หลายวันต่อมา
วันนี้อิทธิกรพาครอบครัวมาเยี่ยมอำนาจเพราะอำนาจเริ่มยอมรับในตัวอิทธิกรแล้วด้วยเห็นว่าอิทธิกรมีงานการทำที่มั่นคงแถมยังเก่งมากๆเขารู้จากคำชมของนภดลที่ชมอิทธิกรไม่ขาดปาก
"ผมขอบคุณคุณพ่อนะครับที่ยอมรับผม" อิทธิกรมานั่งคุยกันกับอำนาจที่ห้องรับแขกระหว่างที่อินทิราพาลูกสาวของเขาเดินเล่นอยู่ที่สวนหน้าบ้าน
"ฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ก่อนหน้าทำไม่ดีเอาไว้"
"ผมเข้าใจครับว่าคุณพ่อรักอินมาก" อิทธิกรไม่เคยโกรธอำนาจแม้นแต่น้อยหากเป็นเขาก็อยากให้ลูกตัวเองได้คู่ครองที่ดีเช่นกัน
"ตั้งใจทำงานหาประสบการณ์ให้ดีล่ะอีกไม่กี่ปีฉันก็จะเกษียณตัวเองแล้วแกจะได้เข้ามาบริหารแทนฉัน" อำนาจคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องฝากบริษัทให้กับอิทธิกรเพราะเชื่อใจว่าลูกเขยของเขาจะจัดการทุกอย่างแทนเขาได้
"คือผมไม่มั่นใจว่าผมจะบริหารองค์กรใหญ่ขนาดนี้ได้" อิทธิกรถึงกับไปไม่เป็นเมื่ออีกฝ่ายมอบหมายสิ่งสำคัญให้
"เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนที่เชื่อมั่นว่าจะดูแลลูกสาวกับหลานฉันได้" แม้นอิทธิกรจะไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้แต่อำนาจเห็นว่าความสามารถที่อิทธิกรมีจากผลงานที่ผ่านมาระหว่างที่อิทธิกรทำงานในบริษัทของนภดลเขาก็เห็นแล้วว่าไม่ยากที่อิทธิกรจะบริหารองค์กรที่ใหญ่ขึ้น
"ครับคุณพ่อ...ขอบคุณที่ให้โอกาส"
"จ๋าจ่ะ..." เด็กหญิงตัวกลมส่งเสียงใสแจ๋วเมื่อคนเป็นแม่อุ้มเข้ามา
"จ๋าจ่ะ..หรอกลูก..ไปเดินเล่นกับตาดีกว่ามา..." อำนาจรีบลุกขึ้นไปอุ้มหลานสาวมากอดรัดฟัดเหวี่ยงด้วยความหมั่นเขี้ยว
ฟอดดด
"หื้มม..ชื่นใจจังเลยลูก"
อินทิราที่เห็นว่าบ้านตอนนี้มีแต่ความสุขก็เอาแต่มองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"นี่...ว่างๆพวกแกก็ทำหลานให้ฉันอีกสักคนนะ" ก่อนจะปล่อยให้ลูกสาวและลูกเขยอยู่กันสองต่อสองอำนาจก็ปริปากบอกถึงสิ่งที่ต้องการเพราะเมื่อถึงเวลาพักผ่อนจากงานเขาก็อยากมีหลานๆมารายล้อมหลายๆคน
"ครับคุณพ่อ" อิทธิกรรับปากอำนาจเสียงดังฟังชัดก่อนจะหันมายิ้มกริ่มกับภรรยาที่ยืนอยู่ข้างๆหากอำนาจไม่บอกเขาก็อยากจะให้อินทิรามีลูกให้เขาอีกสักคนสองคนอยู่แล้ว
สามปีต่อมา
วันเวลาหมุนเปลี่ยนไปจนสามปีกว่าทุกคนต่างก็มีอะไรใหม่ๆเปลี่ยนแปลงในชีวิต
อิทธิกรได้เข้ามาบริหารงานที่บริษัทของอำนาจเต็มตัวแถมตอนนี้เขาก็มีลูกถึงสามคนแล้วด้วย
ในส่วนของสองสาวเกวรินทร์และทรายแก้วตอนนี้ก็เรียนจบเรียบร้อย
