"ไม่มีอะไรค่ะแค่อยากมีเงิน" ว่าจบดวงตาน้อยๆก็หลุบมองต่ำอย่างเหนื่อยใจหากเธอรวยกว่านี้สักหน่อยคงไม่ยากเลยที่จะจัดการปัญหาของเพื่อนรักเธอได้
ไม่ว่าจะเป็นออกค่ารักษาพี่ชายของเจ้าเอยและออกค่าคนงานให้เกวรินทร์หากเธอมีเงินเธอจะช่วยโดยไม่คิดเลย
"จะเอาเท่าไร...จะให้ยืม" แทนไทยิ้มอ่อนเขาเสนอจะช่วยหญิงสาวโดยไม่ต้องคิดเพราะอย่างทรายแก้วเรียนอยู่แค่ปีหนึ่งเงินที่ต้องการตอนนี้คงๆม่ถึงห้าแสนเขามีให้เธอได้ยืมหรือให้ได้เลยสบายๆ
"จ..จริงหรอกคะ?" คนตัวเล็กที่แก้มสองข้างป่องเพราะมีอาหารเต็มปากรีบเคี้ยวอาหารและรีบกลืนก่อนจะรีบถามชายหนุ่มตรงหน้าให้แน่ใจอีกครั้งว่าที่เขาพูดกับเธอเขาพูดจริงหรือพูดเล่น
"อืม...เราก็รู้ว่าพี่มีเงิน"
"....." ทรายแก้วดีใจที่แทนไทจะช่วยเธอจริงๆแต่คำพูดของเขาเมื่อครู่ก็ทำให้เธออดว่าเขาว่าอวดรวยในใจไม่ได้
"คิดอะไรอยู่หรือเปล่า" แทนไทจ้องมองคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องมองเขานิ่งจนเขามองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
"อ่อเปล่าค่ะ.." ทรายแก้วรีบส่ายหัวหงึกหงัก
"จะเอาเท่าไรว่ามา"
"สองแสนค่ะ"
"ซื้อของแบรนด์เนมหรอก" แทนไทคิดเอาไว้ไม่ผิดคาดว่าเธอน่าจะขอไม่เกินห้าแสนแต่ก็อยากรู้คำตอบว่าเธอต้องการเงินไปทำอะไร
"เปล่าค่ะ"
"จ่ายค่าเทอม"
"ไม่ใช่ค่ะ.. แค่จะเอาไปช่วยเพื่อนพอดีเพื่อนฉันติดหนี้แถมเจ้าหนี้ก็น่าจะโหดด้วย"
"อ๋อ.. อย่างนี้นี่เอง" ใบหน้าคมพยักหน้าเบาๆคิดไม่ถึงว่ายัยตัวเล็กนี่คิดจะช่วยเหลือเพื่อนได้ขนาดนี้
"เอาเป็นว่าเงินนี้พี่ให้เธอส่วนเราก็มาทำความสะอาดเพนท์เฮ้าส์ให้พี่หลังเลิกเรียนสักอาทิตย์ละสามวันก็แล้วกัน" เมื่อเห็นคนอยากทำดีเขาก็ไม่นึกเสียดายเงินส่วนนี้เอาเป็นว่าเขาจะยกให้เธอขอแค่ให้เธอทำอะไรตอบแทนเขานิดหน่อยเท่านั้น
"ตกลงค่ะ... ขอบคุณนะคะ." ร่างบางรีบลุกวิ่งอ้อมโต๊ะทานข้าวมาหาแทนไทยกสองมือพนมขอบคุณยกใหญ่
"ไม่เป็นไร...ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอก" แทนไทยิ้มกริ่มรู้สึกขบขันกับท่าทีน่าเอ็นดูของหญิงสาว
"ฉันขอข้าวเพิ่มนะคะ" หลังจากขอบคุณชายหนุ่มจบทรายแก้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะตักข้าวใส่จานจนพูนด้วยเรื่องกังวลหายเป็นปลิดทิ้งตอนนี้เธอก็ทานอะไรได้เต็มที่
"อืม.." แทนไทรีบตักกับข้าวใส่จานคนตัวเล็กรู้ได้ทันทีว่าเธอคงจะหายกังวลใจแล้วจึงดูร่าเริงขึ้น
วันต่อมา
