวรินทร์พอจะมองออกว่าเอเลน่าไม่ชอบหน้าเธอตั้งแต่แรกพบแต่เธอก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรดีที่เธอและเอเลน่าไม่ได้ติดต่องานอะไรกันมากนักจึงไม่น่าอึดอัดเท่าไร"เอกสารอะไรเหรอคะ?"หญิงสาวแม้นจะรู้ว่าเอเลน่าไม่ชอบแต่ก็ยังคุยกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่เปื้อนด้วยรอยยิ้มทุกครั้ง"อ่านเอาสิฉันว่าเธอน่าจะมีสมองนะ"ว่าจบเอเลน่าสาวสวยในชุดเดรสรัดรูปสีดำสั้นจนแทบจะเห็นแก้มก้นก็เดินบิดสะโพกออกไป"หืม..."เกวรินทร์มองหน้ากับนุดีด้วยสีหน้าเอือมระอา"อย่าไปใส่ใจเลยเอเลน่านางก็เป็นแบบนี้หวงของทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเอง""ของ?..ของอะไรคะ""เอเลน่าเธอชอบบอสทุกคนที่นี่รู้ดีมีบอสน่าจะไม่รู้...ผู้หญิงคนไหนที่ได้ใกล้ชิดกับบอสจะถูกเธอเขม่นใส่ทุกคน"คราแรกนุดีก็ว่าจะไม่พูดแต่เห็นทีคงต้องพูดให้เกวรินทร์รู้ตัวเสียหน่อยไม่อย่างนั้นก็จะสงสัยแบบนี้ต่อไปว่าทำไมเอเลน่าถึงมีทีท่าไม่ค่อยชอบเกวรินทร์แบบนั้น"อ่อ...อย่างนี้นี่เองเกวจะพยายามไม่สนใจเธอละกันนะคะ"เ
18.30 น.RrrrrRrrrrrเกวรินทร์รีบเดินออกมาจากในครัวเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์"มีอะไรคะ"หญิงสาวเห็นว่าเป็นนิโคลัสโทรหาจึงรีบกดรับ"กลับบ้านหรือยัง""กลับมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วค่ะ""อืม...ฉันกำลังไปหา""มา..ท..."ตื้ดดยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามว่าเขามีธุระอะไรกับเธอปลายสายก็ตัดไปเสียก่อน"อ้าวนึกจะวางก็วาง"ทำเอาสาวเจ้าถึงเท้าเท้าเอวขมวดคิ้วไม่รู้ว่านิโคลัสจะรีบอะไรขนาดนั้นครู่ต่อมาไม่นานนักนิโคลัสก็ขับรถมาถึงบ้านหอบของพะลุงพะลังมากองไว้ตรงหน้าเกวรินทร์ที่ห้องนั่งเล่น"คุณโอดินไปซื้อของพวกนี้ให้ฉันเหรอคะ?"หญิงสาวเปิดดูแทบทุกถุงเห็นว่าเป็นพวกเครื่องแต่งตัวแม้นเธอจะไม่เคยใช้ของพวกนี้แต่เห็นชื่อแบรนด์ก็พอจะรู้ว่าของทั้งหมดนี่คงแพงน่าดู"อืม..""ชุดนี่ท่าจะแพงๆทั้งนั้นเลยย.. เอ่อ.. คุณจะหักเงินค่าชุดฉันหรือเปล่า"หากนิโคลัสอยากให้เธอใช้ของพวกนี้เธอก็ไม่ปฏิเสธเพียงแค่อยากรู้เท่านั้นว่าเขาจะมาหักเงินเดือนเธอหรือเปล่านี่แหละที่เธอกลัว"บอกว่าให้ก็คือให้""ขอบคุณมากค่ะ...พี่นุดีทำอาหารไทยมาให้ฉันเยอะเลยคุณอยู่กินข้าวเย็นกับฉันนะคะ"เมื่อได้ยินคำตอบที่ตรงใจสาวเจ้าก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะชวนชายหนุ่มท
