"เจ็บใจหรือเปล่าล่ะ.. เหนือเมฆไม่มีวันเลิกเจ้าชู้ได้หรอกนะรู้เอาไว้ซะด้วย”
พีรยาผลักเจ้าเอยจนเธอเซเล็กน้อยทั้งยังจีบปากจีบคอพูดย้ำให้เจ้าเอยได้เจ็บใจ ในส่วนของเจ้าเอยเธอไม่มีแรงโต้ตอบอะไรทำได้แค่ยืนปาดน้ำตากับภาพที่เห็น
"มานี่.." พีรยาดึงมือเจ้าเอยให้เดินตามเธอขึ้นมาจนมาถึงผาชัน
"พาเอยมาที่นี่ทำไม"
"รู้หรือเปล่าที่ฉันต้องการฆ่านังวิเวียนเพราะอะไร" พีรยาผลักเจ้าเอยต้อนไปที่ผาชันจนสาวเจ้าเริ่มหน้าซีดเผือดกลัวหญิงสาวตรงหน้าจับใจ
"คุณพลอย"
"เพราะมันเอากับเหนือเมฆยังไงล่ะ...รู้หรือยังว่าเหนือเมฆเอาผู้หญิงไม่เลือกหน้ารู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทคู่หมั้นของตัวเองก็ยังไม่เว้น"
"ฮือๆๆ..." ยิ่งได้ฟังที่วิเวียนพูดความเสียใจและความกลัวก็ประดังประเดกันเข้ามาจนเจ้าเอยปล่อยโฮสะอึกสะอื้นตัวโยนเรื่องนี้เหนือเมฆไม่เคยเล่าให้เธอฟังแม้แต่น้อยผิดที่เธอเองจริงๆที่ให้ใจและไว้ใจเหนือเมฆเร็วเกินไป
เพี๊ยะ
"โอ้ยย.. "
"คนอย่างแกมันมีดีกว่าฉันตรงไหน" พีรยายิ่งเห็นเจ้าเอยทำท่าทางอ่อนแอเธอก็ยิ่งหมั่นไส้เธอวาดแขนเป็นวงกว้างฟาดมือเรียวใบที่ใบหน้าเจ้าเอยจนเธอล้มลง
พลั้กกก
"อ๊ายยยยย..." ไม่ทันที่เจ้าเอยจะได้ลุกขึ้นพีรยาก็ผลักหญิงสาวที่ตั้งท้องอ่อนๆให้ตกหน้าผาลงทะเลไป
"ถ้าฉันไม่ได้ใครก็ไม่ต้องได้" สายตาของพีรยาไม่ได้มีความรู้สึกสลดกับเรื่องที่ทำผิดแม้นแต่น้อยความอยากเอาชนะทุกสิ่งมันกัดกินหัวใจเธอจนไม่เหลือความเป็นคนแล้ว
ชั่วโมงต่อมา
"มีความสุขกับคนที่ไม่ใช่เมียสนุกไหมล่ะคะเหนือ" พีรยารีบเอ่ยทักทายเหนือเมฆที่พึ่งกลับเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าระรื่น
"พลอย...เจ้าเอยอยู่ไหน" ชายหนุ่มตกใจไม่น้อยที่เห็นพีรยาอยู่ที่นี่เขารู้ว่าเธอคือตัวอันตรายจึงรีบถามหาเจ้าเอยหน้าตาตื่นทันที
"ไม่รู้สิ...ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า" พีรยายังคงพูดจายียวนด้วยท่าทีที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
"เอย..เธอทำอะไรเมียฉัน" เหนือเมฆรีบเดินปรี่เข้าไปกระชากแขนหญิงสาวตวาดใส่เธอเสียงฝาดเพราะตอนนี้หัวใจของเขาเริ่มมีความเป็นห่วงเมียรักไม่น้อยไม่รู้เลยว่าพีรยาพูดเล่นหรือพูดจริง
"โกรธหรอกคะ" พีรยายิ้มร่าพึงพอใจที่เห็นเหนือเมฆหัวเสีย
"นังบ้าเอ้ย..บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเมียฉันอยู่ที่ไหน" เหนือเมฆแทบคุมสติไม่อยู่
