เนินนานจนไม่รู้กี่นาทีที่เหนือเมฆจูบภรรยารักอยู่แบบนั้นจนตอนนี้ร่างบางเริ่มโอนอ่อนกับเขาบ้างแล้วและมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าเธอไม่ได้หมดรักเขาอย่างที่พูดรู้ดังนั้นจึงเดินหน้าบดจูบอย่างดูดดื่มต่อเพราะเขาโหยหาร่างบางมานานจนวันนี้ยังไงก็ต้องได้ครอบครองอีกครั้ง
"พอเถอะคุณเหนือ"
"ไม่.." ร่างบางที่พึ่งถูกอุ้มมานอนบนเตียงนุ่มเธอก็เอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายพอแค่นี้เพราะเธอเริ่มจะคุมสติไม่อยู่แต่มีหรือเหนือเมฆจะยอมเพราะเขารู้ว่าเจ้าเอยยังไม่หมดรักเขาและเขาก็จะรีบกระชับสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุด
และแล้วบทรักบทสวาทก็ได้เริ่มขึ้นเหนือเมฆเรียกเสียงครางระงมของร่างบางไปจวบครึ่งค่อนคืนจึงพาเธออุ้มกลับไปนอนในห้องนอนของเธอกับลูกส่วนเขาก็นอนเฝ้าเธออยู่ไม่ห่าง
วันต่อมา
ช่วงเช้าที่เจ้าเอยยังไม่ตื่นเหนือเมฆก็เป็นคนจัดแจงดูแลลูกทุกอย่างทั้งทำอาหารป้อนข้าวลูกรวมไปถึงอาบน้ำอาบท่าให้ลูกน้อยยอมรับว่าไม่ถนัดเท่าไรแต่เขาก็สุขใจที่ได้ทำ
"ชุดของนนท์อยู่ไหนครับลูก" เหนือเมฆอาบน้ำเช็ดตัวให้ลูกชายของเขาเสร็จตอนนี้ก็ต้องมาแต่งตัว
"ในนี้ครับ" เด็กชายตัวกลมในผ้าขนหนูสีขาวเดินตัวป้อมนำคนเป็นพ่อไปที่ตู้หลังเล็ก
"มาแต่งตัวกันเดี๋ยวพ่อไปส่งที่โรงเรียนนะครับ"
"ครับ"
ไม่นานนักเหนือเมฆก็แต่งตัวให้ลูกชายเสร็จและพาไปส่งที่โรงเรียน
"ตอนเย็นนนท์จะได้โดนัทไหมครับ" ก่อนจะเดินเข้าห้องรัชนนท์ไม่ลืมที่จะหันมาถามคนเป็นพ่อถึงเรื่องโดนัทสี่สัญญาเอาไว้
"ได้สิครับนนท์อยากได้เยอะแค่ไหนพ่อก็ซื้อให้ได้"
"พ่อใจดีจังเลยครับ"
"พ่อต้องใจดีกับลูกชายพ่ออยู่แล้ว...ตอนเย็นเดี๋ยวพ่อมารับนะครับ"
ฟอดด
เมื่อกอดหอมกันจนพอใจแล้วเหนือเมฆจึงกลับไปได้
เจ้าเอยตื่นขึ้นมาในช่วงสายตกใจพอสมควรที่ไม่เห็นใครอยู่บ้านแม้นแต่ลูกชายแต่เมื่อเจอโพสอิทที่ชายหนุ่มเขียนข้อความเอาไว้ว่าไปส่งลูกที่โรงเรียนเธอเองก็โล่งใจ
ซ่าาาาา...
สาวเจ้ายืนอาบน้ำอย่างเหม่อลอยทั้งยังหน้าแดงกับเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาที่เธอเผลอใจไปจนได้และคิดว่าชายหนุ่มคงรู้แล้วว่าที่เธอพูดว่าไม่ต้องการเขามันไม่จริง
"เอย.."