แทนไทเองตอนนี้ก็เข้ามาบริหารแทนคนเป็นพ่อในส่วนของคลับก็ให้คนที่ไว้ใจได้ดูแลเขาเองก็เข้าไปดูบ้างบางครั้งที่มีเรื่องสำคัญ
แดเนียลตอนนี้กลับไปอเมริกาและบริหารงานเต็มตัวเพราะคนเป็นพ่อป่วยหนักและนิโคลัสก็อยากให้หลานของเขาขึ้นเป็นใหญ่ในองค์กรแทนพี่ชายเพราะพี่ชายของเขาจะได้หมดห่วงเรื่องงานและรักษาตัวอย่างเต็มที่
... แม้นชีวิตทุกคนจะเปลี่ยนไปแล้วแต่คนที่ยังไม่ยอมเปลี่ยนคือเหนือเมฆเขายังคงฝังใจกับเจ้าเอยไม่เคยเปลี่ยน
ทุกวันนี้เขาเหมือนหุ่นยนต์ทำงานเสร็จพักผ่อนวันหยุดก็เอาแต่ออกทะเลตามหาเจ้าเอยไม่เคยเว้นว่างจนครอบครัวเริ่มหนักใจกับพฤติกรรมของลูกชายไม่น้อย
น่านน้ำเองเห็นพี่ชายเป็นแบบนี้ก็ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเพราะต้องเข้ามาช่วยงานในบริษัทเต็มที่ด้วยพี่ชายนั้นเข้าหน้าใครไม่ค่อยจะติดรอยยิ้มแทบไม่มีทั้งยังปล่อยตัวผมยาวหนวดเครารุงรังดูไม่มีราศี
22.00 น.
"ลูกเราจะเป็นแบบนี้อีกนานหรือเปล่าคะฉันชักใจไม่ดีเสียแล้วสิ" พักหลังมานี้วารุณีเริ่มที่จะนอนไม่หลับเพราะรอเวลาจนแล้วจนรอดลึกชายเธอก็ไม่ยักจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
"แผลในใจลูกเรามันคงลึกมาก" นภดลกอดภรรยาของเขาเอาไว้หลวมๆรู้ว่าเหนือเมฆคงเจ็บมากหลัวจากที่เจ้าเอยจากไปดีหน่อยที่ลูกชายของเขาไม่ถึงขั้นเสรยสติตอนนี้ก็ทำได้แค่รอให้เหนือเมฆกลับมาเป็นปกติเท่านั้นไม่ว่าจะนานเท่าไรเขาก็ต้องอดทนรอ
อาทิตย์ต่อมา
สวนสาธารณะ
"ถ้าเอยอยู่ตรงนี้ด้วยก็คงดีเนอะ" ทรายแก้วนั่งเล่นอยู่กับเกวรินทร์ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งใกล้ๆกับบ้านของทรายแก้ว
พอได้มาเที่ยวกันแบบนี้สองสาวก็อดคิดถึงเจ้าเอยไม่ได้
"เฮ้อ...แกจะว่าฉันบ้าก็ได้นะแต่ทุกวันนี้ฉันยังหวังเสมอว่าเอยจะกลับมา" เกวรินทร์หลุบสายตาลงต่ำเล็กน้อย
"แกคงไม่ได้บ้าคนเดียวหรอกฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน" ทรายแก้วยื่นมือแตะบ่าเพื่อนสาวที่นั่งข้างๆคราแรกที่เธอไม่เคยเอ่ยพูดเพราะคิดว่าเธอจะคิดไปเองคนเดียวซะแล้ว
"น..นั่น" ทรายแก้วเบิกตาโพรงรีบวิ่งตามหญิงสาวที่เธอค่อนข้างคุ้นหน้าไม่น้อย
"อ้าวเดี๋ยวทรายแกจะไปไหน" เกวรินทณืที่พึ่งจะเงยหน้าขึ้นจู่ๆทรายแก้วก็วิ่งไปแล้วเธอจึงต้ิงวิ่งตามไปถามสาเหตุ
วันต่อมา
ก๊อกๆๆ
"ใครมาเคาะแต่เช้าเนี่ย.." เกวรินทร์ขยี้หูขยี้ตาตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะหน้าประตูห้องแต่เช้า