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงได้สื่อกับเธอได้แต่เมื่อฉันสื่อกับเธอได้..ช่วยฉันเถอะนะถ้าคดีถูกตัดสินไปในทางที่ถูกฉันจะได้ไปสบายเสียทีไม่ต้องมาเร่ร่อนอยู่แบบนี้"ที่ณดายังไปไหนไม่ได้เพราะเธอยังไม่ได้รับความยุติธรรมเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมดวงจิตของเธอถึงได้สื่อสารกับเกวรินทร์ได้คนเดียวทั้งที่ก่อนหน้าพยายามติดต่อกับน้องสาวเธอแต่ไม่เป็นผล"ฉันขอทำใจสักแปปนะคะ"เกวรินทร์ได้ยินเรื่องเลวร้ายที่ณดาเจอเธอก็นึกโกรธแทนหญิงสาวแต่ตอนนี้หากจะให้เธอมีสมาธิคงต้องรอให้เธอตั้งสติอีกสักเดี๋ยวครู่ต่อมาตอนนี้ณดากำลังทำให้เกวรินทร์เห็นภาพและรับรู้ความรู้สึกของณดาขณะนั้นได้เกวรินทร์เห็นผู้ชายต่างชาติคนหนึ่งกำลังดึงณดามาที่สระว่ายน้ำหน้าบ้านหลังใหญ่ในตอนกลางคืน"คุณจะทำอะไร"ณดาพูดกับผู้ชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นความรู้สึกเจ็บปวดเสียใจของณดาทำเกวรินทร์ร้องให้ออกมาในตอนนี้ด้วยเช่นกัน"ฉันบอกให้เธอเอาเด็กในท้องออกไง"ผู้ชายต่างชาติคนนั้นเขาตวาดใส่ณดาจนเธอสะดุ้งตัวโยน"ไม่..ถ้าคุณไม่ต้องการฉันก็จะเลี้ยงเค้าเอง"เพี๊ยะ"อ๊ายยย.."ณดาถูกตบฉาดใหญ่จนเธอล้มไปกองอยู่ข้างสระน้ำ"พูดดีๆไม่รู้เรื่องใช่
วันต่อมาวันนี้เป็นวันทำงานเริ่มแรกของสัปดาห์เกวรินทร์ที่มาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าเธอก็มานั่งทำงานของเธอตามปกติที่โต๊ะทำงานหน้าห้องของนิโคลัสแต่ดูเหมือนหญิงสาวจะถูกจับตามองจากคนในบริษัทเป็นพิเศษเพราะเธอเล่นสวมใส่เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าและเครื่องประดับที่เป็นแบรนด์เนมราคาแพงทั้งตัวทั้งที่พึ่งจะเริ่มทำงานได้เพียงเดือนเดียวแต่ดูท่าหญิงสาวจะไม่ได้รู้ตัวว่าคนจะจับสังเกตเรื่องนี้เพราะในหัวตอนนี้มีแต่งานด้วยไม่อยากให้นิโคลัสดุอะไรเธออีกจึงต้องใส่ใจกับรายละเอียดของงานเป็นพิเศษไม่ให้ขาดตกบกพร่องอะไรไป"มาดูแม่เลขาบอสสิ""ทำไม"เฮลี่ย์เซลสาวเพื่อนรักกับเอเลน่าเห็นเอเลน่าเดินเข้ามาในออฟฟิศก็รีบดึงมือเพื่อนสาวเธอแกล้งเดินผ่านหน้าโต๊ะทำงานของเกวรินทร์"ดูแม่นั่นแต่งตัวสิ...เนื้อตัวคอลเลคชั่นใหมทั้งนั้นพึ่งเริ่มทำงานจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อนักหนาถ้าไม่มีใครให้"เฮลี่ย์เดินพาเอเลน่ามาถึงตรงหน้าโต๊ะทำงานของเกวรินทร์เธอก็กระซิบกระซาบกับเอเลน่าด้วยความอิจฉาตาร้อนแต่ดูเกวรินทร์จะไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่หันหลังเก็บแยกอกสารที่ตู้หลังโต๊ะทำงานเอเลน่าเห็นชุดที่เกวรินทร์ใส่แวบแรกเธอก็รู้ได้ทันทีว่าชุดที่หญิงสาวใส่เป