"....." เหนือเมฆกลับมาถึงบ้านเห็นเจ้าเอยนั่งหวีผมอยู่ที่หน้ากระจกจึงเข้าไปสวมกอดเธอเอาไว้หลวมๆส่วนตัวหญิงสาวเอยก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
"ตอบฉันได้หรือเปล่าว่าทำไมต้องไล่ฉันทั้งที่ไม่ได้หมดรัก" เหนือเมฆดึงร่างบางให้ลูกขึ้นหันหน้ามาคุยกับเขา
"เอยไม่อยากเจ็บ...ถ้าวันนึงเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกหรือคุณเหนือกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมเอยกลัวว่าเอยจะต้องเจ็บ" เจ้าเอยสารภาพตามตรงก่อนจะก้มหน้าลงเพราะไม่กล้าสบสายตาอีกฝ่าย
"ไม่มีอีกแล้วฉันสัญญาว่ามันจะไม่มีแบบนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรฉันจะไม่ปิดบังเธอและจะไม่เกิดเหตุการณ์ทำให้เธอเจ็บอีกแน่นอน" มือหนาเชยคางใบหน้าหวานขึ้นมาเขาจ้องหน้าเธอด้วยสายตาที่จริงจังก่อนจะเอ่ยคำสัญญา
เจ้าเอยยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงโผกอดคนตัวโตเอาไว้แน่น เหนือเมฆยิ้มร่ารวบกอดภรรยารักทันทีหัวใจของเขาตอนนี้พองโตต่างจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิง
เดือนต่อมา
หลังจากเหนือเมฆคืนดีกับเจ้าเอยได้ก็คะยั้นคะยอหญิงสาวอยู่ทุกวันว่าให้กลับมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพเพราะไม่อยากปล่อยให้หญิงสาวอยู่กับลูกตามลำพังเมื่อถึงเวลามีงานด่วนต้องกลับมาสะสางจนหญิงสาวต้องทำตามที่เขาร้องขอจนได้และตอนนี้ก็ได้ย้ายมาที่นี่เป็นอาทิตย์แล้ว
ส่วนลูกชายเธอเมื่อมาถึงได้วันสองวันปู่กับย่าก็พาไปอยู่ด้วยแล้วจนตอนนี้เธอกับเหนือเมฆต้องนั่งเฉาคิดถึงลูกอยู่สองคนไม่รู้ว่าวันไหนจะได้ลูกกลับคืนมาเลย
"พี่ดีใจที่เห็นเรายิ้มได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง" อิทธิกรเลิกงานไววันนี้จึงรีบขับรถมาหาเจ้าเอยที่บ้านเหนือเมฆมาดูว่าน้องสาวเขามีสภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้างเมื่อมาถึงเห็นน้องของเขายิ้มได้เต็มอิ่มก็โล่งใจ
"ชีวิตคู่มันไม่มีอะไรราบรื่นหรอกนะเอยอยู่ที่ว่าเราจะจับมือกันเดินผ่านอุปสรรคนั้นได้อย่างไรต่างหากใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่านึกถึงอดีตและอย่ากลัวอนาคตที่ยังมาไม่ถึง" อิทธิกรรู้ว่าเจ้าเอยคงยังกลัวเรื่องในอนาคตอยู่แต่ก็ดีใจที่น้องสาวตัดสินใจถูกที่ยอมกลับมาอยู่กับเหนือเมฆเป็นครอบครัวเป็นเรื่องที่ดีต่อหลานของเขามาก
"เอยเข้าใจแล้วค่ะ" เจ้าเอยสวมกอดคนเป็นพี่เอาไว้หลวมๆเธอจะจำทุกคำที่พี่ชายเธอสอน
22.00 น.