"เห็นคุณระเริงสวาทกับคนอื่นจนเตลิดตกหน้าผา..ตาย..ไปแล้วมั้ง..ฮ่าๆๆๆ" พีรยาหัวเราะร่าเหมือนคนไร้สติเธอพอใจในสิ่งที่เธอได้กระทำลงไปพอสมควรคนที่ทำให้เธอเจ็บต้องเจ็บกว่า
"โถ่โว้ยย.." เหนือเมฆรีบวิ่งตามหาเจ้าเอยไปทั่วจนขึ้นไปบนผาสูงหลังบ้าน
"เจ้าเอย... เจ้าเอย.. ไม่นะ..ม่ายยย.." เขาเห็นเพียงแค่รองเท้าเมียรักกระจายอยู่แถวนั้นก็เดาได้ทันทีว่าสิ่งที่พีรยาพูดเป็นความจริงขาแกร่งอ่อนแรงยวบจนร่างใหญ่ฟุบลงกับพื้นเรียกหาเมียรักด้วยน้ำเสียงแห่งความเจ็บปวด
วันต่อมา
ตั้งแต่เมื่อวานที่เหนือเมฆแจ้งตำรวจและเรียกนักประดาน้ำมาหาเจ้าเอยจนวันนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอเจ้าเอยส่วนพีรยาเธอก็ถูกตำรวจจับและสารภาพทุกอย่างแล้วว่าทำอะไรลงไปบ้าง
"แม่ครับ.. เมียผมกับลูก.." เหนือเมฆที่นั่งหมดอาลัยตายอยากตั้งแต่เมื่อวานวันนี้เขาก็เหม่อลอยเอาแต่ร้องให้เหมือนคนไม่มีสติพอเห็นหน้าคนเป็นแม่มาถึงก็ปล่อยโฮโดยที่ไม่เหลืออาย
"......" วารุณีก็พูดอะไรไม่ออกได้แต่ปาดน้ำตาเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าหากเจอเจ้าเอยตอนนี้ก็คงจะเหลือแค่ร่างเสียแล้ว
"ผมผิดเอง..ผมไม่ควรปล่อยเธอไว้คนเดียว" เหนือเมฆเอาแต่โทษตัวเองหากเขาไม่กลัวคำขู่ของลูกจันทร์ก็คงไม่ต้องมาติดกับดักแผนของพีรยาและเจ้าเอยก็คงไม่ต้องมาจบชีวิตแบบนี้
ในส่วนของอิทธิกรและอินทิราที่รีบนั่งเครื่องมาพร้อมกับวารุณีเมื่อรู้ข่าวจากเหนือเมฆยอมรับว่าเขาโกรธพีรยามากโกรธจนไม่อยากจะมองหน้าและพูดอะไรไม่ออก
รวมไปถึงไม่พอใจเหนือเมฆเป็นอย่างมากที่ดูแลน้องของเขาไม่ดีแถมยังทิ้งน้องเขาไปมีสัมพันธ์กับผู่หญิงคนอื่นแม้นจะรู้ว่าเป็นแผนพีรยาแต่เขาก็ยังทำใจให้อภัยเหนือเมฆตอนนี้ไม่ได้
"อยู่ไหนเอยกลับมาหาพี่เถอะ" อิทธิกรนั่งเหม่อน้ำตาไหลเรียกหาน้องสาวที่ริมหน้าผาเขาไม่เคยคิดว่าจะสูญเสียคนเป็นน้องไปเร็วแบบนี้ทั้งยังหลานที่อยู่ในท้องอีกยิ่งคิดมันก็ยิ่งบีบหัวใจ
"......" อินทิราจับมืออิทธิกรอยู่ไม่ปล่อยเพราะรู้ดีว่าตอนนี้อิทธิกรเสียใจมากจนแทบไม่มีสติเหมือนกัน
สถานีตำรวจ
"พี่ไม่คิดว่าเราจะเลวได้ขนาดนี้เลยนะพลอย" ปกรณ์เข้ามาหาน้องสาวถึงห้องขังเขาหมดความสงสารในตัวพีรยาไม่รู้ว่าทำไมน้องสาวคนเดียวของเขาถึงกล้าทำเรื่องชั่วร้ายได้เพียงนี้
"พี่กรว่าพลอย.. นี่เห็นคนอื่นดีกว่าน้องตัวเองหรอกคะ" พีรยามองค้อนปกรณ์อย่างน้อยใจเพราะน้อยครั้งนักที่ปกรณ์จะพูดจาแรงๆใส่เธอ
"ต่อไปนี้พี่กับคุณพ่อคุณแม่จะไม่ช่วยเหลืออะไรเราอีกต่อไปทำผิดก็ต้องยอมรับผิด"