แกร๊ก.. สาวเจ้าในชุดนอนเป็ดน้อยสีเหลืองเปิดประตูออกทั้งสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย
"ไง...ฉันมาทวงสัญญา"
"คุณนิค!" ชายร่างสูงสวมแจ็คเก็ตดำใส่กางเกงยีนส์ราคาแพงยืนจ้องเธอตรงหน้าทำเอาหญิงสาวที่งัวเงียตื่นตัวได้ในทันที
ที่นิโคลัสมาที่นี่ก็เพราะเขารู้ข่าวว่าหญิงสาวเรียนจบแล้วและที่มาวันนี้ก็เพื่อที่จะมาทวงสัญญากับเธอ
สองวันต่อมา
นครราชสีมา
15.00 น.
ทรายแก้วขับรถพาเกวรินทร์มาที่บ้านของเจ้าเอย
พวกเธอพึ่งรู้เมื่อไม่กี่วันก่อนว่าเจ้าเอยถูกคนแถวนั้นช่วยเหลือตั้งแต่ตินที่ตกทะเลไปและเจ้าเอยก็เลือกที่จะไม่กลับบ้านเวลาหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นสามเดือนเจ้าเอยก็กลับมาที่บ้านพี่ชายของเธอก่อนจะขอให้ทุกคนที่บ้านปิดเรื่องที่เธอกลับมาเป็นความลับเพราะตั้งใจจะเลี้ยงลูกคนเดียว
อินทิราเห็นเจ้าเอยตัดสินใจแบบนั้นจึงให้เจ้าเอยมาอยู่ที่บ้านของเธอที่เขาใหญ่เพราะซื้อเอาไว้นานแล้วและไม่มีคนอยู่
เจ้าเอยจึงอยู่ที่บ้านนี้มาจนถึงทุกวันนี้โดยมีอิทธิกรและอินทิราไปมาหาสู่อยู่บ่อยๆในช่วงที่เธอคลอดลูกใหม่ๆก็มีอินทิรามาคอยอยู่เป็นเพื่อนช่วยเลี้ยงจนลูกชายของเธออายุได้หลายเดือนอินทิราจึงกลับไปอยู่กับพี่ชายเธอดังเดิม
เมื่อสามวันก่อนที่เพื่อนทั้งสองเจอเธอที่กรุงเทพได้ก็เพราะเธอขับรถมาเยี่ยมบ้านพี่ชายและตั้งใจที่จะตามเพื่อนเธอทั้งสองไปที่นั่นอยู่แล้วเพราะไม่อยากปิดบังเพื่อนทั้งสองอีกต่อไป
"แกใจร้ายกับพวกฉันมากเลยนะที่ไม่ยอมติดต่อหากันบ้างเลย" ทรายแก้วหยิบขนมเข้าปากไปด้วยบ่นเจ้าเอยไปด้วยเพราะเจ้าเอยทำให้พวกเธอทุกข์ใจที่คิดว่าเสียเพื่อนรักไปตั้งหลายปี"ฉันกลัวว่าคุณเหนือจะรู้ว่าฉันยังอยู่ฉันไม่อยากเจอเค้า" ที่เจ้าเอยให้คนรู้น้อยที่สุดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะกลัวว่าเหนือเมฆจะตามเธอเจอ"แกโกรธคุณเหนือมากเลยหรอก" เกวรินทร์รู้ดีว่าเรื่องครั้งนั้นเป็นฝีมือพีรยาแต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอฝังใจเรื่องอะไรถึงยอมให้อภัยเหนือเมฆไม่ได้"ตอนนี้เฉยๆแล้วล่ะฉันไม่อยากกลับไปเจ็บเพราะเค้าอีกเด็ดขาด" แม้นเจ้าเอยจะรู้ว่าครั้งนั้นที่เหนือเมฆทำผิดด้วยฤทธิ์ยาแต่ภาพมันก็ยังติดตาเธอไม่หายไม่รู้อีกด้วยว่าเขาจะกลับไปเป็นคนเจ้าชู้เหมือนเดิมอีกหรือเปล่าเธอยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวจึงไม่อยากเสี่ยงกลับไปอยู่กลับไปรักกับคนอย่างเหนือเมฆอีกตอนนี้เธอมีแค่ลูกก็พอแล้ว"แต่เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือยัยพลอยทั้งนั้นนะแถมตอนที่ผ่านมาคุณเหนือดูพยายามตามหาแกตลอดไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลยด้วย" ทรายแก้วไม่ได้จะพูดเข้าข้างเหนือเมฆแต่เวลาที่ผ่านมาเขาทำให้พวกเธอได้เห็นว่าเขาไม่มีวันลืมเจ้าเอย"ฉันรู้...แต่ฉันลืมเรื่องราวตอนน