"เอยคิดถึงลูกจังเลยค่ะเมื่อไรคุณพอคุณแม่จะพาตานนท์มาคืนหรอกคะ" เจ้าเอยยืนเหม่อมองฟ้านอกหน้าต่างในห้องนอนกับคนเป็นสามีเธอรู้สึกคิดถึงเจ้าก้อนกลมที่เคยนอนกอดอยู่ทุกคืน
"ดูท่าจะไม่ยอมคืนง่ายๆเสียด้วยสิ...เอาแบบนี้ดีหรือเปล่า" เหนือเมฆสวมกอดร่างบางในชุดนอนสีฟ้าอ่อนเอาไว้หลวมๆ
"ยังไงคะ?" ดวงตากลมโตเงยจ้องมองคนเป็นสามีด้วยความสงสัย
"มีลูกอีกคนสิเราจะได้ไม่เหงามากเวลาตานนท์ไม่อยู่" ใบหน้าคมก้มกอบกระซิบข้างหูเจ้าเอยจนเธอหน้าแดงเล็กน้อยแต่ก็ต้องตอบปฏิเสธไปเพราะอยากให้รัชนนท์โตกว่านี้ก่อน
"เอาไว้ลูกโตกว่านี้อีกหน่อยดีกว่าค่ะ"
"ไม่ต้องหรอกมีตอนนี้ไปเลย" ว่าจบก็อุ้มร่างบางนอนราบบนเตียงนุ่มเขาอยากจะมีลูกเยอะๆเหมือนบ้านอิทธิกรจะได้ไม่เหงา
และแล้วกิจกรรมทำลูกก็ได้เริ่มขึ้นและคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เจ้าเอยคงจะได้นอนตอนฟ้าสางอีกแน่นอน
"อื้อ.." สาวเจ้าแอ่นอกบิดเร่าเมื่อริมฝีปากหนากอบกุมดูดดึงยอดเต้างามอวบอิ่มสลับขยำด้วยมือหนาดวงตากลมโตหลับตาพริ้มเมื่อคนตัวโตบดจูบพร้อมรัวสะโพกด้วยลีล่าเร่าร้อน
"อื้อ..อื้มม.." เสียงครางระงมของหญิงสาวถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของชายหนุ่มคราแรกว่าจะเบามือแต่พอได้สัมผัสลึกซึ้งบนร่างบางเป็นอันควบคุมไม่ได้ทุกที
“อืม...” ร่างบางถูกพลิกให้นอนคว่ำมือหนายกสะโพกมนขึ้นสูงก่อนจะสอดใส่แท่งร้อนที่เปียกชุ่มเข้าไปในร่องสวาทพรวดเดียวจนมิดทำเอาหญิงสาวหลับตาปี๋ครางร้องเสียงอ่อนด้วยความจุกมือน้อยจึกหมอนนุ่มแทบขาดเมื่อคนตัวโตเริ่มรัวสะโพกแกร่งโถมเข้ามาในตัวเธอด้วยจังหวะหนักหน่วง
“อืม..อ้าสส...” คนตัวโตกัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสันเพราะช่องทางรักของเธอเริ่มตอดรัดตัวตนของเขาถี่ขึ้นเรื่อยๆนเขารู้ได้ว่าเธอกำลังจะแตะขอบสวรรค์แต่เขาก็ยังไม่ยอมให้เธอเสร็จสมไปโดยง่าย
เขาถอดถอนตัวตนก่อนจะพลิกไปนั่งพิงหัวเตียงและอุ้มร่างบางขึ้นคร่อมบนตัวของเขาแทนด้วยอยากเห็นใบหน้าหวานตอนเร็จสมชัดๆ
“อืม..” ร่างบางที่นั่งคร่อมอยู่บนตักคนเป็นสามีเม้มปากแน่นดวงตากลมโตจ้องมองคนเป็นสามีหวานหยาดเยิ้มก่อนจะเริ่มขยับสะโพกมนบดแท่งร้อนช้าๆ
“โอ้ว..อืม..” เหนือเมฆแทบคลั่งกับลีลาภรรยาตัวเล็กแม้นจังหวะที่เธออยู่บนตัวจะเนิบนาบแต่ก็เรียกความเสียวกระสันให้เขาจนพล่านไปทั่วตัว
“อื้ม..อ.” ร่างบางเริ่มขย่มคนเป็นสามีด้วยลีลาที่เร่าร้อนขึ้นเพราะเริ่มจะถึงจุดสูงสุด
“อ๊ายยย..” สาวเจ้าขย่มคนตัวโตไม่นานนักเสียงหวานก็กรีดร้องพร้อมร่างกายที่บิดเร่ากอดก่ายคนตัวโตเอาไว้แน่นเพราะเสร็จสมแตะขอบสวรรค์ไปเรียบร้อย
“อืม..” ริมฝีปากหนาบดจูบดูดดึงยอดอกอิ่มของร่างบางในอ้อมแขนที่ตัวอ่อนปวกเปียกพักใหญ่จนเธอเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขาอีกครั้ง
เขาโน้มร่างบางที่นั่งอยู่บนตักนอนราบไปกับเตียงและเริ่มบรรเลงเพลงสวาทอีกครั้งจนร่างบางหัวสั่นหัวครอนและเนื้อตัวก็แดงเถือกไปด้วยรอยบดจูบ