"พี่กร.. อ๊ายยยย..." พีรยากัดฟันกรอดกำมือแน่นเธอคิดว่าครั้งนี้เธอจะรอดตัวไปได้เหมือนครั้งก่อนแต่เปล่าเลยตอนนี้เธอจึงอาละวาดโวยวายยกใหญ่
ปกรณ์ทนที่จะฟังเสียงอาละวาดพีรยาไม่ได้จึงเดินหันหลังกลับโดยที่ไม่หันมาสนใจใยดีน้องตัวเองแม้นแต่น้อยเขาคิดว่าการถูกลงโทษจากกฎหมายครั้งนี้จะทำให้พีรยาดีขึ้นไม่มากก็น้อย
หลายเดือนผ่านไป
ตอนนี้เหนือเมฆปล่อยตัวผมยาวหนวดเคราเฟิ้มทำงานหามรุ่งหามค่ำวันหยุดก็ออกทะเลตามหาเจ้าเอยไม่หยุดไม่หย่อนด้วยครั้งนั้นไม่มีคนพบร่างภรรยาของเขาเขาเองจึงคิดเสมอว่าเจ้าเอยยังมีชีวิตอยู่ทั้งที่คนรอบข้างก็ถอดใจกันไปหมดแล้วว่าเจ้าเอยจะกลับมา
วัดxxx
วันนี้สองสาวเข้ามาในวัดแห่งหนึ่งซึ่งมีรูปปั้นที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักคือรูปปั้นกามเทพเชื่อกันว่าหากใครอยากมีคู่หรือตามให้คนที่เรารักกลับมามาขอที่นี่สำเร็จทุกราย
วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนจะปิดเทอมสองสาวจึงมาที่วัดเพื่อบนบานสานกล่าวเพราะยังมีความเชื่อว่าเพื่อนตัวเองจะกลับมา
"หวังว่าเอยจะกลับมาโดยเร็ววันนะเจ้าคะ"
สองสาวยกมือสาธุท่วมหัวหลังจากบนบานเสร็จแต่ก็ยังไม่มีใครปริปากบอกกันว่าจะแก้ด้วยอะไร
หลายวันต่อมาวันนี้อิทธิกรพาครอบครัวมาเยี่ยมอำนาจเพราะอำนาจเริ่มยอมรับในตัวอิทธิกรแล้วด้วยเห็นว่าอิทธิกรมีงานการทำที่มั่นคงแถมยังเก่งมากๆเขารู้จากคำชมของนภดลที่ชมอิทธิกรไม่ขาดปาก"ผมขอบคุณคุณพ่อนะครับที่ยอมรับผม" อิทธิกรมานั่งคุยกันกับอำนาจที่ห้องรับแขกระหว่างที่อินทิราพาลูกสาวของเขาเดินเล่นอยู่ที่สวนหน้าบ้าน"ฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ก่อนหน้าทำไม่ดีเอาไว้""ผมเข้าใจครับว่าคุณพ่อรักอินมาก" อิทธิกรไม่เคยโกรธอำนาจแม้นแต่น้อยหากเป็นเขาก็อยากให้ลูกตัวเองได้คู่ครองที่ดีเช่นกัน"ตั้งใจทำงานหาประสบการณ์ให้ดีล่ะอีกไม่กี่ปีฉันก็จะเกษียณตัวเองแล้วแกจะได้เข้ามาบริหารแทนฉัน" อำนาจคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องฝากบริษัทให้กับอิทธิกรเพราะเชื่อใจว่าลูกเขยของเขาจะจัดการทุกอย่างแทนเขาได้"คือผมไม่มั่นใจว่าผมจะบริหารองค์กรใหญ่ขนาดนี้ได้" อิทธิกรถึงกับไปไม่เป็นเมื่ออีกฝ่ายมอบหมายสิ่งสำคัญให้"เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนที่เชื่อมั่นว่าจะดูแลลูกสาวกับหลานฉันได้" แม้นอิทธิกรจะไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้แต่อำนาจเห็นว่าความสามารถที่อิทธิกรมีจากผลงานที่ผ่านมาระหว่างที่อิทธิกรทำงานในบริษัทของนภดลเขาก็เห็นแล้วว่าไม่ยา