"คุณ..โอลิเวอร์ใช่หรือเปล่าคะ?"เมื่อพาแขกทั้งสองเข้าห้องมาได้เกวรินทร์ก็ตัดสินใจเอ่ยทักกับนิโคลัสน้ำเสียงค่อนข้างแข็งเพราะอยากจะได้คำตอบจากปากนิโคลัสว่าจะตอบอย่างไรหากเธอพูดถึงเรื่องของณดา"ครับผมโอลิเวอร์ยินดีที่ได้.. "โอลิเวอร์ยื่นมือมาทักทายเกวรินทร์เขาทระนงตัวคิดว่าเกวรินทร์น่าจะอยากสานสัมพันธ์ด้วยและเขาเองก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธอะไร"คุณรู้จักคุณณดาหรือเปล่าคะ"เกวรินทร์โพร่งถามโอลิเวอร์ขณะที่เขายังพูดไม่จบประโยคทำเอาเดฟและโอลิเวอร์ต่างก็มองหน้ากันด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก"ณดาเธอเคยเป็นพนักงานในบริษัทของผมแต่เธอเสียไปได้สองปีแล้วคุณถามทำไมเหรอครับ"โอลิเวอร์พยายามปั้นหน้ายิ้มไม่กระโตกกระตากเพราะเขายังไม่รู่ว่าที่หญิงสาวถามหาณดากับเขาต้องการอะไรกันแน่"เธอเสียเพราะอะไรเหรอคะ""อุบัติเหตุระหว่างทำงานน่ะครับ""โกหก...คุณนั่นแหละที่เป็นคนฆ่าเธอ"เกวรินทร์ได้ยินคำตอบของโอลิเวอร์เธอถึงกับฟิวส์ขาดชี้หน้าตะคอกใส่โอลิเวอร์จนตอนนี้มั้งเดฟและโอลิเวอร์มีท่าทางไม่พอใจหญิงสาวอย่างมากและตกใจมากไปในคราเดียวกันที่ไม่รู้ว่าหญิงสาวตรงหน้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร"กรุณาให้เกียรตินายผมด้วยเค้าไม่ใช่เพื้อ
"ยังไม่ได้ตรวจเลยย่า""ตอนนั้นพ่อเราก็อย่างนี้แหละอีหนู...ย่าว่าต้องท้องแล้วล่ะ"ทองม้วนค่อนข้างมั่นใจนิโคลัสเองก็ยืนยิ้มแก้มปริเมื่อรู้ตัวส่ากำลังมีทายาทกับคนที่ตัวเองรักส่วนเกวรินทร์คิดไปคิดมาเธอก็ไม่เจอเรื่องแปลกมาเป็นเดือนกว่าแล้วเหมือนกันคงจะจริงอย่างที่ย่าเธอว่าตอนนี้เธอมีลูกกับนิโคลัสอย่างที่อยากมีแล้วจริงๆ"เค้าเป็นยังไงล่ะลูกถึงไปตกหลุมรักเค้าได้"หลังมื้อเย็นมาลีและเกวรินทร์ก็ช่วยกันล้างถ้วยล้างชามเวลานี้มาลีจึงได้โอกาสถามไถ่เรื่องความรักของลูกสาวเธอด้วยอยากรู้เหมือนกันว่าลูกเธอไปรักไปชอบคนมีอายุรุ่นราวคราวพ่ออย่างนิโคลัสได้อย่างไร"ตอนแรกก็ดูดุจนน่ากลัวแต่พอรู้จักจริงๆเค้าอบอุ่นมากเลยจ่ะแม่...ขี้บ่นนิดหน่อยแต่มีปัญหาทีไรเป็นเค้าที่ช่วยเหลือหนูทุกครั้ง""อืม... เห็นลูกสาวแม่มีความสุขแบบนี้แม่ก็ดีใจ"มาลีเห็นลูกสาวเธอพูดถึงนิโคลัสไปยิ้มไปก็รีบรู้ได้ว่าลูกเธอคงมีความสุขที่จะรักนิโคลัสจริงๆไม่ใช่เพียงแค่ผูกพันธ์เพราะความใกล้ชิดเท่านั้นเธอรู้อย่างนี้ก็ค่อยโล่งใจที่เกวรินทร์ไม่ได้รู้สึกแค่ชั่ววูบส่วนนิโคลัสมาลีก็วางใจที่เขาเป็นคนดูแลลูกของเธอเพราะนิโคลัสเป็นผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะและ
"ทำไม...รักฉันไม่ใช่หรือไง"นิโคลัสรีบรัดร่างบางมากอดเอาไว้ก่อนที่จะก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลด้วยน้ำเสียงแหบพร่า"...การที่ฉันบอกรักไม่ใช่ว่าฉันจะง่ายกับคุณที่ยังไม่ได้รักฉันตอบนะ""ใครบอกว่าฉันไม่ได้รักเธอ...ยัยเด็กบ้าเอ้ย..ฉันต้องวุ่นวายใจก็เพราะเธอ""คุณนิค...จ...จริงเหรอคะ"ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความดีใจที่ได้ยินคำว่ารักจากปากของคนที่เธอมีใจให้เขานิโคลัสพยักหน้าเบาๆทั้งรวบรัดร่างบางบดจูบให้ชื่นใจอีกรอบ"อื้อ..."คนตัวโตที่กำลังมีอารมณ์รักพลุ่งพล่านอีกรอบในรอบหลายปีเขาผละริมฝีปากออกมามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาหยาดเยิ้มไม่ได้อยากหยุดการกระทำแม้นแต่วินาทีเดียวแต่เห็นว่าคนอ่อนประสปการณ์กำลังหายใจไม่ออกจึงจำใจต้องหยุดให้เธอได้สูดอากาศเข้าปอดฟู่วว..หายใจไม่ออก""ฉันว่าต้องสอนกันอีกเยอะ""อื้อ.."เมื่อเห็นหญิงสาวได้ออกซิเจนพอประมาณแล้วนิโคลัสก็รีบอุ้มร่างบางเข้าห้องนอนค่อยๆวางร่างบางนอนราบกับฟูกประสานมือทั้งสองของเขากับมือเรียวของหญิงสาวเขาบดจูบดูดดึงริมฝีปางบางด้วยความนุ่มนวลอีกรอบค่อยๆสอดส่ายลิ้นร้ายตวัดฉกชิมความหวานเป็นระยะจนตอนนี้หญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างคนตัวโตรู้สึกถึงอารมณ์แห่งความสุ
"นอนทับแขนฉันทั้งคืนยังจะแกล้งกวนฉันอีกเหรอ"ดวงตาคมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะบ่นหญิงสาวที่เธอเล่นนอนดิ้นไปมากวนเขาจนนอนไม่หลับจนต้องรวบตัวกอดเอาไว้กว่าจะหลับได้ก็เกือบฟ้าสางพอตื่นมาก็ยังไม่หยุดกวนเขาอีก"เอ่อ...ฉันขอโทษค่ะไม่รู้ว่ามานอนติดคุณตั้งแต่เมื่อไร...น่าจะสายแล้วฉันไปล้างหน้าก่อนนะคะ"เกวรินทร์ก้มหน้างุดไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธอกำลังเขินจึงรีบลุกยืนขึ้นหมายจะออกไปจากห้องเพื่อไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำแต่ก็ถูกนิโคลัสดึงมือไว้เพราะเขาก็จะไปเหมือนกัน"อืม...ฉันไปด้วย"ทั้งสองเลื่อนประตูออกจากห้องมาพร้อมกันแล้วก็ต้องชะงักงันกันไปทั้งคู่เมื่อเห็นว่านุดีและแดเนียลนั่งอยู่ที่กลางบ้าน"เอ่อ...คือเมื่อคืน..เอ่อ...ไม่ใช่อย่างที่คิดนะคะ"เกวรินทร์เห็นสายตาของแดเนียลและนุดีก็รู้เลยว่าทั้งคู่กำลังคิดอะไรอยู่จึงรีบอธิบายด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก"อาเห็นว่าเกวนอนไม่หลับเลยมานอนเป็นเพื่อนเท่านั้น"นิโคลัสเอ่ยเสริมช่วยเกวรินทร์อีกแรงเพราะไม่อยากถูกมองไม่ดีไม่คิดว่าทั้งสองจะมานั่งรอแบบนี้"อ๋อ.. ครับนอนเป็นเพื่อน"แดเนียลอมยิ้มกริ่มทั้งส่งสายตาหยอกเย้าคนเป็นอาก่อนจะหันมายิ้มกับนุดี"เอ่อ...เราไปเดิ