“ค.คุณเหนือ..อ.อ๊ายยย...” เมื่อคนตัวโตโหมบทรักอีกพักใหญ่เจ้าเอยก็เริ่มบิดเร่าเสร็จสมอีกรอบและเสียงครางนี้ก็ดังระงมแทบทั้งคืนเพราะเหนือเมฆไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่ยกับการร่วมรักแม้แต่น้อย
“อ..อ้าสส...” ธารรักสีขาวขุ่นกับเสียงคำรามในลำคอของเหนือเมฆในคืนนี้แม้นจะหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เท่าที่ร่างบางเสร็จสมหากลูกน้อยยังไม่มาในเร็ววันมีหวังหญิงสาวและชายหนุ่มคงได้อดหลับอดนอนกันอีกหลายคืนเป็นแน่
หลายวันต่อมา
วันนี้เจ้าเอยและเหนือเมฆพาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาเที่ยวทะเลกว่าจะขอให้วารุณียอมปล่อยหลานมาได้ก็ขอร้องกันแล้วขอร้องกันอีก
"แม่ค้าบเมื่อไรนนท์จะมีน้องคุณย่าฝากนนท์มาบอกคุณแม่ว่าให้แม่มีน้องเร็วๆ" สามคนพ่อแม่ลูกจูงมือกันเดินเล่นริมชายหาดในช่วงเย็นเจ้าเอยและเหนือเมฆอมยิ้มอ่อนเมื่อได้ยินคำที่ลูกชายกล่าว
"ถ้าแม่มีน้องแล้วนนท์จะรักน้องหรือเปล่าครับ" เจ้าเอยนั่งลงถามเจ้าตัวกลมหนึ่งคำถาม
"รักสิครับ" เด็กชายรีบพยักหน้าหงึกหงัก
"ดีเลย...งั้นพ่อจะบอกให้แม่เรารีบมีเลยนะครับ" เหนือเมฆได้ยินเช่นนั้นจึงรีบอุ้มลูกชายเขาเอาไว้ก่อนจะสัญญาด้วยรอยยิ้มกริ่ม
"ครับ"
ความสัมพันธ์ของทั้งสามตอนนี้แน่นแฟ้นมากขึ้นเพราะเหนือเมฆยอมทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าเอย
เจ้าเอยเองเมื่อลดทิฐิมองดูอยู่แค่ปัจจุบันเธอเองก็มีความสุขขึ้นมาก
ก่อนหน้านี้ยังแอบคิดไม่ถึงว่าเธอจะมายืนข้างๆเหนือเมฆเป็นคนรักและเป็นแม่ของลูกอย่างเช่นทุกวันนี้
ทุกๆอย่างทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเธอไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญเพราะมันเป็นพรหมลิขิตที่ขีดเอาไว้ให้เธอเสี่ยงให้ใจกับคนเจ้าชู้อย่างเขาโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะได้ใจคืนมาบ้างหรือเปล่าดีที่สวรรค์ยังเห็นใจเธอให้เขาได้รักเธอตอบและมีความสุขจนถึงทุกวันนี้
เธอไม่รู้หรอกว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไรแต่เธอจะไม่กลัวไปก่อนแล้ว
หากเกิดอะไรขึ้นเธอจะไม่ยอมปล่อยมือเหนือเมฆตราบใดที่เขาไม่คิดจะปล่อยมือเธอ
จบแล้วค่า....
ฝากติกตามอีกคู่ในเรื่อง เสี่ยงรักสัจอธิษฐานด้วยนะคะ
ตัวอย่าง
เพราะการบนบาลครั้งนั้นทำให้เธอต้องรีบหาสามีเพื่อผลิตลูกไม่อย่างนั้นเธอก็จะต้องเจอกับสิ่งลี้ลับและผู้โชคดีที่จะเป็นพ่อของลูกของเธอก็ดันรุ่นราวคราวพ่อเธอจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร.....
...................................///...............................
ทุกคนเชื่อในเรื่องการผิดคำพูดในการบนบานศาลกล่าวกันหรือเปล่า...
เรื่องราวที่ไรท์จะเขียนในนิยายเป็นเรื่องที่นางเอกของเราเคยบนบานเอาไว้และเมื่อสิ่งที่บนประสบผลสำเร็จนางเอกของเราก็จะต้องแต่งงานกับผู้ชายคนแรกหลังตื่นเช้าของอีกวันและผู้ชายคนนั้นก็คือ...พระเอกของเราเองค่า..
