Share

ตอนที่34 เสียงที่อยากได้ยิน

"แกใจร้ายกับพวกฉันมากเลยนะที่ไม่ยอมติดต่อหากันบ้างเลย"  ทรายแก้วหยิบขนมเข้าปากไปด้วยบ่นเจ้าเอยไปด้วยเพราะเจ้าเอยทำให้พวกเธอทุกข์ใจที่คิดว่าเสียเพื่อนรักไปตั้งหลายปี

"ฉันกลัวว่าคุณเหนือจะรู้ว่าฉันยังอยู่ฉันไม่อยากเจอเค้า"  ที่เจ้าเอยให้คนรู้น้อยที่สุดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะกลัวว่าเหนือเมฆจะตามเธอเจอ

"แกโกรธคุณเหนือมากเลยหรอก"   เกวรินทร์รู้ดีว่าเรื่องครั้งนั้นเป็นฝีมือพีรยาแต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอฝังใจเรื่องอะไรถึงยอมให้อภัยเหนือเมฆไม่ได้

"ตอนนี้เฉยๆแล้วล่ะฉันไม่อยากกลับไปเจ็บเพราะเค้าอีกเด็ดขาด"   แม้นเจ้าเอยจะรู้ว่าครั้งนั้นที่เหนือเมฆทำผิดด้วยฤทธิ์ยาแต่ภาพมันก็ยังติดตาเธอไม่หายไม่รู้อีกด้วยว่าเขาจะกลับไปเป็นคนเจ้าชู้เหมือนเดิมอีกหรือเปล่าเธอยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวจึงไม่อยากเสี่ยงกลับไปอยู่กลับไปรักกับคนอย่างเหนือเมฆอีกตอนนี้เธอมีแค่ลูกก็พอแล้ว

"แต่เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือยัยพลอยทั้งนั้นนะแถมตอนที่ผ่านมาคุณเหนือดูพยายามตามหาแกตลอดไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลยด้วย"  ทรายแก้วไม่ได้จะพูดเข้าข้างเหนือเมฆแต่เวลาที่ผ่านมาเขาทำให้พวกเธอได้เห็นว่าเขาไม่มีวันลืมเจ้าเอย

"ฉันรู้...แต่ฉันลืมเรื่องราวตอนนั้นไม่ได้จริงๆนี่มันก็ผ่านไปหลายปีแล้วฉันว่าอีกหน่อยเดี๋ยวคุณเหนือก็ลืมฉันได้เอง"   

"ถ้าแกมั่นใจที่จะใช้ชีวิตอย่างนี้พวกฉันก็จะอยู่ข้างๆแกนะเอย"   เป็นคำพูดประจำที่เกวรินทร์ชอบพูดเพราะหากเพื่อนเธอตัดสินใจอย่างไรเธอก็พร้อมจะอยู่ข้างเพื่อนเสมอด้วยไม่อยากคะยั้นคะยอให้เจ้าเอยลำบากใจ

15.30 น.

"...." เด็กชายตัวกลมวัยสามขวบที่คนเป็นแม่พึ่งจะรับกลับจากโรงเรียนกลับมาถึงพอเจอน้าๆทั้งสองคราแรกก็ยังงงงวยขวนเขินไม่กล้าพูดไม่กล้าเล่นด้วยแต่พอน้าๆเอาขนมของโปรดมาล่อเจ้าตัวกลมก็หัวเราะร่าอารมณ์ดีและยอมเข้าหา

"มาให้น้าฟัดดีๆนะเจ้าก้อน"

 ทรายแก้วที่จับหลานได้ก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงยกใหญ่เพราะความน่ารักน่าชังของรัชนนท์

"ฮ่าๆๆ..."  ส่วนคนเป็นหลานก็หัวเราะร่าเมื่อตอนนี้เฟมือนมีเพื่อนเล่นใหม่แปลกไปกว่าทุกวันเพราะทุกวันที่กลับมาจะเจอแค่คนเป็นแม่เท่านั้น

"ตานนท์อารมณ์ดีจังเลยนะ"  เกวรินทร์ที่ช่วยเจ้าเอยทำอาหารเย็นอยู่ในึรัวได้ยินเสียงหลานหัวเราะเธอก็อมยิ้มตามไปด้วย

"วันนี้ได้กินของโปรดมาแล้วล่ะสิ"   เจ้าเอยรู้ได้ทันทีโดนัทรสช็อกโกแล็ทขนมของโปรดที่ทรายแก้วและเกวรินทร์ซื้อมาฝากลูกชายของเธอนั่นก็เป็นส่วนที่ทำให้ลูกเธออารมณ์ดีไม่น้อย

22.00 น.

  หลังจากที่ลูกๆทั้งสามหลับไปแล้วเวลานี้ก็เป็นเวลาที่พ่อแม่อย่างอิทธิกรและอินทิราจะมีเวลาคุยกัน

"เหนื่อยหรือเปล่าคะ"   ร่างบางสวมกอดซบอยู่บนอกอิทธิกรก่อนจะเอ่ยถามสามีเธอเสียงอ่อนเพราะเห็นว่าช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างยุ่ง

"ได้กลับมาเห็นหน้าคุณกับลูกก็หายเหนื่อยแล้ว"  มือหนายกลูบปอยผมภรรยารักเบาๆ

"คุณจะว่างอีกทีวันไหนคะฉันคิดถึงหลานซะแล้วสิ"  อินทิรารู้ว่าอิทธิกรงานเยอะแต่เธอก็อยากให้สามีหาวันว่างเพื่อที่จะเดินทางไปหาเจ้าเอยด้วยทั้งห่วงเจ้าเอยทั้งคิดถึงหลานอยากไปดูความเป็นอยู่บ่อยๆ

"เดี๋ยวดูอีกทีนะครับตอนนี้โปรเจคโครงการใหม่ยังวุ่นอยู่เลย"

"ค่ะ...โอบคะ"

"หืม.."