วันต่อมา เจ้าเอยเตรียมเก็บผ้าผ่อนของเธอและลูกที่แห้งสนิทดีแล้วมาพับเก็บในห้องเพราะเธอต้องเตรียมทำอะไรให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปรับลูกที่โรงเรียนในช่วงบ่ายโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในบ้าน"เอย.." เหนือเมฆยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของหญิงสาวเขาเรียกเธอเสียงอ่อนภรรยาของเขายังคงน่ารักไม่เปลี่ยนจากเดิมเลยสักนิดผิดแค่ดูผมแห้งไปกว่าเดิมเท่านั้น"ค...คุณเหนือ" เจ้าเอยลึกขึ้นจากกองผ้าที่นั่งพับเธอตกใจจนหน้าเสียก่อนจะจ้องคนตรงหน้าที่ดูโทรมกว่าเดิมมากด้วยความสับสนไม่รู้ลึกๆแล้วเธอดีใจหรือเสียใจที่เห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้"..ฉันคิดถึงเธอแทบจะขาดใจรู้หรือเปล่า...เธอใจร้ายกับฉันมากเลยเอย... ที่ทำให้ฉันทรมานใจอยู่ได้ตั้งนาน" เหนือเมฆเข้าไปสวมกอดร่างบางด้วยความคิดถึงก่อนจะเอ่ยคำพูดเชิงน้อยใจออกมา"ปล่อยเอย.. แล้วก็ออกไป" เจ้าเอยชะงักไปครู่หนึ่งเธอพยายามบอกตัวเองว่าอย่าใจอ่อนกับเขาและรีบไล่ให้เหนือเมฆออกไป"ฉันขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนั้นขอโทษจริงๆ" เหนือเมฆรู้ว่าเจ้าเอยคงโกรธในเหตุการณ์ครั้งนั้นแต่เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ"คุณเหนือก็น่าจะรู้แล้วนะคะว่าเอยไม่ต้อง
เนินนานจนไม่รู้กี่นาทีที่เหนือเมฆจูบภรรยารักอยู่แบบนั้นจนตอนนี้ร่างบางเริ่มโอนอ่อนกับเขาบ้างแล้วและมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าเธอไม่ได้หมดรักเขาอย่างที่พูดรู้ดังนั้นจึงเดินหน้าบดจูบอย่างดูดดื่มต่อเพราะเขาโหยหาร่างบางมานานจนวันนี้ยังไงก็ต้องได้ครอบครองอีกครั้ง"พอเถอะคุณเหนือ""ไม่.." ร่างบางที่พึ่งถูกอุ้มมานอนบนเตียงนุ่มเธอก็เอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายพอแค่นี้เพราะเธอเริ่มจะคุมสติไม่อยู่แต่มีหรือเหนือเมฆจะยอมเพราะเขารู้ว่าเจ้าเอยยังไม่หมดรักเขาและเขาก็จะรีบกระชับสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุดและแล้วบทรักบทสวาทก็ได้เริ่มขึ้นเหนือเมฆเรียกเสียงครางระงมของร่างบางไปจวบครึ่งค่อนคืนจึงพาเธออุ้มกลับไปนอนในห้องนอนของเธอกับลูกส่วนเขาก็นอนเฝ้าเธออยู่ไม่ห่างวันต่อมา