แต่..แต่..แต่..ว่า...พ่อพระเอกของเราไม่ได้จะยอมง่ายๆเพราะว่านางเอกดันอายุอ่อนกว่าเขายี่สิบกว่าปีเรียกว่ารุ่นลูกยังได้
แต่หากพระเอกของเราไม่ยอมแม่นางเอกของเราก็ต้องตื๊อให้ยอมจนได้... เพราะว่า... เธอ... ไม่อยากจะเจอเรื่องซวยๆอีกต่อไป..
ความสนุกของเรื่องนี้จะเกิดจากความโก๊ะๆเปิ่นๆของนางเอกแถมความลี้ลับที่นางเอกต้องเจอ...มันสร้างความเดือดร้อนให้เธอมากมายจนพระเอกของเราต้องคอยปกป้องนางเอกของเราอยู่ตลอด...นานวันเข้าทั้งสองก็...(คิดกันเอาเอง อิๆๆ)
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร...ติดตามกันได้ในเรื่อง เสี่ยงรักสัจอธิษฐาน.. ได้เลยนะคะ..
เธอทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อยื้อชีวิตพี่ชายที่เหลือคนเดียวในครอบครัวเพื่อมาเป็นของเล่นให้คนบางคนนานวันเข้าจากของเล่นชิ้นโปรดก็กลายเป็นของรักของหวงของเขาจนเขายากที่จะปล่อยมือเธอไปได้ความสัมพันธ์ที่ใช้ตัวแลกเงินตามข้อเสนอแม้นจะเริ่มต้นไม่ดีนักแต่เมื่อนานวันความสัมพันธ์ก็เกิดพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนดูเป็นความรักแสนหวานแต่และแล้วมันก็ต้องจบลง....แต่ด้วยเหตุอันใดโปรดติดตามได้ในเรื่อง...เสี่ยงรักมาเฟียร้าย..นิยายเรื่องนี้สร้างขึ้นจากจินตนาการไม่ว่าจะเป็นชื่อคนหรือสถานที่ไม่มีเจตนาที่จะอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใดขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะนิยายเรื่องนี้เป็นแนวโรมานซ์ดราม่าและฉากร่วมรักเป็นส่วนประกอบโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นจากจินตนาการหากชื่นชอบช่วยกดไลค์หรือคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะขอบคุณมากค่า... พระเอก เหนือเมฆ อายุ32ปีเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเขาเป็นหนุ่มนักธุรกิจทายาทพันล้านของบริษัทอสังหารายใหญ่ของประเทศเป็นหนุ่มที่ค่อนข้างมีชื่อเรื่องผู้หญิงไม่เว้นว่างเพราะผู้หญิงแทบทุกคนก็อยากจะวิ่งหาหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีอย่างเขาทั้งนั้นด้วยความสูงที่เกิน185 หุ่นสู
มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพในช่วงเย็นของมหาลัยดังในตอนนี้เหล่านักศึกษาต่างก็เดินกันประปรายไม่ได้ครึกครื้นเหมือนช่วงเช้าเพราะบางคนก็มีเรียนกันแค่ช่วงบ่าย"วันนี้ฉันปวดสมองมากเลยเอย" ทรายแก้วหญิงสาวปีหนึ่งของคณะบริหารร่างบางอ้อนแอ้นนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนยกแก้วน้ำปั่นขึ้นดื่มอึกใหญ่อย่างชื่นใจคุยกับเพื่อนสาวหน้าหวานตรงหน้าหลังจากที่เรียนกันมาทั้งวันทรายแก้ว หญิงสาววัย 18 