"แกใจร้ายกับพวกฉันมากเลยนะที่ไม่ยอมติดต่อหากันบ้างเลย" ทรายแก้วหยิบขนมเข้าปากไปด้วยบ่นเจ้าเอยไปด้วยเพราะเจ้าเอยทำให้พวกเธอทุกข์ใจที่คิดว่าเสียเพื่อนรักไปตั้งหลายปี"ฉันกลัวว่าคุณเหนือจะรู้ว่าฉันยังอยู่ฉันไม่อยากเจอเค้า" ที่เจ้าเอยให้คนรู้น้อยที่สุดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะกลัวว่าเหนือเมฆจะตามเธอเจอ"แกโกรธคุณเหนือมากเลยหรอก" เกวรินทร์รู้ดีว่าเรื่องครั้งนั้นเป็นฝีมือพีรยาแต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอฝังใจเรื่องอะไรถึงยอมให้อภัยเหนือเมฆไม่ได้"ตอนนี้เฉยๆแล้วล่ะฉันไม่อยากกลับไปเจ็บเพราะเค้าอีกเด็ดขาด" แม้นเจ้าเอยจะรู้ว่าครั้งนั้นที่เหนือเมฆทำผิดด้วยฤทธิ์ยาแต่ภาพมันก็ยังติดตาเธอไม่หายไม่รู้อีกด้วยว่าเขาจะกลับไปเป็นคนเจ้าชู้เหมือนเดิมอีกหรือเปล่าเธอยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวจึงไม่อยากเสี่ยงกลับไปอยู่กลับไปรักกับคนอย่างเหนือเมฆอีกตอนนี้เธอมีแค่ลูกก็พอแล้ว"แต่เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือยัยพลอยทั้งนั้นนะแถมตอนที่ผ่านมาคุณเหนือดูพยายามตามหาแกตลอดไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลยด้วย" ทรายแก้วไม่ได้จะพูดเข้าข้างเหนือเมฆแต่เวลาที่ผ่านมาเขาทำให้พวกเธอได้เห็นว่าเขาไม่มีวันลืมเจ้าเอย"ฉันรู้...แต่ฉันลืมเรื่องราวตอนน
วันต่อมา เจ้าเอยเตรียมเก็บผ้าผ่อนของเธอและลูกที่แห้งสนิทดีแล้วมาพับเก็บในห้องเพราะเธอต้องเตรียมทำอะไรให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปรับลูกที่โรงเรียนในช่วงบ่ายโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในบ้าน"เอย.." เหนือเมฆยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของหญิงสาวเขาเรียกเธอเสียงอ่อนภรรยาของเขายังคงน่ารักไม่เปลี่ยนจากเดิมเลยสักนิดผิดแค่ดูผมแห้งไปกว่าเดิมเท่านั้น"ค...คุณเหนือ" เจ้าเอยลึกขึ้นจากกองผ้าที่นั่งพับเธอตกใจจนหน้าเสียก่อนจะจ้องคนตรงหน้าที่ดูโทรมกว่าเดิมมากด้วยความสับสนไม่รู้ลึกๆแล้วเธอดีใจหรือเสียใจที่เห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้"..ฉันคิดถึงเธอแทบจะขาดใจรู้หรือเปล่า...