ช่วงเช้าที่เจ้าเอยยังไม่ตื่นเหนือเมฆก็เป็นคนจัดแจงดูแลลูกทุกอย่างทั้งทำอาหารป้อนข้าวลูกรวมไปถึงอาบน้ำอาบท่าให้ลูกน้อยยอมรับว่าไม่ถนัดเท่าไรแต่เขาก็สุขใจที่ได้ทำ"ชุดของนนท์อยู่ไหนครับลูก" เหนือเมฆอาบน้ำเช็ดตัวให้ลูกชายของเขาเสร็จตอนนี้ก็ต้องมาแต่งตัว"ในนี้ครับ" เด็กชายตัวกลมในผ้าขนหนูสีขาวเดินตัวป้อมนำคนเป็นพ่อไปที่ตู้หลังเล็ก
เธอทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อยื้อชีวิตพี่ชายที่เหลือคนเดียวในครอบครัวเพื่อมาเป็นของเล่นให้คนบางคนนานวันเข้าจากของเล่นชิ้นโปรดก็กลายเป็นของรักของหวงของเขาจนเขายากที่จะปล่อยมือเธอไปได้ความสัมพันธ์ที่ใช้ตัวแลกเงินตามข้อเสนอแม้นจะเริ่มต้นไม่ดีนักแต่เมื่อนานวันความสัมพันธ์ก็เกิดพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนดูเป็นความรักแสนหวานแต่และแล้วมันก็ต้องจบลง....แต่ด้วยเหตุอันใดโปรดติดตามได้ในเรื่อง...เสี่ยงรักมาเฟียร้าย..นิยายเรื่องนี้สร้างขึ้นจากจินตนาการไม่ว่าจะเป็นชื่อคนหรือสถานที่ไม่มีเจตนาที่จะอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใดขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะนิยายเรื่องนี้เป็นแนวโรมานซ์ดราม่าและฉากร่วมรักเป็นส่วนประกอบโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นจากจินตนาการหากชื่นชอบช่วยกดไลค์หรือคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะขอบคุณมากค่า... พระเอก เหนือเมฆ อายุ32ปีเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเขาเป็นหนุ่มนักธุรกิจทายาทพันล้านของบริษัทอสังหารายใหญ่ของประเทศเป็นหนุ่มที่ค่อนข้างมีชื่อเรื่องผู้หญิงไม่เว้นว่างเพราะผู้หญิงแทบทุกคนก็อยากจะวิ่งหาหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีอย่างเขาทั้งนั้นด้วยความสูงที่เกิน185 หุ่นสู
มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพในช่วงเย็นของมหาลัยดังในตอนนี้เหล่านักศึกษาต่างก็เดินกันประปรายไม่ได้ครึกครื้นเหมือนช่วงเช้าเพราะบางคนก็มีเรียนกันแค่ช่วงบ่าย"วันนี้ฉันปวดสมองมากเลยเอย" ทรายแก้วหญิงสาวปีหนึ่งของคณะบริหารร่างบางอ้อนแอ้นนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนยกแก้วน้ำปั่นขึ้นดื่มอึกใหญ่อย่างชื่นใจคุยกับเพื่อนสาวหน้าหวานตรงหน้าหลังจากที่เรียนกันมาทั้งวันทรายแก้ว หญิงสาววัย 18 