เป็นลูกสาวเจ้าของร้านขนมหวานเล็กๆอยู่ชานเมืองสมุทรปราการตอนนี้พักอยู่หอพักหญิงในมหาลัยกลับบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์เธอทำแบบนี้มาตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่กรุงเทพแล้วทรายแก้วหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งผิวขาวเหลืองใบหน้าเรียวรูปไข่ตาโตคิ้วเข้มปากนิดจมูกหน่อยผมสีน้ำตาลยาวสลวยถึงกลางหลังหญิงสาวเป็นคนค่อนข้างซนอยู่พอสมควรรู้จักกับเจ้าเอยและเกวรินทร์ตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่โรงเรียนเดียวกันและเป็นเพื่อนรักกันมาจนถึงทุกวันนี้"นี่ก็ได้พักแล้วไง" เจ้าเอยอมยิ้มอ่อนก่อนจะยกหนังสือขึ้นมาอ่านต่อนิดหน่อยระหว่างที่รอเพื่อนอีกคนของเธอไปซื้ออะไรมากินกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ"มาแล้วๆ.." เกวรินทร์กองห่อขนมที่เธอไปหอบซื้อมาจากร้านสะด
วันต่อมา"โอบ.." อินทิราหญิงสาววัย30ปียืนมองคนในห้องกระจกด้วยแววตาไหววูบแม้นอิทธิกรจะไล่ให้เธอเลิกกับเขาแต่ทุกวันนี้เธอก็ยังทำใจลืมเขาไปไม่ได้เสียทีจากที่รู้เรื่องเขาไม่นานเธอก็ตัดสินใจรีบบินกลับมาที่เมืองไทยกะทันหันเพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าของเขาอีก"พี่อิน.." เจ้าเอยเดินเอ้อระเหยมาที่โรงพยาบาลในช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเมื่อมายืนหน้าห้องไปซียูได้เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นอินทิรายืนอยู่ที่นี่ก่อนจะรีบเข้าไปทัก"เอย" อินทิรายกมือเรียวปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะยิ้มอ่อนให้น้องสาวที่แสนน่ารักที่ไม่ได้เจอกันนาน"พี่อินกลับจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไรคะ" เจ้าเอยกับอินทิรามานั่งคุยกันที่ลานสวนหย่อมของโรงพยาบาล"พี่รู้ข่าวโอบพี่ก็กลับมาเลยเอยต้องการให้พี่ช่วยเหลืออะไรหรือเปล่าพี่ยินดีช่วยนะเอย" อินทิราไม่ติดใจเรื่องเก่าก่อนที่อิทธิกรร้ายกับเธอเพราะยังมีใจเป็นห่วงอิทธิกรอยู่ไม่น้อยและเธอก็ยินดีช่วยครอบครัวของอิทธิกรเสมอ"เอ่อ.. ไม่มีอะไรหรอกค่ะเอยจัดการทุกอย่างได้ขอบคุณพี่อินมากๆเลยนะคะที่ยังเป็นห่วงพวกเรา" เจ้าเอยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะฝืนยิ้มออกมาปฏิเสธอินทิราเพราะคิดว่าหากพี่ชายเธอรู้ว่าเธอให้อินทิรายื
“ไม่นะ..มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ” หลังจากวางสายได้สาวเจ้าก็สะอึกสะอื้นตัวโยนก่อนจะตัดสินใจวิ่งออกไปข้างนอกพร้อมกระเป๋าก่อนจะกดมือถือโทรหาเหนือเมฆอย่างไม่ลังเลตอนนี้ชีวิตพี่ชายเธอสำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้นแม้กระทั่งศักดิ์ศรีของเธอ“สวัสดีครับ..” เหนือเมฆที่ขับรถออกมาจอดไม่ไกลจากบ้านของเจ้าเอยมากนักเมื่อเห็นมีสายเข้ามาจึงรู้ทันทีว่าเป็นเบอของเจ้าเอยแต่ก็ยังเอ่ยกับสายที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่รู้"เอยเองนะคะคุณเหนือ..