"ดี...ตามมาเลย"เกวรินทร์เห็นนิโคลัสพูดคุยด้วยสีหน้าระรื่นกับยูกิเธอก็รู้สึกว่าบรรยากาศในร้านค่อนข้างอึดอัดสำหรับเธอพอสมควรเลยยิ้มไม่ค่อยจะออกเท่าไร"เธอเป็นใครเหรอคุณแดเนียลทำไมดูสนิทกับคุณนิคจัง"หลังจากที่นิโคลัสตามยูกิไปในครัวแล้วเกวรินทร์ก็ได้ทีถามแดเนียลให้หายคาใจ"เป็นเพื่อนกับคุณอาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วน่าจะเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่สนิท""สนิทแบบแค่เพื่อนจริงเหรอ"เกวรินทร์รู้มาว่านิโคลัสไม่ค่อยสุงสิงกับผู้หญิงทั้งยังรักความเป็นส่วนตัวการที่เขาจะสนิทกับยูกิเธอคิดว่าไม่น่าจะใช่เพื่อนธรรมดา“อืม..ก็คุณยูกิเธอไม่ได้ชอบผู้ชายแถมมีนิสัยแบบผู้ชายด้วย”แดเนียลยืนยันว่ายูกิเป็นเค่เพื่อนของอาเขาจริงๆเพราะยูกิไม่ได้ชอบผู้ชาย“อืม..เข้าใจแล้วค่ะ”เกวรินทร์แอบอมยิ้มอ่อนเธอรู้แบบนี้ก็ค่อยลดอาการอึดอัดหัวใจลงได้หน่อยนุดีมองหน้ากับแดเนียลทั้งคู่อมยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัยรู้ว่าทำไมเกวรินทร์ถึงอยากจะรู้นักว่านิโคลัสและยูกิมีความสัมพันธ์เป็นแบบไหนที่นั่งหน้ามุ่ยก่อนหน้าคงเป็นเพราะแอบหวงนิโคลัสเป็นแน่ครู่ต่อมาตอนนี้เกวรินทร์นั่งอยู่คนเดียวเพราะนุดีและแดเนียลเดินออกจากร้านไปหาซื้อของว่างมานั่งท
โรงพยาบาล"พี่นุดีคะสบายใจได้แล้วนะคะริตารับสารภาพแล้วว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกคุณแดเนียล"เกวรินทร์รับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากการคุยโทรศัพท์กับนิโคลัสเมื่อครู่ก็รีบมาบอกความจริงให้นุดีรู้ว่าสองแม่ลูกนั่นหลอกลวงให้นุดีสบายใจได้ว่าแดเนียลไม่ได้โกหก"อืม...ตอนนี้พี่แดนเป็นยังไงบ้าง"ตอนนี้นุดีค่อนข้างห่วงสภาพจิตใจของแดเนียลมากกว่าว่าจะเป็นอย่างไรเพราะเธอรู้ว่าแดเนียลรักแม่ของเขามากยิ่งรู้ว่าการตายของแม่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุแต่เกิดจากการถูกฆาตกรรมสภาพจิตใจแดเนียลจะเป็นอย่างไร"คุณนิคบอกว่าค่อนข้างเครียดค่ะ""พี่อยากไปหาพี่แดน""อย่าพึ่งขยับตัวค่ะ...ตอนนี้คุณนิคกับคุณแดเนียลกำลังกลับมาค่ะ"เกวรินทร์รีบห้ามไม่ให้นุดีลุกเพราะตอนนี้หมอยังไม่ให้นุดีขยับตัวแกร๊กก"คุณแดเนียลมาพอดีเลยเกวขอตัวนะคะ"เกวรินทร์เห็นแดเนียลเปิดประตูเข้ามาพอดีเธอจึงขอตัวออกจากห้องไปเพราะรู้ว่าทั้งสองมีเรื่องที่จะต้องคุยกันเป็นการส่วนตัวส่วนเธอก็ออกมานั่งคุยกับนิโคลัสด้านนอก"สองแม่ลูกนั่นร้ายเหมือนกันนะคะ""นี่แหละความอยากได้อยากมีจนหน้ามืดตามัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี"นิโคลัสรู้เลยว่าความอยากได้อยากมีของคนมันทำให้เห็นแก่