วันนี้เจ้าเอยตัดสินใจกลับมาที่บ้านในช่วงเย็นเพราะเธอค่อนข้างที่จะมีสติกว่าเดิมมากแล้ว
"สบายใจขึ้นแล้วใช่หรือเปล่า" อินทิราถามเจ้าเอยขณะที่กำลังนั่งทานข้าวเย็นพร้อมกัน
"ค่ะ...เอยขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง"
"ไม่เป็นไรหรอกเอยกลับมาปลอดภัยพวกพี่ก็ดีใจแล้วล่ะ...อีกอย่างที่พี่จะบอกก็คือหลังจากนี้เราจะต้องแต่งงานกับเหนือเมฆ" อิทธิกรตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับน้องสาวให้รับรู้โดยเร็วจะได้เตรียมตัวเอาไว้ว่าหลังจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
"อะไรนะคะ"
"คุณวารุณีมาสู่ขอเรากับพี่แล้วเหนือเมฆก็รับปากว่าจะรับผิดชอบและดูแลเอยอย่างดี"
"แต่เอยไม่อยากแต่งกับคนที่ไม่ได้รักเอย" เจ้าเอยเห็นทีจะเจอเรื่องลำบากใจเสียแล้วเพราะเธอก็ไม่ได้อยากบังคับให้คนที่ไม่ได้รักเธอมาใช้ชีวิตร่วมกับเธอเสียเมื่อไร
"ไว้เอยคุยกับเหนือเมฆเองดีกว่าว่าจะเอายังไง...หลังจากนี้รับปากพี่ก่อนว่าจะไม่หนีปัญหา" อิทธิกรรู้ว่าเหนือเมฆคิดอย่างไรกับเจ้าเอยเพราะได้คุยเปิดอกอย่างลูกผู้ชายกันไปแล้วแต่เรื่องความรู้สึกของเหนือเมฆเขาอยากให้เจ้าเอยฟังจากเหนือเมฆเองมากกว่าและขอให้เจ้าเอยรับปากว่าหลังจากนี้จะต้องเข้มแข็งและไม่หนีปัญหาเพราะมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
"ค่ะเอยรับปาก"
21.30 น.
ก๊อกๆๆ
"คุณเหนือ" หญิงสาวอยู่ในชุดนอนสีชมพูแขนยาวขายาวลุกออกจากเตียงมาเปิดประตูคิดว่าคนเป็นพี่มาเรียกแต่ที่ไหนได้กลับเป็นเหนือเมฆเธอจึงแอบมีสีหน้าตกใจเล็กน้อยเพราะไม่ได้ทำใจว่าจะต้องเจอเขาในเวลานี้
"เธอหายไปไหนมาฉันเป็นห่วงแทบแย่" เหนือเมฆสวมกอดร่างบางเอาไว้แน่นเมื่ออินทิราโทรบอกกับเขาว่าเจ้าเอยกลับมาแล้วเขาจึงรีบดิ่งมาที่นี่ทันที
"ห่วงเอยด้วยหรอกคะ" คำว่าห่วงของอีกฝ่ายทำเอาดวงตากลมโตน้ำตารื้นเพราะไม่คิดว่าคำนี้จะออกมาจากปากของเหนือเมฆ
"ฉันทั้งรักทั้งห่วงแล้วตอนนี้ก็อยากขอโทษเธอด้วยที่ฉันทำตัวไม่ดีกับเธอ..ฉันขอโทษเจ้าเอยตอนนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่ฉันสัญญาจะเป็นสามีและพ่อที่ดี"
"ร..รักหรอกคะ" กำแพงความโกรธที่ตั้งสูงก่อนหน้าตอนนี้มันได้ถูกทำลายไปทั้งหมดด้วยคำว่ารักจากอีกฝ่ายคำพูดของเขาที่เธอไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ยินมันเป็นเหมือนเสียงสวรรค์ที่ทำให้เธอเหมือนถูกยกภูเขาออกจากอกเพราะหากเธอจะต้องแต่งงานกับคนที่เธอไม่คิดว่าเขารักคงจะทรมานไม่น้อย