"ฉันอยากรู้ว่าถ้าคุณเหนือเจอเอยคุณจะยอมให้คุณเหนือเข้ามาในชีวิตเอยหรือเปล่าคะ"

"เมื่อก่อนผมอาจจะไม่ยอม...แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเหนือเมฆรักเจ้าเอยจริงๆหากเหนือเมฆอยากจะเข้าหาเจ้าเอยผมไม่ห้ามแต่ก็ต้องดูเจ้าเอยอีกทีว่าจะยอมหรือเปล่า"   ปัญหาของเหนือเมฆไม่ได้อยู่ที่เขามันอยู่ที่ว่าเหนือเมฆจะรู้ตอนไหนว่าเจ้าเอยและลูกยังมีชีวิตอยู่และพอรู้แล้วจะสามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ก็ต้องดูที่เจ้าเอยอีกที

"ใจฉันตอนนี้อยากให้ตานนท์มีครอบครัวที่สมบูรณ์เหลือเกินค่ะ"  อินทิราพูดออกมาตามตรงเพราะเธอคิดแบบนี้มานานแล้วเธอมองออกว่าเจ้าเอยยังคงรักเหนือเมฆไม่อย่างนั้นคงไม่กลัวใจตัวเองจนไม่อยากเจอเหนือเมฆเพราะกลัวว่าจะต้องเจ็บอีกแบบนี้

สามวันต่อมา

"คุณปกรณ์มาขอพบครับคุณเหนือ"

"ให้เค้าเข้ามาได้ครับ"  เหนือเมฆขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อปกรณ์จากพชรเพราะนานแล้วที่ทางบ้านของปกรณ์ไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวของเขา

"คุณดูไม่ดีขึ้นเลยนะ"   ปกรณ์เห็นสภาพของเหนือเมฆแล้วเขาก็อดที่จะพูดคำนี้ไม่ได้

"เชิญนั่งครับ.. คุณมีธุระอะไรกับผม"

"นี่...รูปของเธอ...ส่วนนี่ที่อยู่กับเบอโทรของเธอ"

  ปกรณ์ยื่นของที่อยู่ในซองสีน้ำตาลให้เหนือเมฆหวังว่ามันจะช่วยให้เหนือเมฆกลับมาดูเป็นผู้เป็นคนได้บ้าง

"อ.. เอย.. คุณรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนงั้นหรอก"   เหนือเมฆตัวชาวาบมือไม้ที่กำลังจับจ่ออยู่กับงานละทิ้งทันทีเมื่อเห็นภาพเจ้าเอย

ขอบตาคมร้อนผ่าวแดงน้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาด้วยความดีใจ

"ผมยอมรับว่าผมก็รู้มาตลอดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่...ตอนแรกผมคิดว่าเธอจะกลับมาหาคุณแต่ไม่เลยผมก็แปลกใจเหมือนกัน"   ปกรณ์รู้มาเป็นปีแล้วว่าเจ้าเอยยังมีชีวิตอยู่ด้วยความบังเอิญแต่ไม่ยักรู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมบอกกับเหนือเมฆเรื่องที่เธอกับลูกยังมีชีวิตอยู่เขาเองก็คงจะช่วยเหนือเมฆได้เท่านี้ถือซะว่าชดเชยความผิดให้พีรยาสักเล็กน้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

"แล้วทำไมคุณถึงอยากช่วยผม"   

"น้องสาวผมทำให้พวกคุณพรากกันการที่ผมตัดสินใจทำแบบนี้ก็หวังว่าจะชดเชยความผิดของพลอยได้บ้าง...ผมขอตัว"   ว่าจบก็เดินออกไปเพราะคิดว่าเขาได้ทำหน้าที่ของตัวเองจบแล้วหากเหนทอเมฆจะทำอะไรต่อนั่นมันก็เรื่องของเขา

"เอย.."  หลังจากปกรณ์ออกไปเหนือเมฆก็เอาแต่นั่งดูรูปไปปาดน้ำตาแห่งความดีใจไปแต่ลึกๆก็เสียใจที่หญิงสาวไม่ยอมติดต่อหาเขาเลย

RrrrRrrr     มือหนาค่อยๆกดมือถือยกหูหาเบอโทรที่ปกรณ์ให้เอาไว้

(สวัสดีค่ะเอยพูดค่ะ)​

"......"   เมื่อได้ยินเสียงหวานใสที่คิดถึงเขาก็พูดอะไรไม่ออกได้แต่ยกมือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้

(สวัสดีค่ะคุณเป็นใครคะ...เอ่อฉันขออนุญาตวางสายนะคะ)

"..อึก...ทำไมเอยทำไมเธอถึงไม่ยอมกลับมาหาฉัน"    เหนือเมฆปวดหัวใจหนึบเมื่อภรรยารักที่คิดว่าเสียเธอไปแล้ววางสายไป

ทั้งยังนั่งปาดน้ำตาพักใหญ่น้อยใจพอสมควรที่เธอไม่ยอมที่จะทำให้เขาได้รู้สักนิดว่าเธอยังอยู่

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status