"เธอตั้งครรภ์อ่อนๆประมาณหกสัปดาห์แล้วช่วงนี้ต้องระวังให้มากนะคะ""หา..."แดเนียลอ้าปากค้างดีใจและเสียใจไปในเวลาเดียวกันเพราะวันที่เขารู้ว่าเขามีลูกแต่ดันเกือบจะเสียลูกไปเสียอย่างนั้นเพราะคนนิสัยเสียสองแม่ลูกนั่นยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเจ็บใจ"จะหาอะไรล่ะคะคุณกำลังจะมีลูกไม่ดีใจหรือไง""เธอรู้"แดเนียลตกใจกว่าที่รู้ว่าเกวรินทร์รู้แสดงว่าก่อนหน้านี้นุดีก็ต้องรู้ตัวแล้วแต่ยังไม่ได้บอกกับเขา"อืม.."หญิงสาวพยักหน้ารับเบาๆ"เดี๋ยวแล้วเธอทำไมไม่บอกฉันจะได้ให้นุดีหยุดทำงาน"นิโคลัสดึงเกวรินทร์มาคุยนี่ถือเป็นเรื่องร้ายแรงหากนุดีท้องที่จริงจะต้องแจ้งกับเขาจะได้ให้เธอหยุดงานแต่นี่เท่ากับหญิงสาวทั้งสองช่วยกันปกปิดดีที่ตอนนี้ลูกในท้องนุดีไม่เป็นอะไรไม่อย่างนั้นเขาคงรู้สึกผิดกว่านี้แน่เพราะก่อนหน้านี้ให้นุดีจัดการงานหลายเรื่องโดยไม่รู้ว่าเธอท้องอ่อนๆ"ก็พี่นุดีไม่ให้บอกใครไงคะเธอบอกว่าจะเซอร์ไพรซ์คุณในวันเกิด"เกวรินทร์ไม่ใช่ไม่อยากบอกแต่เธอถูกนุดีของเอาไว้ต่างหากและเธอก้ไม่รู้ด้วยว่าสองแม่ลูกนั่นจะมาทำเรื่อง"อาว่าต้องรีบทำอะไรให้มันจบเร็วๆแล้วล่ะ"นิโคลัสยกมือจับบ่าแดเนียลเห็นทีเรื่องของริตาแดเนียลต้องร
“เอ่อ...คุยอะไรเหรอคะ?”นุดีถึงกับไปไม่เป็นเมื่อเกือบถูกจับได้“เปล่า...ผมถามไปอย่างนั้น”“เกวออกมาแล้วไปเตรียมตัวถ่ายกันดีกว่าค่ะ”นุดีรีบลุกหนีจากนิโคลัสเมื่อเห็นเกวรินทร์ออกมาจากโซนแต่งตัวเพราะกลัวว่าหากเธอเผลอพูดอะไรมากไปคงถูกนิโคลัสสงสัยแน่นอนว่าเธอกำลังช่วยเหลือเกวรินทร์อยู่ครึ่งชั่วโมงต่อมาตอนนี้ถึงขั้นตอนการถ่ายทำของฉากแรกอาเทอร์ผู้กำกับหนุ่มฝีมือดีจัดฉากให้เกวรินทร์และนิโคลัสนอนหลับกันอยู่บนเตียงโดยให้นิโคลัสรวบกอดหญิงสาวจกทางด้านหลังและมีเดนิสคลานอยู่ใกล้ๆ"คุณนิโคลัสกอดแน่นอีกนิดครับคุณเกวอย่าพึ่งลืมตาปล่อยให้เดนิสคลานเล่นบนตัวพวกคุณเลย"เกวรินทร์รีบหลับตาปี๋เมื่ออาเทอร์ตะโกนให้เธอหลับตาตอนนี้ทั้งสองนอนตัวเกร็งกันพอสมควรเพราะไม่เคยใกล้ชิดกันต่อหน้าคนอื่นแบบนี้มาก่อนหลังจากถ่ายฉากบนเตียงเสร็จตอนนี้ทุกคนก็ออกจากบ้านมาถ่ายที่สวนหน้าบ้านต่อแต่กว่าจะผ่านฉากบนเตียงอาเทอร์ก็ต้องบรีฟทั้งสองนานอยู่พอสมควร"พูดคุยอะไรกันก็ได้ครับแต่ขอให้ใบหน้ายิ้มเข้าไว้"ตอนนี้อาเทอร์ให้ทั้งสามนั่งปิกนิคกันที่สวนหน้าบ้านก่อนเริ่มถ่ายเขาก็บอกให้เกวรินทร์และแดเนียลพูดคุยอะไรกันก็ได้แต่ขอให้ยิ้มแย้ม