เป็นลูกสาวเจ้าของร้านขนมหวานเล็กๆอยู่ชานเมืองสมุทรปราการตอนนี้พักอยู่หอพักหญิงในมหาลัยกลับบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์เธอทำแบบนี้มาตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่กรุงเทพแล้วทรายแก้วหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งผิวขาวเหลืองใบหน้าเรียวรูปไข่ตาโตคิ้วเข้มปากนิดจมูกหน่อยผมสีน้ำตาลยาวสลวยถึงกลางหลังหญิงสาวเป็นคนค่อนข้างซนอยู่พอสมควรรู้จักกับเจ้าเอยและเกวรินทร์ตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่โรงเรียนเดียวกันและเป็นเพื่อนรักกันมาจนถึงทุกวันนี้"นี่ก็ได้พักแล้วไง" เจ้าเอยอมยิ้มอ่อนก่อนจะยกหนังสือขึ้นมาอ่านต่อนิดหน่อยระหว่างที่รอเพื่อนอีกคนของเธอไปซื้ออะไรมากินกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ"มาแล้วๆ.." เกวรินทร์กองห่อขนมที่เธอไปหอบซื้อมาจากร้านสะด
วันต่อมา"โอบ.." อินทิราหญิงสาววัย30ปียืนมองคนในห้องกระจกด้วยแววตาไหววูบแม้นอิทธิกรจะไล่ให้เธอเลิกกับเขาแต่ทุกวันนี้เธอก็ยังทำใจลืมเขาไปไม่ได้เสียทีจากที่รู้เรื่องเขาไม่นานเธอก็ตัดสินใจรีบบินกลับมาที่เมืองไทยกะทันหันเพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าของเขาอีก"พี่อิน.." เจ้าเอยเดินเอ้อระเหยมาที่โรงพยาบาลในช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเมื่อมายืนหน้าห้องไปซียูได้เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นอินทิรายืนอยู่ที่นี่ก่อนจะรีบเข้าไปทัก"เอย" อินทิรายกมือเรียวปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะยิ้มอ่อนให้น้องสาวที่แสนน่ารักที่ไม่ได้เจอกันนาน"พี่อินกลับจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไรคะ" เจ้าเอยกับอินทิรามานั่งคุยกันที่ลานสวนหย่อมของโรงพยาบาล"พี่รู้ข่าวโอบพี่ก็กลับมาเลยเอยต้องการให้พี่ช่วยเหลืออะไรหรือเปล่าพี่ยินดีช่วยนะเอย" อินทิราไม่ติดใจเรื่องเก่าก่อนที่อิทธิกรร้ายกับเธอเพราะยังมีใจเป็นห่วงอิทธิกรอยู่ไม่น้อยและเธอก็ยินดีช่วยครอบครัวของอิทธิกรเสมอ"เอ่อ.. ไม่มีอะไรหรอกค่ะเอยจัดการทุกอย่างได้ขอบคุณพี่อินมากๆเลยนะคะที่ยังเป็นห่วงพวกเรา" เจ้าเอยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะฝืนยิ้มออกมาปฏิเสธอินทิราเพราะคิดว่าหากพี่ชายเธอรู้ว่าเธอให้อินทิรายื
