Share

ตอนที่19 เจ็บปวด

“ลูกสาวพี่โอบกับพี่อินไงคะตอนนี้ได้หกเดือนแล้วกำลังจ้ำม่ำเลยนะคะ”

“อะไรนะ” สิ้นเสียงอ่อนของน้องสาวน้ำตาเจ้ากรรมในดวงตาคมก็รื้นออกมากะทันหัน

เย็นของวัน

หลังจากที่เจ้าเอยคุยกับอิทธิกรถึงความจริงที่ผ่านมาไม่นานนักอินทิราก็หอบลูกน้อยมาหาอิทธิกรที่โรงพยาบาล

ชายหนุ่มเห็นหน้าอินทิรากับลูกได้ก็โผเข้ากอดด้วยความรู้สึกผิด

“ผมขอโทษ..” คำพูดของโทษของอิทธิกรกรออกมาจากปากของเขาไม่รู้กี่สิบครั้งตอนนี้เขานั่งอุ้มเจ้าก้อนกลมอยู่บนเตียงยิ่งมองตาแป๋วของลูกสาวตนที่ยังไร้เดียงสาความรู้สึกผิดก็จุกอกระบายออกเป็นน้ำตาลูกผู้ชายครั้งแล้วครั้งเล่า

“ไม่ต้องขอโทษอะไรเราแล้วค่ะอินเข้าใจ...ต้องขอบคุณเอยนะคะที่ยอมพูดความจริงไม่อย่างนั้นอินกับลูกก็จะไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว” อินทิราจับมือหนาของอิทธิกรเอาไว้หลวมๆที่เห็นเขาร้องห่มร้องให้อยู่พักใหญ่ไม่ยอมหยุด

สามวันต่อมา

เพนท์เฮ้าส์

เหนือเมฆพาน่านน้ำที่พึ่งออกจากโรงพยาบาลมาพักที่เพนท์เฮ้าส์เขาจ้างพยาบาลส่วนตัวมาดูแลน้องชายของเขาสองคนและหวังว่าพยาบาลทั้งสองจะปราบพยศน้องชายของเขาให้ทานข้าวทานยาให้ตรงเวลาได้

“ทีนี้อยากจะซ่าไปแข่งรถอีกหรือเปล่า” เหนือเมฆยืนกอดอกมองน้องชายของเขาที่นอนแผ่หลายมีเฝือกอยู่ที่ขาสองข้างด้วยสีหน้าระอาเขาไม่เข้าใจว่าทำไมน้องชายของเขาถึงได้ชอบนักไอ้พวกกีฬาที่มันท้าทายความตาย

“ไม่ได้มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุนี่ครับพี่...แล้วเรื่องคดีว่าไงครับ” น่านน้ำว่าจะถามเรื่องนี้กับพี่ชายของเขาอยูพอดีว่าอิทธิกรได้รับผิดอะไรบ้างที่ทำเขาเจ็บปางตายแบบนี้

“ฉันไม่ได้เอาเรื่อง”

“ได้ไง...ผมเกือบตายนะครับ” ใบหน้าคมมองคนเป็นพี่ด้วยความไม่พอใจเขารู้ว่าพี่ชายของเขาก็ไม่ค่อยชอบหน้าอิทธิกรแต่ทำไมไม่ยักจะเอาผิดคนผิด

“มันก็เกือบตายเหมือนกันนั่นแหละ” ว่าจบก็เดินหันหลังกลับเพราะไม่อยากให้น้องชายตนถามหาเหตุผลอะไรต่อ

“โถ่..” น่านน้ำหน้านิ่วคิ้วขมวดเจ็บใจที่คนทำเขาเจ็บไม่ได้รับผิดตอนนี้เขาขุ่นเคืองอิทธิกรอยู่ไม่น้อยที่ทำให้เขาต้องมานอนเป็นผักไม่ได้ใช้ชีวิตสนุกเหมือนอย่างเคยแม้นจะรู้ว่าอีกฝ่ายเจ็บหนักกว่าและทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุก็เถอะ