"ฉันเป็นคนใหม่ได้ก็เพราะเธอเจ้าเอยต่อจากนี้ขอให้ฉันได้ดูแลเธอกับลูกนะ" ร่างสูงยังคงพร่ำพรรณาไม่จบทั้งยังกอดร่างบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
"คุณจะใจร้ายกับเอยอีกหรือเปล่า"
"ไม่เลย..ฉันจะตามใจเธอทุกอย่างขอแค่เธออย่าหนีฉันไปเป็นพอ" เหนือเมฆให้สัญญาลูกผู้ชายว่าต่อจากนี้เขาจะเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมขอแค่หญิงสาวยอมอยู่กับเขาไม่หนีจากเขาไปเป็นพอ
หลายวันต่อมา
เหนือเมฆตามเฝ้าเจ้าเอยไม่ห่างเลิกงานเมื่อไรก็มาขลุกอยู่ที่บ้านของเจ้าเอยซื้อโน่นซื้อนี่มาให้จนเต็มบ้านเพราะเขาต้องการทำให้ทุกคนได้รู้ว่าคำที่เขาสัญญาว่าเขาจะดูแลคือดูแลจริงๆไม่ใช่เพียงลมปากที่เอ่ยพูดเมื่ออยากได้สิ่งที่ต้องการเท่านั้น
"นี่ของบำรุงที่คุณแม่ฝากมาให้เธอ" เหนือเมฆวางกล่องวิตามินบำรุงคนท้องที่แม่ของเขาฝากเอามาให้เจ้าเอยสามสี่กล่องบนโต๊ะในห้องนอนของหญิงสาวก่อนจะเริ่มแกะ
"อย่าพึ่งแกะค่ะอันเก่าเอยยังกินไม่หมดเลย" ร่างบางรีบเดินมาหยิบกล่องในมือของชายบหนุ่มอย่างรวดเร็วเพราะเธอจำได้ว่าวิตามินที่เธอทานอยู่ก็แบบเดียวกันที่เหนือเมฆกำลังจะแกะ
"เธอซื้อวิตามินพวกนี้มาแล้วหรอก" เหนือเมฆไม่คิดว่าหญิงสาวจะซื้อวิตามินพวกนี้มาทานเพราะราคามันค่อนข้างแพงหูฉี่แถมยังต้องสั่งจากต่างประเทศเท่านั้น
"คุณกรซื้อให้เอยตอนเอยตอนไปอยู่คอนโดค่ะ...พอดีเพื่อนของเค้าเป็นคนนำเข้าวิตามินพวกนี้พอดี" หญิงสาวตอบไปตามตรงเพราะที่ปกรณ์ซื้อให้เธอยังทานไม่หมด
"ไปอยู่ที่คอนโด...นี่เธอหนีไปอยู่ที่คอนโดปกรณ์งั้นหรอก" ใบหน้าคมมีสีหน้าไม่พอใจกะทันหันเมื่อพึ่งจะรู้ว่าหญิงสาวนั้นหนีไปอยู่กับคนที่เขาไม่อยากจะให้เธออยู่ใกล้ "ค่ะ..ก็เอยไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนนี่คะจะไปรบกวนเพื่อนๆเอยก็ไม่กล้าเพราะรู้ว่าเดี๋ยวทุกคนก็ตามเอยเจอ""เอาอันนั้นทิ้งกินอันนี้แทน""ทำไมล่ะคะ""ไว้ใจปกรณ์มากเลยหรือไงคิดยังไงกับเค้าบอกฉันมารักปกรณ์หรือเปล่า" เหนือเมฆจ้องหญิงสาวเขม็ง"เอยคิดกับคุณกรแค่พี่ชายค่ะไม่ได้รักเค้า""แล้วเธอรักใคร" เจ้าเอยยังไม่ยอมตอบได้แต่ยืนหน้าแดงเพราะไม่ค่อยกล้าที่จะพูดกับคนตรงหน้าเท่าไร“ฉันถามทำไมไม่ตอบ” เหนืเมฆเริ่มกัดฟันแต่ยังพยายามข่มอารมณ์"...