เธอใจร้ายกับฉันมากเลยเอย... ที่ทำให้ฉันทรมานใจอยู่ได้ตั้งนาน" เหนือเมฆเข้าไปสวมกอดร่างบางด้วยความคิดถึงก่อนจะเอ่ยคำพูดเชิงน้อยใจออกมา"ปล่อยเอย.. แล้วก็ออกไป" เจ้าเอยชะงักไปครู่หนึ่งเธอพยายามบอกตัวเองว่าอย่าใจอ่อนกับเขาและรีบไล่ให้เหนือเมฆออกไป"ฉันขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนั้นขอโทษจริงๆ" เหนือเมฆรู้ว่าเจ้าเอยคงโกรธในเหตุการณ์ครั้งนั้นแต่เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ"คุณเหนือก็น่าจะรู้แล้วนะคะว่าเอยไม่ต้อง
เนินนานจนไม่รู้กี่นาทีที่เหนือเมฆจูบภรรยารักอยู่แบบนั้นจนตอนนี้ร่างบางเริ่มโอนอ่อนกับเขาบ้างแล้วและมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าเธอไม่ได้หมดรักเขาอย่างที่พูดรู้ดังนั้นจึงเดินหน้าบดจูบอย่างดูดดื่มต่อเพราะเขาโหยหาร่างบางมานานจนวันนี้ยังไงก็ต้องได้ครอบครองอีกครั้ง"พอเถอะคุณเหนือ""ไม่.." ร่างบางที่พึ่งถูกอุ้มมานอนบนเตียงนุ่มเธอก็เอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายพอแค่นี้เพราะเธอเริ่มจะคุมสติไม่อยู่แต่มีหรือเหนือเมฆจะยอมเพราะเขารู้ว่าเจ้าเอยยังไม่หมดรักเขาและเขาก็จะรีบกระชับสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุดและแล้วบทรักบทสวาทก็ได้เริ่มขึ้นเหนือเมฆเรียกเสียงครางระงมของร่างบางไปจวบครึ่งค่อนคืนจึงพาเธออุ้มกลับไปนอนในห้องนอนของเธอกับลูกส่วนเขาก็นอนเฝ้าเธออยู่ไม่ห่างวันต่อมา ช่วงเช้าที่เจ้าเอยยังไม่ตื่นเหนือเมฆก็เป็นคนจัดแจงดูแลลูกทุกอย่างทั้งทำอาหารป้อนข้าวลูกรวมไปถึงอาบน้ำอาบท่าให้ลูกน้อยยอมรับว่าไม่ถนัดเท่าไรแต่เขาก็สุขใจที่ได้ทำ"ชุดของนนท์อยู่ไหนครับลูก" เหนือเมฆอาบน้ำเช็ดตัวให้ลูกชายของเขาเสร็จตอนนี้ก็ต้องมาแต่งตัว"ในนี้ครับ" เด็กชายตัวกลมในผ้าขนหนูสีขาวเดินตัวป้อมนำคนเป็นพ่อไปที่ตู้หลังเล็ก
เธอทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อยื้อชีวิตพี่ชายที่เหลือคนเดียวในครอบครัวเพื่อมาเป็นของเล่นให้คนบางคนนานวันเข้าจากของเล่นชิ้นโปรดก็กลายเป็นของรักของหวงของเขาจนเขายากที่จะปล่อยมือเธอไปได้ความสัมพันธ์ที่ใช้ตัวแลกเงินตามข้อเสนอแม้นจะเริ่มต้นไม่ดีนักแต่เมื่อนานวันความสัมพันธ์ก็เกิดพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนดูเป็นความรักแสนหวานแต่และแล้วมันก็ต้องจบลง....แต่ด้วยเหตุอันใดโปรดติดตามได้ในเรื่อง...เสี่ยงรักมาเฟียร้าย..