คุณจะให้เงินรักษาพี่ชายเอยจริงๆใช่หรือเปล่าคะ" ทางด้านเจ้าเอยตอนนี้วิ่งออกนอกบ้านมาด้วยโทรคุยไปด้วย"อืม..จนกว่าจะหายดีเลยล่ะ""เอย...ตกลงค่ะ""ดี...ฉันจอดรถอยู่ตรงซอยXXมาหาฉันเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ" ว่าจบก็กดวางสายก่อนจะนั่งรออย่างใจเย็นไม่นานนักดวงตาคมก็มองกระจกข้างด้วยสีหน้าพึงพอใจที่เห็นร่างบางวิ่งเข้ามาหาก๊อกๆๆ เจ้าเอยวิ่งมาเคาะกระจกรถราคาแพงของเหนือเมฆด้วยอาการเหนื่อยหอบเพราะรีบวิ่งมาสุดชีวิต"ขึ้นมากับฉัน" เหนือเมฆลดกระจกลงก่อนจะบอกให้หญิงสาเข้ามานั่งคุยกันในรถ“คุณเหนือช่วยพาเอยไปทำเรื่องที่โรงพยาบาลก่อนได้หรือเปล่าคะ” เสียงหวานพูดขึ้นมาด้
"......" ร่างบางยืนเงียบด้วยใบหน้าห่อเหี่ยวครู่หนึ่งก่อนจะลากกระเป๋าที่เขาเตรียมมาให้เธอไปที่หน้าห้องน้ำและเข้าไปจัดการตัวเองตามคำสั่งที่เขาบอกด้วยความลำบากใจ"หา..." มือน้อยที่ค้นกระเป๋าเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มเตรียมมาให้เธอถึงกับแทบจะร้องให้เพราะในกระเป๋าไม่มีเสื้อผ้าในแบบคนปกติใส่ในชีวิตประจำวันเลยสักชิ้นมีแต่ชุดนอนวาบหวิวหลากสีที่เธอเห็นแล้วก็อายจนหน้าแดง"ชุดนี้ละกัน" เมื่อเลือกอยู่พักใหญ่จึงได้ชุดเดรสสายเดี่ยวตัวยาวสีขาวที่คลุมทั้งตัวก็จริงแต่ก็เป็นซีทรูที่บางจนเห็นทะลุปรุโปร่งหญิงสาวเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับชุดซีทรูบางกับอีกชุดที่เป็นชุดชั้นในวาบหวิวสีดำที่ดูจะปกปิดของสงวนมิดชิดดีกว่าตัวอื่นและผ้าขนหนูผืนขาวสองผืนอีกผืนคิดว่าเอาไว้เช็ดตัวและอีกผืนเธอจะเอาไว้ใช้คลุมตอนนี้คงจะแก้ขัดเขินของเธอได้พอสมควร"หึ่.." ดวงตาคมจับจ้องร่างบางพักใหญ่เมื่อสาวเจ้าเข้าห้องน้ำไปได้เขาก็สบถขำอย่างพึงพอใจใจจริงเขาไม่ได้คิดอยากจะช่วยชีวิตของอิทธิกรแม้แต่น้อยเพราะไม่ชอบหน้าด้วยเรื่องหมางใจกันแต่ก่อนทั้งตอนนี้อิทธิกรยังทำน้องเขาเจ็บปางตายอีกแต่คิดไปคิดมาการที่จะปล่อยให้อิทธิกรตายมันก็คงจะทรมานน้อยไปหากอิ
"เอ่อ..." ร่างบางเขยิบห่างคนตัวโตเล็กน้อยตอนนี้ทั้งหน้าทั้งตัวชาวาบไปหมดเพราะเข้าใจคำถามของเขาว่าต้องการอะไร"เธอเคยมีอะไรกับใครมาก่อนหรือเปล่า" ว่าจบก็ผลักร่างบางนอนราบไปกับเตียงใช้แขนแกร่งกดตัวเธอเอาไว้"ไม่ค่ะ.." ใจของเจ้าเอยตอนนี้เต้นแรงโครมครามแข่งกับเสียงฟ้าเสียงฝนที่กำลังกระหน่ำจนแทบออกมาอยู่ข้างนอกและรีบหันหน้าหนีคนที่กำลังยื่นใบหน้าคมเข้มเข้ามาใกล้"ดูไปดูมาเธอก็น่ารักไม่น้อยเลยไม่มีใครจีบเธอบ้างหรือไง" ดวงตาคมไล่มองใบหน้าหวานใกล้ๆเขายอมรับความจริงที่ว่าเธอดูน่ารักไม่น้อยเพราะมีทั้งดวงตาที่กลมโตขนตาที่งอนยาวปากนิดจมูกหน่อยแก้มพองมีรักยิ้มนับว่าเป็นของเล่นชิ้นโบว์แดงที่เขาจะมีเอาไว้เลยก็ว่าได้แล้วก็อยากจะรู้นักว่าหญิงสาวที่ดูน่ามองคนนี้จะไม่มมีใครเข้ามาจีบบ้างหรืออย่างไร"ไม่ค่ะเอยไม่ได้สนใจใคร" เจ้าเอยตอบไปตามความจริงเธอไม่ได้คิดจะสนใจใครเพราะอยากตั้งใจเรียนให้มันจบแล้วเรื่องคนรักก็ค่อยว่ากันอีกที"ดีแล้ว..งั้นฉันจะลองดูซิว่าเธอจะสะอาดเอี่ยมอ่องอยู่อย่างที่ปากพูดหรือเปล่า" จมูกโด่งไล่ดอมดมลำคอระหงส์กลิ่นหอมอ่อนๆของเธอทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายบวกกับปลุกอารมณ์ไปในคราเดียวมื