หลายวันต่อมา

ตอนนี้อิทธิกรได้ออกจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่บ้านหลายวันแล้วโดยมีอินทิราเป็นคนคอยดูแลส่วนเจ้าเอยก็เริ่มเปิดเรียนแล้วคนที่หัวหมุนที่สุดในบ้านตอนนี้เห็นจะเป็นอินทิราเพราะไหนจะต้องคอยดูแลอิทธิกรและไหนจะลูกเล็กอีก

“นอนนะคะเด็กดี” อินทิรากล่อมลูกน้อยที่ตื่นมากลางดึกให้หลับลงในอ้อมอก

“ผมขอโทษที่ช่วยอะไรคุณไม่ได้เลย” อิทธิกรเองตื่นตามคนเป็นภรรยาเขาอบากแบ่งเบาภาระของเธอบ้างแต่ก็ยังเดินเหินหรือทำอะไรไม่ถนัดเท่าไร

“ไม่เป็นไรเลยค่ะ...อินสุขใจมากกว่าค่ะคุณไม่ต้องกังวลว่าอินจะเหนื่อยนะคะ” สาวเจ้าเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อน

“....” อิทธิกรสวมกอดร่างบางจากด้านหลังเขาจะพยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรงไวๆหลังจากนี้เขาปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ยอมทำอาชีพเสี่ยงตายอีกแวหากหายดีเมื่อไรเขาจะหาการหางานทำเป็นหลักเป็นแหล่งแม้นมันอาจจะได้เงินน้อยกว่าการแข่งรถแต่เขาก็ไม่ต้องไปเสี่ยงชีวิตในสนามแข่งที่ไม่รู้เลยว่าหลังจบการแจ่งจะได้มีชีวิตมาเจอครอบครัวอีกหรือเปล่า

วันต่อมา

มหาวิทยาลัยXXX

หลังเลิกเรียนช่วงเช้าตอนนี้ข่าวงานแต่งงานของเหนือเมฆและพีรยาว่อนเน็ตจนเกวรินทร์และทรายแก้วสุมหัวกันดูเป็นการใหญ่

“นี่เค้าจะแต่งงานจริงๆหรอก...หรือว่าท้องก่อนแต่ง” ทรายแก้วไม่อยากจะเชื่อข่าวเท่าไรเพราะเธอก็พอจะรู้จักผู้ชายกลุ่มของเหนือเมฆดีเพราะเป็นพวกเดียวกับแทนไทเหล่าคุณชายไฮโซที่มีข่าวออกมาบ่อยๆหญิงสาวไม่คิดว่าเหนือเมฆจะแต่งงานกับใครง่ายๆเพราะเห็นเดี๋ยวควงคนโน้นทีคนนี้ทีมีพักหลังไม่กี่เดือนเริ่มซาลงบ้าง

“ไหน..แกว่าผู้หญิงท้องจริงหรอก..” เกวรินทร์มองหน้าทรายแก้วก่อนจะเอ่ยถามอย่างอยากรู้

“ใครหรอก” เจ้าเอยที่เห็นเพื่อนทั้งสองที่นั่งตรงข้ามคุยกันอย่างออกรสจนเธอเริ่มอยากรู้เสียแล้วว่าทั้งสองกำลังพูดถึงใครอยู่

“ก็พี่ชายคุณน่านน้ำกับคุณพลอยคู่หมั้นเค้าไง”

“หืม..” สิ้นเสียงทรายแก้วเจ้าเอยก็ตัวชาวาบหูอื้อเหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่มีแต่ความเจ็บปวดเธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอเมื่อรู้ว่าคนที่เธอแอบหลงรักเขากำลังจะแต่งงานกับคู่หมั้นแล้วเขามีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไรทำไมเธอไม่ยักจะเคยได้รู้

เย็นของวัน

เจ้าเอยมาถึงบ้านได้เธอก็บอกกับทุกคนว่าเธอปวดหัวขอนอนพักและไม่ทานข้าวเย็นก่อนจะดุ่มๆเข้ามาในห้องด้วยท่าทีและสีหน้าที่ห่อเหี่ยว

"ฮือๆๆๆ.." เมื่อเข้าห้องมาได้ร่างบางก็กอดหมอนปล่อยโฮสะอึกสะอื้น

ข่าวของชายหนุ่มยิ่งตอกย้ำให้เธอรู้ว่าเธอมันเป็นแค่ของเล่นของเขาจริงๆไม่มีทางเป็นได้มากกว่านั้น