นิยายเรื่องนี้สร้างขึ้นจากจินตนาการไม่ว่าจะเป็นชื่อคนหรือสถานที่ไม่มีเจตนาที่จะอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใดขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะนิยายเรื่องนี้เป็นแนวโรมานซ์ดราม่าและฉากร่วมรักเป็นส่วนประกอบโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นจากจินตนาการหากชื่นชอบช่วยกดไลค์หรือคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะขอบคุณมากค่า... พระเอก เหนือเมฆ อายุ32ปีเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเขาเป็นหนุ่มนักธุรกิจทายาทพันล้านของบริษัทอสังหารายใหญ่ของประเทศเป็นหนุ่มที่ค่อนข้างมีชื่อเรื่องผู้หญิงไม่เว้นว่างเพราะผู้หญิงแทบทุกคนก็อยากจะวิ่งหาหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีอย่างเขาทั้งนั้นด้วยความสูงที่เกิน185 หุ่นสู
มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพในช่วงเย็นของมหาลัยดังในตอนนี้เหล่านักศึกษาต่างก็เดินกันประปรายไม่ได้ครึกครื้นเหมือนช่วงเช้าเพราะบางคนก็มีเรียนกันแค่ช่วงบ่าย"วันนี้ฉันปวดสมองมากเลยเอย" ทรายแก้วหญิงสาวปีหนึ่งของคณะบริหารร่างบางอ้อนแอ้นนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนยกแก้วน้ำปั่นขึ้นดื่มอึกใหญ่อย่างชื่นใจคุยกับเพื่อนสาวหน้าหวานตรงหน้าหลังจากที่เรียนกันมาทั้งวันทรายแก้ว หญิงสาววัย 18 เป็นลูกสาวเจ้าของร้านขนมหวานเล็กๆอยู่ชานเมืองสมุทรปราการตอนนี้พักอยู่หอพักหญิงในมหาลัยกลับบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์เธอทำแบบนี้มาตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่กรุงเทพแล้วทรายแก้วหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งผิวขาวเหลืองใบหน้าเรียวรูปไข่ตาโตคิ้วเข้มปากนิดจมูกหน่อยผมสีน้ำตาลยาวสลวยถึงกลางหลังหญิงสาวเป็นคนค่อนข้างซนอยู่พอสมควรรู้จักกับเจ้าเอยและเกวรินทร์ตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่โรงเรียนเดียวกันและเป็นเพื่อนรักกันมาจนถึงทุกวันนี้"นี่ก็ได้พักแล้วไง" เจ้าเอยอมยิ้มอ่อนก่อนจะยกหนังสือขึ้นมาอ่านต่อนิดหน่อยระหว่างที่รอเพื่อนอีกคนของเธอไปซื้ออะไรมากินกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ"มาแล้วๆ.." เกวรินทร์กองห่อขนมที่เธอไปหอบซื้อมาจากร้านสะด