รัก..." มือเรียวยกจิ้มไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเหนือเมฆก่อนจะฟุบกอดซุกใบหน้านวลไปที่อกแกร่ง"เกือบที่ฉันจะฟิวส์ขาดแล้วนะยัยตัวเล็ก" คนที่กำลังจะโมโหผ่อนลมหายใจลงยิ้มร่ารวบกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นหากเธอบอกกับเขาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวมีหวังเขาได้ระเบิดอารมณ์เป็นแน่หลายวันต่อมา วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แถมเป็นวันเกิดของแดเนียลเหนือเมฆจึงอาสาจัดสถานที่บ้านเป็นการฉลองวันเกิดและถือโอกาสนี้ชวนเพื่อนๆเขาและเพื้อ
เธอไม่คิดว่านิโคลัสจะมาอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ในหัวสมองของเธอตอนนี้กำลังตีกันไปหมดว่าเขามาได้อย่างไรและเขามาที่นี่ทำไมและเมื่อเขาเจอเธอแล้วจะจัดการกับเธออย่างไรตอนนี้เกวรินทร์หน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้มเหงื่อเม็ดน้อยบนหน้าผากเริ่มไหลซิกลงมากะทันหัน"เธอ!" นิโคลัสกะว่าจะไม่สนใจเรื่องของหญิงสาวที่ขโมยเงินและทำร้ายเขาอยู่แล้วเชียวแต่เมื่อมาเจอเธอที่นี่วันนี้เขาคิดว่าจำเป็นต้องสะสางเสียหน่อย"เกว" ทรายแก้วมองหน้าเกวรินทร์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกเพราะเธอจำหน้าชายสองคนที่เคยเข้ามาล้อมเธอกับเกวรินทร์ได้จึงรู้ได้ทันทีว่าคนที่กำลังจ้องเกวรินทร์เขม็งคือคนที่เพื่อนเธอขโมยเงินเขามา"อะไรกันครับ" แดเนียลโพร่งถามอาของเขาเหมือนที่ทุกคนก็อยากจะถามเพราะเห็นว่านิโคลัสจ้องเกวรินทร์ไม่วางสายตา"มานี่""เอ่อ.. ปล่อยฉันก่อนค่ะ" นิโคลัสลากเกวรินทร์ออกไปนอกบ้านโดยที่ไม่สนสายตาของคนอื่นที่กำลังจ้องมองด้วยความตกใจ"ด..เดี๋ยวค่ะ" ทรายแก้วและเจ้าเอยกำลังจะวิ่งตามออกไปแต่ถูกโอดินและลูคัสคนสนิทของนิโคลัสขวางเอาไว้ก่อน"ทุกคนไม่ต้องตามครับ" "นี่มันเรื่องอะไรกัน" แดเนียลรู้เอ่ยถามลูคัสและโอดินด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นั
หลายวันต่อมาวันนี้วารุณีเข้ามาหาลูกชายและลูกสะใภ้ที่บ้านเพราะรู้ว่าเจ้าเอยย้ายมาอยู่ที่บ้านลูกชายเธอได้เป็นอาทิตย์แล้วตอนนี้ในห้องครัวของบ้านเต็มไปด้วยข้าวของมากมายที่วารุณีซื้อเอามาเพื่อเป็นของบำรุงให้ลูกสะใภ้ของเธอ"ถ้าเรายังกินของคาวไม่ค่อยได้ก็พยายามกินวิตามินที่แม่ซื้อมาให้เยอะๆล่ะแล้วผลไม้นั่นก็กินบ่อยๆนะลูกของดีๆทั้งนั้น""..ค่ะคุณแม่...เอ่อ..