RrrrRrrrr

"......" ระหว่างที่ร้องให้ได้พักใหญ่ก็มีสายจากเหนือเมฆเข้ามาเธอตัดสินใจกดปิดมือถือเพื่อหนีความจริงในตอนนี้

หลายวันต่อมา

เจ้าเอยพยายามตัดขาดการติดต่อจากเหนือเมฆเพราะเธอไม่อยากปวดหัวใจกับการที่ต้องมานั่งคิดเรื่องของเขา

"เอยไปเรียนแล้วนะคะ" เจ้าเอยแต่งตัวไปเรียนตั้งแต่เช้าเพราะการที่ได้เจอเพื่อนๆทำให้เธอลืมเรื่องทุกข์ใจไปไม่น้อย

"ทานข้าวก่อนสิเอย" อินทิราที่กำลังวางถ้วยข้าวต้มหมูบนโต๊ะอาหารเธอเห็นว่าเจ้าเอยกำลังรีบร้อนจะออกจากบ้านจึงเรียกไว้เสียก่อนเพราะเห็นว่าช่วงนี้เจ้าเอยไม่ค่อยทานอาหารเช้า

"เอยไม่หิวค่ะพี่อินเอยไปนะคะ.." เจ้าเอยหันมายิ้มอ่อนให้คนเป็นพี่สะใภ้และรีบเดินออกไปทันที

อินทิรารู้สึกว่าเจ้าเอยสีหน้าดูเศร้ามาหลายวันยังไงหลังจากนี้เธอต้องหาโอกาสคุยกับเจ้าเอยให้ได้ว่าเธอมีปัญหาอะไรกันแน่

บริษัทxxx

"พึ่งจะประชุมเสร็จจะรีบไปไหนของเค้า" พชรที่เดินตามเจ้านายหนุ่มของตนออกจากห้องประชุมได้เขาก็ต้องหยุดยืนดูเจ้านายของเขาเดินดุ่มๆกดลิฟท์ลงไปชั้นลานจอดรถ

ไม่รู้ว่าเจ้านายของเขามีปัญหาอะไรเพราะดูท่าสองสามวันมานี้จะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรแถมวันนี้ยังเร่งการประชุมให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเสร็จแล้วจะไปไหนก็ไม่พูดไม่จาครั้นเขาจะถามก็ไม่ทันเสียแล้ว

15.00 น.

"แล้วจะได้เห็นดีกัน" เหนือเมฆขับรถหรูเข้ามาในมหาวิทยาลัยของเจ้าเอยด้วยอารมณ์ครุกรุ่นก่อนจะมาจอดที่หน้าคณะของหญิงสาว

"เอย...อย่าลืมบอกพี่อินล่ะว่าพวกเราจะไปหา" สามสาวเดินลงมาจากตึกในช่วงบ่ายหลังเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จก่อนจะแยกกันกลับทรายแก้วก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยเตือนเจ้าเอยให้เกริ่นกับอินทิราเอาไว้ว่าพรุ่งนี้เธอและเกวรินทร์จะไปหาหลานตัวน้อยที่บ้าน

"ย้ำรอบที่สิบแล้ว..เดี๋ยวฉันบอกให้ไม่ต้องห่วงหรอก" เจ้าเอยยิ้มอ่อนที่เพื่อนเธอย้ำเป็นรอบที่สิบเห็นจะได้

"ไปกับฉัน" เหนือเมฆลงจากรถเดินดุ่มๆมากระชากแขนเจ้าโอยโดยที่ไม่สนสายตาของนักศึกษาหลายคนที่กำลังเดินลงมาจากตึก

"ปล่อยค่ะ" เจ้าเอยหน้าเสียไม่น้อยไม่คิดว่าเหนือเมฆจะมาหาเธอถึงที่นี่

"เดี๋ยวค่ะคุณจะพาเพื่อนฉันไปไหนคะ" ทรายแก้วกับเกวรินทร์ขวางหน้าเหนือเมฆเอาไว้ไม่ยอมให้เขาลากเพื่อนเธอไปง่ายๆทั้งยังแปลกใจไม่น้อยว่าทำไมเหนือเมฆต้องมาฉุดกระชากลากเพื่อนเธอแบบนี้ด้วย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status