วันต่อมา"โอบ.." อินทิราหญิงสาววัย30ปียืนมองคนในห้องกระจกด้วยแววตาไหววูบแม้นอิทธิกรจะไล่ให้เธอเลิกกับเขาแต่ทุกวันนี้เธอก็ยังทำใจลืมเขาไปไม่ได้เสียทีจากที่รู้เรื่องเขาไม่นานเธอก็ตัดสินใจรีบบินกลับมาที่เมืองไทยกะทันหันเพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าของเขาอีก"พี่อิน.." เจ้าเอยเดินเอ้อระเหยมาที่โรงพยาบาลในช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเมื่อมายืนหน้าห้องไปซียูได้เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นอินทิรายืนอยู่ที่นี่ก่อนจะรีบเข้าไปทัก"เอย" อินทิรายกมือเรียวปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะยิ้มอ่อนให้น้องสาวที่แสนน่ารักที่ไม่ได้เจอกันนาน"พี่อินกลับจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไรคะ" เจ้าเอยกับอินทิรามานั่งคุยกันที่ลานสวนหย่อมของโรงพยาบาล"พี่รู้ข่าวโอบพี่ก็กลับมาเลยเอยต้องการให้พี่ช่วยเหลืออะไรหรือเปล่าพี่ยินดีช่วยนะเอย" อินทิราไม่ติดใจเรื่องเก่าก่อนที่อิทธิกรร้ายกับเธอเพราะยังมีใจเป็นห่วงอิทธิกรอยู่ไม่น้อยและเธอก็ยินดีช่วยครอบครัวของอิทธิกรเสมอ"เอ่อ.. ไม่มีอะไรหรอกค่ะเอยจัดการทุกอย่างได้ขอบคุณพี่อินมากๆเลยนะคะที่ยังเป็นห่วงพวกเรา" เจ้าเอยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะฝืนยิ้มออกมาปฏิเสธอินทิราเพราะคิดว่าหากพี่ชายเธอรู้ว่าเธอให้อินทิรายื
“ไม่นะ..มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ” หลังจากวางสายได้สาวเจ้าก็สะอึกสะอื้นตัวโยนก่อนจะตัดสินใจวิ่งออกไปข้างนอกพร้อมกระเป๋าก่อนจะกดมือถือโทรหาเหนือเมฆอย่างไม่ลังเลตอนนี้ชีวิตพี่ชายเธอสำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้นแม้กระทั่งศักดิ์ศรีของเธอ“สวัสดีครับ..” เหนือเมฆที่ขับรถออกมาจอดไม่ไกลจากบ้านของเจ้าเอยมากนักเมื่อเห็นมีสายเข้ามาจึงรู้ทันทีว่าเป็นเบอของเจ้าเอยแต่ก็ยังเอ่ยกับสายที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่รู้"เอยเองนะคะคุณเหนือ..คุณจะให้เงินรักษาพี่ชายเอยจริงๆใช่หรือเปล่าคะ" ทางด้านเจ้าเอยตอนนี้วิ่งออกนอกบ้านมาด้วยโทรคุยไปด้วย"อืม..จนกว่าจะหายดีเลยล่ะ""เอย...ตกลงค่ะ""ดี...ฉันจอดรถอยู่ตรงซอยXXมาหาฉันเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ" ว่าจบก็กดวางสายก่อนจะนั่งรออย่างใจเย็นไม่นานนักดวงตาคมก็มองกระจกข้างด้วยสีหน้าพึงพอใจที่เห็นร่างบางวิ่งเข้ามาหาก๊อกๆๆ เจ้าเอยวิ่งมาเคาะกระจกรถราคาแพงของเหนือเมฆด้วยอาการเหนื่อยหอบเพราะรีบวิ่งมาสุดชีวิต"ขึ้นมากับฉัน" เหนือเมฆลดกระจกลงก่อนจะบอกให้หญิงสาเข้ามานั่งคุยกันในรถ“คุณเหนือช่วยพาเอยไปทำเรื่องที่โรงพยาบาลก่อนได้หรือเปล่าคะ” เสียงหวานพูดขึ้นมาด้