“ไม่นะ..มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ” หลังจากวางสายได้สาวเจ้าก็สะอึกสะอื้นตัวโยนก่อนจะตัดสินใจวิ่งออกไปข้างนอกพร้อมกระเป๋าก่อนจะกดมือถือโทรหาเหนือเมฆอย่างไม่ลังเลตอนนี้ชีวิตพี่ชายเธอสำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้นแม้กระทั่งศักดิ์ศรีของเธอ“สวัสดีครับ..” เหนือเมฆที่ขับรถออกมาจอดไม่ไกลจากบ้านของเจ้าเอยมากนักเมื่อเห็นมีสายเข้ามาจึงรู้ทันทีว่าเป็นเบอของเจ้าเอยแต่ก็ยังเอ่ยกับสายที่โทรเข้ามาด้วยน้ำเสียงเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่รู้"เอยเองนะคะคุณเหนือ..คุณจะให้เงินรักษาพี่ชายเอยจริงๆใช่หรือเปล่าคะ" ทางด้านเจ้าเอยตอนนี้วิ่งออกนอกบ้านมาด้วยโทรคุยไปด้วย"อืม..จนกว่าจะหายดีเลยล่ะ""เอย...ตกลงค่ะ""ดี...ฉันจอดรถอยู่ตรงซอยXXมาหาฉันเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ" ว่าจบก็กดวางสายก่อนจะนั่งรออย่างใจเย็นไม่นานนักดวงตาคมก็มองกระจกข้างด้วยสีหน้าพึงพอใจที่เห็นร่างบางวิ่งเข้ามาหาก๊อกๆๆ เจ้าเอยวิ่งมาเคาะกระจกรถราคาแพงของเหนือเมฆด้วยอาการเหนื่อยหอบเพราะรีบวิ่งมาสุดชีวิต"ขึ้นมากับฉัน" เหนือเมฆลดกระจกลงก่อนจะบอกให้หญิงสาเข้ามานั่งคุยกันในรถ“คุณเหนือช่วยพาเอยไปทำเรื่องที่โรงพยาบาลก่อนได้หรือเปล่าคะ” เสียงหวานพูดขึ้นมาด้
"......" ร่างบางยืนเงียบด้วยใบหน้าห่อเหี่ยวครู่หนึ่งก่อนจะลากกระเป๋าที่เขาเตรียมมาให้เธอไปที่หน้าห้องน้ำและเข้าไปจัดการตัวเองตามคำสั่งที่เขาบอกด้วยความลำบากใจ"หา..." มือน้อยที่ค้นกระเป๋าเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มเตรียมมาให้เธอถึงกับแทบจะร้องให้เพราะในกระเป๋าไม่มีเสื้อผ้าในแบบคนปกติใส่ในชีวิตประจำวันเลยสักชิ้นมีแต่ชุดนอนวาบหวิวหลากสีที่เธอเห็นแล้วก็อายจนหน้าแดง"ชุดนี้ละกัน" เมื่อเลือกอยู่พักใหญ่จึงได้ชุดเดรสสายเดี่ยวตัวยาวสีขาวที่คลุมทั้งตัวก็จริงแต่ก็เป็นซีทรูที่บางจนเห็นทะลุปรุโปร่งหญิงสาวเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับชุดซีทรูบางกับอีกชุดที่เป็นชุดชั้นในวาบหวิวสีดำที่ดูจะปกปิดของสงวนมิดชิดดีกว่าตัวอื่นและผ้าขนหนูผืนขาวสองผืนอีกผืนคิดว่าเอาไว้เช็ดตัวและอีกผืนเธอจะเอาไว้ใช้คลุมตอนนี้คงจะแก้ขัดเขินของเธอได้พอสมควร"หึ่.." ดวงตาคมจับจ้องร่างบางพักใหญ่เมื่อสาวเจ้าเข้าห้องน้ำไปได้เขาก็สบถขำอย่างพึงพอใจใจจริงเขาไม่ได้คิดอยากจะช่วยชีวิตของอิทธิกรแม้แต่น้อยเพราะไม่ชอบหน้าด้วยเรื่องหมางใจกันแต่ก่อนทั้งตอนนี้อิทธิกรยังทำน้องเขาเจ็บปางตายอีกแต่คิดไปคิดมาการที่จะปล่อยให้อิทธิกรตายมันก็คงจะทรมานน้อยไปหากอิ