พี่โอบทำงานเป็นยังไงบ้างคะ""เห็นพ่อเราให้รับผิดชอบงานใหญ่อยู่นะลูกตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรนับว่าพี่เราก็เก่งใช้ได้""รู้แบบนี้เอยก็สบายใจค่ะ"หลายวันต่อมา.. เหนือเมฆรีบเคลียงานสำคัญให้เสร็จสิ้นก่อนจะให้พชรดูแลบริษัทเพราะเขาต้องการพาภรรยาตัวน้อยของเขามาฮันนีมูนหลังจดทะเบียนเติมความหวานให้กันและกันและแล้ววันนี้เขาก็ได้พาหญิงสาวมาที่ภูเก็ตมาพักที่บ้านพักของพ่อเขาที่ซื้อเอาไว้ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆพื้นที่ของบ้านค่อนข้างกว้างเงียบสงบและติดริมทะเลวิวสวยงามใครเห็นที่นี่เป็นต้องหลงส่วนตัวเขาเองก็ชอบที่นี่ไม่น้อยจึงอยากให้เจ้าเอยมาเห็นที่นี่"เอยอยากอยู่ที่นี่นานๆจังเลยค่ะ" ร่างบางยืนกอดคนเป็นสามีแหงนหน้ายิ้มแป้นอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ที่เป็นจุดชมว
"เจ็บใจหรือเปล่าล่ะ.. เหนือเมฆไม่มีวันเลิกเจ้าชู้ได้หรอกนะรู้เอาไว้ซะด้วย”พีรยาผลักเจ้าเอยจนเธอเซเล็กน้อยทั้งยังจีบปากจีบคอพูดย้ำให้เจ้าเอยได้เจ็บใจ ในส่วนของเจ้าเอยเธอไม่มีแรงโต้ตอบอะไรทำได้แค่ยืนปาดน้ำตากับภาพที่เห็น"มานี่.." พีรยาดึงมือเจ้าเอยให้เดินตามเธอขึ้นมาจนมาถึงผาชัน"พาเอยมาที่นี่ทำไม""รู้หรือเปล่าที่ฉันต้องการฆ่านังวิเวียนเพราะอะไร" พีรยาผลักเจ้าเอยต้อนไปที่ผาชันจนสาวเจ้าเริ่มหน้าซีดเผือดกลัวหญิงสาวตรงหน้าจับใจ"คุณพลอย" "เพราะมันเอากับเหนือเมฆยังไงล่ะ...รู้หรือยังว่าเหนือเมฆเอาผู้หญิงไม่เลือกหน้ารู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทคู่หมั้นของตัวเองก็ยังไม่เว้น""ฮือๆๆ..." ยิ่งได้ฟังที่วิเวียนพูดความเสียใจและความกลัวก็ประดังประเดกันเข้ามาจนเจ้าเอยปล่อยโฮสะอึกสะอื้นตัวโยนเรื่องนี้เหนือเมฆไม่เคยเล่าให้เธอฟังแม้แต่น้อยผิดที่เธอเองจริงๆที่ให้ใจและไว้ใจเหนือเมฆเร็วเกินไปเพี๊ยะ"โอ้ยย.. ""คนอย่างแกมันมีดีกว่าฉันตรงไหน" พีรยายิ่งเห็นเจ้าเอยทำท่าทางอ่อนแอเธอก็ยิ่งหมั่นไส้เธอวาดแขนเป็นวงกว้างฟาดมือเรียวใบที่ใบหน้าเจ้าเอยจนเธอล้มลงพลั้กกก"อ๊ายยยยย..." ไม่ทันที่เจ้า
หลายวันต่อมาวันนี้อิทธิกรพาครอบครัวมาเยี่ยมอำนาจเพราะอำนาจเริ่มยอมรับในตัวอิทธิกรแล้วด้วยเห็นว่าอิทธิกรมีงานการทำที่มั่นคงแถมยังเก่งมากๆเขารู้จากคำชมของนภดลที่ชมอิทธิกรไม่ขาดปาก"ผมขอบคุณคุณพ่อนะครับที่ยอมรับผม" อิทธิกรมานั่งคุยกันกับอำนาจที่ห้องรับแขกระหว่างที่อินทิราพาลูกสาวของเขาเดินเล่นอยู่ที่สวนหน้าบ้าน"ฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ก่อนหน้าทำไม่ดีเอาไว้""ผมเข้าใจครับว่าคุณพ่อรักอินมาก" อิทธิกรไม่เคยโกรธอำนาจแม้นแต่น้อยหากเป็นเขาก็อยากให้ลูกตัวเองได้คู่ครองที่ดีเช่นกัน"ตั้งใจทำงานหาประสบการณ์ให้ดีล่ะอีกไม่กี่ปีฉันก็จะเกษียณตัวเองแล้วแกจะได้เข้ามาบริหารแทนฉัน" อำนาจคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องฝากบริษัทให้กับอิทธิกรเพราะเชื่อใจว่าลูกเขยของเขาจะจัดการทุกอย่างแทนเขาได้"คือผมไม่มั่นใจว่าผมจะบริหารองค์กรใหญ่ขนาดนี้ได้" อิทธิกรถึงกับไปไม่เป็นเมื่ออีกฝ่ายมอบหมายสิ่งสำคัญให้"เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนที่เชื่อมั่นว่าจะดูแลลูกสาวกับหลานฉันได้" แม้นอิทธิกรจะไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้แต่อำนาจเห็นว่าความสามารถที่อิทธิกรมีจากผลงานที่ผ่านมาระหว่างที่อิทธิกรทำงานในบริษัทของนภดลเขาก็เห็นแล้วว่าไม่ยา
"แกใจร้ายกับพวกฉันมากเลยนะที่ไม่ยอมติดต่อหากันบ้างเลย" ทรายแก้วหยิบขนมเข้าปากไปด้วยบ่นเจ้าเอยไปด้วยเพราะเจ้าเอยทำให้พวกเธอทุกข์ใจที่คิดว่าเสียเพื่อนรักไปตั้งหลายปี"ฉันกลัวว่าคุณเหนือจะรู้ว่าฉันยังอยู่ฉันไม่อยากเจอเค้า" ที่เจ้าเอยให้คนรู้น้อยที่สุดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะกลัวว่าเหนือเมฆจะตามเธอเจอ"แกโกรธคุณเหนือมากเลยหรอก" เกวรินทร์รู้ดีว่าเรื่องครั้งนั้นเป็นฝีมือพีรยาแต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอฝังใจเรื่องอะไรถึงยอมให้อภัยเหนือเมฆไม่ได้"ตอนนี้เฉยๆแล้วล่ะฉันไม่อยากกลับไปเจ็บเพราะเค้าอีกเด็ดขาด" แม้นเจ้าเอยจะรู้ว่าครั้งนั้นที่เหนือเมฆทำผิดด้วยฤทธิ์ยาแต่ภาพมันก็ยังติดตาเธอไม่หายไม่รู้อีกด้วยว่าเขาจะกลับไปเป็นคนเจ้าชู้เหมือนเดิมอีกหรือเปล่าเธอยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวจึงไม่อยากเสี่ยงกลับไปอยู่กลับไปรักกับคนอย่างเหนือเมฆอีกตอนนี้เธอมีแค่ลูกก็พอแล้ว"แต่เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือยัยพลอยทั้งนั้นนะแถมตอนที่ผ่านมาคุณเหนือดูพยายามตามหาแกตลอดไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลยด้วย" ทรายแก้วไม่ได้จะพูดเข้าข้างเหนือเมฆแต่เวลาที่ผ่านมาเขาทำให้พวกเธอได้เห็นว่าเขาไม่มีวันลืมเจ้าเอย"ฉันรู้...แต่ฉันลืมเรื่องราวตอนน