"เอ่อ.." ใบหน้าหวานตกใจพอสมควรกับขนาดของคนตัวโตเธอรีบหันหน้าหนีเพราะอายเกินกว่าจะจ้องมันอยู่แบบนี้ทั้งยังไม่อยากจะคิดว่าหากมันเข้าไปอยู่ในตัวของเธอจะทรมานหรือจะมีความสุขอย่างที่เธอเคยได้ยินคนอื่นพูดกัน"อืม..." ชายหนุ่มโน้มตัวกอดร่างบางอีกรอบบดจูบเธอพักใหญ่ก่อนจะค่อยๆดันเจ้าแท่งร้อนบดเบียดร่องสวาทที่ปิดสนิทและค่อนข้างแห้งผาดอย่างยากลำบาก"อื้อ..." ร่างบางเริ่มอยู่ไม่สุขเมื่อรู้สึกเจ็บเหมือนมีใครกำลังเอามีดมากรีดของสงวนของเธอ"อดทนไว้ก่อน" เหนือเมฆกัดฟันเอ่ยเสียงกระเส่าเพราะเขายังไม่สามารถดันตัวตนของเขาเข้าไปข้างในตัวเธอได้แถมความคับแน่นของหญิงสาวก็บีบรัดแท่งร้อนของเขาจนปวดหนึบ"อ..อ๊ายยยย...อือ..ออกไปก่อนค่ะ" ไม่นานนักคนตัวโตก็จัดการบดเบียดแท่งร้อนจนสุดลำได้สำเร็จความเจ็บจุกแผ่ซ่านไปทั่วตัวหญิงสาวจนเธอกรีดร้องออกมาจนสุดเสียงน้ำตาหยดน้อยไหลพรากมือน้อยที่กำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อครู่คลายออกเพราะหมดแรงที่จะเกาะก่ายด้วยความเจ็บที่มากเกินจะบรรยาย"อืม.." ดวงตาคมก้มมองจุดเชื่อมต่อเห็นหยดเลือดแดงฉานไหลออกมาแค่รู้ว่าเธอบริสุทธิ์อย่างที่พูดก็รู้สึกภูมิใจและสบายใจไปในคราเดียวกันเมืื่อรู้ว่า
"ขอบคุณตัวเธอเองเถอะ...ฉันได้เธอส่วนเธอได้ชีวิตพี่ชายเธอถือว่าหายกัน" มือหนาจับมือของหญิงสาวทีากำลังยกมือไหว้เขาเหนือหัวเหมือนไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ลดมือลง"...จริงด้วยค่ะงั้นเอยก็ไม่ต้องขอบคุณคุณเหนือสินะคะ..." เรื่องข้อแลกเปลี่ยนของเขาเธอเองก็ลืมไปชั่วขณะมัวแต่ดีใจที่เงินของเขาช่วยพี่ชายเธอได้"อืม...หิวหรือเปล่า" "ไม่ค่ะ" ใบหน้าหวานส่ายหัวหงึกหงัก"ไม่หิวก็ต้องหิวอาหารวางรออยู่ที่โต๊ะแล้ว" "ถ้าจะบังคับให้เอยกินข้าวจะถามเอยทำไมล่ะคะ" สาวเจ้าบุ้ยหน้าเหลือกตามองคนตัวโตอย่างไม่เข้าใจหากเขาคิดจะบังคับแล้วจะถามเธอเพื่ออะไร"ยอกย้อนฉันหรอก" ว่าจบก็อุ้มร่างบางออกไปข้างนอกเพื่อจะไปนั่งทานข้างเช่นเดิม"เปล่านะคะ... " แขนเรียวตวัดรัดลำคอของเหนือเมฆทั้งริมฝีปากบางยังบ่นอู้อี้ที่เขาหาว่าคำถามของเธอคือคำที่ยอกย้อน เหนือเมฆยังคงให้หญิงสาวนั่งตักของเขาอีกเช่ยเคยเพียงแต่ตอนนี้เธอมีแรงตักอาหารทานเองได้แล้วเขาไม่จำเป็นต้องป้อน"ทานนี่สิ" ชายหนุ่มยื่นช้อนตักผัดผักใส่ในจานของหญิงสาวเพราะเห็นเธอทานแต่ข้าวเปล่ากับไข่เจียวเท่านั้น"เอยไม่ชอบผักค่ะ" เมื่อเห็นผักอยู่ในจานใบหน้าหวานก็หน้ามุ่ย