"ฉันไม่ได้ยอมรับว่าเอาเนื้อตัวเข้าแลกไม่ได้มีความคิดอย่างที่เธอคิดจะทำ...ฉันแค่ทำงานให้ดีแค่นี้บอสก็เอ็นดูแล้ว...แล้วถ้าคนที่บอสเอ็นดูมากๆอย่างฉันบอกไปฟ้องบอสว่าเธอพูดอะไรไว้บ้างและก็แอบเป่าหูบอสว่าเธอไม่สมควรทำงานที่นี่ต่อไปบอสก็คงเชื่อฉัน"เอเลน่าเงียบไม่ได้ตอบโต้อะไรเกวรินทร์กลับเพราะเธอรู้ว่าช่วงที่นิโคลัสป่วยเกวรินทร์เป็นคนดูแลใกล้ชิดหากเธอต้องถูกไล่ออกตอนนี้คงไม่ดีแน่เพราะบริษัทนี้สร้างเงินให้เธอไม่น้อย"ที่แท้ก็ไม่แน่จริง..คนแบบนี้ใครได้ใกล้เป็นประสาทเสีย"“เอเลน่าคงไม่กล้าแล้วล่ะขอบใจนะเกว”สองสาวรู้ว่าคนอย่างเอเลน่าเก่งแต่ปากแต่ความเก่งแต่ปากของเธอก้ทำคนอื่นประสาทได้เช่นกันเกวรินทร์จึงต้องอ้างนิโคลัสขู่เอาไว้ก่อนเพราะใช้วิธีนี้ทีไรก็ได้ผลทุกทีไปบ้านริตา“เรียกฉันมามีอะไรจะคุย”รัตนาเข้ามาหาริตาที่บ้านได้ก็รีบถามถึงธุระสำคัญที่ลูกสาวเธอจะคุยด้วยทันที"คุณแม่คะริตามีเรื่องจะปรึกษาค่ะ""มีอะไร...""คือ..ริตาท้องค่ะ""ห้ะ...จริงเหรอลูกแดเนียลใช่ไหม"รัตนายิ้มร่าเพราะคิดว่าลูกในท้องของริตาคือลูกแดเนียล"ไม่ใช่ค่ะ..."ริตารับส่ายหัวก่อนที่แม่เธอจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้"อะไรนะ"ริต
"โอ้โห...ใช้วิธีนี้เลยเหรอเกว"นุดีถึงกับอยากเจอย่าของเกวรินทร์จริงๆหลังจากที่ฟังนิโคลัสเล่าจบรู้เลยว่านิสัยแก่นแก้วของเกวรินทร์ได้มาจากใคร"ก็ตอนนั้นอยากหายนี่คะ...อ่อคุณแดเนียลกับพี่นุดีต้องปิดเรื่องนี้ให้เงียบเลยนะคะ""ต้องปิดอยู่แล้ว...ใครจะเชื่อว่าอาฉันเสียท่าให้เธอ..ฮ่าๆๆ"แดเนียลแอบตกใจกับวิธีการที่ทางบ้านเกวรินทร์จัดการกับอาของเขาเหมือนกันแต่ก็มองเป็นเรื่องตลกที่น้อยคนจะมาลบเหลี่ยมอาของเขาได้"ขำอะไรแดเนียล"นิโคลัสส่งสายตาคาดโทษให้หลานชายตนเล็กน้อย"เปล่าครับ""เกว..ยังไงฉันก็มีลูกกับเธอไม่ได้เราไม่ได้รักกัน"นิโคลัสยืนยันกับเกวรินทร์ต่อหน้านุดีและแดเนียลให้ได้ฟังพร้อมกันว่าอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะมีลูกกับญิงสาวได้เพราะการมีลูกเท่ากับมีพันธะผูกพันธ์กันไปชั่วชีวิต"เอ่อ...นั่นสิคะเราไม่ได้รักกัน...แต่...ถ้าเราต้องเจออะไรแบบนี้อีกล่ะ...คุณแดเนียลกับพี่นุดีคิดว่ายังไงคะ"คำว่าไม่ได้รักกันของนิโคลัสทำเอาเกวรินทร์หน้าเสียพอสมควรแต่เธอจะให้เธอทำอย่างไรถ้าหากไม่แก้บนให้มันเสร็จเธอก็จะต้องเจอเรื่องลี้ลับแบบนี้ไปตลอดไม่รู้ว่านิโคลัสจะเห็นใจเธอบ้างหรือเปล่า"พี่ก็ไม่รู้จะหาทางออกยังไงเล