วันต่อมา เจ้าเอยเตรียมเก็บผ้าผ่อนของเธอและลูกที่แห้งสนิทดีแล้วมาพับเก็บในห้องเพราะเธอต้องเตรียมทำอะไรให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปรับลูกที่โรงเรียนในช่วงบ่ายโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในบ้าน"เอย.." เหนือเมฆยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของหญิงสาวเขาเรียกเธอเสียงอ่อนภรรยาของเขายังคงน่ารักไม่เปลี่ยนจากเดิมเลยสักนิดผิดแค่ดูผมแห้งไปกว่าเดิมเท่านั้น"ค...คุณเหนือ" เจ้าเอยลึกขึ้นจากกองผ้าที่นั่งพับเธอตกใจจนหน้าเสียก่อนจะจ้องคนตรงหน้าที่ดูโทรมกว่าเดิมมากด้วยความสับสนไม่รู้ลึกๆแล้วเธอดีใจหรือเสียใจที่เห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้"..ฉันคิดถึงเธอแทบจะขาดใจรู้หรือเปล่า...เธอใจร้ายกับฉันมากเลยเอย... ที่ทำให้ฉันทรมานใจอยู่ได้ตั้งนาน" เหนือเมฆเข้าไปสวมกอดร่างบางด้วยความคิดถึงก่อนจะเอ่ยคำพูดเชิงน้อยใจออกมา"ปล่อยเอย.. แล้วก็ออกไป" เจ้าเอยชะงักไปครู่หนึ่งเธอพยายามบอกตัวเองว่าอย่าใจอ่อนกับเขาและรีบไล่ให้เหนือเมฆออกไป"ฉันขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนั้นขอโทษจริงๆ" เหนือเมฆรู้ว่าเจ้าเอยคงโกรธในเหตุการณ์ครั้งนั้นแต่เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ"คุณเหนือก็น่าจะรู้แล้วนะคะว่าเอยไม่ต้อง
เนินนานจนไม่รู้กี่นาทีที่เหนือเมฆจูบภรรยารักอยู่แบบนั้นจนตอนนี้ร่างบางเริ่มโอนอ่อนกับเขาบ้างแล้วและมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าเธอไม่ได้หมดรักเขาอย่างที่พูดรู้ดังนั้นจึงเดินหน้าบดจูบอย่างดูดดื่มต่อเพราะเขาโหยหาร่างบางมานานจนวันนี้ยังไงก็ต้องได้ครอบครองอีกครั้ง"พอเถอะคุณเหนือ""ไม่.." ร่างบางที่พึ่งถูกอุ้มมานอนบนเตียงนุ่มเธอก็เอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายพอแค่นี้เพราะเธอเริ่มจะคุมสติไม่อยู่แต่มีหรือเหนือเมฆจะยอมเพราะเขารู้ว่าเจ้าเอยยังไม่หมดรักเขาและเขาก็จะรีบกระชับสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุดและแล้วบทรักบทสวาทก็ได้เริ่มขึ้นเหนือเมฆเรียกเสียงครางระงมของร่างบางไปจวบครึ่งค่อนคืนจึงพาเธออุ้มกลับไปนอนในห้องนอนของเธอกับลูกส่วนเขาก็นอนเฝ้าเธออยู่ไม่ห่างวันต่อมา ช่วงเช้าที่เจ้าเอยยังไม่ตื่นเหนือเมฆก็เป็นคนจัดแจงดูแลลูกทุกอย่างทั้งทำอาหารป้อนข้าวลูกรวมไปถึงอาบน้ำอาบท่าให้ลูกน้อยยอมรับว่าไม่ถนัดเท่าไรแต่เขาก็สุขใจที่ได้ทำ"ชุดของนนท์อยู่ไหนครับลูก" เหนือเมฆอาบน้ำเช็ดตัวให้ลูกชายของเขาเสร็จตอนนี้ก็ต้องมาแต่งตัว"ในนี้ครับ" เด็กชายตัวกลมในผ้าขนหนูสีขาวเดินตัวป้อมนำคนเป็นพ่อไปที่ตู้หลังเล็ก